จินนี่พูดอย่างระมัดระวัง “อย่าพูดแบบนั้นเลยค่ะคุณลินช์ นายน้อยเองก็เป็นห่วงเป็นใยคุณเหมือนกัน เมื่อเขาได้ยินว่าคุณถูกวางยาพิษ เขาก็สั่งให้มีการสอบสวนทุกคนภายในคฤหาสน์อย่างเด็ดขาดทันที!”เป็นครั้งแรกที่เจนนี่ไม่ได้ยินคำตอบจากเธอยูเลียนารู้ดีว่ามันคงจะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำทุกอย่างเพื่อเธอจริง ๆ เพราะที่จริงแล้ว เป้าหมายคือวิกกี้เธอก็เป็นเหมือนดังคนที่ได้รับกระสุนแทน โดยการขโมยซุปของผู้หญิงคนนั้นถ้าหากว่าเกรกอรีห่วงใยเธอจริง ๆ ทำไมเขาถึงไม่อยู่ที่นี่เมื่อเธอตื่นขึ้นมา?ในความเป็นจริง นอกจากจินนี่แล้ว ไม่มีตัวตนของคนอื่นอยู่ในภายห้องเลย ไม่มีแม้แต่พ่อบ้านออสบอร์นมันเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ตอนนี้ยูเลียนารู้สึกว่า ห้องนี้มันกว้างและว่างเปล่าเกินไป เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ที่เธอรู้สึกว่าห้องของเธอนั้นแคบเกินไปทุกอย่างดูว่างเปล่าจนทำให้เธอรู้สึกแย่ลงอย่างไรก็ตามเธอยังคงที่จะพยายามปิดบังความเศร้าโศกของเธอเอาไว้ยูเลียนาหันหน้าไปมองจินนี่และพูดว่า “ฉันไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ ไม่ต้องร้องไห้แล้ว ฉันรู้สึกหิว ช่วยหาอะไรให้ฉันกินหน่อย”จินนี่พยักหน้าทันที “ค่ะ แต่ว่าคุณลินช์”เนื่องจากย
ดังนั้นวิกกี้จะมีเหตุผลอะไรที่จะไม่รักษาชีวิตของเธอและตามแก้แค้น?ดวงตาของเธอเย็นลงเมื่อคิดเช่นนั้นราวกับว่าเกรกอรีสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่มืดมนรอบ ๆ ตัวเธอ ดวงตาของเขาหรี่ลง เขาพูดด้วยเสียงต่ำว่า “ไม่ต้องกังวล ฉันจะช่วยเธอแก้แค้น และฆ่าคนเหล่านั้นเอง”คราวนี้วิกกี้ไม่ปฏิเสธ"ขอบคุณนะ"เธอรู้ดีภูมิหลังของเขานั้นแข็งแกร่งมากเธอรู้ดีว่า ถ้าหากว่าเธอจัดการมันด้วยตัวเอง ความเสี่ยงที่เธอจะได้รับนั้นจะสูงมาก และโอกาสในการประสบความสำเร็จนั้นก็น้อยมากเช่นกันโอกาสในความสำเร็จจะสูงกว่าเมื่อเธอมีเขาเขาฉลาดและมีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง ตราบใดที่เธอยังอยู่กับเขา เธอก็เปรียบเสมือนส่วนหนึ่งของเครือข่ายของเขา และเธอก็จะมีอิทธิพลมากขึ้นเช่นกันทั้งสองเดินตรงไปที่ห้องของวิกกี้ภายในอาคารเสริมจากนั้นเกรกอรีก็คลายเก้าอี้รถเข็น และหันไปหาแอนเดรีย “เธอไปพักผ่อนเถอะ ฉันมีเรื่องต้องคุยกับวิกกี้”แอนเดรียสุขใจเมื่อเธอได้เห็นเช่นนั้น ดังนั้นเธอจึงยิ้มรับและรีบออกไปทันทีวิกกี้รู้ดีว่าแอนเดรียกำลังเข้าใจสถานการณ์ระหว่างเธอกับเกรกอรีผิด พวกเขากำลังจะคุยเรื่องธุรกิจกันอย่างจริงจัง แต่เธอคงจะคิดว่าพวกเขา
