[JESUS’S PART]
01.00 น.
-DEMON PUB-
“คุณจีซัสสวัสดีครับ” เสียงไอ้ริวลูกน้องคนสนิทของเฮียดีนพี่ชายของผมเอ่ยทักทายผมทันทีที่ผมเดินเข้ามาในห้องทำงานซึ่งอยู่ชั้นบนของผับ ผับแห่งนี้เป็นของเฮียดีนกับเฮียเบลซพวกเขาเป็นทั้งหุ้นส่วนกัน ส่วนผมเป็นน้องเจ้าของผับเท่านั้น
ปกติแล้วพวกเฮียจะเข้ามาที่นี่อาทิตย์ละหนึ่งวันสงสัยอาทิตย์นี้คงจะไม่เข้า เพราะดูจากที่ไอ้ริวเข้ามาเอาเอกสารแทนเฮียแบบนี้แสดงว่างานคงจะยุ่งกันอยู่แน่ๆ ชีวิตนักธุรกิจหนุ่มก็แบบนี้วันๆ อยู่แต่กับงานอีกไม่กี่ปีพวกเฮียก็จะ 30 ละยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนเลย ‘ชีวิตจืดชืด...’
“ทำธุระของนายไปเถอะ” ผมบอกกับร่างสูงก่อนจะเดินเข้าไปหยิบของใช้ในห้องนอนซึ่งอยู่ด้านหลังของห้องนี้
“ครับ”
ผมหยิบถุงยางออกจากมาจากลิ้นชักก่อนจะเดินออกไปยังที่นั่งประจำของตัวเองซึ่งมีไอ้แดนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“เหมือนเดิมนะครับเฮีย”
“เออ”
ผมมองออกยังชั้นร่างที่ตอนนี้บรรดานักท่องราตรีต่างพากันขยับกันไปมาตามจังหวะของเสียงดนตรี ปกติวันธรรมดาผับแห่งนี้ก็มีผู้คนมากหน้าหลายตาพากันมาใช้บริการอยู่แล้ว แต่เนื่องจากพรุ่งนี้เป็นวันหยุดจึงไม่แปลกที่ค่ำคืนนี้จะมีนักท่องราตรีมากกว่าทุกวัน ผมหยิบแก้วเหล้าตรงหน้าขึ้นมากระดกจนหมดก่อนจะเดินลงไปข้างล่าง
“เต็มที่เลยเฮีย”
“เสือก”
“พี่จีซัสไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ” ร่างบางเอ่ยทักทายผมเสียงหวาน ก่อนที่ร่างอรชรในชุดเดรสสีแดงเพลิงจะเดินเข้ามาลูบไล้ที่อกแกร่งของผม เธอค่อยๆขยับตัวเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นจนหน้าอกที่ใหญ่เกินตัวของเธอชนเข้ากับอกแกร่งของผมเบาๆ อย่างยั่วยวน
“หึ” ผมโอบเอวบางของหญิงสาวตรงหน้าก่อนจะพาเธอเดินเข้าไปยังห้องน้ำหญิงที่อยู่ไม่ไกล
ตับ! ตับ! ตับ!
“อ๊ะ อ้าส์”
ตับ! ตับ! ตับ!
“จะ จีซัส บะ เบาๆ อ๊ะ อ๊าส์”
“เงียบน่า อ่าส์” ผมครางออกมาเบาๆ พร้อมกับดึงท่อนเอ็นออกมาก่อนชักอีกสามสี่ที ผมดึงถุงยางที่สวมท่อนเอ็นของผมออกก่อนจะโยนมันทิ้งลงถังขยะที่อยู่ไม่ไกล ผมดึงกางเกงขึ้นมาสวมตามเดิมก่อนจะเดินออกมาอย่างไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
“เธอ!” ผมชะงักไปเล็กน้อยพร้อมกับร้องเรียกร่างบางตรงหน้าออกมาเสียงเรียบ เธอยืนอยู่ที่หน้าห้องน้ำพร้อมกับมองมาที่ผมอย่างอึ้งๆ เช่นกัน ยัยหนูผีที่เดินไม่เป็นนี่น่ามาอยู่ที่นี่ได้ไง ผมมองชุดพนักงานเสิร์ฟที่เธอกำลังสวมใส่อยู่ตั้งแต่หัวจรดเท้ายัยนี่เป็นพนักงานที่นี่งั้นเหรอไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
“คะ คุณเข้ามาอยู่ที่นี่ได้ไง” เธอถามผมเสียงสั่น พร้อมกับมองไปที่ด้านหลังของผมด้วยสายตาที่ยังคงอึ้งไม่หาย
“ฉันต่างหากที่ต้องถามว่า เธอเข้ามาทำอะไรที่นี่” ผมเอ่ยถามร่างบางตรงหน้าออกไปนิ่งๆ
“นะ นี่ห้องน้ำหญิง” เธอเอ่ยบอกกับผมเสียงสั่นๆ สายตาตอนนี้ที่เธอมองมาที่ผมราวกับเธอกำลังกลัว บางที่ผมก็สงสัยว่าในสายตาคนอื่นผมดูน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอวะ ทำไมหลายๆคนถึงได้กลัวผมถึงขนาดไม่กล้าสบตากับผมด้วยซ้ำ
“หึ” ผมเดินชนไหล่บางของเธอเล็กน้อยก่อนจะเดินขึ้นมายังโต๊ะของตัวเองที่อยู่ชั้นบนซึ่งเป็นส่วนของโซนวีไอพี โซนนี้จะไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่านสักเท่าไหร่ซึ่งมันก็เป็นอะไรที่ผมชอบมาก ถึงผมจะชอบแสงสีและชอบท่องราตรีเป็นชีวิตจริงใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะชอบอยู่ในที่ที่มีคนเยอะๆ
“เดนิส” ผมเรียกเดนิสผู้จัดการร้านที่กำลังเดินกลับมาจากส่งแขกวีไอพีของมันเรียบร้อยแล้ว
“ครับคุณจีซัส”
“ยัยนั้นเป็นใคร” ผมชี้ไปที่ยัยหนูผีที่กำลังวิ่งวุ่นอยู่ด้านล่าง เธอวิ่งไปโต๊ะนั้นทีโต๊ะนี้ทีเห็นแล้วปวดหัวชะมัด
“น้องกะทิครับ เธอพึ่งเข้ามาทำงานวันนี้วันแรกน่ะครับ” เดนิสเอ่ยบอกกับผมอย่างนอบน้อม
“เออ มีอะไรก็ไปทำเถอะ” ผมเอ่ยบอกกับร่างสูงออกไปเสียงเรียบ พร้อมกับจ้องมองยัยหนูผีข้างล่างนิ่งๆ
“สนใจเหรอเฮีย...จัดเลยปะ” ไอ้แดนเอ่ยบอกกับผม ก่อนจะมองออกไปยังคนที่ผมกำลังจ้องอยู่
“แต่เดี๋ยวนะ นั่นมัน...”
