หลังจากการขับไล่โซเฟียออกจากชีวิตของพวกเขาอย่างเด็ดขาด คฤหาสน์คาร์ดินัลก็กลับคืนสู่ความสงบสุขที่แท้จริง แพรไหมและคริสเตียนใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น พวกเขากำลังสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงและเต็มไปด้วยความรักที่เข้าใจกัน อย่างไรก็ตาม แม้ภายนอกจะดูเหมือนทุกอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ในใจของคริสเตียนยังคงมีเงามืดจากอดีตที่เขาเก็บซ่อนไว้ และนั่นกำลังจะเป็นบททดสอบครั้งใหม่สำหรับความสัมพันธ์ของพวกเขา
คริสเตียน เวนิส คาร์ดินัล ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นมาเฟีย เขาเติบโตมาในตระกูลที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นนักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพลและซื่อสัตย์ในอิตาลี โดยมีธุรกิจหลักคือการขนส่งทางเรือและอสังหาริมทรัพย์ มาเรียโน คาร์ดินัล บิดาของคริสเตียน เป็นชายผู้มีวิสัยทัศน์ และต้องการนำพาตระกูลไปสู่ยุคใหม่ที่ปราศจากการเกี่ยวข้องกับโลกใต้ดินอย่างสิ้นเชิง
แต่โชคชะตากลับเล่นตลก อัลฟองโซ คอร์เตส หัวหน้าตระกูลมาเฟียเก่าแก่คู่แข่ง ได้วางแผนทำลายธุรกิจของตระกูลคาร์ดินัลอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายคือการขึ้นเป็นผู้นำเพียงหนึ่งเดียวในอิตาลี แผนการเริ่มต้นจากการแทรกซึม ก่อวินาศกรรม และสร้างข่าวลือทำลายชื่อเสียง ทำให้ธุรกิจของคาร์ดินัลเริ่มสั่นคลอน
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อ อันโตนิโอ คาร์ดินัล น้องชายคนเล็กของคริสเตียน ซึ่งเป็นนักศึกษาแพทย์ผู้สดใสและไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจตระกูลเลย ถูกอัลฟองโซ คอร์เตส ลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่จำนวนมหาศาล มาเรียโน บิดาของคริสเตียน พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยลูกชาย แต่คอร์เตสไม่ต้องการแค่เงิน เขาต้องการทำลายตระกูลคาร์ดินัลให้พินาศ
ในวันที่มีการส่งมอบค่าไถ่ มาเรียโน บิดาของคริสเตียน ได้พาคริสเตียนในวัยหนุ่ม ผู้ซึ่งเพิ่งเรียนจบด้านกฎหมาย และไม่เคยเกี่ยวข้องกับโลกมืด มาร่วมในการเจรจาด้วย โดยหวังว่าคริสเตียนจะสามารถใช้ความรู้ด้านกฎหมายช่วยในการต่อรองได้ ตอนนั้นคริสเตียนยังเป็นเพียงชายหนุ่มผู้ยึดมั่นในความถูกต้อง และไม่เคยสัมผัสกับความโหดร้ายของโลกมาเฟีย
แต่การเจรจาไม่ได้เป็นไปตามที่มาเรียโนคาดหวัง อัลฟองโซ คอร์เตส ตั้งใจจะฆ่าอันโตนิโอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว การส่งมอบค่าไถ่กลายเป็นกับดักที่ซับซ้อน อันโตนิโอถูกสังหารต่อหน้าต่อตาคริสเตียนและบิดาของเขา ด้วยกระสุนที่ตั้งใจยิงใส่มาเรียโนแต่พลาดเป้า คริสเตียนในวัยหนุ่มต้องเห็นการตายของน้องชายต่อหน้าต่อตา โดยที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย ความรู้สึกผิดและไร้ความสามารถกัดกินจิตใจเขาอย่างรุนแรง
