[KATHI’S PART]
17.50 น.
-มหาวิทยาลัยเกเบรียล-
“สายแล้ว” ฉันรีบวิ่งไปทางตึกเรียนของตัวเองทันทีที่เห็นว่ามันใกล้เวลาเข้าเรียนแล้ว ถ้าไปไม่ทันอาจารย์เช็คชื่อฉันต้องแย่แน่ๆ อย่างที่ฉันบอกว่าฉันได้ทุนเรียนฟรีซึ่งในทุนนั้นมีเงื่อนไขอยู่ว่าฉันต้องรักษาเกรดให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และห้ามขาดเรียนถ้าไม่จำเป็น คือถ้าป่วยหรือมีธุระก็ต้องมีใบลามายื่นให้กับอาจารย์ผู้สอนนั่นเอง
เอี๊ยดดดดดดด!!!
“กรี๊ดดดดดด อ๊ะ!!” ฉันร้องออกมาด้วยความตกใจก่อนจะเสียหลักล้มลงไปที่พื้น เสียงยางรถหรูเสียดสีกับถนนจากการเบรกกะทันหันของรถซุปเปอร์คาร์คันหรู ก่อนที่ร่างสูงของเจ้าของรถจะเดินลงมาหาฉันอย่างหัวเสีย
“เดินอะไรของเธอ” ร่างสูงตะคอกใส่ฉันเสียงดังลั่น ทำให้คนบริเวณนี้หันมามองที่พวกเราเป็นตาเดียว
“อะ เอ่อ”
“ไม่เห็นรถรึไงวะ”
“ขอโทษค่ะ” ฉันยกมือไหว้ร่างสูงตรงหน้าด้วยความกลัวทันทีที่เงยหน้าขึ้นไปแล้วเห็นว่าคนที่ฉันมีปัญหาด้วยเป็นใคร เขาคือ ‘จีซัส’ ผู้ชายที่อันตรายและน่ากลัวที่สุดในมหาลัย ชื่อของเขาไม่มีใครในที่นี้ไม่รู้จัก ‘ตายแน่ฉันตายแน่ แต่ถ้าไปเรียนไม่ทันฉันก็ตายเหมือนกัน’
“ขอโทษจริงๆ ค่ะคุณเป็นอะไรไหม?”
“ไม่...”
“งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ” พูดจบแล้วฉันก็รีบวิ่งเข้าไปในตึกเรียนที่อยู่ไม่ไกลทันที เพราะถ้าช้ากว่านี้มีหวังฉันไปไม่ทันเช็คชื่อแน่ๆ
“แล้วเธอไม่เป็น...เฮ้ย รีบไปไหนของเธอวะ” เสียงร่างสูงตะโกนโวยวายตามหลังฉันมาอย่างหัวเสีย
ถึงวิชานี้จะเป็นวิชาเสรีที่ฉันจะต้องเรียนกับนักศึกษาต่างคณะ และอาจารย์ที่สอนวิชาก็เป็นที่เลื่องลือเรื่องความโหดในการเช็คชื่อเข้าคลาสมาก ท่านไม่มีการผ่อนปรนให้กับนักศึกษาคนไหนทั้งนั้น
แอ๊ดดดดดด! !!
“ทิชากร จันทร์ดี”
“มาค่ะ” ฉันรีบยกมือทันทีที่อาจารย์เรียกชื่อฉันจบ ‘ฉันนี่มาพร้อมกับดวงจริงนะ’ แล้วจากนั้นฉันก็รีบเดินไปหาที่นั่งด้วยอาการประหม่าอยู่หน่อยๆ เพราะตอนนี้ทุกคนจ้องมาที่ฉันเป็นตาเดียว
“ทันเวลาพอดีเลยนะคุณ” อาจารย์ท่านยังเอ่ยแซวตามหลังฉันมา ฉันหันไปยิ้มให้กับท่านเล็กน้อยก่อนจะเดินไปนั่งยังที่ว่างหลังห้อง
“คนต่อไป...”
แอ๊ดดดดดดดด! !!