“มึงรู้จัก?”
“ครับเฮียผมเคยเห็นเธอเดินอยู่แถวบ้านผม ถ้าผมจำไม่ผิดบ้านเธอน่าจะอยู่ในซอยเดียวกับบ้านเฮียปะ”
“...”
“น่ารักดีนะเว้ยเฮีย แต่น้องน่าจะดูเด็กเกินไปสำหรับเฮียนะผมว่า”
“หุบปาก กูไม่ได้พิศวาสยัยหนูผีนี่หรอกน่า” ผมบอกกับร่างสูงข้างๆออกไปอย่างหัวเสีย
...
“บ้านของยัยหนูผีอยู่แถวนี้จริงๆ สินะ” ผมขับรถมอเตอร์ไซค์ของไอ้แดนกลับมายังบ้านของตัวเองที่อยู่ไม่ไกล สงสัยใช่ไหมว่าทำไมผมต้องขับมอเตอร์ไซค์แทนที่จะขับรถซุปเปอร์คาร์ลูกรักของตัวเอง ‘นั่นสิผมก็สงสัยตัวเองเหมือนกัน’
“ไม่รู้จักเดินจริงๆสินะ” ผมมองร่างบางที่กำลังวิ่งเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของผมซักเท่าไหร่ บ้านของเธออยู่ปากซอยส่วนบ้านของผมอยู่ท้ายซอย
“หึ โลกกลมชะมัด”
[KATHI’S PART]วันต่อมา...วันนี้เป็นวันหยุดแรกที่ฉันได้หยุดพักจากการทำงานติดต่อกันมาหลายวัน ถึงแม้ว่าอากาศในตอนนี้จะเย็นสบายเหมาะกับการนอนหลับมุดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มก็เถอะ สำหรับฉันมันเป็นแบบนั้นไม่ได้แน่นอน...และฉันคิดว่าตัวเองเลือกที่จะไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดของมหาลัยน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับวันนี้ อีกอย่างวันนี้ฉันต้องเข้าไปช่วยงานที่ชมรมด้วย“ทุกคนกำลังหลับกันอยู่ฉันต้องออกไปจังหวะนี้แหละ” ฉันพึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินออกมาจากบ้านไม้หลังเก่าซึ่งบ้านหลังนี้เป็นสมบัติเพียงชิ้นเดียวที่พ่อแท้ๆ ของฉันทิ้งไว้ให้ ฉันพยายามเดินออกมาอย่างเบาที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้ เพราะฉันไม่อยากปลุกสมาชิกคนอื่นๆ ในบ้านให้ตื่นขึ้นมาในตอนนี้พวกเขาพึ่งกลับมาได้ไม่นานถ้านอนกันไม่พอเดี๋ยวจะอาละวาดเอาได้น่ะ“ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดี” ฉันบอกกับตัวเองทันทีที่ปิดประตูรั้วเสร็จ ฉันเงยหน้ามองท้องฟ้าก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย“สวัสดีค่ะลุง”“ตื่นแต่เช้าเลยหนูกะทิ”“ค่า หนูไปก่อนนะคะ” ฉันเอ่ยทักทายลุงวินที่นั่งรอลูกค้าอยู่ที่หน้าปากซอยซึ่งไม่ไกลจากบ้านของฉันเท่าไหร่นัก ลุงๆที่นี่ฉันคุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะตั้งแต่เล
[JESUS’S PART]14.00 น.ผมจอดมอเตอร์ไซค์คันเก่าของไอ้แดนที่โรงจอดรถหน้าชมรมของมันก่อนจะเดินเข้าไปหามันที่ห้องชมรม ผมให้มันเข้าไปเอาที่บ้านมันก็บอกว่า ‘วันนี้ไม่ได้จริงต้องมาทำงานที่ชมรม’ ตอนนี้ผมงงไปหมดแล้วว่าใครเป็นลูกน้องใครเป็นเจ้านายกันแน่วะผมไว้ใจไอ้แดนแต่ผมก็รักรถของตัวเองมากกว่า บางทีผมก็สงสัยว่าถ้าจะห่วงรถขนาดนี้แล้วเมื่อคืนจะขับมอเตอร์ไซค์มันกลับทำไมวะ“อ้าวเฮีย” ผมโยนกุญแจรถให้มัน ก่อนจะเดินเข้าไปหามันที่ยืนอยู่ไม่ไกล ดูจากกองข้าวของตรงหน้ามันแล้ววันนี้มันคงจะยุ่งอยู่จริงๆ“แป๊บนะเดี๋ยวผมไปหยิบกุญแจมาให้”“ทำไมคนถึงน้อย” ผมเอ่ยถามมันออกไปด้วยความสงสัย พร้อมกับมองออกไปรอบๆก่อนจะสะดุดเข้ากับยัยหนูผีคนเดิม ‘ทำไมช่วงนี้เจอบ่อยจังวะ’ ผมบ่นกับตัวเองอยู่ภายในใจ“มหาลัยเอกชนค่าเทอมแพงระดับต้นๆของประเทศ มีแต่ลูกคนรวยทั้งนั้นและยิ่งมหาลัยไม่ได้บังคับแบบนี้ใครจะอยากไปลำบากกันเล่าเฮีย”“แล้วทำไมมึงไม่เลือกที่ที่มันสบายๆล่ะวะ”“เอ้า!...เฮียก็ถ้ามันสบายเขาจะต้องการความช่วยเหลือไปทำไมล่ะ”“ก็จริงของมึง...ก็มีคนไปอยู่นั่นไง” ผมพูดขึ้นก่อนจะมองไปที่ยัยหนูผีนิ่งๆ“น้องเขาเป็นนักเรียนทุนยังไง
