เพลงนารากลับมาเยี่ยมมิณไอริณอีกครั้ง ครั้งนี้เพื่อนสาวให้เข้าเยี่ยมอย่างง่ายดาย หญิงสาวส่งยิ้มให้คนป่วยที่นั่งอยู่บนเตียง
“ฉันมาเยี่ยมซื้อของโปรดมาให้เธอด้วยนะ”
“ฉันอิ่มแล้วเธอเก็บเอาไว้กินเถอะ เห็นชอบของเหลือเดน อุ้ย ชอบของต่อจากฉัน” เราต้องสู้สิอย่าไปกว่า ผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจแค่ไหน
“พูดอะไรของเธอ”
“อร่อยไหม?”
“อะไรอร่อยเธอพูดเรื่องอะไร” เพลงนาราไม่สนุกด้วยเพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนถาม หญิงสาวมือชื้นไปด้วยเหงื่อบรรยากาศในห้องนี้อึดอัดมาก
“วันที่เธอได้กับผัวฉันมีความสุขมากไหม ตามอ่อยเขาลับหลังฉันรู้ทั้งรู้ว่าเขาคือสามีฉัน เพลงนาราหนังหน้าเธอราดด้วยยางมะตอยหรือไงทำไมมันถึงด้านขนาดนั้น ความเป็นคนไม่มีกันหรือไง!”
หญิงสาวด่าแบบสาดเสียเทเสียคำพูดคำจาเปลี่ยนไปไม่เหมือนมิณไอริณที่เพลงนาราเคยรู้จัก
เพลงนาราอ้าปากค้างไม่คิดว่ามิณไอริณจะรู้มาโดยตลอดว่าเธอพยายามอ่อยแพนธารินลับหลังมิณไอริณตลอด จนได้เกิดเรื่องเมื่อเดือนก่อนทุกอย่างเป็นความตั้งใจของเธอที่อยากได้เขามาครอบครอง
“ไม่จริงฉันไม่ได้ทำแบบนั้น”
“เหรอ? สันดานชอบแย่งของเพื่อนเธอเลิกไม่ได้เลยหรือไง ที่เธอไม่มีใครคบเพราะชอบของเพื่อนนี่เอง” ตอนเรียนมหาลัยเพลงนาราไม่มีเพื่อนเลยสักคน พอสืบไปสืบมาถึงได้รู้ว่าเพลงนาราชอบยุ่งกับผัวเพื่อน
“มิณไอริณฉัน…”
“อย่ามาเรียกชื่อฉันขยะแขยงอยากได้มากเลยเหรอผู้ชายคนนั้น” หญิงสาวหยุดพูดเพราะตอนนี้เธอตื่นเต้นเสียงเริ่มสั่น
“ฉันขายให้ ไม่เอาดีกว่าเขาไม่มีค่าฉันยกให้เลย”
เธออยากพักเพราะตอนนี้ไม่มีแรงเอาคืนเพลงนารา เธอไม่อยากเอาตัวเองไปยุ่งเกี่ยวกับคนเหล่านั้นอีกต่อไป เจ้าของร่างทนอยู่แบบนั้นไปได้อย่างไร
“เธอมันน่าเบื่อจนคุณแพทเขาไม่ยอมแตะต้องหรือหลับนอนด้วย แม่คนดีที่จับผู้ชายแต่งงานทุเรศมาก”
“ดีกว่าเธอนะที่เป็นของฟรีถ่างหอยจนหอยเน่าแล้วมั้ง”
“ไอริณมันจะมากไปแล้วนะ!” เพลงนาราโกรธจนเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้
เวลานั้นแพนธารินที่เริ่มสับสนกับตัวเอง เมื่อเรื่องมันลงเอยแบบนี้ทำให้เขาใจลอยๆ และรู้สึกผิดขึ้นมาบ้าง เขาเดินมาในห้องผู้ป่วยมาเจอกับเพลงนาราที่ถูกมิณไอริณแซะ
“ทำอะไรกัน!”
