/ โรแมนติก / ราคีหวามรัก / Chapter2. ผมดูเครียดมากเลยเหรอ

공유

Chapter2. ผมดูเครียดมากเลยเหรอ

last update 최신 업데이트: 2024-10-10 22:06:27

          “จะไปไหนเหรอเจ้ากั้ง”

          “เข้าบริษัทครับแม่”

            ชายหนุ่มในชุดสูทสีเข้มเดินลงมาจากชั้นบนของคฤหาสน์หลังงาม มารดาของเขากำลังกินอาหารเช้า นางกวักมือเรียกลูกชายคนเดียวก่อนที่เขาจะเดินเลยออกไป

            “กินข้าวเช้ากับแม่ก่อนสิ” นางจันทนาถามแล้วพยักหน้าให้เด็กรับใช้วางแก้วน้ำส้มคั้น

            “ขอแค่กาแฟร้อนก็พอครับ” 

            ‘กั้ง’หรือ ‘กวิวัชร์ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณจันทนาและ สามีคือคุณองอาจ แต่เพราะสามีมีบ้านเล็กบ้านน้อย นางจึงทุ่มเทความรักทั้งหมดทั้งมวลที่ลูกชายคนเดียว แม้ว่าปีนี้เขาอายุยี่สิบแปดแล้ว แต่สำหรับมารดาแล้วลูกยังเป็นเด็กเสมอ

            “วันเสาร์ก็ต้องไปทำงานเหรอ”  นางจันทนาถามพลางมองดูลูกที่นั่งลงเก้าอี้ว่างข้างกาย

            “บริษัทเราวันเสาร์ทำงานครึ่งวันนะครับแม่”  กวิวัชร์ตอบพร้อมรอยยิ้ม ปกติสีหน้าเขานิ่งขรึมอยู่เสมอ แต่เมื่ออยู่กับมารดา เขายิ้มแย้มและพยายามไม่ขัดใจเพราะรู้ว่ามารดามีปัญหาเรื่องสุขภาพร่วมทั้งจิตใจที่หดหู่เรื่องบิดาของเขาด้วย

            “เรื่องนั้นแม่รู้แต่ลูกเพิ่งกลับมาจากไต้หวันไม่ใช่เหรอ”

            “ผมกักตัวครบแล้วนะครับ”  กวิวัชร์รับกาแฟร้อนจากเด็กรับใช้มาดื่ม

            “แม่หมายถึง ลูกเป็นผู้บริหาร วันเสาร์ไม่ต้องเข้าบริษัทก็ได้นี่”  คนเป็นแม่ส่ายหน้าระอาใจ “เมื่อไหร่จะว่างไปหาหนูลิลลี่”

            “ผมไม่คิดอะไรกับน้อง” กวิวัชร์พูดตรงประเด็นเพราะเข้าใจความหมายของมารดาดี

            “แต่หนูลิลลี่คิด”

            “ก็ปล่อยให้คิดไปสิครับ”  เขายักไหล่ไม่ได้ใส่ใจ เขารู้ว่าแม่อยากให้เขาแต่งงานกับคนที่แม่เลือกให้ แต่เขาเจอหน้า ‘หนูลิลลี่’ ของคุณแม่หลายครั้งก็ไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิด เขาไม่ชอบผู้หญิงที่เหมือนตุ๊กตาบาร์บี้คนนั้นเลย

            “แม่เลือกให้ก็ไม่เอาแล้วเมื่อไหร่ก็แต่งงานมีหลานให้แม่อุ้มเสียที”

            “ก็ผมไม่รีบนี่”

            “แต่แม่รีบ แม่อยากเลี้ยงหลาน แม่ก็แก่ลงไปทุกวัน อีกหน่อยก็ไม่มีแรงเลี้ยงหลานกันพอดี”

            “ผมรับไว้พิจารณาเป็นกรณีเร่งด่วนก็แล้วกันครับ”  กวิวัชร์หัวเราะในลำคอ “ผมออกไปก่อนนะครับแม่ แม่กินข้าวแล้วกินยาตามหมอสั่งด้วยนะครับ”

            “รู้แล้วๆ”

