Share

บทที่ 5

Penulis: วิถีมารไร้ขอบเขต
แม้ว่าคำพูดที่ผังเป่ยพูดออกมานั้นจะไม่ผิด แต่หลี่ว์ซิ่วหลันก็ยังคิดว่าลูกชายทำแบบนี้ออกจะสุดโต่งเกินไป

ถ้าไม่สนใจละก็ ต่อไปอาจจะเสียเปรียบเอาก็ได้

แต่พอลองคิดถึงเรื่องนี้ในทางกลับกันดูแล้ว ถ้าลูกชายไม่ทำแบบนี้ เธอจะมีวันที่ได้กินเนื้อกับเขาเหรอ?

ไม่มีทางแน่นอน!

ดังนั้นเมื่อลองคิดดูแล้ว คำพูดพวกนั้นที่คิดจะสั่งสอนผังเป่ย ก็ถูกหลี่ว์ซิ่วหลันกลืนกลับไป

หลังจากผังตงกลับไปแล้ว หลี่ว์ซิ่วหลันก็กินน่องกระต่ายข้างหนึ่งกับผังซี ส่วนผังเป่ยก็กินเองอีกน่อง

ทั้งสามคนกินจนค่อนข้างอิ่ม พอได้กินเนื้อ ร่างกายก็เริ่มอุ่น

นี่เทียบไม่ได้กับช่วงที่อยู่ในบ้านเลย ตอนที่อยู่ในบ้านนั้นไม่เคยได้กินข้าวอิ่มแบบนี้

เมื่อกินดื่มกันจนอิ่มหนำ เสี่ยวซีก็ช่วยเก็บชามและตะเกียบด้วยกันกับแม่อย่างว่าง่าย ส่วนผังเป่ยก็เตรียมไปหาหัวหน้า

เขาเก็บข้าวของเล็กน้อยก็ลุกขึ้น แล้วพูดว่า “แม่ ผมลงเขาไปคุยกับหัวหน้าหน่อยนะ ผังตงพูดถูก อีกเดี๋ยวอากาศก็จะเย็นลงแล้ว บนตัวของพวกเรามีแค่เสื้อผ้าเก่า ๆ แบบนี้ทนไม่ไหวหรอก ผมว่าจะไปขอยืมปืนล่าสัตว์แล้วลงเขาไปหาที่ยิงกวางโรสักสองสามตัว”

“อะไรนะ? แกจะยืมปืนเหรอ?”

หลี่ว์ซิ่วหลันร้อนรนขึ้นมาทันที

“ไม่ได้ขึ้นเขา ลงเขาไปต่างหาก ขึ้นเขาไปก็ไม่มีกวางโรหรอกแม่! พวกกวางโรอะไรพวกนั้นต้องลงไปหาที่ด้านล่างเขา ผมจะได้ว่าตอนเด็ก ๆ แม่เคยเล่าให้ฟัง ว่าในป่าด้านล่างเขาแถวบ้านตามีกวางโรอยู่เต็มไปหมด ตอนเด็ก ๆ แม่ยังคว้าไม้มาตีมันกลับไปตั้งตัวหนึ่ง ไม่ใช่เหรอ?”

หลี่ว์ซิ่วหลันพยักหน้า “ก็ใช่ แต่ที่นั่นก็เป็นป่าทึบเหมือนกัน จะหลงทางเอาได้ง่าย ๆ นะ! แล้วช่วงนี้ที่นั่นก็มีหมาป่าด้วย!”

ผังเป่ยหัวเราะเอิ๊กอ๊ากแล้วพูดกลับไปว่า “แม่ เรื่องนี้แม่ไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าไม่ได้เรื่อง พรุ่งนี้แม่ก็ไปด้วยกันกับผมสิ? แม่เองก็รู้จักทางนี่นา ผมไม่ค่อยรู้จักทางแถวนั้น?”

