Share

chapter 11

last update Last Updated: 2025-01-03 14:27:18

“หากเจ้าสามารถรักษาท่านแม่ทัพให้หายดีได้...จะให้ข้าเป็นม้า เป็นข้ารับใช้เจ้าไปตลอดชีวิตก็ได้ทั้งนั้น แล้วแต่เจ้าจะต้องการ”

“ข้าจะทำเช่นนั้นไปทำไม ให้ท่านอยู่ใกล้ ข้าหายใจออก เอาเงินมิดีกว่าหรือไง อยากได้อะไรก็จะได้ซื้อได้ ดีกว่าที่ท่านกล่าวมาเป็นไหน ๆ ” ในเมื่อเขาอยากที่จะพาท่านแม่หนีไปให้ไกลจากคนพวกนั้น สิ่งที่จำเป็นที่สุดก็คือ...การมีเงินให้เพียงพอคือสิ่งที่ดีที่สุดในยามนี้

“มิถามเรื่องนี้แล้วก็ได้ ถ้าเช่นนั้นข้าขอให้ท่านช่วยหาเตียงเล็ก ๆ มาให้ข้าสักหลัง เอามิต้องใหญ่นะ แต่ให้นอนสบาย”

“จะเอามาทำไม ห้องที่ข้าจัดให้พักมิดีเพียงพอหรือไง”

“ท่านนี่นะ...จะให้ข้ารักษานายของท่านโดยมิรู้อะไรเลยหรืออย่างไรกัน ข้าต้องอยู่ดูแลสังเกตอาการนายของท่านอย่างใกล้ชิดสิ จะได้จัดอาหารให้กินอย่างถูกต้อง จะได้หายเร็ว ๆ มิดีหรืออย่างไร”

“ได้! ต้องการสิ่งใดก็บอกมา”

“ขอพื้นที่สำหรับปลูกผัก” คิดว่าคนบนเตียงคงจะมิหายภายในสามวันเจ็ดวันเป็นแน่ เดือนหนึ่งก็คิดว่าน่าจะยังเร็วด้วยซ้ำ ในเมื่อจำเป็นต้องอยู่นาน ผักหญ้าที่เตรียมเอาไว้ก็คงจะมิเพียงพอ เขาจำเป็นต้องรีบจัดหามาเพิ่มให้เพียงพอและอย่างเร็วที่สุดด้วย

“ส่วนจะปลูกสิ่งใด ข้าคงต้องรบกวนให้ท่านพาไปหาซื้อเมล็ดพันธุ์ อ๋อ...ยังมีอีกหลายที่จำเป็นต้องใช้ ข้าจะค่อย ๆ บอกให้ท่านรู้และจัดหามาให้ ส่วนตอนนี้นายของท่านน่าจะนอนหลับอีกยาว ข้าจะไปปรุงอาหารเตรียมไว้ให้เขากินก่อน”

จะทำอันใดให้คนผู้นี้กินดีนะ...ต้องมีรสชาติดี หอมและอร่อย ที่สำคัญคือคนที่หลับอยู่ทานได้ง่าย ๆ หน่อย เอาเป็น...ไปถึงห้องครัวก่อนแล้วค่อยคิดละกัน

หลังจากที่ทานอาหารที่เขาปรุง...วันที่หนึ่งกับสองดูเหมือนว่าทุกอย่างคงเงียบสงบ มิมีการเคลื่อนไหวใด ๆ ทั้งสิ้น จนเก้าเทียนรุ่ยรู้สึกผิดหวังมิน้อยที่มิอาจทำให้ท่านแม่ทัพฟื้นขึ้นมาได้ หากในวันที่สามและสี่...เขารู้สึกเหมือนกับว่าถูกใครบางคนเฝ้ามองอยู่ มันเป็นความรู้สึกอึดอัดและกดดัน หายใจมิสะดวกเอาเสียเลีย ทว่าในวันที่ห้ากับหกมันคล้ายกับมีบางอย่างเคลื่อนไหว หากเมื่อมองหาแล้วก็มิเห็นว่าจะมีสิ่งใดผิดปกติไปหรือเขาจะคิดมากไป...

