สวีอวิ๋นเลี่ยงหัวเราะเยาะ "แกสมองไม่ดี แต่ฉันสมองดีมากเลย! วันนี้เงินก้อนนี้แกยืมก็ต้องยืม ไม่ยืมก็ต้องยืม""เห็นแก่ที่เป็นลูกค้าเก่า ฉันท่านสวีดูแลเป็นพิเศษ ไม่ปล่อยเงินต้นให้แกก็ได้ แต่แกต้องจ่ายดอกเบี้ยตามอัตราดอกเบี้ยเดิม ให้เกียรติพอไหมล่ะ? ไม่ให้แกคืนเงินต้นแล้ว เรื่องดีแบบนี้พบเจอได้ยากมาก!"นี่มันรังแกกันชัด ๆ!อวี๋ซือหยวนเป็นโรคความจำเสื่อม ไม่ได้โง่!ลูกน้องคนหนึ่งถือเครื่องคิดเล็ก ทำการกดก๊อกแก๊ก ในดวงตาส่องแสงสว่างกะพริบติดต่อกัน จากนั้นเงยหน้าพูด "เงินสามแสนห้าหมื่นบาทยืมสามปี ดอกเบี้ยทั้งหมดสี่แสนหนึ่งหมื่นบาท ตกเดือนละหนึ่งหมื่นสี่พันบาท วันนี้ต้องคืนเงินก้อนแรก!""แน่นอน ถ้าหากแกยอมคืนหมดในครั้งเดียว ก็ได้นะ แต่ห้ามขาดแม้แต่สตางค์เดียว กฎของพวกเราที่นี่คือไม่มีส่วนลด""ห๊ะ?" อวี๋ซือหยวนตกตะลึงตาค้าง ตัวเองก็แค่โทรศัพท์ ต้องจ่ายดอกเบี้ยสี่แสนกว่าบาท ยังมีความยุติธรรมอยู่ไหม?สวีอวิ๋นเลี่ยงหน้าตาเหยียดหยาม ทำเหมือนกับเสียเปรียบอย่างมาก พูดอย่างไม่พอใจ "ฉันมาด้วยตัวเอง แค่หนึ่งหมื่นสี่พันบาท แม่งไม่พอให้พรรคพวกทานข้าวมื้อหนึ่งด้วยซ้ำ!""ไอ้แก่ แกรู้จักพอใจในสิ่งที่
"ไอ้หนุ่ม แกเป็นใครกัน? ฉันขอเตือนว่าแกอย่าเข้ามายุ่ง ไม่อย่างนั้นแกได้เห็นดีแน่!"สวีอวิ๋นเลี่ยงมองลั่วอู๋ฉางอย่างโมโห เมื่อเห็นว่าเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทจะมาถึงมือแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น เขาจะไม่โมโหได้อย่างไรไอ้หมอนี่คำนวณไว้แล้วว่าสามีภรรยาอวี๋ซือหยวนใจเสาะและขี้ขลาด ดังนั้นกล้ามารีดไถ เพียงแค่ปรากฏตัว ก็ทำให้อีกฝ่ายยอมรับหนี้สี่แสนกว่าบาทได้ คิดอย่างไรก็ได้กำไร ทำไมจะไม่ทำ?อวี๋ซือหยวนยึดหลักมีเรื่องน้อยดีกว่ามีเรื่องเพิ่มขึ้น เขาพูดขึ้น "เสี่ยวลั่ว นายไม่รู้ถึงความเก่งกาจของเถ้าแก่สวี เรื่องนี้นายไม่ต้องยุ่ง ให้ฉันจัดการก็พอแล้ว"ลูกน้องที่รับผิดชอบคิดบัญชียิ้มอย่างพึงพอใจ พูดอย่างไม่พอใจ "ถือว่าไอ้แก่รู้จักเอาตัวรอด รู้ว่าหาเรื่องพี่เลี่ยงของพวกเราไม่ได้ ไม่เหมือนกับคนโง่บางคนที่ยอมสละชีวิตไม่ยอมสละเงิน จุดจบคือบ้านแตกสาแหลกขาด""ทางใต้ของเมืองมีคนสกุลเฉิง ถูกพี่เลี่ยงของพวกเราบีบบังคับ คิดว่าตัวเองกระโดดลงจากตึก ตายไปก็จะปัดหนี้สินได้ แต่ไม่รู้เลยว่ายังไม่พ้นเจ็ดวันแรกของการตาย พี่เลี่ยงก็พาพวกเราไปจับภรรยากับลูกสาวของเขาไว้""ตอนนี้ ภรรยาของเขาเป็
"แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? อารองของฉันคือสวีเทียน ลูกพี่ลูกน้องฉันคือสวีอวิ๋นฝาน แกตายแน่ พวกมันสองก็ตายแน่!" สวีอวิ๋นเลี่ยงพูดข่มขู่เสียงดัง"เหรอ?" ลั่วอู๋ฉางหน้าตาเฉยเมย จากนั้นบิดมือ"แกร่ก!"มีดสั้นหลุดออกจากมือ แขนของสวีอวิ๋นเลี่ยงถูกหักโดยตรง กระดูกสีขาวแทงทะลุผิวหนัง เลือดสดหยดลงทันที!"อ้าก......เพียะ!"เขาเพิ่งส่งเสียงร้องอนาถออกมาครึ่งหนึ่ง ก็ถูกลั่วอู๋ฉางตบหน้า อดกลั้นเอาไว้ทันที"แก หลอกเอาเงินของอาฉันไปทั้งหมดเท่าไหร่ พูด!" ลั่วอู๋ฉางตวาด จากนั้นมือของเขาออกแรงอีกครั้ง สวีอวิ๋นเลี่ยงเจ็บจนคุกเข่าลง"ยังจะนิ่งอึ้งอะไรอีก รีบพูดสิวะ!" สวีอวิ๋นเลี่ยงตะโกนใส่ลูกน้องที่รับผิดชอบคิดบัญชีลูกน้องตัวสั่นงกพูดขึ้น "ทั้งหมดสองล้านกว่าบาท ในนี้รวมเงินต้นหนึ่งล้านบาท ดอกเบี้ยหนึ่งล้านห้าแสนบาท!""ฉันคนนี้มีเหตุผลมากที่สุด หนึ่งล้านห้าแสนบาทโอนกลับมาในบัตรของอาฉัน ที่เหลือไม่กี่แสนถือว่าเป็นดอกเบี้ยของพวกนาย!" ลั่วอู๋ฉางพูดออกคำสั่งสวีอวิ๋นเลี่ยงถลึงตาโต น้ำเสียงแข็งกร้าว "แกฝันไปเถอะ! มีแต่เข้าไม่มีออกนี่เป็นกฎของตระกูลสวี เงินที่กลืนลงท้องแล้ว ไม่มีทางคายออกมาเด็ดขาด""มีแต
เมืองจิงไห่ ตระกูลสวีภายในห้องรับแขก บรรยากาศค่อนข้างตึงเครียดชายหน้าเหลี่ยมที่รูปร่างสูงใหญ่ รอบตัวแผ่ซ่านพลังแข็งแกร่งออกมา ทำให้คนไม่กล้ามอง"อาการของเสี่ยวเลี่ยงเป็นอย่างไรบ้าง?" เขาถามเสียงเข้มคนผู้นี้ก็คือราชาใต้ดินของเมืองจิงไห่ สวีเทียนเป็นเจ้าพ่ออีกคนที่มีชื่อเสียงเท่าเทียมกับเกาฉี่เฉียงหลังจากที่เกาฉี่เฉียงเปลี่ยนไปทำธุรกิจขาวสะอาด ตระกูลสวีถือโอกาสแทรกซึม รวบรวมอาณาเขตไว้มากมาย สถานะของสวีเทียนก็เพิ่มขึ้นไปตามกันวัยรุ่นคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสวีเทียน หน้าตาคล้ายคลึงกับเขาอยู่หกถึงเจ็ดส่วน นั่นก็คือสวีอวิ๋นฝานลูกชายของสวีเทียนวัดตามความโหดเหี้ยม คุณชายสวีคนนี้เป็นคนรุ่นหลังที่เก่งกว่าคนรุ่นก่อน สวีเทียนอย่างน้อยยังยึดคุณธรรมสังคมอยู่บ้าง สวีอวิ๋นฝานกลับจัดการเรื่องทุกอย่างตามความพึงพอใจ ลงมือโดยไม่ไว้หน้า"ลูกพี่ลูกน้องขาสองข้างกับแขนข้างหนึ่งหัก กำลังรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล พ่อวางใจได้ หมอเจ้าของไข้เป็นผู้เชี่ยวชาญแผนกโรคกระดูกที่ดีที่สุด รับรองว่าไม่มีปัญหา" สวีอวิ๋นฝานตอบกลับในดวงตาของสวีเทียนเผยความเย็นชาติดต่อกัน เขากัดฟันถามขึ้น "คนลงมือเป็นใคร หาเจอแล
