เพลงนารากลับมาเยี่ยมมิณไอริณอีกครั้ง ครั้งนี้เพื่อนสาวให้เข้าเยี่ยมอย่างง่ายดาย หญิงสาวส่งยิ้มให้คนป่วยที่นั่งอยู่บนเตียง
“ฉันมาเยี่ยมซื้อของโปรดมาให้เธอด้วยนะ”
“ฉันอิ่มแล้วเธอเก็บเอาไว้กินเถอะ เห็นชอบของเหลือเดน อุ้ย ชอบของต่อจากฉัน” เราต้องสู้สิอย่าไปกว่า ผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจแค่ไหน
“พูดอะไรของเธอ”
“อร่อยไหม?”
“อะไรอร่อยเธอพูดเรื่องอะไร” เพลงนาราไม่สนุกด้วยเพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนถาม หญิงสาวมือชื้นไปด้วยเหงื่อบรรยากาศในห้องนี้อึดอัดมาก
“วันที่เธอได้กับผัวฉันมีความสุขมากไหม ตามอ่อยเขาลับหลังฉันรู้ทั้งรู้ว่าเขาคือสามีฉัน เพลงนาราหนังหน้าเธอราดด้วยยางมะตอยหรือไงทำไมมันถึงด้านขนาดนั้น ความเป็นคนไม่มีกันหรือไง!”
หญิงสาวด่าแบบสาดเสียเทเสียคำพูดคำจาเปลี่ยนไปไม่เหมือนมิณไอริณที่เพลงนาราเคยรู้จัก
เพลงนาราอ้าปากค้างไม่คิดว่ามิณไอริณจะรู้มาโดยตลอดว่าเธอพยายามอ่อยแพนธารินลับหลังมิณไอริณตลอด จนได้เกิดเรื่องเมื่อเดือนก่อนทุกอย่างเป็นความตั้งใจของเธอที่อยากได้เขามาครอบครอง
“ไม่จริงฉันไม่ได้ทำแบบนั้น”
“เหรอ? สันดานชอบแย่งของเพื่อนเธอเลิกไม่ได้เลยหรือไง ที่เธอไม่มีใครคบเพราะชอบของเพื่อนนี่เอง” ตอนเรียนมหาลัยเพลงนาราไม่มีเพื่อนเลยสักคน พอสืบไปสืบมาถึงได้รู้ว่าเพลงนาราชอบยุ่งกับผัวเพื่อน
“มิณไอริณฉัน…”
“อย่ามาเรียกชื่อฉันขยะแขยงอยากได้มากเลยเหรอผู้ชายคนนั้น” หญิงสาวหยุดพูดเพราะตอนนี้เธอตื่นเต้นเสียงเริ่มสั่น
“ฉันขายให้ ไม่เอาดีกว่าเขาไม่มีค่าฉันยกให้เลย”
เธออยากพักเพราะตอนนี้ไม่มีแรงเอาคืนเพลงนารา เธอไม่อยากเอาตัวเองไปยุ่งเกี่ยวกับคนเหล่านั้นอีกต่อไป เจ้าของร่างทนอยู่แบบนั้นไปได้อย่างไร
“เธอมันน่าเบื่อจนคุณแพทเขาไม่ยอมแตะต้องหรือหลับนอนด้วย แม่คนดีที่จับผู้ชายแต่งงานทุเรศมาก”
“ดีกว่าเธอนะที่เป็นของฟรีถ่างหอยจนหอยเน่าแล้วมั้ง”
“ไอริณมันจะมากไปแล้วนะ!” เพลงนาราโกรธจนเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้
เวลานั้นแพนธารินที่เริ่มสับสนกับตัวเอง เมื่อเรื่องมันลงเอยแบบนี้ทำให้เขาใจลอยๆ และรู้สึกผิดขึ้นมาบ้าง เขาเดินมาในห้องผู้ป่วยมาเจอกับเพลงนาราที่ถูกมิณไอริณแซะ
“ทำอะไรกัน!”
มิณไอริณจึงเงียบไม่อยากให้เขารู้ว่าตอนนี้เธอรู้ทุกอย่างแล้ว ต่อจากจะไปเอากับใครไม่เกี่ยวกับเธอเพราะเธอไม่ใช่มิณไอริณ
“คุณมาก็ดีแล้วช่วยเอาเพื่อนรักของฉันออกไปหน่อยสิ ฉันรู้สึกไม่ค่อยดี” หญิงสาวทำหน้าเหนื่อยหน่าย เหมือนหัวใจเต้นแรงจนหายใจไม่ทัน เอจับที่หน้าอกข้างซ้าย
“ไอริณฉันเรียกพยาบาลให้”
“แค่คุณสองคนออกไปอาการฉันน่าจะดีขึ้น” บ้าจริงวันนี้จะได้ออกไปพักที่บ้านหรือไม่
พยาบาลเข้ามาแล้วก็ต้องช่วย มิณไอริณอย่างโกลาหล หญิงสาวโคตรจะสงสารตัวเองแม่งทุกข์ซ้อนทุกข์ มันจะเกินไปแล้วเข้าใจแล้วว่าอาการของโรคซึมเศร้ามันทรมานแค่ไหน คนที่ไม่เคยเจออาจจะบอกว่าอ่อนแอเรียกร้องความสนใจ
แพนธารินกลับมานั่งดื่มที่เพ้นท์เธอาส์กลางวันแสกๆ เขาไม่เคยรู้เลยว่ามิณไอริณป่วย ทำให้เขารู้สึกผิดเพราะอาจเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้
แล้วภูวเรศกับเพลงนาราก็มาหาแพนธารินพร้อมกัน เพลงนารารู้ว่าแท้จริงแล้วภูวเรศคิดอะไรกับแพนธาริน แอบแมนอยู่ได้
“เพื่อนกันแบบผู้ชายมันเหมือนผู้หญิงเป็นเพื่อนกันไหม สนิทเกิ๊น”
“เธอมาทำอะไร”
“ฉันก็มาหาผัวตัวเองนะสิ”
