เซซิลที่สี่หัวเราะเยาะ “ทำไมยิ่งของมีค่ามากเท่าไร ฉันก็ยิ่งอยากเก็บมันไว้มากเท่านั้น คิดว่าฉันรวบรวมสิ่งเหล่านี้เพื่อความสนุกเหรอ?”ลูซี่ยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นก็ง่าย สิ่งของอย่างหยกและภาพวาดนั้นมีค่ามาก มันง่ายต่อการพกพาเช่นกัน ฉันสามารถโชว์ให้คุณเห็นว่าพวกมันอยู่ที่ไหน ถ้าเราพอมีเวลา”เซซิลที่สี่คิดว่าลูซี่ทำตัวแปลก ๆ มาก ในวันนี้เธอเชื่อฟังมากเกินไปสอดคล้องกับที่เขารู้สึกว่ามันไม่ค่อยจริงเท่าไรแม้ว่าอาจเป็นเพราะอันตรายที่ลูซี่รู้ว่าเธอเป็นอยู่ เธอจึงไม่กล้าที่จะท้าทายเขาอย่างไรก็ตาม ทำไมเธอถึงบอกเขาเกี่ยวกับของสะสมอันมีค่าของเธอด้วยความเต็มใจ? เธอยังชวนเขาไปที่บ้านของเธอ ถามเขาว่าเขาชอบอะไรมากกว่ากัน และให้คำแนะนำแก่เขาว่า ของมีค่าชิ้นไหนที่พกพาง่ายกว่าของชิ้นอื่นคนนี้ต้องบ้ามากแน่ ๆ!เซซิลที่สี่เหลือบมองลูซี่ในที่นั่งคนขับและสงสัยมากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่เขาจ้องมาที่เธอถึงอย่างนั้น ลูซี่ก็ดูเหมือนเธอไม่ได้สังเกตการจ้องมองที่เพิ่มขึ้นของเขาเลย เธอยังคงขับรถต่อไปราวกับว่าคำแนะนำที่เธอเพิ่งทำไปนั้นเป็นเรื่องสบาย ๆ ซึ่งเธอแค่คิดว่าเธอควรแบ่งปันอย่างไม่มีอะไรซ่อนเร้นขณะที่เซซิล
ไม่ว่าเขาจะเลือกอะไร เขาจะสูญเสียลูซี่ไปพร้อมกับเงินช่วยเหลือระยะยาวถ้าเขาได้รับโอกาสในการเลือก เขาจะไม่เลือกทางเลือกใดทางหนึ่งแผนที่ดีที่สุดคือ การรักษาสิ่งที่เขาทำมาโดยตลอด โดยขอเงินลูซี่ เมื่อใดก็ตามที่เขาต้องการอย่างไรก็ตาม คนเหล่านั้นค่อนข้างขัดขืน และเตือนเขาว่าพวกมันจะฆ่าเขาทันที ถ้าเขาไม่ยอมทำตามที่พวกมันต้องการท้ายที่สุด พวกมันมีภูมิหลังที่มีอิทธิพลและไม่ใช่คนที่เซซิลที่สี่ควรจะยุ่งด้วย ทั้งหมดที่เขาทำได้คือทำตามคำสั่งของพวกมันอย่างไรก็ตาม กลับมาที่โกดัง เมื่อเขาได้ยินว่าลูซี่บอกว่าเธอมีของสะสมอัญมณีและของเก่าที่บ้าน เขาก็รู้สึกโลภมากจะวิเศษขนาดไหน ถ้าเขาสามารถสะสมเงินทั้งหมดนั้นไว้กับตัวเขาเองได้?เขาไม่กล้าท้าทายพวกอันธพาลที่ขอค่าชดเชยในตอนนั้น เพราะฐานะการเงินที่ย่ำแย่ของเขาแม้ว่าเขาจะมีเงินทั้งหมดนั้น เขาก็ไม่ต้องกลัวใคร!ไม่เพียงเท่านั้น เขาสามารถใช้เงินสดเหล่านั้น เพื่อพาตัวเองออกจากประเทศ หลบหนีทุกสิ่งที่พยายามมัดเขาไว้ที่นี่ จะเกิดอะไรขึ้นหากพวกมันพบว่าเขาฆ่าคน? พวกมันก็จะไม่เจอเขาอยู่ดีนอกจากนี้ เขารู้ว่าเครื่องประดับและหินหยกเหล่านั้นมีราคามากกว่า 2
