พลอยดาว-พราวมุก สองสาวฝาแฝดที่มีใบหน้าและรูปร่างคล้ายกันจนเรียกได้ว่าเป็นพิมพ์เดียวกัน "ราคีหวามรัก" เป็นเรื่องของพลอยดาวและท่านประธานกวิวัชร์ "ราคีซ่านสวาท" เป็นเรื่องราวของพราวมุกและอาจารย์คิมหันต์ ‘อะไรนะคะ’ ‘แค่คืนนี้และไม่ผูกมัด’ พลอยดาวรู้ว่าความหมายของคำนั้นดี แต่ไม่คิดว่าเขาจะชวนง่ายๆ หรือเพราะเขาทำให้มันเป็นเรื่องง่ายๆ เธอจึงตัดสินใจได้แทบจะในทันที ตอนนี้กวิวัชร์รู้สึกกลายร่างเป็นสัตว์กินเนื้อที่อยากกินเจ้ากระต่ายน้อยขึ้นมาแล้วสิ กฎเหล็กของความสัมพันธ์แบบ 'One Night Stand' คืออะไร ทุกอย่างมันควรจบแค่นั้น แต่หัวใจของเขากลับไม่ยอมให้ทุกอย่างจบแค่เรื่องในคืนนั้น
View More
โทรศัพท์มือถือเครื่องบางเฉียบส่งเสียงอยู่นานแต่เจ้าของมือถือยังจดจ่ออยู่หน้าจอโน้ตบุ๊ค ซ้ำยังใส่หูฟังทำให้ไม่ได้ยินเสียง จนกระทั่งบิดาเดินเข้ามาแตะไหล่ลูกสาวเบาๆ ทำให้หญิงสาวรู้สึกตัว
“มือถือดังนะลูก”
“อุ้ย ขอบคุณค่ะพ่อ”
พลอยดาวยิ้มให้พ่อแล้วรีบถอดหูฟังออก หยิบมือถือขึ้นมาดู แล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มให้พ่อ “ยัยมุกโทรมาค่ะพ่อ พ่ออยากคุยกับน้องไหมคะ”
“ถ้ามุกอยากคุยกับพ่อคงโทรหาพ่อเองแหละ” พ่อยื่นมือไปลูบผมเบาๆ แล้วเดินออกมาจากห้องหนังสือที่ลูกสาวยึดเป็นห้องทำงาน
หญิงสาวเห็นพ่อหันหลังเดินออกไปแล้วจึงกดรับสายของ ‘พราวมุก’ น้องสาวฝาแฝดของเธอเอง
“ว่าไงยัยมุก”
“รับสายช้ามาก ถ้ามุกเป็นอะไรไปจะทำยังไง”
“ถ้าด่วนขนาดนั้น มุกก็โทรหาพ่อสิ”
“ไม่เอา! พ่อไม่ชอบหน้ามุก”
“จะเป็นไปได้ไง หน้ามุกกับหน้าพลอยเหมือนกันเป๊ะ ขนาดไปทำงานแทนมุกคนที่บริษัทยังไม่รู้เลย” พลอยดาวหัวเราะเสียงใสแล้วมองไปทางประตูอีกครั้งให้มั่นใจว่าพ่อไม่อยู่บริเวณนี้แล้วจริงๆ
“งั้นมาช่วยมุกอีกครั้งนะ”
“อีกแล้วเหรอ” พลอยดาวทำหน้ามุ่ยแล้วใช้ปลายนิ้วดันแว่นตาขึ้นอย่างเคยชิน
“น่านะ พี่สาวคนดีของพราวมุก” ปลายสายออดอ้อน
“พี่สาวอะไรกัน เกิดก่อนแค่สิบนาทีเอง”
“มุกมาทำงานที่นี่ยังไม่ครบสามเดือน มุกไม่อยากเสียประวัติ อีกอย่าง วันเสาร์ทำงานครึ่งวัน พลอยแค่มาตอกบัตรแทนมุก นั่งสวยๆ หน้าคอมพ์ก็พอ มุกทำทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว”
ก็เพราะแบบนี้ไง พลอยดาวถึงได้แอบไปทำงานแทนพราวมุก
“แล้วทำไมคราวนี้หยุดงานล่ะ” ครั้งก่อนที่เธอเข้าบริษัทแทนพราวมุกก็เพราะน้องติดงานอื่น พราวมุกเป็นคนแอคทีฟ มีกิจกรรมให้ทำมากมายนับไม่หวาดไม่ไหว เธอยังแปลกใจที่พราวมุกตัดสินใจไปทำงานประจำในบริษัทแห่งหนึ่ง
