“คุณไม่หนาวเหรอคะ ไปใส่เสื้อผ้าก่อนไหมเดี๋ยวฉันจะได้ปิดคอมพ์” วธุกาเสียงสั่นนิดๆ
“ใส่ทำไมเสียเวลา รีบปิดแล้วไปขึ้นเตียงเดี๋ยวนี้คุณวาท” เสียงของวิเนตย์เริ่มแข็งขึ้นพร้อมกับสายตาจ้องบังคับ วธุกากลั้นใจกดปุ่ม shut down แล้วปิดเก็บโน้ตบุ๊กของตนเองไว้ หันหลังกลับมาก็ต้องผงะกับภาพของสามีที่กำลังนอนกอดอกรออยู่บนเตียง หญิงสาวแทบเข่าอ่อนทันทีที่ผ้าขนหนูของเขากำลังเปลี่ยนรูปผิดร่างจากปกติตรงจุดยุทธศาสตร์ เหมือนกับว่ามันกำลังพร้อมเสียเหลือเกินสำหรับการออกสมรภูมิรบบนเตียงนอน
“คุณวิเนตย์”
“หืมว่าไง”
“เอ่อ คือว่าฉันมี เอ่อ”
“เมนส์มาว่างั้น ไหนผ้าอนามัย” สายตาของวิเนตย์บอกเต็มที่ว่าไม่เชื่อ
“ฮึ่ย! นี่คุณคิดอะไรบ้าๆ พวกนี้ออกมาได้ไงเนี่ย ฉันอยากจะบ้าตายจริงๆ เฮ้อ” คนพูดแทบจะจิกผมทึ้งศีรษะตัวเองเสียให้รู้แล้วรู้รอด
“อ้าว ก็เห็นอ้ำๆ อึ้งๆ เอ่ออ่าอยู่นั่นแหละไม่ทันใจเดี๋ยวน้องผมก็คออ่อนก่อนพอดี” ไม่พูดเปล่ายังเหลือบตาต่ำลงให้วธุกามองตามไปด้วย และได้ผลเพราะหญิงสาวก็เหลือบตาตามอย่างไม่รู้ตัว
“เอะอะก็จะจับขึ้นเตียงท่าเดียวเลย กลัวใช้งานไม่คุ้มหรือไงก็ไม่รู้” หญิงสาวแดกดันเขาอย่างเจ็บใจ วิเนตย์กลับยิ้มกริ่มเหมือนคนถือไพ่เหนือกว่าในทุกๆ เรื่อง
“คุณวาท มานี่มามานั่งใกล้ๆ ผมมา” ชายหนุ่มดึงตัวของภรรยาเข้าไปกอดอยู่ด้านข้าง ใช้นิ้วดันคางมนให้เงยขึ้นมองสบสายตาของเขา
“เรายังเป็นข้าวใหม่ปลามันอยู่นะ ผมไม่ผิดปกติหรอกที่ต้องการทุกคืนแบบนี้ คุณสิไม่ยินดียินร้ายกับผมเลย คุณต้องผิดปกติแน่ๆ คุณวาท” ชายหนุ่มเบ้ปากนิดๆ ใส่คนในอ้อมกอด ผลที่ได้ก็คือการถูกปัดนิ้วออกจากคางแล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง
“จะบอกให้นะคุณวิเนตย์ ผู้หญิงคนไหนก็ตามที่กล้าแต่งงานกับคุณ ผิดปกติแน่ๆ” ประชดทั้งเขาและตัวเอง
“คุณก็ค่อยๆ ปรับตัวไปสิ อีกหน่อยก็ชินไปเอง ผมไม่ใช่สามีใจยักษ์ใจมารนะผมดูแลคุณเป็นอย่างดีเลยล่ะ มีอาหารให้กินครบทุกมื้อมีอ้อมกอดอุ่นๆ พร้อมกับเซ็กซ์อันเร่าร้อนในทุกๆ คืน ใครที่ไหนจะอึดเท่าผม”
“คุณมันบ้า!”