[KATHI’S PART]19.00 น.“กรี๊ดดดดดด...” ฉันรีบวิ่งเข้าไปในบ้านของตัวเองทันทีที่ได้ยินเสียงดังมาจากด้านใน ฉันเป็นห่วงแม่ของฉันน่ะเพราะทุกครั้งที่พ่อเลี้ยงฉันเมากลับมา เขามักจะทำร้ายร่างกายแม่ของฉันอยู่เป็นประจำ ซึ่งฉันก็สงสัยว่าแม่จะทนอยู่กับผู้ชายที่ทำร้ายร่างกายตัวเองไปทำไมบ้านนี้เราอยู่กันสี่คนซึ่งมีฉันที่เป็นเจ้าของบ้านเพราะพ่อได้ยกบ้านหลังนี้ให้เป็นชื่อของฉัน มีแม่ พ่อเลี้ยงซึ่งก็คือสามีใหม่ของแม่และก็พี่ชายอีกคนที่เป็นลูกติดมากับเขา“แม่” ฉันรีบเปิดประตูเข้าไปทันที ก่อนจะเห็นว่าสมาชิกทั้งสามคนในบ้านกำลังล้อมวงกินเหล้าพร้อมกับกับแกล้มมากมายว่างจนเต็มพื้น ‘นี่พวกเขาไปเอาเงินมาจากไหนเนี่ย’“อีกะทิกลับมาได้สักทีนะมึง หายหัวเงียบไปทั้งวันกูขอเงินก็ไม่ให้”“...”“มึงดูลูกชายกูได้เงินมาก็เอามาเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่” แม่หันมาบอกกับฉันเสียงแข็ง ก่อนจะลูบหัวลูกชายที่ติดสามีใหม่ของเธอมาอย่างเอ็นดู ซึ่งทั้งหมดนี้มันเป็นสิ่งที่ฉันเจอมาตลอดตั้งแต่ที่พ่อของฉันเสียไป“…” ฉันเลือกที่จะเงียบและหันหลังเดินออกมาจากบ้านแทนขืนอยู่ต่อไปแม่ก็คงพูดเรื่องนี้ไม่จบไม่สิ้น ฉันพยายามทำอะไรก็ไม่เคยดีในสายตาแม่เลย
EPISODE 08 : PETRICHOR(กลิ่งของไอดินที่เกิดหลังจากฝนตก)[KATHI’S PART]“กะทิ”“พี่คีรินพึ่งกลับเหรอคะ” ฉันเอ่ยถามร่างสูงที่กำลังเดินเข้ามาหาฉัน เขาคนนั้นก็คือ ‘พี่คีริน’ บ้านของเราอยู่ใกล้กัน จะพูดว่าเราโตมาด้วยกันเลยก็ว่าได้ แต่หลังจากที่พี่เขาสอบติดแพทย์เราก็แทบจะไม่ได้เจอกันเลย“ใช่ครับ” พี่คีรินเป็นคนสุภาพมากคนหนึ่งที่ฉันรู้จัก ใบหน้าที่หล่อเหลากับนิสัยที่ดูสุขุมทำให้พี่เขามีสาวๆมาตามจีบจนหัวกระไดไม่แห้งเลยล่ะ“กะทิไปไหนมาทำไมพึ่งกลับมาล่ะ วันนี้หยุดไม่ใช่เหรอ”“หืมมมม พี่คีรินรู้ได้ไงคะ” ฉันเอ่ยถามร่างสูงตรงหน้าออกไปด้วยความสงสัย“วันนี้วันเสาร์พี่เคยเห็นกะทิทำอยู่ที่คาเฟ่ตรงหัวมุมไม่ใช่เหรอ วันนี้พี่เห็นร้านปิด”“อ่อใช่ค่ะ หนูไปมหาลัยมาไปช่วยเพื่อนเตรียมของไปค่ายอาสา” ฉันเอ่ยบอกกับร่างสูงที่เดินอยู่ข้างๆฉันออกไปด้วยน้ำเสียงที่สดใส“กะทิก็ไปใช่ไหม”“ใช่ค่ะ พี่คีรินก็ไปเหรอคะ” ฉันเอ่ยถามร่างสูงออกด้วยความตื่นเต้น“ใช่ครับ” พี่คีรินบอกกับฉันพร้อมรอยยิ้มก่อนที่เราทั้งจะหยุดเดินทันทีที่มาถึงบ้านของฉัน“ดีจังหนูก็ยังกลัวๆอยู่ มีพี่คีรินไปด้วยหนูค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อยค่ะ”“หึหึ เข้าบ้า
EPISODE 09 : AURORA(แสงของรุ่งอรุณ)[KATHI’S PART]“อือออออ” ฉันลืมตาขึ้นมาช้าๆ พร้อมกับมองไปรอบๆห้อง ‘ที่นี่ที่ไหน’ ห้องทั้งห้องถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีดำทั้งหมด ผ้าม่านสีดำที่ปิดจนมิดทำให้ไม่มีแสงจากด้านนอกส่งเข้ามาในนี้ มีเพียงโคมไฟดวงเดียวที่ตั้งอยู่บนโต๊ะหัวเตียงที่ช่วยส่องแสงให้กับฉัน“...” ฉันเรียบเรียงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกันก่อนจะนึกได้ว่าพี่ใช้เอาฉันมาขายให้กับพี่จีซัส ‘หนีฉันต้องหนี’ คิดได้ดังนั้นฉันจึงวิ่งออกมาจากห้องนอนที่ดูยังไงก็ไม่น่านอนเลยสักนิดก่อนจะพบว่าตอนนี้ฉันยืนอยู่บริเวณของห้องนั่งเล่นที่มองออกไปเป็นสนามแข่งรถ ฉันวิ่งออกมาจากห้องนั้นได้อย่างง่าย ‘ห้องไม่ได้ล็อคงั้นหมายความว่า...