เพื่อนร่วมงานไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น "ไม่ว่าอย่างไร ทำร้ายคนก็ไม่ถูกต้อง! เพราะว่าทำร้ายคนถูกตัดสินจำคุก ยิ่งแสดงว่าเหตุการณ์ร้ายแรง ไอ้หมอนี่ต้องไม่ใช่คนดีอะไรแน่นอน"อวี๋อีเหรินได้ยินคำพูดนี้ รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยแต่คิดอีกที ทำไมเธอต้องใส่ใจชื่อเสียงของลั่วอู๋ฉางด้วย ติดคุกเดิมทีก็เขาที่หาเรื่องใส่ตัว ฉันคนนี้ไม่ได้ติดข้างอะไรเขา!ผู้จัดการยิ้มกริ่ม ในสายตาเปล่งประกายออกมา จากนั้นพูดขึ้น "คนชั่วที่ทำให้นางฟ้าเสี่ยวอวี๋ของพวกเราหงุดหงิด ห้ามเข้าบริษัทของพวกเราเด็ดขาด ฉันไปบอกกับฝ่ายบุกคคล ให้จำชื่ของเขาเอาไว้ จัดการได้ง่ายดายมาก"อวี๋อีเหรินดวงตาสว่างทันที เธอพูดอย่างดีใจ "จริงด้วย ทำไมฉันถึงนึกไม่ออกนะ ผู้จัดการตู้คุณฉลาดจัง"ผู้จัดการชื่อตู้หมิงเจ๋อ เป็นลูกคนรวยที่ตระกูลร่ำรวยมาก ได้ยินว่ามีทรัพย์สินเกินห้าร้อยล้านเขามาทำงานที่นี่ ภายนอกพูดว่าเรียนรู้ประสบการณ์ พูดอีกอย่างก็คือฆ่าเวลาน่าเบื่อตอนที่ผู้ชายคนนี้เห็นอวี๋อีเหรินครั้งแรก ก็ตกตะลึงอย่างมาก สาบานว่าจะต้องตามจีบเธอให้ได้ หากเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดา ตกอยู่ภายใต้การรุกด้วยเงินอย่างง่ายดายตั้งนานแล้วอวี๋อีเหรินเกิดในครอบ
ทางใต้ของเมือง โรงแรมครอบครัวธรรมดามากแห่งหนึ่งเลือกจัดการให้สามีภรรยาอวี๋ซือหยวนพักอยู่ที่นี่ ก็เพราะพื้นที่นี้เป็นขอบเขตกองกำลังของตระกูลเกา คนอื่นไม่กล้าเข้ามาสร้างเรื่องที่นี่ง่าย ๆเกาชิงเหยียนเหมาโรงแรมแห่งนี้ไว้โดยตรง นอกจากสามีภรรยาอวี๋ซือหยวนแล้ว คนอื่น ๆ ที่พักอยู่ต่างก็เป็นบอดี้การ์ดของตระกูลเกา รับผิดชอบความปลอดภัยของผู้อาวุโสทั้งสองอวี๋อีเหรินขึ้นไปชั้นบนด้วยความสงสัย จากนั้นเคาะประตูห้อง"เสี่ยวอวี๋ รีบเข้ามา"เห็นว่าคนที่เปิดประตูคือเจิ้งอวิ๋นจวน อวี๋อีเหรินถึงได้คลายความระแวงภายในห้อง นอกจากอวี๋ซือหยวน ยังมีลั่วอู๋ฉาง อวี๋อีเหรินขมวดคิ้ว "เรียกหนูมาทำไม? หนูไม่มีอารมณ์ทานข้าวเป็นเพื่อนคนที่เกลียดชังหรอกนะ"อวี๋ซือหยวนพูดตำหนิ "ลูกพูดอะไรน่ะ ตอนบ่ายหลังจากที่ลูกออกไป เสี่ยวลั่วช่วยพ่อกับแม่ของลูกไว้ แถมยังเอาเงินหนึ่งล้านห้าแสนบาทของพวกเรากลับมาจากมือพวกปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูงด้วย!""อะไรนะ? เขาเนี่ยนะ ล้อเล่นอะไร!" อวี๋อีเหรินไม่เชื่ออยู่แล้วในความทรงจำของเขา ลั่วอู๋ฉางเหมือนกับพ่ออวี๋ซือหยวน เป็นพวกปัญญาชนที่ไร้เรี่ยวแรง พวกปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูงกลับเป็นพ
