“แล้วถ้าผมไม่เลือกสักทาง และพาไลลาไปอยู่ที่อื่นล่ะครับ ท่านแม่จะอนุญาตไหมครับ”
แคทเธอรีนส่ายหน้าปฏิเสธ มองใบหน้าหล่อเหลาของลูกชายที่ตอนนี้แดงก่ำเพราะกำลังทุกข์ทรมานอย่างเห็นใจ แต่หล่อนทำตามความต้องการของลูกชายไม่ได้จริงๆ
“ยังไงซะ ลูกกับไลลาก็รักกันไม่ได้”
“แต่ผมกับน้องนอนด้วยกันแล้วนะครับ”
“ลืมเรื่องนั้นซะ แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่”
“ผม...”
“ถ้าลูกยังขัดขืน และคิดจะแข็งข้อกับแม่ ไลลาจะเป็นคนที่เดือดร้อน”
เขารู้ดีว่ามารดาไม่ได้ขู่ แต่ท่านทำได้จริงอย่างที่พูด เขารู้จักนิสัยของท่านดี
แล้วนี่เขาจะทำยังไงดี...?
ไลลา... เขารักไลลา แล้วจะให้ยอมปล่อยมือจากหล่อนไปได้ยังไงกัน
“งั้นผมขอเวลาครับ”
“คนของท่านพ่อจะประกาศทางอินเทอร์เน็ต รวมถึงหนังสือพิมพ์ไปทั่วโลกเกี่ยวกับการเลือกคู่ของลูกในค่ำวันนี้ และอาทิตย์หน้าผู้หญิงที่สนใจก็จะเดินทางมาที่บ้านของเรา คนของแม่จะคัดเลือกผู้หญิงเหล่านั้นให้เหลือแค่สามสิบคน หลังจากนั้นแม่กับพ่อจะคัดให้เหลือแค่สิบคน เพื่อให้ลูกได้เลือกหนึ่งในสิบคนนั้นเป็นภรรยาของลูก...”
“ทำไมเร็วนักล่ะครับท่านแม่”
ชาร์ลีตกใจไม่น้อย เขารู้สึกมืดแปดด้านเหลือเกิน
“มันคือเวลาที่เหมาะสมแล้วล่ะชาร์ล เชื่อแม่เถอะ”
“นี่ผมปฏิเสธอะไรไม่ได้เลยอย่างนั้นใช่ไหมครับ”
“ถูกต้อง เพราะถ้าลูกทำอะไรลงไปโดยพลการ ไลลาจะได้รับผลกระทบทันที”
มารดาของเขาเอาไลลามาข่มขู่ และมันก็ได้ผลดีเยี่ยม เพราะเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย เพราะเป็นห่วงนางในดวงใจ
“ถ้าผมยอมแต่งงานกับผู้หญิงสักคนที่ท่านแม่พอใจ ท่านแม่สัญญากับผมได้ไหมครับว่าจะไม่แตะต้องไลลา เธอจะต้องอยู่ในบ้านหลังนี้ต่อไปอย่างมีความสุข”
“แม่ให้สัญญา...”