“ไปช่วยเป็นล่ามภาษามือค่ะ” พราวมุกตอบไปตามตรง
“อ้อ...” พลอยดาวพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ พราวมุกเรียนภาษามือและยังเป็นจิตอาสาทำกิจกรรมกับผู้พิการอยู่บ่อยๆ
“วันเสาร์นี้ใช่ไหม”
“จ๊ะ”
“ได้ ถ้าอย่างนั้นพลอยไปทำงานแทนให้ครึ่งวัน”
“น่ารักที่สุด วันศุกร์มาค้างกับมุกเลยนะ แล้วพลอยทำคุกกี้มาฝากมุกด้วยนะ ที่ห้องมุกไม่มีขนมแล้ว”
“เห็นพลอยเป็นร้านค้าเหรอ” พลอยดาวหัวเราะ
“ที่อื่นไม่อร่อยเหมือนที่พลอยทำนี่ คุ้กกี้ของพลอยกินกับกาแฟเข้ากันที่สุด”
“คราวที่แล้วทำให้ตั้งกล่องใหญ่ หมดแล้วจริงๆ เหรอ” พลอยดาวถามอย่างไม่เชื่อนัก
“ก็ทำงาน ใช้พลังงานเยอะก็เลยกินเยอะไง”
“ได้ๆ เอาอะไรอีกไหม”
“ก็แล้วแต่พลอยเลย”
“เข้าใจแล้ว งั้นเจอกันเย็นวันศุกร์นะ”
“มารอที่คอนโดเลยก็ได้นะ มานั่งๆนอนๆรอมุกได้เลย”
“รู้แล้ว”
พลอยดาวคุยกับพราวมุกอีกนิดหน่อยแล้ววางสาย เธอมองดูภาพบนหน้าจอโน้ตบุ๊คครู่หนึ่ง จัดการเซฟงานแล้วพับหน้าจอลง ลุกขึ้นยืนบิดตัวไปมาแล้วเดินออกมาที่ห้องรับแขกซึ่งไม่มีแขกมาหานานแล้ว กลิ่นกาแฟทำให้เธอรู้ว่าพ่อนั่งอ่านหนังสือที่โซฟาตัวนั้น
“กินกาแฟตอนสองทุ่มจะไปหลับตอนไหนคะพ่อ”
คุณวิทยาหน้าแล้วส่งยิ้มอ่อนโยนให้ลูกสาว “มันชินแล้ว”
“พลอยบอกพ่อหลายครั้งแล้วนะคะ พ่อต้องดูแลสุขภาพให้มากกว่านี้ พลอยไม่ได้ให้พ่อเลิกดื่มกาแฟนะคะ แต่อยากให้ลดลงหน่อย”
“จ๊ะๆ พ่อเชื่อลูก” พ่อหัวเราะในลำคอแล้ว “น้องมีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
พ่อหมายถึงพราวมุก
พ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่ลูกอายุได้สิบขวบ พลอยดาวแฝดพี่มาอยู่กับพ่อ ส่วนพราวมุกแฝดน้องไปอยู่กับแม่ พ่อของเธอเป็นอาจารย์ภาควิชาภาษาตะวันออก ตอนที่เธอยังเด็กกว่านี้ พ่อเป็นวิทยากรเดินทางไปบรรยายตามมหาวิทยาลัยหลายจังหวัด ทุกครั้งที่เดินทางก็มักจะพาเธอไปด้วย เธอจึงชินกับการเดินทางกับพ่อและใช้ชีวิตสายนักวิชาการ พ่อทุ่มเทกับพลอยดาวมาก ไม่มีผู้หญิงคนใหม่ ในขณะที่แม่แต่งงานใหม่หลังจากหย่ากับพ่อได้สามปีและย้ายไปต่างประเทศกับสามีใหม่
แม้ว่าพลอยดาวกับพราวมุกจะไม่ได้ใช้ชีวิตพี่น้องร่วมกัน แต่ตลอดเวลาที่ผ่าน ทั้งสองไม่เคยขาดการติดต่อ ทุกครั้งที่พราวมุกกับแม่กลับมาเยี่ยมคุณยายที่เมืองไทย เธอก็ได้ไปพบแม่ด้วยทุกครั้ง เธอรู้ว่าพ่อกับแม่จบไม่สวยนัก แต่ก็ไม่เคยเอาเรื่องที่ผู้ใหญ่ผิดใจกันไปลงที่เด็ก ไม่เคยห้ามปรามถ้าเธอจะมาเจอแม่ รวมทั้งแม่ก็อนุญาตให้พราวมุกมาเยี่ยมพ่อ แต่นิสัยของพราวมุกตรงข้ามกับพลอยดาวทุกอย่าง หลายครั้งที่พลอยดาวคิดว่าพราวมุกได้ความกล้าหาญ มั่นใจในตัวเองไปหมดสิ้น ตัวเธอขี้อายไม่กลายตัดสินใจทำอะไรด้วยตัวเอง