ที่ผังเป่ยพูดแบบนี้ ก็เพื่อแสดงศักยภาพของตัวเอง แม่จะได้วางใจ

อีกอย่าง สิ่งที่เขาพูดก็เป็นความจริง มีคนรู้จักทางไปด้วย เข้าไปในป่าเขาจึงจะหาง่าย

หลี่ว์ซิ่วหลันได้ยินลูกชายบอกว่าจะพาตนเองไปด้วย เธอลองคิดดูแล้วก็เป็นไปได้

พอคิดถึงตรงนี้ หลี่ว์ซิ่วหลันจึงเตรียมนำเนื้อที่เหลือมาทำเป็นแกง จากนั้นก็นำแป้งข้าวโพดมาทำเป็นขนมแป้งนึ่ง ส่วนผังเป่ยก็ลงเข้าไปบ้านหัวหน้า

ชุมชนห้วยชิงหลง เป็นชุมชนที่อยู่ท่ามกลางการโอบล้อมของขุนเขา

เพราะบนภูเขาเองก็มีสัตว์ป่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงนี้ยังเคยมีหมาป่าโผล่ตัวออกมาให้เห็น ดังนั้นทางหมู่บ้านจึงรวมกำลังคนคอยลาดตระเวนในยามค่ำคืน คนทั่วไปก็ปิดประตูบ้านกันแต่เนิ่น ๆ ไม่มีใครกล้าออกมา

นับตั้งแต่ที่ตาของผังเป่ยขยับเขยื้อนร่างกายไม่สะดวก ก็ไม่มีผู้พิทักษ์ภูเขาออกล่าสัตว์ สัตว์ก็เข้ามาใกล้ได้ง่าย ทั้งมักจะสร้างความเสียหายแก่ที่ไร่ที่นา แม้ว่าหลี่ว์ไห่ผู้เป็นหัวหน้าจะเคยรวบรวมกำลังคนเข้าไปล่าในป่าเขา แต่ก็ไร้ผล เรื่องแบบนี้จำเป็นต้องมีคนคอยล่าสัตว์อยู่ตลอดเวลาจึงจะใช้ได้ ทว่าทันทีที่คนในหมู่บ้านได้ยินว่าจะต้องขึ้นเขา ก็พากันตื่นตกใจไม่กล้าพูดอะไรแล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเป็นผู้พิทักษ์ภูเขา ก็มักจะไม่ได้รับการแบ่งสันธัญญาหารของชุมชน แล้วใครล่ะอยากจะไปเป็น?

ผังเป่ยเดินคลำทางฝ่าความมืดเรื่อยมา จนถึงบ้านของหัวหน้า กำแพงบ้านหัวหน้าไม่เหมือนกับบ้านคนอื่นที่เป็นกำแพงไม้ไผ่ บ้านของพวกเขาเป็นกำแพงที่ก่อนขึ้นมาจากดิน เขาเคาะประตู

ไม่นานนัก ก็ได้ยินเสียงคนยืนถามอยู่ในลานบ้าน “ใคร?”

ผังเป่ยตะโกนอยู่ด้านนอกประตู “หัวหน้า นี่ผมเอง ผังเป่ย ลูกชายของหลี่ว์ซิ่วหลัน!”

“ลูกชายของซิ่วหลัน?” หลี่ว์ไห่รู้เรื่องนี้แล้ว ได้ยินว่าถูกคนในบ้านสามีทุบตีกลับมา ตอนนี้ยังไม่กล้ากลับบ้าน ด้วยกลัวว่าอาจารย์ของตนเองจะรู้เรื่องเข้า

หลี่ว์ไห่นับถืออาจารย์มาตั้งแต่เด็ก ทั้งยังเติบโตมาด้วยกันกับหลี่ว์ซิ่วหลัน เลยเหมือนกับน้องสาวแท้ ๆ

หลี่ว์ไห่รู้ น้องสาวคนนี้ของคนเองก็เป็นกังวลว่าจะสร้างความลำบากให้ ถึงอย่างไรตอนนี้ก็เป็นช่วงตกต่ำ กระเบียดกระเสียรเสบียงอาหารออกมาให้ได้ยากจริง ๆ

