บ้าเอ๊ย!แม้แต่ลมหายใจของฉู่เฉินก็ถี่กระชั้นขึ้นเล็กน้อย นี่ถ้าเกิดเป็นการต่อสู้จริงละก็ ตอนนี้เขาคงสิ้นชีพไปแล้วจนกระทั่งตอนนี้เอง ในที่สุดฉู่เฉินก็รู้แน่ชัดถึงช่องว่างของระดับพลังสร้างรากฐานแล้วยกตัวอย่างเช่น เมื่อคืนนี้เผชิญหน้ากับเย่หัวที่เหนือกว่าเขาหนึ่งขั้น แม้ว่าฉู่เฉินจะตกเป็นฝ่ายรับ แต่ก็มีพลังต่อสู้อยู่แต่เมื่อเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งที่เหนือกว่าเขาหลายขั้นอย่างเจ้าทึ่ม เขาไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะลงมือ“ตอนนี้นายเทียบเท่าระดับสร้างรากฐานประมาณขั้นไหนแล้ว?”ฉู่เฉินปัดฝุ่นบนตัวพลางขมวดคิ้วเอ่ยถาม“ขั้นเก้า”เจ้าทึ่มเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่าอะไรนะ?ฉู่เฉินกลืนน้ำลายหนัก ๆ ความเร็วในการพัฒนานี้ทำให้ฉู่เฉินตกตะลึงนิดหน่อยจริง ๆ “งั้นผู้ชายผู้หญิงที่ลงมาจากรถเมื่อคืน นายเองก็เห็นแล้ว คิดว่าเอาชนะได้หรือเปล่า?” ฉู่เฉินเลิกคิ้วเอ่ยกับเจ้าทึ่ม“ได้ ผมรู้สึกได้ว่าพวกเขาอ่อนแอมาก” เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ รัศมีแสงสีฟ้าภายในดวงตาของเจ้าทึ่มพลันส่องประกายหลายครั้ง ยังจงใจเอาลิ้นสีแดงคาวเลียริมฝีปากแห้งผาก“นายแค่กินคนก็สามารถเลื่อนระดับพลังได้แล้วเหรอ?”ฉู่เฉินเอามือไพล่หลังเดิ
หน้าอกใหญ่สองลูกนั้นราวกับอาวุธสังหารที่สั่นไหวเล็กน้อยไปตามลมหายใจ เหมือนจะดันเสื้อเชิ้ตสีเบจบนตัวเธอให้ปริได้ทุกเมื่อ ส่วนเรียวขาใหญ่ยาวงดงามที่แข็งแรงและไม่เสียทรงสองข้างเปล่งประกายสีทองแดงแวววาวจากการอาบแดดบนชายหาดแม้ว่าผิวจะไม่ขาวเนียน ทว่าตั้งแต่หัวจรดเท้าให้ความรู้สึกงดงามสุขภาพดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งริมฝีปากที่เต็มไปด้วยความเย้ายวนนั้น แค่มองก็ทำให้คนเกิดความคิดหุนหันอยากจะถูกเธออมไว้ในปากนัยน์ตาโตสีฟ้า ประกอบกับขนตาเรียวยาว แค่กะพริบตาเหลือบมองกลับมาก็เปี่ยมไปด้วยความเสน่หานี่แค่เห็นก็รู้ว่าเป็นผลผลิตจากอำนาจของเงินตราเมื่อเห็นฉู่เฉิน สามีภรรยาคู่นี้ก็อึ้งไปก่อน จากนั้นเป็นสาวสวยชาวตะวันตกคนนั้นที่ยิ้มให้ฉู่เฉินก่อนแล้วพูดว่า “คุณน่าจะเป็นคุณฉู่เฉินสินะ?” สาวสวยชาวตะวันตกพูดพลางส่ายเรียวขางามแข็งแรงอยู่บนรองเท้าสายรัดส้นเข็ม เดินเข้ามาหาฉู่เฉิน ก่อนจะยื่นมือไปจับมือกับฉู่เฉิน “ผมคือฉู่เฉิน ไม่ทราบว่าพวกคุณคือ?”ฉู่เฉินจับมือเรียวงามนุ่มนิ่มราวกับไร้กระดูกของสาวสวยชาวตะวันตกอย่างเป็นมิตรมาก สายตากวาดมองหน้าอกของเธอแวบหนึ่ง ร่องอกนั้นสามารถซุกคนทั้งเป็นเข้าไปได้เลย
