Share

chapter 12

last update Последнее обновление: 2025-01-03 14:27:48

“แย่แล้ว ๆ ต้องรีบหนี” ปากกล่าวเช่นนั้นหากความกลัวทำให้เก้าเทียนรุ่ยตัวสั่น แม้สมองจะสั่งการให้หนีหากตัวกลัวแข็งทื่อราวกับก้อนหิน ยิ่งเมื่อแขนข้างหนึ่งถูกจับเอาไว้ก็ยิ่งทำให้เขาลนลานจนมิรู้ว่าจะทำอย่างไรดี

“ปล่อยข้านะ...ปล่อย!” หากยิ่งพยายามมากเท่าไหร่ แรงที่ทุ่มลงมาบนแขนก็ยิ่งมากเท่านั้น หากมิรีบ...มินานแขนเขาคงจะหักเป็นแน่

“ท่านแม่ขอรับ” เก้าเทียนรุ่ยพยายามข่มกลั้นความกลัวเอาไว้ก่อนจะเอ่ยเรียกอีกฝ่ายเสียงแผ่วเบาที่ดูเหมือนว่าเมื่อเขาลดอาการแข็งขืนลง เมื่อเห็นว่าท่านแม่ทัพหยุดชะงักไป มันก็ทำให้เขาใจชื้นขึ้นมา กล้าที่จะเอ่ยต่อไปว่า

“ท่าน...ปล่อยข้าเถอะขอรับ” เก้าเทียนรุ่ยรีบปลดมือที่บีบแขนออกอย่างช้า ๆ โดยที่ดวงตายังคงมองสบกับท่านแม่ทัพอยู่ แม้จะมิใช่คนช่างสังเกตอะไรเลย หากก็ดูเหมือนว่าจะมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น เหมือนกับว่าภายในร่างกายของท่านแม่ทัพจะมีการต่อสู้เกิดขึ้น เขาก็มิรู้ว่าเผลอตัวจับมือแกร่งไปได้อย่างไร

“จะอะไรก็ตามที่ท่านมีสติรับรู้และต้านมันอยู่ ข้าเชื่อว่าท่านสู้มันได้แน่นอน ข้าเชื่อเช่นนั้นนะขอรับ”

กลิ่น...มันเหมือนจะบางเบาสลับรุนแรงขึ้นเป็นระยะ หากได้ทานผักผสมยาที่ข้าเคี่ยวนานเกือบจะสองชั่วยาม[1] ท่านแม่ทัพน่าจะมีแรงต้านทานสิ่งที่เกิดขึ้นนะ หากเมื่อจะไปทำอย่างที่คิด กลิ่นเหม็นจนทำให้มึนศีรษะก็ถาโถมเข้าหาอย่างรุนแรงและรวดเร็วพร้อมกับมือเขาที่ถูกจับกุมเอาไว้ 

“เฮ้ย!” ยังมิทันจะได้ขัดขืนเขาก็ถูกเหวี่ยงลงมาบนเตียงนอนพร้อมกับสองแขนที่ถูกจับไปตรึงไว้เหนือศีรษะ กายแกร่งนั่งทับบนกายเขา ในดวงตาที่ขาวโพลนจ้องมองมาพร้อมกับ...แสยะยิ้ม นั่นยังมิทำให้เก้าเทียนรุ่ยใจเท่ากับกายที่แม้จะผอมแห้งแต่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งโน้มลงมา

“ปล่อย...ปล่อยข้านะ!”

จะกล่าวว่าวาจาของเขาแผ่วเบาเกินไปก็มิใช่ เขาตะโกนออกไปสุดเสียงแล้วนะ แต่ก็ยังรู้สึกว่าเสียงที่เปล่งออกไปจะมิอาจทำให้ท่านแม่ทัพมีสติรับรู้และรู้สึกตัวว่ากำลังทำสิ่งใดอยู่ แล้วยังจะโน้มกายลงมาจนดวงตาใกล้จะแตะเข้ากับปลายจมูกของเขาด้วย นั่นทำให้เก้าเทียนรุ่ยเห็นว่าตรงกึ่งกลางหน้าผากของท่านแม่ทัพคล้ายจะปริ...มันเหมือนกับมีการเคลื่อนไหว หากความคิดของเขามันก็หยุดชะงักเมื่อปากของท่านแม่ทัพแนบลงมาบนแก้ม