“หึ ฉันจะบอกอะไรให้ ฉันคบหากับแพทมาตั้งแต่อนุบาล แต่หล่อนสิร้ายเหมือนกัน ที่นอนกับผัวเพื่อนได้ทั้งที่ปากที่อมกระสวยผัวเพื่อนแล้ว ยังมาพูดพ่นน้ำลายที่กินน้ำกรวยอันเดียวกับเพื่อน ยังกล้ามาเสนอตัวเป็นห่วงเป็นใยตอแหล”
ภูวเรศกับเพลงนาราจ้องหน้ากันไม่เลิกเมื่อประตูเปิดออกทั้งสองจึงรีบเข้าไปหาเจ้าของบ้าน แต่แพนธารินไม่มีอารมณ์อยากจะเจอหน้าใคร
“ผมบอกคุณกี่ครั้งแล้วว่าเราจบแยกย้ายไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก”
“คุณจะทิ้งเพลงไม่ได้นะคะ”
“ไม่ใช่เมียทำไมจะทิ้งไม่ได้” เขายกเหล้าขึ้นแล้วหันไปเรียกหาภีมกับภาม ให้ทั้งสองคนมาเชิญแขกออกไปจากเพ้นท์เธอาส์ของเขา
“แพทฉันเป็นเพื่อนแกได้นะ”
“ฉันไม่อยากเจอหน้าใคร”
แพนธารินที่จิตใจเปลี่ยนไปจากเดิม เขาไม่พร้อมที่จะไปไหนไม่อยากเจอหน้าใคร เกิดอาการสับสนขั้นรุนแรงความรู้สึกตีกันจนเขาเจ็บจี้ดที่หัวใจ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนและผล็อยหลับไป
“มองฉันทำไม”
ภูวเรศที่เป็นคนยุยงเรื่องที่เพลงนาราลักลอบเล่นชู้กับแพนธาริน ส่งไปให้กับมิณไอริณก่อนหญิงสาวจะตกน้ำเกือบเอาชีวิตไม่รอด
“ไม่รู้นะว่าใครจะมีตราบาปติดตัวสักวันเวรกรรมจะตามไปหักคอคนเลวๆ”
“พูดเรื่องอะไร ไร้สาระ บาปกรรมอะไรฉันไม่รู้เรื่อง”
“ศีลข้อ 3 ก็แรงอยู่นะ”
ภูวเรศยิ้มร้ายเมื่อเพลงนาราเก็บอาการไม่อยู่ เด็กสมัยนี้น่ากว่าจริงๆ
“อย่ากินปูนร้อนท้องสิ”
เพลงนาราเข้ามานั่งในรถตอนนี้แพนธารินหลุดมือไปแล้ว จะทำอย่างไรเพราะหนี้ที่บ้านใกล้ถึงเวลาส่งดอกเบี้ยธนาคาร คิดว่าเขาจะหลงจนเก็บเธอไว้แต่เปล่าเลย เขาทำเหมือนขยะแขยงเธอเต็มทน
.
มิณไอริณกลับมาพักฟื้นที่บ้านต่อโชคดีที่อาการป่วยไม่รุนแรง ครั้งแรกที่เหยียบเข้ามาในบ้านของเจ้าของร่างเดิม ที่นี่คือเรือนหอของมิณไอริณและแพนธาริน บ้านที่ไม่เคยมีความสุขไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม
“คุณหนูของป้าแจ่มกลับมาแล้วไปทำท่าไหนถึงตกน้ำได้ค่ะ”
“หน้ามืดค่ะเลยพลัดตก”
“เข้ามานั่งก่อนนะคะป้าจะทำของโปรดของทาน”
“ขอบคุณนะคะ”
หญิงสาวส่งยิ้มให้คนอายุมากกว่านอกจากพ่อแม่ก็มีป้าสายนี่แหละที่เป็นห่วงมิณไอริณด้วยความจริงใจ เธอมองไปรอบๆ บ้านยังมีรูปภาพวันแต่งงานของเขาอยู่เลย
“คุณแพทย้ายออกไปแล้วค่ะป้าพยายาม…”
“เอาไปเผาทิ้ง”
“เอาอะไรคะ!” ป้าแจ่มตกใจถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของคุณหนูที่นางรักและเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก
“รูปที่มีผู้ชายคนนั้นเอาไปเผาทิ้งให้หมด ไอริณกับเขาจะหย่ากันแล้วค่ะ”
“คุณหนูของป้าดีใจจังเลยที่คุณหนูจะหลุดพ้นแล้ว” ป้าแจ่มจับมือของมิณไอริณ ดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ที่ได้ยินเรื่องหย่าจากปากของหญิงสาว
“ของทุกอย่างที่เป็นของเขาเอาไปบริจาคให้คนไร้บ้านด้วยนะคะ เก็บไว้ไม่มีประโยชน์” มิณไอริณคนเดิมไม่มีอีกแล้ว เธอจะลุกขึ้นมาสู้เพื่อมิณไอริณ
“อุ้ย ขอโทษค่ะเนมไม่ได้ตั้งใจทำน้ำหก” คุณหนูของบ้านน่ากลัวมากอารมณ์แปรปรวน เอาแต่ใจไม่มีใครอยากรับใช้เพราะกลัว
“คุณหนูอย่าด่าเด็กมันเลยนะคะ”
“ไม่เป็นไรไอริณขึ้นไปพักก่อนนะคะ” คิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมามิณไอริณร้ายไม่ต่างจากแพนธาริน ถึงอยู่ด้วยกันได้ คิดถึงอนาคตตัวเองทีไรต้องเครียดเพราะหนทางมืดมนไปหมด
“เอายังไงกับชีวิตดีนะ”
หญิงสาวทิ้งตัวนอนกลางเตียงกว้างพร้อมกับหยิบภาพถ่ายของมิณไอริณมาดู หญิงสาวสวยดูดีมีชาติตระกูลแต่ทำไมถึงฝังใจรักคนไร้หัวใจแบบนั้น แล้วทำไมแพนธารินถึงดูเกลียดมิณไอริณขนาดนั้น