ของมีค่าทั้งหมดเหล่านี้สามารถขายได้เท่าไรกันนะ?เครื่องประดับเพียงชุดเดียวนั้นก็สามารถขายได้อย่างน้อยหนึ่งหมื่นหยวน ถ้านับแต่ภาพเขียนและการประดิษฐ์ตัวอักษรนั้น มีมูลค่าถึงพันล้านหยวนเลยทีเดียวเขากำลังจะรวย! ร่ำรวย!เซซิลที่สี่ไม่สามารถระงับความตื่นเต้นของเขาได้ ความคาดหวังที่เซอร์ไพรส์ และความมั่งคั่งไม่รู้จบทำให้ใบหน้าของเขาแดงก่ำในทางกลับกัน ลูซี่ยังคงถูกมัดอยู่ในห้องนอน เธอไม่สามารถขยับมือหรือเท้าของเธอได้ ทั้งหมดที่เธอทำได้คือฟังเสียงลิ้นชักกับกล่องที่ถูกดึงและปิดจากเซซิลที่สี่ กำลังเปิดในอีกห้องหนึ่งเธอเงยหน้าขึ้นและเหลือบมองนาฬิกาที่เดินอยู่บนผนัง ผ่านไปสี่นาทีแล้วตั้งแต่พวกเขาเข้ามาในบ้านแม้ว่าจะมีของมีค่าอยู่ในห้องค่อนข้างน้อย แต่พวกมันก็ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ดังนั้นมันจึงใช้เวลาไม่นานสำหรับเซซิลที่สี่เพื่อหาของเขาต้องการเวลาเพียงไม่กี่นาที! พูดอีกอย่างก็คือ เขาจะกลับมาในไม่ช้าดูเหมือนว่าเธอจะพบกับความหายนะในวันนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอก็พยายามทุกวิถีทางหาวิธีรักษาชีวิตตัวเองริมฝีปากของลูซี่ยิ้มอย่างขมขื่น เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอไม่ได้กลัวอย่างแน่นอน เธอคิดว่าสิ่งท
โจเอลไม่รู้เกี่ยวกับคนที่เซซิลที่สี่ฆ่าคนทั้งหมดนั่น ดังนั้นเขาจึงคิดว่า ลูซี่อ้างว่าเขาบ้าเพราะเขาลักพาตัว และทำให้เธอหวาดกลัว เขาพยักหน้าและเอื้อมมือไปจับมือเธอเมื่อหันไปหาไมค์ เขากล่าวว่า “อยู่กับเขาก่อนและแจ้งตำรวจเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ ให้ตำรวจขังไว้ก่อนแล้วฉันจะจัดการที่เหลือในตอนหลัง”ไมค์พยักหน้า “รับทราบครับ”จากนั้นเขาก็พาตัวเซซิลที่สี่ออกไปเซซิลที่สี่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ในขณะที่เขาถูกลากออกไป แต่ไมค์ยัดบางอย่างเข้าไปในปากของเขา เพื่อทำให้เขาเงียบตอนนั้นเองที่โจเอลหันกลับมาหาลูซี่และถามว่า “คุณเป็นอย่างไรบ้าง? เจ็บไหม?”เธอส่ายหัว "ฉันไม่เป็นอะไร เขาไม่ได้ทำร้ายฉัน” เธอไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ นอกจากอาการชาที่รู้สึกไม่สบาย หลังจากที่มือและเท้าของเธอถูกมัดเข้าด้วยกันเป็นเวลานานโจเอลพอใจกับคำตอบของเธอ เขาจึงสั่งให้คนขับรถพาพวกเขากลับบ้านประมาณ 20 นาทีต่อมา รถหยุดที่หน้าตึกคอนโดมิเนียมของลูซี่คาริน่าได้รับแจ้งข่าวมาแล้วว่าพบลูซี่ เธอทิ้งทุกอย่างที่เธอทำทันทีหลังจากที่เธอได้รับข่าว ดวงตาของเธอพร่ามัว เมื่อเห็นว่าลูซี่กลับมาอยู่ในอ้อมแขนของโจเอล“ลูซี่!”คา