แม้แต่ต้าหลิงจื่อที่ยืนอยู่ทางด้านข้างก็ยังตกตะลึงกับสิ่งที่ฉู่เฉินทำตอนที่หลิ่วหรูเยียนกับหลิ่วชิงเหอแม่ลูกเจรจาความร่วมมือกับคนอื่น เธอก็อยู่ด้วย แต่ว่าสามปีมานี้ เธอยังไม่เคยเห็นการเจรจาความร่วมมือแบบนี้มาก่อนเลยมิน่าล่ะหลิ่วหรูเยียนถึงบอกให้ฉู่เฉินมาเจรจา บารมีบดขยี้ฝ่ายตรงข้ามอย่างแน่นอน ชั่วขณะหนึ่ง ภาพลักษณ์ของฉู่เฉินในใจของต้าหลิงจื่อคล้ายกับยิ่งใหญ่ขึ้นไม่น้อย“ฮึ คุณฉู่ นี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของคุณก็ได้ ในเมื่อคุณไม่เห็นค่า งั้นพวกเราก็ขอตัวแล้ว” แรนด์กระแทกถ้วยกาแฟในมือลงบนโต๊ะอย่างหนักหน่วงดังปัง จากนั้นก็ลุกขึ้นมาด้วยความฉุนเฉียว ก่อนจะดึงลีน่าขึ้นมาแล้วหันกายเดินจากไป “เอ๊ะ...”เมื่อเห็นสามีภรรยาแรนด์เดินจากไปแล้วจริงๆ ต้าหลิงจื่อกำลังคิดจะเรียกพวกเขาให้หยุด แต่โดนฉู่เฉินยื่นมือมาขวางไว้“คุณฉู่...”“ให้พวกเขาไสหัวไป”เสียงของฉู่เฉินไม่ดังไม่เบา แต่สามีภรรยาแรนด์กลับได้ยินชัดเจน “คุณ...”แรนด์หันหน้ามาถลึงตาใส่ฉู่เฉินด้วยความแค้นใจ คำว่าไสหัวไปครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ให้แม้กระทั่งทางลงกับเขาเลยจริง ๆในสถานการณ์แบบนี้ เขาไม่อยากไปก็ไม่ได้แล้วดูท่าข้อมู
วินาทีต่อมา เธอเหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ รีบแหวกชุดทำงานออก แล้วแกะกระดุมตรงหน้าอกออกสองเม็ด ก่อนจะก้มหน้ามองหน้าอกทั้งสองข้างจากนั้นก็เห็นว่ารอยแผลตกสะเก็ดหลุดออกหมดแล้ว ผิวที่เกิดใหม่เรียบเนียนราวกับของใหม่ทำให้ต้าหลิงจื่อตะลึงงัน ฉู่เฉินมองลูกแพร์ขนาดใหญ่สองลูกที่ส่องประกายแวววาวก็ตกตะลึงไปเช่นกัน“ว้าย” ผ่านไปพักใหญ่ ต้าหลิงจื่อถึงค่อยสังเกตเห็นว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่บนตักของฉู่เฉิน แถมยังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกอย่างกึ่งโป๊กึ่งมิดชิด เธอรู้สึกเขินอายมากทันที ก่อนจะรีบยืนตัวตรง เอามือดึงกางเกงที่แทบจะถกมาถึงต้นขา“คะ...คุณชายฉู่ ขะ...ขอโทษด้วยค่ะ เมื่อกี้ฉัน...”ยังไม่ทันที่ต้าหลิงจื่อจะพูดจบ ปากขนาดใหญ่ก็ปิดริมฝีปากแดงของเธอกลิ่นอายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังของชายชาตรีถาโถมใส่หน้า ต้าหลิงจื่อสิ้นฤทธิ์ในพริบตา เธอไม่ได้สัมผัสความรู้สึกแบบนี้มานานมากแล้ว โดยเฉพาะเมื่อโดนแขนที่ทรงพลังโอวเอวไว้ ราวกับเขื่อนที่พังทลาย ไม่อาจควบคุมได้เลย“แควก!” ฉู่เฉินฉีกถุงน่องของต้าหลิงจื่อออกทันที ก่อนจะพลิกมือกดต้าหลิงจื่อลงบนโต๊ะทำงาน“คุณชายฉู่ บะ...เบาหน่อยค่ะ ฉันไม่ได้ทำแบบนี้