จากนั้นวิกกี้ก็พูดต่อว่า “ไม่ใช่เพราะว่าฉันห่วงใยนาย แต่เป็นเพราะความสัมพันธ์ของเราในตอนนี้ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ดีที่นายยินดีที่จะช่วยฉันตรวจสอบคนเหล่านั้น แต่ฉันก็ไม่ต้องการที่จะเป็นหนี้บุญคุณนาย และฉันก็ไม่สามารถเป็นได้ เข้าใจไหม?"สิ่งที่เธอพูดคือความจริง มันคือความคิดที่แท้จริงของเธออย่างไรก็ตาม เกรกอรีหัวเราะเมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น“ไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณฉันเหรอ? วิกกี้ เธอเป็นหนี้ฉันไปแล้ว อะไรทำให้เธอบอกว่าเธอไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณฉันอีก”วิกกี้ตกใจมากเธอสูดหายใจเข้าและพูดว่า “เอาล่ะ เกรกอรี ฉันยอมรับว่าเรื่องนี้สำคัญมาก แต่มันก็อันตรายมากเช่นกัน และฉันก็ไม่มีใครที่จะไว้ใจได้นอกจากนาย สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตมันไม่สำคัญไม่ว่าอะไรจะถูกหรืออะไรจะผิด แต่ที่ฉันรู้ก็คือ ในทุก ๆครั้งที่ฉันตกอยู่ในอันตราย มีเพียงนายเท่านั้นที่ไม่ทิ้งฉันไว้ตามลำพัง ดังนั้นเพื่อเป็นการตอบแทน ฉันก็จะหนุนหลังให้นายเช่นกัน นายสัญญาได้ไหมว่านายจะปกป้องฉันให้ปลอดภัย และกลับมาโดยสวัสดิภาพ นายจะต้องจัดการคนเหล่านั้นและไม่ทำให้ฉันผิดหวังได้ไหม?“ผ่านมาสี่ปีแล้ว แต่อีกครั้งที่ผู้หญิงคนนี้มองเขาด้วยสายตาที่จ
รอยยิ้มประชดประชันปรากฏขึ้นบนมุมปากของวิกกี้ ถึงแม้ว่าเธอจะกำลังหัวเราะอยู่ แต่น้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ“เกรกอรี นายไม่เคยจะเชื่อใจฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว นายกล่าวหาว่าฉันเป็นฆาตกร ทั้ง ๆ ที่เห็นได้ชัดว่าฉันไม่ได้เป็นคนทำ แล้วทำไมนายถึงยังกล้าพูดถึงเรื่องความยุติธรรมได้อย่างหน้าซื่อใจคดแบบนี้?”“ฉันรู้ว่าตราบใดที่ฉันยังอยู่ที่นี่ ฉันจะกลายเป็นก้างขว้างคอของนายและยูเลียนาที่จะได้อยู่ด้วยกัน ก็ได้ ฉันจะเป็นคนไปเอง แต่เกรกอรี อย่าลืมว่านายติดหนี้บุญคุณฉันไว้อยู่ และนายจะต้องติดหนี้บุญคุณฉันไปทั้งชีวิต! จากนี้ไป ต่อให้ไม่มีที่ไป ฉันก็จะไม่กลับมาหานายอีก ชาตินี้ทั้งชาติเราจะไม่มีวันได้พบกันอีก!”หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็เห็นแววตาของเกรกอรีสั่นสะท้านอย่างรุนแรงจากนั้นเขาก็หัวเราะออกมา“อย่าได้พบได้เจอกันอีกเลยในชาตินี้ สุดยอดไปเลยวิกกี้ จำสิ่งที่เธอพูดเอาไว้ให้ดี ในเมื่อเธอต้องการจะไป ก็รีบไปให้พ้นจากสายตาของฉันซะ! และมันจะเป็นการดีที่สุดถ้าเธอจะไม่กลับมาที่นี่อีก ออกไป!”ในขณะที่เขาพูดจบ เขายกมือขึ้นปัดขาตั้งดอกไม้ที่อยู่ใกล้ ๆ กับเขาล้มลง ก่อนจะเดินออกไปโดยไม่หันหลังกลับมามองเลยแ
