เกรกอรี เกรแฮมไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำดวงตาสีเข้มคู่หนึ่งกำลังมองไปที่เธออย่างเงียบ ๆวิกกี้ โทมัสรู้สึกหงุดหงิดมากจนเธอต้องผลักเขาออกไป“ไปให้พ้น อย่ามากวนฉัน”เธอคิดว่าผู้ชายคนนั้นจะต้องรำคาญ แต่ก็ไม่ เขากลับหัวเราะเบา ๆ ออกมาเสียงทุ้มต่ำและแหบเล็กน้อยดังก้องอยู่ในหู บวกกับลมหายใจที่แผดเผาของเธอช่างดูมีเสน่ห์และน่าค้นหา“เวลาที่เธอหึงฉัน เธอก็จะเป็นแบบนี้แหละ”แขนของเขาที่เธอเพิ่งจะผลักออกไปได้ยกขึ้นมาอีกครั้ง แต่คราวนี้ ผู้ชายคนนี้ฉลาดขึ้น เขาไม่ได้โอบที่เอวของเธอ ในทางกลับกัน เขายกแขนของเขาไปมาเหนือตัวของเธอ ก่อนจะใช้ปลายนิ้วบีบเบา ๆ ที่ติ่งหูกลมเล็ก ๆ ของเธอ“เมื่อกี้หลังจากที่เธอกลับมา ฉันก็กลับไปหายูเลียนาอีกครั้ง”ร่างกายของวิกกี้แข็งทื่อแม้ว่าเธอจะยังหันหลังให้กับเขาอยู่ แต่ก็ดูเหมือนว่าเธอกำลังทำหน้าบึ้งและปฏิเสธที่จะพูดกับเขา แต่ในความเป็นจริงแล้ว หูของเธอผึ่งขึ้นด้วยความอยากรู้เธอไม่รู้ว่าเกรกอรีจะสังเกตเห็นปฏิกริยาของเธอหรือเปล่า แต่เขาก็ยังคงพูดอย่างเฉยเมยว่า “อีกไม่นานฉันจะส่งยูเลียนาไปที่อื่น และเธอจะไม่ได้เจอกับยูเลียนาอีกเลย เธอจะมีความสุขได้รึยัง?”วิก
ในตอนนี้เองที่ ยูเลีนนา ลินช์ ได้เดินเข้ามาหา วิกกี้ โทมัส อย่างเงียบ ๆฝีเท้าของเธอเบามาก และประกอบกับความจริงที่ว่าเธอกำลังเดินอยู่บนพื้นหญ้า มันก็ยิ่งทำให้เงียบลงไปอีกจนกระทั่งเธอเดินเข้ามาใกล้จนจะถึงตัวแล้ว วิกกี้ก็สังเกตเห็นเธอแต่ทว่าวิกกี้กลับไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองแต่อย่างใด สายตาของเธอยังคงจับจ้องไปที่หนังสือของเธอ ก่อนจะเหลือบมองผู้หญิงคนนั้นจากปลายหางตาเล็กน้อยยูเลียนาเอียงคอเล็กน้อยและดูภาคภูมิใจในตัวเองมาก“วิกกี้ โทมัส! ฉันมีข่าวดีจะบอกเธอ เธออยากฟังรึเปล่า?”วิกกี้ทำเป็นไม่สนใจ ราวกับว่าเธอไม่ได้สังเกตเห็นการมาของยูเลียนายูเลียนาไม่ได้รู้สึกรำคาญแต่อย่างใด เธอเพียงแค่หัวเราะออกมาเบา ๆ เท่านั้น ใบหน้าที่บริสุทธิ์และบอบบางของเธอเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและความฉลาดหลักแหลม"ฉันกำลังจะแต่งงาน...กับเกรกอรี"นิ้วมือของวิกกี้ที่กำลังถือหนังสืออยู่กำแน่นเล็กน้อยในใจของเธอมีคำพูดของชายหนุ่มเมื่อคืนนี้ผุดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว‘อีกไม่นานฉันจะส่งยูเลียนาไปที่อื่น และเธอจะไม่ได้เห็นหน้าของยูเลียนาอีกเลย…’มุมริมฝีปากของเธอยกขึ้นและยิ้มอย่างเยาะเย้ยออกมา ก่อนจะกลับมาอ่านหนัง
เกรกอรี เกรแฮมพูดออกมาเบา ๆ ว่า “เมื่อคืนฉันก็บอกกับเธอไปแล้วหนิว่าฉันจะส่งยูเลียนาไปที่อื่น และเธอจะไม่ได้เห็นหน้าของยูเลียนาอีกเลย แน่นอนว่ามันไม่ใช่ภัยคุกคามต่อตัวเธอ ดังนั้นเธอไม่จำเป็นต้องทำร้ายผู้หญิงคนนั้นแบบนี้ เพราะยิ่งเธอทำแบบนี้ฉันจะรู้สึก…”เขาหยุดกระทันหันและพูดต่อไปไม่ได้วิกกี้ โทมัสรู้สึกเพียงแค่ว่าหัวใจของเธอถูกต่อยเข้าไปอย่างแรง เธอรู้สึกชาและเสียวสันหลังวาบเธอหยุดพูดและเบ้ปาก มองไปที่เขาอย่างไม่ขยับเขยื้อนผ่านไปครู่หนึ่ง เธอถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “นายรู้สึกยังไง พูดออกมาให้ชัด! เกรกอรี นายคิดยังไงถ้าฉันทำแบบนี้”แววตาของเกรกอรีเริ่มแข็งกร้าวมากขึ้นเขาไม่มีความสุภาพอีกต่อไป เขาพูดออกมาตรง ๆ ว่า “มันทำให้ฉันรู้สึกว่าเธอเป็นแค่คนแปลกหน้า น่าเบื่อและใจแคบ ในแบบที่วิกกี้คนเก่าไม่เคยเป็น เธอควรจะรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นแตกต่างจากเธอมาก ยูเลียนาไม่ได้อยู่บนสนามแข่งขันเดียวกันกับเธอ และในทุก ๆ ด้านยูเลียนาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอ”“สำหรับคนอย่างเธอที่ไม่เคยถูกคุกคามอะไรเลย ทำไมเธอต้องหาเรื่องยูเลียนาทุกวิถีทางด้วย? มันจะเป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่เหรอ ถ้าเธอจะปล่อยให้ยู
วิกกี้ โทมัสขมวดคิ้วเข้าหากัน ใบหน้าของเธอดูกระวนกระวาย หลังจากถูกรบกวนด้วยเสียง เธอเอ่ยถามว่า “ใครอยู่ข้างนอกนั่น?”แอนเดรียเดินเข้าไปทางประตูแล้วกระซิบว่า "คุณลินช์ค่ะ"วิกกี้ขมวดคิ้วหนักเข้าไปอีกนังแม่มดเจ้าเล่ห์คนนั้นอีกแล้วเหรอ?เธอมาทำอะไรที่นี่?ไม่ว่าเธอจะมาที่นี่เพื่ออะไร แต่เธอก็ส่งเสียงดังมากจนวิกกี้ไม่สามารถงีบหลับได้เลยและเนื่องจากว่าเธอไม่สามารถงีบหลับได้ เธอก็อาจจะต้องลุกขึ้นให้ได้เช่นกันวิกกี้ลุกจากเตียงด้วยความไม่เต็มใจ และขอให้แอนเดรียเข็นรถพาเธอออกไปเมื่อเธอออกไปข้างนอก เธอก็เห็นว่า ยูเลียนา ลินช์ กำลังตำหนิสาวใช้อยู่พวกเธออาศัยอยู่ในอาคารเสริมเดียวกัน และห้องพักของพวกเธอก็อยู่ชั้นเดียวกัน แต่ว่าอยู่คนละฝั่งของอาคารในวันปกติธรรมดา วิกกี้จะไม่ค่อยออกไปไหนมากนัก จึงถือว่าเป็นเรื่องยากที่พวกเธอสองคนจะเจอกัน เว้นแต่ว่าจะมีใครบางคนจงใจรออยู่ที่นั้นด้วยเหตุนี้พวกเธอทั้งสองคนจึงอยู่ด้วยกันได้มาเป็นเวลานานโดยไม่มีความขัดแย้งกันในตอนนี้เห็นได้ชัดเลยว่า ยูเลียนากำลังยืนอยู่ที่นั่นโดยเอาแขนโอบเอวของเธอเอาไว้ และกำลังด่าสาวใช้จากอาคารเสริมอยู่วิกกี้จำสาวใช้