เมื่อเห็นว่ารอบนี้ลีน่าเอาจริง แรนด์จึงเริ่มร้อนใจและคว้าข้อมือของลีน่าไว้พร้อมเอ่ยขึ้นว่า “ลีน่า ความรู้สึกที่ยาวนานขนาดนั้นของพวกเรา…”ความรู้สึก?ลีน่าอยากจะขำให้ท้องแข็งตายเมื่อได้ยินคำนี้ ตอบพร้อมกลอกตาใส่แรนด์ด้วยสีหน้ารังเกียจ “คุณป่วยหนักอยู่นะ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันสนใจในทรัพย์สมบัติของคุณ คุณคิดว่าฉันจะมาคบคุณเหรอ?”“คุณทั้งแก่และขี้เหร่ หลงใหลระยะสั้นๆ ทำมาพูดเรื่องความรู้สึกรักชอบ ช่างน่าเสียความรู้สึกจริง ๆ โอเคไหม?”ไม่เสแสร้งแล้ว เปิดใจทั้งหมดใบหน้าชราของแรนด์อมทุกข์จนราวกับจะมีน้ำตาหยดลงมา แต่ก็ไม่มีปัญญา ใครให้ผู้หญิงคนนี้ชำนาญในด้านนั้นกันล่ะหลังจากหายใจเข้าลึก ๆ แล้วแรนด์ก็ตระหนักถึงความร้ายแรงของปัญหาจึงกัดฟันพูดขึ้นว่า “คุณ…คุณโทรไปเรียกเขามาสิ ผมเป็นเจ้าภาพเอง ให้ไปกินข้าวและพูดคุยกันที่ภัตตาคารไห่เฟิง”แรนด์ไม่อาจยอมได้ แต่ก็พ่ายแพ้ในการพูดคุยแล้ว สิ่งที่เขาสูญเสียนั้นมากเกินไปแล้วจริง ๆไม่เพียงถูกคนจากฝ่ายทหารตามไล่ฆ่า แถมผู้หญิงข้างกายเขาก็จะจากเขาไปไกลอีกถ้าเป็นแค่ผู้หญิงทั่วไปก็ช่างเถอะปัญหาคือขาทั้งสองข้างของลีน่าแรงดีมาก แล้วยังหนีบเก่งอีกสิ่งที
ราวกับลีน่าได้ตื่นขึ้นมาจากความฝัน เก็บมือที่อยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างกลับมาแล้วยืนตัวตรงทันที จากนั้นสางผมที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อยเมื่อประตูห้องเปิดออก ต้าหลิงจื่อที่เสื้อผ้ายับยู่ยี่ก็โผล่หน้าออกมาชนเข้ากับลีน่าที่อยู่หน้าประตูเข้าอย่างจัง“ว้าย!”ต้าหลิงจื่อตกใจเป็นอย่างมากจึงรีบติดกระดุมเสื้อให้เรียบร้อย ใบหน้าแดงก่ำ ก้มหน้าและกล่าว “คุณ…คุณนายลีน่า คุณ…คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ”ลีน่ายิ้มอย่างมีเสน่ห์ “ฉันรอพวกคุณเกือบจะสองชั่วโมงแล้วล่ะ”กล่าวเสร็จไม่รอต้าหลิงจื่อตอบสนองใด ๆ ลีน่าก็ผลักประตูเข้าไปข้างในฉู่เฉินได้ยินเสียงฝีเท้าข้างหลังก็เก็บกางเกงบ็อกเซอร์ขึ้นมาโดยไม่ลนลาน แล้วหันหลังใส่มันช้า ๆ จากนั้นหยิบบุหรี่หนึ่งในขึ้นมาจุดและกล่าวพร้อมชำเลืองมองลีน่า “มีธุระเหรอ?”ลีน่ามองสำรวจกล้ามเนื้อทั้งร่างกายของฉู่เฉินด้วยใบหน้าแดงก่ำและยิ้มน้อยกล่าว “คุณฉู่ สามีฉันคิดว่าการร่วมธุรกิจระหว่างพวกเรายังสามารถเจรจากันอีกได้ค่ะ”“เงื่อนไขสามารถปรับเปลี่ยนได้ อีกทั้งสภาพแวดล้อมในห้องทำงานก็เคร่งเครียดเกินไป เขาจึงจองห้องอาหารส่วนตัวที่ภัตตาคารไห่เฟิงไว้แล้ว หวังว่าคุณฉู่จะให้เกียรติมาร่
