Share

chapter 10

last update Last Updated: 2025-01-03 14:24:49

ก็มิได้มีสิ่งใดให้น่าแปลกใจ ความรู้สึกแรกเมื่อเขาเดินเข้ามาในห้องนี้ หากก็ยังมีกลิ่นที่ทำให้เขาต้องรีบใช้สัมผัสที่มีหาที่มาของมัน หากมันก็เป็นเพียงแค่สูดลมหายใจเข้าหนึ่งครั้งเท่านั้นก่อนที่ทุกอย่างจะเลือนหายไปราวกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเขาเพียงแค่คิดมากไปเอง

มีอีกสิ่งที่เก้าเทียนรุ่ยสัมผัสได้หลังจากที่เดินเข้ามาในห้องนี้...มันร้อนอบอ้าวและความแห้งแล้งที่มันทำให้นึกถึงความแห้งแล้งเหมือนอยู่ในทะเลทราย ก่อนที่เขาจะได้พบกับ...

อึ้ง!!! และกลัวจนตัวสั่นเมื่อเห็นผู้ที่นอนอยู่บนเตียง จนเผลอก้าวถอยไปด้านหลัง ไปยืนงุนงงอยู่ครู่ใหญ่ จึงได้เอ่ยปากไถ่ถามรองแม่ทัพที่ยังคงมิยอมเอ่ยปากกล่าวอันใด หากสายตาที่มองมายังเขาพร้อมกับบ่งบอก...

เป็นอย่างไรเล่า เจ้าก็เหมือนผู้อื่นที่มาทำการรักษา เพียงแค่เห็นก็ส่ายศีรษะไปแล้ว เมื่อตรวจดูก็รีบกล่าวเสียงสั่นด้วยความหวาดกลัว

“ขออภัย...ขออภัยด้วยท่านรองแม่ทัพ ความรู้ข้ายังน้อย มิอาจทำการรักษานายของท่านได้”

เจ้าเด็กเอ้อร์เอ๋อร์ปากดี...ก็คงจะเป็นเช่นเดียวกัน

เก้าเทียนรุ่ยมองบุรุษบนเตียงสลับกับรองแม่ทัพอยู่ครู่ใหญ่พร้อมกับความคิดที่ว่า...รองแม่ทัพผู้นี้เป็นบ้าไปแล้วใช่หรือไม่ ถึงได้ไปบังคับแกมข่มขู่ให้ข้ามารักษาคนที่ตายไปแล้วนะ แต่...เมื่อมองดี ๆ ก็เหมือนจะเห็นว่าคนบนเตียงถึงจะเหมือนคนตายหากคล้ายจะยังมีลมหายใจอยู่

เขาควรมั่นใจก่อนใช่ไหม บุรุษตรงหน้ายังมีชีวิตอยู่ มิใช่ว่าตายไปก่อนที่จะได้รักษา เขามิยอมรับความผิดที่ตนเองมิได้กระทำหรอกนะ 

เมื่อรู้ว่าต้องทำสิ่งใด เก้าเทียนรุ่ยก็รีบเดินเข้าไปมองบุรุษที่นอนแน่นิ่งมิไหวติง กวาดสายตามองตั้งแต่ศีรษะจรดร่างกายที่ผอมจนแทบจะเรียกได้ว่ามีเพียงแค่หนังที่ห่อหุ้มกระดูกเอาไว้ หากก็มีบางส่วนนูนขึ้นมาอยู่หลายจุด ดูเหมือนว่าผิวจะมีสีดำคล้ำและยังจะแห้งเกรียมด้วย มันเหมือนกับถูกดูดน้ำออกไปจนหมด แม้กระทั่งใบหน้าก็มิแตกต่างกันเลย

เกิดอะไรขึ้นกับคนผู้นี้กันเนี่ย!