เก้าเทียนรุ่ยได้แต่บ่นพึมพำขณะประคองถาดใส่น้ำผักเคี่ยวที่มีตัวยาบางอย่างที่เขาบอกตามตรงว่ามิรู้จัก หากได้มาเมื่อตอนที่ไปร้านยานั่นแหละ ทุกครั้งที่เขาทำการรักษาใครสักคน จะมีเสียงดังจากในหัว บอกว่าให้ทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้ ให้ไปร้านยาแล้วบอกผู้ขายว่าให้เอาสิ่งใด นำทุกอย่างมาเคี่ยวกับผักที่เขาปลูก เคี่ยวจากน้ำห้าถ้วยให้เหลือเพียงแค่ถ้วยเดียว

“นี่ก็ย่างเข้าวันที่เจ็ดแล้ว ท่านควรจะฟื้นได้แล้วสิ” 

หากลงมือทำถึงขนาดนี้แล้ว ผลที่คิดไว้ยังมิเป็นอย่างที่หวัง...เห็นทีเขาคงจะต้องขอยอมแพ้ ด้วยตอนนี้ในสมองมันหมดความคิดแล้วล่ะ แต่...มันจะมิมีสิ่งใดเกิดขึ้นเลยหรืออย่างไรกัน มันมิน่าจะเป็นไปได้นะ

เก้าเทียนรุ่ยขมวดคิ้วเข้าหากัน แม้ขณะเดินไปยังห้องของท่านแม่ทัพ ในหัวก็ยังคิดทบทวนว่าตลอดหกวันที่ผ่านมาจนถึงวันนี้คนบนเตียงมีสิ่งใดผิดแปลกไปบ้าง

นอกจากมีน้ำมีนวลขึ้นมานิดหนึ่ง หากอย่างอื่นก็มิมีเลยนี่น่า...มิเพียงแค่นั้น กลิ่นที่เคยสัมผัสได้เมื่อวันแรกที่มาถึงก็ยังมิมีด้วย...มิใช่สิ มันก็มีอยู่นะ กลิ่นที่บางเบาแตะปลายจมูกเล็กน้อย

ยามได้สัมผัสกับกลิ่นนั้น เกิดสิ่งใดขึ้นบ้างนะ อ๋อ...ใช่แล้ว เขารู้สึกเหมือนกับว่าถูกใครบางคนจ้องมอง หรือว่า...กลิ่นพวกนั้นจะสัมพันธ์กับการเคลื่อนไหว ถ้าได้กลิ่นแสดงว่าจะต้องเกิดอันใดขึ้นสักอย่างกับคนผู้นี้!

ถ้าเช่นนั้น...ต้องรีบไปถามท่านรองแม่ทัพให้รู้ จะได้แวะไปหาท่านแม่ด้วย ป่านนี้คงจะเป็นห่วงเขามากแล้ว แต่ก่อนจะไปเขาก็ต้องทำหน้าที่ของตนเองให้เสร็จสิ้นเสียก่อนสินะ...เพราะของที่อยู่ในถ้วยควรจะกินตอนที่ยังอุ่น ๆ อยู่ หากเย็นลงไปผลที่จะได้รับมันก็จะน้อยลงไป

“ท่านนี่นะ...มัวแต่นอนหลับได้หลับดี ทำให้ผู้อื่นเขาเดือดร้อนมากเท่าไหร่แล้ว” เก้าเทียนรุ่ยอดที่จะบ่นขณะจิ้มนิ้วลงไปบนอกคนที่นอนอยู่ไม่ได้

“รู้บ้างไหม...ถึงที่นี่จะสบายอยู่มิน้อย จะทำสิ่งใดก็มีคนทำให้ ปลูกผักก็มีคนรดน้ำพรวนดินให้ คอยดูแลจัดการกับพวกหญ้าและแมลงให้ อยากได้สิ่งใด รู้ก็มีคนไปหามาให้ หากมิรู้จักว่าเป็นสิ่งใดก็ยังมีคนพาไปหา...หากข้าก็มิอยากอยู่ที่นี่นาน มันมิมีค่อยอิสระ จะไปไหน จะทำอะไรก็มีคนคอยดูอยู่”

