เธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอก็เห็นโจเอลกำลังเดินมา ขณะที่เขานั้นฮัมพลงตอนที่เธอเงยหน้ามองเขาดูเหมือนว่าเขาจะอารมณ์ดี สีหน้าของเขาไม่เหมือนคนที่ทะเลาะกับแม่เลยลูซี่ลุกขึ้น เดินไปหาเขา“คุณป้าเป็นอะไรไหม? คุณป้ายังโกรธอยู่หนือเปล่า?”เมื่อโจเอลเห็นเธอ มันทำให้เขานึกถึงอะไรบางอย่างที่ทำให้เขามีความสุข โจเอลรีบวิ่งทันที พร้อมกับอุ้มเธอขึ้นแล้วหมุนเป็นวงกลมลูซี่ตกใจกับท่าทางของเขา เธอกรีดร้อง เขาใช้เวลาสักพักกว่าจะวางเธอลงใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นซีดด้วยความกลัว หลังจากที่หน้าของเธอกลับไปเป็นปกติแล้ว เธอโกรธมากจึงตีไปที่ไหล่ของเขา“คุณทำอะไรของคุณ? ฉันใจหายหมดเลยนะ!”โจเอลหัวเราะก่อนจะตอบกลับ “คุณกลัวเหรอ? ผมว่าคุณกล้ามากเลนนะ”ลูซี่จ้องมองไปที่เขา เขาหยุดหัวเราะและค่อย ๆ วางเธอลง“ลูซี่ มีบางอย่างที่ผมต้องการที่จะปรึกษากับคุณ”สีหน้าของเธอรู้สึกตงิด ๆ เมื่อเห็นโจเอลทำหน้าตาจริงจัง “มีอะไรหรือเปล่า?”โจเอลคิดสักพัก ก่อนจะพูดขึ้นอย่างกะทันกันว่า “ขอเวลาผมสักครู่นึง”เขาวิ่งออกไปทันที หลังจากที่เขาพูดจบลูซี่ตกใจนิดหน่อย เธอรู้สึกงงนิดหน่อยเกี่ยวกับสิ่งที่เขาทำอยู่ลักพักเขาก
ลูซี่อาจจะเลิกกับเขาด้วยเหตุผลอื่น จากนั้นเขาต้องสนับสนุน และเชื่อฟังตามข้อตกลงของเธอโดยไม่มีเงื่อนไขรวมถึงการแต่งงาน อนาคตของเขา และอาชีพของเขาด้วยใบหน้าของโจเอลหดหู่ทันที เมื่อได้ยินเรื่องนี้ลูซี่ไม่รู้เกี่ยวกับการเดิมพันระหว่างโจเอลกับแม่ของเขาในตอนนั้น ขณะฟังไมค์ ลูเธอร์“โจเอล นี่มันหมายความว่ายังไง? หนึ่งปีต่อจากนั้น?”โจเอลขยิบตาให้ไมค์ บ่งบอกให้เขารออยู่ข้างนอกจากนั้นเขาก็หันกลับมามองลูซี่อย่างจริงจังเขาพูดกับเธออย่างเคร่งขรึมว่า “ลูซี่ ผมอยากจะบอกคุณเรื่องสำคัญที่เกี่ยวกับอนาคตของผม ตอนนี้ผมต้องพึ่งคุณ ผมเดิมพันความสุขทั้งหมดในชีวิตของผมให้ไปอยู่ในมือของคุณแล้ว คุณต้องสัญญากับผม”ลูซี่ตกตะลึงเธอตกใจกับความจริงจังของคำพูดของเขาเธอลังเล “โจเอล อย่าทำให้ฉันกลัว เกิดอะไรขึ้น?"โจเอลหัวเราะทันทีเมื่อเห็นหน้าซีดของเธอ“คุณเป็นคนโง่ แน่นอนว่ามันเป็นเพราะเรื่องการแต่งงานของเรา!”ลูซี่เงียบไปครู่หนึ่งจากนั้นโจเอลบอกลูซี่เกี่ยวกับการเดิมพันระหว่างเขากับแม่ของเขาเขารู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องปิดบังเรื่องนี้จากเธอ เมื่อในที่สุดพวกเขาก็กลับมาอยู่ด้วยกัน เขาไม่ต้องการที่จ