หากเขาจะต้องทำการรักษา ก็ต้องมั่นใจก่อนว่ายังมีชีวิตอยู่ เก้าเทียนรุ่ยจึงรีบยื่นมือไปใกล้จมูกก็พบว่ายังมีลมหายใจอยู่ก็โล่งใจไปนิดหนึ่ง

“เจ้าคิดว่าจะรักษาได้หรือไม่”

เก้าเทียนรุ่ยเหลือบมองรองแม่ทัพ มือเล็กยกขึ้นลูบปลายคาง “น่าสนใจมาก...น่าสนใจยิ่งนัก”

“ว่าอย่างไร เจ้าสามารถรักษานายข้าได้หรือไม่”

เมื่อครู่ตอนที่เขาถาม...ก็อมพะนำมิยอมบอกกล่าว คราวนี้เก้าเทียนรุ่ยจึงแกล้งทำเป็นมิสนใจรองแม่ทัพหน้าตาย ขณะกวาดสายตามองบุรุษบนเตียงอย่างสนใจ

“เขา...เป็นแบบนี้มานานเท่าใดแล้ว ห้ามบอกว่ามิรู้หรือมิยอมบอกเรื่องใด ๆ ให้ข้ารู้ทั้งสิ้น หากมิเช่นนั้น...ข้ามิรักษานายของท่าน!” เก้าเทียนรุ่ยกล่าวอย่างเด็ดขาด ด้วยเรื่องนี้ร้ายแรงยิ่ง เขาต้องรู้เพื่อจะได้หาทางรักษาให้หายขาด

“เจ้า! เจ้ารักษาได้”

เก้าเทียนรุ่ยทำเพียงแค่เหลือบมองรองแม่ทัพอย่างมิใส่ใจ ด้วยว่าบุรุษที่อยู่เบื้องหน้ามีอะไรให้น่าสนใจมากกว่า

“เจ้ากล่าวจริงใช่ไหม”

“หนัก! ดูเหมือนว่าขาข้างก้าวล่วงสู่น้ำพุเหลืองไปแล้ว”

“นี่เจ้า!”

“ท่านนี่ช่าง...เร่งร้อนเสียจริง” เก้าเทียนรุ่ยส่ายศีรษะอย่างเหนื่อยหน่ายใจ “ท่านควรให้ข้ามีเวลาศึกษา วิเคราะห์อาการก่อนไหมล่ะ...ยามไถ่ถามก็มิยอมบอกอะไรสักอย่าง มาตอนนี้ก็เร่งเร้าจะเอาผลอีก ช่างน่ารำคาญเสียจริง” เขาเสแสร้งทำเป็นอาจารย์ผู้ปราดเปรื่องเรืองวิชา ทั้งที่ความจริงตอนนี้ในหัวมันว่างเปล่าไปเสียหมด ยังคิดมิออกเลยด้วยซ้ำว่าจะทำการเริ่มต้นรักษาคนผู้นี้ยังไง

“ นายของท่านเจอกับสิ่งใดมา ร่างกายถึงได้เป็นเช่นนี้ หากข้าก็ยังมิรับปากนะว่าจะหายเป็นปกติภายในเร็ววัน ต้องดูด้วยว่าเป็นเช่นนี้มานานแค่ไหนแล้ว”

“ท่านแม่ทัพบอกว่าปวดหัวมาตลอด จนเมื่อหลายเดือนก่อนก็ปวดอย่างรุนแรงจนถึงกับสงบไป หากมินานก็ฟื้นขึ้นมา เมื่อท่านหมอมาตรวจก็มิพบว่ามีสิ่งใดผิดปกติ”

“หากนายของท่านกลับปวดหัวมิยอมหาย...ปวดหนักขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเกิดขึ้น อารมณ์...ที่คงจะต้องรุนแรงขึ้น มีอาการอย่างอื่นร่วมด้วย อย่างอาเจียน ตาพร่า ปวดไปหมดทั้งตัว”

อันนี้บอกตามตรงว่าเขาคาดเดาเอาเองทั้งนั้น แต่คิดว่ามันคงจะต้องมีอาการคล้ายกับคนที่ปวดศีรษะอย่างปวดอยู่ข้างเดียว เหมือนถูกค้อนทุบ ปวดที่กระบอกตาจนลืมตาไม่ขึ้น บางครั้งก็อยากจะอาเจียนด้วย มันเป็นอาการที่เขาก็เคยเป็นยามเมื่อเจอเข้ากับอากาศที่มันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ยิ่งร้อนมากก็จะยิ่งเป็นหนัก อีกอย่างก็น่าจะคล้ายกับคนที่มีอะไรฝังอยู่ในหัว...มั้ง!