จากนั้นไม่นาน มาเรียโน คาร์ดินัล บิดาของคริสเตียน ผู้ซึ่งหัวใจสลายจากการสูญเสียลูกชาย และถูกบีบคั้นจากอัลฟองโซอย่างหนัก ก็เสียชีวิตลงด้วยอาการหัวใจวายฉับพลันจากความเครียดและแรงกดดันมหาศาล เขาไม่สามารถทนเห็นธุรกิจและครอบครัวที่เขารักพังทลายลงได้
คริสเตียนต้องเห็นการตายของน้องชายและบิดาต่อหน้าต่อตา โดยที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย เขาทั้งแค้นและเจ็บปวด การตายของคนในครอบครัวที่บริสุทธิ์ ทำให้คริสเตียนตระหนักว่าโลกนี้ไม่ได้มีแต่ความถูกต้องตามกฎหมายเสมอไป หากเขาต้องการปกป้องสิ่งที่เหลืออยู่ และแก้แค้นให้ครอบครัว เขาจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการดำดิ่งสู่โลกมืด
แพรไหมสังเกตเห็นมานานแล้วว่าคริสเตียนมีบางอย่างที่ซ่อนอยู่ บางสิ่งที่ทำให้เขาต้องแบกรับความทุกข์ทรมานเพียงลำพัง เขาเป็นคนเย็นชาและเด็ดขาด แต่ลึกๆ แล้ว เธอกลับรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ภายใน
วันหนึ่ง ในขณะที่คริสเตียนต้องเดินทางไปต่างประเทศเพื่อจัดการเรื่องธุรกิจ แพรไหมก็ใช้เวลาอยู่คนเดียวในคฤหาสน์ เธอพยายามใช้เวลาว่างไปกับการทำความสะอาดห้องทำงานของคริสเตียน ซึ่งเป็นห้องที่เธอไม่ค่อยมีโอกาสได้เข้าไป
ในขณะที่เธอกำลังจัดเรียงเอกสารบนโต๊ะทำงาน สายตาของเธอก็ไปสะดุดเข้ากับ ลิ้นชักลับ ใต้โต๊ะ ซึ่งคริสเตียนมักจะเก็บของสำคัญไว้ แพรไหมจำได้ว่าคริสเตียนเคยบอกรหัสเปิดลิ้นชักนี้กับเธอในวันที่เธอเพิ่งเข้ามาในคฤหาสน์ เขาบอกว่า "ถ้ามีอะไรฉุกเฉิน เธอสามารถเปิดลิ้นชักนี้ได้"
ด้วยความอยากรู้และแรงกระตุ้นบางอย่าง แพรไหมตัดสินใจที่จะเปิดลิ้นชักนั้น ภายในลิ้นชักมีเอกสารจำนวนมาก รวมถึงรูปถ่ายเก่าๆ และ สมุดบันทึก เล่มหนึ่งที่ดูเก่าแก่มาก
แพรไหมหยิบสมุดบันทึกเล่มนั้นขึ้นมาเปิดดูอย่างช้าๆ มันคือไดอารี่ที่คริสเตียนเขียนบรรยายเรื่องราวในแต่ละวัน แต่เมื่ออ่านลึกลงไปเรื่อยๆ เธอก็พบกับเรื่องราวที่น่าตกใจและมืดมิด สมุดบันทึกนั้นบรรยายถึงเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของคริสเตียนเมื่อหลายปีก่อน การตายของน้องชายและบิดาของเขา และความรู้สึกผิดที่เขาแบกรับ
คริสเตียนเขียนถึงความเจ็บปวดที่เห็นพ่อและน้องชายตายต่อหน้าต่อตา โดยที่เขาทำอะไรไม่ได้เลย ความรู้สึกผิดนั้นกัดกินหัวใจของเขามาตลอดหลายปี เขาเชื่อว่าถ้าเขาแข็งแกร่งกว่านี้ ถ้าเขามีอำนาจมากกว่านี้ เขาคงจะปกป้องครอบครัวของเขาได้