            เมื่อรู้ว่าห้ามลูกชายที่บ้างานไม่ได้ ก็ได้แต่ยิ้มส่งให้ลูกชายอย่างนี้  กวิวัชร์เข้ามารับตำแหน่งแทนบิดาได้ครึ่งปีแล้ว เขาอายุยังน้อย มีหลายคนไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ยังดีที่สามีของนางแม้จะเจ้าชู้มีเมียเยอะ แต่เรื่องงานที่บริษัทไม่มีผิดพลาด แม้ตัวเองจะถอยออกมาแต่ก็ยังไม่วางมือไปทั้งหมด คอยดูแลและนั่งในตำแหน่งที่ปรึกษา       หลังจากกาแฟร้อนหมดแก้ว กวิวัชร์ก็ไปทำงานด้วยรถยนตร์สีไวน์แดงคันโปรด เป็นสิ่งเดียวที่บ่งบอกบุคลิกของเขาได้ชัดเจนที่สุด  แม้ว่าพ่อยกบริษัทให้เขาบริหารต่อแต่ไม่ใช่ว่าจะทิ้งไปเสียทีเดียว ยังคงให้คุณอา“อวัช”มือขวาของพ่อไว้ช่วยสอนงาน   เพียงแค่พ่อไม่ค่อยได้กลับบ้านก็เท่านั้น ซึ่งเขาก็เข้าใจพ่อและแม่ พ่อของเขาเจ้าชู้ยังไง แม่ก็ยังเป็นเมียหลวงยืนหนึ่งไม่มีวันหย่ากับแม่แน่นอน นั้นเป็นเรื่องที่พ่อยืนยัน

            กวิวัชร์มาถึงบริษัทเก้าโมงเศษ เพราะไปดูโรงงานที่ไต้หวันครึ่งเดือนและกลับมากักตัวเจ็ดวัน ก็เท่ากับเขาไม่ได้เข้าบริษัทมาเกือบเดือน พนักงานหลายคนทำหน้าตาตื่นที่เห็นเขาเข้ามา ปกติเขาหน้าดุอยู่แล้วทำให้พนักงานไม่กล้าสบตาตรงๆ เขาเดินไปที่ห้องทำงานของอวัชด้วยความเคยชิน

            “อ้าว วันนี้เข้าบริษัทด้วยเหรอ” อวัชถามพลางกินแซนวิชในมือ “กินด้วยกันไหม”

            “ผมยังไม่หิว”  เขานั่งลงที่เก้าอี้ว่างตรงข้ามกับผู้เป็นอา “ทำไมพนักงานมองผมแปลกๆ”

            อวัชโบกมือไปมา เมื่อกลืนแซนวิชแล้วก็พูดขึ้น “แค่ไม่ค่อยเห็นหน้าประธานเลยตกใจ”

            “คิดว่าผมดูแลบริษัทไม่รอดเหรอ”  กวิวัชร์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ หลังจากจบปริญญาโท เขาก็ไปทำงานในตำแหน่งอื่น ไม่ใช่ว่าจะใช้ความเป็นลูกเจ้าของบริษัทขึ้นมานั่งเก้าอี้ผู้บริหารทันที

            “คิดมากน่า” อวัชยัดแซนวิชคำสุดท้ายเข้าปาก “มาแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรใช่ไหม ยังไงให้เลขาสั่งมื้อเช้าให้ดีกว่า”

            “ครับ”

            “วันนี้ไม่มีอะไรมากหรอก ไปอ่านเอกสารสรุปการประชุมที่กองอยู่บนโต๊ะเถอะ”

            “อาไล่ผม?”

            “เปล่า”  อวัชหัวเราะ “ไปๆ รำคาญตา อาก็มีงานที่ต้องสะสางเหมือนกัน”

            “โอเค.ครับ”

            ประธานหนุ่มเดินออกจากห้องทำงานของอาอวัชกลับมาที่ห้องทำงานของตัวเอง เขากินข้าวเช้าเอาตอนสาย ถ้าเป็นเลขาคนเก่าจะเตรียมสั่งอาหารเช้าไว้เขาโดยไม่ต้องกำชับอะไรเป็นพิเศษ แต่ตอนนี้เขามีเลขาคนใหม่ที่ท่าทางเปรี้ยวเข็ดฟัน  ถ้าไม่ใช่เพราะประวัติการเรียนของเธอน่าสนใจ รวมทั้งทำกิจกรรมระหว่างเรียน เขาคงไม่เลือกมาเป็นเลขาแน่ๆ เขาไม่อยากเป็นเหมือนพ่อ ฟาดพนักงานเป็นว่าเล่นนะสิ