“วันศุกร์นี้พลอยไปค้างกับมุกนะคะพ่อ” พลอยดาวขออนุญาตพ่อไว้ก่อน เกรงว่าพ่อมีงานให้เธอช่วยแล้วจะปลีกตัวมาไม่ได้
“ทำไมไม่ชวนน้องมาค้างที่บ้านนี้ บ้านนี้ก็เป็นของมุกเหมือนกัน” คุณวิทยาถอนหายใจเบาๆ “พ่อน่าจะรับลูกทั้งสองคนมาเลี้ยงเอง”
“โธ่ พ่อค่ะแม่ก็เหงาเหมือนกันแหละค่ะ”
พลอยดาวหัวเราะเสียงใส เรื่องพ่อแม่แยกทางมันไม่ใช่ปัญหาของเด็ก ยิ่งเติบโตขึ้น เธอก็พอจะเข้าใจว่าทำไมแม่เลิกกับพ่อ พ่อเป็นพ่อที่ดีแต่อาจไม่ใช่สามีที่เอาใจภรรยา พ่อทำงานเก่งแต่ไม่ใช่คนที่จะดูแลใคร เป็นเธอเสียอีกที่ดูแลงานบ้านทุกอย่างแทน แรกๆ พ่อจ้างแม่บ้านมาทำงานเป็นรายวัน แต่พอเธอโตขึ้นหน่อยก็รับผิดชอบเรื่องในบ้านได้เอง ทั้งซักเสื้อผ้า รีดเสื้อ แต่ถ้าเป็นชุดสูทก็ส่งร้านซักรีด อาหารก็หัดทำง่ายๆ จนทำเองได้คล่อง ค่อยดูแลพ่อที่ทำงานจนลืมเวลากินข้าวเสมอ
“พ่อคงลืมไปแล้วนะคะ ว่าลูกสาวพ่ออายุยี่สิบสองแล้ว ไม่ใช่เด็กเล็กๆแล้ว”
คราวนี้พ่อถอนหายใจอีกระลอก “แป๊บเดียวเอง ลูกก็โตเป็นสาวแล้ว”
“พ่อก็เลิกเป็นห่วงพลอยกับมุกได้แล้วค่ะ พ่อน่าจะ...”
“ไม่เอาล่ะ พ่ออยู่แบบนี้ดีแล้ว” พ่อตัดบททันทีเพราะรู้ว่าลูกสาวจะพูดเรื่องอะไร เขารู้ว่าลูกเป็นห่วงไม่อยากให้เขาใช้ชีวิตคนเดียวไปจนแก่ แต่เคยแต่งงานแล้วและทำชีวิตครอบครัวพังมาแล้ว เขาอยู่แบบนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ได้มองดูลูกสาวเติบโตขึ้นทุกวัน เขาก็มีความสุขมากแล้ว
“มุกยังอยู่ที่ไทยอีกนานค่ะพ่อ เอาไว้คราวหน้าเราไปกินข้าวนอกบ้านกันดีไหมคะ ช่วงนี้ทางการก็ให้ร้านอาหารเปิดขายปกติแล้ว หรือจะไปหาอาหารทะเลอร่อยๆ แถวบางปูกันดีไหมคะ ไปครั้งล่าสุดนี่น่าจะห้าปีที่แล้ว”
ห้าปี...คราวนี้พ่อนิ่งไปครู่หนึ่ง นี่เขาไม่ค่อยได้พาลูกเที่ยวเลยสินะ
เพราะรู้ว่าพ่อคิดเรื่องอะไรอยู่ พลอยดาวขยับไปนั่งข้างๆ เอนศีรษะพิงไหล่
“พ่ออย่าคิดมากสิ พลอยก็ไม่ได้อยากไปไหนอยู่แล้ว อ้อ! ที่พ่อให้ลองแปลบทความเป็นภาษาอังกฤษ พลอยทำเสร็จแล้ว พ่อลองตรวจดูไหม”
“อืม”
พลอยดาวเห็นพ่อกลับมาเป็นปกติก็ลอบถอนหายใจเบาๆ เธอลุกขึ้นเดินกลับไปหยิบโน้ตบุ๊ตเพื่อ กลับมาเปิดงานให้พ่อตรวจดู
แวบหนึ่งในใจพลันปรากฏใบหน้ามึนตึงของผู้ชายที่เธอไม่อยากคิดถึง ได้เจอแค่ครั้งเดียวแต่เขาทำหน้าดุจนเธอไม่กล้าสบตา หวังว่าไปทำงานแทนพราวมุกครั้งนี้จะไม่ต้องเจอผู้ชายคนนั้นอีกนะ.