เมื่อเห็นแบบนี้แอนเดรียก็ยิ้มออกมาอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก“มันได้รับการพิสูจน์แล้วหนิคะว่า เป็นคนอื่นที่วางยาพิษในซุปนั่น คุณจะดื่มมันเข้าไปไหม? เห็น ๆ กันอยู่ว่ามีคนวางแผนที่จะทำร้ายคุณ แต่ทำไมนายน้อยถึงคิดว่าเป็นคุณที่วางยาพิษเพื่อทำร้ายยูเลียนา?”เมื่อได้ยินเช่นนี้ วิกกี้ก็ถูหน้าผากของเธอเองราวกับว่าเธอกำลังปวดหัวอยู่เธอพูดอย่างใจเย็นว่า “บางที… เขาอาจจะกำลังสับสน และไม่แม้แต่จะเชื่อในหลักฐานที่วางอยู่ต่อหน้าของเขาเลยด้วยซ้ำ เขาเลือกที่จะเชื่อคำพูดของยูเลียนาแทน แล้วฉันจะไปทำอะไรได้?เธอพูดพลางถอนหายใจออกมา“ฉันไม่ควรจะไปคาดหวังอะไรกับเขาตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม? จากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่ฉันตกลงไปในน้ำ ฉันควรจะรู้ว่าสิ่งที่ฉันทำมันไม่ได้สำคัญอะไรเลย เขาแค่เกลียดฉัน และเขาจะมีความสุขมากเวลาที่ได้เห็นฉันเดือดร้อน”“แล้วความจริงที่ว่ามันจะไปสำคัญได้ยังไง? เพราะสำหรับเขา การได้ทำให้ฉันเจ็บปวดคือสิ่งสำคัญที่สุดแล้ว”พอพูดจบเธอก็ยิ้มออกมาด้วยความเศร้าสร้อย“ฉันไม่อยากจะยึดติดกับเขาอีกต่อไปแล้ว แอนเดรียถ้าฉันไปจากที่นี่แล้ว ดูแลตัวเองให้ดีนะ ยูเลียนาเกลียดฉัน และเธอก็อยู่เคียงข้างฉ
ศพถูกกู้ขึ้นมาจากแม่น้ำเรื่องราวที่เกิดขึ้นจึงไม่ค่อยซับซ้อนเท่าไรนักมีแม่น้ำสายหนึ่งที่ยาวมากอยู่ข้าง ๆ เมือง โดยปกติแล้วผู้คนจำนวนมากในเมืองนี้จะหาเลี้ยงชีพด้วยการหาปลาจากแม่น้ำสายนี้พวกเขามักจะทอดแหทิ้งไว้ในตอนเช้า และเก็บแหในตอนเย็นวันนี้พวกเขามาช้าเพราะเหตุผลอะไรบางอย่าง ดังนั้นพวกเขาจึงมาเก็บแหช้ากว่าปกติไปสองชั่วโมงเดิมทีพวกเขาคิดว่าวันนี้อาจจะต้องกลับบ้านมือเปล่า เพราะว่าปลาอาจจะว่ายหนีหลังจากที่ได้กินเหยื่อไปแล้วแต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อพวกเขาไปดึงแหขึ้นมาและพบว่ามันหนักมากทุกคนต่างพากันดีใจยกใหญ่ และคิดว่าจะได้ลาภลอยแล้วในวันนี้แต่เมื่อพยายามดึงแหขึ้นมามากเท่าไร พวกเขากลับรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติในแหไม่มีปลา แต่เป็นมือมนุษย์ที่โผล่ขึ้นมามาจากน้ำแทนทุกคนตกใจมากจึงพากันรีบแจ้งตำรวจ ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มคนร่วมมือกันดึงแหนั้นขึ้นมาไม่นานนักตำรวจก็มาถึงจุดเกิดเหตุหลังจากตรวจสอบแล้ว ก็พบว่าผู้ตายเป็นเด็กหญิงอายุประมาณสิบแปดปี สาเหตุการตายก็คือขาดอากาศหายใจเนื่องจากการจมน้ำ ไม่มีใครรู้จักเธอ ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่าเธอไม่ใช่คนในพื้นที่เมื่อตำรวจ