            ชายหนุ่มแปลกใจที่โต๊ะทำงานหน้าห้องไม่มีร่างของเลขาสาว หรือจะยังมาไม่ถึงที่ทำงาน กวิวัชร์โคลงศีรษะแล้วผลักประตูเข้าห้องทำงานของตัวเอง สายตาของเขาปะทะกับร่างอรชรในชุดกระโปรงยาวคลุมเข่าที่กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่ที่โต๊ะทำงานของเขา

            “คุณพราวมุก?”

            “คะ!” หญิงสาวสะดุ้งเงยตัวขึ้นทันที เธอจ้องเขาตาโต “ท่านประธาน!”

            ‘ท่านประธาน?’ กวิวัชร์เลิกคิ้ว ถึงเขาจะหยุดงานไปนานและเลขาคนนี้เพิ่งมาใหม่ แต่จำได้ว่า เธอมักเรียกเขาว่า ‘บอส’

            “ทำไมต้องตกใจ”

            “เอ่อ...ไม่นึกว่าท่านประธานจะเข้าบริษัท” หญิงสาวตอบไปตามตรง เผลอยกมือขึ้นหมายจะดันแว่นตาแต่ลืมไปว่าตอนนี้เธอไม่ได้ใส่แว่น

            “แปลกจริง วันนี้มีแต่คนทัก”  เขายักไหล่แล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ หางตาเห็นกระถางต้นไม้เล็กๆ บนโต๊ะทำงาน

            ‘แปลกจริงๆ นั้นแหละ ก็ยัยมุกบอกว่าท่านประธานจะไม่เข้าบริษัทนี่’

            “นั้นอะไร”

            “ต้นไม้ค่ะ”

            “ผมเห็นแล้วว่าต้นไม้ แต่ต้นอะไร”

            “เศรษฐีเรือนในค่ะ”

            “ขอผมดูหน่อย” 

            พลอยดาวที่มาสวมหน้าที่เป็นพราวมุก เธอยืนมองมือที่ยื่นออกมา หญิงสาวเผลอกัดริมฝีปากอย่างลืมตัวแล้วยื่นกระถางต้นไม้เล็กๆ ส่งให้เขาดู

            “นี่ผมต้องพึ่งต้นไม้มงคลเสริมฮวงจุ้ยเลยเหรอ”

            “เศรษฐีเรือนในเป็นไม้มงคลเสริมโชคเสริมลาภก็จริง แต่ก็ที่มีคุณสมบัติช่วยดูดซับสารพิษ ตั้งไว้บนโต๊ะทำงานแบบนี้ก็ช่วยลดความตึงเครียดได้ด้วยค่ะ”

            “ผมดูเครียดมากเหรอ”  เขาถามพลางกวาดตามองเลขาคนใหม่ ก็เหมือนไม่มีอะไรต่างไปจากเดิม แต่ทำไมเขารู้สึกว่าวันนี้ต่างไปจากเดิม หรือเพราะผมยาวที่เกล้าขึ้นเป็นมวย หรือเธอแต่งตัวเรียบร้อยกว่าปกติ

            ถูกจ้องจนรู้สึกประหม่า พลอยดาวเคยมาทำงานแทนพราวมุก แต่ก็ไม่ได้พบหน้าประธานบริษัทระยะใกล้ขนาดนี้ เธอฝั่งใจกับใบหน้าเย็นชาและสายตาดุดันจนไม่อยากอยู่ใกล้  แล้วที่สำคัญจากข้อมูลที่พราวมุกบอก เขาควรจะมาทำงานวันจันทร์นี่นะ

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
댓글 (1)
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
555555 พี่วัชร์คะ นี่น้องพลอยดาวค่ะ น้องพลอยดาวสู้ๆนะคะ
댓글 모두 보기

최신 챕터

  • ราคีหวามรัก   Chapter 52.  รักนะครับ (จบ)

    น้ำเสียงออดอ้อนอ่อนหวานทำเอาหัวใจของชายหนุ่มอ่อนยวบ เขาถอนหายใจแล้วหมุนตัวไปถอดเสื้อที่สวมอยู่ออก ปกติเขานอนไม่สวมเสื้อแล้วก้าวขึ้นไปนอนเคียงข้าง คนตัวเล็กพลิกตัวเข้ามากอด ซุกใบหน้าหาตำแหน่งที่พอเหมาะแล้วหลับตาพริ้ม เขาก้มมองแล้วยิ้มอย่างเป็นสุข การได้กอด ได้รักและปกป้องใครสักคน มันทำให้หัวใจอิ่มเอมได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ? ความรักเป็นสิ่งมหัศจรรย์จริงๆ “รักนะคะ” “อะ..อ.ไรนะครับ” เขานึกว่าเธอหลับ แม้ได้ยินชัดแต่อยากได้ความมั่นใจอีกครั้ง “รักค่ะ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มให้ “ขอบคุณที่มาให้รักนะคะ” “ครับ” เขาจูบหน้าผากเธอเบาๆ “พี่รักน้องมุก ขอบคุณที่ให้โอกาสผู้ชายธรรมดาคนนี้ได้รู้จักความรักนะครับ” “ไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไง มุกจะถนอมความรักของพี่คิมไว้นานๆ” “พี่ก็จะถนอมความรักที่น้องมุกให้พี่เก็บไว้ให้นานที่สุด” “อื้ม พี่คิมไม่กลัวพ่อของมุกจริงๆเหรอคะ เราคบกันแล้ว ไม่ต้องหลบๆมาเจอกัน เพราะฉะนั้นให้พ่อแม่รู้คงไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ” พราวมุกถาม ดวงตาเริ่มปิดลง คราวนี้เธอง่วงแล้วจริงๆ

  • ราคีหวามรัก   Chapter 51.   คำตอบล่ะคะ

    “เหมือนเรื่องของเรานะเหรอ” “แค่กๆ ก็...ประมาณนั้น” “ทำไมพูดแค่นี้ก็ต้องเขิน” เธอมองเขาแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ “แล้วนายไม่เข้าใจประโยคไหนของฉัน” “ก็...เอ่อ...ที่น้องมุกบอกว่าไม่ชอบผู้ชายเหมือนพ่อ ...พี่ก็พยายามวิเคราะห์มาตลอดแต่ก็ยังไม่เข้าใจ” “ถึงขั้นต้องวิเคราะห์เลยเหรอ” เธอไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ฉลาดอย่างนายไม่เข้าใจจริงๆเหรอ” เขาพยักหน้าแทนคำตอบ ท่าทางเหมือนลูกศิษย์ที่รอรับคำสอนของคุณครูทำให้พราวมุกยันกายขึ้นนั่ง เขาหยิบหมอนให้เธอเอนหลังพิงหัวเตียง “ตั้งแต่เด็ก ฉันจะเห็นพ่อยุ่งกับงานตลอด แม่เล่าว่าพ่อกับแม่คบกันตั้งแต่เรียนมหา’ลัย พอจบก็แต่งงานกันทันที และเพื่อให้ได้เงินเดือนที่สูงขึ้น พ่อก็เรียนต่อปริญญาโทและทำงานไปด้วย รับงานวิจัยอีกสารพัด หลายครั้งที่แม่รู้สึกเหมือนเป็นคนนอก ไม่เข้าใจในงานของพ่อ จนสุดท้ายมันเกิดเป็นความเหินห่างและทำให้แม่เป็นฝ่ายขอเดินออกจากชีวิตของพ่อ ฉันเอง...เวลาอยู่กับพ่อก็ไม่ค่อยเข้าใจงานของพ่อ เวลาอยู่กันสามคน ฟังพ่อกับพลอยคุยกันก็ไม่รู้ว่าคุยเรื่องอะไรกัน ยิ่งเวลาที