เขาไม่ได้คิดจะขังฉันงั้นเหรอ’ ฉันหยุดคิดเล็กน้อยก่อนจะวิ่งออกไปตามทางด้านหน้า ยังไงตอนนี้ฉันยังไว้ใจใครไม่ได้นั้น“แฮ่กๆๆๆ” ฉันหยุดวิ่งพร้อมกับหอบหายใจออกมาอย่างเหนื่อยๆ ฉันวิ่งมาตั้งนานแล้วยังหาทางออกไม่เจอเลย ที่นี้อย่างกับเขาวงกตยิ่งฉันวิ่งเข้าไปไกลเท่าไหร่ฉันยิ่งหาทางออกไม่เจอ“...” ฉันมองไปรอบๆ ก่อนจะเห็นกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งพูดคุยกันเสียงดังอยู่ไม่ไกล ฉันจึงรีบเดินเข้าไปห
EPISODE 10 : SWEVEN(เงาของความฝัน)[JESUS’S PART]“กะทิ” ผมตะโกนเรียกร่างบางตรงหน้าเสียงดันก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปคว้าข้อมือบางของเธอเอาไว้ก่อนที่เธอจะทำร้ายตัวเองเพล้ง!!ผมโยนเศษแก้วในมือของเธอทิ้งไปก่อนจะรั้งร่างบางตรงหน้าเข้ามากอดไว้แน่น ‘คิดจะทำอะไรของเธอ ยัยหนูผี’ ผมมองร่างบางในอ้อมกอดพร้อมกับลูบหัวเธอเบาๆ อย่างปลอบประโลม“ฉันจะพาเธอไปหาหมอ” ผมเอ่ยบอกกับร่างบางตรงหน้าในขณะที่ยังคงสวมกอดเธออยู่อย่างนั้น แต่ร่างบางตรงหน้าเธอดูนิ่งไปจนผมผิดสังเกตุผมอุ้มเธอไว้แนบอกก่อนจะว่างเธอลงบนเตียงที่อยู่ไม่ไกล ผมนั่งลงตรงหน้าของเธอก่อนจะกุมมือทั้งสองข้างของเธอเอาไว้แน่น ผมไม่รู้ว่าเธอเจอเรื่องอะไรบ้างแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้มันคงหนักเกินไปสำหรับเด็กผู้หญิงแบบเธอจริงๆนั่นแหละ~ครืนนนนนนนน~ ~ครืนนนนนนนน~“ว่า” ผมหยิบโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงของตัวเองขึ้นมาดู ก่อนจะกดรับทันทีที่เห็นว่าปลายสายเป็นใคร“…”“หมายความว่า...” ผมคุยกับปลายสายในขณะที่สายตายังคงจับจ้องไปที่ร่างบางตรงหน้า“กูจักการเอง” พูดจบผมก็ตัดสายทิ้งทันที“กะทิ...นอนพักก่อนเดี๋ยวฉันกลับมา ฉันจะไปไม่นาน” พูดจบผมก็จัดให้เธ
EPISODE 11 : ZEPHYR(สายลมที่พัดแผ่วเบา)[JESUS’S PART]~ครืนนนนนนนนนนน~ ~ครืนนนนนนนนนนน~“ครับเฮีย” ผมรับโทรศัพท์ทันทีที่เห็นว่าปลายสายที่โทรเข้ามาเป็นใคร เฮียเบลซเป็นเพื่อนกับเฮียดีนพี่ชายของผม ผมเองก็เคารพและรักเฮียเบลซไม่ต่างอะไรกับพี่ชายแท้ๆของผม(มึงมาที่ห้องเดี๋ยวนี้ไอ้จี) ปลายสายเอ่ยบอกกับผมเสียงเรียบ ตั้งแต่ที่ผมจำความได้เฮียเบลซไม่เคยเรียกผมแบบนี้มาก่อนครั้งนี้คงมีเรื่องใหญ่จริงๆ สินะหรือว่า...ผมตัดสายทิ้งทันทีก่อนจะรีบวิ่งไปที่ห้องพักของตัวเองที่อยู่ไม่ไกลอย่างรวดเร็ว ‘ยัยหนูผีคงไม่ได้...’ ผมคิดมาตลอดทางที่มาห้องของผมปัง! !!“เฮียตามผมมามีอะ...” ผมรีบผลักประตูห้องของตัวเองเข้าไปทันที ตลอดเวลาหัวใจของผมเต้นไม่เป็นเป็นจังหวะเลยมันเหมือนจะเต้นเร็วกว่าปกติ ผมไม่เคยเป็นมาก่อนผมจึงแยกไม่ออกว่าสิ่งที่ผมเป็นมามันเกินมาจากสาเหตุอะไร“ไขโซ่ที่ขาเธอ” เฮียเบลซเอ่ยบอกกับผมเสียงเรียบ พร้อมกับมองมาที่ผมนิ่งๆ“กะทิเป็นอะไรอะเฮียทำไมตัวร้อนขนาดนี้” ผมลงไปนั่งข้างๆ เธอก่อนจะไขกุญแจที่ข้อเท้าของเธอออก มือของผมลูบลงที่แก้มของเธอเบาๆ ผมสัมผัสได้ว่าอุณภูมิในร่างกายของเธอสูงขึ้นมากจนผมตกใจ“มึง