“คุณขจรฤทธิ์ โรจน์จรัสภูวดลมาไหมครับ” อาจารย์พูดขึ้นเสียงดังก่อนจะมองไปรอบๆห้องเพื่อหาตัวเจ้าของชื่อ เหมือนอาจารย์จะวนกลับมาทวนอีกครั้งนึงน่ะเพื่อให้มั่นใจว่าตัวเองจะไม่เช็คชื่อใครข้ามไป
“ผมอยู่นี่” ร่างสูงยืนอยู่ที่หน้าประตูก่อนจะพูดขึ้นเสียงเรียบ อาจารย์หันมามองเขาเล็กน้อยพร้อมกับจดบางอย่างลงไปในกระดาษ
ที่ฉันเคยบอกว่า ‘ฉันมาพร้อมกับดวง’ มันไม่น่าจะใช่ดวงดีซะแล้วสิ เพราะร่างสูงที่ฉันพึ่งมีปัญหาด้วยเมื่อกี้กำลังเดินตรงเข้ามานั่งลงตรงที่ว่างข้างๆฉันแล้วในตอนนี้
“ไง” ร่างสูงพูดขึ้นเสียงเรียบ แต่เพราะฉันไม่มั่นใจว่าเขาต้องการจะคุยกับฉันไหมฉันจึงนั่งนิ่งๆ ไม่ได้สนใจอะไรเขา
“นอกจากตาจะบอดแล้วหูเธอก็หนวดด้วยรึไง” ฉันหันไปทางร่างสูงข้างๆทันทีที่เขาพูดจบ ‘ผู้ชายอะไรปากร้ายขนาดนี้’ ฉันบ่นพึมพำอยู่ภายในใจ
“...”
“หูก็ไม่ได้หนวก งั้นหมายความว่าเธอเมินฉันงั้นเหรอ” ร่างสูงเอ่ยบอกฉันอย่างหัวเสีย
“คุณสองคนจะคุยกันอีกนานไหม” เสียงอาจารย์เอ็ดเราสองคนดังขึ้นทำให้เพื่อนทั้งห้องหันมามองที่เราสองคนเป็นตาเดียว
“ขอโทษค่ะ” ฉันเอ่ยบอกกับอาจารย์อย่างนอบน้อม และหันไปก้มหัวขอโทษเพื่อนๆในคลาสอย่างนอบน้อมด้วยเช่นกัน
“เอานี่ไป” ร่างสูงยื่นพลาสเตอร์ปิดแผลมาให้ฉัน ก่อนที่เขาจะก้มลงเล่นโทรศัพท์ในมือของตัวเองต่อ
“อะไรเหรอคะ” ฉันเอ่ยถามร่างสูงออกไปอย่างงงๆ
“เข่าเธอ” ร่างสูงพูดขึ้นในขณะที่สายตาของเขายังคงจ้องโทรศัพท์
“...” ฉันก้มลงมองเข่าของตัวเองเล็กน้อยก่อนจะเห็นว่ามันมีเลือดซึมออกมา ‘นี่อย่าบอกนะว่าเขาบังเอิญเรียนคลาสเดียวกับฉัน บังเอิญว่าหยิบเจ้านี่ติดมือมาพอดี’ บนโลกใบนี้มีเรื่องบังเอิญเกิดขึ้นเยอะขนาดนี้เลยรึไงกัน
“ขอบคุณค่ะ ว่าแต่คุณรู้ได้ไงว่าฉันเรียนที่นี่เหรอคะ”
“อย่าถามมากได้ปะวะ...รีบๆ ทำแผลซะจะได้เรียน” เขาเอ่ยบอกกับฉันเสียงเรียบ พร้อมกับมองมาอย่างรำคาญฉัน
“ค่ะ” ฉันทำตามที่เขาบอกอย่างว่าง่าย ก่อนจะตั้งใจฟังอาจารย์สอนต่อ
“วันนี้พอแค่นี้” อาจารย์พูดจบทุกคนในห้องก็ต่างพากันแยกย้ายกันกลับ บางคนอาจจะมีเรียนต่อ บางคนอาจจะไปสังสรรค์กับเพื่อน ส่วนฉันน่ะเหรอ...ทำงานต่อไป
ฉันเคยไปสมัครงานที่ผับแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของฉันสักเท่าไหร่ เมื่อกลางวันพี่ผู้จัดการร้านโทรมาสอบถามฉันว่ายังสนใจไหมถ้าวันนี้จะทำเป็นพาร์ทไทม์ไปก่อน ซึ่งแน่นอนว่าฉันสนใจอยู่แล้วทำงานแค่คืนเดียวแต่ได้ค่าตอบแทนเท่ากับฉันทำงานที่อื่นมาทั้งอาทิตย์ และอีกอย่างถ้าฉันตั้งใจทำพี่เขาอาจจะรับฉันเป็นพนักงานประจำก็ได้นะ
“...” ฉันมองพลาสเตอร์ที่เหลือในมือก่อนจะคืนให้กับเจ้าของของมัน แต่เขาก็ไม่อยู่แล้ว
เอาเข้าจริงเขาก็น่ากลัวอย่างที่คนอื่นๆร่ำลือกันนั่นแหละ แต่คนเรามีหลายมุมนี่เนอะฉันไม่ได้รู้จักเขาดีถึงขนาดที่จะไปตัดสินว่าเขาเป็นคนยังไง...