เฮ้ย! เก้าเทียนรุ่ยได้แต่ทำตาโตก่อนจะกะพริบปริบ ๆ เมื่อโดนหอมแก้มโดยมิทันจะได้ตั้งตัว แม้ที่ซึ่งเขาจากมา เขาจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตน หากสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างแฟนก็มีเพียงแค่การจับมือและโอบกอดกันเท่านั้น กว่าจะได้หอมแก้มก็คบกันเกือบจะเป็นปี อีกทั้งนับครั้งได้ที่เขาได้หอมแก้มแฟนสาว ส่วนจูบ...มิมีเลยสักครั้ง พอโน้มหน้าลงไปอีกฝ่ายก็เบี่ยงหน้าหนี หากตอนนี้...มิเพียงแค่ถูกหอมแก้มทั้งสองข้าง เขายังเกือบจะถูก...จูบ! ด้วย

“ปล่อยข้านะ!” เพราะอีกฝ่ายมิทันจะได้ตั้งตัวด้วยคล้ายจะดมดอมกลิ่นกายของเขาอยู่ เก้าเทียนรุ่ยเลยดึงมือออกมาและผลักร่างผอมบางออกไป หากอีกฝ่ายกลับหัวเราะอย่างที่เขาได้ฟังแล้วหนาวยะเยือกไปทั้งแผ่นหลัง แขนแข็งแกร่งยังจะสอดเกี่ยวเข้าที่เอวบางพร้อมกับดึงร่างบอบบางลงไปนอนแนบชิด...ใกล้ชิดเสียจนเก้าเทียนรุ่ยได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแผ่วเบามากดังก้องหู เสียงหัวเราะแทบมิสะกิดหูเขาเท่ากับปากอุ่นที่มันแนบลงมาบนมุมปากของเขา ก่อนจะมีเสียงกระซิบแหบพร่าที่ดังมาว่า...

“หอม...อยากกิน”

หะ! เขาได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ มองท่านแม่ทัพด้วยความงุนงง ก่อนจะคิดได้ว่าเขาควรรีบดันคนตรงหน้าให้ถอยห่างไป แต่กลับกลายเป็นว่าสองกายกลับแนบชิดกับท่านแม่ทัพที่ยกมือขึ้นมาลูบไล้ใบหน้าเขา

“ปล่อย...ปล่อยข้านะ”

“หอมมาก...ขอกินหน่อย”

แล้วคนที่กล่าวอย่างกับคนที่ใจมิอยู่กับตัวก็กดจมูกลงมาที่แก้มของเขาที่หนักกว่าครั้งแรกด้วย เพราะจมูกและปากคลอเคลียอยู่บนแก้มเขา ก่อนจะขบเคลื่อนลงไปขบกัดลำคอ

“ปล่อยข้านะ” เก้าเทียนรุ่ยพูดเสียงสั่น เพราะสัมผัสที่ทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ อย่างที่อธิบายมิได้ ยิ่งเขาเบี่ยงหน้าหนีและพยายามผลักไสมากเท่าไหร่ ท่อนแขนที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีแรงกลับรัดแน่นเสียจนเขาแทบหายใจมิออกที่มาพร้อมกับปากหนาขบเคลื่อนขึ้นมาจนแนบชิดกับริมฝีปากของเขาและกดลงมา...