EPISODE 12 : APRICITY(ความอบอุ่นจากดวงตะวันในช่วงฤดูหนาว)[KATHI’S PART]4 วันต่อมา...วันนี้เป็นวันพฤหัสร่างกายของฉันดีขึ้นมาแล้ว แผลตามร่างกายของฉันก็ค่อยๆจางหายไปบ้างแล้ว จะมีก็แผลที่ริมฝีปากกับใบหน้าของฉันที่ยังคงมีร่องรอยอยู่บ้าง แต่มันก็คงไม่เป็นปัญหาอะไรกับฉันมากนักหรอกเพราะแผลที่ร่างกายเดี๋ยวมันก็หายแต่แผลที่ใจนี่สิไม่รู้ว่านานเท่าไหร่มันถึงจะจางหายไปตลอดสามวันที่ฉันอยู่ที่นี่พี่จีซัสไม่เคยไปไหนเลยเขาเฝ้าฉันตลอดเวลา ถ้าช่วงไหนที่เขาต้องออกไปทำงานก็จะมีพี่พยาบาลพิเศษมาอยู่กับฉันแทน ฉันอยู่กับพี่จีซัสจนฉันเริ่มจะไม่กลัวเขาแล้วล่ะมั้ง หรือไม่ฉันก็น่าจะชินกับนิสัยของเขามากกว่าเขาก็เองก็เป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่งที่ชอบดุ และทำหน้ายักษ์ใส่ฉันได้ตลอดเวลาจนบางครั้งฉันก็สงสัยว่าเขาไม่เมื่อยหน้ารึไงนะ“คุณ” ฉันดึงชายเสื้อของร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาหันหน้ามามองฉันเล็กน้อยก่อนจะหันไปบอกกับพี่พยาบาลที่ยืนอยู่ตรงหน้าเราทั้งคู่ หลังจากที่ทั้งสองคุยกันเสร็จเธอก็เดินออกไปจากห้องนี้ทันทีทิ้งให้ฉันอยู่กับเขาสองคน“มีอะไร” เขาหันมามองฉันก่อนจะเอ่ยถามฉันเสียงเรียบ“ค่ารักษาเท่าไหร่เหรอ”“อยากรู้ไป
EPISODE 65 : FAIRYTALE (THE END)(เทพนิยาย)[KHATI’S PART]-GABRIEL INTERNATIONAL SCHOOL-“ม๊าขอดูแผลหน่อยนะคะ” ฉันเอ่ยบอกกับเด็กหญิงที่นั่งอยู่บนตักของตัวเองเสียงอ่อน ลูกสาวพยักหน้าให้ฉันเล็กน้อยก่อนที่เสียงหวานๆ ของเธอจะเอ่ยบอกกับฉัน“ค่ะ แต่ว่าซีลีนไม่เจ็บแล้วนะคะ เฮียเซนต์กับเฮียเซบบ์เป่าให้ซีลีนแล้วค่ะ” ซีลีนบอกกับฉันก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้กับพี่ชายทั้งสองคนของเธอ“ขอบคุณมากเลยนะคะที่ดูแลน้องอย่างดี” ฉันหันไปบอกกับลูกชายทั้งสองคน พร้อมกับลูบหัวของพวกเขาอย่างเอ็นดู“ม๊าครับ” เซบบ์ร้องเรียกฉันพร้อมกับมือบางของเขาลูบลงที่แขนเรียวของฉันเบาๆ“ครับ”“เซบบ์ว่าม๊าเข้าไปดูป๊าดีกว่านะครับ”“ป๊าเขาดูแลตัวเองได้ครับ”“แต่คนอื่นดูแลตัวเองจากป๊าไม่ได้แน่ๆครับม๊า”“นั่นสิครับม๊า เดี๋ยวเซนต์กับเซบบ์ดูแลน้องเองครับ”ฉันมองลูกชายทั้งสองคนที่นั่งอยู่ข้างกายของฉันสลับกับก่อนจะยิ้มออกมาอย่างชอบใจสองแสบที่แต่ละคนมีใบหน้าที่หล่อเหลาถอดแบบมาจากคุณพ่อและคุณตาของเขา ทั้งสองต่างมองมาที่ฉันเป็นตาเดียวแววตาของเด็กชายทั้งสองตรงหน้าเต็มไปด้วยความกังวล“ไม่เป็นห่วงป๊าเหรอคะ ป๊าอยู่คนเดียวแต่พวกเขามีกันตั้งหลายคน
EPISODE 64 : CHIVALRY(อัศวิน)[KHATI’S PART]8 ปีต่อมา...-JUSUS’S HOUSE-~บรื๊นนนนนนนนนนนน~ ~บรื๊นนนนนนนนนนนน~“สงสัยคุณจีซัสกลับมาแล้วค่ะ” ป้านวลหัวหน้าแม่บ้านจากบ้านใหญ่พูดขึ้นในขณะที่เธอยังคงปอกผลไม้เตรียมไว้ให้เด็กๆ ในตอนเย็น เนื่องจากลูกของฉันค่อนข้างโตจนสามารถทำอะไรเองได้บ้างแล้ว แม่บ้านและพี่เลี้ยงที่ม๊าส่งมาช่วยจึงถูกส่งกลับคืนไปยังบ้านใหญ่หมดแล้ว จะมีแม่บ้านที่คอยมาทำความสะอาดบ้านในทุกๆ วันเท่านั้น“หนูว่าเฮียต้องแอบไปซื้อรถใหม่มาแน่เลยค่ะป้านวล”“คุณกะทิฟังเสียงออกขนาดนั้นเลยเหรอคะ” ป้านวลหันกลับมามองฉันอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันพูด“จริงๆค่ะ เดี๋ยวหนูไปดูก่อนนะคะ” ฉันเอ่ยบอกกับหญิงสูงวัยตรงหน้าเสียงอ่อนพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้ท่าน“ค่ะ”...