@คณะวิศวะ
ร่างบางในชุดนักศึกษากระโปงสั้นที่ยาวเพียงไม่กี่คืบ ผมยาวสีบรอนซ์ถูกม้วนยาวปล่อยยาวถึงหลัง ใบหน้าหวานซ่อนเปรียวถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง แม้นว่าเวลาบ่ายแก่ๆ แต่ใช้ว่าใบหน้าของร่างบางฉันจะฉืดลง เพราะพึ่งเติมหน้าก่อนมาไม่กี่นาทีนี้เอง นินิวยืนชะเง้อมองหาพี่ชายของเธอในห้องสมุดของคณะ เนื่องจากวันนี้คนตัวเล็กนั้นนัดกับน๊อตเอาไว้ นินิวถึงกับรู้สึกประหม่าเมื่อมีสายตาหลายคู่ที่จับจ้องเธอมา สาวสวยมาทีแน่นอนก็มักจะตกเป้าสายตาให้กับหนุ่มๆ ต่างคณะ ได้มองกัน แต่นั้นก็ได้แต่สงสัยที่เห็นร่างบางนั้นเดินเข้าไปหาน๊อต
"ทำไมมาเอาป่านี้ อีกห้านาทีถ้าไม่มา พี่จะออกไปดื่มกับเพื่อนแล้วนะ" น๊อตเอ่ยกับน้องสาวมาพร้อมกับยื่นกุญแจบีเอ็มซีรี่ย์สามให้กับน้องสาว แล้วดูแต่งตัวสิ น๊อตถึงกับสายหัว เข้าใจแหละว่าน้องสาวนั้นเรื่องหน้าตาก็ถือว่าฮอตในระดับนึง กระโปรงนั้นจะสั่นไปถึงไหน
"ขอบคุณคะ ไว้รถนิวซ่อมเสร็จจะรีบเอามาคืนให้อย่างไวเลย" ร่างบางถึงกับยิ้มร่า อย่างดีใจที่ได้เอารถของน๊อตไปใช้งานก่อน เนื่องจากน้องกล้วยหอมลูกรักของเธอนั้นโดนชนตูดยุบไปครึ่งคันจึงต้องเข้าศูนย์ฉันเลยไม่มีรถขับมาเรียน ขอยืมลูกรักพี่น๊อตไปใช้งานก่อนละกัน
"เออ และก็ขับระวังด้วยละ ห้ามไปชนใครอีกเข้าใจไหม ไม่งั้นอดใช้รถ นั่งวินมาเรียนเอาเองละกัน" น๊อตยังคงย้ำกับน้องสาวสุดที่รักมา ใจจริงคนพี่ก็ไม่ยอม แต่ม๊าของเขานั้นรบเร้าจนเขายอมใจอ่อนยกลูกรักที่พึ่งถอยมาได้ไม่กี่วันให้กับน้องสาวเอาไปใช้งานก่อน เนื่องจากม๊าเป็นห่วงยัยนินิวมาก
"ชิ ฉันก็ระวังสุดๆแล้วไง แต่คู่กรณีดันเมา จะโทษฉันได้ไง ต้องโทษคนที่มันมาชนลูกฉันสิ" นินิวบอกเสียงดัง อย่างไม่ยอมมีอย่างที่ไหนมาโทษเธอ ไอ้พี่น๊อตไม่คิดจะถามฉันบ้างหรือไงว่าใครผิด
แต่จู่ ๆ กับมีเสียงที่สามนั้นแทรกขึ้นมาระหว่างฉันกับพี่น๊อตที่คุยกันอยู่
"บอกเด็กมึงเบาๆ หน่อยสิ กูกำลังพักสายตา เสียงดังหนวกหู " คนที่นอนเอาหนังสือปิดหน้าเอ่ยขึ้นมาราวกับว่าเธอรบกวนเขา ร่างบางที่ได้ยินเช่นนั้นถึงกับควนออกหู ที่เขาหาว่าเธอเสียงดัง แล้วเขานะไม่เสียมารยาทเหมือนกันเหรอที่นอนยาวบนโซฟาแบบนี้ นี้ห้องสมุดนะไม่ใช่ห้องนอน ฉันก็คุยกันเสียงธรรมดาไม่ได้ดังมากจนน่าเกียจ ฉันก็มีมารยาทพออยู่เหมือนกัน ให้ตายเถอะผู้ชายคนนี้ทำให้ฉันหงุดหงิด