แรนด์เป็นคนเลือกห้องส่วนตัวนี้ด้วยความตั้งใจคัดสรรมาอย่างดีทันทีที่เข้าประตูมาก็จะเห็นเป็นห้องรับรองขนาดหลายร้อยตารางเมตร และที่ด้านหลังของห้องยังมีฉากกระจกบานหนึ่งซึ่งจะได้ยินเสียงน้ำไหลรินจากทางด้านหลังแน่นอนว่าสิ่งที่อยู่ด้านหลังฉากกระจกน่าจะเป็นสระว่ายน้ำหรืออ่างอาบน้ำ และยังมีห้องพักผ่อนหย่อนใจที่มีไฟสีชมพูอยู่ทางด้านข้างบริกรสาวสวยสวมบิกินี่ถุงน่องสีดำขาเรียวยาวต่างสไตล์หลายคนยืนอยู่ข้างโต๊ะอาหารตั้งแต่แรกเริ่มแล้วเมื่อเห็นฉู่เฉิน แรนด์ก็ฝืนฉีกยิ้มพร้อมลุกขึ้นและกล่าว “คุณฉู่ เชิญนั่งครับ”ฉู่เฉินกวาดสายตามองขาเรียวยาวที่สวมถุงน่องสีดำด้านข้างแล้วก็โบกมือกล่าว “ให้พวกเขาออกไปกันก่อนเถอะ เรื่องคุยธุระสำคัญกว่า”แรนด์ตะลึงไปเล็กน้อย ตามประสบการณ์ของเขา การรับรองแบบนี้ฉู่เฉินไม่น่าจะไม่ชอบนี่นาแต่เห็นท่าทีแน่วแน่ของฉู่เฉินแล้ว เขาก็โบกมือให้บริกรสาวสวยเหล่านั้น หลังจากนั้นทั้งสามก็นั่งล้อมโต๊ะ แรนด์จึงส่งสายตาให้ลีน่า ลีน่ารับรู้อย่างรู้ใจกันได้ในทันที จึงรินแอลกอฮอล์ให้ฉู่เฉินพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้มบางเบาขึ้นว่า “คุณฉู่ เพื่อเป็นการคลี่คลายความเข้าใจผิดเมื่อสักครู่ของพว
ในขณะกล่าวลีน่าก็โยนสเต๊กในมือของเธอลงบนจานโดยตรง ยืนขึ้นแล้วพูดว่า “ฉันจะไปห้องน้ำด้วย คุณก็คิดหาวิธีเรื่องสัญญาเอาเองแล้วกัน”กล่าวจบเธอก็ออกจากห้องส่วนตัวไปอย่างไม่สบอารมณ์แรนด์อึ้งอยู่ที่เดิมสักพักหรือว่าเขาจะเข้าใจผิดไปจริง ๆ?เมื่อนึกได้ว่าเมื่อกี้ลีน่าช่วยเขาพูดตลอดเวลา แรนด์ก็เกิดความรู้สึกละอายใจขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูกถึงแม้ลีน่าเป็นผู้หญิงหน้าเงิน แต่ในช่วงระยะเวลาสองปีมานี้ก็ไม่ได้ทำเรื่องผิดอะไรมาก่อน……อีกด้านหนึ่ง ฉู่เฉินเพิ่งจะออกมาจากห้องน้ำก็ชนเข้ากับลีน่า“ทำไมคุณฉู่เร็วขนาดนี้คะ?”ลีน่าชำเลืองมองฉู่เฉิน และกล่าวแบบสื่อความหมายอื่นฉู่เฉินล้างมือพร้อมยิ้มบาง ๆ กล่าว “คุณนายแรนด์ คุณคงจะไม่ได้คิดกินต่อหน้าต่อตาคุณแรนด์ใช่ไหมครับ?”ได้ยินดังนั้นลีน่าก็อึ้งไปก่อนตอนแรก จากนั้นก็หลุดหัวเราะออกมายื่นแขนหยกเรียวยาวโอบรอบคอฉู่เฉิน จากนั้นกัดริมฝีปากเบา ๆ กล่าว “คุณฉู่ ที่จริงฉันมาเพื่อขอร้องให้คุณช่วยค่ะ”ฉู่เฉินเลิกคิ้วแล้วพยักหน้าเอ่ย “ช่วยอะไรเหรอ?”“คุณฉู่ ฉันได้ยินมาว่าคุณไม่เพียงเก่งในการศึกษาพัฒนาตัวยาใหม่ ๆ แต่ยังมีทักษะทางการแพทย์ที่ดีอีกด้วย สาม