“ว่ายังไงคะ สุดหล่อของหนู” ฉันยืนกอดอกพร้อมกับมองไปยังคุณสามีของตัวเองที่กำลังเดินมาหา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่สามารถทำให้ความหล่อเหลาของเขาลดลงไปได้เลย ร่างสูงเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ฉันแต่ไกลเลย ฉันสังเกตเห็นมือหนาของเขาถือกล่องอะไรสักอย่างลงมาด้วย“ออกมาต้อนรับด้วย คิดถึงเฮียเหรอครับ” ร่างสูงเอ่ยบอกกับฉันเสีย
EPISODE 63 : DIVINER(ผู้หยั่งรู้)[KHATI’S PART]-JUSUS’S HOUSE-1 ปีต่อมา...แอ๊ดดดดดด!!!“ตัวแสบหลับกันหมดแล้วเหรอครับ”“หลับหมดแล้วค่ะ” ฉันดึงผ้าห้มขึ้นมาห่มให้กับลูกชายทั้งสองคนอย่างเบามือหลังจากที่เรามีสองแสบเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ พี่จีซัสก็จัดการรีโนเวทบ้านใหญ่หลังนี้ครั้งใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่าภายในห้องนอนใหญ่ของลูกชายทั้งสองคนของเรามีทั้งเครื่องเล่นและอุปกรณ์สำหรับพัฒนาการของลูกๆ อยู่อย่างครบครัน“...” ฉันหันกลับไปมองร่างสูงที่กำลังเดินเข้ามาเล็กน้อยก่อนจะเก็บหนังสือนิทานที่วางอยู่เข้าที่ของมัน ตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาลจนกระทั่งวันนี้พี่จีซัสก็คอยดูแลฉันกับลูกไม่เคยห่าง งานของเขาก็ถูกขนกลับมาที่บ้านจะมีบ้างที่เขาต้องออกไปประชุม แต่หลังจากเสร็จงานแล้วเขาก็รีบกลับบ้านมาหาฉันกับลูกทันที“เหนื่อยไหมครับ” ร่างสูงของพี่จีซัสเดินเข้ามาในห้องนอนของลูกชายฝาแฝด พร้อมกับเข้ามาสวมกอดฉันไว้จากทางด้านหลังก่อนจะวางคางของเขาลงบนไหล่มนของฉันเบาๆ“หนูไม่เหนื่อยเลยค่ะ เฮียนั่นแหละทำงานทั้งวันเลย...เหนื่อยไหมคะ” มือบางของฉันลูบลงที่แก้มของนุ่มๆ ของเขาอย่างทะนุถนอม พี่จีซัสเขาทำหน้าที่ของหัวหน้าค
EPISODE 62 : DELICACY(ความละเอียดอ่อน)[KHATI’S PART]-JUSUS’S HOUSE-~บรื๊นนนนนนนนนนนน~ ~บรื๊นนนนนนนนนนนน~“อะไรกันคะเนี่ย” ฉันเดินตามพี่จีซัสออกมาหน้าบ้าน ก่อนจะเอ่ยถามร่างสูงที่กำลังยืนสั่งงานลูกน้องของเขาเสียงเรียบ“กะทิข้างนอกแดดแรง เดินออกมาทำไมครับ” ร่างสูงรีบเดินเข้ามาประคองฉันพร้อมกับเอ่ยบอกกับฉันเสียงอ่อน“แค่นี้เองค่ะ ทำอะไรกันอยู่เหรอคะ” ฉันมองรถหรูคันใหญ่ตรงหน้านิ่งๆ ไม่ต้องเดาก็พอจะรู้ว่านี่คืออะไร เมื่อสามวันก่อนฉันพึ่งบ่นไปกับเขาว่าฉันนั่งรถซุปเปอร์คาร์ของเขาแล้วเวียนหัว สามวันต่อมามีรถหรู 5 ประตูเข้ามาส่งถึงในบ้านดูจากยี่ห้อแล้วราคาก็คงจะไม่ธรรมดาเหมือนกับรถคันอื่นๆของเขาเป็นแน่“อะ เอ่อ...” ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองร่างสูงตรงหน้าเล็กน้อยอย่างจับผิด ก่อนจะหันกลับไปมองยังพี่ๆพนักงานที่กำลังทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง“ราคาค่ะ”“อะ เอ่อ นี่รถครอบครัวของเรานะครับ”“เฮียคะ!”“25 ครับ” ร่างสูงก้มใบหน้าหล่อเหลาของตัวเองลง พร้อมกับเอ่ยบอกกับฉันเสียงอ่อน“ขอราคาจริงค่ะ” ฉันมองไปที่เขานิ่งๆ อย่างรู้ทันราคาที่เขาบอกเป็นราคาของรถเปล่าเท่านั้นแหละ คนอย่างสามีของฉันไม่มีทางที่เขาจะไม่แต่ง