ดังนั้น น้องสาวผู้หยิ่งในศักดิ์ศรีและหัวรั้นคนนี้ของเขาจึงอยู่บนภูเขาในตอนนี้

หลี่ว์ไห่เปิดประตู เขาเห็นผังเป่ยยืนอยู่หน้าประตู

“แม่นายให้นายมาเหรอ? ถ้าพวกนายอยากให้แบ่งเสบียงอาหารให้ เรื่องนี้ทำไม่ได้แน่นอน ในชุมชนไม่มีของให้พวกนายกินแล้ว ขนาดตอนนี้ยังมีไม่พอแบ่งเลย ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากช่วยนายนะ... เพียงแต่ถ้าช่วยได้ ฉันจะต้องช่วยพวกนายแน่”

ครั้นหลี่ว์ไห่พูดถึงตรงนี้ ก็ถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ

ผังเป่ยยิ้มพลางกล่าวว่า “หัวหน้าเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้มาเอาอาหาร ผมอยากจะยืมปืนจากหัวหน้า ผมกะว่าจะเข้าป่าเขาไปล่าสัตว์”

“อะไรนะ? ล่าสัตว์? แล้วนายยังจะยืมปืนอีก?” หลี่ว์ไห่พูดด้วยอารามตกใจ

เขาตบเข้าไปที่ท้ายทอยของผังเป่ย จากนั้นก็พูดว่า “นายทำได้หรือไง? ปืนนะไม่ใช่ของเล่น นอกจากนายจะยิงอะไรไม่ได้แล้ว ยังจะยิ่งเข้าเท้าตัวเองด้วยซ้ำ แถมลูกกระสุนก็มีไม่มากด้วย”

ผังเป่ยรีบพูดทันที “ถ้าผมล่ามาได้ แล้วเอาเหยื่อที่ล่ามาแลกกับหัวหน้าก็ยังไม่ได้เหรอ?”

หลี่ว์ไห่รีบโบกมือเป็นพัลวัน “นายเลิกคิดไปได้เลย ปืนล่าสัตว์ในชุมชนของพวกเรามีแค่กระบอกนี้ ถึงจะเป็นปืนที่ตาของนายใช้ แต่นี่ก็เป็นทรัพย์สินของส่วนรวม เกิดให้นายไปแล้ว หมูป่าหรือหมาป่าเข้าหมู่บ้าน แล้วพวกเราจะทำยังไง?”

“อีกอย่าง ลูกกระสุนก็เหลือไม่มากแล้ว ถ้านายเอาลูกกระสุนไปผลาญ พวกเราก็ไม่มีเงินไปซื้อมาเพิ่มนะ”

พอหลี่ว์ไห่พูดถึงตรงนี้ ผังเป่ยก็รีบพูดขึ้นทันที “หัวหน้าให้ลูกกระสุนผมมาสองสามนัดก็ได้ หลัก ๆ ผมแค่อยากจะยิงเพื่อเอาของไม่กี่อย่าง เอามาแก้ปัญหาเรื่องป้องกันความหนาว พวกผมอยู่บนเขา ผมวางกับดักล่าสัตว์ไปก่อนได้ ไม่ต้องใช้ปืน”

ทันทีที่ได้ยินผังเป่ยพูดว่าจะวางกับดัก หลี่ว์ไห่ก็อดพูดพลางหัวเราะออกมาไม่ได้ “นายน่ะนะ? ยังวางกับดักเป็นด้วย?”

ผังเป่ยรีบพยักหน้า “หัวหน้า วันนี้ผมจับกระต่ายตัวใหญ่มาได้หนึ่งตัว เพิ่งกินเนื้อมันหมดไปเอง”

หลี่ว์ไห่ขยับจมูกดมฟุดฟิด จะว่าไปบนตัวผังเป่ยก็มีกลิ่นเนื้ออยู่จริง ๆ

เขามองผังเป่ยด้วยความสับสน “เด็กอย่างนายล่าสัตว์ได้จริง ๆ น่ะเหรอ?”