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่
ในขณะนี้ หลิงเสวี่ยก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันเพราะไม่ใช่แค่หลินเจิ้งไท่เท่านั้น รวมถึงยอดฝีมือของตระกูลหลินทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแม้ว่าตอนนี้หลิงเสวี่ยจะอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นแปด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเจิ้งไท่อย่างแน่นอนยิ่งกว่านั้น เหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลินเจิ้งไท่ก็ล้วนมีพลังระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆ เธอและฉู่เฉินก็ไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย“ฉู่เฉิน ฉันบอกคุณนานแล้วว่าอย่าอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้นานเกินไป คุณก็ไม่ฟัง”หลิงเสวี่ยกระซิบตำหนิฉู่เฉินไปพลาง มองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายไปพลางเมื่อเห็นว่าหลิงเสวี่ยเริ่มลนลานแล้ว หลินฮ่าวที่กำลังเอามือกุมหน้าก็ปาดเลือดที่มุมปากออก ก้าวไปข้างหน้าและมองสำรวจฉู่เฉินด้วยความดูถูกพลางกล่าวว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่ ตอนนี้รู้แล้วหรือยังล่ะ?”ขณะกล่าว ก็กวาดตามองไปยังเหล่ายอดฝีมือของตระกูลหลินและกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ จงส่งหยกโลหิตกิเลนมาซะ และทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้น ตาย!”ทันทีที่คำว่าตายหลุดออกมา คนในตระกูลหลินแทบจะก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกันแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก
ในความเป็นจริงทั้งเมืองชิงหลง แทบจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของสำนักชิงอวิ๋นตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ก็ล้วนเป็นศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นเช่นกันถ้าตระกูลหลินเป็นฝ่ายเริ่มเสนอการสังหารฉู่เฉินพื่อแย่งชิงสมบัติ จากนั้นนำหยกโลหิตกิเลนไปมอบให้กับธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋น ดูเหมือนว่าตระกูลหลินของพวกเขาก็คงจะได้ความดีความชอบเป็นอันดับแรกสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจ้าวเต๋อฉวนเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลจ้าวและยังเป็นเจ้าสำนักชิงอวิ๋นอีกด้วยถ้าใจร้อนอยากได้ความดีความชอบโดยปกปิดตระกูลจ้าว ทันทีที่เป็นศัตรูกับตระกูลจ้าว ก็ยากที่จะรับประกันได้ว่าในอนาคตจะไม่ถูกจ้าวเต๋อฉวนกีดกันดังนั้น ข้อเสนอของหลินฮ่าวจึงได้รับการเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากบรรดาผู้เฒ่าตระกูลหลินอย่างรวดเร็วในไม่ช้า ตระกูลหลินก็เริ่มดำเนินการ โดยส่งยอดฝีมือจำนวนมากติดตามหลินฮ่าวไปดักรอฉู่เฉินนอกเมืองชิงหลงอีกด้านหนึ่ง ยังได้ส่งลูกหลานตระกูลหลินไปจำนวนไม่น้อยไปแจ้งตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่แค่ยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานขั้นที่หกของตระกูลหลิน ก็มีมากถึงสิบกว่าคนแล้วเมื่อรวมกับตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ ภายใต้การร่วมมือของสามตระกูล ไม่ต้องพูดถึง
แม้ว่าจะไม่มีตึกสูง แต่ที่นี่ก็มีสินค้าอุปโภคบริโภคสมัยใหม่บางชนิดจำหน่ายด้วยเหมือนกันหลังจากฟังคำแนะนำของหลิงเสวี่ย ฉู่เฉินก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ได้ งั้นไปที่เมืองชิงหลงกันก่อน”อันที่จริง ในด้านหนึ่งฉู่เฉินต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับโลกแห่งการหยั่งรู้ และในอีกด้านหนึ่งก็ต้องการค้นหาวัตถุดิบยาในเมืองชิงหลงด้วยอย่างไรก็ตาม ตอนนี้เจ้าทึ่มก็ถึงคอขวดแล้ว และจำเป็นต้องคิดหาวิธีที่จะเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นผีดิบเหินฟ้าโดยเร็วที่สุดไม่อย่างนั้น ฉู่เฉินก็คงจะขาดคู่ซ้อมที่แข็งแกร่งไปคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ“คุณจะไปเมืองชิงหลงจริงๆ เหรอ? คุณควรรู้ไว้ว่าตอนนี้คุณในโลกแห่งการหยั่งรู้ก็เหมือนกับเป็นสมบัติที่มีชีวิต ไม่รู้ว่ามีคนจำนวนเท่าไหร่ที่กำลังเล็งคุณอยู่”หลิงเสวี่ยกล่าวพลางขมวดคิ้วแน่นไม่ใช่ว่าเธอเป็นห่วงฉู่เฉินมากขนาดนั้น แต่ถ้าฉู่เฉินตกอยู่ในอันตราย เธอก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย“เมื่อวานเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ยังมีใครกล้าคิดร้ายกับผมอีกงั้นเหรอ?”ฉู่เฉินถามด้วยความสงสัยชิ!หลิงเสวี่ยกลอกตามองฉู่เฉินและกล่าวด้วยสีหน้าจนใจ “คุณคิดว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้จะสร้างความฮือฮาได้มากขนาดไหน แม้ว่า