EPISODE 61 : VICTORY(ชัยชนะ)[KHATI’S PART]-JESUS’S FAMILY-“เดินดีๆนะครับ”“เฮียคะหนูเดินได้นะ คุณหมอก็บอกแล้วนี่คะ” ฉันเอ่ยบอกกับร่างสูงที่ยังคงประคองฉันไม่ยอมห่างเสียงอ่อน ตั้งแต่ออกมาจากโรงพยาบาลจนกระทั่งมาถึงบ้านใหญ่เขาเอาแต่ถามฉันว่า ‘เหนื่อยไหม’ ‘ไหวรึป่าว’ มาตลอดทางเลยทั้งๆ ที่ตัวของเขาเองหน้าซีดกว่าฉันซะอีก“อ้าวมาถึงกันแล้วเหรอลูก ไปหลังบ้านเลยค่ะทุกคนรออยู่” ม๊าเดินออกมาจากห้องครัวที่อยู่ไม่ไกลก่อนจะเอ่ยบอกกับเราทั้งสองคนที่พึ่งจะเดินเข้ามา“วันนี้เปลี่ยนบรรยากาศเหรอครับม๊า” พี่จีซัสหันไปถามท่านด้วยน้ำเสียงสดใส ในขณะที่มือหนายังคงประคองฉันไม่ยอมห่าง“ใช่ลูกวันนี้คุณยายอยากทานบาร์บีคิว ว่าแต่หนูกะทิเป็นอะไรรึป่าวลูกทำไมตาจีซัสถึง...” ม๊าเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับยกแขนเรียวของฉันของคล้องแขนของท่านไว้ด้วยอีกคน“หนูมะ...” ฉันยังไม่ทันพูดจบร่างสูงที่เดินอยู่ข้างๆฉันก็รีบยกมือขึ้นปิดปาก ปิดจมูกของตัวเองทันทีที่เขาได้กลิ่นบาร์บีคิวลอยมาตามสามลง“อุ๊บ!...”“เฮียคะ!/ตาจี” ฉันกับม๊าร้องเรียกร่างสูงออกมาเสียงหลงพร้อมกับหันไปมองตามเขาเป็นตาเดียว พี่จีซัสมองมาที่ฉันกับม๊าสลับกันก่อนจะรีบ
EPISODE 60 : BIJOU 02(สิ่งเล็กๆ ที่สวยงาม)[KHATI’S PART]แอ๊ดดดดด!!!ฟอดดดดด! ฟอดดดดด! !!ฉันกับพี่เบลซเดินกลับขึ้นมายังชั้นบนสุดของตึกหรูแห่งนี้ ทันทีที่ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกร่างสูงที่ฉันคุ้นเคยก็รีบเดินเข้ามาประคองฉันทันที พร้อมกับก้มลงมาหอมแก้มนุ่มนิ่มของฉันทันทีราวกับว่าเขาโหยหาและขาดแก้มของฉันไม่ได้ยังไงยังงั้น ซึ่งท่าทางแบบนี้ของเขามันก็เป็นอะไรที่ผิดปกติไปจริงๆ นั่นแหละ“มันขนาดนั้นเลยรึไงจี” พี่เบลซเดินตามเข้ามาก่อนจะสายหัวให้กับท่าทางออดอ้อนของน้องชายตัวเองอย่างเอือมๆ“ก็ตัวเมียจีหอมนี่” พี่จีซัสเอ่ยบอกกับพี่ชายของเขา ก่อนจะประคองฉันให้เดินไปนั่งลงยังโซฟาตัวใหญ่กลางห้อง“แล้วนี่ไปไหนกันมาเหรอครับ” พี่จีซัสหันไปถามฉันพร้อมกับมองมาที่ฉันกับพี่เบลซสลับกัน“เฮียออกไปรอข้างนอกแล้วกัน” พูดจบร่างสูงของพี่เบลซก็เดินออกไปทันที ปล่อยให้ฉันกับพี่จีซัสนั่งอยู่ในห้องทำงานของเขากันอยู่สองคน“ว่าไงครับ หนูเป็นอะไรรึป่าว” ร่างสูงตรงหน้าเอ่ยถามฉันด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล ตาคมจ้องมาที่ฉันอย่างรอคำตอบ“...”“กะทิ”“หนูท้องค่ะ ได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว” ฉันเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าออกไปด
EPISODE 59 : BIJOU 01(สิ่งเล็กๆ ที่สวยงาม)[KHATI’S PART]2 เดือนต่อมา...“เฮียคะ เอกสารการเงินของไตรมาสแรกเรียบร้อยแล้วค่ะ” ฉันเดินนำเอกสารที่ตัวเองพึ่งตรวจสอบเสร็จไปให้กับร่างสูงที่นั่งอยู่ยังโต๊ะทำงานของตัวเอง เขาเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มหวานให้กับฉันก่อนที่จะรับเอกสารในมือของฉันไป“เฮียหน้าซีดมากเลย นอนพักก่อนดีไหมคะ” ฉันเดินเข้าไปไกลร่างสูงก่อนจะยกมือบางวางลงบนหน้าผากของเขาเพื่อวัดอุณภูมิ ‘ตัวก็ไม่ได้ร้อนนี่นา’ ก่อนจะเอ่ยถามร่างสูงตรงหน้าออกไปด้วยความเป็นห่วงฟอดดดดด!!!