“ตอนนี้มีเงินแล้วอะไรคงจะง่ายขึ้น ต้องตามหาคนร้ายตัวจริงให้เจอเสียก่อน”
หญิงสาวภาวะนาให้เจ้าของร่างเดิมช่วยคุ้มครองและช่วยตามหาคนร้ายให้เจอ เพื่อวิญญาณจะได้ไปเกิดใหม่ไม่ต้องทรมานอีกต่อไป
เหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้หญิงสาวสงสารเจ้าของร่างเดิมที่ต้องอยู่กับคนใจร้ายแบบเขา แถมยังถูกนอกใจ เธอเป็นแค่วิญญาณที่เข้ามาขออาศัยร่างมิณไอริณอยู่เท่านั้น ตาทว่าก็ทำใจไม่ได้เพราะวังวนเรื่องราวแย่ๆ ที่ร่างเดิมเจอมา ไม่ว่าจากใครก็คือทุกคนใจร้ายกับหญิงสาวหมด “ไปสู่สุคติส่วนฉันในร่างนี้ จะเปลี่ยนแปลง จะไม่ให้ใครมาตราหน้าคุณว่าผู้หญิงร้ายกาจ” จะต้องเข้มแข็งอดทนและไม่ยอมแพ้ ถึงแม้จะกลัวแพนธารินก็ตามแต่ต้องทำใจดีสู้เสือ หากเธอแสดงออกไปว่ากลัวเขาชายหนุ่มอาจยิ่งได้ใจ วันนี้คุณหญิงอรอรกับคุณติณภพเดินทางมาที่บ้านของคุณแม่ของแพนธารินเพื่อพูดเรื่องกันเรื่องหย่าของมิณไอริณ ซึ่งเป็นความประสงค์ของเด็กทั้งสองคน “หนูไอริณคิดดีแล้วเหรอจ๊ะแม่ว่าหนูลองคิดดูอีกครั้งไหม” ปอไหมไม่อยากให้ทั้งสองคนหย่ากัน คนอย่างแพนธารินดูเหมาะสมกับมิณไอริณมาก “อันนี้เป็นความประสงค์ของคุณแพทค่ะ ไอริณไม่ขัดส่วนเรื่องทรัพย์สินเราตกลงกันเรียบร้อยแล้วค่ะ วันนี้จึงนัดมาพูดคุยและเซ็นใบหย่ากันเลยค่ะ” “ทำไมดูรีบร้อนจังเลย” พิธานประมุขของบ้านที่นั่งเงียบมานานเอ่ยขึ้น แต่ไม่อยากให้มิณไอริณเจ็บ
ผ่านมาสองวันดูเหมือนชีวิตของหญิงสาวจะสงบขึ้น เพราะแพนธารินไปดูงานที่ต่างประเทศตั้งแต่วันที่เขาย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านของเธอ มิณไอริณคนก่อนเป็นคนชอบเก็บตัวและหึงหวงแพนธารินจนขาดสติ หญิงสาวจึงคิดเปลี่ยนแปลงตัวเองกลายเป็นคนมีสติในการใช้ชีวิตมากขึ้น อะไรที่ทำให้ชีวิตแย่ลงต้องตัดมันทิ้งไป มิณไอริณเดินเข้ามาในร้านอาหารหรูวันนี้เธอมีนัดทานข้าวกับพี่หมอ เขาหล่อดูดีและตรงสเปคเธอทุกอย่าง แต่กลับไม่ตรงใจกับเจ้าของร่าง “รอนานไหมคะ รถติดไปหน่อยค่ะ” “มะ…ไม่ครับ” คัมภีร์มองหญิงสาวไม่วางตาวันนี้มิณไอริณแต่งตัวน่ารักมาก แตกต่างจากเมื่อก่อนที่ชอบแต่งตัวเปรี้ยวจี้ด พอมาวันนี้ทำให้เขาละสายตาจากหญิงสาวไม่ได้เลย “พี่หมอคะ…พี่หมอ!” “คะ ครับอะไรนะ” “เหม่ออะไรคะ ไอริณคิดว่าตกหลุมรักไอริณเสียอีก” เธอแซวเขาเล่นคิดว่าสุดท้ายแล้วพี่หมอคงเปลี่ยนใจไปรักคนอื่นแล้ว “วันนี้ไอริณสวยมากดูเปลี่ยนไปเยอะจนเหมือนไม่ใช่คนเดิม” เขารู้สึกได้ว่าหญิงสาวเปลี่ยนไป อาจจะเพราะถูกทำร้ายจิตใจจนชิน ครั้งนี้จึงกลับมารักตัวเองได้แล้ว “ยังไงคะ” “แววตาดูเข้มแข็งม
ย้อนกลับไปก่อนวันที่ทั้งสองจะแต่งงานกันมิณไอริณเห็นแพนธารินเลือกซื้อของขวัญให้ผู้หญิงคนอื่น นึกอิจฉาที่เขาให้ความสำคัญกับทุกคนยกเว้นตัวเอง หญิงสาวพยายามทำตัวน่ารักเวลาที่อยู่ต่อหน้าเขา แต่เขาไม่แม้แต่จะชายตามองหญิงสาวเป็นแค่ลูกสาวของเพื่อนแม่ของเขา ถึงได้อยู่ใกล้ชิดกันเขาบอกว่ามิณไอริณยังเด็กยังไม่รู้จักความรักดีพอ เขาควงผู้หญิงคนอื่นจนมีข่าวโด่งดัง จนวันที่มิณไอริณเดินเข้าไปสารภาพรักเขาในวันคล้ายวันเกิดของแพนธารินแต่ถูกเขาปฏิเสธ และต่อว่าให้เธอกลับไปตั้งใจเรียน มิณไอริณที่กลัวเสียเขาไปจึงตามกำจัดผู้หญิงทุกคนที่เขาควง และเรื่องมันบานปลายเมื่อผู้หญิงที่เขารักจากไป ทำให้เขาเกลียดมิณไอริณและต่อว่าหญิงสาวสารพัด หญิงสาวที่ไม่อาจเสียเขาไปได้จึงอ้อนวอนขอให้พ่อกับแม่ช่วยพูดกับแพนธาริน แต่เขากลับยิ่งรังเกียจเธอไปกันใหญ่ วันเปิดตัวธุรกิจใหม่ของแพนธารินหญิงสาวจึงแอบลอบวางยานอนหลับ และจ้างให้คนพาเขาขึ้นไปส่งที่ห้องนอน จัดฉากว่าทั้งสองได้เสียกัน หญิงสาวเป็นคนส่งข้อความไปหาพ่อกับแม่ให้พวกท่านมาเจอสภาพของทั้งสองคน จนแพนธารินยอมแต่งงานกับมิณไอริณตอนที่ห