ลูซี่อาบน้ำหลังจากที่โจเอลจากไปเธอพบว่า คาริน่าเตรียมอาหารไว้แล้ว เมื่อเธอเดินออกจากห้องน้ำหลังจากที่เครียดมาทั้งวัน ร่างกายและจิตใจของเธอก็อ่อนล้าไม่แพ้กัน และไม่มีพลังงานเหลืออยู่ในตัวเธอเลยแม้แต่น้อยโจเอลคิดมากพอที่จะรับรู้เรื่องนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาขอให้เธออยู่บ้านเพื่อพักผ่อน ในขณะที่เขาไปที่สถานีตำรวจ เพื่อติดตามการสอบสวนสิ่งอื่นสามารถรอจนถึงพรุ่งนี้ เมื่อเธอพักผ่อนอย่างเต็มที่ลูซี่รู้สึกหิวมาก ดังนั้นเธอจึงไม่รีรอที่จะหยิบตะเกียบขึ้นมา เมื่อเธอได้กลิ่นหอมอร่อยที่ลอยออกมาจากจานตอนนี้ คาริน่าอารมณ์ดีเพราะรู้ว่า ลูซี่ถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว เธอพูดไปเรื่อยเปื่อยอยู่ข้าง ๆ ลูซี่เพื่อไม่ให้เธอรู้สึกเบื่อ ขณะทานอาหารทันใดนั้น โทรศัพท์ของคาริน่าก็ดังขึ้นเนื่องจากเซซิลที่สี่ได้นำโทรศัพท์ของลูซี่ไป ตอนที่เขาลักพาตัวเธอ และเธอไม่มีโอกาสหาโทรศัพท์หลังจากที่เขาถูกจับตัวไป ตอนนี้เธอจึงไม่มีโทรศัพท์คาริน่าดึงโทรศัพท์ของเธอออกมา และเหลือบมองไปยังหมายเลขผู้โทร ตาเป็นประกายเมื่อเห็นชื่อจากนั้นเธอก็แอบมองลูซี่ราวกับว่าเธอกำลังนึกถึงอะไรบางอย่าง “ลูซี่ พี่ไซ เขาคงรู้ว่าพี่กลั
“ลูซี่ คุณเป็นยังไงบ้าง? คุณสบายดีไหม?"เมซรีบวิ่งไปหาลูซี่ทันทีที่ เมื่อเขาได้รับการปล่อยตัวอย่างไรก็ตาม เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยและก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว ขณะเผชิญกับดีใจของเมซมือของเขาที่พร้อมจะจับเธอก็หยุดกลางอากาศในทันทีลูซี่มองมาที่เขาและพูดว่า “ฉันสบายดี ขอบคุณสำหรับความห่วงใย”ร่างกายของเมซก็แข็งทื่อ เมื่อเห็นเธอเหินห่างจากเขา เมื่อรู้แล้วก็ค่อย ๆ ลดมือลง สักพักเขาก็ยิ้มอย่างเจื่อน ๆ “ผมดีใจที่คุณไม่เป็นไร ผมแค่เป็นห่วงคุณ ผมก็เลยมาหา”ลูซี่พยักหน้าหลังจากนั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อมันเริ่มอึดอัด พวกเขาเคยพูดเกี่ยวกับทุกสิ่ง แต่ตอนนี้ พวกเขาทำได้เพียงมองหน้ากันโดยไม่พูดอะไรเขาต้องการบอกเธอหลายสิ่ง อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถพูดอะไรได้เมื่อเห็นหน้าเธอความขมขื่นที่ไม่สิ้นสุดก็หลั่งไหลเข้ามาในตัวเขา ดูเหมือนลูซี่จะไม่อยากคุยกับเขาอีกต่อไป เธอเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ฉันสบายดี ฉันไม่เจ็บ พวกเขาจับเขาได้แล้ว ดังนั้นคุณวางใจได้ในตอนนี้”เมซพยักหน้า กระชับมือที่ด้านข้าง แต่เขาก็ยังยิ้มให้ลูซี่อย่างอ่อนโยน “โอเค ผมเข้าใจแล้ว มันดึกแล้ว ผมจะกลับแล้ว”ลูซี่พยักหน้าจากนั
