เมื่อนางร้ายในละคร ถูกเพื่อนสนิทในชีวิตจริงหักหลัง แย่งผู้ชายที่เธอรักไป อีกทั้งเพื่อนคนนั้นยังมาเป็นนางเอกละครเรื่องเดียวกับเธอ นินิว>>หลังจากที่แพ้จนหมดรูปและหายตัวไปจากวงการนาน 5 เดือน เธอก็กลับมาเล่นละครอีกครั้ง และได้เล่นละครเรื่องเดียวกับเพื่อนสนิทคนดี คนเดิมที่หักหลังเธอ ออสติน>>คาสโนว่าตัวพ่อ ตัวแปรสำคัญของเกมส์แก้แค้นนี้ เขาคืออดีตเพื่อนสมัยมัธยมที่โดนคนเป็นพ่อดัดนิสัย ส่งไปเรียนต่อเมืองนอกตั้งแต่ยังไม่จบมัธยมปลาย โมนา>>เธอคือนางเอกในละคร แต่เป็นนางร้ายในชีวิตจริง พอได้เจอหน้ากับออสตินและรู้ว่าเขาคือสปอนเซอร์รายใหญ่ของละครเรื่องใหม่ที่เธอเล่น เลยอยากสานต่อความสัมพันธ์เพื่อเป็นบันไดให้เธอขึ้นไปยืนจุดสูงสุดได้อย่างสมบูรณ์แบบ
View Moreแชะ! แชะ! แชะ!
แสงแฟลชวิบวับของนักข่าวสายบันเทิงที่มากันเนืองแน่นห้องแกรนด์บอลรูมของโรงแรมชื่อดัง ในงานแถลงข่าวเปิดตัวละครเรื่องใหม่ ที่ได้สองพระนางชื่อดังแห่งยุคคือขุนเขาและโมนามาเป็นแสดงนำทั้งคู่ ร่วมด้วยนางร้ายหน้าสวยอย่างนินิวที่มีข่าวฉาวรายวันและหายหน้าหายตาไปจากวงการบันเทิงพักใหญ่กลับมารับงานแสดงโปรเจ็กต์ใหญ่เรื่องนี้ด้วย หลังจากงานแถลงข่าวจบลง ทุกคนก็เดินเข้าไปยังห้องรับรองของโรงแรมที่ทีมงานจัดไว้สำหรับแต่งหน้าทำผม นินิวที่เดินหน้าบูดหน้าบึ้งเพื่อเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องนั้นพร้อมกับโมนานางเอกของเรื่อง “ดีใจด้วยนะ ที่เธอได้กลับมาแสดงอีกครั้ง” นินิวเบะปากพร้อมกับเหลือบมองไปยังคนพูด ผู้หญิงคนนี้เก่งมากที่คีพลุคเป็นนางเอกได้ดีทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งที่จริงนิสัยตัวเองต่างกันกับบทบาทที่ได้รับราวฟ้ากับเหว “สาบานว่าเธอดีใจที่ฉันกลับมา ตอนนี้ไม่มีกล้องไม่ต้องแอ๊บทำเป็นนางเอกหรอกนะ” “ทำไมเธอพูดแบบนั้นล่ะนิว เราเป็นเพื่อนกันนะ ฉันอุตส่าห์บอกให้พี่ใหญ่ผู้กำกับ ให้โทรเรียกเธอมาเล่นเรื่องนี้ด้วยกัน เพื่อให้เธอมีพื้นที่ข่าวหน้าแรกอีกครั้ง” แปะ! แปะ! “เป็นพระคุณอย่างสูงค่ะ งานนี้เธออยากได้อะไรเป็นการตอบแทนล่ะ อุตส่าห์ช่วยฉันขนาดนี้”นินิวยกมือขึ้นปรบเสียงดังต่อหน้าอดีตเพื่อนสนิทของเธออย่างโมนา “เธอหมายความว่าไง นี่เธอยังไม่ลืมเรื่องในอดีตของเราเหรอ มันผ่านมาตั้งนานแล้วนะนิว ฉันไม่ติดใจเอาความอะไรเธอแล้ว เธอเองก็ควรเลิกโทษตัวเองได้แล้วนะ” “ฉันไม่ได้โทษตัวเอง แต่ฉันโทษเธอ นังเพื่อนทรยศ” “ฉันนะเหรอทรยศเธอนิว พูดให้ดี ๆ นะ”พอโดนตอกหน้าตรง ๆ แบบนี้ ลุคนางเอกใส่ซื่อต่อหน้านักข่าวก็โดนลอกคราบออกไป“ฉันกับเรย์เราคบกันมาก่อนเธอนะ เธอต่างหากที่เข้ามาแทรกกลางระหว่างเราสองคน” ไม่ว่าเวลาจะผ่านมากี่ปี โมนาก็จะพูดแบบนี้กับเธอ คำพูดของอดีตเพื่อนสนิทคนนี้จะทำให้เธอขาดสติและเผลอใช้กำลังจนเป็นข่าวฉาวเมื่อห้าเดือนก่อน ว่าเธอตบหน้านางเอกชื่อดัง จนเธอกลายเป็นนางร้ายทั้งในจอและนอกจอของแฟนละครเกือบทุกคน มีน้อยคนที่จะรู้ว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นคนยังไงและยังอยู่เคียงข้างเธอ ก็คือกลุ่มแฟนคลับที่รักและเข้าใจเธอจริง ๆ มันเป็นเพราะพวกเขาที่ทำให้เธอผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากในชีวิตมาได้ จนสามารถกลับมารับละครได้อีกครั้ง เรื่องที่โมนาบอกว่าเป็นคนบอกพี่ใหญ่ผู้กำกับให้โทรหาเธอนั้นไม่ใช่เรื่องจริง เพราะพี่แจงผู้จัดการส่วนตัวเธอเป็นคนบอกเองว่าโปรเจ็กต์ละครเรื่องนี้ ทางผู้สนับสนุนเป็นคนรีเควสมาเองว่าต้องเป็นเธอเท่านั้นที่เล่นเป็นนางร้ายของเรื่องนี้ เธอเองก็อยากเจอหน้าและขอบคุณอยู่เหมือนกัน แต่วันนี้บริษัทผู้สนับสนุนได้ส่งทีมงานมาแทน ตัวผู้บริหารไม่ได้มาด้วย ทำให้เธอยังไม่มีโอกาสได้ขอบคุณเขาคนนั้น “ฉันกลับมาคราวนี้ ฉันรู้ว่ามันไม่ใช่เพราะเธอ อีกอย่างต่อให้เธอจะยั่วให้ฉันโกรธเกลียดเธอมากขนาดไหน มันคงไม่มากไปกว่าที่ฉันเกลียดเธอตอนนี้หรอกโมนา ฉันจะรอวันที่ทุกคนตาสว่างว่าเธอคือผู้หญิงที่สกปรก โสโครกแค่ไหน ที่ได้มาเป็นนางเอกจนถึงทุกวันนี้ ก็เพราะเธอต้องไปนอนแบระหว่างทางจนช่วงล่างพลุนไปหมดแล้ว” “กรี๊ดดดด!!! อีนิว มึงด่ากูเหรอ” โมนายกนิ้วขึ้นมาชี้หน้าอดีตเพื่อนสนิท ที่เธอพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ได้กลับมาเฉิดฉายในเส้นทางบันเทิงได้อีก แต่ก็ต้องแปลกใจที่นินิวยังกลับมารับงานละครได้ แถมยังเป็นโปรเจ็กต์ยักษ์ใหญ่อีกด้วย ทั้งที่เธอยอมเอาหน้าสวย ๆ ให้ตบจนเลือดกลบปาก แล้วนักข่าวก็มาเห็นพอดี ตอนงานเลี้ยงปิดกล้องละครเมื่อห้าเดือนที่แล้ว “เอาสิ กรี๊ดให้นักข่าวเข้ามาในห้องนี้เลย กูก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้านักข่าวได้เห็นนางเอกแสนใสซื่อ กำลังกรีดร้องเสียงดัง เหมือนชะนีที่กำลังร้องหาผัวจะเป็นยังไง” “กูไม่โง่เหมือนมึงหรอก ถ้ากูโง่ กูคงไม่แย่งเรย์มาจากมึงได้หรอกอีนิว” “มึงยอมรับแล้วสินะ ว่าเป็นคนยั่วเรย์จนได้ไปสมสู่กัน”นินิวยิ้มเยาะออกมา ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงเจ็บแค้นเรื่องในอดีตมากกว่าตอนนี้และลงมือทำร้ายอดีตเพื่อนสนิทตรงหน้าจนเป็นข่าวอีก แต่ตอนนี้เธอไม่มีวันทำตัวแบบนั้นอีกแล้ว เธอจะไม่เอาหน้าที่การงานและอาชีพที่เธอรักไปแลกกับเรื่องในอดีตของตัวเองอีกแล้ว “กูสวยไง ไม่ต้องพยายามอะไรมาก ผู้ชายก็อยากสมสู่กับกู ไม่เหมือนมึงใช้ความพยายามแทบตาย ผู้ชายก็ไม่อยากสมสู่ด้วย พอโดนกูปาดหน้าเข้าหน่อยก็รับไม่ได้ ตีอกชกตัวว่าตัวเองมาก่อน ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้คิดอะไรกับมึงตั้งแต่แรก” “แล้วเป็นไงล่ะ ตอนนี้มึงเองก็โดนเขาทิ้งไปเหมือนกันนิ มันเพราะอะไรนะ เขาถึงได้หนีไปแต่งงานกับคนอื่น แต่ถ้าให้กูเดา คงจะเป็นเพราะเขาจับได้ว่ามึงร่านนอนกับผู้ชายไปทั่ว” “อีนิว!!” “มีอะไรกัน”เสียงพี่แจงผู้จัดการส่วนตัวของเธอเข้ามาขัดจังหวะมือเล็กของโมนาที่ยกขึ้นหมายจะตบหน้าเธอ ที่พูดแทงใจดำได้เจ็บปวดที่สุด ทำให้อีกฝ่ายเอามือลงและกำมือเข้าหากันแน่นเพราะความคับแค้นใจ ที่โดนอีกฝ่ายด่าทอขนาดนี้ “รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วนิว รถตู้รออยู่”แจงรีบผลักเด็กในสังกัดตัวเองให้เดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ไม่ลืมส่งสายตาไม่พอใจใส่โมนาไปด้วย เธอเองก็เป็นอีกคนที่รู้จักนิสัยที่แท้จริงของนางเอกชื่อดังคนนี้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อเป็นนางเอกที่ฝีมือดีและกระแสแรงไม่มีตก“เธอเองก็ควรรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้านะโมนา ก่อนที่นักข่าวจะแห่กันมาเพราะคิดว่านางเอกกับนางร้ายตบตีกันอีก” “พี่ดูคนของพี่ให้ดี ๆ นะคะ อย่าปล่อยให้เห่าไปทั่วแบบนี้” “หึ นี่เธอพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า ไม่ใช่เธอหรอกเหรอที่เห่าอันธพาลนิวมันก่อน” “นี่พี่ด่าว่าฉันเป็นหมาเหรอ” “ฉันไม่กล้าหรอก ถ้าเธอไม่ใช้คำว่าเห่าก่อน ใช้คำแบบไหนกับใคร พอเขาใช้กลับเราก็ต้องรับให้ได้ด้วยนะ สมองนะต้องฉลาดกว่านี้ อย่าฉลาดแต่ใช้ช่วงล่างอย่างเดียว” พูดจบแจงก็เดินไปรอนินิวหน้าห้องแต่งตัว ทิ้งให้โมนายืนสงบสติอารมณ์อยู่ตรงนั้นคนเดียว วันนี้เธอแพ้ แต่ยังไงวันหน้าก็ต้องมี เพราะเธอยังต้องถ่ายละครกับอดีตเพื่อนรักอีกหลายเดือน คราวนี้เธอจะทำให้นินิวไม่สามารถยืนอยู่ในวงการนี้ได้อีกเลย คอยดูก็แล้วกัน “ฉันอยากให้เธอใจเย็นกว่านี้นะนิว อย่าไปตามเกมส์ของโมนาอีก”เมื่อขึ้นมาบนรถตู้ แจงก็บ่นนินิวชุดใหญ่ “ฉันกำลังพยายามอยู่พี่ก็เห็น” “ฉันเห็นและรู้ทุกอย่าง แต่เรื่องแบบนั้นมันไม่มีหลักฐานให้เราแฉโมนาได้หรอก มันก็เหมือนเรากล่าวหาเขาลอย ๆ เธอก็รู้ว่าแฟนคลับโมนามากขนาดไหน เกิดอะไรขึ้นมา มันไม่คุ้มกับสายอาชีพนี้ เธอก็รู้” “ฉันรู้ค่ะ”นินิวหลับตาลง ทิ้งศรีษะลงบนพนักพิง แค่กลับมาเจอกันวันแรก ก็ทำให้เธอปวดหัวอีกแล้ว