นอกจากสมุดบันทึกแล้ว แพรไหมยังพบเอกสารอีกหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจที่ผิดกฎหมายของตระกูลคาร์ดินัล เอกสารเหล่านั้นแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของตระกูลคาร์ดินัลกับองค์กรอาชญากรรมใต้ดิน และการกระทำที่ผิดกฎหมายบางอย่างที่คริสเตียนเองก็มีส่วนเกี่ยวข้อง
แพรไหมรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบพังทลายลงตรงหน้า เธอรู้ว่าคริสเตียนเป็นมาเฟีย แต่เธอไม่เคยคิดว่าเขาจะต้องแบกรับความลับที่มืดมิดและเจ็บปวดขนาดนี้ ความรู้สึกผิดที่เขามีต่อการตายของครอบครัว และการที่เขาต้องดำเนินธุรกิจที่ผิดกฎหมายเพื่อรักษาอำนาจและแก้แค้นให้กับครอบครัว
แพรไหมปิดสมุดบันทึกและเอกสารเหล่านั้นลง เธอเก็บมันกลับเข้าไปในลิ้นชักอย่างเดิม เธอเดินออกมาจากห้องทำงานของคริสเตียนด้วยความรู้สึกที่ปวดร้าวในใจ
เธอไม่สามารถทำใจได้กับสิ่งที่เพิ่งค้นพบ อดีตของคริสเตียนนั้นมืดมิดและเต็มไปด้วยความผิดบาปเกินกว่าที่เธอจะจินตนาการไว้ เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงเย็นชา ทำไมเขาถึงมีอำนาจมากขนาดนี้ และทำไมเขาถึงเก็บซ่อนความรู้สึกต่างๆ ไว้มากมาย
ความรักที่เธอมีให้คริสเตียนเริ่มสั่นคลอน เธอรักเขา แต่เธอจะสามารถอยู่ร่วมกับผู้ชายที่แบกรับความผิดบาปอันหนักอึ้งขนาดนี้ได้จริงๆ หรือเปล่า? เธอจะสามารถยอมรับอดีตของเขาได้หรือไม่? และอนาคตของพวกเธอจะเป็นอย่างไรถ้าเขายังคงจมอยู่กับความแค้นและความรู้สึกผิดนั้น
เธอใช้เวลาหลายวันในการพยายามทำความเข้าใจกับความจริงที่เธอเพิ่งค้นพบ เธอเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวเอง ไม่กล้าที่จะพูดกับใคร เพราะกลัวว่าจะทำให้คริสเตียนรู้สึกแย่ หรือทำให้คนอื่นมองเขาในแง่ลบ
เมื่อคริสเตียนกลับมาจากต่างประเทศ แพรไหมก็ตัดสินใจที่จะพูดเรื่องนี้กับเขา เธอรู้ว่าเธอไม่สามารถเก็บความลับนี้ไว้ได้อีกต่อไป เธอต้องเผชิญหน้ากับคริสเตียนและพูดคุยกับเขาเพื่อหาทางออกให้กับความสัมพันธ์ของพวกเขา
“คริสเตียนคะ…ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณค่ะ” แพรไหมเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อย ขณะที่พวกเขากำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่ด้วยกันในสวน
ริสเตียนมองหน้าเธอ “มีอะไรหรือแพรไหม ดูคุณไม่สบายใจเลย”
แพรไหมลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจพูดตรงๆ “ฉัน…ฉันได้เห็นสมุดบันทึกของคุณในห้องทำงานค่ะ”
คริสเตียนนิ่งไปทันที ใบหน้าของเขาซีดเผือด แววตาเต็มไปด้วยความตกใจและความกังวล เขาไม่คิดว่าแพรไหมจะค้นพบความลับที่เขาเก็บซ่อนไว้มาตลอดชีวิต
“คุณ…คุณเห็นอะไรบ้างแพรไหม” คริสเตียนถามด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า