อย่างไรก็ตาม โจเอลจำประโยคนี้ได้นึกขึ้นได้ทันที เขาจึงพาลูซี่ไปเลือกแหวนที่ห้าง ทันทีที่ทานอาหารเสร็จตอนแรกเขาต้องการสั่งแหวนที่ออกแบบเองได้คู่หนึ่งอย่างไรก็ตาม มันจะเป็นขั้นตอนที่ยาวนาน ยิ่งไปกว่านั้น ปกติแล้วลูซี่ต้องเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ดังนั้นจึงมีโอกาสน้อยมากที่เธอจะได้สวมแหวนแต่งงานในที่สุด ทั้งสองก็ตัดสินใจไปเลือกแหวนที่พวกเขาชอบในห้าง หลังจากที่นึกถึงแหวนนอกจากนั้นมันยังเป็นสัญลักษณ์ด้วยอย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่เคยคิดว่าจะได้พบกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญโลกใบนี้มันคงเล็กมากสินะเจด้ากำลังช็อปปิ้งในห้างกับเพื่อนของเธอสองสามคน พวกเขากำลังวางแผนที่จะซื้อเครื่องประดับและจู่ ๆ ก็เจอโจเอลกับลูซี่สีหน้าของเจด้าเปลี่ยนไปอย่างทันทีในตอนนั้นโจเอลกับลูซี่ยังไม่เห็นเธอ พวกเขากำลังยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์มองดูแหวนอย่างตั้งใจ“เอาอันนี้ออกมาดูหน่อยได้ไหม?”ลูซี่หยิบแหวนเพชรรูปหัวใจ เมื่อผู้ช่วยร้านกำลังนำมันออกไป เสียงที่เต็มไปด้วยการเสียดสีก็ดังขึ้นจากบริเวณใกล้เคียง“อ้าว นึกว่าใคร! คุณนั่นเอง”ทั้งโจเอลกับลูซี่ขมวดคิ้ว เมื่อมองขึ้นไปและเห็นกับเจด้าลูซี่ไม่อยากมีปัญหากับคนอย
เจด้า สเวนสันหยุดอยู่ที่เดิมใบหน้าของเธอซีดเหมือนคนตาย'เขาพูดว่าอะไรนะ?'ภรรยาเหรอ?'"พวกคุณสองคน…"เธอยกนิ้วขึ้นและชี้ไปที่พวกเขาอย่างไม่เชื่อโจเอล ฟอสเตอร์ยกมือขึ้น ประสานนิ้วของลูซี่ แคทซ์ ไว้แน่นเขายิ้มเล็กน้อย “เราแต่งงานกันแล้ว คุณสเวนสัน คุณยอมแพ้แล้วได้ไหม?”ร่างกายของ เจด้า สเวนสันสั่นเทาไปด้วยความตกใจ เธอเกือบจะล้มลงกับพื้นไปในกองขยะ!เดชะบุญ ที่แฟนของเธอมีการตอบสนองที่รวดเร็วพร้อมกับจับเธอไว้ ทำให้เธอรอดพ้นจากความอับอายเจด้า สเวนสันโกรธจัดจนหน้าแดงและตาแดงก่ำ น้ำตาไหลอาบแก้มของเธอ“พวกคุณสองคนไปไกลถึงขั้นแต่งงานกันแล้วเหรอ? ฉันไม่เชื่อสิ่งนี้! มันไม่เป็นความจริง!”ใบหน้าของ โจเอล ฟอสเตอร์ไร้อารมณ์ ขณะที่เขาตอบว่า “ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะเชื่อหรือไม่! ผมไม่มีหน้าที่ต้องอธิบายให้คุณฟัง ผมมาเพื่อบอกให้คุณทราบ เพื่อที่คุณจะได้ไม่มารบกวนเราในอนาคต คุณสเวนสัน พวกเราโตแล้ว ผมหวังว่าคุณจะไม่ทำให้ตัวเองดูน่าละอาย เพื่อที่จะไม่ต้องไปรบกวนคนอื่นอีก”หลังจากที่เขาพูดจบไปแล้ว เขาก็ไม่สนใจเธอเลยและเดินออกจากที่เกิดเหตุไปพร้อมกับจับมือของลูซี่ แคทซ์หัวใจของเจด้า สเวนสัน เหม