“โอ๊ย! จะมาหยิกผมทำไมนี่”
“ฉันเลยลืมเลยว่าจะคุยอะไรกับคุณ มัวแต่มาคุยเรื่องไร้สาระกันอยู่นี่แหละ”
“ไร้สาระที่ไหนสำคัญทั้งนั้น” สีหน้าของสามีเธอดูผ่อนคลายลงมากกว่าตอนกลางวันเป็นไหนๆ วธุกาเพิ่งเห็นเขายิ้มแบบสบายอกสบายใจก็ตอนอยู่บนเตียงนอนเดียวกันนี่แหละ
“ฉันว่าจะคิดเรื่องฮันนีมูนใหม่”
“คิดว่าไงล่ะคุณวาท” คราวนี้คนที่เอนหลังรีบยันศอกลงบนที่นอนแล้วเอียงหน้ามามองคนในอ้อมกอดอย่างรวดเร็ว
“ก็ดีกว่าอยู่เฉยๆ ไปวันๆ”
“หมายความว่า...” เขาเว้นคำพูดเอาไว้เพื่อรอฟังคำตอบจากปากของภรรยา
“ฮันนีมูนที่นี่ก็ได้ค่ะ” วธุกาเงยหน้าขึ้นตอบเขาอย่างอายๆ วิเนตย์ถึงกับฉีกยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ ก่อนจะขึ้นไปทาบทับอยู่บนร่างของภรรยา
“เอ่อ” ดวงตาสองคู่มองสบกัน เหมือนมีบางอย่างตรึงทั้งคู่เอาไว้ไม่ให้หันหนีไปทางอื่นได้ จากนั้นริมฝีปากหนาของผู้เป็นสามีก็ทาบทับลงบนกลีบปากนุ่มละมุนของภรรยา จุมพิตแสนหวานลึกล้ำมากกว่าครั้งไหนๆ ที่วธุกาเคยพบเจอ หญิงสาวเลื่อนฝ่ามือไปทาบแผ่นหลังหนาของสามีแล้วกอดเขาไว้ยามบทรักได้เคลื่อนผ่านในค่ำคืนนี้ อ่อนหวานนุ่มนวลและเร่าร้อนดุดัน จวบจนทุกอย่างแตกกระจายพร่างพรายยามได้ก้าวผ่านขอบฟ้าแสนงดงาม
ตื่นเช้าขึ้นมาวิเนตย์ก็ลุกออกไปทำงานก่อนภรรยาเหมือนทุกวัน วธุกาเป่าลมออกปากฟู่ใหญ่ตรงหน้ากระจก เมื่อหวีผมเรียบร้อยแล้ว การตัดสินใจฮันนีมูนกับเขาที่นี่ จะมีผลอะไรต่อชีวิตคู่แสนเปราะบางนี่ไหม บางครั้งก็ไม่อยากคิดถึงอนาคตที่มันมายังไม่ถึง ขอแค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอคงมีแค่นี้ที่เธอต้องการ
เสียงกุกกักเหมือนคนทำอะไรบางอย่าง ดังออกมาจากห้องริมขวาสุด หัวใจกระตุกนิดๆ เมื่อนึกได้ว่าห้องนั้นเป็นของใคร แต่ความอยากรู้อยากเห็นก็มีมากกว่า ภายในห้องถูกจัดเอาไว้อย่างเรียบร้อยราวกับมีคนอาศัยอยู่จริงๆ เตียงนอนเด็กสีชมพูหวานแหวว มีตุ๊กตาหลากหลายประเภทวางเรียงรายอยู่เต็มไปหมด
“อ้าวคุณวาทเข้ามาทำไมคะ คุณวิเนตย์ห้ามคนอื่นเข้าห้องนี้นะคะ” น้ำเพลินตกใจเป็นอย่างมากที่เห็นเธอยืนอยู่ในห้อง
“คนอื่น...อย่างนั้นเหรอเพลิน”
“เอ่อ เพลินขอโทษนะคะ เพลินไม่ได้หมายความถึงคุณวาทแบบนั้นนะคะ” น้ำเพลินรีบเอ่ยอย่างร้อนตัว สายตาก็มองแบบหวาดระแวงไปทั่วเหมือนกลัวว่าใครจะมาเห็นเข้า
“ไม่เป็นไรหรอกเพลิน ฉันก็แค่อยากรู้ว่าห้องนี้สามีของฉันเอาไว้ทำอะไร”