ยูเลียนาสามารถทำร้ายแอนเดรียได้ตามที่เธอต้องการได้อย่างไร?ยูเลียนาลุกขึ้นยืนพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า เธอปรบมือและพูดอย่างสบายใจ "คนรับใช้ที่ต่ำต้อยเช่นเธอ กล้าดียังไงถึงมาพูดแทรกเจ้านาย? ในเมื่อเธอไม่รู้กฎ วันนี้ฉันจะสอนมันให้กับเธอเอง”ทันทีที่เธอพูดคำเหล่านี้ออกมา ใบหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปแอนเดรียหน้าแดงจัดด้วยความโกรธ เธอกุมใบหน้าข้างที่ถูกตบเอาไว้ และเดือดดาลจนพูดอะไรไม่ออกในขณะนั้นเองจู่ ๆ ก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นยูเลียนารู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาที่ขาของเธอ และร่างกายของเธอก็ขดงอตามสัญชาตญาณในวินาทีถัดมาทุกคนต่างก็ตกใจ แต่ก่อนที่จะมีใครเข้าไปช่วย วิกกี้ก็ได้เอาเท้าอีกข้างหนึ่งของเธอเหยียบไว้บนท้องของยูเลียนาแล้วโชคดีที่ขาของวิกกี้ได้รับบาดเจ็บในตอนนี้ เธอจึงออกแรงได้ไม่มากนัก ยูเลียนาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและล้มลงกับพื้นหากเป็นวันปกติที่วิกกี้ไม่ได้รับบาดเจ็บที่ขาของเธอ ผู้หญิงคนนั้นคงถูกเตะโด่งกลับไปแล้ววิกกี้พูดอย่างเย็นชาว่า “ในเมื่อเธอไม่รู้จักกฎ วันนี้ฉันจะเป็นคนสอนเธอเอง คุณลินช์ เธอคิดยังไงกับบทเรียนบทนี้ละ เป็นที่หน้าพอใจรึเปล่า?”ยูเลียนากุมท้องของเธอเอาไว้
เรน่าวางรังนกไว้ที่นั่นและไม่ได้แตะต้องมันอีกเลย เนื่องจากทุกคนรู้ดีว่าเธอรับผิดชอบอาหารของยูเลียนาและวิกกี้ จึงไม่มีใครกล้าที่จะแตะต้องสิ่งเหล่านั้นเกิดอะไรขึ้นที่นี่?เรน่าอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นตระหนกอย่างไรก็ตาม วิกกี้ไม่ได้เป็นกังวลเลย เธอมองดูรังนกอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง และขอให้ใครบางคนโทรหาพ่อบ้านออสบอร์นเพื่อยืนยันว่าสิ่งที่เขาส่งมาก่อนหน้านี้เป็นรังนกที่มีคุณภาพสูงจริง ๆจากนั้นเธอก็หันไปมองกลุ่มคนรับใช้อีกครั้ง“ในช่วงนี้ ใครบ้างที่ทำหน้าที่ในครัว นอกจากเรน่า?”ทุกคนจ้องมองและแลกเปลี่ยนสายตากันจากนั้นสาวใช้สามคนก็ก้าวออกมา วิกกี้มองไปที่พวกเธอและถามว่า “พวกคุณเป็นสาวใช้ในครัวทั้งหมดหรือเปล่า?”ทั้งสามคนก้มหน้าลงและส่ายหน้า ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะพวกเธอกลัววิกกี้ หรือเพราะว่าพวกเธอขี้อายหนึ่งในพวกเธอตอบเบา ๆ ว่า “ไม่ใช่ค่ะ คุณโทมัส พวกเราแค่ช่วยงานล้างจาน และทำความสะอาดภายในครัวเท่านั้น”วิกกี้เลิกคิ้ว“แล้วมีใครเคยแตะต้องส่วนผสมของเรน่าบ้างไหม?”"ไม่มีค่ะ"ทั้งสามคนส่ายหน้าและปฏิเสธอย่างพร้อมเพรียงกันวิกกี้เงียบไปครู่หนึ่งในขณะนั้นสาวใช้ที่อายุน้อยที่สุดก็พู
ดวงตาของวิกกี้สงบนิ่ง เธอเหลือบมองไปที่ยูเลียนาก่อนจะมองไปที่เรน่า จากนั้นเธอก็พูดด้วยเสียงต่ำว่า “กล้องวงจรปิดถูกดัดแปลง คนที่สับเปลี่ยนรังนกไม่ใช่เรน่า”"อะไรนะ?"ทุกคนต่างก็ตกตะลึงและประหลาดใจไม่ใช่เรน่าเหรอ? แล้วจะเป็นใครได้ล่ะ?ทุกคนต่างก็รู้สึกงุนงงและมองหน้ากัน ใครกันแน่ที่เป็นคนสับเปลี่ยนรังนก?ยูเลียนาขมวดคิ้ว เธอเองก็ประหลาดใจเนื่องจากว่าเธอยืนอยู่ไม่ไกลจากวิกกี้ เธอจึงมองเห็นวีดีโอบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่อยู่ตรงหน้าของวิกกี้ได้ทันที เห็นได้ชัดว่าเธอมองไม่เห็นใครที่เข้าไปแตะต้องตู้นั้นเลย แล้ววิกกี้เอาอะไรมาตัดสินใจว่าเรน่าไม่ได้เป็นคนทำเธอพยายามที่จะพ่นคำโกหกออกมาอย่างนั้นเหรอ?ยูเลียนาพูดออกมาด้วยความไม่พอใจ“วิกกี้ โทมัส ฉันรู้ว่าเธอมีความตั้งใจที่อยากจะไว้ชีวิตเรน่า แม่บ้านในครัวคนนั้น แต่ในฐานะมนุษย์ เธอควรจะมีความเป็นธรรมและรู้ว่าอะไรผิดอะไรถูกไม่ใช่เหรอ? วีดีโอบนคอมพิวเตอร์แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่า ไม่มีใครนอกจากเรน่าที่เป็นคนเปิดตู้เพื่อนำบางอย่างภายในตู้ออกมา แล้วเธอจะสรุปเอาเองได้ยังไงว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เป็นคนสับเปลี่ยนรังนก?”วิกกี้เงยหน้าขึ้นและมอ
ทุกคนต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย"ใช่ เธอพูดถูก"“ใครจะเข้าไปได้โดยที่ไม่มีกุญแจ? ไม่มีใครสามารถบินเข้าไปได้!”“พูดอีกอย่างก็คือ มันไม่สามารถทำได้โดยพนักงานในครัว”คนหัวใสกล่าวเสริม“หรือว่าใครคนนั้นจะขโมยกุญแจออกมาแล้วนำมันไปคืนทีหลัง?”ชายหนุ่มผู้รับผิดชอบกล้องวงจรปิดส่ายหน้า“สิ่งนั้นเป็นไปไม่ได้ ผมเก็บกุญแจไว้กับตัวเองตลอดและไม่เคยนำมันออกเลย ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่มันจะถูกขโมย”ทันใดนั้นทุกคนก็รู้สึกสับสนไม่มีใครขโมยกุญแจไป แต่กล้องวงจรปิดถูกดัดแปลงแก้ไขจริง ๆ แล้วมันจะเป็นฝีมือของใคร หรือว่าผี?เมื่อคิดเช่นนี้ ใครบางคนก็หน้าซีดเซียววิกกี้ไม่เชื่อเรื่องการมีอยู่ของผี ด้วยใบหน้าที่สงบและการจ้องมองที่เย็นชา เธอจ้องมองไปทุกใบหน้าที่อยู่ตรงหน้าเธอในที่สุดสายตาของเธอก็จับจ้องไปยังเด็กสาวคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ที่มุมห้องเด็กสาวดูเด็กมาก เธอมีอายุราว ๆ สิบหกหรือสิบเจ็ดปี อาจจะพูดได้ว่าเธอยังไม่โตพอที่จะทำงานอย่างไรก็ตาม วิกกี้ก็นึกขึ้นได้ว่าเธอเคยเดินผ่านสวนอยู่ครั้งหนึ่งและได้ยินคนรับใช้พูดคุยกันว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่นี่มาสามปีแล้วถ้าตอนนี้เธออายุราว ๆ สิบหกหรือสิบเจ็