แพรไหมมองลึกเข้าไปในดวงตาของเขา “ฉันเห็นทุกอย่างค่ะ…เรื่องการตายของคุณพ่อและอันโตนิโอ…ความรู้สึกผิดของคุณ…และการที่คุณต้องก้าวเข้าสู่โลกมืดเพื่อปกป้องตระกูล”
ความเงียบเข้าปกคลุมบรรยากาศ คริสเตียนไม่พูดอะไร เขาหลบสายตาของแพรไหม เขารู้สึกผิดที่เธอต้องมารับรู้เรื่องราวที่มืดมิดในอดีตของเขา
“ทำไมคุณไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟังเลยคะคริสเตียน” แพรไหมถามด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด “คุณไม่ไว้ใจฉันเหรอคะ”
คริสเตียนเงยหน้าขึ้นมองแพรไหม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “ผม…ผมไม่อยากให้คุณต้องมารับรู้เรื่องราวที่มืดมิดของผม ผมกลัวว่าคุณจะรับไม่ได้ ผมกลัวว่าคุณจะทิ้งผมไป”
แพรไหมลุกขึ้นเดินเข้าไปหาคริสเตียน เธอจับมือของเขาแน่น “คุณไม่จำเป็นต้องแบกรับเรื่องราวทั้งหมดนี้ไว้คนเดียวอีกต่อไปแล้วนะคะคริสเตียน มันไม่ใช่ความผิดของคุณค่ะ คุณทำดีที่สุดแล้วในสถานการณ์นั้น”
เธอดึงคริสเตียนเข้ามากอดแน่น เธอรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เขากำลังแบกรับอยู่ เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงได้แข็งแกร่งและเด็ดขาดขนาดนี้ เพราะเขาต้องปกป้องตัวเองและครอบครัวที่เหลืออยู่จากโลกที่โหดร้าย
“ผมรู้ว่าผมต้องทำเรื่องที่ไม่ถูกกฎหมายหลายอย่าง” คริสเตียนกระซิบเสียงแผ่วเบา “ผมต้องยอมทำเรื่องที่สกปรก เพื่อให้ตระกูลของเราอยู่รอด เพื่อแก้แค้นให้คนที่ผมรัก”
แพรไหมพยักหน้า เธอรู้เรื่องนี้ดีจากเอกสารที่เธอเห็น เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมคริสเตียนถึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนธุรกิจของเขาให้ถูกกฎหมายมากขึ้น เพราะเขาต้องการที่จะหลุดพ้นจากเงามืดของอดีต และสร้างชีวิตใหม่ที่สะอาดให้กับพวกเขา
“ฉัน…ฉันต้องการเวลาค่ะคริสเตียน” แพรไหมกล่าว “ฉันต้องการเวลาที่จะทำความเข้าใจกับเรื่องทั้งหมดนี้”
คริสเตียนพยักหน้า เขารู้ว่าแพรไหมต้องการเวลา เขาไม่ได้คาดหวังให้เธอสามารถยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในทันที
“ผมเข้าใจครับแพรไหม” คริสเตียนกล่าว “ผมจะรอคุณเสมอ ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจยังไง”
แพรไหมลุกขึ้นยืน เธอเดินออกไปจากสวน ปล่อยให้คริสเตียนนั่งอยู่คนเดียว ท่ามกลางความเงียบงันและความรู้สึกที่ปวดร้าว
เธอเดินไปตามทางเดินในคฤหาสน์ ความคิดของเธอสับสนวุ่นวาย เธอรักคริสเตียนมาก แต่การรับรู้ความจริงเกี่ยวกับอดีตของเขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่บนทางแยก
เธอควรจะอยู่เคียงข้างเขา และช่วยให้เขาเยียวยาบาดแผลในใจ หรือเธอควรจะถอยออกมาเพื่อปกป้องตัวเองจากโลกที่มืดมิดของเขา?