มิณไอริณจึงเงียบไม่อยากให้เขารู้ว่าตอนนี้เธอรู้ทุกอย่างแล้ว ต่อจากจะไปเอากับใครไม่เกี่ยวกับเธอเพราะเธอไม่ใช่มิณไอริณ
“คุณมาก็ดีแล้วช่วยเอาเพื่อนรักของฉันออกไปหน่อยสิ ฉันรู้สึกไม่ค่อยดี” หญิงสาวทำหน้าเหนื่อยหน่าย เหมือนหัวใจเต้นแรงจนหายใจไม่ทัน เอจับที่หน้าอกข้างซ้าย
“ไอริณฉันเรียกพยาบาลให้”
“แค่คุณสองคนออกไปอาการฉันน่าจะดีขึ้น” บ้าจริงวันนี้จะได้ออกไปพักที่บ้านหรือไม่
พยาบาลเข้ามาแล้วก็ต้องช่วย มิณไอริณอย่างโกลาหล หญิงสาวโคตรจะสงสารตัวเองแม่งทุกข์ซ้อนทุกข์ มันจะเกินไปแล้วเข้าใจแล้วว่าอาการของโรคซึมเศร้ามันทรมานแค่ไหน คนที่ไม่เคยเจออาจจะบอกว่าอ่อนแอเรียกร้องความสนใจ
แพนธารินกลับมานั่งดื่มที่เพ้นท์เธอาส์กลางวันแสกๆ เขาไม่เคยรู้เลยว่ามิณไอริณป่วย ทำให้เขารู้สึกผิดเพราะอาจเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้
แล้วภูวเรศกับเพลงนาราก็มาหาแพนธารินพร้อมกัน เพลงนารารู้ว่าแท้จริงแล้วภูวเรศคิดอะไรกับแพนธาริน แอบแมนอยู่ได้
“เพื่อนกันแบบผู้ชายมันเหมือนผู้หญิงเป็นเพื่อนกันไหม สนิทเกิ๊น”
“เธอมาทำอะไร”
“ฉันก็มาหาผัวตัวเองนะสิ”
“หึ ฉันจะบอกอะไรให้ ฉันคบหากับแพทมาตั้งแต่อนุบาล แต่หล่อนสิร้ายเหมือนกัน ที่นอนกับผัวเพื่อนได้ทั้งที่ปากที่อมกระสวยผัวเพื่อนแล้ว ยังมาพูดพ่นน้ำลายที่กินน้ำกรวยอันเดียวกับเพื่อน ยังกล้ามาเสนอตัวเป็นห่วงเป็นใยตอแหล”
ภูวเรศกับเพลงนาราจ้องหน้ากันไม่เลิกเมื่อประตูเปิดออกทั้งสองจึงรีบเข้าไปหาเจ้าของบ้าน แต่แพนธารินไม่มีอารมณ์อยากจะเจอหน้าใคร
“ผมบอกคุณกี่ครั้งแล้วว่าเราจบแยกย้ายไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก”
“คุณจะทิ้งเพลงไม่ได้นะคะ”
“ไม่ใช่เมียทำไมจะทิ้งไม่ได้” เขายกเหล้าขึ้นแล้วหันไปเรียกหาภีมกับภาม ให้ทั้งสองคนมาเชิญแขกออกไปจากเพ้นท์เธอาส์ของเขา
“แพทฉันเป็นเพื่อนแกได้นะ”
“ฉันไม่อยากเจอหน้าใคร”
แพนธารินที่จิตใจเปลี่ยนไปจากเดิม เขาไม่พร้อมที่จะไปไหนไม่อยากเจอหน้าใคร เกิดอาการสับสนขั้นรุนแรงความรู้สึกตีกันจนเขาเจ็บจี้ดที่หัวใจ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนและผล็อยหลับไป
“มองฉันทำไม”
ภูวเรศที่เป็นคนยุยงเรื่องที่เพลงนาราลักลอบเล่นชู้กับแพนธาริน ส่งไปให้กับมิณไอริณก่อนหญิงสาวจะตกน้ำเกือบเอาชีวิตไม่รอด
“ไม่รู้นะว่าใครจะมีตราบาปติดตัวสักวันเวรกรรมจะตามไปหักคอคนเลวๆ”
“พูดเรื่องอะไร ไร้สาระ บาปกรรมอะไรฉันไม่รู้เรื่อง”
“ศีลข้อ 3 ก็แรงอยู่นะ”
ภูวเรศยิ้มร้ายเมื่อเพลงนาราเก็บอาการไม่อยู่ เด็กสมัยนี้น่ากว่าจริงๆ
“อย่ากินปูนร้อนท้องสิ”
เพลงนาราเข้ามานั่งในรถตอนนี้แพนธารินหลุดมือไปแล้ว จะทำอย่างไรเพราะหนี้ที่บ้านใกล้ถึงเวลาส่งดอกเบี้ยธนาคาร คิดว่าเขาจะหลงจนเก็บเธอไว้แต่เปล่าเลย เขาทำเหมือนขยะแขยงเธอเต็มทน
.
มิณไอริณกลับมาพักฟื้นที่บ้านต่อโชคดีที่อาการป่วยไม่รุนแรง ครั้งแรกที่เหยียบเข้ามาในบ้านของเจ้าของร่างเดิม ที่นี่คือเรือนหอของมิณไอริณและแพนธาริน บ้านที่ไม่เคยมีความสุขไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม
“คุณหนูของป้าแจ่มกลับมาแล้วไปทำท่าไหนถึงตกน้ำได้ค่ะ”
“หน้ามืดค่ะเลยพลัดตก”
“เข้ามานั่งก่อนนะคะป้าจะทำของโปรดของทาน”
“ขอบคุณนะคะ”
หญิงสาวส่งยิ้มให้คนอายุมากกว่านอกจากพ่อแม่ก็มีป้าสายนี่แหละที่เป็นห่วงมิณไอริณด้วยความจริงใจ เธอมองไปรอบๆ บ้านยังมีรูปภาพวันแต่งงานของเขาอยู่เลย
“คุณแพทย้ายออกไปแล้วค่ะป้าพยายาม…”
“เอาไปเผาทิ้ง”
“เอาอะไรคะ!” ป้าแจ่มตกใจถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของคุณหนูที่นางรักและเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก
“รูปที่มีผู้ชายคนนั้นเอาไปเผาทิ้งให้หมด ไอริณกับเขาจะหย่ากันแล้วค่ะ”
“คุณหนูของป้าดีใจจังเลยที่คุณหนูจะหลุดพ้นแล้ว” ป้าแจ่มจับมือของมิณไอริณ ดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ที่ได้ยินเรื่องหย่าจากปากของหญิงสาว
“ของทุกอย่างที่เป็นของเขาเอาไปบริจาคให้คนไร้บ้านด้วยนะคะ เก็บไว้ไม่มีประโยชน์” มิณไอริณคนเดิมไม่มีอีกแล้ว เธอจะลุกขึ้นมาสู้เพื่อมิณไอริณ
“อุ้ย ขอโทษค่ะเนมไม่ได้ตั้งใจทำน้ำหก” คุณหนูของบ้านน่ากลัวมากอารมณ์แปรปรวน เอาแต่ใจไม่มีใครอยากรับใช้เพราะกลัว
“คุณหนูอย่าด่าเด็กมันเลยนะคะ”
“ไม่เป็นไรไอริณขึ้นไปพักก่อนนะคะ” คิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมามิณไอริณร้ายไม่ต่างจากแพนธาริน ถึงอยู่ด้วยกันได้ คิดถึงอนาคตตัวเองทีไรต้องเครียดเพราะหนทางมืดมนไปหมด
“เอายังไงกับชีวิตดีนะ”
หญิงสาวทิ้งตัวนอนกลางเตียงกว้างพร้อมกับหยิบภาพถ่ายของมิณไอริณมาดู หญิงสาวสวยดูดีมีชาติตระกูลแต่ทำไมถึงฝังใจรักคนไร้หัวใจแบบนั้น แล้วทำไมแพนธารินถึงดูเกลียดมิณไอริณขนาดนั้น
“ตอนนี้มีเงินแล้วอะไรคงจะง่ายขึ้น ต้องตามหาคนร้ายตัวจริงให้เจอเสียก่อน”
หญิงสาวภาวะนาให้เจ้าของร่างเดิมช่วยคุ้มครองและช่วยตามหาคนร้ายให้เจอ เพื่อวิญญาณจะได้ไปเกิดใหม่ไม่ต้องทรมานอีกต่อไป
หลังจากที่น้องไบรท์กับน้องแบล็คได้เข้าเรียนอนุบาลแล้ว แพนธารินก็คิดแต่ว่าชีวิตช่วงกลางวันเขาจะดีขึ้น แต่กลับไม่เป็นแบบนั้นเพราะลูกชายของเขาดันไปก่อเรื่องที่โรงเรียนเอาไว้จนเขาถูกเรียกให้ไปรับทราบพฤติกรรมของลูกชายทั้งสอง“เสร็จหรือยังคะ” เสียงของมิณไอริณดังขึ้นหลังจากเธอนั่งรอแพนธารินกับลูกสาวมาได้สักพักแล้ว“เสร็จแล้วครับ อันนี้เอาให้คุณแม่ด้วยครับ” แพนธารินส่งหน้ากากอนามัยให้กับลูกสาวเพื่อให้เจ้าหนูเอาไปให้แม่“อะไรคะเนี่ย” คิ้วสวยขมวดเข้าหากันอย่างเป็นคำถาม เมื่อเห็นสิ่งที่สามีฝากลูกสาวเอามาให้เธอ“หน้ากากไงครับ”“เอามาทำอะไรคะ ไอริณไม่ได้เป็นไข้นะคะ” หญิงสาวเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจสามีของเธอ“พี่ไม่ได้บอกว่าไอริณเป็นไข้ แต่พี่ไม่ชอบเวลาคนอื่นมอง”“หึงเหรอคะ” มิณไอริณลุกจากเก้าอี้ตรงไปหาแพนธารินเธอจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มอย่างต้องการคำตอบ“ครับ หึง ไม่ชอบเลยเวลามีคนมอง”“ก็ไอริณสวยนิคะ”“ก็เพราะแบบนี้ไง พี่เลยไม่อยากให้เราไปไหน” แพนธารินหน้าตึงขึ้นมาทันที เวลาเขาเห็นใครมองมิณไอริณเขารู้สึกหงุดหงิดจนไม่อยากให้หญิงสาวออกไปไหน“ไม่แกล้งแล้ว เขาอยากมองก็มองไป แต่ไอริณไม่สนใจสักหน่อย น้องทิ
เช้าอันสดใสที่ใครหลายๆ คนต่างนับว่าเป็นการเริ่มต้นวันที่ดี แต่เหมือนจะไม่ใช่กับแพนธารินเขายังคงวนเวียนอยู่กับการเตรียมอาหารเช้าให้กับภรรยากับลูกชายฝาแฝดชายหนุ่มใช้เวลานานนับชั่วโมงในการเตรียมอาหารก่อนขึ้นไปดูภรรยาที่ยังคงนอนหลับอยู่ซึ่งตอนนั้นเองลูกชายของเขาทั้งสองคนกลับตื่น แพนธารินตรงเข้าไปอุ้มเด็กน้อยทั้งสองขึ้นแนบอกหวังเพียงว่าทั้งคู่จะไม่ร้อง“ชู่ว์ ไม่ร้องนะครับ เดี๋ยวพ่อพาลงไปเล่นข้างล่าง” แพนธารินเอ่ยเปล่า เขาอุ้มลูกชายฝาแฝดลงมาจากห้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับการหยอกล้ออย่างสนุกสนานชายหนุ่มทำหน้าที่เลี้ยงเด็กทั้งสองแทนผู้เป็นแม่ของพวกเขาอย่างมิณไอริณ เพราะเธอเพิ่งคลอดลูกมาได้เพียงแค่เดือนเศษ ร่างกายของหญิงสาวยังคงต้องพักผ่อนเพื่อฟื้นฟู“มาแล้ว ระวังให้ดี” เสียวหยอกล้อของพ่อลูกยังดังขึ้นเรื่อยๆ“ทำอะไรกันอยู่คะ” มิณไอริณที่แอบมองดูสามีเล่นกับลูกชายทั้งสองอย่างสนุกสนาน มาได้สักพักก็เอ่ยถาม “อ้าวไอริณมาตั้งแต่ตอนไหน” แพนธารินเดินไปประคองมิณไอริณมานั่งที่โซฟา ก่อนอุ้มลูกน้อยที่หญิงสาวอุ้มมาด้วยขึ้นแนบอก“มาทันเห็นคนโดนลูกแกล้ง” ใบหน้าสวยเอ่ยด้วยยิ้ม“งั้นเหรอครับ แล้วอยากโดน