“หอมจัง” พี่จีซัสดึงฉันเข้าไปนั่งลงบนตักแกร่งของเขาก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขาซุกลงที่คอระหงของฉันพร้อมกับสูดดมกลิ่นกายของฉันจนเต็มปอด แขนแกร่งยังคงโอบกอดฉันไว้ไม่ยอมห่าง“เฮียคะ ไปหาหมอกันไหม” ฉันเอ่ยถามร่างสูงออกไปด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับมือบางลูบลงที่แก้มของฉันอย่างอ่อนโยน“เฮียแข็งแรงจะตายไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอกครับ” ร่างสูงเอ่ยบอกกับฉันด้วยน้ำเสียงสดใส ในขณะที่ปลายจมูกโด่งยังคงคลอเคลียอยู่ที่ลำคอขาวเนียนของฉันอยู่อย่างนั้นไม่ยอมห่าง“หนูเป็นห่วงนี่คะ เมื่อเช้าก็ไม่ยอมทานข้าว”~ติ๊ง!!~(เฮียรถผลไม้ที่เฮียถามหามาแล้ว
EPISODE 58 : AESTHETE(คนที่มีอารมณ์สุนทรีย์)[KHATI’S PART]-JESUS’S HOUSE-มือหนาดึงแขนเรียวของฉันให้ลุกขึ้นนั่งตามเขา มือหนาค่อยๆ เอื้อมไปบรรจงปลดเชือกด้านหลังชุดเดรสสีขาวสะอาดตาของฉันอย่างเบามือ ในขณะที่มือหนาอีกข้างของเขายังคงประคองท้ายทอยของฉันเอาไว้พร้อมกับลูบเบาๆ อยู่อย่างนั้น จุ๊บ!!“หนูสวยจังเด็กดี” ร่างสูงจุ๊บลงที่หน้าผากของฉันเบาๆ ก่อนที่เสียงหวานๆของร่างสูงตรงหน้าจะกระซิบลงที่ข้างหูของฉัน พร้อมกับจมูกโด่งยังคงคลอเคลียอยู่ที่แก้มนุ่มนิ่มของฉัน“เฮียน่าจะอึดอัดน่าดู หนูช่วยถอดชุดให้ไหมคะ” ฉันมองไปที่ชุดสูทสีเข้มที่เขาสวมใส่อยู่ก่อนจะส่งยิ้มหวานไปให้เขา มือบางของฉันลูบไล้อยู่ที่หน้าอกแกร่งของร่างสูงตรงหน้าเบาๆ พร้อมกับเอ่ยถามเขาเสียงอ่อน“ครับ”มือบางของฉันค่อยๆ ถอดเสื้อสูทของเขาออก ก่อนจะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวของร่างสูงตรงหน้าออกทีละเม็ด ในขณะที่สายตาของเรายังคงจ้องมองกันและกันอยู่อย่างนั้น“อื้อ” มือหนาของพี่จีซัสลูบลงที่แก้มของฉันเบาๆ ก่อนที่นิ้วเรียวของเขาจะดันปลายคางของฉันขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับร่างสูงของเขาค่อยๆโน้มตัวลงมาประกบจูบฉันอย่างนุ่มนวน ลิ้นร้อนค่อยๆ สอดประสา
EPISODE 57 : FORELSKET(สภาวะตกหลุมรัก)[KHATI’S PART]-JESUS’S HOUSE-1 เดือนต่อมา... งานแต่งเล็กของฉันกับพี่จีซัสถูกจัดขึ้นที่บ้านริมแม่น้ำของพี่จีซัส เหตุผลก็คงเป็นเพราะว่าบ้านหลังเป็นที่ที่เราเริ่มต้นใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่แรก งานในช่วงเช้าเป็นพิธีแบบไทยซึ่งมีเพียงครอบครัวของพี่จีซัสและเพื่อนสนิทของฉันเท่านั้น และเนื่องจากไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนอีกแล้วคุณยายกับคุณตาจึงเมตตาเป็นญาติทางฝั่งของฉัน ส่วนช่วงบ่ายไม่มีอะไรมากเป็นพิธีการจดทะเบียนสมรสระหว่างเราสองคนส่วนงานเลี้ยงตอนเย็นเป็นงานเลี้ยงรับประทานอาหารร่วมกันภายในครอบครัวของเรา แต่ดูเหมือนเจ้าบ่าวป้ายแดงของฉันเขาตั้งหน้าตั้งตารอพิธีการต่อจากนี้มากกว่า เพราะฉันเห็นเขาเอาแต่ก้มมองนาฬิกาเรือนงามบนข้อมือของตัวเองอยู่นานสองนาน“นี่พวกเฮียจะมอมเหล้าจีรึไง” เสียงพี่จีซัสเอ่ยถามพี่ชายทั้งสองคนของเขาออกมาเสียงดัง พร้อมกับตาคมจ้องมองร่างสูงทั้งสองที่นั่งขนาบข้างของเขาไม่ยอมห่าง ก่อนที่มือหนาจะยกแก้วเหล้าในมือขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมดแล้ว“หึหึ”“คอแข็งอย่างจีใครจะมอมได้” พี่เบลซคุณพ่อลูกหนึ่งพูดขึ้นพร้อมกับมองไปที่น้องชายของเขาอย่างหยอก