“เอ่อ เป็นห้องส่วนตัวมากๆ เลยค่ะ คุณวาทก็ออกไปก่อนนะคะเดี๋ยวคุณวิเนตย์จะได้ฆ่าเพลินตายพอดี” น้ำเพลินออกอาการหวาดกลัวจริงๆ วธุกาไม่อยากให้แม่บ้านสาวน้อยต้องลำบากใจจึงยอมจากไปแต่โดยดี
“ก็ได้ๆ” แต่ก่อนจะออกจากห้องไปสายตาก็ไปปะทะเข้ากับรูปถ่ายครอบครัวของเขา เพิ่งได้เห็นหน้าภรรยาและลูกที่จากไปของวิเนตย์ ช่างเป็นครอบครัวแสนอบอุ่น ภรรยาแสนสวยบุคลิกเป็นคนจิตใจดีกับลูกสาวหน้าตาน่ารัก ความผูกพันคงมากล้นจนวิเนตย์ไม่สามารถลืมพวกเขาได้ แม้ว่าวันเวลาจะผ่านมาถึงห้าปีเต็ม เจ็บแปลบๆ ในอกทั้งที่รู้มาก่อนหน้า แต่พอได้เห็นกับตาทุกอย่างก็เคว้งคว้างไปในทันที
หนึ่งสัปดาห์ถัดมาก็เป็นวันที่ทั้งคู่จะได้ฮันนีมูนกันจริงๆ วธุกานั่งมองสามีซึ่งกำลังเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า มีค้อนเล็กๆ สำหรับการกระทำที่มองยังไงก็ขัดหูขัดตาไปเสียหมด เขาเลือกที่จะฮันนีมูนในบ้านของตัวเองแท้ๆ กลับต้องมาเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าราวกับจะเดินทางไปที่ไหนไกลๆ เสียอย่างนั้น
“ทำไมจะต้องเก็บกระเป๋าด้วยคะ เดินลงไปพักที่แพแค่นี้เองไม่เห็นจะต้องทำให้มันสมจริงสมจังอย่างกับนักท่องเที่ยวมาจากที่อื่นก็ได้ คุณจะทำก็ทำไปคนเดียวเถอะฉันไม่บ้าตามหรอกนะ”
“ผมไม่ได้คิดจะทำให้สมจริงสมจังหรอกคุณวาท แต่ผมทำจริงๆ แล้วแน่ใจนะที่พูดออกมาแบบนั้น”
“ก็แน่ใจสิ” วธุกายักไหล่บอกสามี วิเนตย์ส่ายหน้าอย่างขำๆ
“ผมหวังดีหรอกนะคุณวาท จะบอกให้ว่าทำไมจะต้องเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าแค่ไปบ้านแพตรงนี้ ก็เพราะว่าทางเดินขึ้นลงระหว่างที่นี่กับบ้านพักบนแพมันไกลกันพอสมควร แล้ววันหนึ่งคุณจะเปลี่ยนเสื้อผ้ากันสักกี่รอบ ไหนจะเช้าสายบ่ายเย็นชุดเล่นน้ำตอนแพลากไปอีก เดินขึ้นเดินลงวันละหลายๆ รอบ ถ้าคุณไหวผมไม่ว่า” ชายหนุ่มพูดจบก็แบมือออกทั้งสองข้างใส่ภรรยา
วธุกานิ่วหน้าเล็กน้อยพลางคิดถึงเวลาที่เธอเดินขึ้นลงในแต่ละวัน มากสุดก็แค่รอบเดียวเท่านั้นแหละตอนเช้าๆ ที่ลงไปดูแม่น้ำด้านล่าง จากนั้นก็ไม่คิดขึ้นลงให้เมื่อยเท้าอีกเลย ‘เห็นจะจริงอย่างที่เขาว่า’ รีบรื้อหากระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองบ้าง โดยที่คนเป็นสามีได้แต่อมยิ้มนิดๆ อย่างพอใจ
ไม่ช้าทั้งคู่ก็หิ้วกระเป๋าเดินลงจากบ้านไปยังบ้านพักบนแพ เดินผ่านพนักงานในรีสอร์ตก็พบแต่คนอมยิ้มไม่เว้นกระทั่งผู้จัดการของที่นี่และพนักงานต้อนรับอย่างศิรดา
“ไม่ต้องมายิ้มทั้งคู่นั่นแหละ” วิเนตย์แสร้งทำตาดุใส่ทั้งคู่