น้ำเสียงออดอ้อนอ่อนหวานทำเอาหัวใจของชายหนุ่มอ่อนยวบ เขาถอนหายใจแล้วหมุนตัวไปถอดเสื้อที่สวมอยู่ออก ปกติเขานอนไม่สวมเสื้อแล้วก้าวขึ้นไปนอนเคียงข้าง คนตัวเล็กพลิกตัวเข้ามากอด ซุกใบหน้าหาตำแหน่งที่พอเหมาะแล้วหลับตาพริ้ม เขาก้มมองแล้วยิ้มอย่างเป็นสุข การได้กอด ได้รักและปกป้องใครสักคน มันทำให้หัวใจอิ่มเอมได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ? ความรักเป็นสิ่งมหัศจรรย์จริงๆ “รักนะคะ” “อะ..อ.ไรนะครับ” เขานึกว่าเธอหลับ แม้ได้ยินชัดแต่อยากได้ความมั่นใจอีกครั้ง “รักค่ะ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มให้ “ขอบคุณที่มาให้รักนะคะ” “ครับ” เขาจูบหน้าผากเธอเบาๆ “พี่รักน้องมุก ขอบคุณที่ให้โอกาสผู้ชายธรรมดาคนนี้ได้รู้จักความรักนะครับ” “ไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไง มุกจะถนอมความรักของพี่คิมไว้นานๆ” “พี่ก็จะถนอมความรักที่น้องมุกให้พี่เก็บไว้ให้นานที่สุด” “อื้ม พี่คิมไม่กลัวพ่อของมุกจริงๆเหรอคะ เราคบกันแล้ว ไม่ต้องหลบๆมาเจอกัน เพราะฉะนั้นให้พ่อแม่รู้คงไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ” พราวมุกถาม ดวงตาเริ่มปิดลง คราวนี้เธอง่วงแล้วจริงๆ
“เหมือนเรื่องของเรานะเหรอ” “แค่กๆ ก็...ประมาณนั้น” “ทำไมพูดแค่นี้ก็ต้องเขิน” เธอมองเขาแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ “แล้วนายไม่เข้าใจประโยคไหนของฉัน” “ก็...เอ่อ...ที่น้องมุกบอกว่าไม่ชอบผู้ชายเหมือนพ่อ ...พี่ก็พยายามวิเคราะห์มาตลอดแต่ก็ยังไม่เข้าใจ” “ถึงขั้นต้องวิเคราะห์เลยเหรอ” เธอไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ฉลาดอย่างนายไม่เข้าใจจริงๆเหรอ” เขาพยักหน้าแทนคำตอบ ท่าทางเหมือนลูกศิษย์ที่รอรับคำสอนของคุณครูทำให้พราวมุกยันกายขึ้นนั่ง เขาหยิบหมอนให้เธอเอนหลังพิงหัวเตียง “ตั้งแต่เด็ก ฉันจะเห็นพ่อยุ่งกับงานตลอด แม่เล่าว่าพ่อกับแม่คบกันตั้งแต่เรียนมหา’ลัย พอจบก็แต่งงานกันทันที และเพื่อให้ได้เงินเดือนที่สูงขึ้น พ่อก็เรียนต่อปริญญาโทและทำงานไปด้วย รับงานวิจัยอีกสารพัด หลายครั้งที่แม่รู้สึกเหมือนเป็นคนนอก ไม่เข้าใจในงานของพ่อ จนสุดท้ายมันเกิดเป็นความเหินห่างและทำให้แม่เป็นฝ่ายขอเดินออกจากชีวิตของพ่อ ฉันเอง...เวลาอยู่กับพ่อก็ไม่ค่อยเข้าใจงานของพ่อ เวลาอยู่กันสามคน ฟังพ่อกับพลอยคุยกันก็ไม่รู้ว่าคุยเรื่องอะไรกัน ยิ่งเวลาที
