ส่วนนินิวหลังจากขุนเขามาส่งเธอที่คอนโด ก็ต้องพบเจออุปสรรคสำคัญคือมีนักข่าวมารออยู่ที่นี่จำนวนมากพอ ๆ กับที่โรงแรมก่อนหน้านี้ “เอายังไงดี นักข่าวเยอะขนาดนี้” “ฉันขอโทรหาพี่แจงก่อนนะคะ” เธอหยิบโทรศัพท์จะกดโทรออกหาผู้จัดการส่วนตัว แต่ทว่าเห็นสายไม่ได้รับกว่าสิบสายของออสติน ก็ต้องถอนหายใจออกมา ขนาดรู้อยู่เต็มอกว่าเธอไม่รับสายเขาแน่นอน แต่ก็ยังโทรเข้ามาเหมือนคนบ้า เขาก็น่าจะรู้นิสัยของเธอว่าเป็นยังไง ในจังหวะแบบนี้ จะให้เธอคุยอะไรกับเขา อีกทั้งทุกอย่างที่เป็นข่าวมันคือเรื่องจริงทั้งหมด ถ้าให้เธอเดาคงเป็นเมื่อวานที่เขาลากตัวโมนาออกไปคุยกันที่ไหนสักแห่ง คงมีนักข่าวได้ยินเรื่องทั้งหมด เพราะเช้าวันนี้ก็เป็นข่าวใหญ่ทันที ถึงจะมีแค่อักษรย่อ ก็แทบจะเฉลยทุกอย่างให้ทุกคนรู้อยู่แล้ว ที่เป็นอักษรย่อก็แค่ต้องการหลีกเลี่ยงเรื่องของการฟ้องร้องของนักข่าวแค่นั้นเอง “ฮัลโหลพี่แจง ตอนนี้ฉันอยู่ลานจอดรถของคอนโด มีนักข่าวที่นี่เต็มไปหมดเลยค่ะ” (เธอลงไปไม่ได้นะ ยิ่งนักข่าวเห็นว่าเธอมากับขุนเขา เขาจะเอาไปเขียนข่าวขายเพิ่มได้อีก ทางที่ดีไปหาโรงแรมนอนก่อน พี่จะให้อัญชันไปรับ พี่อยากให้เธออยู่กับอัญชันมากกว
“ไม่ต้องไปเครียดกับข่าวมากหรอก ตอนนี้ทีมงานคงกำลังประชุมกันอยู่ เดี๋ยวคงมีการแถลงข่าวเกิดขึ้น อีกไม่นานคนก็จะลืมไปเอง” “นิวคงไม่เหมาะกับวงการนี้แล้วค่ะ ละครยังไม่ทันออนแอร์เลย ก็ต้องประกาศเลื่อนไปไม่มีกำหนดแบบนี้ นิวว่าคงไม่ได้ออนแล้วล่ะคะ” “เขาแค่เลื่อนให้เรื่องเงียบแค่นั้นเอง พี่ว่าไม่ถึงเดือนหรอก เดี๋ยวทุกอย่างก็กลับมาปกติ เราก็รู้ข่าวแบบนี้ไม่นานคนก็เลิกสนใจไปเอง” จะบอกว่าเขาพูดปลอบใจเธอก็ไม่ผิดนัก ทั้งที่จริงเขาก็อดคิดแบบเธอไม่ได้ว่าการประกาศเลื่อนไม่มีกำหนด ก็แค่เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน แต่ข่าวทุกอย่างมีมูลความจริงขนาดนี้ คงเป็นเรื่องยากที่ละครจะได้กลับมาฉาย เพราะข่าวที่เกิดขึ้น ค่อนข้างเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จากที่อ่านคอมเม้นท์ เขาแทบจะหาคอมเม้นท์ดี ๆ ไม่เจอเลยสักคอมเม้นท์ ส่วนใหญ่เป็นคอมเม้นท์ที่วิพากษ์วิจารณ์ข่าวที่เกิดขึ้นค่อนข้างจะรุนแรงทั้งนั้น ตอนนี้เขาก็กังวลใจอยู่ว่าจะทำให้คนตัวเล็กข้าง ๆ เผลอเข้าไปอ่านจนกระทบกระเทือนจิตใจเหมือนเรื่องเมื่อหกเดือนก่อน ออสตินนั่งทำสีหน้าเคร่งเครียด หลังจากการประชุมหารือด่วนกับผู้จัดและทีมงานของกองล