"ใครหนะ" ฉันหันไปถามพี่น๊อตเสียงแข็ง บ่งบอกว่าฉันเองก็ไม่พอใจเขาเช่นกันที่มาว่าฉัน
"เพื่อนพี่เองหนะ" พี่น๊อตบอกกับฉันมาพร้อมขยิบตาให้ฉันเบาเสียงลง แต่รู้จักฉันน้อยไปแล้ว ฉันแกล้งพูดเสียงดังกว่าเดิม
"งั้นก็ฝากบอกเพื่อนพี่ด้วยนะว่าที่นีห้องสมุด ไม่ใช่ห้องนอน ปากเสียมาว่าฉันเสียงดังก่อนทำไม ถ้าไม่อยากให้คนอื่นรบกวนจะมานอนตายที่นี่ทำไมกัน " ร่างบางจงใจพูดเสียงดังให้เขาได้ยิน คนที่พักสายตาได้ยินเช่นนั้นถึงหยิบหนังสือออกจากหน้าและลุกขึ้นนั่งทันที ยัยนี้กล้าดียังไงมาว่าเขาปากเสีย
นอนตาย ซักอยากเห็นหน้าเด็กปากเสียของไอ้น๊อตสิ เจอแบบนี้อารมณ์ขึ้นเลยสิครับ
ร่างบางเห็นหน้าชัดๆคนที่เธอจงใจต่อว่าเมื่อสักครู่นั้นเต็มสองตา ตากลมเปิดกว้างออกมาด้วยความตกใจ ที่เห็นริกมองเธอด้วยสายตาดุดัน ที่เธอหาว่าเขานอนตาย ทั้งสองจ้องหน้ากันจนในที่สุด นินิวนั้นเป็นฝ่ายหลบสายตาเขาก่อน
"เออ พี่น๊อตฉันไปก่อนนะ ไว้จะโทรหา" เมื่อเห็นสายตาคู่ดุแพร่รังสี ส่งมาหาเธอนินิวเอ่ยกับน๊อตจบคนกลัวความผิดรีบเดินออกไปทันที บ้าจริงใครจะคิดว่าคนนั้นคือพี่ริกกันละ และดูสายตาที่เขามองฉันสิ ฉันไม่ชอบสายตาแบบนี้มันดูไม่ใช่พี่ริกที่ฉันชอบนะ
"... ฉันอยากจะกรี๊ดกับความปากไวของตัวเองชะมัด ป่านี้พี่ริกเขาคงไม่พอใจฉันไปแล้วแหละ เศร้าจริง ฉันไม่เคยรู้เลยว่าพี่น็อตกับพวกพี่ริกเขาเป็นเพื่อนกัน
ฉันรู้แค่ว่าเขาอยู่กันคนละห้องแค่นั้น แสดงว่าเขาคงสนิทกันสินะ ถึงไปด้วยกันได้เป็นบางครั้งครา แต่แล้วไงฉันยอมให้พี่น๊อตรู้ไม่ได้หรอกนะที่ฉันแอบชอบพี่ริก
ถ้าพี่น๊อตรู้เขานะคงเบรกฉันไว้อย่างไว และคงบอกให้ฉันไปชอบคนอื่นแทน เพราะฉะนั้นเรื่องที่ฉันชอบพี่ริกก็คงเป็นความลับต่อไปห้ามที่น๊อตรู้เด็ดขาด
ด้านริก เพื่อนเชอรีนจะตกใจมากขนาดนั้น ทำไมที่เห็นหน้าผม หึ! ยัยนั้นคงเป็นเด็กไอ้น๊อตสินะ อย่างว่าแหละยัยนี้ก็สวยใช้ได้ เพื่อนเขาถึงยอมเปย์หนักถึงขั้นยอมให้รถบีเอ็มที่มันพึ่งถอยมาได้ไม่กี่วันให้ยัยนั้นไปขับเล่น ผู้หญิงสมัยนี้พอเห็นมีรถหรูให้นั่งหน่อยก็ยอมเอาตัวเข้าแลก หึ! ผมเลิกสนใจยัยนั้น และไลน์หาพวกไอ้ริวแทน เพราะวันนี้พวกผมมีนัดกันที่ Sky Pup