วิกกี้กล่าวขอบคุณด้วยความอ่อนโยน ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนรถเข็นเจ้าหน้าที่ตำรวจคงจะสังเกตเห็นขาทั้งสองข้างของเธอ เพราะถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่เธอก็รับรู้ได้ว่ามีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผ่านออกมาจากแววตาของเขาเขาคงจินตนาการถึงเรื่องราวที่น่าสลดใจมากมายที่เกิดขึ้นกับเธอ แต่เธอไม่รู้วิกกี้ไม่ได้รบกวนเขาต่อ หลังจากบอกลาเขาแล้ว เธอก็ลากข้าวของสัมภาระที่วางอยู่ที่มุมประตูเข้าไปในบ้านไม่มีใครอาศัยอยู่ในบ้านหลังเก่านี้มาเป็นเวลานานมากแล้วสนามหญ้าเต็มไปด้วยวัชพืช และใยแมงมุมที่บางตัวก็ห้อยอยู่ตรงมุมกำแพง ต้นไม้สูงใหญ่แต่กลับไร้ใบเพราะขาดคนดูแล จะมีใครรู้ว่าใครเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้วิกกี้บังคับวีลแชร์ให้เลื่อนไปข้างหน้าโชคดีที่หน้าบ้านไม่มีบันได เธอจึงไม่ได้ลำบากอะไรมากนัก เธอตรงเข้าไปที่ประตู และหยิบกุญแจออกมาเปิดประตู ก่อนจะเข็นรถตรงเข้าไปข้างในบ้านภายในบ้านมีแต่ความมืดมิดมันถูกทิ้งร้างเป็นเวลานาน จึงมีกลิ่นของฝุ่นและความชื้นกระจายไปทั่วบ้านวิกกี้ควานหาสวิตช์ตามทิศทางในความทรงจำของเธอเพื่อเปิดไฟ และบ้านก็สว่างขึ้นมาในทันทีวิกกี้ยกมือขึ้นบังตาของเธอเอาไว้สักพักเ
สำหรับพวกเขา เธอเป็นแค่เพียงเบี้ยเดินเกมมาตั้งแต่แรกเป็นแค่เบี้ยที่เอาไว้ใช้ต่อรองกับเกรกอรี เกรแฮม องค์กรนกหงส์หยก และอาจจะทั้งหมดของเครือข่ายใต้ดินแววตาของเธอเริ่มเย็นชาเมื่อนึกถึงมันแดนดูเหมือนจะไม่ได้สังเกตเห็นความปั่นป่วนข้างในของเธอ เขาจึงยิ้มออกมาอย่างร่าเริง “ดูเหมือนว่าน้องเล็กของฉันจะดูไม่ค่อยมีความสุขที่ได้เจอกับฉันสักเท่าไร เรามีเรื่องเข้าใจผิดอะไรกันรึเปล่า?”วิกกี้หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา“พี่ใหญ่ก็น่าจะรู้ดี ว่านี่มันเป็นความเข้าใจผิดหรือเปล่า!”แดนเลิกคิ้วขึ้นหากว่าใครไม่สนใจบรรยากาศอันชั่วร้ายที่อยู่รอบ ๆ ตัวของผู้ชายคนนี้ ใบหน้าที่แสนจะอ่อนโยนและอบอุ่นของเขา คงจะทำให้ผู้หญิงหลาย ๆ คนหลงเสน่ห์แต่ว่าวิกกี้ไม่ได้อยู่ในกลุ่มผู้หญิงเหล่านั้นแดนหัวเราะออกมา และพูดว่า “เด็กน้อย ฟังจากน้ำเสียงของเธอ ดูเหมือนว่าเธอกำลังโทษฉันกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอเมื่อครั้งก่อนสินะ เธอกล่าวหาคนอื่นแบบนี้ มันดูไม่ยุติธรรมเอาซะเลย ฉันเพิ่งจะรู้ว่าเธอได้รับการปล่อยตัวจากคุก ฉันก็เลยมาที่นี่เพื่อเจอเธอ! แต่ต้องมาเจอกับคำส่อเสียดแบบนี้ มันทำให้ฉันรู้สึกเศร้าใจจริง ๆ"วิกกี้รู้สึกไม