"เธอสินะที่ชื่อโมเน่" ชายหนุ่มที่หน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับดราก้อนเอ่ยขึ้นก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้เต็มความสูงและเดินเข้ามาหาเธอ"นี้นายเป็นใคร ถอยไปนะ" โมเน่เอ่ยขึ้นเมื่อร่างสูงเดินเข้ามาประชิดตัวเธอ"ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก ไม่ต้องกลัว" เขาเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งฝุดยิ้มร้ายที่มุมปากและมองร่างบางตั้งแต่หัวจรดเท้า"...." "สวยดีหนิถึงว่า...""ว้าย~ มีอะไรกันรึป่าวคะคุณฟอลคอร์" ยังไม่ทันที่ฟอลคอร์จะเอ่ยจบมะลิที่พึ่งเดินออกมาจากห้องอาหารเอ่ยขึ้นทันทีอย่างตกใจกลัวว่าทั้งคู่จะมีปัญหากัน"ฟอลคอร์? " โมเน่เอ่ยทวนชื่อคนตรงหน้าอีกครั้ง"นี่คุณฟอลคอร์เป็นน้องชายของนายค่ะ" มะลิเอ่ยแนะนำชายหนุ่มให้กับว่าที่นายหญิงของเธอ"ไม่มีอะไรหรอกไปทำงานของเธอต่อเถอะ" ฟอลคอร์เอ่ยพร้อมกับทำมือไล่ให้สาวใช้ออกไปให้พ้น"ค่ะ" มะลิที่เห็นท่าทางของฟอล์คอร์ก็รีบก้มหน้าก้มตาและรีบเดินออกไปทันที"น้องชายของไอเลวนั้นหรอ เหอะ" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับกอดอกและเชิดหน้าขึ้นก่อนจะเดินไปนั่งไขว่ห้างยังโซฟาหรูกลางห้องรับแขกร่างสูงมองการกระทำของว่าที่พี่สะใภ้ของตัวเองก่อนจะเดินตามหลังเธอไปนั่งโซฟาตรงข้ามกับเธอพร้อมกับเอ่ยขึ้น"ปากร้ายใช้ได้เล
"ผมล้อเล่นอย่าทำหน้าแบบนั้นสิ" ฟอลคอร์เอ่ยอย่างหยอกล้อพร้อมกับยิ้มออกมาซึ่งต่างจากสีหน้าของผู้เป็นพี่โดยสิ้นเชิง"อย่ายุ่งกับยัยนั้น" ดราก้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงกดต่ำ"ว้าว ดูหวงจังเลยนะไม่สมกับเป็นพี่เลยแต่พี่รู้ใช่ไหมว่าบ้านเรามีจุดอ่อนไม่ได้โดยเฉพาะพี่""กูจัดการคนของกูเองได้""ก็ขอให้เป็นแบบนั้นเพราะดูคนของพี่จะพยศน่าดู" ฟอลคอร์เอ่ยขึ้นก่อนจะล้วงเอาบุหรี่ราคาแพงในกระเป๋าเสื้อของตนออกมาก่อนจะอัดนิโคตินเข้าเต็มปอดแล้วค่อยๆ พ่นควันขาวขุนออกมา"ถ้าจะมาพูดแต่เรื่องไร้สาระก็กลับไปสะกูจะทำงาน""ก็ว่าจะกลับแล้วล่ะป่านี้เด็กๆ ที่ผมเลี้ยงไว้คงคิดถึงผมแย่""....." ดราก้อนไม่ได้เอ่ยตอบอะไรได้แต่มองดูท่าทางสบายๆ ของน้องชายของเขานิ่งๆ จนฟอลคอร์สูบบุหรี่จนหมดม้วนแล้วลุกขึ้นเตรียมตัวที่จะออกจากห้อง"อ่อ พ่อฝากบอกว่าจะไปรอที่ฝรั่งเศสนะอย่านานล่ะ" ขณะที่ผู้เป็นน้องเดินไปถึงหน้าประตูห้องก็หันกลับมามองผู้เป็นพี่พร้อมกับเอ่ยทิ้งท้ายเรื่องที่พ่อของตนฝากมาและเปิดประตูจากไป"เห้อ~ " หลังจากผู้เป็นน้องเดินจากไปมาเฟียหนุ่มก็ถอนหายใจออกมาทันทีอย่างเหนื่อยล้าพร้อมกับเองหลังพิงพนักเก้าอี้ร่างสูงหลับตาลงช้าๆ และค