EPISODE 65 : FAIRYTALE (THE END)(เทพนิยาย)[KHATI’S PART]-GABRIEL INTERNATIONAL SCHOOL-“ม๊าขอดูแผลหน่อยนะคะ” ฉันเอ่ยบอกกับเด็กหญิงที่นั่งอยู่บนตักของตัวเองเสียงอ่อน ลูกสาวพยักหน้าให้ฉันเล็กน้อยก่อนที่เสียงหวานๆ ของเธอจะเอ่ยบอกกับฉัน“ค่ะ แต่ว่าซีลีนไม่เจ็บแล้วนะคะ เฮียเซนต์กับเฮียเซบบ์เป่าให้ซีลีนแล้วค่ะ” ซีลีนบอกกับฉันก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้กับพี่ชายทั้งสองคนของเธอ“ขอบคุณมากเลยนะคะที่ดูแลน้องอย่างดี” ฉันหันไปบอกกับลูกชายทั้งสองคน พร้อมกับลูบหัวของพวกเขาอย่างเอ็นดู“ม๊าครับ” เซบบ์ร้องเรียกฉันพร้อมกับมือบางของเขาลูบลงที่แขนเรียวของฉันเบาๆ“ครับ”“เซบบ์ว่าม๊าเข้าไปดูป๊าดีกว่านะครับ”“ป๊าเขาดูแลตัวเองได้ครับ”“แต่คนอื่นดูแลตัวเองจากป๊าไม่ได้แน่ๆครับม๊า”“นั่นสิครับม๊า เดี๋ยวเซนต์กับเซบบ์ดูแลน้องเองครับ”ฉันมองลูกชายทั้งสองคนที่นั่งอยู่ข้างกายของฉันสลับกับก่อนจะยิ้มออกมาอย่างชอบใจสองแสบที่แต่ละคนมีใบหน้าที่หล่อเหลาถอดแบบมาจากคุณพ่อและคุณตาของเขา ทั้งสองต่างมองมาที่ฉันเป็นตาเดียวแววตาของเด็กชายทั้งสองตรงหน้าเต็มไปด้วยความกังวล“ไม่เป็นห่วงป๊าเหรอคะ ป๊าอยู่คนเดียวแต่พวกเขามีกันตั้งหลายคน
EPISODE 64 : CHIVALRY(อัศวิน)[KHATI’S PART]8 ปีต่อมา...-JUSUS’S HOUSE-~บรื๊นนนนนนนนนนนน~ ~บรื๊นนนนนนนนนนนน~“สงสัยคุณจีซัสกลับมาแล้วค่ะ” ป้านวลหัวหน้าแม่บ้านจากบ้านใหญ่พูดขึ้นในขณะที่เธอยังคงปอกผลไม้เตรียมไว้ให้เด็กๆ ในตอนเย็น เนื่องจากลูกของฉันค่อนข้างโตจนสามารถทำอะไรเองได้บ้างแล้ว แม่บ้านและพี่เลี้ยงที่ม๊าส่งมาช่วยจึงถูกส่งกลับคืนไปยังบ้านใหญ่หมดแล้ว จะมีแม่บ้านที่คอยมาทำความสะอาดบ้านในทุกๆ วันเท่านั้น“หนูว่าเฮียต้องแอบไปซื้อรถใหม่มาแน่เลยค่ะป้านวล”“คุณกะทิฟังเสียงออกขนาดนั้นเลยเหรอคะ” ป้านวลหันกลับมามองฉันอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันพูด“จริงๆค่ะ เดี๋ยวหนูไปดูก่อนนะคะ” ฉันเอ่ยบอกกับหญิงสูงวัยตรงหน้าเสียงอ่อนพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้ท่าน“ค่ะ”...“ว่ายังไงคะ สุดหล่อของหนู” ฉันยืนกอดอกพร้อมกับมองไปยังคุณสามีของตัวเองที่กำลังเดินมาหา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่สามารถทำให้ความหล่อเหลาของเขาลดลงไปได้เลย ร่างสูงเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ฉันแต่ไกลเลย ฉันสังเกตเห็นมือหนาของเขาถือกล่องอะไรสักอย่างลงมาด้วย“ออกมาต้อนรับด้วย คิดถึงเฮียเหรอครับ” ร่างสูงเอ่ยบอกกับฉันเสีย