คำถามเหล่านี้ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของแพรไหม เธอรู้ว่าเธอต้องตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะส่งผลต่ออนาคตของเธอและคริสเตียน
ตอนที่ 80 เติมเต็มความสมบูรณ์ของครอบครัวหลังผ่านบทพิสูจน์แห่งผู้นำ และการกอบกู้วิกฤตการณ์ครั้งสำคัญ อเล็กซานเดอร์ ได้รับความไว้วางใจจากทุกฝ่าย แต่สิ่งที่เติมเต็มชีวิตของเขาและ ลลิล ให้สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริงคือ ข่าวดีที่สุด ที่พวกเขารอคอยมาตลอด เสียงเล็กๆ ในอนาคตกำลังจะกลายเป็นความจริง และนำพาความสุขมาสู่ตระกูลคาร์ดินัลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนหลังจากที่ทั้งสองคนได้พูดคุยกันอย่างจริงจังเรื่องการมีทายาท อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ก็เริ่มเตรียมตัวสำหรับการเป็นพ่อแม่ ลลิลเริ่มศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการดูแลทารกอย่างละเอียด ส่วนอเล็กซานเดอร์ก็เริ่มจัดเตรียมห้องเล็กๆ ในคอนโดเพื่อรอรับสมาชิกใหม่ความคาดหวังเพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน แต่พวกเขาก็พยายามไม่กดดันตัวเอง จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง ลลิลรู้สึกไม่สบายตัว อาการคลื่นไส้และอ่อนเพลียทำให้เธอสงสัย เธอตัดสินใจใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ และผลลัพธ์ที่ปรากฏก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความสุขและความตื่นเต้นสองขีดสีชมพู ปรากฏชัดเจน ลลิลกรีดร้องด้วยความดีใจ เธอไม่สามารถเก็บความลับนี้ไว้คนเดียวได้ เธอตัดสินใจจะบอกข่าวดีนี้กับอเล็กซานเดอร์ในทันที แต่เธอ
ตอนที่ 79 บทพิสูจน์แห่งผู้นำท่ามกลางความกังวลเรื่องทายาทและความสุขในชีวิตคู่ อเล็กซานเดอร์ ก็ต้องเผชิญกับบททดสอบครั้งสำคัญในบทบาทของผู้นำ นั่นคือการแก้ไขวิกฤตการทุจริตที่เกิดขึ้นในโครงการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะ ความท้าทายนี้ไม่เพียงเป็นการพิสูจน์ความสามารถของเขา แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงคุณธรรมและความโปร่งใสที่ กลุ่มคาร์ดินัล ยุคใหม่ยึดมั่นเมื่อหลักฐานเริ่มชัดเจนว่ามีการทุจริตจริงในบริษัทสตาร์ทอัพที่คาร์ดินัลลงทุนไป อเล็กซานเดอร์ ก็ตัดสินใจดำเนินการอย่างเด็ดขาดและรอบคอบ เขาไม่ได้ต้องการเพียงแค่จับตัวผู้กระทำผิด แต่ต้องการถอนรากถอนโคนปัญหา เพื่อไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคตอเล็กซานเดอร์เรียกประชุมทีมงานคนสำคัญของคาร์ดินัลที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ รวมถึง เดฟ และหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย เขาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาชื่อเสียงและความโปร่งใสของบริษัท“เราจะไม่ยอมให้การทุจริตใดๆ มาแปดเปื้อนชื่อเสียงของคาร์ดินัลอีกแล้ว” อเล็กซานเดอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นในห้องประชุม “เราต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องและเป็นธรรมที่สุด”เขามอบหมายให้ทีมผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เข้าม