  • ราคีหวามรัก   Chapter 50.  จะทำอะไร

    “อยู่ที่นี่แหละ” แฟรงค์ยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่ทำให้รู้สึกเสียวสันหลังวาบ“ทะ...ทำไมทำแบบนี้”“เพราะเธอทำให้ฉันต้องทำแบบนี้”“แฟรงค์...ฉันไม่เข้าใจ ...นายปล่อยฉันก่อนได้ไหม เรา...เรามาคุยกันดีๆ ก่อนดีไหม”“มุก” น้ำเสียงเขาพร่าลง สายตาจับจ้องริมฝีปากที่เม้มเข้าหากันแน่นจนเรียบตึง “ฉันทำดีกับเธอตั้งมากมาย เธอยังไม่สนใจฉัน ฉันเบื่อเล่นเป็นบทคนดีแล้ว ถึงเวลาที่เธอจะได้รู้ว่าตัวจริงของฉันเป็นยังไง บางที เธออาจจะชอบมันก็ได้”พราวมุกเบี่ยงหน้าหลบทันทีที่เห็นแฟรงค์โน้มหน้าลงมา เธอพยายามยกเท้าขึ้นเตะไปมาแต่กลับถูกเขาใช้ร่างตัวเองกดทับเธอไว้ ยิ่งดิ้นรนร่างกายก็ยิ่งแนบชิด เสียงลมหายใจของเขาแรงขึ้น สีหน้าก็ตื่นเต้นจนแก่นกายแข็งขันดุนดันจนเขาปวดหนึบไปหมด เขาครางอย่างพอใจที่เห็นเหยื่อตัวน้อยแสดงการขัดขืนชัดเจนถึงเพียงนี้ พราวมุกเข้าใจในทันทีว่าการขัดขืนของเธอกระตุ้นความต้องการทางเพศของเขา แต่เธอฝืนทำอยู่นิ่งไม่ได้ สีหน้าหื่นกระหายมันน่ารังเกียจ เธอขยะแขยงจนต้องพยายามบิดตัวหนี“ที่รัก! บอกแล้วคุณต้องชอบมัน”“แฟรงค์! ปล่อย!”เธอตวาดเขาเสียงสั่นแล้วถ่มน้ำลายใส่หน้าเขา แฟรงค์ผงะไปทันที ปล่อยมือจาก

  • ราคีหวามรัก   Chapter 49.  ลูกชายแม่จะมีแฟนแล้วเหรอ

    “อ้าว…แม่ก็นึกว่าลูกกับหนูพลอยดาว...” “ไม่ใช่ครับแม่ คิมกับน้องพลอยเป็นแค่พี่น้องกันครับ ไม่ได้คิดอย่างอื่นกันเลย แล้วตอนนี้น้องพลอยก็มีคนรักแล้วด้วย “แม่ก็นึกว่า...” แม่ยิ้มแหย คุณกานดาก็เห็นลูกชายเที่ยวรับส่งดูแลพลอยดาวมาตลอด หญิงสาวเองก็นิสัยดี น่ารัก ถ้าได้เป็นลูกสะใภ้ นางก็ไม่ขัดอะไร “เอ่อ...แม่ครับ แม่ว่า..ปกติผู้หญิงเขาจะชอบผู้ชายเหมือนพ่อใช่ไหม แบบมีพ่อเป็นต้นแบบอะไรอย่างนั้น” คุณกานดาฟังแล้วก็พยักหน้ารับ “ก็ทำนองนั้นแหละ” “แล้วถ้าผู้หญิงที่บอกว่าไม่ชอบผู้ชายเหมือนพ่อนี่...แม่คิดยังไงครับ” “แม่เคยเจอเคสเด็กผู้หญิงถูกพ่อทำร้ายร่างกายมาโรงพยาบาล ถ้าเป็นแบบนั้นคงไม่มีใครอยากได้แฟนแบบพ่อหรอก” คิมหันต์ขมวดคิ้วยุ่ง เป็นไปไม่ได้หรอก อาจารย์วิทยาไม่ใช่คนชอบใช้ความรุนแรงอยู่แล้ว เป็นคนใจเย็นและประนีประนอม ขนาดเจอนักศึกษาหัวเสียขึ้นเสียงใส่ อาจารย์ยังนิ่งเฉยไม่ตอบโต้ได้เลย “...หรือไม่ก็...” คุณกานดาพูดอย่างเพิ่งนึกออก “อาจจะเปรียบเปรยว่าทำตัวเหมือนพ่อ คอยคุมไปเสียทุกอย่างก็ได้”