“ผมเปล่านะครับคุณวิเนตย์”
“ดาก็เปล่านะคะ”
“ผมไม่อยู่คุณก็ดูแลแขกของเราให้ดีๆ ด้วยล่ะคุณวัส ศิรดา”
“ครับ/ค่า”
ตอนที่ : 61 แวมสกาว ดวงใจของพ่อแม่ (จบ)23แวมสกาว ดวงใจของพ่อแม่ แวมสกาวสาวน้อยในวัยสี่ขวบกลายเป็นขวัญใจของทุกคน เด็กน้อยโตขึ้นมากับการเลี้ยงดูที่ดีจนเกินเหตุ หรือว่าเป็นที่ตัวเด็กเองที่ชอบการรับประทานอาหารเป็นที่สุดก็ไม่รู้ จึงทำให้กลายเป็นเด็กตัวอ้วนปุ๊กลุกเกินกว่าปกติ วธุกาเองก็ตัดสินใจเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองว่าวาทตามความต้องการของสามี ในขณะเดียวกันก็เรียกเขาสั้นๆ ว่าคุณเนตย์เหมือนกัน วันนี้วธุกาได้พาลูกสาวไปเยี่ยมเยียนนนท์นทีตั้งแต่ช่วงสายแล้ว เที่ยงนี้วิเนตย์จึงต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง หลังรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จเขาก็เดินเข้าไปในห้องรับแขก เพื่อที่จะเอนหลังตรงโซฟา แต่แล้วสายตาของชายหนุ่มก็มองไปเห็นสมุดเล่มหนึ่งวางเอาไว้บนโต๊ะในห้องร
ตอนที่ : 60 ปล่อยวาง 3 วธุกาเปลี่ยนชุดเป็นบิกินีสีแดงเพลิง เป็นชุดเดียวกับที่เคยใส่ตอนฮันนีมูนครั้งแรก ส่วนสามีของเธอก็เดินไปปิดม่านตรงหน้าบ้านพักไม่ให้คนข้างนอกมองผ่านเข้ามาได้ ปิดไฟตรงหน้าบ้านให้เหลือเพียงโคมสลัวๆ แสงนวลตา ในบ้านหากลูกร้องก็สามารถได้ยินเสียงได้เช่นเดียวกัน เมื่อพร้อมเสร็จสรรพทุกสิ่งอย่าง ภรรยาคนงามก็เดินลงไปแช่ตัวอยู่ในสระว่ายน้ำขนาดเล็ก มีน้ำผลไม้วางไว้บนขอบสระพร้อมกับแก้วเครื่องดื่มของสามี มองเห็นเขาเดินเข้าไปเปลี่ยนเป็นกางเกงว่ายน้ำตัวจิ๋วแล้วหัวใจของภรรยาอย่างเธอก็เต้นแรง “กินเบียร์ก่อนไหมคุณวิเนตย์ มีของว่างด้วยนะคะ” พยายามเบี่ยงความสนใจไปที่เครื่องดื่มและของว่าง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเอาเสียเลย เพราะเขาเดินลงสระว่ายน้ำและตรงดิ่งมาหาเธอในทันที
ตอนที่ : 59 ปล่อยวาง 2 “อยากไหม จูบน่ะ” เจอคำถามจี้ใจดำกับสายตาประกายหยาดเยิ้ม วธุกาเลยต้องก้มหน้าลงต่ำจนปากนุ่มแตะกับริมฝีปากหนาของสามี เพียงเท่านั้นท้ายทอยของเธอก็ถูกเขารั้งเอาไว้แน่น แล้วแทรกชิวหาอุ่นซ่านเข้าหาอย่างรวดเร็ว จูบของเขาช่างหอมหวานละมุนละไม อ่อนนุ่มนาบเนิบตามความปรารถนา เนิ่นนานพอสมควรก่อนที่ทั้งคู่จะผละออกจากกัน ริมฝีปากของวธุกามันวับจนเขาต้องยกมือขึ้นเช็ดป้ายให้“หวานมากคุณวาท”“ปากคนนะคะไม่ใช่น้ำตาล” “เอางี้ดีไหมคุณวาท ครั้งนี้ถือว่าเรามาฮันนีมูนกันรอบสองดีไหม บรรยากาศให้ด้วยดูสิท้องฟ้าสีสวย ทะเลก็แสนงาม มีหาดทรายสีขาวนวลพร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัว ให้นึกถึงวันที่เราฮันนีมูนกันคุณว่าไหม” “จะดีเหรอคะ” 