“ใช่ หากทุกครั้งที่ให้หมอมาทำการรักษา ก็มิพบว่ามีสิ่งใดผิดปกติไป”

“หากอาการก็ยังคงเป็นอยู่ มิหายสักที มีแต่จะหนักขึ้น”

“จนเมื่อหลายเดือนก่อน นายท่านปวดจนสลบไป...มิยอมฟื้น พวกข้าแยกย้ายกันจะสืบเสาะค้นหาหมอฝีมือดีจากทุกแห่งเพื่อมารักษา แต่ก็มิเคยมีผู้ใดรักษาได้ ยิ่งเมื่อนายของข้าร่างกายเปลี่ยนแปลงไป หมอทุกคนล้วนแล้วแต่ทอดถอนใจ บอกว่ามิอาจทำการรักษาได้ด้วยกันทั้งนั้น”

เก้าเทียนรุ่ยได้แต่พยักหน้ารับ หากฟังไปก็เท่านั้นแหละ การรักษาคนผู้นี้คงจะต้องเค้นเอาความคิดอันน้อยนิดที่มีอยู่ในหัวออกมาให้มากที่สุด หากจะช่วยได้หรือไม่ ก็คงต้องขึ้นอยู่ดวงชะตาของคนผู้นี้ด้วย

“เขาได้กินดื่มอะไรหรือไม่...ด้วยสภาพเช่นนี้ ในเมื่อยังรอดอยู่ อย่างน้อยท่านก็คงมีวิธีการบางอย่างที่ทำให้นายของท่านมีน้ำและอาหารตกถึงท้องบ้างแหละ...นอกจากนอนเป็นผักเช่นนี้แล้ว นายของท่านยังมีอาการอื่นอีกหรือไม่”

เก้าเทียนรุ่ยได้แต่ส่ายศีรษะเมื่อเห็นว่ารองแม่ทัพขมวดคิ้วเข้าหากันจนหน้าผากย่น “อย่าง...เคลื่อนไหวร่างกายโดยไม่รู้ตัวนะ” ที่เก้าเทียนรุ่ยคิดว่ามันอาจจะมีและเกี่ยวเนื่องกับกลิ่นที่เขาได้สัมผัสก่อนจะถึงห้องนี้

“ข้ามิรู้ว่าท่านปกปิดในสิ่งที่ข้าถาม หรือมิรู้จริง ๆ กันแน่ หากตอนนี้ข้ามีสองสามอย่างที่อยากจะรู้...ท่านดูแลท่านแม่ข้าดีแล้วใช่หรือไม่ ท่านได้กินอิ่ม ได้พักผ่อนในห้องที่ดีแล้วใช่ไหม” เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้ารับ เก้าเทียนรุ่ยก็ค่อยโล่งใจ แต่อย่างไรอีกสักครู่ก็ต้องไปดูท่านแม่ให้ท่านมั่นใจว่าเขายังปลอดภัยดี มิได้ถูก...รองแม่ทัพหน้าตายจับไปขังคุกอย่างที่ขู่เอาไว้ก่อนหน้า

“ข้าจะได้รับค่าปรุงอาหารให้นายของท่านเท่าไหร่”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 124 - จบ