4 ทุ่มต่อมา
ร่างสูงนั่งจิบไวน์กับกลุ่มเพื่อนของตน เรียกว่ามาที่นี่แทบจะทุกวันก็ว่าได้ เมื่อนั่งดื่มกันได้ซักพักไอ้อรันก็เอ่ยขึ้นมา
"สัปดาห์หน้ามีงานเทศกาลดนตรีที่พัทยา พวกมึงสนไหม พวกรุ่นน้องมันชวนวะ" ไอ้อรัณหันมาถามพวกผมที่นั่งจิบไวน์กันอยู่
"เอาดิ กูอยากดื่มที่ริมทะเลบ้าง เปลี่ยนบรรยากาศหน่อยเป็นไง เบื่อผับและ" ไอ้ริวเอ่ยมาพร้อมไปกับไอ้อรัณ
"ไอ้ริก ไอ้เรียว พวกมึงว่าไง สนป่าว"
"ตามนั้นแหละ" ผมตอบไอ้อรัณไปแค่นั้นแล้วก็หยิบไวน์ขึ้นมาจิบต่ออย่างอารมณ์ดี ไม่นานริต้าและคริสตันก็เดินเข้ามาหาพวกผม จากที่นั่งกันสี่หนุ่มตอนนี้ก็เริ่มมีสาวๆ มานั่งด้วยและ
พอมาถึงริต้าก็เข้ามากอดเข้ามาจูบผมอย่างเอาอกเอาใจ ก็แงละเธอเป็นคนที่รู้ใจผมมากกว่าสาวๆ ทุกคน ริต้าเป็นแฟนคนล่าสุดที่ผมครบเธอมานานถึงสองเดือนแต่ก็ยังไม่รู้สึกเบื่อ อาจจะครบกันนานยาวๆกันไปเลยก็ได้ เพราะเธอทำตัวน่ารักและเอาใจเก่ง
"คิดถึงริกที่สุดเลยนะคะ" ริมฝีปากแดงบอกกับแฟนหนุ่มพร้อมกับขบเข้าที่ปากหนาของริกอย่างเอาใจ ริกเองก็ไม่ยอมให้ริต้าทำเขาอยู่ฝ่ายเดียวชายหนุ่มก็จูบตอบกลับเช่นกัน
มันเป็นเรื่องปกติมาก ที่เขาและริต้ามักจะแสดงความรักต่อหน้าเพื่อนๆ พวกมันเห็นกันจนชินตาไปแล้ว ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะสามคนที่นั่งตรงนี้ก็ใช่ว่าจะดีเกินเขาซักเท่าไหร่ นิสัยเหมือนกันศิลเสมอกันถึงอยู่กันได้นาน
@คฤหาสน์ นินิวหลังจากที่พี่ริกพาฉันและเรนิสออกไปทานอาหารเสร็จแล้ว และตอนนี้พี่ริกเขาก็พาฉันและเจ้าตัวแสบกลับมาถึงคฤหาสน์ในเวลา สองทุ่ม เศษๆ โดยมีคุณย่าสุดสวยและคุณปู่ ที่นั่งรอรับเจ้าตัวแสบในห้องรับแขก ที่มีคุณแม่ของพี่ริกนั้นโทรตามพวกเราแทบจะทุกสิบนาที เนื่องจากท่านเป็นห่วงเรนิส เพราะพี่ริกนั้นพาเรนิสออกไปตั้งแต่เมื่อเช้า คุณแม่ท่านเป็นห่วงเจ้าตัวแสบมากกว่าลูกชายทั้งสองของท่านซะอีก ส่วนเจ้าตัวแสบพอเห็นคุณปู่คุณย่าที่นั่งอยู่บนโซฟา ก็ลงจากอ้อมแขนของพี่ริก เดินเข้าไปออดอ้อนคุณปู่คุณย่าอย่่างรู้งานตามประสาของเด็กขี้อ้อนที่มักจะทำเช่นนี้กับคุณปู่คุณย่าของเขาทุกวัน ฉันเห็นภาพนี้ที่ไรถึงกับอดยิ้มให้กับความน่ารักน่าซังของลูกสาวไม่ได้ฉันรู้สึกโชคดีมากที่ครอบครัวของพี่ริกนั้นรักฉันและเรนิสมากๆ"เรนิสคะมาหาคุณย่า นะคะลูก หือ...