“อยู่ที่นี่แหละ” แฟรงค์ยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่ทำให้รู้สึกเสียวสันหลังวาบ“ทะ...ทำไมทำแบบนี้”“เพราะเธอทำให้ฉันต้องทำแบบนี้”“แฟรงค์...ฉันไม่เข้าใจ ...นายปล่อยฉันก่อนได้ไหม เรา...เรามาคุยกันดีๆ ก่อนดีไหม”“มุก” น้ำเสียงเขาพร่าลง สายตาจับจ้องริมฝีปากที่เม้มเข้าหากันแน่นจนเรียบตึง “ฉันทำดีกับเธอตั้งมากมาย เธอยังไม่สนใจฉัน ฉันเบื่อเล่นเป็นบทคนดีแล้ว ถึงเวลาที่เธอจะได้รู้ว่าตัวจริงของฉันเป็นยังไง บางที เธออาจจะชอบมันก็ได้”พราวมุกเบี่ยงหน้าหลบทันทีที่เห็นแฟรงค์โน้มหน้าลงมา เธอพยายามยกเท้าขึ้นเตะไปมาแต่กลับถูกเขาใช้ร่างตัวเองกดทับเธอไว้ ยิ่งดิ้นรนร่างกายก็ยิ่งแนบชิด เสียงลมหายใจของเขาแรงขึ้น สีหน้าก็ตื่นเต้นจนแก่นกายแข็งขันดุนดันจนเขาปวดหนึบไปหมด เขาครางอย่างพอใจที่เห็นเหยื่อตัวน้อยแสดงการขัดขืนชัดเจนถึงเพียงนี้ พราวมุกเข้าใจในทันทีว่าการขัดขืนของเธอกระตุ้นความต้องการทางเพศของเขา แต่เธอฝืนทำอยู่นิ่งไม่ได้ สีหน้าหื่นกระหายมันน่ารังเกียจ เธอขยะแขยงจนต้องพยายามบิดตัวหนี“ที่รัก! บอกแล้วคุณต้องชอบมัน”“แฟรงค์! ปล่อย!”เธอตวาดเขาเสียงสั่นแล้วถ่มน้ำลายใส่หน้าเขา แฟรงค์ผงะไปทันที ปล่อยมือจาก
“อ้าว…แม่ก็นึกว่าลูกกับหนูพลอยดาว...” “ไม่ใช่ครับแม่ คิมกับน้องพลอยเป็นแค่พี่น้องกันครับ ไม่ได้คิดอย่างอื่นกันเลย แล้วตอนนี้น้องพลอยก็มีคนรักแล้วด้วย “แม่ก็นึกว่า...” แม่ยิ้มแหย คุณกานดาก็เห็นลูกชายเที่ยวรับส่งดูแลพลอยดาวมาตลอด หญิงสาวเองก็นิสัยดี น่ารัก ถ้าได้เป็นลูกสะใภ้ นางก็ไม่ขัดอะไร “เอ่อ...แม่ครับ แม่ว่า..ปกติผู้หญิงเขาจะชอบผู้ชายเหมือนพ่อใช่ไหม แบบมีพ่อเป็นต้นแบบอะไรอย่างนั้น” คุณกานดาฟังแล้วก็พยักหน้ารับ “ก็ทำนองนั้นแหละ” “แล้วถ้าผู้หญิงที่บอกว่าไม่ชอบผู้ชายเหมือนพ่อนี่...แม่คิดยังไงครับ” “แม่เคยเจอเคสเด็กผู้หญิงถูกพ่อทำร้ายร่างกายมาโรงพยาบาล ถ้าเป็นแบบนั้นคงไม่มีใครอยากได้แฟนแบบพ่อหรอก” คิมหันต์ขมวดคิ้วยุ่ง เป็นไปไม่ได้หรอก อาจารย์วิทยาไม่ใช่คนชอบใช้ความรุนแรงอยู่แล้ว เป็นคนใจเย็นและประนีประนอม ขนาดเจอนักศึกษาหัวเสียขึ้นเสียงใส่ อาจารย์ยังนิ่งเฉยไม่ตอบโต้ได้เลย “...หรือไม่ก็...” คุณกานดาพูดอย่างเพิ่งนึกออก “อาจจะเปรียบเปรยว่าทำตัวเหมือนพ่อ คอยคุมไปเสียทุกอย่างก็ได้”