“ได้สิ ทันทีที่ผมเข้าป่าเขา ก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นเครื่องมือล่าสัตว์ แถมแม่ผมก็มักจะเล่าเรื่องที่ตอนเด็ก ๆ ไปช่วยตาล่าสัตว์ให้ผมฟังอยู่บ่อย ๆ ผมทำตามรายละเอียดที่แม่เล่า แล้วมันก็ใช้งานได้จริง ๆ ตอนอยู่บนเขา!”

หลี่ว์ไห่ครุ่นคิดเล็กน้อย แล้วเขาก็กระซิบพูดว่า “เข้าไปพูดข้างในเถอะ!”

ด้วยเหตุนี้ ทันทีที่หลี่ว์ไห่หมุนตัว ก็เรียกผังเป่ยเข้าไปในบ้าน

หลังจากนั่งลงในห้องโถงแล้ว ผังเป่ยก็เห็นว่าบนบานประตูห้องหลักด้านในบ้านยังมีผ้าม่านประตูผืนหนาอยู่ด้วย

อีกทั้งยังปิดไว้เสียแน่นหนา

และยังได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ รวมถึงเสียงสะอึกสะอื้นของผู้ใหญ่ดังออกมาแว่ว ๆ

ครั้นหลี่ว์ไห่ได้ยินเสียงนี้ ความเศร้าสร้อยพลันปรากฏอยู่บนหน้า

ผังเป่ยเอ่ยถามด้วยความสงสัย “หัวหน้า ในบ้านหัวหน้ามีเด็กอยู่ด้วย?”

หลี่ว์ไห่พยักหน้า เขาพูดเสียงเบาว่า “ลูกสะใภ้คลอดหลานชายให้ฉัน แต่ชีวิตในชุมชนของพวกเราลำบากเกินไป ลูกสะใภ้ไม่ได้รับการบำรุงร่างกายให้ดี ลูกเลยไม่มีนมกิน ตอนนี้ได้แต่ป้อนแป้งหมี่เปียกให้กินนิดหน่อย”

ผังเป่ยเสตาไปทางอื่น แล้วพูดว่า “หัวหน้า ถ้าผมล่าเนื้อกลับมาได้ แล้วเอามาให้ลูกสะใภ้หัวหน้ากินบำรุงน้ำนมก็ยังไม่ได้เหรอ? หัวหน้าให้ผมยืมปืนเถอะนะ?”

สาเหตุที่หลี่ว์ไห่ให้ผังเป่ยเข้ามา ก็เพราะจะพูดคุยเรื่องนี้นี่แหละ

พอเขาได้ยินว่าผังเป่ยวางกับดักจับกระต่ายได้ แถมตอนนี้เขาก็ยังอยู่ได้แค่บนเขา เลยทำให้เขานึกอยากลองดู

ถึงอย่างไร ก็ไม่มีตัวเลือกอื่นแล้ว

หลี่ว์ไห่มองไปทางผังเป่ยแล้วกล่าวว่า “เด็กอย่างนายใช้ปืนเป็นไหม?”

“เป็นสิ ตอนเด็ก ๆ ที่พวกเรายังอยู่ในชุมชนเคยได้จับมาบ้าง ถึงพวกเราจะอยู่ล่างเขา แต่ก็มีปืนนะ ผมก็ต้องขึ้นเขาไปเก็บฝืน ได้เรียนรู้เรื่องล่าสัตว์มาไม่น้อย แถมผมยังเคยยิงปืนจับไก่ป่ามาก่อนด้วยนะ!”

หลี่ว์ไห่เองก็ไม่รู้เรื่องของผังเป่ยนัก ตอนนั้นยังไม่มีโทรศัพท์ การเดินทางก็ยังไม่ค่อยสะดวกนัก

คิดไปคิดมา หลี่ว์ไห่ก็กัดฟัน แล้วหมุนตัวเข้าไปในห้อง

ไม่นานนัก เขาก็ถือปืนกระบอกหนึ่งออกมาวางไว้บนโต๊ะ

“ใช้เป็น?”