จะว่าไป...ก่อนจะให้ท่านแม่ทัพกินในสิ่งที่เขาทำมา มันควรจะมีอะไรสักอย่างกระตุ้นสักหน่อย...หรือเปล่า

ลองคิดดูแล้ว หากเขาเป็นเช่นบุรุษผู้นี้ นอนอย่างกับผักแห้งเหี่ยวรอวันเขาเอาไปทิ้ง หากยังคงมีจิตใจจิตวิญญาณอยู่ก็คงจะพยายามต่อสู้ทุกวิถีทางเพื่อให้ตนเองนั้นลืมตาตื่นขึ้นมา หากเมื่อทำด้วยตนเองมิได้...เขาในฐานะคนที่คอยดูแลในตอนนี้นะ ควรจะต้องช่วยให้ร่างกายนี้ได้มีความเคลื่อนไหวบ้างสินะ มิเช่นนั้นหากเมื่อฟื้นขึ้นมาก็คงต้องนอนบนเตียงเพราะกล้ามเนื้อไม่มีแรงไปอีกนาน ถ้าเช่นนั้นก็...

“ข้าจะทำให้ร่างกายท่านเคลื่อนไหวกับชวนท่านคุยนะ...เริ่มจากอะไรก่อนดี เอาเป็นมือละกันเนอะ ข้าจะยกแขนท่านขึ้นข้างละสิบครั้ง” เก้าเทียนรุ่ยเริ่มต้นทำอย่างช้า ๆ จนเสร็จสิ้นไปข้างหนึ่ง หากเมื่อกำลังจะเริ่มอีกข้างที่เขาจำต้องชะโงกตัวไปเพื่อจับแขนที่ดำราวกับถูกไฟเผายกขึ้น เพราะมัวแต่มุ่งมั่นจะทำเลยมิได้สังเกตว่าปลายนิ้วของมือข้างที่ถูกยกขึ้นเมื่อครู่มีการเคลื่อนไหวที่มาพร้อมกับ...

นี่มัน...กลิ่นนั้นนี่น่า หรือสิ่งที่เขาทำลงไปจะทำให้คนผู้นี้...เก้าเทียนรุ่ยรีบหันไปดู หากสิ่งที่ได้เห็นกลับทำให้ร่างกายแข็งทื่อเหมือนกับท่อนไม้

ใช่! บุรุษที่นอนมิไหวติงมานานลืมตาขึ้นแล้วจริง หากในดวงตานั้นมิเหมือนของผู้คนทั่วไป ด้วยว่าใบหน้าที่เป็นสีน้ำตาลราวแห้งราวกับต้นไม้ที่ยืนตนตายและในดวงตาเต็มไปด้วยหมอกที่ขาวโพลน ดูอย่างไรก็มิเหมือนคน!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 124 - จบ

    “แล้วเด็กสองคนนั้น” เสวียนลิ่วหลางเอ่ยถามเพราะหนานชวนส่งข่าวให้รู้บ้างแล้ว“ดูเป็นเด็กดีอยู่ขอรับ” นับตั้งแต่ที่เขาอยู่กับเสวียนลิ่วหลางมา มิเพียงแค่ร่างกายที่เปลี่ยนไป หากรับรู้ว่าภายในกายเริ่มมีพลังลมปราณมากพอที่จะสัมผัสได้ว่าใครมีวรยุทธ์และพอจะมองออกว่าผู้ใดมาดีหรือร้าย ทำให้มองออกว่าเด็กน้อยสองคนเป็นเด็กดีจริง ๆ จึงยินดีเป็นอย่างมากที่มารดามีคนดี ๆ มาคอยดูแล“แล้วท่านพี่ละขอรับ พบเจอเรื่องใดหรือไม่”หากเสวียนลิ่วหลางมิทันจะได้บอกกล่าวเรื่องที่ได้ไปตรวจสอบมา...มิได้มีสิ่งใดร้ายแรง ก็เป็นพวกมารปลายแถวกับเผ่าปีศาจที่มิชอบหน้ากันมาทะเลาะกัน แล้วกลุ่มจอมยุทธ์รุ่นใหม่เขาอยากแสดงว่าตนมีฝีมือเท่านั้น ก็มีบางคนเดินเข้ามา“มาทำไม” เสวียนลิ่วหลางเอ่ยเสียงเข้มดุ หากเด็กน้อยตรงหน้ากลับมิสนใจแล้วยังจะส่งยิ้มให้กับเก้าเทียนรุ่ยเพื่อยั่วโทสะยักษ์ใหญ่ตรงหน้าอีกด้วย“มิได้มาหาเจ้าเสียหน่อย มาหานั่น...” ปากเล็กสีแดงสดบุ้ยใบ้ไปทางเก้าเทียนรุ่ย “ต่างหากล่ะ...คิดถึงมากเลย”“ที่นี่เรือนข้า...ไปคิดถึงไกล ๆ หากมิอยากถูกจับโยนออกไป”“กล้ารึ...ข้าพี่ชายสองนะ เจ้ากล้าทำร้ายพี่ชายเมียเจ้ารึ”“ฮึ! พี่ชายที่นอก