“หา! นี่เราเห็นอะไรแบบนี้บ่อยๆเหรอ” “พี่คิม! มุกไม่ใช่คนชอบแอบดูคนอื่นนะ แค่สงสัยนิดๆหน่อยๆแต่ไม่มีหลักฐานเท่านั้นเอง” ได้ยินเธอเรียก ‘พี่คิม’ หัวใจก็ปลื้มปริ่มยินดี มันไม่เหมือนเวลาพลอยดาวเรียกเขาว่า ‘พี่’ เพราะนั้นคือความรู้สึกแบบพี่ชายน้องสาว แต่เมื่อได้ยินจากปากของพราวมุก เขารู้สึกว่าได้ใกล้ชิดกับเธอมากขึ้น ไม่ใช่ ‘นายนั้น นายนี่ หรืออาจารย์คิม’ เขาห็นใบหน้าเล็กๆ มีเหงื่อออกก็หยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับเหงื่อให้“ให้พี่สตาร์ทรถให้ไหม” “ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวพวกเขารู้” โชคยังเข้าข้างที่ไม่กี่นาทีต่อมารถคันนั้นสงบลง อวัชลงจากรถเสื้อผ้ายับยู่เล็กน้อย เขาถอยห่างออกมาและไม่กี่นาทีต่อมารถคันนั้นก็เคลื่อนออกไป พราวมุกสะดุ้งโหยงเมื่ออวัชกวาดตามองมาทางเธอ หญิงสาวรีบก้มหัวลงต่ำแต่กลายเป็นว่าเธอซุกเข้าไปในอกแกร่งของคิมหันต์กลิ่นหอมจากตัวเขาทำให้เธอดิ้นขลุกขลักแต่ชายหนุ่มกอดรัดแน่นขึ้น “ชู่ว์...อย่าเพิ่งขยับ ให้เขาไปก่อน” คราวนี้พราวมุกจึงหยุดดิ้นแทบกลั้นหายใจเมื่อตกอยู่ในวงแขนที่โอบกอด อากาศน้อยเกินไปหรือเธอกำลังเ
พราวมุกสะบัดหน้าไปมา บอกตัวเองให้ทุ่มเทกับงานและลืมผู้ชายที่คิมหันต์นั้นเสียที ทว่าอีกด้านหนึ่งที่พราวมุกไม่รู้ ฝ่ายอาจารย์หนุ่มก็หน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา แต่ทุกคนเข้าใจไปว่าเขาเครียดกับเรื่องวิทยานิพนธ์ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพราวมุกทำเหมือนไม่อยากติดต่อพูดคุย ทั้งที่เขาอยากเดินหน้า ‘จีบ’ อย่างเป็นทางการ แต่เธอกลับหลบหน้าเขาเสียอย่างนั้น มันเกิดอะไรขึ้น(วะ)เนี้ย! เขายกมือขึ้นนวดขมับเป็นจังหวะเดียวกับโทรศัพท์มือถือดังขึ้น รีบร้อนรับสายโดยไม่ดูว่าใครโทรเข้ามา เพราะใจหวังให้เป็นเสียงหวานใจ แต่กลายเป็นว่า “อาจารย์พี่คิม...” “ครับ” คิมหันต์ตอบรับแล้วยกมือถือดูหน้าจอแล้วค่อยพูดต่อ “อ้อ..นายนนท์มีอะไรเหรอ” “พอดีมีเรื่องอยากขอความช่วยเหลือ รูปที่ขายได้ในงานนิทรรศการต้องเอาไปส่งที่บริษัท...แต่รถของพวกเราขนไปไม่หมด เลยอยากจะรบกวนอาจารย์คิม...” เพียงแค่ได้ยินชื่อบริษัทนั้น เขาก็ดีดตัวนั่งหลังตรงทันที เพราะมันคือบริษัทที่พราวมุกทำงานอยู่ “ได้ครับ เดี๋ยวพี่เอาไปส่งเอง” “ต้องรบกว
Comments