ผังเป่ยดูเล็กน้อย เป็นปืนเก่าที่ให้ความรู้สึกว่ามีอายุไม่น้อย แต่เก็บรักษาปืนกระบอกนี้ได้ไม่เลว ทันทีที่เห็นก็รู้ได้ทันทีว่าปืนกระบอกนี้มักจะได้รับการดูแลด้วยการเช็ดน้ำมันอยู่บ่อย ๆ

ปืนกระบอกนี้เป็นปืนยิงกระต่าย เป็นปืนล่าสัตว์รุ่นเก๋ากึ๊ก

ปืนชนิดนี้ก็เป็นปืนล่าสัตว์ลำกล้องเดียวแบบเก่า

ไม่มีอะไรตรงไหนพิเศษ ผังเป่ยจับดูเล็กน้อย ดูจากท่าทางของผังเป่ยแล้ว ท่าทางชำนาญไม่น้อย

หลี่ว์ไห่จึงยื่นลูกกระสุนให้เขาหนึ่งนัด “ใส่กระสุน แล้วถอดลูกกระสุนออกมา ฉันจะดูสักหน่อย!”

ผังเป่ยพยักหน้า จากนั้นก็บรรจุกระสุน แล้วก็ถอดลูกกระสุนออกมา

ลูกกระสุนประเภทนี้มีลำกล้องใหญ่ ระยะการยิงสั้น แต่พลังทำลายล้างสูงมาก

นี่เป็นปืนล่าสัตว์ของแท้

เห็นท่าทางผังเป่ยดูช่ำชองขนาดนี้ หลี่ว์ไห่ก็ส่งกระสุนห้านัดให้เขา “ฉันให้นายได้แค่ห้านัด มากกว่านี้ฉันก็ไม่มีให้แล้ว ถ้านายยิงสัตว์กลับมา แล้วเอามาให้ลูกสะใภ้ฉันกินบำรุงน้ำนมได้ ฉันจะยอมให้นายเป็นผู้พิทักษ์ภูเขา”

ดวงตาของผังเป่ยเป็นประกายขึ้นมาทันที จากนั้นจึงเอ่ยถามว่า “งั้นให้ปืนผมได้ไหม?”

หลี่ว์ไห่ส่ายหน้า “มันไม่ใช่ปืนของฉัน เป็นของส่วนกลาง! ถ้านายเป็นผู้พิทักษ์เขา ฉันก็ช่วยนายยื่นเรื่องให้ได้ แต่จะให้นายได้หรือไม่ ก็ต้องรอเบื้องบนแล้ว”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ย้อนเวลาไปเป็นนักล่ายุคก้าวกระโดด   บทที่ 35

    หลี่ว์ชิงซงตื่นตระหนก เขาไม่คาดคิดว่าจะถูกเดรัจฉานนี้ซุ่มโจมตีเคยได้ยินจากพ่อของตัวเองมาตลอดว่าไอ้เจ้าหมาป่านี้มันดุร้ายและเจ้าเล่ห์นัก แต่ก็ไม่เคยเจอกับตัวมาก่อนแน่นอนว่าถ้าเขาเคยเห็นมาก่อน ก็คงไม่มีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้“ทำไงดี!” เสียงพูดของหลี่ว์ชิงซงสั่นเล็กน้อย แต่เขาก็รีบชักกรวยน้ำแข็งออกมาในทันที ป้องกันไม่ให้หมาป่าที่จะปรากฏตัวขึ้นมาเมื่อไรก็ได้ผังเป่ยกระซิบ "ตอนนี้พวกเราทำได้แค่หาทางถอยกลับไปที่กับดักตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเราจะไม่มีทางสู้มันได้!"หลี่ว์ชิงซงพยักหน้า มีกับดักช่วย พวกเขาสองคนก็ยังมีโอกาสรอดตาย ถ้าขืนสู้ไปทั้งอย่างนี้ โอกาสรอดก็เท่ากับศูนย์หลังจากหารือวิธีรับมือแล้ว ชายทั้งสองก็เคลื่อนตัวไปทางกับดักในทันทีแต่จะเคลื่อนไหวเร็วเกินไปไม่ได้ จะให้ฝูงหมาป่ารู้ว่าพวกเขากลัวไม่ได้ดังนั้นต้องไปชิดทางนั้นอย่างระมัดระวังโชคดีที่กับดักอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้หลัก ๆ แล้วผังเป่ยกับหลี่ว์ชิงซงสองคนต้องระแวดระวังขณะถอยไปทางด้านนั้นด้วย แล้วก็ต้องหันหลังให้กัน เพราะกลัวว่าจะถูกลอบโจมตีถึงแม้จะมองไม่เห็น แต่หลี่ว์ชิงซงก็ได้ยินเสียงดังกรอบแกรบที่อยู่รอบตัวแล้วนอกจ