“อื้อ...” หนักกว่าถูกรัดราวกับงูรัดเหยื่อก็จูบแรกของเขานี่แหละที่ถูกแม่ทัพปีศาจแย่งชิงไปหน้าด้าน ๆ

“อร่อย”

หะ! เก้าเทียนรุ่ยได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ เมื่อได้ยินคนที่แย่งชิงจูบแรกของตนเองไปกล่าวออกมาก่อนจะหมดสติและฟุบลงบนตัวเขา

‘มันเกิดอะไรขึ้น’ เก้าเทียนรุ่ยงุนงงไปขณะหนึ่ง ก่อนจะได้สติกลับมาเพราะกายใหญ่ที่ทับลงบนตัวเขา

“ท่านแม่ทัพ” เก้าเทียนรุ่ยยื่นมือไปทาบบนไหล่กว้างพลางเขย่ากายผอมบางอย่างขลาดกลัว หากเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมิได้สติก็เลยทุ่มแรงลงไปอีกนิด...ผลก็ยังคงเช่นเดิม แต่อย่างไรเขาก็ควรลองอีกครั้งที่แรงกว่าเดิมไปอีกเล็กน้อย

“ท่านแม่ทัพ” มิใช่เพียงแค่อีกฝ่ายมิโต้ตอบ หากกลิ่นที่เคยได้สัมผัสก็หายไปแล้วด้วย

ถ้าเช่นนั้น...ที่เขาสงสัยอยู่นั้น มิผิดจริง ๆ ดูเหมือนว่าผักผสมยาที่ปรุงมาจะมีส่วนช่วยปลุกสติให้ท่านแม่ทัพฟื้นขึ้นมา ถ้าเช่นนั้นครั้งนี้แม้เขาจะยังคงมีความวิตกกังวลและหวาดกลัวอยู่ หากก็ควรเร่งทำ...

เก้าเทียนรุ่ยรีบผลักร่างของท่านแม่ทัพใหญ่ลงจากกาย จนเหนื่อยถึงทำได้สำเร็จ

“ท่านนี่นะ” เก้าเทียนรุ่ยจิ้มอกกว้างด้วยความโมโห “นอกจากจะนอนหลับยาวแล้ว ยังจะแย่งชิงเอาจูบแรกของข้าไปอีก มิเพียงแค่นั้นยังจะทำให้ข้าตื่นตระหนกมิน้อยเลย รอให้หายจากป่วยก่อนเถอะ ข้าจะเก็บเงินค่ารักษาให้มากที่สุด”

เก้าเทียนรุ่ยรีบเดินไปหยิบถ้วยยาและช้อนที่ทำจากไม้เพื่อตักยาป้อนให้กับท่านแม่ทัพ หากคราวนี้กลับมีปัญหา...มิว่าทำอย่างไรยาที่ป้อนก็มิเข้าไปในปากท่านแม่ทัพเลย หากยังคงทำเช่นนี้อยู่ เขาคงจะต้องกลับไปเคี่ยวน้ำผักใหม่อีกครั้งแน่

[1] 1 ชั่วยามเท่ากับ 2 ชั่วโมง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 124 - จบ

    “แล้วเด็กสองคนนั้น” เสวียนลิ่วหลางเอ่ยถามเพราะหนานชวนส่งข่าวให้รู้บ้างแล้ว“ดูเป็นเด็กดีอยู่ขอรับ” นับตั้งแต่ที่เขาอยู่กับเสวียนลิ่วหลางมา มิเพียงแค่ร่างกายที่เปลี่ยนไป หากรับรู้ว่าภายในกายเริ่มมีพลังลมปราณมากพอที่จะสัมผัสได้ว่าใครมีวรยุทธ์และพอจะมองออกว่าผู้ใดมาดีหรือร้าย ทำให้มองออกว่าเด็กน้อยสองคนเป็นเด็กดีจริง ๆ จึงยินดีเป็นอย่างมากที่มารดามีคนดี ๆ มาคอยดูแล“แล้วท่านพี่ละขอรับ พบเจอเรื่องใดหรือไม่”หากเสวียนลิ่วหลางมิทันจะได้บอกกล่าวเรื่องที่ได้ไปตรวจสอบมา...มิได้มีสิ่งใดร้ายแรง ก็เป็นพวกมารปลายแถวกับเผ่าปีศาจที่มิชอบหน้ากันมาทะเลาะกัน แล้วกลุ่มจอมยุทธ์รุ่นใหม่เขาอยากแสดงว่าตนมีฝีมือเท่านั้น ก็มีบางคนเดินเข้ามา“มาทำไม” เสวียนลิ่วหลางเอ่ยเสียงเข้มดุ หากเด็กน้อยตรงหน้ากลับมิสนใจแล้วยังจะส่งยิ้มให้กับเก้าเทียนรุ่ยเพื่อยั่วโทสะยักษ์ใหญ่ตรงหน้าอีกด้วย“มิได้มาหาเจ้าเสียหน่อย มาหานั่น...” ปากเล็กสีแดงสดบุ้ยใบ้ไปทางเก้าเทียนรุ่ย “ต่างหากล่ะ...คิดถึงมากเลย”“ที่นี่เรือนข้า...ไปคิดถึงไกล ๆ หากมิอยากถูกจับโยนออกไป”“กล้ารึ...ข้าพี่ชายสองนะ เจ้ากล้าทำร้ายพี่ชายเมียเจ้ารึ”“ฮึ! พี่ชายที่นอก