EPISODE 63 : DIVINER(ผู้หยั่งรู้)[KHATI’S PART]-JUSUS’S HOUSE-1 ปีต่อมา...แอ๊ดดดดดด!!!“ตัวแสบหลับกันหมดแล้วเหรอครับ”“หลับหมดแล้วค่ะ” ฉันดึงผ้าห้มขึ้นมาห่มให้กับลูกชายทั้งสองคนอย่างเบามือหลังจากที่เรามีสองแสบเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ พี่จีซัสก็จัดการรีโนเวทบ้านใหญ่หลังนี้ครั้งใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่าภายในห้องนอนใหญ่ของลูกชายทั้งสองคนของเรามีทั้งเครื่องเล่นและอุปกรณ์สำหรับพัฒนาการของลูกๆ อยู่อย่างครบครัน“...” ฉันหันกลับไปมองร่างสูงที่กำลังเดินเข้ามาเล็กน้อยก่อนจะเก็บหนังสือนิทานที่วางอยู่เข้าที่ของมัน ตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาลจนกระทั่งวันนี้พี่จีซัสก็คอยดูแลฉันกับลูกไม่เคยห่าง งานของเขาก็ถูกขนกลับมาที่บ้านจะมีบ้างที่เขาต้องออกไปประชุม แต่หลังจากเสร็จงานแล้วเขาก็รีบกลับบ้านมาหาฉันกับลูกทันที“เหนื่อยไหมครับ” ร่างสูงของพี่จีซัสเดินเข้ามาในห้องนอนของลูกชายฝาแฝด พร้อมกับเข้ามาสวมกอดฉันไว้จากทางด้านหลังก่อนจะวางคางของเขาลงบนไหล่มนของฉันเบาๆ“หนูไม่เหนื่อยเลยค่ะ เฮียนั่นแหละทำงานทั้งวันเลย...เหนื่อยไหมคะ” มือบางของฉันลูบลงที่แก้มของนุ่มๆ ของเขาอย่างทะนุถนอม พี่จีซัสเขาทำหน้าที่ของหัวหน้าค
EPISODE 62 : DELICACY(ความละเอียดอ่อน)[KHATI’S PART]-JUSUS’S HOUSE-~บรื๊นนนนนนนนนนนน~ ~บรื๊นนนนนนนนนนนน~“อะไรกันคะเนี่ย” ฉันเดินตามพี่จีซัสออกมาหน้าบ้าน ก่อนจะเอ่ยถามร่างสูงที่กำลังยืนสั่งงานลูกน้องของเขาเสียงเรียบ“กะทิข้างนอกแดดแรง เดินออกมาทำไมครับ” ร่างสูงรีบเดินเข้ามาประคองฉันพร้อมกับเอ่ยบอกกับฉันเสียงอ่อน“แค่นี้เองค่ะ ทำอะไรกันอยู่เหรอคะ” ฉันมองรถหรูคันใหญ่ตรงหน้านิ่งๆ ไม่ต้องเดาก็พอจะรู้ว่านี่คืออะไร เมื่อสามวันก่อนฉันพึ่งบ่นไปกับเขาว่าฉันนั่งรถซุปเปอร์คาร์ของเขาแล้วเวียนหัว สามวันต่อมามีรถหรู 5 ประตูเข้ามาส่งถึงในบ้านดูจากยี่ห้อแล้วราคาก็คงจะไม่ธรรมดาเหมือนกับรถคันอื่นๆของเขาเป็นแน่“อะ เอ่อ...” ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองร่างสูงตรงหน้าเล็กน้อยอย่างจับผิด ก่อนจะหันกลับไปมองยังพี่ๆพนักงานที่กำลังทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง“ราคาค่ะ”“อะ เอ่อ นี่รถครอบครัวของเรานะครับ”“เฮียคะ!”“25 ครับ” ร่างสูงก้มใบหน้าหล่อเหลาของตัวเองลง พร้อมกับเอ่ยบอกกับฉันเสียงอ่อน“ขอราคาจริงค่ะ” ฉันมองไปที่เขานิ่งๆ อย่างรู้ทันราคาที่เขาบอกเป็นราคาของรถเปล่าเท่านั้นแหละ คนอย่างสามีของฉันไม่มีทางที่เขาจะไม่แต่ง