"คุณโมเน่มีอะไรจะให้ดิฉันทำหรอคะ? " สาวิตรีเอ่ยถามเมื่อเดินเข้ามาในห้องทำงานของหญิงสาว"วอลนัททำเมนูอะไรได้บ้าง" โมเน่เอ่ยถามขณะกำลังหย่อนสะโพกลงที่เก้าอี้ทำงานของเธอ"วอลนัทหรอคะ? " สาวิตรีเอ่ยทวนอีกครั้งอย่างแปลกใจเมื่ออยู่ดีๆ ก็ถูกถามถึงเรื่องวอลนัทไม่ใช่เรื่องงาน"....""คงจะเป็นพวกขนมมั้งคะดิฉันไม่ค่อยทราบคุณโมเน่จะให้ไปตามเชฟมาให้ไหมคะ""อืม ไปตามมาให้ทีนะ""ค่ะรอสักครู่นะคะ" สาวิตรีเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งกำลังจะเดินออกไปจากห้องแต่ก็ถูกหญิงสาวเรียกไว้ก่อน"เดียวก่อน""คะ? ""เธอช่วยไปหาซื้อผงวอลนัทสำหรับทำอาหารมาให้ฉันหน่อยแล้วอย่าให้ใครรู้" โมเน่เอ่ยพร้อมกับหยิบกระเป๋าตังแบรนด์หรูออกมาก่อนจะหยิบเงินจำนวนหนึ่งที่ดูเยอะกว่าค่าวอลนัทวางไว้บนโต๊ะทำงานของเธอ"ได้ค่ะ คุณโมเน่ต้องการอะไรเพิ่มอีกไหมคะ" สาวิตรีที่มองเจ้านายของตนอย่างไม่ค่อยเข้าใจนักก่อนจะเดินกลับมายังที่โต๊ะทำงานของผู้เป็นนายอีกครั้งและเอ่ยขึ้นพร้อมหยิบเงินจำนวนนั้นไป"ไม่มีแล้วไปเถอะ" หลังจากโมเน่เอ่ยจบสาวิตรีก็ออกไปทันทีหลังจากที่สาวิตรีออกไปได้ไม่นานนักก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นก๊อกๆ"เชฟมาแล้วค่ะ" สาวิตรีที่เคาะประตูอยู่
"ได้ค่ะ คุณโมเน่จะเอาไปหัดทำขนมหรอคะ" สาวิตรีเอ่ยตอบหญิงสาวพร้อมทั้งรีบนำของที่เธอใช้ให้ไปซื้อออกมาให้ทันที"ชะ..ใช่ แล้วนี้เชฟมารึยัง" ร่างบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักอย่างไม่เต็มเสียงก็จะเอ่ยถามถึงเชฟที่จะสอนเธอทำอาหาร"เชฟมารอคุณโมเน่แต่เช้าแล้วค่ะ""งั้นเดียวฉันลงไป" เอ่ยจบหญิงสาวก็เดินลงไปที่ห่องทำอาหารของโรงแรมทันที- หลายชั่วโมงผ่านไป -ติ๊ง~เสียงของเตาอบขนมดังขึ้นพร้อมทั้งร่างบางที่เปิดฝาเตาเเละนำขนมที่เธอพึ่งอบเสร็จมาวางไว้บนโต๊ะพร้อมกับเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าสภาพขนมที่เธอพึ่งทำนั้นดูน่าตาไม่ค่อยจะดีนัก"ทำไมมันออกมาดูไม่น่ากินเลยค่ะ" "คุณโมเน่พึ่งทำครั้งแรกเดียวเราลองใหม่อีกทีก็ได้ครับ" เชฟที่เป็นคนสอนเธอเอ่ยขึ้นอย่างให้กำลังใจพร้อมทั้งสอนเธอทำขนมอีกรอบและอีกรอบจนเวลาล่วงเลยไปหลายชั่วโมงเวลา 14.00 น."สวยมากครับคุณโมเน่ต่อไปก็เหลือแต่รสชาติ" เชฟเอ่ยชมเธอขึ้นเมื่อเห็นว่าหญิงสาวแต่งหน้าขนมเค้กเสร็จและยังดูดีต่างจากตอนแรกอีกด้วย ก่อนที่เขานั้นจะใช้มีดหันเค้กออกมาดูเนื้อข้างในและใช้ส้อมตักเค้กเข้าปาก"เป็นไงค่ะอร่อยไหม" หญิงสาวยิ้มและเอ่ยขึ้นด้วยแววตาคาดหวัง"อร่อยมากครับกลิ่นว
"ได้สิงั้นไปทางนั้นกันไหม" ซีโน่เอ่ยพร้อมกับชี้มือไปทางสวนด้านหลังของงานที่ไม่ค่อยมีผู้คนมากนัก"ได้ค่ะ ดูเงียบดี" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับหยิบแก้วไวน์ติดมือไปด้วยก่อนจะเดินตามร่างสูงของซีโน่ไปโดยที่มีเฟรดเดินตามไม่ห่าง"แล้วนี้คุณลุงไม่มาด้วยหรอคะ" โมเน่เอ่ยขึ้นเมื่อทิ้งสะโพกยังม้านั่งตรงข้ามกับร่างสูง"มาสิ โดยพวกหุ้นส่วนลากไปดื่มตั้งแต่เข้างานแล้ว""เข้าทางคุณลุงสินะคะ""ฮ่าๆ แล้วคุณอากับคุณน้ายังไม่กลับหรอ? ""ยังคะ เห็นหม่ามี๊ไลน์มาบอกว่าทางนั้นมีปัญหานิดหน่อยอาจจะกลับมาช้า""งั้นหรอ ถ้าเรื่องงานมีปัญหาอะไรบอกพี่ได้นะเดียวพี่ไปช่วย""ได้เลยค่ะเดียวโมเน่จะทักหาพี่ซีโน่คนแรกเลย ชนแก้วกันดีกว่าค่ะ" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งชูแก้วไวน์ในมือขึ้นมาด้านหน้าชายหนุ่มเคร้ง~เสียงชนแก้วไวน์ทั้งสองแก้วประสานเสียงกันก่อนที่ทั้งคู่จะพากับดื่มด่ำกับรสชาติหวานอมฝาดของไวน์ราคาแพงพร้อมกับต่างชวนกันพูดคุยเรื่องต่างๆ อย่างสนุกสนานโดยที่มีเฟรดยืนอยู่ด้านหลังของหญิงสาวไม่ห่าง"เดียวพี่ไปเอาเครื่องดื่มมาเพิ่มให้นะ" ซีโน่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าไวน์ที่เขาและเธอหยิบมาหมดแล้ว"ค่ะ" โมเน่เอ่ยพร้อมกับยิ้มหวานตอบกลับช
ร่างบางกรีดร้องออกมาเสียงหลงเมื่อถูกมือหนาของร่างแกร่งกระชากเสื้อผ้าของเธอจนขาดวิ่นจนเหลือแต่เพียงบราปีกนกและแพตตี้ตัวจิ๋วพร้อมทั้งพยายามจะดิ้นให้หลุดพ้นจากพันธนาการของเขาแต่ก็ไม่เป็นผล“เหอะ ทีกับฉันทำเป็นดีดดิ้น!! ” ดราก้อนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกดต่ำอย่างพยายามข่มโทสะไว้ไม่ให้เพิ่มมากขึ้นทั้งๆ ที่เขาแทบจะข่มอารมณ์ไม่ไหวจนอยากฆ่าชายหนุ่มคนที่เธอพุดคุยด้วยให้ตายคามือเสียด้วยซ้ำ“อื้อ~ ปล่อยนะ” โมเน่เอ่ยและพยายามหันหน้าหนีเมื่อมาเฟียหนุ่มโน้มหน้าเข้ามาดูดเม้นคอระหงของเธอจนเกิดรอยแดงมือหนาของดราก้อนเลื่อนมาบีบขยำหน้าอกอวบอิ่มที่กระเพื่อมตามจังหวะการหายใจอย่างแรงจนเหมือนมันจะแหลกคามือก่อนที่จะกระชากบราปีกนกของเธอออก"เจ็บ! " โมเน่เอ่ยออกมาเดียวสีหน้าบิดเบี้ยวมือเรียวพยายามดันใบหน้าของดราก้อนที่กำลังดูดกัดยอดปถุมถันของเธออยู่อย่างแรงแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะยิ่งเธอดันเขาออกเท่าไหร่เขาก็ดูดดึงยอดปทุมถันเธอแรงเท่านั้น“อ้าขาออก!! ” ดราก้อนที่พึ่งผละออกจากเต้านมอวบอิ่มก็ตวาดขึ้นเสียงดัง"...." คนตัวเล็กไม่ได้เอ่ยตอบแต่กับหนีบขาตัวเองไว้แน่นอย่างพยายามขัดขืนมือแกร่งของดราก้อนจับขาเธอตั้งฉากขึ้นพร้
- เช้าวันใหม่ -คลืด คลืด~มือเรียวของร่างบางที่กำลังงัวเงียควานหาโทรศัพท์ที่ส่งเสียงร้องปลุกเธอให้ตื่นในยามสายของวัน"ว่าไงคะหม่ามี๊"( ในข่าวหมายความว่ายังไง ทำไมมีอะไรไม่บอกหม่ามี๊กับแด๊ดดี๊! ) คำถามของผู้เป็นแม่และน้ำเสียงที่ดูน่ากลัวอย่างที่ท่านไม่เคยพูดแบบนี้กับเธอดังขึ้นทำเอาร่างบางที่กำลังงัวเงียอยู่ลืมตาเบิกกว้างและดีดตัวลุกขึ้นมาด้วยความตกใจ"ข่าวอะไรคะ? " โมเน่เอ่ยถามผู้เป็นเเม่เสียงแผ่วอย่างมึนงงว่าเธอมีข่าวอะไร( ข่าวลูกกับมิสเตอร์ดราก้อนไงทำไมไม่พูดกับหม่ามี๊กับแด๊ดดี๊ตรงๆ )"ป่าวนะคะหม่ามี๊ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกันแน่ๆ " โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับหยิบไอแพดของตัวเองที่วางอยู่ตรงหัวนอนมาเปิดดูข่าวของวันนี้ทันทีพร้อมกับตาเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าตอนนี้มีแต่ข่าวของเธอว่อนอินเตอร์เน๊ตไปหมดข่าวใหญ่ช็อควงการธุรกิจ หนุ่มนักธุรกิจสุดฮ็อตซุ่มคบสาวไฮโซทายาทโรงแรมดังถึงกับควงกันมาออกงานสังคมแต่เรื่องไม่จบเพียงเท่านี้เพราะดันไปปะทะกันเข้ากับหนุ่มไฮโซที่เคยเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้ไม่นาน!!รูปภาพ ( ตอนเดินควงแขนเข้างานด้วยกัน )รูปภาพ ( ตอนดราก้อนกับซีโน่ทะเลาะกัน )คลิปวิดีโอ ( คลิปวิดีโอตอนดราก
"แด๊ดดี๊หม่ามี๊ โมเน่คิดถึงที่สุดเลย" ร่างบางที่พึ่งเดินเข้ามาในตัวบ้านเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินมาสวมกอดผู้เป็นพ่อของเธออย่างออดอ้อนทันที"แด๊ดดี๊ก็คิดถึงโมเน่ที่สุดเหมือนกันลูก" ก้องเกียรติเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งหอมหัวลูกสาวของตนอย่างคิดถึง"หม่ามี๊ล่ะคะไม่คิดถึงโมเน่หรอ" โมเน่เอ่ยพร้อมกับมองผู้เป็นแม่ด้วยสายตาออดอ้อน"ไม่ต้องมาทำหน้าอ้อนเลยเรามีเรื่องต้องเคลียร์กันแล้วไหนมิสเตอร์ดราก้อน? " ผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้นและมองหาชายหนุ่มแต่เพียงไม่นานร่างสูงของดราก้อนก็เดินเข้ามาพร้อมกับกระเช้าผลไม้"สวัสดีครับ" ดราก้อนเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งส่งกระเช้าผลไม้ไปให้ยังช้อยที่ยืนอยู่ตรงนั้น"สวัสดีจ๊ะ" คุณหญิงไพรินเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มบางๆ ให้กับชายหนุ่ม"เชิญนั่งๆ " ก้องเกียรติพร้อมกับผายมือให้กับชายหนุ่มยังโซฟาที่ว่างอยู่"ใครจะอธิบายให้ฟังคนแรก" คุณหญิงไพรินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย"คือว่าข่าวที่หม่ามี๊กับแด๊ดดี๊เห็นมันไ..""มันเป็นความจริงครับผมกับโมเน่เรากำลังคบกันอยู่และตอนนี้เราก็อาศัยอยู่บ้านเดียวกัน" ยังไม่ทันที่โมเน่จะได้เอ่ยแก้ตัวอะไรชายหนุ่มก็เอ่ยแทรกขึ้นหญิงสาวที่ได้ยินดังนั้นก็หันไปมองชายหนุ่มด้วยตาเบิกกว
"เสร็จแล้ว" หญิงสาวเอ่ยขึ้นเมื่อเธอพึ่งใช้ผ้าก๊อซพันเเขนให้กับเขาเสร็จ"....." หลังจากที่หญิงสาวเอ่ยจบมาเฟียหนุ่มก็มองที่ผ้าพันแผลที่แขนของเขาที่มันดูไม่เรียบร้อยเท่าไหร่นัก"นี่! ไม่ต้องมามองแบบนั้นเลยนะก็ฉันพึ่งพันครั้งแรกมันก็แบบนี้แหละ" หญิวสาวที่เห็นสายตาของมาเฟียหนุ่มก็รู้ได้มันทีว่าเขาคิดอย่างไรกับการทำแผลของเธอ"ก็ไม่ได้ว่าอะไร" มาเฟียหนุ่มเอ่ยพร้อมกับลุกขึ้นไปหยิบกระเป๋าฉุกเฉินของศัตรูที่เขาขนเสบียงพวกนั้นลงมาด้วยไว้ตรงหน้าหญิงสาว"ว้าวว พวกนั้นเตรียมพร้อมกว่านายอีก" โมเน่ที่เปิดกระเป๋าดูและเห็นของกินก็เอ่ยขึ้นอย่างดีใจ"ฉันไม่ได้เตรียมตัวมาไล่ยิงคน""ก็นั้นแหละเป็นถึงมาเฟียนายก็ควรจะเตรียมพร้อมกว่านี้ไหมเกือบจะพาฉันมาตายอยู่แล้ว" โมเน่เอ่ยบ่นเป็นชุดพร้อมกับหยิบขนมปังขึ้นมาแกะถุงก่อนจะกัดคำโตอย่างคนหิวโหย"...." ดราก้อนที่ได้ยินที่ร่างบางเอ่ยก็ได้แต่นั่งกินแครกเกอร์เงียบๆ อย่างไม่ได้เอ่ยเถียงอะไรกลับไปส่วนหนึ่งที่เธอพูดก็มีเหตุผลเขาควรจะเตรียมพร้อมให้มากกว่านี้จริงๆ อย่างที่เธอเอ่ยเพราะเขานั้นเป็นมาเฟียและมีศัตรูอยู่รอบตัว"ทำไมนายไม่กินขนมปังล่ะมันน่าจะอยู่ท้องกว่า" โมเน่ถา
หญิงสาวตะโกนเรียกชื่อมาเฟียหนุ่มขึ้นมาอย่างสุดเสียงด้วยความตกใจพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้างเบิกเมื่อเห็นว่าเขาถูกกระสุนยิงเข้าที่แขนเพื่อที่จะมาช่วยผลักเธอให้พ้นจากกระสุน"ซี๊ด~ " ดราก้อนที่ถูกยิงเข้าที่แขนก็ทำสีหน้าเจ็บเพียงเล็กน้อยเพราะดีว่ากระสุนนี้เพียงแค่เฉี่ยวดีว่าไม่ฝังเข้าที่แขนแต่ก็เป็นรอยเฉี่ยวที่ลึกพอสมควร"ดะ...ดราก้อนเเขนนาย ฮึก" หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นคลอนด้วยความกลัวและตกใจพร้อมกับชี้ไปที่แขนข้างขวาของมาเฟียหนุ่มที่ตอนนี้เลือดไหลจนชุ่มแขนเสื้อเชิ้ตของเขา"หลับตาไว้จนกว่าฉันจะบอกให้ลืมตา" ดราก้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงกดต่ำพร้อมกับเปลี่ยนสีหน้าและแววตาเป็นโหดเหี้ยวก่อนจะสไลค์ปืนเพื่อเตรียมจะยิงทั้งที่ตอนนี้เขาเหลือกระสุนเพียงแค่ลูกเดียวเท่านั้น"อืม" หญิงสาวเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าและแววตาของชายหนุ่มเปลี่ยนไปเป็นโหดเหี้ยมอย่างที่เธอนั้นไม่เคยเห็นมาก่อนหลังจากที่หญิงสาวหลับตาลงดราก้อนก็หันกลับไปทางชายฉกรรจ์ที่นอนอยู่กับพื้นทรายพร้อมกับกำลังเล็งปืนมาทางเขาทั้งที่ตนเองเเทบจะยืนไม่ไหวเพราะเลือดไหลนองออกมาจากขาที่ถูกมาเฟียหนุ่มยิงจนเลอะพื้นทรายสีขาวดราก้อนที่เห็นแบบนั้นได้แต่ก
หญิงสาวกรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียงเมื่อเธอวิ่งมาเกือบถึงชายหาดหมายจะเจอเหล่าลูกน้องของดราก้อนมาช่วยเหลือเธอแต่เธอก็ต้องผิดหวังพร้อมกับตาเบิกกว้างด้วยความตกใจกลัวทันทีเมื่อเรือที่มาจอดเทียบใกล้ๆ เรือสปีดโบ๊ทของดราก้อนเป็นเรือของชายฉกรรจ์ที่ไล่ยิงเธอเเละดราก้อนเมื่อเช้าและพวกเขากำลังเล็งปืนมาที่เธอโมเน่หลับตาปี๋เมื่อคิดว่าเธอคงไม่รอดแล้วแน่ๆ พร้อมกับได้ยินเสียงปืนที่ลั่นผ่านเธอไปแต่เธอกับไม่รู้สึกเจ็บอะไรพร้อมกับเสียงของมาเฟียหนุ่มดังขึ้น"ฉันบอกแล้วใช่ไหมไม่ให้ไปไหน! " ดราก้อนตวาดลั่นพร้อมกับรีบวิ่งมาดึงเธอไปหลบหลังเขาหญิงสาวที่หลบอยู่หลังมาเฟียหนุ่มค่อยๆ ลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของชายหนุ่มพร้อมกับมองไปยังเรือของอีกฝ่ายก็เห็นว่าคนที่เล็งจะยิงเธอเมื่อกี้ตอนนี้ถูกดราก้อนยิงตกทะเลไปแล้ว"มึงฆ่าลูกพี่แล้วก็เพื่อนกู กูไม่ปล่อยไว้แน่!! " ชายฉกรรจ์คนหนึ่งที่เหลือรอดอยู่เอ่ยขึ้นเสียงดังลั่นด้วยใบหน้าเครียดเเค้นพร้อมกับเล็งปืนมาที่เขา"เดียวฉันนับหนึ่งถึงสามเธอวิ่งไปหลบอยู่หลังต้นไม้เข้าใจไหม""แล้วนายล่ะ""ไม่ต้องถามมากฉันบอกให้ทำอะไรก็ทำ! " ดราก้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดันพร้อมกับเล็งปืนไปที่เ
"ที่นี่เกาะอะไร" ร่างบางที่เดินตามหลังมาเฟียหนุ่มเข้าไปในเกาะเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัยเพราะเมื่อเธอมองไปรอบๆ เธอไม่เห็นเรือหรือแม้แต่ผู้คนอาศัยอยู่เลย"ไม่รู้ แต่น่าจะเป็นเกาะที่ไม่มีเจ้าของ" ดราก้อนเอ่ยขณะที่เขาเเละเธอเดินลึกเข้าไปเพื่อที่จะหาที่หลบภัย"พวกมันจะตามเรามาไหม" โมเน่เอ่ยถามมาเฟียหนุ่มด้วยสีหน้าเป็นกังวลและหวาดกลัว"ตาม" "นี่ ฉันยังไม่อยากตายนะ! " หลังจากสิ้นคำตอบของดราก้อนร่างบางก็รีบตวาดออกมาทันทีพร้อมกับหัวใจที่เริ่มเต้นแรงขึ้นอย่างหวาดกลัวว่าพวกนั้นจะตามมาเจอ"เธออยู่กับฉันไม่ตายหรอก""มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วฉันยังสาวยังสวยอยู่จะไม่ยอมตายเด็ดขาดและถ้าฉันตายฉันจะมาหักคอนายคนแรก! ""ผีฉันก็ขมขืน""ไอทุเรศ แล้วพวกลูกน้องนายจะมารับตอนไหน""ไม่รู้ที่นี้ไม่มีสัญญานโทรศัพท์" ดราก้อนเอ่ยขึ้นตามความจริงเพราะตั้งแต่ลงเรือมาเขาเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูหลายต่อหลายครั้งก็ไม่มีคลื่นสัญญาขึ้นมาเลยสักขีดเดียว"หมายความว่าไง นี่ฉันต้องอยู่ที่เกาะนี่ถึงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้จนกว่าลูกน้องนายจะหาเจอทั้งๆ ที่มีคนจะไล่ฆ่าเราน่ะหรอ! " โมเน่ตวาดขึ้นเสียงดัง"ใช่" ดราก้อนเอ่ยด้วยเสียงเรียบนิ่งก่อนจะหย
- 20 นาทีต่อมา -"อรุณสวัสดิ์ครับนาย" เสียงทักทายยามรุ่งสางของเหล่าบรรดาลูกน้องที่เริ่มตื่นมาเริ่มงานกันอีกครั้งเอ่ยทักทายดราก้อนที่พึ่งเดินออกมาจากโกดังพร้อมกับหญิงสาว"เตรียมสปีดโบ๊ทไว้ให้กูแล้วใช่ไหม" มาเฟียหนุ่มเอ่ยถามเมื่อเห็นมาตินและเฟรดเดินมา"ครับ นายจะให้ผมขับไปให้ไหมคับ" มาตินเอ่ยพร้อมกับยื่นกุญแจเรือสปีดโบ๊ทให้กับผู้เป็นนาย"ไม่ต้อง" มาเฟียหนุ่มเอ่ยก่อนจะเดินนำโมเน่ไปยังเรือสปีดโบ๊ทที่จอดรอเขาไว้อยู่ที่ชายฝั่ง- บนเรือสปีทโบ๊ท -"แค่จะดูพระอาทิตย์ขึ้นต้องออกมาไกลขนาดนี้เลยหรอ? " โมเน่เอ่ยถามเมื่อเห็นว่าดราก้อนขับเรือออกมาค่อนข้างที่จะไกลจากชายฝั่งอย่างรู้สึกสงสัยและหวั่นๆ ใจอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกับว่ามันจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น"จุดนี้เป็นจุดที่สวยที่สุดแล้ว" ดราก้อนที่ขับเรือสปีดโบ๊ทมาถึงยังจุดที่เขาต้องการก็ทำการดับเครื่องพร้อมกับเอ่ยขึ้นและเป็นจังหวะเดียวกันกับพระอาทิตย์ที่กำลังโผลขึ้นมาจากขอบฟ้า"สวยจังเลย" หญิงสาวเอ่ยพร้อมกับสายตาที่จ้องมองไปยังพระอาทิตย์ที่กำลังขึ้นอย่างหลงไหลจนลืมเรื่องที่เธอเป็นกังวนในใจไปจนหมดสิ้น"ชอบไหม" ดราก้อนที่มองร่างบางอยู่ด้วยสายตาอ่อนโยนก็เอ่
"วิวตรงนี้สวยจัง" โมเน่เอ่ยขึ้นเมื่อขึ้นมาถึงระเบียงชั้น 2 ของโกดังและทอดสายตามองไปที่ทะเลอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาตรงหน้า"นั้นสิ สวยจัง" เวนิสที่มองท้องทะเลยามค่ำคืนกับเพื่อนรักของตนเอ่ย"มึงยังไม่ได้บอกกูเลยนะว่ามึงไปอยู่กับเอเทรนได้ยังไง" โมเน่เอ่ยพร้อมกับนั่งลงยังเก้าอี้ม้าหินอ่อนที่ตั้งไว้ที่ระเบียงพร้อมทั้งจ้องมาที่เวนิสอย่างต้องการคำตอบ"เรื่องมันยาว" เวนิสเอ่ยขึ้นพร้อมกับก้มลงต่ำด้วยแววตาเศร้าที่สั่นไหว"เล่ามากูพร้อมรับฟัง" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งจับมือเพื่อนรักของตนมากำไว้อย่างให้กำลังใจ"คือว่า....." เวนิสเงยหน้ามองเพื่อนรักของเธอด้วยน้ำตาที่คลอเบ้าอย่างหลากหลายความรู้สึกก่อนจะเริ่มเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้โมเน่ฟัง"เหี้ยมาก แล้วตอนนี้อีเเม่เลี้ยงมึงอยู่ไหนกูจะไปจัดการมันเอง" หลังจากที่โมเน่ได้ฟังเหตุการณ์ทั้งหมดที่เวนิสเอ่ยเล่าให้ฟังก็รู้สึกโกรธแค้นแทนเพื่อนทันทีและรู้สึกเสียใจไปในคราวเดียวกันที่เธอเองไม่สามารถช่วยอะไรได้"ไม่ต้องถึงมือมึงหรอกกูรอคิดบัญชีกับมันอยู่แค่หาจังหวะ" เวนิสเอ่ยขึ้นด้วยแววตาเครียดแค้น"แล้วมึงอยู่กับเอเทรนมันดูแลมึงดีไหม""ก็ดี หรือกูเริ่มปรับตัวได้ก
"ไม่ได้หรอกครับ นายหญิงเป็นผู้หญิงของนายเรียกนายหญิงถูกแล้วครับ" ลูกน้องคนเดิมเอ่ยขึ้นเพราะว่าถ้าเธอผู้หญิงของนายเขายังไงก็ต้องเรียกว่านายหญิงเท่านั้น"ช่างมันเถอะจะเรียกอะไรก็เรียก แต่ข้าวกล่องมันจะพอไปมีแรงทำงานอะไร" โมเน่กรอกตาไปมาอย่างไม่อย่างไม่อยากสนใจกับสรรพนามที่ลูกน้องของดราก้อนเรียกตนก่อนจะเอ่ยต่อพร้อมกับกวักมือเรียกเฟรดที่ยืนอยู่กับดราก้อนให้มาหาเธอ"เฟรดมานี้หน่อย""ครับ" เฟรดที่พึ่งเดินมาถึงเธอเอ่ย"เดียวนายสั่งกุ้งลอฟเตอร์มา 100 ตัวนะ"" 100 ตัว? " เฟรดเอ่ยทวนอีกครั้งด้วยสีหน้าสงสัยปนตกใจกับจำนวน"ใช่ แล้วก็ข้าวผัดปูด้วยที่นี้มีกี่คน" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งมองไปรอบๆ โกดังที่ตอนนี้มีเหล่าลูกน้องมากมายทำงานกันอยู่อย่างไม่มีใครได้หยุดพัก"ประมาณ 250 คน ครับ" "งั้นข้าวผัดปู 300 กล่อง ปลาหมึกย่าง 50 โล ปลาเผา 200 ตัว ปูม้านึ่งด้วย""สั่งมาให้คนกินหรอครับ? ""ฉันคงสั่งมาเลี้ยงผีเจ้าที่มั้ง นี้พวกนายจะกินไรไหมเดียวฉันเลี้ยงเอง" โมเน่เอ่ยเหวี่ยงใส่เฟรดอย่างหงุดหงิดกับสิ่งที่เขาถามเชิงแขวะเธอก่อนจะหันไปเอ่ยถามเอลิค เฟยหลงและแดเนียลที่ยังคงทำงานกันอยู่เช่นกัน"หึ ไม่ใช่ใช้เงินเพื
"ไง สาวน้อยมานั่งทำอะไรตรงนี้คนเดียว" แดเนียลที่พึ่งเดินมาจากการตรวจงานอีกด้านของโกดังเสร็จก็เอ่ยทักหญิงสาวที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ที่โซฟารับแขกของโกดัง"ตอนแรกมีเฟรดด้วยแต่ฉันใช้ไปซื้อชานมไข่มุก" หญิงสาวเอ่ยโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองเพราะสายตาของเธอยังคงจดจ่อกับเกมส์ในโทรศัพท์ของตนเองอยู่"ฮ่าๆ เธอนี้ใจกล้าไม่เบาเลยนะใช้มือซ้ายคนสนิทของเพื่อนฉันไปซื้อชานมไข่มุก" แดเนียลที่ได้ยินที่หญิงสาวเอ่ยก็หัวเราะลั่นขึ้นมาทันทีก่อนจะเอ่ยต่อ"แล้วมันแปลกตรงไหนคะหรือว่าใช้ไม่ได้? " โมเน่ที่เห็นว่าแดเนียลกำลังหัวเราะกับคำสั่งที่เอใช้เฟรดก็ขมวดคิ้วพร้อมกับเงยหน้ามองชายหนุ่มพร้อมกับเอ่ยขึ้น"ป่าวหรอก ไม่ใช่ใช้ไม่ได้แต่ฉันแค่ไม่เคยเห็นใครใช้ไอเฟรดไปทำอะไรแบบนั้นมาก่อน""งั้นตอนนี้ก็เห็นแล้วนะคะ" "เธอนี้ฝีปากใช้ได้ แต่ถึงเธอจะเป็นผู้หญิงของดราก้อนหรือว่าที่นายหญิงใหญ่ของตระกูลมันก็ควรระวังคำพูดไว้บ้าง" แดเนียลเอ่ยกับหญิงสาวเสียงเรียบอย่างต้องการจะตักเตือนเธอเพราะแค่เขาเจอเธอแค่ไม่กี่ครั้งก็พอจะเดาได้ว่าเธอคงแสบใช่ย่อยจากวีรกรรมต่างๆ ที่เธอทำกับเพื่อนรักของเขา"ฉันไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงของเขาหรือนายหญิงอะ
"กำหนดมันวันเสาร์ไม่ใช่หรอ? " หลังจากที่มาตินเอ่ยจบมาเฟียหนุ่มก็เงยหน้าพร้อมกับเอ่ยขึ้นทันที"คุณเฟยหลงบอกว่ามีสายบอกตำรวจมันรู้แล้วว่าเสาร์นี้เลยจะเลื่อนเวลาส่งของให้ไวขึ้นครับ""อืม แล้วตอนนี้พวกมันไปที่ท่าเรือกันรึยัง""คุณเฟยหลงอยู่ท่าเรือที่สตูลกับคุณเอลิคแล้วครับส่วนคนอื่นๆ กำลังตามไป""บอกพวกมันว่าเดียวกูตามไป""ครับ" หลังจากที่รับคำสั่งจากผู้เป็นนายเสร็จมาตินก็รีบออกไปทันทีพร้อมกับดราก้อนที่ยกโทรศัพท์ขึ้นมากดต่อสายไปยังเบอร์ของหญิงสาว( ฮะโหล )"งานเธอยังเหลืออีกเยอะไหม"( ไม่ฉันมีแค่เซ็นเอกสารแทนแด๊ดดี๊กับหม่ามี๊มีอะไรรึป่าว ) โมเน่เอ่ยถามด้วยความสงสัย"เดียวฉันไปรับ"หลังจากที่เขาเอ่ยจบก็กดตัดสายทันทีโดยไม่ฟังคำตอบของคนปลายสายพร้อมกับเก็บงานทุกอย่างและลุกออกไปจากห้องทำงานทันทีอย่างรีบร้อน- บนรถ -"นี่นายจะพาฉันไปไหน" เสียงของหญิงสาวที่มาเฟียหนุ่มพึ่งไปรับมาจากโรงแรมของเธอเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองไปข้างทางที่ตอนนี้รถตู้คันหรูกำลังแล่นอยู่ด้วยความเร็วที่เร็วกว่าปกติ"เดียวถึงก็รู้เอง" ดราก้อนเอ่ยพร้อมทั้งเช็คงานที่เขาต้องทำให้เสร็จภายในอาทิตย์นี้ผ่านทางไอแพด"นายคงไม่ได้พาฉันไปฆ่า