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 123

    “อึก...อ้ายฉี!” ชิงชวนร้องเรียกด้วยความเกรี้ยวกราดเพราะยังมิทันได้เตรียมกายรับอ้ายฉีก็แทรกแท่งใหญ่ร้อนเข้ามาอย่างรวดเร็ว แล้วยังจะหัวเราะร่าพร้อมกับกลั่นแกล้งเขาด้วยการขยับกายออกแล้วเคลื่อนกลับเข้าไปใหม่จนสุด“ไอ้เจ้าบ้าอ้ายฉี!”“อา...ข้ามันคนบ้านี่น่า เขาว่าคนบ้าทำอะไรก็มิผิด” ว่าแล้วอ้ายฉีก็เร่งเคลื่อนกายจู่โจมเข้าในพื้นที่เร้นลับของชิงชวนอย่างหนักหน่วงซ้ำแล้วซ้ำเล่า...จากนุ่มนวลกลับเป็นรุนแรงเมื่อถูกผนังอ่อนนุ่มบีบรัด“เจ้าว่า...ข้าจะบ้าได้มากกว่านี้ไหมอาชวน”“หยุดทำอย่างที่เจ้าคิดเลยนะอ้ายฉี” ชิงชวนห้ามปรามเมื่อพอจะรู้ว่าอีกฝ่ายคิดทำการสิ่งใด เขามิอยากเดินออกจากห้องพักอย่างอับอายเพราะถูกอีกฝ่ายจับกดจนเตียงพังอย่างเช่นโรงเตี้ยมที่ก่อนหน้าอ้ายฉีเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยขณะกล่าวออกไป “ข้ายังมิได้คิดอะไรสักหน่อย”“ฮึ! เจ้าอย่าคิดว่าข้าจะมิล่วงรู้ ข้าอยู่กับเจ้ามานานเท่าใดแล้ว ยามนี้หากมิใช่เพราะคิดว่าเดินทางกันพอแล้วกับในยุทธภพมีเรื่องมากมายชวนปวดหัว คิดว่าเจ้ากับข้าจะคิดกลับไปหาท่านแม่ทัพ...นายท่านกับคุณชายหรือไงกัน”“ครั้งนี้ข้ายอมก็ได้” หากมิใช่เพราะจะทำให้ชิงชวนอับอาย แต่เขาสัมผัสได้ว