EPISODE 61 : VICTORY(ชัยชนะ)[KHATI’S PART]-JESUS’S FAMILY-“เดินดีๆนะครับ”“เฮียคะหนูเดินได้นะ คุณหมอก็บอกแล้วนี่คะ” ฉันเอ่ยบอกกับร่างสูงที่ยังคงประคองฉันไม่ยอมห่างเสียงอ่อน ตั้งแต่ออกมาจากโรงพยาบาลจนกระทั่งมาถึงบ้านใหญ่เขาเอาแต่ถามฉันว่า ‘เหนื่อยไหม’ ‘ไหวรึป่าว’ มาตลอดทางเลยทั้งๆ ที่ตัวของเขาเองหน้าซีดกว่าฉันซะอีก“อ้าวมาถึงกันแล้วเหรอลูก ไปหลังบ้านเลยค่ะทุกคนรออยู่” ม๊าเดินออกมาจากห้องครัวที่อยู่ไม่ไกลก่อนจะเอ่ยบอกกับเราทั้งสองคนที่พึ่งจะเดินเข้ามา“วันนี้เปลี่ยนบรรยากาศเหรอครับม๊า” พี่จีซัสหันไปถามท่านด้วยน้ำเสียงสดใส ในขณะที่มือหนายังคงประคองฉันไม่ยอมห่าง“ใช่ลูกวันนี้คุณยายอยากทานบาร์บีคิว ว่าแต่หนูกะทิเป็นอะไรรึป่าวลูกทำไมตาจีซัสถึง...” ม๊าเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับยกแขนเรียวของฉันของคล้องแขนของท่านไว้ด้วยอีกคน“หนูมะ...” ฉันยังไม่ทันพูดจบร่างสูงที่เดินอยู่ข้างๆฉันก็รีบยกมือขึ้นปิดปาก ปิดจมูกของตัวเองทันทีที่เขาได้กลิ่นบาร์บีคิวลอยมาตามสามลง“อุ๊บ!...”“เฮียคะ!/ตาจี” ฉันกับม๊าร้องเรียกร่างสูงออกมาเสียงหลงพร้อมกับหันไปมองตามเขาเป็นตาเดียว พี่จีซัสมองมาที่ฉันกับม๊าสลับกันก่อนจะรีบ
EPISODE 60 : BIJOU 02(สิ่งเล็กๆ ที่สวยงาม)[KHATI’S PART]แอ๊ดดดดด!!!ฟอดดดดด! ฟอดดดดด! !!ฉันกับพี่เบลซเดินกลับขึ้นมายังชั้นบนสุดของตึกหรูแห่งนี้ ทันทีที่ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกร่างสูงที่ฉันคุ้นเคยก็รีบเดินเข้ามาประคองฉันทันที พร้อมกับก้มลงมาหอมแก้มนุ่มนิ่มของฉันทันทีราวกับว่าเขาโหยหาและขาดแก้มของฉันไม่ได้ยังไงยังงั้น ซึ่งท่าทางแบบนี้ของเขามันก็เป็นอะไรที่ผิดปกติไปจริงๆ นั่นแหละ“มันขนาดนั้นเลยรึไงจี” พี่เบลซเดินตามเข้ามาก่อนจะสายหัวให้กับท่าทางออดอ้อนของน้องชายตัวเองอย่างเอือมๆ“ก็ตัวเมียจีหอมนี่” พี่จีซัสเอ่ยบอกกับพี่ชายของเขา ก่อนจะประคองฉันให้เดินไปนั่งลงยังโซฟาตัวใหญ่กลางห้อง“แล้วนี่ไปไหนกันมาเหรอครับ” พี่จีซัสหันไปถามฉันพร้อมกับมองมาที่ฉันกับพี่เบลซสลับกัน“เฮียออกไปรอข้างนอกแล้วกัน” พูดจบร่างสูงของพี่เบลซก็เดินออกไปทันที ปล่อยให้ฉันกับพี่จีซัสนั่งอยู่ในห้องทำงานของเขากันอยู่สองคน“ว่าไงครับ หนูเป็นอะไรรึป่าว” ร่างสูงตรงหน้าเอ่ยถามฉันด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล ตาคมจ้องมาที่ฉันอย่างรอคำตอบ“...”“กะทิ”“หนูท้องค่ะ ได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว” ฉันเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าออกไปด