มิณไอริณเริ่มวางระยะห่างและวางแผนออกไปจากชีวิตของแพนธาริน พยายามคิดหาหนทางที่เขาจะยอมให้ง่าย หากมีการฟ้องร้องกันแน่นอนว่าทั้งสองครอบครัวมองหน้ากันไม่ติดแน่ เขาเริ่มตามติดชีวิตเธอมากขึ้นอันนี้เรียกว่าน่าจะจับผิดเธอมากกว่า ไม่ว่าเธอจะออกไปไหนเขาจะคอยส่งคนตามตลอด “ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะเป็นถึงขนาดนี้” เทวัญมองลูกน้องของแพนธารินที่เดินไม่ไกลจากพวกเขา คงกลัวเสียหน้าเลยต้องทำเป็นหวงก้าง “เข้าไปนั่งข้างในดีกว่าค่ะ” เธอไม่สนใจและไม่แคร์ใคร อยากทำอะไรก็เชิญ วันนี้ทั้งสองนัดกันออกมาคุยเรื่องของมิณไอริณ แต่ดูเหมือนงานจะไม่คืบหน้าเท่าไร เธอเองก็ปลีกตัวไปไหนไม่ได้เลย “มีใบไม้ติดผมพี่หยิบออกให้” เทวัญโน้มตัวมาเล็กน้อยหยิบเศษใบไม้ออกจากศีรษะของหญิงสาว เป็นภาพที่เหมือนเทวัญกำลังจูบหญิงสาว แต่ความจริงคือใบหน้าอยู่ห่างกันมาก “ลุกกลับมาเมื่อไหร่พี่จะพามาแนะนำให้รู้จัก” “ลุก?” ลุกไหนอีกทำไมในเซลล์สมองถึงไม่เคยรู้จักหรือจำไม่ได้ “แฟนพี่เอง” ที่จริงเทวัญแค่ช่วยเหลือเธอ เขาเป็นพวกรักไม้ป่าเดียวกันเหมือนกัน แต่ไม่แสดงออกและก็ห่วงใยมิณไอริณที่เป็
หญิงสาวยังคงให้เทวัญตามหาหลักฐานเพื่อเอาผิดคนที่คิดฆ่ามิณไอริณ รวมถึงหลักฐานต่างๆ ให้การฟ้องหย่าแพนธารินเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียอะไรเลย และจะให้เขาตายทั้งเป็นให้สมกับความเจ็บปวดของเจ้าของร่างเดิม “ต้องมีสักวันที่เรื่องแดงขึ้นมาพี่เทวัญดูแลตัวเองดีๆ นะคะไอริณเป็นห่วง...แค่นี้ก่อนนะคะ” สายตามองไปเห็นแพนธารินกำลังเดินมาทางนี้พอดี “จะรีบวางสายไปจากชู้ทำไม?” เขากอดอกมองหญิงสาว ผู้ชายคนอื่นเดินเข้าออกบ้านเหมือนเป็นบ้านตัวเอง มิณไอริณไม่เกรงใจเขาสักนิด “มีอะไร” “วันนี้คุณพ่อกับคุณแม่นัดทานข้าวให้ชวนเธอไปด้วย” ความจริงคือเขานัดพ่อแม่เองต่างหากแค่เอาท่านมาอ้าง “ฉะ...” “ไอริณเธอต้องแทนตัวเองว่าไอริณ...ทำไมทำตัวห่างเหินกับฉัน?” หญิงสาวจ้องหน้าเขาผู้ชายสมัยนี้แปลกทำร้ายจิตใจผู้หญิงสารพัดความเลว ผู้หญิงอดทนหนึ่งร้อยครั้งพอครั้งต่อไปทนไม่ไหวหันกลับมารักตัวเอง กลายเป็นคนผิดทันทีแต่ผู้ชายไม่มองตัวเองเลย “ฉันหมดรักคุณไปตั้งนานแล้ว” “ไม่ต้องย้ำ!” ขยี้อยู่นั่นแหละรู้ว่าหมดรัก ไม่เคยดูไร้ค่าขนาดนี้มาก่อน ตอนแต่งก็บังคับแต่งพอตอนเลิกย
เพลงนารานั่งไม่ติดตั้งแต่ไปเยี่ยมมิณไอริณที่โรงพยาบาลในวันนั้น ไม่กล้าไปสู้หน้าหญิงสาวอีกเลยและยังถูกแพนธารินห้ามเข้าใกล้ เธอทำมาถึงขนาดนี้จะถอยหลังกลับไม่ได้“คิดจะทิ้งฉันไปง่ายๆ เหรอไม่มีทาง” เธอร้อนใจราวกับคนบ้าไม่ว่าจะขู่เขาแค่ไหนแต่แพนธารินกลับไม่ไยดี ที่เขาไม่ทิ้งเธอเพราะมีไพ่ลับอยู่ในมือ“ถ้าคุณไม่ยอมติดต่อเพลงมา เพลงจะแฉคุณให้หมดเลยว่าได้เพลงแล้วไม่สนใจเอาให้อายคนทั้งประเทศไปเลย”เธอนั่งรอข้อความตอบกลับแต่เขากลับไม่ยอมตอบ หญิงสาวนั่งมือไม้สั่นกัดเล็บตัวเองกำลังคิดว่าต้องทำอย่างไร คนอย่างแพนธารินถึงจะสยบแทบเท้าเธอได้“อร้ายยย เพราะอีไอริณคนเดียวเลยทำไมแกไม่ตายไปเลยฉันเกลียดแก!!” เพลงนาราปาแก้วน้ำจนไปกระแทกกับรูปของเธอกับมิณไอริณจนร่วงลงมาแตกรู้ความสัมพันธ์ของเธอกับแพนธารินแต่หญิงสาวกลับเงียบไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่นไม่ใช่มิณไอริณปกติจะตามจิกตามกัดผู้หญิงของเขา แต่ตอนนี้แปลกไปเธอกอดรูปเขาไว้พร่ำเพ้อบอกรักคิดถึง แพนธารินคือผู้ชายที่เธอรักที่สุดในชีวิต ไม่มีผู้ชายคนไหนแทนที่เขาได้เลยสักคน.บ้านของพ่อแม่แพนธาริน มิณไอริณนั่งตัวเกร็งความสัมพันธ์ไม่เหมือนเดิม แต่คนบ้านนี้กลับปั้นหน้า
มิณไอริณกับเทวัญนัดพบกันเพื่อถามความคืบหน้าของเรื่องที่หญิงสาวตกน้ำ แต่ป่านนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเจอคนร้าย“ไอริณศัตรูรอบด้านไม่รู้ไปขัดขาใคร”“ตอนนั้นก็มีแต่ไอ้แพทนะที่เกลียดไอริณ” เทวัญปักใจเชื่อว่ายังไงแพนธารินต้องเป็นร้าย“เขาจะกล้าทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอคะ”“ไม่แน่นะตอนนั้นมันบีบบังคับไอริณทุกทาง เรื่องที่มันจ้างคนไปข่มขืนเราก็เลวพอแล้ว เสียดายไม่มีหลักฐานเอาผิด”หญิงสาวคิดตามเรื่องนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจากแพนธาริน ที่เกลียดภรรยาตัวเองเข้าไส้ เขาใจร้ายถึงขั้นจ้างคนมาข่มขืนให้ตายทั้งเป็น เรื่องที่ผลักเธอตกน้ำก็คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะกำจัดเธอ“ขอบคุณนะคะที่มาส่งไอริณ”“เบลท์น่าจะเสียพี่ปลดให้” เทวัญโน้มตัวมาช่วยปลดเบลท์ หากใครผ่านเข้ามาคงเข้าใจผิดว่าทั้งสองกำลังจูบกัน แต่ทุกอย่างไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยแพนธารินเห็นเทวัญจูบแก้มของมิณไอริณ เขาจึงโมโหมากรีบเขาไปเปิดประตูรถแล้วลากหญิงสาวออกมา เขาด่าทอหญิงสาวที่ทำตัวไร้ค่า“อะไรของคุณ”“ร่านยังไม่หย่ากับฉันแต่ยอมให้มันจูบแล้วเหรอ ไปไหนมา ถึงกลับเอาป่านนี้!” เขาไม่คิดเลยว่าผู้หญิงที่บอกรักเขาเช้าเย็นจะเปลี่ยนไปจนเขาแทบไม่รู้จักเธอโกรธแต่ไม่ตอ
วันนี้แพนธารินยังขังมิณไอริณไม่ให้หนีไปไหน เขาใส่กุญแจล็อกข้างนอก มาสั่งแม่บ้านทำอาหารโปรดของหญิงสาวทั้งหมด แล้วเขาเอาไปเสิร์ฟเอง “มากินข้าวสิ” “คุณจะปล่อยฉันได้หรือยัง ฉันไม่ใช่นักโทษนะที่คุณจะขังฉันไว้” “แทนตัวเองแบบเดิมสิไอริณ” “ทำไมฉันต้องทำแบบเดิม” เธอไม่ใช่คนเดิมและไม่อยากทำอะไรเหมือนเดิม “เผื่อฉันอารมณ์ดีจะได้ปล่อยเธอไง” หญิงสาวมีมุมน่ารักไม่น้อย ทำไมเมื่อก่อนเขาถึงไม่สังเกต แววตาที่ซุกซนนั้นเขาเพิ่งจ้องดวงตาเธอครั้งแรก “ฉะ…ไอริณหิวแล้ว” ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงเห็นอาหารตรงหน้ามากมาย เธอหิวจึงนั่งทานอาหารเงียบโดยมีเข้านั่งเฝ้าไม่ห่าง แพนธารินจ้องมองมิณไอริณเขาพิจารณาใบหน้าดวงตาก็เป็นหญิงสาวคนเดิม ทำไมนิสัยถึงได้เปลี่ยนไปแบบชีวิตนี้ไม่เอาอะไรแล้ว “ไอริณอยากได้ยา” “ยา? เธอป่วยเหรอ” เขากำลังกดโทรหาแม่บ้านให้เอายามาให้ “ยาคุมฉุกเฉินไอริณต้องกินยา” เธอไม่ต้องการให้ลูกเกิดมา โดยพ่อแม่เกลียดขี้หน้ากันหากเขาเกิดมาเวลานี้ทุกอย่างต้องแย่ลง “เธอไม่อยากมีลูกกับฉันเหรอ!” ไม่รู้ต้องอึ้งอะไรก่อนดี ทั้งขอหย่าท
หลังจากที่น้องไบรท์กับน้องแบล็คได้เข้าเรียนอนุบาลแล้ว แพนธารินก็คิดแต่ว่าชีวิตช่วงกลางวันเขาจะดีขึ้น แต่กลับไม่เป็นแบบนั้นเพราะลูกชายของเขาดันไปก่อเรื่องที่โรงเรียนเอาไว้จนเขาถูกเรียกให้ไปรับทราบพฤติกรรมของลูกชายทั้งสอง“เสร็จหรือยังคะ” เสียงของมิณไอริณดังขึ้นหลังจากเธอนั่งรอแพนธารินกับลูกสาวมาได้สักพักแล้ว“เสร็จแล้วครับ อันนี้เอาให้คุณแม่ด้วยครับ” แพนธารินส่งหน้ากากอนามัยให้กับลูกสาวเพื่อให้เจ้าหนูเอาไปให้แม่“อะไรคะเนี่ย” คิ้วสวยขมวดเข้าหากันอย่างเป็นคำถาม เมื่อเห็นสิ่งที่สามีฝากลูกสาวเอามาให้เธอ“หน้ากากไงครับ”“เอามาทำอะไรคะ ไอริณไม่ได้เป็นไข้นะคะ” หญิงสาวเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจสามีของเธอ“พี่ไม่ได้บอกว่าไอริณเป็นไข้ แต่พี่ไม่ชอบเวลาคนอื่นมอง”“หึงเหรอคะ” มิณไอริณลุกจากเก้าอี้ตรงไปหาแพนธารินเธอจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มอย่างต้องการคำตอบ“ครับ หึง ไม่ชอบเลยเวลามีคนมอง”“ก็ไอริณสวยนิคะ”“ก็เพราะแบบนี้ไง พี่เลยไม่อยากให้เราไปไหน” แพนธารินหน้าตึงขึ้นมาทันที เวลาเขาเห็นใครมองมิณไอริณเขารู้สึกหงุดหงิดจนไม่อยากให้หญิงสาวออกไปไหน“ไม่แกล้งแล้ว เขาอยากมองก็มองไป แต่ไอริณไม่สนใจสักหน่อย น้องทิ
เช้าอันสดใสที่ใครหลายๆ คนต่างนับว่าเป็นการเริ่มต้นวันที่ดี แต่เหมือนจะไม่ใช่กับแพนธารินเขายังคงวนเวียนอยู่กับการเตรียมอาหารเช้าให้กับภรรยากับลูกชายฝาแฝดชายหนุ่มใช้เวลานานนับชั่วโมงในการเตรียมอาหารก่อนขึ้นไปดูภรรยาที่ยังคงนอนหลับอยู่ซึ่งตอนนั้นเองลูกชายของเขาทั้งสองคนกลับตื่น แพนธารินตรงเข้าไปอุ้มเด็กน้อยทั้งสองขึ้นแนบอกหวังเพียงว่าทั้งคู่จะไม่ร้อง“ชู่ว์ ไม่ร้องนะครับ เดี๋ยวพ่อพาลงไปเล่นข้างล่าง” แพนธารินเอ่ยเปล่า เขาอุ้มลูกชายฝาแฝดลงมาจากห้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับการหยอกล้ออย่างสนุกสนานชายหนุ่มทำหน้าที่เลี้ยงเด็กทั้งสองแทนผู้เป็นแม่ของพวกเขาอย่างมิณไอริณ เพราะเธอเพิ่งคลอดลูกมาได้เพียงแค่เดือนเศษ ร่างกายของหญิงสาวยังคงต้องพักผ่อนเพื่อฟื้นฟู“มาแล้ว ระวังให้ดี” เสียวหยอกล้อของพ่อลูกยังดังขึ้นเรื่อยๆ“ทำอะไรกันอยู่คะ” มิณไอริณที่แอบมองดูสามีเล่นกับลูกชายทั้งสองอย่างสนุกสนาน มาได้สักพักก็เอ่ยถาม “อ้าวไอริณมาตั้งแต่ตอนไหน” แพนธารินเดินไปประคองมิณไอริณมานั่งที่โซฟา ก่อนอุ้มลูกน้อยที่หญิงสาวอุ้มมาด้วยขึ้นแนบอก“มาทันเห็นคนโดนลูกแกล้ง” ใบหน้าสวยเอ่ยด้วยยิ้ม“งั้นเหรอครับ แล้วอยากโดน
แสงแดดส่องเข้ามาในห้องนอนแพนธารินพลิกตัวไปมาอย่างเกียจคร้าน แต่พอจะลุกแค่นั้นแหละ มีอะไรหนักๆ มาทับที่หน้าอกคิดว่าผีอำ “น้องแบล็คทำไมมาอยู่ตรงนี้ได้” เขาจับลูกชายวางลงข้างกาย “เย่นๆ” เด็ดน้อยพยายามปืนป่ายขึ้นมานั่งบนหน้าอกของผู้เป็นพ่ออีกครั้ง “อืมมม พักก่อนนะลูก” เล่นปลุกเขาตั้งแต่เช้าแล้วภรรยาเขาหายไปไหนตั้งแต่เช้า แพนธารินลุกขึ้นและอุ้มลูกลงไปตามหาภรรยา ในห้องโถงได้ยินเสียงแฝดพี่ร้องไห้เสียงดัง โดยมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังปลอบอยู่ “นายเป็นใคร! เข้ามาทำอะไรในบ้านฉัน” “เอ่อ!” ลุกกำลังจะตอบแต่คนถามไม่ยอมปล่อยโอกาสแถมยังต่อว่าเขา มิณไอริณกับเทวัญที่ได้ยินเสียงของแพนธารินจึงรีบเข้ามา “พี่แพทเสียงดังทำไมคะ? ลูกก็อยู่ด้วย” “มัน...เขาคนนี้คือใคร” ในสมองของเขาไม่เคยรู้จักหรือเคยเห็นหน้ามาก่อน แต่พอโดนดุจึงเงียบทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับสิ่งที่เกิดขึ้น “พี่ลุกแฟนพี่เทวัญค่ะ” แพนธารินจึงเงียบเพราะเหมือนว่ากำลังทำให้เมียโกรธมากขึ้น และเขาต้องเป็นฝ่ายพาตัวเองออกไปจากห้องโถงเพราะถูกเชิญออกไป “พี่แพทมีประชุมเช้านี่คะต
มิณไอริณนั่งมองลูกชายคนโตที่อยู่ในอ้อมแขนของหมอคัมภีร์ ส่วนอีกคนหลับอยู่ในรถเข็นเด็ก “คนนี้หน้าเหมือนไอริณมาก” เขาจ้องมองเด็กน้อยในอ้อมแขน ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหนสุดท้ายแล้วเขากับมิณไอริณก็เป็นได้แค่พี่น้อง “พี่หมอไม่คิดจะมีบ้างเหรอคะ” “พี่จะหาแม่ของลูกมาจากไหนบ้างานขนาดนี้” “มัวแต่ทำงานระวังจะแก่ก่อนนะคะ” เขาหล่อเขารวยหน้าที่การงานก็ดี สักวันต้องมีคนที่ดีเข้ามา พี่ไม่เคยคิดเรื่องนั้นถ้ามันใช่มันใช่ไปตั้งนานแล้ว” เหมือนที่เขาตามจีบหญิงสาว สุดท้ายแล้วความดีไม่ใช่ผลตอบแทนของความรัก “ไอริณต้องกลับแล้วค่ะพ่อเด็กๆ รออยู่” เธอกล่าวลาเขา พอเดินออกมาไม่ไกลก็เห็นแพนธารินนั่งรออยู่ พร้อมกับใบหน้าบูดบึ้ง “เบื่อทำไมต้องไม่ให้พี่ตามไปด้วย” ทำเหมือนแอบคบชู้ จะโกรธก็ไม่ได้เพราะตอนนี้เมียอยู่เหนือทุกอย่าง “ไม่ทำหน้างอแบบนั้นสิคะฝากลูกหน่อยนะคะ ไอริณจะไปเดินเล่น” เธอส่งลูกให้แพนธารินรีบเดินขึ้นรถอีกคันไม่อยากให้เขาหอบลูกตามเธอไปชอปปิ้งด้วย จากมาเฟียสู่พ่อลูกอ่อนอีกมืออุ้มลูก อีกมือเข็นรถการเลี้ยงลูกมันเหนื่อยกว่าทำงานหลายเท่า
แพนธารินขอเข้าไปดูหน้าลูกด้วย ในห้องคลอดหญิงสาวก็คิดว่า เจ้าของร่างเดิมคงต้องการแบบนี้ชายหนุ่มร้องไห้เมื่อเห็นหน้าลูกเขานั่งเฝ้าลูกทั้งสองกำลังหลับปุ๋ยอยู่บนรถเข็นเปลเด็ก ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ จะอุ้มท้องลูกเขาถึงสองคน“แพนธวัฒน์ – แพนเมธา ชื่อเล่นน้องอะไรดีนะ” เขานั่งครุ่นคิด“ไบรท์กับแบล็ค” เธอแอบตั้งชื่อลูกไว้แล้วมีแสงสว่างก็ต้องมีความมืดมน และเธอชอบชื่อนี้มาก“ชื่อเพราะดี” เขาเอามือจิ้มแก้มของลูกทำให้เด็กน้อยร้องไห้เสียงดัง จนมิณไอริณต้องต่อว่าเขาที่ไปแกล้งลูกเป็นครั้งแรกที่เธอให้นมลูกซึ่งเด็กน้อยดูดจนเธอรู้สึกเจ็บ พออีกคนดื่มนมจนอิ่มอีกคนร้องตาม แค่คนเดียวก็ว่าหนักแล้วตอนนี้มีถึงสองคนคืนนั้นมิณไอริณฝัน เจ้าของร่างเดิมมาขอร้อง ว่าให้เธอคืนดีกับแพนธาริน เธอจะไปเกิดแล้วและอวยพรให้หญิงสาวมีความสุขแพนธารินนอนกระสับกระส่ายไปมาในความฝันของเขา เห็นผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนมิณไอริณมายืนร้องไห้ ซึ่งเขาจำได้ว่าคนนี้คือมิณไอริณตัวจริง“ไอริณมาลาพี่แพทค่ะ ชาตินี้เราจากกันแล้วรักผู้หญิงคนนั้นให้มากๆ นะคะ”“ไอริณ” น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาหาเสียงตัวเองไม่เจอ นี่เป็นครั้งแรกที่ในใจของเขาไม่ได้
ภีมกับภามนั่งเฝ้าเจ้านายอยู่เกือบสามชั่วโมง ตั้งแต่ทั้งสองทะเลาะกันเจ้านายของพวกเขากลายเป็นคนเงียบขรึม ตามง้อภรรยาแต่เหมือนนายหญิงจะไม่ยอมยกโทษให้ง่ายๆ แพนธารินนั่งฟังคุณครูสอนอย่างตั้งอกตั้งใจ วันนี้เขาเข้าคอร์สเรียนการเลี้ยงลูก ทั้งสองเรียนมีเขาที่เป็นผู้ชายเพียงคนเดียว ชวนมิณไอริณมาแล้วแต่รายนั้นยังโกรธเขาอยู่ เขารู้สึกผิดที่ทำให้หญิงสาวเกือบเสียลูกไป จะโกรธเขาก็ไม่แปลก “คุณแพทฟังอีกรอบนะคะเวลาลูกอาเจียนเราต้องลูบหลังเบาๆ แบบนี้ค่ะ” คุณครูสาธิตให้เขาดูก่อน และลองให้เขาทำ “แบบนี้เหรอครับ” เขาทำตามที่คุณครูสอนทุกอย่าง“ใช่ค่ะเบาๆ นะคะ” ขนาดตุ๊กตายังทำแรงขนาดนี้ ถ้าเป็นคนจริงๆ น่าจะเหลือแค่ชื่อแพนธารินค่อยๆ ลูบหลังตุ๊กตาเด็กแต่เขาน่าจะลงแรงไปเยอะ ลูบไปลูบมาหัวตุ๊กตาหลุดร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้น ทำให้ทุกคนหัวเราะเสียงดัง“เบาๆ สิคะ”“ผมขอเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นดีกว่าครับ”คุณครูจึงพามาสอนเรื่องการอาบน้ำให้เด็กแรกเกิด แพนธารินทำตามทุกอย่างเช่นเดิม แต่เหมือนจะหนักมืออีกเพราะตุ๊กตาเด็กคว่ำหน้าจมน้ำไปต่อหน้าต่อหน้า“กูไม่เรียนแล้ว” เขาเดินออกมาทันทีพร้อมใบหน้าที่