    “แล้วเด็กสองคนนั้น” เสวียนลิ่วหลางเอ่ยถามเพราะหนานชวนส่งข่าวให้รู้บ้างแล้ว“ดูเป็นเด็กดีอยู่ขอรับ” นับตั้งแต่ที่เขาอยู่กับเสวียนลิ่วหลางมา มิเพียงแค่ร่างกายที่เปลี่ยนไป หากรับรู้ว่าภายในกายเริ่มมีพลังลมปราณมากพอที่จะสัมผัสได้ว่าใครมีวรยุทธ์และพอจะมองออกว่าผู้ใดมาดีหรือร้าย ทำให้มองออกว่าเด็กน้อยสองคนเป็นเด็กดีจริง ๆ จึงยินดีเป็นอย่างมากที่มารดามีคนดี ๆ มาคอยดูแล“แล้วท่านพี่ละขอรับ พบเจอเรื่องใดหรือไม่”หากเสวียนลิ่วหลางมิทันจะได้บอกกล่าวเรื่องที่ได้ไปตรวจสอบมา...มิได้มีสิ่งใดร้ายแรง ก็เป็นพวกมารปลายแถวกับเผ่าปีศาจที่มิชอบหน้ากันมาทะเลาะกัน แล้วกลุ่มจอมยุทธ์รุ่นใหม่เขาอยากแสดงว่าตนมีฝีมือเท่านั้น ก็มีบางคนเดินเข้ามา“มาทำไม” เสวียนลิ่วหลางเอ่ยเสียงเข้มดุ หากเด็กน้อยตรงหน้ากลับมิสนใจแล้วยังจะส่งยิ้มให้กับเก้าเทียนรุ่ยเพื่อยั่วโทสะยักษ์ใหญ่ตรงหน้าอีกด้วย“มิได้มาหาเจ้าเสียหน่อย มาหานั่น...” ปากเล็กสีแดงสดบุ้ยใบ้ไปทางเก้าเทียนรุ่ย “ต่างหากล่ะ...คิดถึงมากเลย”“ที่นี่เรือนข้า...ไปคิดถึงไกล ๆ หากมิอยากถูกจับโยนออกไป”“กล้ารึ...ข้าพี่ชายสองนะ เจ้ากล้าทำร้ายพี่ชายเมียเจ้ารึ”“ฮึ! พี่ชายที่นอก

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 123

    “อึก...อ้ายฉี!” ชิงชวนร้องเรียกด้วยความเกรี้ยวกราดเพราะยังมิทันได้เตรียมกายรับอ้ายฉีก็แทรกแท่งใหญ่ร้อนเข้ามาอย่างรวดเร็ว แล้วยังจะหัวเราะร่าพร้อมกับกลั่นแกล้งเขาด้วยการขยับกายออกแล้วเคลื่อนกลับเข้าไปใหม่จนสุด“ไอ้เจ้าบ้าอ้ายฉี!”“อา...ข้ามันคนบ้านี่น่า เขาว่าคนบ้าทำอะไรก็มิผิด” ว่าแล้วอ้ายฉีก็เร่งเคลื่อนกายจู่โจมเข้าในพื้นที่เร้นลับของชิงชวนอย่างหนักหน่วงซ้ำแล้วซ้ำเล่า...จากนุ่มนวลกลับเป็นรุนแรงเมื่อถูกผนังอ่อนนุ่มบีบรัด“เจ้าว่า...ข้าจะบ้าได้มากกว่านี้ไหมอาชวน”“หยุดทำอย่างที่เจ้าคิดเลยนะอ้ายฉี” ชิงชวนห้ามปรามเมื่อพอจะรู้ว่าอีกฝ่ายคิดทำการสิ่งใด เขามิอยากเดินออกจากห้องพักอย่างอับอายเพราะถูกอีกฝ่ายจับกดจนเตียงพังอย่างเช่นโรงเตี้ยมที่ก่อนหน้าอ้ายฉีเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยขณะกล่าวออกไป “ข้ายังมิได้คิดอะไรสักหน่อย”“ฮึ! เจ้าอย่าคิดว่าข้าจะมิล่วงรู้ ข้าอยู่กับเจ้ามานานเท่าใดแล้ว ยามนี้หากมิใช่เพราะคิดว่าเดินทางกันพอแล้วกับในยุทธภพมีเรื่องมากมายชวนปวดหัว คิดว่าเจ้ากับข้าจะคิดกลับไปหาท่านแม่ทัพ...นายท่านกับคุณชายหรือไงกัน”“ครั้งนี้ข้ายอมก็ได้” หากมิใช่เพราะจะทำให้ชิงชวนอับอาย แต่เขาสัมผัสได้ว