ตอนที่ 78 บททดสอบใหม่และเสียงเล็กๆ ในอนาคตชีวิตคู่ของ อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ดำเนินไปอย่างราบรื่นและอบอุ่น แต่ในโลกของธุรกิจและความรับผิดชอบที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ย่อมมี ความท้าทายใหม่ๆ เข้ามาทดสอบความเข้มแข็งของพวกเขาเสมอ และท่ามกลางความท้าทายเหล่านั้น เสียงเล็กๆ ในอนาคตก็เริ่มดังขึ้นในหัวใจของทั้งคู่ในขณะที่โครงการเยียวยาชุมชนของมูลนิธิคาร์ดินัลดำเนินไปอย่างงดงาม และได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวาง ปัญหาใหม่กลับเกิดขึ้นภายในอาณาจักรธุรกิจของคาร์ดินัลเองคริสเตียน ได้มอบหมายให้ อเล็กซานเดอร์ เข้ามาดูแลการลงทุนใน โครงการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะ ซึ่งเป็นสาขาใหม่ที่คาร์ดินัลกำลังให้ความสนใจอย่างมาก แต่โครงการนี้กลับประสบปัญหาตั้งแต่เริ่มต้นมีรายงานว่าบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีที่คาร์ดินัลเข้าไปลงทุน มีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการภายใน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ล่าช้ากว่ากำหนด และที่สำคัญที่สุดคือ มี ข่าวลือเรื่องการทุจริต ของผู้บริหารระดับสูงบางรายในบริษัทนั้น“พ่อว่าเรื่องนี้ต้องตรวจสอบให้ละเอียดเลยนะอเล็กซานเดอร์” คริสเตียนกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดในห้องทำงานของเขา “เราไม่อยากให้ชื่อเสียงของคา
ตอนที่ 77 บทใหม่แห่งชีวิตร่วมหลังพิธีวิวาห์ที่อบอุ่นและเปี่ยมด้วยความหมาย อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ก็ได้เริ่มต้นบทใหม่ของชีวิตในฐานะสามีภรรยาอย่างเป็นทางการ การใช้ชีวิตคู่ไม่ใช่แค่เรื่องของความรักที่โรแมนติก แต่ยังรวมถึงการปรับตัว การเรียนรู้ และการเติบโตไปพร้อมกันในทุกๆ วันชีวิตคู่เริ่มต้นขึ้นที่คอนโดมิเนียมสุดหรูของอเล็กซานเดอร์ ซึ่งบัดนี้กลายเป็น "เรือนหอ" ที่อบอุ่นและเป็นส่วนตัวของพวกเขา แม้จะเคยมาพักอยู่ด้วยกันบ่อยครั้ง แต่การย้ายข้าวของทั้งหมดเข้ามาอยู่ด้วยกันอย่างถาวร ก็เป็นประสบการณ์ที่แตกต่างออกไปลลิลใช้ความสามารถด้านการออกแบบของเธอเข้ามาเนรมิตห้องชุดให้เป็นพื้นที่ที่สะท้อนตัวตนของทั้งคู่ได้อย่างลงตัว เธอเพิ่มความสดชื่นด้วยต้นไม้เล็กๆ และเปลี่ยนผ้าม่านเป็นสีเอิร์ธโทนที่อบอุ่น นอกจากนี้ยังมีมุมเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยหนังสือและงานศิลปะที่เธอชื่นชอบ ทำให้คอนโดแห่งนี้มีชีวิตชีวาและเป็น "บ้าน" อย่างแท้จริง“คุณชอบไหมครับคุณ” อเล็กซานเดอร์ถามด้วยรอยยิ้มหลังจากที่ลลิลจัดข้าวของเสร็จเรียบร้อยลลิลโอบแขนรอบเอวเขา “ฉันชอบมากค่ะที่รัก มันเป็นบ้านของเราจริงๆ”การปรับตัวเข้าหากันในรายละเอียด