มิณไอริณนอนอยู่บนเตียงกว้างเธออ่านข่าวของเพลงนารากับภูวเรศ คำสารภาพของชายหนุ่มทำให้มิณไอริณต้องช็อกอีกรอบ เรื่องที่เกิดขึ้นกับเพลงนาราเขาเป็นคนทำทั้งหมด และเป็นคนสั่งเก็บเพลงนารา “เวรกรรมโรคจิตมาก” ถ้าวันนั้นพวกมันทำกับมิณไอริณสำเร็จไม่อยากจะคิดเลย ว่าต่อจากนั้นชีวิตของหญิงสาวจะเป็นอย่างไรต่อ “ว้าย...คุณเข้ามาทำอะไร!” เธอมองหน้าคนที่บุกเข้ามาในห้องนอน “คืนนั้นบอกจะนอนกับฉันแต่ทำไมล็อกห้องหนีล่ะ” แต่งงานกันมาตั้งนานเพิ่งได้ร่วมเตียงกันแค่ไม่กี่ครั้ง คืนนั้นก็ชิงหนีเขาก่อน เจ้าเล่ห์เหลือคณาปล่อยให้เขาแห้งเหี่ยว “ไอริณแค่พูดลอยๆ” “คืนนี้ต้องเข้าไปทักทายลูก” ทำเลื่อนมือเข้าไปใต้ร่มผ้า “พอ...หยุด! ผู้ชายสำส่อนแบบคุณควรอยู่คนเดียว” “แรงมาก จะบอกให้นะทุกอย่างแค่ละครฉากหนึ่ง” “อะไร!” งงละครอะไร “ที่ผ่านมาฉันเคยนอนกับใครเสียที่ไหนกันเล่า” เขาไม่ใช่คนชั่วมั่วไม่เลิกเสียหน่อยไม่มีนิสัยแบบนั้น คนไม่รักษาศีลข้อความชีวิตไม่ตายดี “คุณแพท” ที่ผ่านมาเขาหลอกมิณไอริณมาตลอด “ฉันจ้างพวกหล่อนมาเล่นละครเพ
แพนธารินได้หลักฐานจากสารวัตร และทีมสืบสวน จนได้รู้ผู้บงการตัดสายเบรกของเขา ภูวเรศนั่นเองเขามาก แต่เทวัญก็ปลอบใจ “นายไม่รู้จริงเหรอว่าไอ้ภูวเรศมันแอบรักนาย” “หมายถึงอะไร?” แพนธารินทำหน้างุนงงแอบรักแบบไหน “มันเป็นเกย์และหวังจะเอานายไง” เรื่องที่เพื่อนเกย์เขารับได้แต่เรื่องที่จะฟันเขา คิดดูแล้วยังมองหาความเป็นจริงไม่เจอเพราะภูวเรศไม่เคยแสดงออกเลย “แต่ไอ้ภู...” “นายดูคลิปนี้ซะ” แพนธารินเห็นคลิปที่ภูวเรศอมกระสวย เขาถึงกับรับไม่ได้ เขากับภูวเรศมันมีอะไรที่มากกว่านั้น ทั้งเปลือยกาย อาบน้ำด้วยกัน เพราะเรียนกันมาตั้งแต่อนุบาล “อย่าไปหามันเลยมันคงไม่กล้าสู้หน้าปล่อยให้ตำรวจจัดการเถอะ เรื่องของคุณนุนีฟังคลิปเอาแล้วกัน” เทวัญสะเทือนใจจนไม่สามารถพูดออกมาได้ ภูวเรศไม่ยอมให้แพนธารินมาเยี่ยม เพราะไม่กล้าสู้หน้า แต่คำสารภาพก็ทำให้แพนธารินเจ็บปวดคือ รักมาก และเมื่อไม่ได้ครอบครองก็อยากฆ่าให้ตาย “เรื่องของนุนีทั้งหมดเป็นกูทำเอง” ภูวเรศอัดคลิปสารภาพเรื่องราวทั้งหมด แพนธารินมือไม้สั่นเพราะภูวเรศเล่าตั้งแต่ครั้งแรกที่รู้
เสียงเคาะประตูดังขึ้นถี่ๆ ตามด้วยเสียงเข้มของเจ้าหน้าที่ตำรวจ“คุณเพลงนาราเปิดประตูเดี๋ยวนี้ นี่คือหมายจับของคุณในข้อหาพยายามฆ่า!”ภายในคอนโดหรูกลับเต็มไปด้วยความตึงเครียดเพลง นารานั่งนิ่งอยู่กลางห้อง ดวงตาเบิกโพลง ริมฝีปากแห้งผาก เธอรู้ดีว่าวันนี้ต้องมาถึง แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้“ไม่... ไม่จริง” เธอพึมพำกับตัวเอง น้ำเสียงสั่นเครือเสียงเคาะประตูดังขึ้นแรงกว่าเดิม ก่อนที่ประตูจะถูกพังเข้ามา ตำรวจหลายนายกรูกันเข้ามาภายในห้องนอน พร้อมกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่เธอรู้จักดี เขายืนอยู่ด้านหลังตำรวจ สีหน้าเย็นชา ดวงตาเต็มไปด้วยความสะใจ“มอบตัวซะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงปกติ แต่กลับเป็นเหมือนเสียงฟ้าผ่ากลางใจเธอสั่นไปทั้งตัว ก่อนจะกรีดร้องสุดเสียง“ไม่! พวกแกโกหก! ฉันไม่ได้ทำ! ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น!!”เธอถอยกรูดไปจนหลังชนกำแพง มือทั้งสองขยุ้มผมตัวเองราวกับอยากฉีกศีรษะให้ขาดจากร่าง ดวงตาวาวโรจน์ไปด้วยความบ้าคลั่ง“เขาใส่ร้ายฉัน! พวกแกมันโกหก!!”เธอกรีดร้องลั่น ก่อนจะคว้าข้าวของขว้างปาใส่ตำรวจที่กำลังเข้ามาประชิดตัว ขวดแก้วแตกกระจายบนพื้น โต๊ะล้มระเนระนาด แต่ไม่มีอะไรสามารถหยุดเจ้าหน้าที่ที่ก