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 123

    “อึก...อ้ายฉี!” ชิงชวนร้องเรียกด้วยความเกรี้ยวกราดเพราะยังมิทันได้เตรียมกายรับอ้ายฉีก็แทรกแท่งใหญ่ร้อนเข้ามาอย่างรวดเร็ว แล้วยังจะหัวเราะร่าพร้อมกับกลั่นแกล้งเขาด้วยการขยับกายออกแล้วเคลื่อนกลับเข้าไปใหม่จนสุด“ไอ้เจ้าบ้าอ้ายฉี!”“อา...ข้ามันคนบ้านี่น่า เขาว่าคนบ้าทำอะไรก็มิผิด” ว่าแล้วอ้ายฉีก็เร่งเคลื่อนกายจู่โจมเข้าในพื้นที่เร้นลับของชิงชวนอย่างหนักหน่วงซ้ำแล้วซ้ำเล่า...จากนุ่มนวลกลับเป็นรุนแรงเมื่อถูกผนังอ่อนนุ่มบีบรัด“เจ้าว่า...ข้าจะบ้าได้มากกว่านี้ไหมอาชวน”“หยุดทำอย่างที่เจ้าคิดเลยนะอ้ายฉี” ชิงชวนห้ามปรามเมื่อพอจะรู้ว่าอีกฝ่ายคิดทำการสิ่งใด เขามิอยากเดินออกจากห้องพักอย่างอับอายเพราะถูกอีกฝ่ายจับกดจนเตียงพังอย่างเช่นโรงเตี้ยมที่ก่อนหน้าอ้ายฉีเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยขณะกล่าวออกไป “ข้ายังมิได้คิดอะไรสักหน่อย”“ฮึ! เจ้าอย่าคิดว่าข้าจะมิล่วงรู้ ข้าอยู่กับเจ้ามานานเท่าใดแล้ว ยามนี้หากมิใช่เพราะคิดว่าเดินทางกันพอแล้วกับในยุทธภพมีเรื่องมากมายชวนปวดหัว คิดว่าเจ้ากับข้าจะคิดกลับไปหาท่านแม่ทัพ...นายท่านกับคุณชายหรือไงกัน”“ครั้งนี้ข้ายอมก็ได้” หากมิใช่เพราะจะทำให้ชิงชวนอับอาย แต่เขาสัมผัสได้ว