  • ย้อนเวลาไปเป็นนักล่ายุคก้าวกระโดด   บทที่ 34

    หลังจากที่ได้พูดคุยกับตาอยู่พักหนึ่ง ผังเป่ยก็รู้สึกมั่นใจในการล่าสังหารฝูงหมาป่ามากขึ้นการตามล่าราชาหมาป่าก็เป็นศึกสำคัญสำหรับตัวเขาในการรักษาตำแหน่งผู้พิทักษ์ภูเขานี้!ดังนั้นเขาจะต้องชนะเท่านั้น จะแพ้ไม่ได้!แม้ว่ามารดาจะโดนดุอยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้วบ้านตาถือว่าใจดีกับพวกเขามากที่นี่ ผังเป่ยสัมผัสได้ถึงความใส่ใจจากครอบครัว แล้วก็ความกลมเกลียวกันของทุกคนในครอบครัวไม่ว่าจะลุงใหญ่หรือยายต่างก็ใจดีกับผังเป่ยมาก แม้ว่าตาเข้มงวดไปสักหน่อย แต่ก็สัมผัสได้ถึงความรักที่กว้างใหญ่ดุจขุนเขาที่ตามีให้ตั้งแต่ยุคโบราณ ลูกสาวกลับบ้านเดิมจะต้องไม่จากไปมือเปล่าคนแก่คนเฒ่ากลัวว่าลูกสาวจะหิวและหนาว จึงจะเตรียมเครื่องนอนและของใช้จำเป็นไว้ให้เมื่อเธอออกเดินทางผังเป่ยกลับบ้านมาพร้อมกับกระเป๋าสัมภาระใบน้อยใหญ่ ในใจเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นดูท่าการพาแม่กลับมาจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว!หลังกลับถึงบ้าน ในตอนที่ผังเป่ยพลิกตัวเข้ามาในลานบ้าน ก็ได้เห็นเข้ากับผังซีที่กำลังเล่นกับสุนัขจิ้งจอกในลานบ้านอยู่พอดีจิ้งจอกนอนเตะขาด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์อยู่บนพื้น และมือเล็ก ๆ ของผังซีก็กำลังลูบขนอันนุ่มนิ่

  • ย้อนเวลาไปเป็นนักล่ายุคก้าวกระโดด   บทที่ 33

    ได้รับดาบมา ตอนนี้ผังเป่ยก็ถือว่ามีอาวุธมีพลังทำลายล้างแก่กล้าอยู่อย่างหนึ่งแล้วถึงแม้ดาบซามูไรจะไม่ได้เหมาะกับการล่าสัตว์ แต่เมื่อถึงคราวที่ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ป่า ก็ยังมีความสามารถพอที่จะใช้ตอบโต้ได้ผังเป่ยเก็บอาวุธเอาไว้ เขารู้ว่านี่ก็นับเป็นมรดกหลังจากเก็บอาวุธแล้ว หลี่ว์หย่วนจงก็มองไปที่ผังเป่ยและพูดด้วยรอยยิ้ม "ไอ้หนู ได้ยินว่าแกอยากจะจัดการกับฝูงหมาป่าใช่ไหม?"ผังเป่ยอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้าตอบ "ใช่ครับ"“รับอันนี้ไป! เดิมทีเดิมนี่ฉันว่าจะเอามันใส่ลงโลงไปด้วย แต่แกคงได้ใช้มัน เพราะงั้นเอาไปเถอะ!”ขณะที่เขาพูดไป ตาก็ส่งสายตาให้ยาย ยายก็ไปเปิดตู้ใหญ่และหยิบชุดคลุมหนังหมีออกมาจากข้างในในทันที!โดยทั่วไปแล้ว พรานจะรวบรวมสิ่งของจำนวนหนึ่งที่ตนได้มาจากการล่าสัตว์ใหญ่ตลอดทั้งชีวิตมาเก็บไว้ ไม่ว่าจะเป็นเขี้ยวหรือหนังยายแย้มยิ้มพร้อมกางหนังหมีออก แล้วสวมให้ผังเป่ยเธอลูบแก้มของผังเป่ยด้วยความเอ็นดูแล้วพูด "เสี่ยวเป่ยใส่แล้วดูเข้ามากจริงๆ!"ในตอนนี้ตาก็ได้ถอดของสิ่งหนึ่งอย่างออกจากคอ แล้วพูด "ไอ้หนู มานี่สิ!"ผังเป่ยเดินเข้าไปอย่างว่าง่าย และหลี่ว์หย่วนจงก็สวมสร้อยคอที