แสงแดดส่องเข้ามาในห้องนอนแพนธารินพลิกตัวไปมาอย่างเกียจคร้าน แต่พอจะลุกแค่นั้นแหละ มีอะไรหนักๆ มาทับที่หน้าอกคิดว่าผีอำ “น้องแบล็คทำไมมาอยู่ตรงนี้ได้” เขาจับลูกชายวางลงข้างกาย “เย่นๆ” เด็ดน้อยพยายามปืนป่ายขึ้นมานั่งบนหน้าอกของผู้เป็นพ่ออีกครั้ง “อืมมม พักก่อนนะลูก” เล่นปลุกเขาตั้งแต่เช้าแล้วภรรยาเขาหายไปไหนตั้งแต่เช้า แพนธารินลุกขึ้นและอุ้มลูกลงไปตามหาภรรยา ในห้องโถงได้ยินเสียงแฝดพี่ร้องไห้เสียงดัง โดยมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังปลอบอยู่ “นายเป็นใคร! เข้ามาทำอะไรในบ้านฉัน” “เอ่อ!” ลุกกำลังจะตอบแต่คนถามไม่ยอมปล่อยโอกาสแถมยังต่อว่าเขา มิณไอริณกับเทวัญที่ได้ยินเสียงของแพนธารินจึงรีบเข้ามา “พี่แพทเสียงดังทำไมคะ? ลูกก็อยู่ด้วย” “มัน...เขาคนนี้คือใคร” ในสมองของเขาไม่เคยรู้จักหรือเคยเห็นหน้ามาก่อน แต่พอโดนดุจึงเงียบทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับสิ่งที่เกิดขึ้น “พี่ลุกแฟนพี่เทวัญค่ะ” แพนธารินจึงเงียบเพราะเหมือนว่ากำลังทำให้เมียโกรธมากขึ้น และเขาต้องเป็นฝ่ายพาตัวเองออกไปจากห้องโถงเพราะถูกเชิญออกไป “พี่แพทมีประชุมเช้านี่คะต
มิณไอริณนั่งมองลูกชายคนโตที่อยู่ในอ้อมแขนของหมอคัมภีร์ ส่วนอีกคนหลับอยู่ในรถเข็นเด็ก “คนนี้หน้าเหมือนไอริณมาก” เขาจ้องมองเด็กน้อยในอ้อมแขน ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหนสุดท้ายแล้วเขากับมิณไอริณก็เป็นได้แค่พี่น้อง “พี่หมอไม่คิดจะมีบ้างเหรอคะ” “พี่จะหาแม่ของลูกมาจากไหนบ้างานขนาดนี้” “มัวแต่ทำงานระวังจะแก่ก่อนนะคะ” เขาหล่อเขารวยหน้าที่การงานก็ดี สักวันต้องมีคนที่ดีเข้ามา พี่ไม่เคยคิดเรื่องนั้นถ้ามันใช่มันใช่ไปตั้งนานแล้ว” เหมือนที่เขาตามจีบหญิงสาว สุดท้ายแล้วความดีไม่ใช่ผลตอบแทนของความรัก “ไอริณต้องกลับแล้วค่ะพ่อเด็กๆ รออยู่” เธอกล่าวลาเขา พอเดินออกมาไม่ไกลก็เห็นแพนธารินนั่งรออยู่ พร้อมกับใบหน้าบูดบึ้ง “เบื่อทำไมต้องไม่ให้พี่ตามไปด้วย” ทำเหมือนแอบคบชู้ จะโกรธก็ไม่ได้เพราะตอนนี้เมียอยู่เหนือทุกอย่าง “ไม่ทำหน้างอแบบนั้นสิคะฝากลูกหน่อยนะคะ ไอริณจะไปเดินเล่น” เธอส่งลูกให้แพนธารินรีบเดินขึ้นรถอีกคันไม่อยากให้เขาหอบลูกตามเธอไปชอปปิ้งด้วย จากมาเฟียสู่พ่อลูกอ่อนอีกมืออุ้มลูก อีกมือเข็นรถการเลี้ยงลูกมันเหนื่อยกว่าทำงานหลายเท่า