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 122

    “ใบหน้าเมียข้ายามนี้ช่างงดงามเหลือเกิน เร่งอีกหน่อยสิท่านพี่ ข้าอยากได้ยินเสียงร้องของอาเหว่ย” จวินต้าเกอเอ่ยยามทอดสายตามองใบหน้าที่แสดงออกถึงความสุขสมยามถูกกระแทกด้วยความต้องการ“ได้สิน้องข้า” เฮยต้าเกอตอบรับ ผนังอ่อนนุ่มช่างบีบรัดเสียจนเขาถึงหายใจหอบแรงทำให้เขาขยับโยกกายด้วยความหนักหน่วงรุนแรงตามความต้องการที่มันเพิ่มมากขึ้น...และมากขึ้นจางเหว่ยสัมผัสได้ถึงกระแสความร้อนที่ไหลพุ่งเข้าสู่ร่างกายพร้อมกับเสียงครางของเฮยต้าเกอ ก่อนคลื่นความร้อนครั้งใหม่จะถาโถมเข้าหา“ข้าถูกพี่ใหญ่กลั่นแกล้ง แล้วยังจะต้องพาหมูป่ากลับมา ระหว่างทางก็ยังจะพลัดตกลงไปในแม่น้ำด้วย กว่าจะถึงบ้านก็เหนื่อยมิใช่น้อย เมียข้าช่วยปลอบโยนข้าหน่อยนะ” จวินต้าเกอเอ่ยขณะสองมือใหญ่ลูบคลำไปทั่วร่างกายพร้อมกับใช้แท่งใหญ่ยักษ์ของตนเองกดรุกล้ำเข้าไปในร่องทางด้านหลังของจางเหว่ยยามถูกผนังอบอุ่นห่อหุ้มและรัด ความต้องการของจวินต้าเกอก็เพิ่มมากขึ้น เขาขยับกายตัวราวกับพายุฝนที่กำลังกระหน่ำสาดซัดอย่างรุนแรง“หากเมียข้ายังจะทำสีหน้าเช่นนั้น...วันนี้เราคงจะมิได้ไปหานายท่านกับคุณชายเป็นแน่” เฮยต้าเกอกล่าวขณะวางมือลูบไล้บนอกเมียรัก“ข้า

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 121

    “ท่าน...ท่านพี่” จางเหว่ยเอ่ยทักสองบุรุษที่เดินเข้ามาในบ้านเสียงแผ่วเบา ด้วยอย่างไรเขาก็ยังมิชินกับการเป็นฟูเหรินของบุรุษด้วยกัน แต่มิใช่เพราะเขาจำต้องผูกพันธสัญญาหรือมิเต็มใจอยู่กับกระทิงสองพี่น้องหรอกนะ แต่เพราะใจของเขาก็รู้สึกดีกับทั้งสองคนอยู่มิน้อย ยิ่งเมื่อผ่านพ้นค่ำคืนผูกพันธสัญญาไปแล้ว เฮยต้าเกอและจวินต้าเกอก็ดูแลเขาอย่างดี“มิสบายหรือเมียข้า” เฮยต้าเกอเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง“ข้ามิได้เป็นอะไร หากแต่ท่านพี่กับท่านพี่จวิน เหตุใดถึงได้กลับมาเรือนเร็วเช่นนี้ ยังมิทันจะเที่ยงเลย ท่านมิสบาย...บาดเจ็บใช่หรือไม่” จางเหว่ยเอ่ยถามพลางมองดูว่าบุรุษตรงหน้ามีบาดแผลที่ส่วนใดของร่างกายบ้าง“มิได้เป็นเช่นนั้น วันนี้โชคดี ได้หมูป่าตัวใหญ่มา เลยคิดกันว่ารีบกลับบ้านจะดีกว่า หมูป่าตัวใหญ่เช่นนี้ถ้าได้นั่งล้อมวงกินกันหลาย ๆ คนคงจะดีมิใช่น้อย อาเหว่ยอยากพามันไปกินกับนายท่านกับคุณชายหรือไม่” เฮยต้าเกอกล่าวถึงเสวียนลิ่วหลางกับเก้าเทียนรุ่ย“แต่กว่าท่านพี่จะจับมันได้...มิง่ายเลยนะขอรับ” แม้จะดีใจที่กระทิงสองพี่น้องยังคิดถึงความรู้สึกของเขา“สัตว์มีอยู่เต็มป่า จะจับเมื่อไหร่ก็ได้ แต่นายที่ดีอย่างนายท่