นี่ยังต้องถ่ายละครด้วยกันอีกหลายเดือน เธอไม่เส้นเลือดในสมองแตกไปก่อนหรอกเหรอหลังจากหนึ่งวันที่แสนวุ่นวายผ่านไป นินิวก็เตรียมตัวจะไปขึ้นรถตู้ของผู้จัดการส่วนตัวที่จอดรออยู่ด้านหลังของโรงแรม "นิว" เสียงทุ้มคุ้นหูเรียกชื่อเธอดังขึ้น ไม่ต้องหันหน้าไปมอง เธอก็รู้ว่าเจ้าของเสียงนี้เป็นใคร "เธอโกรธอะไรฉัน?" "เปล่านิ" "แล้วฉันถามทำไมเธอไม่ตอบ ฉันทำอะไรให้เธอไม่พอใจ" "นายเพิ่งเจอกันนะ แล้วฉันจะไม่พอใจอะไรนายตอนไหนล่ะ" ออสตินสบตากลมโตของเพื่อนที่เคยสนิทกันในช่วงเวลาหนึ่ง ตอนนี้เธอไม่ใช่เพื่อนผู้หญิงคนนั้นของเขาอีกแล้วและเขาก็ไม่ได้อยากเป็นเพื่อนผู้ชายคนนั้นของเธอเหมือนกัน "หรือเธอไม่พอใจที่ฉันไปเรียนเมืองนอกโดยไม่บอกเธอ" “อันนั้นมันเป็นสิทธิ์ของนายที่จะบอกหรือไม่บอกก็ได้ แล้วทำไมฉันต้องไม่พอใจนายด้วยล่ะ” “งั้นทำไมเธอไม่คุยกับฉัน จะว่าเธอจำฉันไม่ได้ก็คงไม่ใช่ เพราะพ่อฉันถามเธอยังบอกว่ารู้จักฉันอยู่เลย” “นายอย่ามาเซ้าซี้ถามจะได้ไหม ฉันจะกลับคอนโด เหนื่อยจะแย่แล้ว”เมื่อไม่มีคำตอบให้เขา เธอก็ทำเป็นเบี่ยงประเด็นไปอีกเรื่องทันที แต่ทว่าชายหนุ่มไม่ยอม เขาเอามือหนาจับแขนเล็กของเธอเอาไว้และเอามืออีกข้างจับใบหน้าสวยของเธอให้หันมามองหน้าเขาตรง ๆ แววตาคมเข้มคุ้นตา กับ
"มึงไม่น่าลากกูมาเลย เห็นแล้วหมั่นไส้ ตอนมึงไม่อยู่มันก็เอาแต่ออเซาะคนอื่นไปทั่ว" "เหอะน่า ยังไงมึงก็ยังมีเวลาจัดการมันอีกเยอะ" “ลืมบอกไป กูดีใจนะที่มึงกลับมา”อัญชันพูดพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างจริงใจ ซึ่งนินิวเองก็ยิ้มกลับไปให้เหมือนกัน เธอกับอัญชันสนิทกันเพราะได้เล่นละครเรื่องแรกด้วยกัน อีกทั้งเราสองคนยังอายุเท่ากันอีกด้วย ทำให้พูดคุยกันถูกคอและเธอก็รู้ว่าอัญชันเป็นเพื่อนที่จริงใจกับเธอจริง ๆ “กูก็ดีใจนะ ที่ได้เล่นเรื่องเดียวกับมึงอีก” “ว้าวว มึงดูอาหารดินิว น่ากินทุกอย่างเลย วันนี้กูจะฟาดให้เรียบเลย” ตอนแรกเธอเองก็ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ แต่ทว่าพอเห็นหน้าตาอาหารจากร้านอาหารดังแล้ว ก็ทำเอาน้ำย่อยในกระเพาะอาหารส่งเสียงออกมาทันที“มึงกินเยอะได้ดิ กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ไม่เหมือนกู” “มึงกินแล้วก็ไปออกกำลังกายสิ เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน” “นิวนั่งไหนเหรอครับ” ขุนเขาเดินตามเข้ามา ทำให้อัญชันเบะปากใส่ทันที เธอรู้ว่ารุ่นพี่คนนี้ชอบพอเพื่อนของเธอ ทั้งที่นินิวปฏิเสธไปแล้ว แต่ก็ยังทำตัวน่ารำคาญไม่หยุด “ปากเป็นอะไรเหรอครับอัญชัน” “จะเป็นอะไรก็เรื่องของฉันค่ะ พี่ไม่ต้องยุ่ง” "เอ่อ เราสองคนขอตัวก่อนนะ
เธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ไปทำอะไรให้อดีตเพื่อนรักของตัวเองเกลียดขนาดนั้น ทั้งที่ตอนมัธยมความสัมพันธ์ของเราก็ดีทุกอย่าง แต่ทว่าพอเข้ามหาลัย โมนาก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน รู้ทั้งรู้ว่าเธอชอบเรย์เพื่อนร่วมรุ่นมาตั้งแต่เข้าปีหนึ่ง แต่ก็ยังไปยั่วจนเรย์คว้าเอามาเป็นแฟนจนคบกันเกือบสี่ปี เป็นเรื่องที่ทำให้เธอแค้นใจอยู่จนถึงทุกวันนี้ เธอไม่ได้เสียใจที่ทั้งสองคนคบกัน แต่เสียใจที่ผู้ชายมีเป็นร้อยและส่วนใหญ่ก็ตามจีบโมนาทั้งนั้นแต่กลับไม่เอาผู้ชายพวกนั้น ดันมาต้องการผู้ชายคนเดียวกับเธอ แค่เว้นคนนี้ไว้สักคนไม่ได้หรืออย่างไร แต่เพื่อนก็ยังทำแบบนี้กับเธอ ทั้งที่เธอเล่าความรู้สึกตัวเองให้เพื่อนฟังมาโดยตลอด แต่กลับย่ำยีความรู้สึกของเธอจนเหมือนไม่ใช่เพื่อนกัน หลังจากนั้นเธอก็ตัดความเป็นเพื่อนลงทันที พอก้าวเข้ามาเป็นนักแสดง เป็นเธอที่เข้ามาก่อนจากการที่ครอบครัวลำบาก เธอต้องดิ้นรนทำงานตั้งแต่เรียน แล้วบังเอิญได้เจอกับพี่แจง ผู้จัดการส่วนตัวคนปัจจุบัน ชักชวนเธอให้มาลองเป็นตัวประกอบในละครเรื่องหนึ่ง ตอนนั้นเธอแทบไม่มีบทบาทอะไร คนดูน่าจะจำหน้าเธอไม่ได้ด้วยซ้ำไป แต่ทว่าเงินก้อนแรกที่เธอได้ กลับมากกว่าเง
แชะ! แชะ! แชะ! แสงแฟลชวิบวับของนักข่าวสายบันเทิงที่มากันเนืองแน่นห้องแกรนด์บอลรูมของโรงแรมชื่อดัง ในงานแถลงข่าวเปิดตัวละครเรื่องใหม่ ที่ได้สองพระนางชื่อดังแห่งยุคคือขุนเขาและโมนามาเป็นแสดงนำทั้งคู่ ร่วมด้วยนางร้ายหน้าสวยอย่างนินิวที่มีข่าวฉาวรายวันและหายหน้าหายตาไปจากวงการบันเทิงพักใหญ่กลับมารับงานแสดงโปรเจ็กต์ใหญ่เรื่องนี้ด้วย หลังจากงานแถลงข่าวจบลง ทุกคนก็เดินเข้าไปยังห้องรับรองของโรงแรมที่ทีมงานจัดไว้สำหรับแต่งหน้าทำผม นินิวที่เดินหน้าบูดหน้าบึ้งเพื่อเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องนั้นพร้อมกับโมนานางเอกของเรื่อง “ดีใจด้วยนะ ที่เธอได้กลับมาแสดงอีกครั้ง” นินิวเบะปากพร้อมกับเหลือบมองไปยังคนพูด ผู้หญิงคนนี้เก่งมากที่คีพลุคเป็นนางเอกได้ดีทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งที่จริงนิสัยตัวเองต่างกันกับบทบาทที่ได้รับราวฟ้ากับเหว “สาบานว่าเธอดีใจที่ฉันกลับมา ตอนนี้ไม่มีกล้องไม่ต้องแอ๊บทำเป็นนางเอกหรอกนะ” “ทำไมเธอพูดแบบนั้นล่ะนิว เราเป็นเพื่อนกันนะ ฉันอุตส่าห์บอกให้พี่ใหญ่ผู้กำกับ ให้โทรเรียกเธอมาเล่นเรื่องนี้ด้วยกัน เพื่อให้เธอมีพื้นที่ข่าวหน้าแรกอีกครั้ง” แปะ! แปะ! “เป็นพระคุณอย่างสูงค่ะ งานนี้
Comments