เจเน็ต แฮนค็อก และ เลียม แจ็คแมนก็มาด้วยไซมอน วิลเบิร์นยังมาไม่ถึง ทุกคนไม่ทราบเหตุผล แต่ ลูซี่ แคทซ์ และ โจเอล ฟอสเตอร์รู้ว่าทำไมเมื่อมันเป็นเรื่องของความเป็นส่วนตัวและค่อนข้างน่าอายที่จะพูด ทั้งคู่จึงตัดสินใจเงียบทุกคนคิดว่าเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการและไม่สามารถมาได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รังเกียจกิดเดียน แซม ลีย์ และ เนลล์ เจนนิ่งส์เป็นคนที่ยุ่งมาก เนลล์ต้องดูแลลูกของเธอก่อนที่เธอจะมาได้ เธอจะเข้าร่วมกับพวกเขาในภายหลังดังนั้น คนที่เหลือจึงย้ายไปที่ห้องส่วนตัวที่กำหนดไว้ และเริ่มพูดคุยกันอย่างกระตือรือร้นด้วยเครื่องดื่มในมือโอเวน แจ็คแมนหัวเราะออกมา “ใครจะรู้ว่าดวงดาวจะเรียงตัวกันและคุณทั้งคู่จะลงเอยด้วยกัน? นายน้อยรอง คราวนี้คุณทำได้ดี”โจเอล ฟอสเตอร์จับคางของเขา ดวงตาสีพีชของเขายิ้มแย้มแจ่มใสเจเน็ต แฮนค็อกตบไหล่ ลูซี่ แคทซ์เบา ๆ แล้วยิ้ม “เฮ้อ นายน้อยรองของเราเป็นเพลย์บอย เธอพลาดไปโดนเขาหลอกให้รักได้ยังไง? ในอนาคตคุณไม่กลัวที่จะเสียใจหรือไง?”เธอหัวเราะตามอย่างไม่กังวลอะไร แต่คำพูดของเจเน็ต แฮนค็อก กลับพุ่งตรงไปที่จุดอ่อนของโจเอล ฟอสเตอร์สีหน้าของโจเอล ฟอสเตอร์
ลูซี่และโจเอลสัญญาว่าการแต่งงานของพวกเขาคนทั่วไปห้ามรู้โดยเด็ดขาด ถ้าพวกเขาก้าวออกไปพูดแก้ไข ไม่มีใครสามารถทราบข่าวการแต่งงานของพวกเขาได้นั่นจะไม่ผิดสัญญาที่เธอให้กับเขาใช่ไหม?เธอถอนหายใจยาวหลังจากครุ่นคิด“เราสามารถพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ในภายหลัง คุณควรปราบความคิดเห็นของประชาชนทั้งหมดก่อนดีกว่า”อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ ซูซานพยักหน้า“เมื่อความสัมพันธ์ของเธอกับคุณโจเอล ฟอสเตอร์ เป็นเรื่องจริง สถานการณ์ทั้งหมดจึงไม่น่ากลัวอีกต่อไป ก่อนหน้านี้พี่แค่ตกใจเพราะพี่กังวลว่าทั้งหมดมันเป็นเรื่องไม่จริง รู้ใช่ไหมว่าวงนี้เป็นอย่างไร…”ลูซี่หัวเราะเบา ๆเธอเข้าใจความหมายของซูซานถ้าความตั้งใจที่แท้จริงของเธอคือจัดการกับโจเอล ฟอสเตอร์ เพื่อหวังว่าสถานะทางสังคมให้สูงขึ้น ในที่สุดเธอก็มีร่องรอยของเรื่องอื้อฉาวไว้ทุกที่ไม่ว่ามันจะจบลงอย่างไร เธอจะต้องเผชิญและจัดการทุกอย่างด้วยตัวเธอเองสถานการณ์ปัจจุบันของเธอแตกต่างออกไป โจเอลและเธอแต่งงานกันอย่างถูกกฎหมายซูซานหมดข้อสงสัยจากความลังเลใจลูซี่สูดหายใจเข้าลึก ๆ และพูดว่า “ขอโทษที่ทำให้พี่ต้องลำบาก พี่ซูซาน”ซูซานส่ายหัวแล้วถามว่า “เธอรู้