ตอนที่ : 58 ปล่อยวาง22ปล่อยวาง สองเดือนหลังจากนั้นวธุกาก็ได้รับข่าวร้าย บิดาของเธอได้เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งไม่ได้มีการแจ้งอาการป่วยของท่านมาก่อนหน้านี้ แต่มีโทรศัพท์มาที่บ้านยายนวลน้อยในวันที่ท่านเสียไปแล้ว นางอารตีบ่นแล้วบ่นอีกเพราะบิดาของวธุกาไม่เคยติดต่อมาถามไถ่ข่าวคราวลูกสาวเลย แต่พอเสียชีวิตลงฝ่ายภรรยาใหม่ก็โทรศัพท์มาบอกเสียอย่างนั้น “ไม่ตายก็ไม่โทรมานะคะคุณแม่ นึกว่าลืมเบอร์โทรไปแล้วที่ไหนได้... แสดงว่าตั้งใจทอดทิ้งยัยวาทชัดๆ” “เขาเป็นพ่อลูกกัน แกก็จะอะไรนักหนายัยตี”&
ตอนที่ : 57 ผลผลิตจากการขโมย 2 “มิน่าล่ะ ผมก็สงสัยทำไมคืนนั้นเมียผมถึงได้เร่าร้อนนักนะ รุกผมทั้งคืนเลย ที่ไหนได้ก็มีแผนอันพิลึกพิลั่นแบบนี้นี่เอง” เขาโคลงตัวไปมาเบาๆ พร้อมกับขำในเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต “ก็ต้องโทษคุณนั่นแหละที่ไม่ยอมมีลูกกับฉันเอง ก็เลยต้องใช้เล่ห์กลอุบายกันบ้าง มีเท่าไหร่ก็งัดใส่ทั้งหมด ดูซิ เคยอ่อยใครที่ไหนล่ะ แล้วยังจะทำเรื่องแบบนั้นอีก ไม่ด้านพอทำไม่ได้นะนั่น” หญิงสาวประชดประชันตัวเองไปพร้อม ดันตัวออกห่างเพียงเล็กน้อยเพื่อที่จะได้มองสบสายตากับเขาได้ถนัด “ผมขอเดานะว่าความคิดนี้คุณนนท์นทีต้องมีส่วนร่วมด้วยใช่ไหม ลำพังคุณคงไม่คิดได้ประหลาดขนาดนี้” “ก็พูดไปนั่น ความจริงฉันตั้งใจจะไปขออสุจิที่โรงพยาบาล แต่นนท์เขาแนะ
ตอนที่ : 56 ผลผลิตจากการขโมย21ผลผลิตจากการขโมย เสียงร้องไห้กระซิกๆ ของคนที่อยู่หลังโต๊ะตรงจุดบริการ ทำให้วธุกาต้องชะโงกหน้าเข้าไปมองด้วยความสงสัย พบประชาสัมพันธ์สาวสวยของวิเนตย์ธารารีสอร์ตกำกระดาษทิชชูเพื่อซับคราบน้ำตาอยู่ ท่าทางเหมือนคนกำลังเสียอกเสียใจอย่างรุนแรง “ดาเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” วธุการีบเข้าไปถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ตั้งแต่รู้จักศิรดามาหญิงสาวก็ร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ “ฮะ...ฮึก ฮือ คุณวาท ฮือๆ” คนร้องเงยหน้าขึ้นมามองแล้วสะอื้นฮักๆ อย่างน่าสงสาร ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่อีกคน “แล้วกัน ยิ่งร้องใหญ่เ