(แกคิดว่าฉันทำได้แค่นี้เหรอ) "ผมก็บอกอยู่นี่ไง ว่าผมจะลองดูกับพ่อสักตั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ผมที่จะออกจากชีวิตพ่อ แต่ผมจะพาแม่ออกมาจากชีวิตผู้ชายอย่างพ่อด้วย" พูดจบออสตินก็กดวางสายทันที ไม่ให้โอกาสคนเป็นพ่อได้พูดอะไรออกมาอีก ดูเหมือนแผนการที่จะเปิดโปงโมนาคงต้องเกิดขึ้นก่อนกำหนดที่เขาวางเอาไว้ในตอนแรก เขาควรจะฉวยโอกาสจังหวะนี้ ช่วงที่ทุกคนกำลังให้ความสนใจข่าว เปิดโปงพฤติกรรมกรรมของนางเอกชื่อดังที่ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเธอคือนางเอกผู้แสนซื่อ ไฟล์วีดีโอที่เขาเพิ่งได้รับจากเพื่อนสนิทที่เขาไว้ใจ กำลังฉายภาพพฤติกรรมชู้สาวของโมนาที่เขาเป็นคนตามสืบมาได้ทั้งหมด ใครจะหาว่าเขาใจร้ายก็ช่างที่เขาเลือกทำแบบนี้กับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง แต่เพื่อผู้หญิงที่เขารักอีกคนเขายอมทำได้ทุกอย่าง ขอแค่ให้ทุกคนเข้าใจนินิวก็เพียงพอสำหรับเขาแล้ว ส่วนนินิวตอนนี้กำลังถูกอัญชันจับแปลงกายไม่ให้เหลือคราบนักแสดงชื่อดัง เพราะทางทีมงานขึ้นมาบอกว่าตอนนี้นักข่าวมารอทำข่าวกันเต็มที่หน้าโรมแรม รวมถึงบริเวณโดยรอบของโรงแรม "มึงยังไม่รับโทรศัพท์ออสตินอีกเหรอว่ะ"อัญชันเอ่ยถามออกมา เมื่อเห็นสายเรียกเข้าจากออสติน
ข่าววงในบอกมาว่าเมื่อวานมีการเถียงกันในกองถ่ายละครระหว่างนางเอกชื่อดังกับนางร้ายหน้าสวย ดูเหมือนการเกาเหลากันยังไม่หายไป ที่เห็นยิ้มแย้มและยืนข้างกันตอนวันแถลงข่าวเปิดกล้องละคร จะเป็นเพียงฉากหน้าที่ทำให้ทุกคนตายใจเพียงเท่านั้น เพราะในกองละครทั้งคู่ไม่เคยพูดคุยกันหรือแม้แต่มองหน้ากันเลยด้วยซ้ำและยิ่งไปกว่านั้นคือครั้งนี้ตัวละครสำคัญอย่างนักธุรกิจหน้าตาดี ดูเหมือนจะเป็นปัจจัยแตกหักชนิดรุนแรงชนิดที่ว่าชาตินี้คงไม่มีวันเผาผีกันได้อีก สืบเนื่องมาจากมีข่าวออกมาว่านางร้ายหน้าสวยกับนักธุรกิจหน้าตาดีกำลังจะเปิดตัวหมั้นกันในวันที่ละครออนแอร์ อาทิตย์หน้านี้ ว้าวววว อันนี้ยังไม่ยืนยันเพราะทางเราดันรู้เสียก่อนจะมีข่าวออกมา ต้องบอกว่าเป็นเอ็กคลูซีฟชนิดไม่ใช่แค่ขอบเตียง เพราะว่าเราทำข่าวกันอยู่บนเตียงเลยด้วยซ้ำ แต่ ๆ ๆ ๆ ยังไม่แค่นั้น ที่บอกว่าน่าสนใจ ยังมีอะไรเด็ดกว่านี้ มีเรื่องที่ทำให้ทุกคนอึ้งยิ่งกว่านี้คือตอนนี้นักธุรกิจหนุ่มหน้าตาดีกำลังแอบแซ่บอยู่กับนางร้ายหน้าสวย และดูเหมือนทั้งสองฝ่ายจะมีใจให้กัน เอาล่ะสิ ช็อกไปตาม ๆ กัน อย่าเพิ่งค่ะ อย่าเพิ่งช็อก เรื่องราวยังไม่จบแค่นั้น เมื่อทางเราดัน