  • ราคีหวามรัก   Chapter 48.  ดูซื่อๆ จนเกือบจะเป็นซื่อบื้อ

    “หา! นี่เราเห็นอะไรแบบนี้บ่อยๆเหรอ” “พี่คิม! มุกไม่ใช่คนชอบแอบดูคนอื่นนะ แค่สงสัยนิดๆหน่อยๆแต่ไม่มีหลักฐานเท่านั้นเอง” ได้ยินเธอเรียก ‘พี่คิม’ หัวใจก็ปลื้มปริ่มยินดี มันไม่เหมือนเวลาพลอยดาวเรียกเขาว่า ‘พี่’ เพราะนั้นคือความรู้สึกแบบพี่ชายน้องสาว แต่เมื่อได้ยินจากปากของพราวมุก เขารู้สึกว่าได้ใกล้ชิดกับเธอมากขึ้น ไม่ใช่ ‘นายนั้น นายนี่ หรืออาจารย์คิม’ เขาห็นใบหน้าเล็กๆ มีเหงื่อออกก็หยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับเหงื่อให้“ให้พี่สตาร์ทรถให้ไหม” “ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวพวกเขารู้” โชคยังเข้าข้างที่ไม่กี่นาทีต่อมารถคันนั้นสงบลง อวัชลงจากรถเสื้อผ้ายับยู่เล็กน้อย เขาถอยห่างออกมาและไม่กี่นาทีต่อมารถคันนั้นก็เคลื่อนออกไป พราวมุกสะดุ้งโหยงเมื่ออวัชกวาดตามองมาทางเธอ หญิงสาวรีบก้มหัวลงต่ำแต่กลายเป็นว่าเธอซุกเข้าไปในอกแกร่งของคิมหันต์กลิ่นหอมจากตัวเขาทำให้เธอดิ้นขลุกขลักแต่ชายหนุ่มกอดรัดแน่นขึ้น “ชู่ว์...อย่าเพิ่งขยับ ให้เขาไปก่อน” คราวนี้พราวมุกจึงหยุดดิ้นแทบกลั้นหายใจเมื่อตกอยู่ในวงแขนที่โอบกอด อากาศน้อยเกินไปหรือเธอกำลังเ

  • ราคีหวามรัก   Chapter 47.   มันเกิดอะไรขึ้น(วะ)เนี้ย!

    พราวมุกสะบัดหน้าไปมา บอกตัวเองให้ทุ่มเทกับงานและลืมผู้ชายที่คิมหันต์นั้นเสียที ทว่าอีกด้านหนึ่งที่พราวมุกไม่รู้ ฝ่ายอาจารย์หนุ่มก็หน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา แต่ทุกคนเข้าใจไปว่าเขาเครียดกับเรื่องวิทยานิพนธ์ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพราวมุกทำเหมือนไม่อยากติดต่อพูดคุย ทั้งที่เขาอยากเดินหน้า ‘จีบ’ อย่างเป็นทางการ แต่เธอกลับหลบหน้าเขาเสียอย่างนั้น มันเกิดอะไรขึ้น(วะ)เนี้ย! เขายกมือขึ้นนวดขมับเป็นจังหวะเดียวกับโทรศัพท์มือถือดังขึ้น รีบร้อนรับสายโดยไม่ดูว่าใครโทรเข้ามา เพราะใจหวังให้เป็นเสียงหวานใจ แต่กลายเป็นว่า “อาจารย์พี่คิม...” “ครับ” คิมหันต์ตอบรับแล้วยกมือถือดูหน้าจอแล้วค่อยพูดต่อ “อ้อ..นายนนท์มีอะไรเหรอ” “พอดีมีเรื่องอยากขอความช่วยเหลือ รูปที่ขายได้ในงานนิทรรศการต้องเอาไปส่งที่บริษัท...แต่รถของพวกเราขนไปไม่หมด เลยอยากจะรบกวนอาจารย์คิม...” เพียงแค่ได้ยินชื่อบริษัทนั้น เขาก็ดีดตัวนั่งหลังตรงทันที เพราะมันคือบริษัทที่พราวมุกทำงานอยู่ “ได้ครับ เดี๋ยวพี่เอาไปส่งเอง” “ต้องรบกว

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status