  • ย้อนเวลาไปเป็นนักล่ายุคก้าวกระโดด   บทที่ 32

    สรุปแล้วตาเฒ่ากำลังคิดหาเหตุผลที่จะไปตีอีกฝ่ายในภายภาคหน้าดังนั้นเขาจึงได้เงียบไปผังเป่ยก็พูดขึ้นมาจากด้านข้าง “เรื่องเงินผมจัดการได้ครับ ตาไม่ต้องกังวล”หลี่ว์หย่วนจงพินิจมองผังเป่ย แล้วก็หัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ “เด็กน้อยอย่างแกน่ะ ขนยังขึ้นไม่ครบเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้กลับมีฝีมือความสามารถแล้ว ฉันเห็นแล้วว่าแกฆ่าหมาป่ากลับมา ทีแรกฉันนึกว่าทักษะแขนงนี้ของครอบครัวจะหมดสิ้นไปแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าแม้ลูกชายจะทำไม่ได้ แต่หลานชายกลับมารับช่วงต่อ เยี่ยมเลย!”พูดถึงตรงนี้ หลี่ว์หย่วนจงก็เอี้ยวตัวไปเปิดตู้ข้างเตียง และหยิบของจากข้างในออกมาหลายอย่าง สิ่งแรกคือหนังแกะผืนหนึ่งหลี่ว์หย่วนจงส่งหนังแกะให้ผังเป่ยแล้วพูดต่อ “ในเมื่อแกอยู่ในวงการนี้ งั้นก็ต้องรู้จักเส้นทางการกระจายตัวบนภูเขา ที่ไหนน่าจะมีอะไร แผนที่นี้ได้มาจากหยาดเหงื่อแรงกายที่ฉันบากบั่นมาตลอดชีวิต ทีแรกฉันตั้งใจจะให้ลุงใหญ่ของแก แต่เขาไม่เอาไหน ไม่มีฝีมือในการล่าสัตว์ แต่แกมี สิ่งนี้เลยต้องส่งต่อให้แก บนแผนที่นี้ไม่ได้มีแต่เส้นทางกระจายสินค้าเท่านั้น แต่ยังมีสัญลักษณ์อยู่อีกจำนวนหนึ่ง ที่ไหนไปได้ ที่ไหนไปแล้วต้องระวังให้มาก แล้

  • ย้อนเวลาไปเป็นนักล่ายุคก้าวกระโดด   บทที่ 31

    เมื่อเห็นบิดาถือไม้เท้าเดินออกมา หลี่ว์ซิ่วหลันก็ทรุดลงคุกเข่าลงกับพื้นดังปั๊ก"พ่อ!"ชายชรามองดูลูกสาวของตนที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น แล้วถอนหายใจอย่างจนใจ "ลุกขึ้น เดี๋ยวคนอื่นเขาจะหัวเราะเยาะเอา กลับบ้านกับฉัน!"หลี่ว์ซิ่วหลันตะลึงงัน แล้วพี่ใหญ่ก็มาดึงเธอขึ้น “เธอคิดอะไรอยู่ กลับบ้านกับพ่อสิ!”หลี่ว์ซิ่วหลันพยักหน้ารัว ๆ แล้วขานตอบ "อือ!"พอหยัดกายลุกขึ้นแล้ว หลี่ว์ซิ่วหลันก็ลากผังเป่ยเดินไปทางบ้านของตัวเองด้วยกันทันทีที่เขาก้าวเข้าไปในลานเล็ก คุณตาก็นั่งลงอย่างช้า ๆ เขาทำหน้าปั้นปึ่ง ไม่พูดไม่จาบรรยากาศลานเล็กดูอึดอัดมากอย่างชัดเจน หลี่ว์ชิงซงหันซ้านหันขวาแล้วชิงพูดก่อน "พ่อ หลันจื่อเองก็จนปัญญา..."หลี่ว์หย่วนจงมองลูกสาว "แกตั้งใจจะหย่าแล้วงั้นเรอะ?"หลี่ว์ซิ่วหลันพยักหน้า แต่ไม่กล้าปริปากพูดแม้ว่าลูกสาวจะอายุสิบเจ็ดปีแล้ว แต่ในสายตาของบิดา เธอก็ยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง“ตั้งแต่แต่งเข้าไปมันตีแกมาตลอดเลยเหรอ” ชายชราจ้องมองลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน สีหน้าอาฆาตแค้นอย่างเห็นได้ชัดในขณะที่หลี่ว์ซิ่วหลันกำลังสับสนอยู่นั้น ผังเป่ยที่อยู่ข้างกันก็เอ่ยปากตอบ "ตีมาตลอด ตั้งแต่ผมจำค

  • ย้อนเวลาไปเป็นนักล่ายุคก้าวกระโดด   บทที่ 30

    “ฉันว่านะคะหัวหน้า เรารายงานไปดีกว่า ถ้ายื่นคำร้องไป เบื้องบนจะต้องไม่อนุมัติแน่ เราก็ฉวยโอกาสนี้บอกว่างั้นเราจะทำเอง แต่เบื้องบนต้องให้เอกสารอนุมัติ บอกว่าได้มอบปืนให้แล้วก็สิ้นเรื่อง!”หลี่ว์ไห่เห็นว่าความคิดนี้มาจากสาวม่ายในหมู่บ้านเขาอดยิ้มไม่ได้ “ผมว่าความคิดของแม่ม่ายไช่ไม่เลวเลยนะ! ทุกคนว่ายังไง!”“วิธีนี้ดีเลย ใครก็มาจับผิดไม่ได้!”ทุกคนได้ฟังแล้วก็พากันเห็นดีเห็นชอบด้วยอย่างเซ็งแซ่ในทันทีเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หลี่ว์ไห่ก็พูดขึ้น "ถ้าอย่างนั้นกองกำลังจะอนุมัติเอกสารให้นายก่อน แล้วนายก็ไปหาปืนมา นักบัญชีเอ้อร์! เบิกเงินของกองกำลังออกมาให้ผังเป่ยห้าสิบหยวน ส่วนที่เหลือจะให้เมื่อมีเงิน"ผังเป่ยได้ยินว่าให้เงินเขาห้าสิบหยวน! เรื่องนี้มันเยี่ยมไปเลยนี่นา!เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “หัวหน้าพูดจริงเหรอครับ? ห้าสิบหยวนน่าจะซื้อกระสุนได้ไม่ร้อนเลยสิครับ?”หลี่ว์ไห่หัวเราะ "ไอ้หนู เมื่อกี้ยังแสร้งทำเป็นหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีต่อหน้าฉันอยู่เลย!"“ก็นั่นไม่ใช่เพราะขาดเงินขาดกระสุนหรือไง? แต่ผมรับประกัน ขอแค่หาปืนหากระสุนได้ ผมสัญญาว่าจะกำจัดหมาป่าฝูงนี้ให้ทุกคนเอง!”แม่หม้ายไช่กลั้นหัวเราะไม

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status