ในรถเงียบมากทั้งคู่ไม่ได้พูดอีกตอนแรกลูซี่ต้องการบอกโจเอลให้ลงจากรถ เมื่อรถไปถึงประตูของวิลล่าออร์คิด อย่างไรก็ตาม เธอเพิ่งพบว่าชายคนนั้นพิงกระจกรถและหลับไป เมื่อเธอหันไปมองเธอจ้องมองอย่างงุนงง และรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ในเวลาเดียวกัน เธอก็รู้สึกแย่เมื่อเห็นรอยคล้ำใต้ตาของเขาคนขับไม่รู้ว่าโจเอลหลับอยู่และต้องการเรียกเขา แต่ลูซี่หยุดเขาไว้อย่างรวดเร็ว เธอเอานิ้วแตะปากของเธอ “ชู่!”คนขับรีบปิดปากทันทีเมื่อเห็นสิ่งนี้ลูซี่จึงเอาหมอนซุกใต้ศีรษะของโจเอล จากนั้นเธอก็ขอให้คนขับเอาแจ็กเก็ตมาคลุมโจเอลด้วยหลังจากทำทุกอย่างแล้ว เธอลงจากรถและบอกคนขับว่า “ปล่อยให้เขานอนพักสักครู่ อย่ารบกวนเขา”คนขับมองมาที่เธอแล้วเหลือบมองโจเอลที่กำลังหลับอยู่ในรถ เขาพยายามหาคำที่เหมาะสมที่จะพูด“แต่นายน้อยรองยังคงต้องไปที่บริษัทในตอนบ่าย…”“ไม่มีงานไหนสำคัญไปกว่าสุขภาพ” ลูซี่ขัดจังหวะเขาโดยไม่คิดอะไรเลย เธอยกข้อมือขึ้นและมองดูนาฬิกาของเธอ “ปล่อยให้เขานอนสักสองชั่วโมง ถ้าเขาไม่ตื่นภายในสองชั่วโมง ฉันจะมาปลุกเขาด้วยตัวเอง”คนขับไม่สามารถพูดอะไรได้อีก เขาจึงพยักหน้าเห็นด้วยลูซี่ไม่ได้เข้าไปในบ้านห
ลูซี่เม้มริมฝีปาก และปลอบแม่ของเธอ “แม่ มันไม่ใช่ความผิดของแม่ ยังมีคนสารเลวอีกเยอะแยะบนโลกนี้ ดังนั้นเราไม่สามารถคาดหวังให้เราโชคดีตลอดเวลา เพื่อไม่ต้องเจอใครใช่ไหม? นอกจากนี้ เขาถูกตำรวจจับแล้ว ในอนาคตจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีก ดังนั้นอย่าโทษตัวเองเลย”แม่แคทซ์รู้สึกมั่นใจ และตอบเธอพร้อมกับขอบคุณลูซี่วางสาย หลังจากบอกบางสิ่งกับแม่ว่าเธอควรใส่ใจ เมื่อเซ็นชื่อในเอกสารการหย่าร้างเวลาสามทุ่มตรงที่โจเอลกลับมาในขณะเดียวกัน ลูซี่เพิ่งส่งคาริน่ากลับไป เธอนำบางอย่างมาให้เธอก่อนออกไป ขณะที่เธอต้องการจะเข้าไปในบ้าน เธอเห็นรถที่คุ้นเคยขับมาแต่ไกลเธอยืนนิ่งและยิ้มเล็กน้อย เมื่อรถเข้ามาใกล้โจเอลลงจากรถตามด้วยไมค์ ไมค์เอากระเป๋าเดินทางมาโจเอลอธิบายว่า “ผมได้ยินจากคาริน่าว่าคุณต้องการของบางอย่าง แต่มันไม่สะดวกสำหรับเธอ ผมเลยขอให้ไมค์นำมันมา คุณสามารถตรวจสอบ และดูว่านี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”ลูซี่ตกตะลึง สายตาของเธอเหลือบไปที่กระเป๋าเดินทาง และคิดอย่างหนักว่ามันเป็นอันที่เธอใช้ตามปกติ เธอเม้มปากแล้วถามว่า “คุณวางแผนที่จะให้ฉันอยู่ที่นี่นานแค่ไหน?”โจเอลหัวเราะก่อนจะสั่งให้ไมค์ถือก