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 122

    “ใบหน้าเมียข้ายามนี้ช่างงดงามเหลือเกิน เร่งอีกหน่อยสิท่านพี่ ข้าอยากได้ยินเสียงร้องของอาเหว่ย” จวินต้าเกอเอ่ยยามทอดสายตามองใบหน้าที่แสดงออกถึงความสุขสมยามถูกกระแทกด้วยความต้องการ“ได้สิน้องข้า” เฮยต้าเกอตอบรับ ผนังอ่อนนุ่มช่างบีบรัดเสียจนเขาถึงหายใจหอบแรงทำให้เขาขยับโยกกายด้วยความหนักหน่วงรุนแรงตามความต้องการที่มันเพิ่มมากขึ้น...และมากขึ้นจางเหว่ยสัมผัสได้ถึงกระแสความร้อนที่ไหลพุ่งเข้าสู่ร่างกายพร้อมกับเสียงครางของเฮยต้าเกอ ก่อนคลื่นความร้อนครั้งใหม่จะถาโถมเข้าหา“ข้าถูกพี่ใหญ่กลั่นแกล้ง แล้วยังจะต้องพาหมูป่ากลับมา ระหว่างทางก็ยังจะพลัดตกลงไปในแม่น้ำด้วย กว่าจะถึงบ้านก็เหนื่อยมิใช่น้อย เมียข้าช่วยปลอบโยนข้าหน่อยนะ” จวินต้าเกอเอ่ยขณะสองมือใหญ่ลูบคลำไปทั่วร่างกายพร้อมกับใช้แท่งใหญ่ยักษ์ของตนเองกดรุกล้ำเข้าไปในร่องทางด้านหลังของจางเหว่ยยามถูกผนังอบอุ่นห่อหุ้มและรัด ความต้องการของจวินต้าเกอก็เพิ่มมากขึ้น เขาขยับกายตัวราวกับพายุฝนที่กำลังกระหน่ำสาดซัดอย่างรุนแรง“หากเมียข้ายังจะทำสีหน้าเช่นนั้น...วันนี้เราคงจะมิได้ไปหานายท่านกับคุณชายเป็นแน่” เฮยต้าเกอกล่าวขณะวางมือลูบไล้บนอกเมียรัก“ข้า

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 121

    “ท่าน...ท่านพี่” จางเหว่ยเอ่ยทักสองบุรุษที่เดินเข้ามาในบ้านเสียงแผ่วเบา ด้วยอย่างไรเขาก็ยังมิชินกับการเป็นฟูเหรินของบุรุษด้วยกัน แต่มิใช่เพราะเขาจำต้องผูกพันธสัญญาหรือมิเต็มใจอยู่กับกระทิงสองพี่น้องหรอกนะ แต่เพราะใจของเขาก็รู้สึกดีกับทั้งสองคนอยู่มิน้อย ยิ่งเมื่อผ่านพ้นค่ำคืนผูกพันธสัญญาไปแล้ว เฮยต้าเกอและจวินต้าเกอก็ดูแลเขาอย่างดี“มิสบายหรือเมียข้า” เฮยต้าเกอเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง“ข้ามิได้เป็นอะไร หากแต่ท่านพี่กับท่านพี่จวิน เหตุใดถึงได้กลับมาเรือนเร็วเช่นนี้ ยังมิทันจะเที่ยงเลย ท่านมิสบาย...บาดเจ็บใช่หรือไม่” จางเหว่ยเอ่ยถามพลางมองดูว่าบุรุษตรงหน้ามีบาดแผลที่ส่วนใดของร่างกายบ้าง“มิได้เป็นเช่นนั้น วันนี้โชคดี ได้หมูป่าตัวใหญ่มา เลยคิดกันว่ารีบกลับบ้านจะดีกว่า หมูป่าตัวใหญ่เช่นนี้ถ้าได้นั่งล้อมวงกินกันหลาย ๆ คนคงจะดีมิใช่น้อย อาเหว่ยอยากพามันไปกินกับนายท่านกับคุณชายหรือไม่” เฮยต้าเกอกล่าวถึงเสวียนลิ่วหลางกับเก้าเทียนรุ่ย“แต่กว่าท่านพี่จะจับมันได้...มิง่ายเลยนะขอรับ” แม้จะดีใจที่กระทิงสองพี่น้องยังคิดถึงความรู้สึกของเขา“สัตว์มีอยู่เต็มป่า จะจับเมื่อไหร่ก็ได้ แต่นายที่ดีอย่างนายท่