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 120

    “อ่า...รอค่ำคืนนี้ก่อนนะเมียรักของข้า รุ่งสางแล้วเราต้องเร่งทำเวลา” ยามนี้จวนแม่ทัพยังมีงานให้เขาทำอยู่ อีกทั้งยังบางคนที่มิอยากให้เขาออกไปใช้ชีวิตที่อื่นก็มาคอยอ้อนวอนขอร้อง“อื้อ...” เก้าเทียนรุ่ยรับคำก่อนจะยกตนเองขึ้นเพื่อตอบรับเจ้ายักษ์ใหญ่ที่ค่อย ๆ สอดดันเข้ามาในร่างก่อนจะถอนออกอย่างเชื่องช้า แล้วย้อนกลับเข้ามาอีกครั้ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกครั้งจะลึกขึ้นเรื่อย ๆร่างเล็กบางไหวโยกตามแรงเคลื่อนไหว ผนังด้านในรับรู้สึกแท่งร้อนที่บุกรุกเข้ามาในกายครั้งแล้วครั้งเล่า บ้างก็เชื่องช้า บ้างก็รวดเร็ว“ท่านพี่”ใบหน้าแดงระเรื่อของเก้าเทียนรุ่ย ดวงตากลมใสที่ยามนี้ฉายแววปรารถนาอย่างชัดเจนทำให้เสวียนลิ่วหลางยิ่งถาโถมแท่งร้อนบุกรุกเข้าไปในพื้นที่หวงห้ามด้วยความปรารถนาที่รุนแรง เสียงสะท้อนของร่างกายที่กระทบกันดังทั่วห้องเช่นเดียวกับเสียงหอบของสองคนที่ดำดิ่งกับความใกล้ชิดเสวียนลิ่วหลางพลิกกายบางให้ลงนอนคว่ำ ใบหน้าเก้าเทียนรุ่ยแนบกับหมอนหนุน แขนแกร่งสอดรัดเอวเล็กขณะกดสะโพกพาแท่งเหล็กร้อนให้ดำดิ่งสอดแทรกไปในช่องทางที่อ่อนนุ่มครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนเสียงคำรามจะแผดดังขึ้นพร้อมกระแสความร้อนไหลพุ่งเข้าสู่

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 119

    “เอาเป็นข้า...” เด็กน้อยเคลื่อนไหวกายเพียงเล็กน้อยแต่กลับรวดเร็วเสียจนแทบจะมองมิทัน เพียงแค่มิถึงหนึ่งจิบชาดูเหมือนว่าทุกคนที่ยังคงอ่อนแรงยกเว้นเสวียนลิ่วหลางก็ดีขึ้น“ข้าช่วยพวกเจ้าได้เพียงแค่นี้ ส่วนที่เหลือก็เป็นเรื่องของพวกเจ้าเองแล้ว”“เดี๋ยว!” เก้าเทียนรุ่ยร้องเรียกเด็กน้อยตรงหน้าที่หันกายจะจากไป“มีอะไรอีก ข้ามิได้คิดร้ายกับพวกเจ้านะ”“เปล่า ข้ามิได้คิดเช่นนั้น แต่...” เก้าเทียนรุ่ยขบเม้มปากเข้าหากัน มิรู้ว่ามันเป็นความรู้สึกของเขาเองหรือเปล่าที่รู้สึกคุ้นเคยกับเด็กน้อยตรงหน้าประมาณหนึ่ง จนมันอดที่จะคิดมิได้“หากเจ้ามิพูดอะไร ข้าจะไปแล้วนะ”“เจ้า...คุณเป็นหนึ่ง” เก้าเทียนรุ่ยเอ่ยเสียงแผ่วเบา“หือ...” คิ้วของเด็กน้อยเลิกขึ้น“ใช่หรือไม่”เด็กน้อยคลี่ยิ้ม ก่อนจะเอ่ยออกไปว่า “จะใช่หรือมิใช่ จะมีสิ่งใดแตกต่างไปล่ะ ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมิอาจย้อนกลับไปแก้ไขสิ่งใดได้แล้ว เจ้านั่นแหละ...ได้โอกาสแล้วก็ใช้ชีวิตนับจากนี้ไปให้มีความสุขเถอะ” กล่าวจบเด็กน้อยที่มิบอกกล่าวให้ทุกคนรู้เป็นผู้ใดจากไปพร้อมกับร่างของเสวียนลิ่วหลางที่ทรุดล้มลงศีรษะแนบชิดกับลำคอเก้าเทียนรุ่ย“ท่านพี่!”“ท่านแม่ทัพ!”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status