ลั่วอู๋ฉางวางสาย สวมเสื้อผ้าสะอาดเรียบร้อย จากนั้นเตรียมลงไปที่ชั้นล่างที่ชั้นล่าง รถเบนซ์สีดำขับเข้ามา พนักงานเปิดประตูจะเข้าไปเปิดประตู คนคนหนึ่งพุ่งเข้ามาก่อน "ฉันทำเอง!"คนผู้นี้สวมชุดสูทสั่งตัดที่ราคาแพง หวีผมอย่างเนี๊ยบ เหมือนกับถูกหมาเลียมาเขาก็คือหวังจื่อเฟิง ผู้ที่ตามจีบหยางหว่านอวี่เมื่อสี่ปีก่อน ในตอนที่หัวของเขาถูกผ้าพันแผลพันไว้แล้วนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ตอนที่เห็นหยางหว่านอวี่ที่มาขอโทษ เขาตกตะลึง สายตาเหม่อลอยทันที!หวังจื่อเฟิงให้อภัยครอบครัวหยางหว่านอวี่ทันที แต่สำหรับลั่วอู๋ฉาง กลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยเขาไปสี่ปีมานี้ หวังจื่อเฟิงแสดงความกระตือรือร้นต่อหยางหว่านอวี่ไม่หยุด ตอนฝันก็ยังอยากโอบกอดหญิงสาว ตอนนี้ก็คือการพิสูจน์ที่ดีที่สุด"คุณชายหวัง ทำไมถึงเป็นคุณคะ? ไม่ได้นะคะ!" หยางหว่านอวี่ท่าทางตกใจเนื่องจากได้รับเมตตาเกินไปหวังจื่อเฟิงตั้งใจทำเป็นยิ้มด้วยความหล่อเหลา พูดประจบ "ได้เปิดประตูเพื่อนางฟ้าหยาง เป็นเกียรติของผม"หยางหว่านอวี่ก้าวขาสวยที่สวมถุงน่องออกมา ยิ้มแล้วพูดขึ้น "งั้นต้องขอบคุณคุณชายหวังมากนะคะ ทำไมคะคุณก็มีความสนใจต่องานเลี้ยงการกุศลในค
"ไม่ได้!"หยางหว่านอวี่สีหน้ากังวลและปฏิเสธโดยตรงเมื่อเห็นสีหน้าที่แปลกประหลาดของหวังจื่อเฟิงและจ้าวเหม่ยอวิ๋น จึงอธิบายว่า "วันนี้เป็นบ้านของตระกูลเกา แขกเหรื่อทั้งร่ำรวยและมีเกียรติ หากลงมือจริง ๆ จะส่งผลเสียต่อพวกเรา""ความหมายของฉันก็คือ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเสียสละชื่อเสียงและอนาคตของคุณชายหวังเพื่อผู้ชายแบบนี้"หวังจื่อเฟิงยิ้มออกมาทันที ในสายตาเผยสีหน้าชั่วร้ายแวบผ่านไป "ไม่กระทืบเขาก็ได้ งั้นก็ให้เขาอับอายขายขี้หน้าต่อหน้าสาธารณะ ถือว่าแก้แค้นให้คุณน้าและเสี่ยวหาว"ครั้งนี้หยางหว่านอวี่ไม่ได้ปฏิเสธ ถือว่ายินยอมแล้ว"รอดูได้เลย!"หวังจื่อเฟิงเดินเข้าไปอย่างไม่ไว้หน้าใครด้วยความรวดเร็ว "ลั่วอู๋ฉาง แกหยุดนะ!"ลั่วอู๋ฉางหันกลับไปมอง มั่นใจว่าไม่รู้จักคนคนนี้ "นายเป็นใคร?"ตอนนั้นเขาดูรูปภาพของหวังจื่อเฟิงที่มีผ้าพันแผลพันหัว หน้าตาบวมปูดเหมือนหมู ใช้สิ่งนี้เป็นการตัดสินโทษ ไม่รู้จักอีกฝ่ายก็เป็นเรื่องปกติหวังจื่อเฟิงก้มหน้าไปด้านข้าง ยกมือขึ้นชี้ไปที่หัวของตัวเอง และกลอกตาไปมา "สี่ปีก่อน เอาใช้ขวดเบียร์ฟาดฉันจนเข้าโรงพยาบาล ทำไมถึงลืมเร็วขนาดนี้?""หรือว่าชีวิตในคุก