ตอนที่ 76 ถักทอความรัก สู่พิธีวิวาห์หลังจากที่ อเล็กซานเดอร์ ได้ขอ ลลิล แต่งงานอย่างเป็นทางการ บรรยากาศของความสุขและความตื่นเต้นก็ปกคลุมไปทั่วคฤหาสน์คาร์ดินัล การเตรียมงานแต่งงานเริ่มต้นขึ้นอย่างเรียบง่าย แต่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความหมาย สะท้อนถึงความรักที่มั่นคงและบริสุทธิ์ของทั้งคู่ทั้งอเล็กซานเดอร์และลลิลต่างเห็นพ้องต้องกันว่างานแต่งงานของพวกเขาจะต้อง เรียบง่าย อบอุ่น และเป็นส่วนตัว โดยเน้นไปที่ความหมายและความผูกพันของสองครอบครัวมากกว่าความหรูหราอลังการ“ฉันอยากให้งานแต่งงานของเราเป็นวันที่เราได้แบ่งปันความสุขกับคนที่เรารักและห่วงใยค่ะที่รัก” ลลิลบอกกับอเล็กซานเดอร์ในขณะที่พวกเขากำลังปรึกษากันเรื่องการจัดงานอเล็กซานเดอร์ยิ้ม “ผมก็คิดอย่างนั้นครับคุณ”พวกเขาตัดสินใจที่จะจัดพิธีหมั้นและงานแต่งงานเล็กๆ ที่ คฤหาสน์คาร์ดินัล ซึ่งเป็นสถานที่ที่ลลิลมีความทรงจำดีๆ มากมาย และเป็นเหมือนบ้านอีกหลังของเธอ โดยจะมีเพียงญาติสนิทและเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับเชิญแพรไหม ผู้เป็นแม่ของอเล็กซานเดอร์ เป็นผู้ดูแลการเตรียมงานทั้งหมดอย่างละเอียดอ่อน เธอต้องการให้งานแต่งงานของลูกชายออกมาสมบู
ตอนที่ 75 จุดเริ่มต้นแห่งชีวิตคู่หลังจากผ่านพ้นอุปสรรคและร่วมสร้างสรรค์สิ่งดีๆ มาด้วยกัน อเล็กซานเดอร์ ก็ตระหนักแล้วว่า ลลิล คือผู้หญิงที่ฟ้าส่งมาให้เขา เขาไม่ต้องการรออีกต่อไป ถึงเวลาแล้วที่ความรักของพวกเขาจะก้าวไปอีกขั้น สู่การเริ่มต้นชีวิตคู่ที่ชัดเจนและมั่นคงการขอแต่งงานไม่ใช่แค่เรื่องของคำพูด แต่เป็นเรื่องของความรู้สึกและช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบ อเล็กซานเดอร์ใช้เวลาหลายวันในการวางแผน เขาอยากให้การขอแต่งงานครั้งนี้เป็นความทรงจำที่ลลิลจะไม่มีวันลืมเขาปรึกษาเรื่องนี้กับ แพรไหม ผู้เป็นแม่ ซึ่งเป็นคนที่เข้าใจหัวใจของผู้หญิงดีที่สุด“ลูกอยากขอแต่งงานกับลลิลครับแม่” อเล็กซานเดอร์กล่าวด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข “ผมอยากให้มันเป็นอะไรที่พิเศษที่สุดสำหรับเธอ”แพรไหมยิ้มอย่างอ่อนโยน “แม่ดีใจด้วยนะลูก แม่รู้ว่าลลิลคือคนที่ใช่สำหรับลูกจริงๆ”แพรไหมช่วยอเล็กซานเดอร์วางแผนอย่างละเอียด เธอแนะนำให้เขาเลือกสถานที่ที่มีความหมายกับทั้งคู่ และสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นส่วนตัว อเล็กซานเดอร์คิดถึง บ้านพักที่เขาใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ความรักของเขาและลลิลเริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริงเขาจัดเตรียมทุกอย่