Share

บทที่ 6

Author: วิถีมารไร้ขอบเขต
เมื่อได้รับคำสัญญาของหัวหน้า ในใจผังเป่ยก็ดีใจมาก

ไม่เพียงได้รับตำแหน่งผู้พิทักษ์ภูเขา ยังช่วยหาปืนได้อีกด้วย

สิ่งนี้สำหรับเขาแล้ว เท่ากับจะได้ล่าเหยื่อได้เยอะ ๆ

เพียงแต่ ตอนนี้ลูกกระสุนไม่มาก ผังเป่ยคิดจะตัดเสื้อผ้าให้แม่ น้องสาวและตัวเอง แม้จะยิงลูกกระสุนห้าดาวตรงเป้าทุกนัด ก็ใช่ว่าจะแก้ปัญหาได้

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ผังเป่ยยังต้องคิดหาวิธีอีก

ยิงร้อยครั้งถูกร้อยครั้ง บอกได้ถึงอัตราความแม่นยำ ทว่าระเบิดหัวทุกนัดนั่นมันไร้สาระชัด ๆ

ระเบิดหัวได้ทุกนัดจริง ๆ คงมีแต่ในทีวีแล้ว

ยังไงสัตว์ก็เป็นสิ่งมีชีวิต ไม่ได้มีวิถีที่ตายตัว และพวกมันยังหลบได้อีกด้วย

ฉะนั้น หากต้องการใช้กระสุนห้านัดยิงกวางโรตะวันออกห้าตัว นั่นยากมากจริง ๆ ผังเป่ยที่เคยผ่านการรบจริงเข้าใจจุดนี้เป็นอย่างดี

คิดจะล่ากวางโรตะวันออก ยังต้องใช้สมองอีกหน่อย

ดังนั้นเมื่อกลับบ้าน ผังเป่ยก็เริ่มเตรียมข้าวของ เขารื้อรั้วที่ล้มลงไปแล้วมาสองสามอัน จากนั้นเลือกท่อนไม้ที่นับว่ายังแข็งแรงอยู่จากในนั้นมาสองสามอัน

แล้วก็เหลาท่อนไม้พวกนี้

ก่อนจะหาปืนมาได้ อุปกรณ์อย่างอื่นที่ทำได้นิดหน่อย อย่างไรก็ต้องทำสักหน่อย

ถึงยังไง ตอนที่เข้าฝึกเอาตัวรอดในป่าเมื่อปีนั้น มีทักษะการเอาตัวรอดนานาชนิดและสามารถผลิตอาวุธหลากหลายประเภทออกมาได้ แม้จะดูดึกดำบรรพ์มาก แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบกับการล่าสัตว์

ส่วนปืนที่ให้สัญญา ผังเป่ยกลับรู้สึกว่าแค่ฟังไว้ก็พอแล้ว

ยังไงก็ต้องดูว่าเบื้องบนจะให้หรือไม่

อีกอย่างต่อให้มีปืน ลูกกระสุนสำรองก็ยังเป็นปัญหา ฉะนั้นหาปืนมาได้ ก็ยังต้องจัดหากระสุนให้เพียงพอด้วย งั้นก็ยากแล้ว

ลูกกระสุนต้องใช้เงินซื้อเช่นกัน และไม่ใช่ถูก ๆ ด้วย เขามีเงินซื้อลูกกระสุนเสียที่ไหน ยิงทีหนึ่งก็น้อยลงไปนัดหนึ่ง

ผังเป่ยครุ่นคิดพลางเหลาท่อนไม้ไปด้วย ทำได้ประมาณสามท่อนก็ไม่ทำแล้ว

ทำเยอะไปก็ไร้ประโยชน์ อนาคตถ้ามีวัสดุละก็ ค่อยทำที่ดีหน่อยก็สิ้นเรื่องแล้ว อาวุธล่าสัตว์ขั้นพื้นฐานพรรค์นี้ พอใช้ก็พอ ไม่จำเป็นต้องทำเยอะ

ตื่นเช้าขึ้นมา ผังเป่ยก็พาแม่และน้องสาวลงเขามาพร้อมกัน

โชคดีที่อากาศวันนี้ไม่เลวทีเดียว แสงอาทิตย์สว่างจ้าแสบต้า อุณหภูมิก็ไม่ต่ำอย่างเมื่อวานขนาดนั้น

ผังเป่ยแบกปืนล่าสัตว์ไว้บนหลัง พาแม่และน้องสาวไปยังหมู่บ้านตรงตีนเขาด้วยกัน

ตีนเขาที่ผังเป่ยจะไป ไม่ใช่ที่ที่มีคนอยู่อาศัย แต่เป็นป่าทึบที่ไม่มีคนแห่งหนึ่ง

อยู่ในภูเขาลึกเช่นกัน รอบข้างถูกโอบล้อมไปด้วยหมู่เขา ในผืนป่าก็มีสัตว์ร้ายปรากฏตัวและหลบซ่อนตัวเช่นกัน แต่เมื่อเทียบกันแล้ว ช่วงฤดูหนาวสถานที่พรรค์นี้ตอนกลางวันสัตว์ร้ายจะไม่ปรากฏตัว

ฉะนั้น หลี่ว์ซิ่วหลันถึงเห็นด้วยที่ลูกชายจะมาล่าสัตว์

ภายใต้การนำของหลี่ว์ซิ่วหลัน ทั้งสามคนถือท่อนไม้ที่เหลาแล้วคนละท่อน

หลี่ว์ซิ่วหลันไม่ได้มานานแล้ว แม้ยังจำทางได้ แต่คิดจะตามหากวางโรตะวันออกให้เจอ ก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

หิมะโปรยปรายปกคลุมไปทั่วพื้นดิน ในป่าทึบเงียบสงัดจนกดดันอยู่เล็กน้อย

ทว่าระหว่างทางผังเป่ยยังพูดคุยยิ้มแย้ม เมื่อเข้ามาในป่าภูเขาก็คล้ายกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

เขาเคลื่อนไหวระมัดระวัง ตลอดทางยังมักสังเกตพืชพรรณ โดยเฉพาะมองกิ่งไม้ที่ถูกขูดหักเหล่านั้น ยังมีร่องรอยการกินอาหารของสิ่งมีชีวิตอีกด้วย

แม้คนที่อยู่ในตำบลจะอดอยาก แต่ก็ไม่ถึงขั้นน่าเวทนาเหมือนอย่างหมู่บ้านในเขตภูเขารอบ ๆ เมืองขนาดนั้น พิทักษ์ภูเขาที่ใหญ่ขนาดนี้ พวกเขาขุดผักป่าก็พอกินแล้ว

เพียงแต่ภูเขาลึกอันตรายเกินไป คนมากมายเข้าไปในภูเขาแล้วออกมาไม่ได้อีก

ฉะนั้นการพบศพในป่าเขา ก็ไม่ได้ทำให้คนประหลาดใจนัก

ตลอดทางผังเป่ยเดินไปด้วยคอยสังเกตการณ์ไปด้วย เดินมาได้หนึ่งชั่วโมงกว่า หลี่ว์ซิ่วหลันก็รู้สึกว่าขาของตนชาไปหมดแล้ว

แต่ยังไม่เห็นเงาของกวางโรตะวันออกเลย

“เสี่ยวเป่ย ตรงนี้อาจไม่มีกวางโรตะวันออกแล้วก็ได้ คงถูกคนจับไปหมดแล้ว ตีนเขาข้นแค้นขนาดนี้ กวางโรตะวันออกเป็นสัตว์หายากนะ”

พูดตามตรง ต่อให้กวางโรตะวันออกโง่แค่ไหน แต่ก็เป็นสัตว์ป่า

คิดจะจับ ไม่ได้ง่ายอย่างที่บรรยายขนาดนั้น

กวางโรตะวันออกไม่ได้จับกันง่ายๆ! ไม่มีประสบการณ์ อย่างคนหัวรั้นแบบนี้ หลี่ว์ซิ่วหลันคิดว่าลูกชายคงจะจับไม่ได้แม้แต่ตัวเดียว

เธอเองก็รู้ดีว่า อันที่จริงที่หลี่ว์ไห่ให้ปืนผังเป่ยเป็นเพราะเห็นแก่หน้าตน อยากให้โอกาสผังเป่ยสักครั้ง

เขาเองก็ไม่คิดว่าผังเป่ยจะจับกวางโรตะวันออกได้

ไม่อย่างนั้น คงไม่มีทางให้แค่กระสุนห้านัดมาแน่

ผังเป่ยส่ายหน้า เขาพูดอย่างมุ่งมั่นว่า “แม่ ในป่าผืนนี้ต้องมีกวางโรตะวันออกแน่ และมีไม่น้อยด้วย ผมเห็นร่องรอยผิวไม้ที่สัตว์กินอาหารมากมาย ร่องรอยพวกนี้เป็นร่องรอยของสัตว์กินพืช”

“เราหาต่ออีกหน่อย ผมเดาว่าต้องหาเจอแน่ ป่าไม้ตรงนี้ค่อนข้างหนาแน่น ไปดูที่ที่เบาบางหน่อยแล้วกัน”

หลี่ว์ซิ่วหลันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อว่า “ไปทางนี้ ทางนี้เป็นทางไปริมแม่น้ำ ต้นไม้ทางนั้นไม่ได้แน่นหนาขนาดนี้ เพราะประชาคมมาโค่นต้นไม้ทางนี้”

ผังเป่ยพยักหน้า พวกเขาเดินไปตามทิศทางที่แม่บอกอีกราวสี่สิบกว่านาที

ในจังหวะที่หลี่ว์ซิ่วหลันกำลังจะถอดใจกลางคันอีกครั้ง จู่ ๆ ผังเป่ยก็เอ่ยขึ้นว่า “แม่ อย่าเพิ่งพูดนะ!”

หลี่ว์ซิ่วหลันชะงักไป หลังจากนั้นผังเป่ยก็ชี้ไปในผืนป่าที่อยู่ริมแม่น้ำ มีเงาหลายสายจริง ๆ เป็นกวางโรตะวันออก!

แม่กวางโรตะวันออกตัวหนึ่งกำลังนำกวางโรตะวันออกอีกสี่ตัว เป็นกวางโรตะวันออกตัวเมียและลูกกวางโรตะวันออก ไม่มีตัวผู้ ปกติแล้วเพศผู้ที่โตเต็มไวจะเข้าฝูงในฤดูร้อนเท่านั้น

ฤดูหนาว มีแต่แม่กวางโรตะวันออกพาฝูงออกหากิน

เมื่อเห็นกวางโรตะวันออกเหล่านี้ ผังเป่ยก็ดีอกดีใจระลอกหนึ่ง

หลี่ว์ซิ่วหลันเห็นกวางโรตะวันออก ก็เป็นกังวลขึ้นมา “เสี่ยวเป่ย แกใช้ปืนเป็นไหม?”

ผังเป่ยคลี่ยิ้ม เขาเองก็ไม่ได้อธิบาย ทว่าบรรจุกระสุนเลย แล้วพูดกระซิบขึ้นว่า “แม่ แม่กับน้องคอยดูนะ อย่าเพิ่งขยับ”

พูดไปพลาง ผังเป่ยก็หมอบลงบนพื้นหิมะ จากนั้นก็คืบคลานไปด้านหน้า เข้าใกล้อย่างระมัดระวัง เขาในฐานะมือสไนเปอร์ มั่นใจในฝีมือการยิงปืนของตนอย่างยิ่ง หลังตามการเข้าใกล้ ปากกระบอกปืนของผังเป่ยก็เล็งไปยังตัวที่ใหญ่ที่สุด

ซึ่งก็คือแม่กวางโรตะวันออกที่นำฝูง สิ่งที่เขาต้องทำคือใช้ลักษณะจำเพาะแสนโง่เขลาของกวางโรตะวันออก จากนั้นก็ทำสงครามกวาดล้าง!

สำหรับผังเป่ยแล้ว ครอบครัวต้องพร้อมหน้าพร้อมตากัน

เล็งเป้า หลังจากนั้นผังเป่ยก็กลั้นลมหายใจเอาไว้ นิ้วของเขากดอยู่บนไก ในใจคำนวณความเร็วลมและระยะห่างอยู่เงียบ ๆ

แม่กวางโรตะวันออกกำลังก้มหน้าหาของกินอยู่ ไม่มีกะจิตกะใจมาสนใจเขา

ปัง!

ต่อมาเสียงปืนดังขึ้นทีหนึ่ง กวางโรตะวันออกที่ตกใจเผยให้เห็นรูปหัวใจสีขาวบนสะโพกของมัน

ยิงพลาดเหรอ?

วิถีกระสุนของปืนเส็งเคร็งนี้มีปัญหา! ปืนกระบอกนี้ต่อให้เล็งแม่นแล้วก็ตาม นี่เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมถึงไม่มั่นใจว่าจะยิงโดนหัวทุกนัด!

เมื่อเจอปัญหาการปรับปืน ผังเป่ยก็ไม่ได้กระวนกระวายแต่อย่างใด ทว่าวิ่งไปในทันที

เนื่องจากเขารู้ว่ากวางโรตะวันออกโง่ ลั่นไกเพียงนัดเดียว หนำซ้ำเขายังซ่อนตัวอยู่

ฉะนั้น พวกมันจึงไม่เห็นว่าเป็นใคร หลังวิ่งหนีไปแล้ว อีกครู่หนึ่งก็จะกลับมาดู

ผังเป่ยรีบถือปืนพุ่งเข้าไป เขาเองก็ไม่ทันได้คิดมาก ลั่นไกออกไปอีกนัดเลย

ปัง!

ครั้งนี้ ถูกหัวในนัดเดียว! กวางโรตะวันออกไม่กระดุกกระดิกอย่างสมบูรณ์

ผังเป่ยมองกวางโรตะวันออกและเลือดที่อยู่บนพื้น เขาพูดเสียงเบาว่า “แม่เจ้าโว้ย กวางโรตะวันออกนี่ไม่เล็กเลย!”

ทว่าในตอนนี้กวางโรตะวันออกตัวอื่นหนีไปหมดแล้ว

ผังเป่ยไม่คิดจะตาม และไม่ได้แตะต้องแม่กวางโรตะวันออก ทว่ากอดปืนนอนอยู่บนพื้นหิมะไม่กระดุกกระดิกเลย สิ่งที่เขาต้องทำคือทำให้กวางโรตะวันออกประหลาดใจ

หลี่ว์ซิ่วหลันคิดว่าลูกชายได้รับบาดเจ็บ เธอตะโกนขึ้นด้วยความเป็นห่วงว่า “เสี่ยวเป่ย แกไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

“ไม่เป็นอะไร! แม่กับเสี่ยวซีหลบให้ดี ไม่ต้องสนใจผม”

ผังเป่ยซ่อนตัวอยู่ในพื้นหิมะ ความหนาวเหน็บเย็นเยือกแทงกระดูกกระตุ้นร่างกายอย่างต่อเนื่อง

ผังเป่ยสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ

ส่วนกวางโรตะวันออกที่หนีไปเหล่านั้น เมื่อพบว่าไม่มีคนตามพวกมัน บางทีอาจเพราะประหลาดใจ และอาจเป็นเพราะโง่

ไม่นานพวกมันก็วิ่งกลับมา

ดูว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร

เมื่อกวางโรตะวันออกเหล่านี้เข้ามาใกล้ ผังเป่ยก็แสร้งตายอยู่บนพื้น กวางโรตะวันออกเดินเข้ามาดม แถมใช้จมูกดันเขาอีกด้วย อยากจะดูว่าสิ่งนี้คือตัวอะไร ทำไมถึงได้ดังขนาดนี้?

“ฮัลโหล! เบบี้คนโตของฉัน!”

“ปัง!”

ในจังหวะนี้เอง ผังเป่ยหมอบอยู่ในพื้นหิมะเล็งกวางโรตะวันออกแล้วยิงในนัดเดียว!

นัดนี้เข้าที่ท้องโดยตรง กวางโรตะวันออกตายคาที่ไปอีกตัว

กวางโรตะวันออกที่เหลือตกใจ และคิดจะหนีอีกครั้ง ทว่าผังเป่ยไม่ให้โอกาสพวกมันแล้ว

ปัง!!!

ยิงอีกหนึ่งนัด

ผังเป่ยยิงเข้าที่หัวอีกครั้ง

แต่ในตอนนี้ ผังเป่ยเหลือกระสุนแค่นัดเดียว

ผังเป่ยถือปืนเล็งไปที่กวางโรตะวันออกอีกตัวที่ตัวใหญ่หน่อย ก่อนจะยิงออกไปหนึ่งนัด

กระสุนนัดสุดท้ายเข้าที่ขาของมัน

หลังจากนั้น ผังเป่ยกลัวว่ามันจะหนีไป จึงหยิบท่อนไม้ขึ้นมาแล้วแทงไป

การแทงนี้ ผังเป่ยจึงจบชีวิตกวางโรตะวันออกตัวนี้ได้โดยตรง

สี่ตัว!

กระสุนห้านัดยิงได้สี่ตัว!

นี่เป็นเหยื่อจากการล่าที่ตาก็ยังไม่เคยได้!

ผังเป่ยมองไปยังกวางโรตะวันออกบนพื้นด้วยความตื่นเต้น ในใจดีใจสุด ๆ

เขาชี้กวางโรตะวันออกพร้อมพูดตะโกนว่า “แม่ รีบมาเร็วเข้า รวยแล้ว! กวางโรตะวันออกสี่ตัว!”

และในขณะที่ผังเป่ยกำลังกระโดดโลดเต้นอยู่ ไม่รู้ว่าลูกกวางโรตะวันออกตัวที่เล็กที่สุดตัวนั้นคิดอย่างไร

ไม่คิดเลยว่ามันจะกลับมาอีก! กวางโรตะวันออกยิ่งเล็กเท่าไร ความประหลาดใจก็มากขึ้นเรื่อยๆ! มันไร้เดียงสาจึงคิดมาดูว่าตัวที่แยกเขี้ยวยิงฟันอยู่ในพื้นหิมะนี้คือตัวอะไรกันแน่!

ผังเป่ยหันหน้ากลับไป ดวงตาสองคู่สบมองกัน

“อะไร? ดูถูกฉันงั้นเหรอ?”

ผังเป่ยปาท่อนไม้ออกไปโดยไม่แม้แต่จะคิด

“ทั้งครอบครัวต้องอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา!”

เมื่อเห็นลูกชายกำลังจัดการกวางโรตะวันออก หลี่ว์ซิ่วหลันก็ไม่ได้คิดมาก เธอหยิบท่อนไม้ขึ้นมาแล้วออกแรงแทงออกไปเหมือนกับลูกชาย

ในตอนนี้ แทงถูกเป้าจริง ๆ ด้วย!

ผังซีตัวน้อยก็เลียนแบบท่าทางของแม่เช่นกัน เธอถือท่อนไม้ “จัดการมัน! จัดการมัน! จัดการแกให้ตาย กินเนื้อ!”

ผังเป่ยเพิ่งใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี เขาหย่อนก้นนั่งบนพื้น

หลี่ว์ซิ่วหลันมองกวางโรตะวันออกที่เกลื่อนเต็มพื้น อึ้งทึ่งไปเลย!

ห้าตัว!

ตัวใหญ่สอง ตัวเล็กสาม

ผังเป่ย คิดไม่ถึงเลยว่าจะทำได้จริง ๆ! เขาใช้ปืนเป็นได้ยังไง? หนำซ้ำทักษะการล่าสัตว์พวกนี้ เขาไปเรียนมาจากไหน?
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ย้อนเวลาไปเป็นนักล่ายุคก้าวกระโดด   บทที่ 35

    หลี่ว์ชิงซงตื่นตระหนก เขาไม่คาดคิดว่าจะถูกเดรัจฉานนี้ซุ่มโจมตีเคยได้ยินจากพ่อของตัวเองมาตลอดว่าไอ้เจ้าหมาป่านี้มันดุร้ายและเจ้าเล่ห์นัก แต่ก็ไม่เคยเจอกับตัวมาก่อนแน่นอนว่าถ้าเขาเคยเห็นมาก่อน ก็คงไม่มีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้“ทำไงดี!” เสียงพูดของหลี่ว์ชิงซงสั่นเล็กน้อย แต่เขาก็รีบชักกรวยน้ำแข็งออกมาในทันที ป้องกันไม่ให้หมาป่าที่จะปรากฏตัวขึ้นมาเมื่อไรก็ได้ผังเป่ยกระซิบ "ตอนนี้พวกเราทำได้แค่หาทางถอยกลับไปที่กับดักตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเราจะไม่มีทางสู้มันได้!"หลี่ว์ชิงซงพยักหน้า มีกับดักช่วย พวกเขาสองคนก็ยังมีโอกาสรอดตาย ถ้าขืนสู้ไปทั้งอย่างนี้ โอกาสรอดก็เท่ากับศูนย์หลังจากหารือวิธีรับมือแล้ว ชายทั้งสองก็เคลื่อนตัวไปทางกับดักในทันทีแต่จะเคลื่อนไหวเร็วเกินไปไม่ได้ จะให้ฝูงหมาป่ารู้ว่าพวกเขากลัวไม่ได้ดังนั้นต้องไปชิดทางนั้นอย่างระมัดระวังโชคดีที่กับดักอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้หลัก ๆ แล้วผังเป่ยกับหลี่ว์ชิงซงสองคนต้องระแวดระวังขณะถอยไปทางด้านนั้นด้วย แล้วก็ต้องหันหลังให้กัน เพราะกลัวว่าจะถูกลอบโจมตีถึงแม้จะมองไม่เห็น แต่หลี่ว์ชิงซงก็ได้ยินเสียงดังกรอบแกรบที่อยู่รอบตัวแล้วนอกจ

  • ย้อนเวลาไปเป็นนักล่ายุคก้าวกระโดด   บทที่ 34

    หลังจากที่ได้พูดคุยกับตาอยู่พักหนึ่ง ผังเป่ยก็รู้สึกมั่นใจในการล่าสังหารฝูงหมาป่ามากขึ้นการตามล่าราชาหมาป่าก็เป็นศึกสำคัญสำหรับตัวเขาในการรักษาตำแหน่งผู้พิทักษ์ภูเขานี้!ดังนั้นเขาจะต้องชนะเท่านั้น จะแพ้ไม่ได้!แม้ว่ามารดาจะโดนดุอยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้วบ้านตาถือว่าใจดีกับพวกเขามากที่นี่ ผังเป่ยสัมผัสได้ถึงความใส่ใจจากครอบครัว แล้วก็ความกลมเกลียวกันของทุกคนในครอบครัวไม่ว่าจะลุงใหญ่หรือยายต่างก็ใจดีกับผังเป่ยมาก แม้ว่าตาเข้มงวดไปสักหน่อย แต่ก็สัมผัสได้ถึงความรักที่กว้างใหญ่ดุจขุนเขาที่ตามีให้ตั้งแต่ยุคโบราณ ลูกสาวกลับบ้านเดิมจะต้องไม่จากไปมือเปล่าคนแก่คนเฒ่ากลัวว่าลูกสาวจะหิวและหนาว จึงจะเตรียมเครื่องนอนและของใช้จำเป็นไว้ให้เมื่อเธอออกเดินทางผังเป่ยกลับบ้านมาพร้อมกับกระเป๋าสัมภาระใบน้อยใหญ่ ในใจเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นดูท่าการพาแม่กลับมาจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว!หลังกลับถึงบ้าน ในตอนที่ผังเป่ยพลิกตัวเข้ามาในลานบ้าน ก็ได้เห็นเข้ากับผังซีที่กำลังเล่นกับสุนัขจิ้งจอกในลานบ้านอยู่พอดีจิ้งจอกนอนเตะขาด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์อยู่บนพื้น และมือเล็ก ๆ ของผังซีก็กำลังลูบขนอันนุ่มนิ่

  • ย้อนเวลาไปเป็นนักล่ายุคก้าวกระโดด   บทที่ 33

    ได้รับดาบมา ตอนนี้ผังเป่ยก็ถือว่ามีอาวุธมีพลังทำลายล้างแก่กล้าอยู่อย่างหนึ่งแล้วถึงแม้ดาบซามูไรจะไม่ได้เหมาะกับการล่าสัตว์ แต่เมื่อถึงคราวที่ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ป่า ก็ยังมีความสามารถพอที่จะใช้ตอบโต้ได้ผังเป่ยเก็บอาวุธเอาไว้ เขารู้ว่านี่ก็นับเป็นมรดกหลังจากเก็บอาวุธแล้ว หลี่ว์หย่วนจงก็มองไปที่ผังเป่ยและพูดด้วยรอยยิ้ม "ไอ้หนู ได้ยินว่าแกอยากจะจัดการกับฝูงหมาป่าใช่ไหม?"ผังเป่ยอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้าตอบ "ใช่ครับ"“รับอันนี้ไป! เดิมทีเดิมนี่ฉันว่าจะเอามันใส่ลงโลงไปด้วย แต่แกคงได้ใช้มัน เพราะงั้นเอาไปเถอะ!”ขณะที่เขาพูดไป ตาก็ส่งสายตาให้ยาย ยายก็ไปเปิดตู้ใหญ่และหยิบชุดคลุมหนังหมีออกมาจากข้างในในทันที!โดยทั่วไปแล้ว พรานจะรวบรวมสิ่งของจำนวนหนึ่งที่ตนได้มาจากการล่าสัตว์ใหญ่ตลอดทั้งชีวิตมาเก็บไว้ ไม่ว่าจะเป็นเขี้ยวหรือหนังยายแย้มยิ้มพร้อมกางหนังหมีออก แล้วสวมให้ผังเป่ยเธอลูบแก้มของผังเป่ยด้วยความเอ็นดูแล้วพูด "เสี่ยวเป่ยใส่แล้วดูเข้ามากจริงๆ!"ในตอนนี้ตาก็ได้ถอดของสิ่งหนึ่งอย่างออกจากคอ แล้วพูด "ไอ้หนู มานี่สิ!"ผังเป่ยเดินเข้าไปอย่างว่าง่าย และหลี่ว์หย่วนจงก็สวมสร้อยคอที

  • ย้อนเวลาไปเป็นนักล่ายุคก้าวกระโดด   บทที่ 32

    สรุปแล้วตาเฒ่ากำลังคิดหาเหตุผลที่จะไปตีอีกฝ่ายในภายภาคหน้าดังนั้นเขาจึงได้เงียบไปผังเป่ยก็พูดขึ้นมาจากด้านข้าง “เรื่องเงินผมจัดการได้ครับ ตาไม่ต้องกังวล”หลี่ว์หย่วนจงพินิจมองผังเป่ย แล้วก็หัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ “เด็กน้อยอย่างแกน่ะ ขนยังขึ้นไม่ครบเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้กลับมีฝีมือความสามารถแล้ว ฉันเห็นแล้วว่าแกฆ่าหมาป่ากลับมา ทีแรกฉันนึกว่าทักษะแขนงนี้ของครอบครัวจะหมดสิ้นไปแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าแม้ลูกชายจะทำไม่ได้ แต่หลานชายกลับมารับช่วงต่อ เยี่ยมเลย!”พูดถึงตรงนี้ หลี่ว์หย่วนจงก็เอี้ยวตัวไปเปิดตู้ข้างเตียง และหยิบของจากข้างในออกมาหลายอย่าง สิ่งแรกคือหนังแกะผืนหนึ่งหลี่ว์หย่วนจงส่งหนังแกะให้ผังเป่ยแล้วพูดต่อ “ในเมื่อแกอยู่ในวงการนี้ งั้นก็ต้องรู้จักเส้นทางการกระจายตัวบนภูเขา ที่ไหนน่าจะมีอะไร แผนที่นี้ได้มาจากหยาดเหงื่อแรงกายที่ฉันบากบั่นมาตลอดชีวิต ทีแรกฉันตั้งใจจะให้ลุงใหญ่ของแก แต่เขาไม่เอาไหน ไม่มีฝีมือในการล่าสัตว์ แต่แกมี สิ่งนี้เลยต้องส่งต่อให้แก บนแผนที่นี้ไม่ได้มีแต่เส้นทางกระจายสินค้าเท่านั้น แต่ยังมีสัญลักษณ์อยู่อีกจำนวนหนึ่ง ที่ไหนไปได้ ที่ไหนไปแล้วต้องระวังให้มาก แล้

  • ย้อนเวลาไปเป็นนักล่ายุคก้าวกระโดด   บทที่ 31

    เมื่อเห็นบิดาถือไม้เท้าเดินออกมา หลี่ว์ซิ่วหลันก็ทรุดลงคุกเข่าลงกับพื้นดังปั๊ก"พ่อ!"ชายชรามองดูลูกสาวของตนที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น แล้วถอนหายใจอย่างจนใจ "ลุกขึ้น เดี๋ยวคนอื่นเขาจะหัวเราะเยาะเอา กลับบ้านกับฉัน!"หลี่ว์ซิ่วหลันตะลึงงัน แล้วพี่ใหญ่ก็มาดึงเธอขึ้น “เธอคิดอะไรอยู่ กลับบ้านกับพ่อสิ!”หลี่ว์ซิ่วหลันพยักหน้ารัว ๆ แล้วขานตอบ "อือ!"พอหยัดกายลุกขึ้นแล้ว หลี่ว์ซิ่วหลันก็ลากผังเป่ยเดินไปทางบ้านของตัวเองด้วยกันทันทีที่เขาก้าวเข้าไปในลานเล็ก คุณตาก็นั่งลงอย่างช้า ๆ เขาทำหน้าปั้นปึ่ง ไม่พูดไม่จาบรรยากาศลานเล็กดูอึดอัดมากอย่างชัดเจน หลี่ว์ชิงซงหันซ้านหันขวาแล้วชิงพูดก่อน "พ่อ หลันจื่อเองก็จนปัญญา..."หลี่ว์หย่วนจงมองลูกสาว "แกตั้งใจจะหย่าแล้วงั้นเรอะ?"หลี่ว์ซิ่วหลันพยักหน้า แต่ไม่กล้าปริปากพูดแม้ว่าลูกสาวจะอายุสิบเจ็ดปีแล้ว แต่ในสายตาของบิดา เธอก็ยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง“ตั้งแต่แต่งเข้าไปมันตีแกมาตลอดเลยเหรอ” ชายชราจ้องมองลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน สีหน้าอาฆาตแค้นอย่างเห็นได้ชัดในขณะที่หลี่ว์ซิ่วหลันกำลังสับสนอยู่นั้น ผังเป่ยที่อยู่ข้างกันก็เอ่ยปากตอบ "ตีมาตลอด ตั้งแต่ผมจำค

  • ย้อนเวลาไปเป็นนักล่ายุคก้าวกระโดด   บทที่ 30

    “ฉันว่านะคะหัวหน้า เรารายงานไปดีกว่า ถ้ายื่นคำร้องไป เบื้องบนจะต้องไม่อนุมัติแน่ เราก็ฉวยโอกาสนี้บอกว่างั้นเราจะทำเอง แต่เบื้องบนต้องให้เอกสารอนุมัติ บอกว่าได้มอบปืนให้แล้วก็สิ้นเรื่อง!”หลี่ว์ไห่เห็นว่าความคิดนี้มาจากสาวม่ายในหมู่บ้านเขาอดยิ้มไม่ได้ “ผมว่าความคิดของแม่ม่ายไช่ไม่เลวเลยนะ! ทุกคนว่ายังไง!”“วิธีนี้ดีเลย ใครก็มาจับผิดไม่ได้!”ทุกคนได้ฟังแล้วก็พากันเห็นดีเห็นชอบด้วยอย่างเซ็งแซ่ในทันทีเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หลี่ว์ไห่ก็พูดขึ้น "ถ้าอย่างนั้นกองกำลังจะอนุมัติเอกสารให้นายก่อน แล้วนายก็ไปหาปืนมา นักบัญชีเอ้อร์! เบิกเงินของกองกำลังออกมาให้ผังเป่ยห้าสิบหยวน ส่วนที่เหลือจะให้เมื่อมีเงิน"ผังเป่ยได้ยินว่าให้เงินเขาห้าสิบหยวน! เรื่องนี้มันเยี่ยมไปเลยนี่นา!เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “หัวหน้าพูดจริงเหรอครับ? ห้าสิบหยวนน่าจะซื้อกระสุนได้ไม่ร้อนเลยสิครับ?”หลี่ว์ไห่หัวเราะ "ไอ้หนู เมื่อกี้ยังแสร้งทำเป็นหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีต่อหน้าฉันอยู่เลย!"“ก็นั่นไม่ใช่เพราะขาดเงินขาดกระสุนหรือไง? แต่ผมรับประกัน ขอแค่หาปืนหากระสุนได้ ผมสัญญาว่าจะกำจัดหมาป่าฝูงนี้ให้ทุกคนเอง!”แม่หม้ายไช่กลั้นหัวเราะไม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status