แพนธารินขอเข้าไปดูหน้าลูกด้วย ในห้องคลอดหญิงสาวก็คิดว่า เจ้าของร่างเดิมคงต้องการแบบนี้ชายหนุ่มร้องไห้เมื่อเห็นหน้าลูกเขานั่งเฝ้าลูกทั้งสองกำลังหลับปุ๋ยอยู่บนรถเข็นเปลเด็ก ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ จะอุ้มท้องลูกเขาถึงสองคน“แพนธวัฒน์ – แพนเมธา ชื่อเล่นน้องอะไรดีนะ” เขานั่งครุ่นคิด“ไบรท์กับแบล็ค” เธอแอบตั้งชื่อลูกไว้แล้วมีแสงสว่างก็ต้องมีความมืดมน และเธอชอบชื่อนี้มาก“ชื่อเพราะดี” เขาเอามือจิ้มแก้มของลูกทำให้เด็กน้อยร้องไห้เสียงดัง จนมิณไอริณต้องต่อว่าเขาที่ไปแกล้งลูกเป็นครั้งแรกที่เธอให้นมลูกซึ่งเด็กน้อยดูดจนเธอรู้สึกเจ็บ พออีกคนดื่มนมจนอิ่มอีกคนร้องตาม แค่คนเดียวก็ว่าหนักแล้วตอนนี้มีถึงสองคนคืนนั้นมิณไอริณฝัน เจ้าของร่างเดิมมาขอร้อง ว่าให้เธอคืนดีกับแพนธาริน เธอจะไปเกิดแล้วและอวยพรให้หญิงสาวมีความสุขแพนธารินนอนกระสับกระส่ายไปมาในความฝันของเขา เห็นผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนมิณไอริณมายืนร้องไห้ ซึ่งเขาจำได้ว่าคนนี้คือมิณไอริณตัวจริง“ไอริณมาลาพี่แพทค่ะ ชาตินี้เราจากกันแล้วรักผู้หญิงคนนั้นให้มากๆ นะคะ”“ไอริณ” น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาหาเสียงตัวเองไม่เจอ นี่เป็นครั้งแรกที่ในใจของเขาไม่ได้
ภีมกับภามนั่งเฝ้าเจ้านายอยู่เกือบสามชั่วโมง ตั้งแต่ทั้งสองทะเลาะกันเจ้านายของพวกเขากลายเป็นคนเงียบขรึม ตามง้อภรรยาแต่เหมือนนายหญิงจะไม่ยอมยกโทษให้ง่ายๆ แพนธารินนั่งฟังคุณครูสอนอย่างตั้งอกตั้งใจ วันนี้เขาเข้าคอร์สเรียนการเลี้ยงลูก ทั้งสองเรียนมีเขาที่เป็นผู้ชายเพียงคนเดียว ชวนมิณไอริณมาแล้วแต่รายนั้นยังโกรธเขาอยู่ เขารู้สึกผิดที่ทำให้หญิงสาวเกือบเสียลูกไป จะโกรธเขาก็ไม่แปลก “คุณแพทฟังอีกรอบนะคะเวลาลูกอาเจียนเราต้องลูบหลังเบาๆ แบบนี้ค่ะ” คุณครูสาธิตให้เขาดูก่อน และลองให้เขาทำ “แบบนี้เหรอครับ” เขาทำตามที่คุณครูสอนทุกอย่าง“ใช่ค่ะเบาๆ นะคะ” ขนาดตุ๊กตายังทำแรงขนาดนี้ ถ้าเป็นคนจริงๆ น่าจะเหลือแค่ชื่อแพนธารินค่อยๆ ลูบหลังตุ๊กตาเด็กแต่เขาน่าจะลงแรงไปเยอะ ลูบไปลูบมาหัวตุ๊กตาหลุดร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้น ทำให้ทุกคนหัวเราะเสียงดัง“เบาๆ สิคะ”“ผมขอเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นดีกว่าครับ”คุณครูจึงพามาสอนเรื่องการอาบน้ำให้เด็กแรกเกิด แพนธารินทำตามทุกอย่างเช่นเดิม แต่เหมือนจะหนักมืออีกเพราะตุ๊กตาเด็กคว่ำหน้าจมน้ำไปต่อหน้าต่อหน้า“กูไม่เรียนแล้ว” เขาเดินออกมาทันทีพร้อมใบหน้าที่