ย่าคิดถึงหนูที่สุดเลยคะลูก" ห่างกันไม่ถึงวันคุณหญิงปรางทิพย์ก็อดคิดถึงเจ้าตัวแสบนั้นไม่ได้ ที่นับวันยิ่งรู้ความมากขึ้น คุณย่่าสุดสวยพอหลายสาวเดินเข้าหา ก็ทั้งฟัดทั้งหอมเจ้าตัวแสบ ส่วนคนโดนอย่างหลานสาวตัวจ้ำม่ำก็เอาแต่หัวเราะคลิกๆ มาอย่างชอบใจ จนฉันเองอดหมั้นใส้เรนิสไม่ไ
2 ปีต่อมาด้านริกหลังจากที่นินิวตัดสินใจกลับมาเริ่มต้นใหม่ที่ไทยกับผม จากที่เรากลับจากสวิตซ์ได้ประมาณ 3 เดือนนินิวก็ได้ให้กำเนิดลูกสาวสุดที่รัก โดยนินิวนั้นคลอดก่อนกำหนด ทำให้เจ้าตัวแสบนั้นค่อนข้างที่จะตัวเล็ก โดยน้ำหนักตัวอยู่ที่ 2,238 กรัม เรื่องหน้าตาของเรนิส นั้นถอดแบบมาจากผมมากกว่านินิวนะครับ นี่แหละคือสิ่งภาคภูมิใจของผมที่ลูกสาวหน้าตาคล้ายผมมากกว่าแม่ของเขา หลังจากที่นินิวคลอดเรนิสได้ประมาณ 3 เดือน ผมและนินิวเราก็ได้เข้าพิธีแต่งงาน โดยที่นินิวเธอไม่ได้ต้อง การ จัดใหญ่โตอะไรมากมาย แค่เชิญคนสนิทมาร่วมเป็นสักขีพยานในความรักของเรา และยังมีเจ้าตัวแสบอย่างเรนิสนั่นร่วมเป็นพยานความรักของผมและนินิวอีกด้วย เรียกได้ว่างานแต่งของเราเป็นอะไรที่เพอร์เฟคและลงตัวสุดๆ ถึงจะเป็นงานที่ไม่ได้จัดใหญ่โตอะไรแต่สำหรับผม ตั้งแต่มีนินิวและเรนิสเพิ่มเข้ามาในชีวิต ผมก็กลายเป็นคนที่ชอบอะไรที่เรียบง่าย ขอแค่มีพวกเขาร่วมเดินทางไปกับผมชีวิตนี้แค่นี้ก็พอแล้วครับ@บริษัทซัมอาร์วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เหล่าพนักงานในบริษัทนั้นไม่เคยได้เห็น เมื่อคุณพ่อยังหนุ่มในคราบผู้บริหาร ร่างสูงของริกในชุดสูทสีกลม เดินเข้าม
กลุ่มฉันเราก็นั่งกันพวกผู้หญิง ที่มียัยเซนั้นทำหน้าที่เป็นเด็กเอ็นสมัครเล่นในงานเลี้ยงเล็กๆ ของค่ำคืนนี้นั่งกันไปได้ซักพักยัยมีนนาที่กระดกไม่หยุด อีกไม่นานก็คงจะคอพับ ส่วนฉันก็ได้แต่นั่งทานน้ำเปล่าและนั่งมองพวกเพื่อนๆ ที่นั่งดื่มกัน ยัยไรราที่มองฉันมา"ยัยนินิวจะคลอดแล้ว กูก็ยังเงียบกริบเลยค่ะ" จู่ๆ ยัยไรราที่โดนฤทธิ์แอลกอฮอล์ครอบงำถึงกับเข้าไปเอ่ยถึงเรื่องลูกขึ้นมากับพวกฉัน"แกก็รีบมีซะสิ เรนิสคลอดมาจะได้มีเพื่อนเล่น" ฉันเอ่ยกับยัยไรรา พร้อมกับยิ้มให้กำลังใจ ที่นางอยากจะมีเจ้าตัวเล็กมาวิ่งเล่นในบ้านบ้าง"ฉันลุ้นทุกเดือนอะแก" ยัยไรราเอ่ยกับพวกฉันมา"ดูอย่างยัยรีนสิ มาครั้งเดียวสองคนเลย รวดเร็วทันใช้มาก" ฉันว่าและหันมองหน้ายัยเชอรีนที่มาครั้งนี้ นางไม่ยอมพาเจ้าแฝดมาด้วย เสร็จจากเซอร์ไพรส์ฉันพรุ่งนี้พวกเพื่อนๆ ฉันก็แยกย้ายกันไปสวีทกับผู้ของพวกนางต่อ"เออ ที่แกไม่มีเพราะไอ้ตินไม่มีน้ำยาหรือเปล่า" จากที่นั่งดื่มเงียบๆ เอ่ยขึ้นมาบ้าง พวกฉันถึงกับลั่นขำกันห้อง แต่มีไอ้ติณคนเดียวที่ขำไม่ออก หน้านิ่งมาเชียว"ใครเสียงใคร ว่าฉันไม่มีน้ำยา นินิวเธอว่าฉันเหรอ" ไอ้ออสติณหูเพี้ยนที่ได้ยินเป็นเสียง
วันต่อมาหลังจากที่ฉันไปค้างที่โรงแรมกับพี่ริกมา และวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวัน ที่ฉันยังไม่ได้กลับไทย แต่เราตกลงกันแล้ว ว่าฉันจะกลับไปคลอดเรนิสที่เมืองไทย ส่วนเรื่องที่ฉันท้องพี่น๊อตและคุณน้าแนะนำให้ฉันบอกป๊าม๊าเพราะอีกไม่กี่เดือนฉันก็จะคลอด ตอนแรกฉันก็กลัวนะกลัวม๊าจะดุจะด่า ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วยังไงม๊าก็ต้องทราบเรื่องนี้อยู่ดี อย่างที่บอกม๊าฉันเป็นคนที่ค่อนข้างหัวโบราณ ฉันวิดีโอคอลหาและบอกเรื่องฉันจะคลอดเท่านั้นแหละ ม๊าฉันแทบจะช็อค แต่ยังดีหน่อยที่ฉันมีพี่น๊อตและพี่รินนาคอยพูดช่วยอีกแรง เรื่องป๊าม๊าของฉันนั้นตอนนี้ก็ตัดออกไปได้เลยส่วนแก๊งค์เพื่อนสนิทของฉันพอฉันบอกว่าจะกลับไปคลอดที่ไทย ยัยไรรา และยัยเชอรีน นิเตรียมต้อนรับฉันแล้วค่ะ ส่วนยัยมีนนา รายนั้นก็ไม่ยอมน้อยหน้า นางถึงขั้นจะจองร้านเหล้าตอนรับฉัน ฮ่าๆ ดูเอาเถอะสภาพท้องหลายเดือนจะไปร้านเหล้ายังไงให้ไหวก่อน ให้ฉันไปนั่งดมกลิ่นบุหรี่กระดกน้ำเปล่าหรือไงเถอะ พอยัยมีนนารู้ว่าฉันท้องตอนแรกนางก็ดีใจมากเลยนะ แต่อีกใจนางขาดคู่ขาไปเที่ยวผลับ ไม่รู้จะขำหรือสงสารเพื่อนดีใบหน้าหวานของนินิวที่นั่งอ่านไลน์กลุ่มเพื่อนๆ ของเธอถึงกับยิ้มไม่หุบและวัน