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 122

    “ใบหน้าเมียข้ายามนี้ช่างงดงามเหลือเกิน เร่งอีกหน่อยสิท่านพี่ ข้าอยากได้ยินเสียงร้องของอาเหว่ย” จวินต้าเกอเอ่ยยามทอดสายตามองใบหน้าที่แสดงออกถึงความสุขสมยามถูกกระแทกด้วยความต้องการ“ได้สิน้องข้า” เฮยต้าเกอตอบรับ ผนังอ่อนนุ่มช่างบีบรัดเสียจนเขาถึงหายใจหอบแรงทำให้เขาขยับโยกกายด้วยความหนักหน่วงรุนแรงตามความต้องการที่มันเพิ่มมากขึ้น...และมากขึ้นจางเหว่ยสัมผัสได้ถึงกระแสความร้อนที่ไหลพุ่งเข้าสู่ร่างกายพร้อมกับเสียงครางของเฮยต้าเกอ ก่อนคลื่นความร้อนครั้งใหม่จะถาโถมเข้าหา“ข้าถูกพี่ใหญ่กลั่นแกล้ง แล้วยังจะต้องพาหมูป่ากลับมา ระหว่างทางก็ยังจะพลัดตกลงไปในแม่น้ำด้วย กว่าจะถึงบ้านก็เหนื่อยมิใช่น้อย เมียข้าช่วยปลอบโยนข้าหน่อยนะ” จวินต้าเกอเอ่ยขณะสองมือใหญ่ลูบคลำไปทั่วร่างกายพร้อมกับใช้แท่งใหญ่ยักษ์ของตนเองกดรุกล้ำเข้าไปในร่องทางด้านหลังของจางเหว่ยยามถูกผนังอบอุ่นห่อหุ้มและรัด ความต้องการของจวินต้าเกอก็เพิ่มมากขึ้น เขาขยับกายตัวราวกับพายุฝนที่กำลังกระหน่ำสาดซัดอย่างรุนแรง“หากเมียข้ายังจะทำสีหน้าเช่นนั้น...วันนี้เราคงจะมิได้ไปหานายท่านกับคุณชายเป็นแน่” เฮยต้าเกอกล่าวขณะวางมือลูบไล้บนอกเมียรัก“ข้า

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 121

    “ท่าน...ท่านพี่” จางเหว่ยเอ่ยทักสองบุรุษที่เดินเข้ามาในบ้านเสียงแผ่วเบา ด้วยอย่างไรเขาก็ยังมิชินกับการเป็นฟูเหรินของบุรุษด้วยกัน แต่มิใช่เพราะเขาจำต้องผูกพันธสัญญาหรือมิเต็มใจอยู่กับกระทิงสองพี่น้องหรอกนะ แต่เพราะใจของเขาก็รู้สึกดีกับทั้งสองคนอยู่มิน้อย ยิ่งเมื่อผ่านพ้นค่ำคืนผูกพันธสัญญาไปแล้ว เฮยต้าเกอและจวินต้าเกอก็ดูแลเขาอย่างดี“มิสบายหรือเมียข้า” เฮยต้าเกอเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง“ข้ามิได้เป็นอะไร หากแต่ท่านพี่กับท่านพี่จวิน เหตุใดถึงได้กลับมาเรือนเร็วเช่นนี้ ยังมิทันจะเที่ยงเลย ท่านมิสบาย...บาดเจ็บใช่หรือไม่” จางเหว่ยเอ่ยถามพลางมองดูว่าบุรุษตรงหน้ามีบาดแผลที่ส่วนใดของร่างกายบ้าง“มิได้เป็นเช่นนั้น วันนี้โชคดี ได้หมูป่าตัวใหญ่มา เลยคิดกันว่ารีบกลับบ้านจะดีกว่า หมูป่าตัวใหญ่เช่นนี้ถ้าได้นั่งล้อมวงกินกันหลาย ๆ คนคงจะดีมิใช่น้อย อาเหว่ยอยากพามันไปกินกับนายท่านกับคุณชายหรือไม่” เฮยต้าเกอกล่าวถึงเสวียนลิ่วหลางกับเก้าเทียนรุ่ย“แต่กว่าท่านพี่จะจับมันได้...มิง่ายเลยนะขอรับ” แม้จะดีใจที่กระทิงสองพี่น้องยังคิดถึงความรู้สึกของเขา“สัตว์มีอยู่เต็มป่า จะจับเมื่อไหร่ก็ได้ แต่นายที่ดีอย่างนายท่