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 120

    “อ่า...รอค่ำคืนนี้ก่อนนะเมียรักของข้า รุ่งสางแล้วเราต้องเร่งทำเวลา” ยามนี้จวนแม่ทัพยังมีงานให้เขาทำอยู่ อีกทั้งยังบางคนที่มิอยากให้เขาออกไปใช้ชีวิตที่อื่นก็มาคอยอ้อนวอนขอร้อง“อื้อ...” เก้าเทียนรุ่ยรับคำก่อนจะยกตนเองขึ้นเพื่อตอบรับเจ้ายักษ์ใหญ่ที่ค่อย ๆ สอดดันเข้ามาในร่างก่อนจะถอนออกอย่างเชื่องช้า แล้วย้อนกลับเข้ามาอีกครั้ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกครั้งจะลึกขึ้นเรื่อย ๆร่างเล็กบางไหวโยกตามแรงเคลื่อนไหว ผนังด้านในรับรู้สึกแท่งร้อนที่บุกรุกเข้ามาในกายครั้งแล้วครั้งเล่า บ้างก็เชื่องช้า บ้างก็รวดเร็ว“ท่านพี่”ใบหน้าแดงระเรื่อของเก้าเทียนรุ่ย ดวงตากลมใสที่ยามนี้ฉายแววปรารถนาอย่างชัดเจนทำให้เสวียนลิ่วหลางยิ่งถาโถมแท่งร้อนบุกรุกเข้าไปในพื้นที่หวงห้ามด้วยความปรารถนาที่รุนแรง เสียงสะท้อนของร่างกายที่กระทบกันดังทั่วห้องเช่นเดียวกับเสียงหอบของสองคนที่ดำดิ่งกับความใกล้ชิดเสวียนลิ่วหลางพลิกกายบางให้ลงนอนคว่ำ ใบหน้าเก้าเทียนรุ่ยแนบกับหมอนหนุน แขนแกร่งสอดรัดเอวเล็กขณะกดสะโพกพาแท่งเหล็กร้อนให้ดำดิ่งสอดแทรกไปในช่องทางที่อ่อนนุ่มครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนเสียงคำรามจะแผดดังขึ้นพร้อมกระแสความร้อนไหลพุ่งเข้าสู่

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 119

    “เอาเป็นข้า...” เด็กน้อยเคลื่อนไหวกายเพียงเล็กน้อยแต่กลับรวดเร็วเสียจนแทบจะมองมิทัน เพียงแค่มิถึงหนึ่งจิบชาดูเหมือนว่าทุกคนที่ยังคงอ่อนแรงยกเว้นเสวียนลิ่วหลางก็ดีขึ้น“ข้าช่วยพวกเจ้าได้เพียงแค่นี้ ส่วนที่เหลือก็เป็นเรื่องของพวกเจ้าเองแล้ว”“เดี๋ยว!” เก้าเทียนรุ่ยร้องเรียกเด็กน้อยตรงหน้าที่หันกายจะจากไป“มีอะไรอีก ข้ามิได้คิดร้ายกับพวกเจ้านะ”“เปล่า ข้ามิได้คิดเช่นนั้น แต่...” เก้าเทียนรุ่ยขบเม้มปากเข้าหากัน มิรู้ว่ามันเป็นความรู้สึกของเขาเองหรือเปล่าที่รู้สึกคุ้นเคยกับเด็กน้อยตรงหน้าประมาณหนึ่ง จนมันอดที่จะคิดมิได้“หากเจ้ามิพูดอะไร ข้าจะไปแล้วนะ”“เจ้า...คุณเป็นหนึ่ง” เก้าเทียนรุ่ยเอ่ยเสียงแผ่วเบา“หือ...” คิ้วของเด็กน้อยเลิกขึ้น“ใช่หรือไม่”เด็กน้อยคลี่ยิ้ม ก่อนจะเอ่ยออกไปว่า “จะใช่หรือมิใช่ จะมีสิ่งใดแตกต่างไปล่ะ ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมิอาจย้อนกลับไปแก้ไขสิ่งใดได้แล้ว เจ้านั่นแหละ...ได้โอกาสแล้วก็ใช้ชีวิตนับจากนี้ไปให้มีความสุขเถอะ” กล่าวจบเด็กน้อยที่มิบอกกล่าวให้ทุกคนรู้เป็นผู้ใดจากไปพร้อมกับร่างของเสวียนลิ่วหลางที่ทรุดล้มลงศีรษะแนบชิดกับลำคอเก้าเทียนรุ่ย“ท่านพี่!”“ท่านแม่ทัพ!”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status