เช้าวันต่อมาร่างบางรู้สึกตัวขึ้นมาในช่วงสายของอีกวัน ฉันลืมตาขึ้นมาแต่กับไม่เจอคนที่นอนร่วมห้องมาด้วยตลอดทั้งคืนใบหน้าหวานที่งัวเงียอยู่นั้นถึงกับขมวดคิ้วมาด้วยความสงสัย นินิวกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องแต่กับไม่เจอเจ้าของห้อง ให้ตายเถอะ นี่เขาหายไปไหน ของเขากั" พี่หายไปไหนกันน๊าพี่ริก " เสียงหวานเอ่ยขึ้นมาขณะที่ยังนั่งอยู่บนเตียงนอนภายในห้องเพียงลำพัง หรือเขาจะพลานโกรธเรื่องเมื่อคืนที่ฉันไม่ยอมให้เขานอนร่วมเตียงด้วย"เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้พี่คงไม่ได้ถอดใจหนีฉันกลับไทยไปหรอกใช่ไหม" ฉันพยายามที่จะคิดในแง่ดี แค่คิดว่าเขากลับไทยโดยไม่มีฉันจู่ๆ อารมณ์ความน้อยอกน้อยใจมันก็วิ่งขึ้นมาจุกภายในอกฉัน"หึ...! ตื่นแล้วไม่คิดจะปลุกฉันเลยหรือไงคนบ้า แล้วยังหนีหายไปไม่บอกไม่กล่าวฉันอีก เมื่อคิดได้ดังนั้นมือเรียวบางหยิบกระเป๋าใบเล็กคว้าหาสมาร์ตโฟนขึ้นมาเพื่อจะโทรหาเขา แต่ใบหน้าหวานกับต้องชะงักอีกครั้ง เมื่อนึกขึ้นได้ว่าฉันไม่มีเบอร์พี่ริกเลย ความน้อยใจของอารมณ์คนท้องมันเริ่มมีมากขึ้น อารมณ์ที่มีคนคอยเอาอกเอาใจเราทุกอย่าง แต่จู่ๆ เช้ามากลับหายไปแบบนี้ ร่างบางแทบจะร้องไห้ออกมาอย่างไม่รู้ตัว ทั้งๆที่ ผ่
"ไม่เจอหน้านินิวสองวันพี่คิดถึงจะแย่" ร่างสูงเอ่ยมาเสียงนิ่ง นินิวรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ของคนตัวโต"คุณไม่ได้ป่วยอย่างที่ยัยเซบอกฉันนิ" นินิวถึงกับหันมองคนป่วย!! แค๊ก แค๊ก !! เมื่อเจอคำถามของคนตัวเล็กร่างสูงถึงกับไอ ขึ้นมาทันทีนินิวมองหน้าคนป่วยและไม่เหมือนเลยซักนิด อ่า...นี้ฉันโดนยัยเซ หลอกเข้าให้แล้วละสิ แต่นั้นริกกับเสยิ้มและมองหน้านินิวมา"เพี้ยะ" ฝ่ามือบางฟาดเข้าที่ลำแขนแกร่งของร่างสูงทันที" นิแน่..." คุณกับยัยเซรวมหัวกันแกล้งฉันใช่ไหม อ่า...ฉันไม่น่าหลงกลคนเจ้าเล่ห์อย่างยัยเซเลย คอยดูเถอะกลับไปฉันจะถลกหนังยัยนั้นออกเสียให้เข็ด"พี่เปล่านะครับ พี่ไม่ได้แกล้งป่วย พี่ไม่สบายจริง แต่ตอนนี้พอเห็นหน้าเมีย พี่ค่อยยังชั่วและดีขึ้นแล้วครับ" ริกเอ่ยมาพร้อมกับสบตาคนตัวเล็กพร้อมกับจับมือนินิวให้อังหน้าผากตัวเองที่ตัวยังลุ่มๆ เขาป่วยจริงแต่ตอนนี้ค่อยยังชั่วขึ้นแล้วจริง"ถ้าคุณไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ฉันก็จะกลับ" นินิวไม่บอกเปล่าร่างบางลุกขึ้น แต่กับโดนคนตัวโตนั้นรั้งเอาไว้ เมียอุตส่าห์เป็นห่วงและมาเยี่ยมเขาทั้งที จะปล่อยกลับไปง่ายๆ นี้ก็ไม่ใช่เขาละสิ อยากง้อ อยากหอม อย่ากคืนดีกับเมียจะแย่ ร่าง