"นี่พี่บอกให้ผู้จัดการรู้เรื่องของเราด้วยเหรอคะ" อัญชันเอ่ยถามออกมาทันทีที่ปิดประตู เมื่อรูมเซอร์วิสออกไปแล้ว "แล้วทำไมบอกไม่ได้"ขุนเขาเลิกคิ้วถามด้วยท่าทางปกติ แต่ทว่าอัญชันมองว่าเขากำลังกวนประสาทเธอมากกว่า "แล้วแบบนี้พี่เขาจะมองฉันยังไงคะ พี่ไม่อายบ้างเหรอคะ ที่ทำแบบนี้" "ทำไมต้องอาย อีกอย่างผู้จัดการส่วนตัวของฉันเขาไม่ใช่คนปากโป้ง เขาไม่เอาไปบอกใครหรอก" "เหอะ นี่แสดงว่าพี่เขารู้ละเอียดเลยสินะ" เธอถึงว่าวันนี้ผู้จัดการส่วนตัวของเขามองเธอด้วยแววตาแปลกไปจากเดิม ทั้งที่เมื่อก่อนเธอแทบไม่อยู่ในสายตาของพี่เขาเลยด้วยซ้ำ คงจะกำลังดูถูกและสมเพชเธออยู่ในใจ ที่กล้าทำเรื่องแบบนี้ "เรื่องปกติไหมว่ะ เธอจะอายอะไรนักหนา" “ฉันไม่ได้หน้าหนาอย่างพี่นะ ที่จะได้ไม่อายเรื่องแบบนี้” “เธอแอบแซ่บกับพระเอกละครชื่อดังเลยนะเว้ย สมมติข่าวออกไปผู้หญิงอิจฉาเธอทั้งประเทศเลยนะ” อัญชันกรอกตามองบนกับความหลงตัวเองของเขา ทำให้ขุนเขาเผลอยิ้มกับท่าทางแบบนั้นของเธอ ก่อนจะรีบหุบยิ้มทันที เมื่อรู้ตัวว่าเผลอรู้สึกอะไรแปลก ๆ ขึ้นมาอีกแล้ว ที่สำคัญคือหัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะขึ้นมาทันที เช้าต่อมา Rrrrrr Rrrrrr ในข
“มานี่สิ” มือหนาตบที่ว่างข้างตัว เป็นสัญญาณบอกว่าให้เธอขึ้นไปนอนข้างเขา ทีแรกก็อยากจะอิดออดไม่ทำตาม เพราะไม่พอใจคำพูดก่อนหน้าของเขา แต่ก็ไม่อยากทำลายบรรยากาศให้แย่ลงไปกว่านี้ เลยเดินไปทิ้งตัวลงนอนข้างเขาทันที “ทำอะไร?” เมื่อรู้สึกถึงมือซุกซนกำลังเลื้อยเข้ามาในชายเสื้อยืดของเธอ ผ่านหน้าท้องแบบราบที่ทำให้ขนกายเธอลุกชันขึ้นมาทันที ก่อนประกบลงที่สองเต้าอวบอิ่มผ่านเสื้อชั้นในลูกไม้ที่กำลังห่อหุ้มเต้าสวยงามอยู่ “จับนมไง เธอชอบถามอะไรแบบนี้ ทั้งที่รู้อยู่แล้ว” “อาบน้ำก่อนไม่ดีกว่าเหรอคะ ถ่ายละครมาทั้งวันเหงื่อทั้งนั้นเลยนะคะ” “แค่จับนม ยังไม่ได้เอา” อัญชันกรอกตามองบนกับคำพูดของเขา“เมื่อก่อนพี่อยู่ได้ยังไงคะ ฉันไม่เห็นพี่เคยมีแฟน” “รู้ได้ยังไง เธอเคยสนใจเรื่องฉันหรือไง” “ถึงไม่สนใจก็ต้องรู้อยู่แล้วไหมคะ เราเล่นละครด้วยกันหลายเรื่องแล้วนะคะ” มือหนาที่กำลังบีบเค้นอกอวบของเธอหยุดชะงัก ในหัวของเขานึกย้อนไปถึงตอนที่เจอเธอครั้งแรก อันที่จริงเราสองคนก็เจอกันมาเกือบเจ็ดปีแล้ว ถ้าเปรียบเหมือนคนคบกันเป็นแฟน ช่วงนี้ก็ต้องอยู่ในช่วงระหว่างจะไปต่อหรือพอแค่นี้หรือที่เรียกว่าหัวเลี้ยวหัวต่อของคงาม