อะไรคือเหตุผลเบื้องหลังของสิ่งเหล่านี้?ลูซี่คิดและพูดว่า “ทำไมเราไม่รอให้ลูกชายได้ทำตามสัญญาหนึ่งปีที่คุณให้ไว้กับแม่ล่ะ ปีหน้าค่อยคุยกันก็ได้”ใบหน้าของโจเอลบิดเบี้ยวมากขึ้น แต่เขารู้ว่านี่เป็นคำสัญญาที่เขาให้ไว้กับแม่เป็นการส่วนตัวมันเป็นเงื่อนไขสำหรับลูซี่และเขาที่จะแต่งงานกันเขาจำเป็นต้องรักษาสัญญานี้ในที่สุด เขาทำได้เพียงส่งลูซี่ออกไปพร้อมกับสายตาของเขาคนขับกำลังรอเธออยู่ข้างนอกคาริน่ากระโดดลงจากรถและยื่นหมวก แว่นกันแดด และหน้ากากให้เธอ มันเป็นการอำพรางตัว หลังจากแน่ใจว่าเธอได้ปกปิดเธอเพียงพอแล้ว เธอจึงรีบพาลูซี่ไปที่รถและขับรถออกไปลูซี่ต้องขาดงานไปสองสามวันตั้งแต่เธอถูกเซซิลที่สี่ลักพาตัวเธอ ดังนั้นเมื่อเธอมาถึงบริษัทผู้ผลิต เธอจึงต้องชดเชยฉากที่ต้องถ่ายทำในอีกไม่กี่วันข้างหน้าพนักงานในบริษัทผลิตภาพยนตร์มักเห็นข่าวซุบซิบบนอินเทอร์เน็ตพวกเขาจะอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าจะไม่สนใจก็ตามกระนั้น พวกเขายังคงเงียบอยู่รอบตัวเธอ ถ้าลูซี่อยู่ในพื้นที่ของพวกเขา พวกเขาจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ท้ายที่สุด มันไม่ใช่สิ่งที่ควรค่าแก่การโอ้อวดเห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังพูดถึงข่าวที่น่าตื
ลูซี่ แคทซ์ตกตะลึงเล็กน้อย เมื่อเธอนึกขึ้นได้ เธอก็พยักหน้า “แน่นอน”“ถ้าผมเจอคุณเร็วกว่าเขา คุณจะชอบผมแทนไหม?”ลูซี่หยุดชะงักอย่างทันทีทันใด เธอไม่เคยคิดถึงความเป็นไปได้ที่จะได้อยู่กับไซมอน วิลเบิร์นเธอรู้สึกว่ามีไม่มากในโลกที่จะเริ่มต้นด้วย “ถ้า”โชคชะตานำพาเรามาพบกัน โชคชะตาพาเราพรากจากกัน หลายครั้งที่เราคิดว่าเราทำงานหนักเพื่อจะได้แต่งงานสิ่งที่เราไม่ได้ตระหนักคือ จังหวะแห่งความบังเอิญถูกกำหนดโดยสวรรค์เมื่อนานมาแล้วเราจะไม่มีวันรู้ว่าเราจะอยู่ด้วยกันนานแค่ไหนอย่างแน่นอนทำไมเราถึงพูดถึง 'ถ้าเกิดอะไรขึ้น?'เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ไซม่อนไม่รีบเร่งเธอ เขาติดตามเธออย่างเงียบ ๆ รอคำตอบของเธอหลังจากผ่านไประยะหนึ่ง ลูซี่ตอบอย่างอ่อนโยนว่า “เราพบกันตอนเราอายุสามขวบ”ไซมอนตกตะลึงเขามองไปที่ลูซี่ ดวงตาเป็นประกายของเธอเผยให้เห็นว่าเธอนึกถึงอดีตริมฝีปากของเธอโค้งขึ้นเล็กน้อย มองผ่านหมอกที่ไม่มีที่สิ้นสุดรอบตัวพวกเขา “ในขณะนั้น พ่อของฉันเป็นเจ้าหน้าที่รับใช้ของลุงของเขา เขามักจะติดตามลุงฟอสเตอร์เพื่อทำหน้าที่ แม่กลัวว่าฉันจะเบื่อกับการอยู่บ้านคนเดียวโดยไม่มีใครเล่นด้วย เธอจ