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 120

    “อ่า...รอค่ำคืนนี้ก่อนนะเมียรักของข้า รุ่งสางแล้วเราต้องเร่งทำเวลา” ยามนี้จวนแม่ทัพยังมีงานให้เขาทำอยู่ อีกทั้งยังบางคนที่มิอยากให้เขาออกไปใช้ชีวิตที่อื่นก็มาคอยอ้อนวอนขอร้อง“อื้อ...” เก้าเทียนรุ่ยรับคำก่อนจะยกตนเองขึ้นเพื่อตอบรับเจ้ายักษ์ใหญ่ที่ค่อย ๆ สอดดันเข้ามาในร่างก่อนจะถอนออกอย่างเชื่องช้า แล้วย้อนกลับเข้ามาอีกครั้ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกครั้งจะลึกขึ้นเรื่อย ๆร่างเล็กบางไหวโยกตามแรงเคลื่อนไหว ผนังด้านในรับรู้สึกแท่งร้อนที่บุกรุกเข้ามาในกายครั้งแล้วครั้งเล่า บ้างก็เชื่องช้า บ้างก็รวดเร็ว“ท่านพี่”ใบหน้าแดงระเรื่อของเก้าเทียนรุ่ย ดวงตากลมใสที่ยามนี้ฉายแววปรารถนาอย่างชัดเจนทำให้เสวียนลิ่วหลางยิ่งถาโถมแท่งร้อนบุกรุกเข้าไปในพื้นที่หวงห้ามด้วยความปรารถนาที่รุนแรง เสียงสะท้อนของร่างกายที่กระทบกันดังทั่วห้องเช่นเดียวกับเสียงหอบของสองคนที่ดำดิ่งกับความใกล้ชิดเสวียนลิ่วหลางพลิกกายบางให้ลงนอนคว่ำ ใบหน้าเก้าเทียนรุ่ยแนบกับหมอนหนุน แขนแกร่งสอดรัดเอวเล็กขณะกดสะโพกพาแท่งเหล็กร้อนให้ดำดิ่งสอดแทรกไปในช่องทางที่อ่อนนุ่มครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนเสียงคำรามจะแผดดังขึ้นพร้อมกระแสความร้อนไหลพุ่งเข้าสู่

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 119

    “เอาเป็นข้า...” เด็กน้อยเคลื่อนไหวกายเพียงเล็กน้อยแต่กลับรวดเร็วเสียจนแทบจะมองมิทัน เพียงแค่มิถึงหนึ่งจิบชาดูเหมือนว่าทุกคนที่ยังคงอ่อนแรงยกเว้นเสวียนลิ่วหลางก็ดีขึ้น“ข้าช่วยพวกเจ้าได้เพียงแค่นี้ ส่วนที่เหลือก็เป็นเรื่องของพวกเจ้าเองแล้ว”“เดี๋ยว!” เก้าเทียนรุ่ยร้องเรียกเด็กน้อยตรงหน้าที่หันกายจะจากไป“มีอะไรอีก ข้ามิได้คิดร้ายกับพวกเจ้านะ”“เปล่า ข้ามิได้คิดเช่นนั้น แต่...” เก้าเทียนรุ่ยขบเม้มปากเข้าหากัน มิรู้ว่ามันเป็นความรู้สึกของเขาเองหรือเปล่าที่รู้สึกคุ้นเคยกับเด็กน้อยตรงหน้าประมาณหนึ่ง จนมันอดที่จะคิดมิได้“หากเจ้ามิพูดอะไร ข้าจะไปแล้วนะ”“เจ้า...คุณเป็นหนึ่ง” เก้าเทียนรุ่ยเอ่ยเสียงแผ่วเบา“หือ...” คิ้วของเด็กน้อยเลิกขึ้น“ใช่หรือไม่”เด็กน้อยคลี่ยิ้ม ก่อนจะเอ่ยออกไปว่า “จะใช่หรือมิใช่ จะมีสิ่งใดแตกต่างไปล่ะ ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมิอาจย้อนกลับไปแก้ไขสิ่งใดได้แล้ว เจ้านั่นแหละ...ได้โอกาสแล้วก็ใช้ชีวิตนับจากนี้ไปให้มีความสุขเถอะ” กล่าวจบเด็กน้อยที่มิบอกกล่าวให้ทุกคนรู้เป็นผู้ใดจากไปพร้อมกับร่างของเสวียนลิ่วหลางที่ทรุดล้มลงศีรษะแนบชิดกับลำคอเก้าเทียนรุ่ย“ท่านพี่!”“ท่านแม่ทัพ!”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status