สองแม่ลูกสบประสานสายตากัน ก่อนที่แคทเธอรีนจะพูดออกมาอีกครั้ง
“แต่นั่นต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขของคำว่าพี่ชายและน้องสาวเท่านั้น เพราะถ้าแม่ระแคะระคายว่าลูกกับไลลายังไม่หยุดยุ่งเกี่ยวกันในเชิงชู้สาว ไลลาจะต้องออกไปจากที่นี่ด้วยการแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่ง”
กรามแกร่งสะอาดสะอ้านไร้หนวดเคราของชาร์ลีขบกันแน่นจนเป็นสันนูนเป่ง แก้มของเขามีสีแดงระเรื่อแต่ไม่ใช่เพราะเอียงอาย แต่เป็นเพราะกำลังกดดัน
“ครับ”
“แม่ดีใจนะที่ชาร์ลยอมตกลง”
“เพราะผมไม่มีทางเลือกครับ”
ชายหนุ่มตอบมารดาไปตามความเป็นจริง ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยลา
“ถ้าท่านแม่หมดธุระกับผมแล้ว ผมขอตัวก่อนครับ”
“ตามสบายเถอะ”
“ขอบคุณครับ”
เขาโค้งศีรษะให้มารดาผู้เป็นเจ้าของกิริยางดงาม ก่อนจะก้าวออกไปจากห้องพักผ่อนของท่าน มุ่งหน้าตรงไปยังเฉลียงไม้ร่มรื่น ที่ทอดยาวลงไปยังชั้นล่างซึ่งเป็นบริเวณสวนสวย
ตรงนั้นคือที่ประจำของไลลา...
เขาเดินลงมาหยุดที่ศาลาริมน้ำกลางสวน ร่างอ้อนแอ้นน่าทะนุถนอมของไลลานั่งอยู่ที่นั่นจริงๆ
ไลลาบอบบางราวกับตุ๊กตาแก้ว ที่หากจับต้องแรงๆ อาจจะแตกหักได้ง่าย ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เขาอยากจะปกป้องและดูแลหญิงสาวคนนี้ไปชั่วชีวิต
แต่ให้ตายเถอะ ทุกอย่างมันพังลงหมดแล้ว!
“ไลลา”
เจ้าของชื่อค่อยๆ หมุนกายกลับมาหา รอยยิ้มระบายบนใบหน้างามเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มันดูเศร้าสร้อยจนเขาสังเกตเห็นได้ชัดเจน
ชาร์ลีเดินเข้าไปดึงร่างเล็กของน้องสาวบุญธรรมที่ตนเองคิดเกินเลยเข้ามากอด ซบหน้าลงกับกลุ่มเส้นผมนุ่มนั้นแผ่วเบา หัวใจเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน
“ท่านแม่... ว่ายังไงบ้างคะพี่ชาร์ล”
ไลลาเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ เพราะหลังจากที่กลับมาจากบ้านของเคลวินเพื่อนรักของชาร์ลี ความรักลับๆ ของหล่อนกับ
ชาร์ลีก็ถูกเปิดเผย เพราะแคทเธอรีนแอบส่งคนสะกดรอยตามหล่อนกับชาร์ลีไปตอนแรกหล่อนกับชาร์ลีพร้อมใจกันปฏิเสธ แต่รูปถ่ายที่นักสืบส่งมาให้แคทเธอรีนกับลาซาลอสมันทำให้ยากจะที่จะปฏิเสธต่อไปได้อีก เพราะจนด้วยหลักฐาน
“ท่านแม่บอกให้เราเลิกคบกัน”
ไลลาดันตัวออกห่างจากอ้อมแขนของพี่ชายบุญธรรม น้ำตาไหลรินอาบแก้ม
“แต่เรารักกันนะคะ”
“ท่านแม่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ท่านบอกว่ามันไม่เหมาะสม ท่านไม่มีวันยอม”
“แล้วท่านพ่อล่ะคะ”
“ท่านพ่อไม่มีทางขัดใจท่านแม่ ไลลาก็รู้นี่” น้ำเสียงของชาร์ลีเต็มไปด้วยความมืดมน
“ท่านแม่ให้พี่เลือกระหว่าง...” เขาสบประสานสายตากับดวงตาเศร้าหมองของน้องสาวบุญธรรม “ให้พี่แต่งงาน หรือว่าจะให้ไลลาแต่งงาน”
“ไม่นะคะ น้องไม่ยอม!”
ไลลาส่ายหน้าปฏิเสธ หล่อนรับไม่ได้ทั้งสองทางเลือก หล่อนไม่มีวันยอมแต่งงานกับชายคนไหน และก็ไม่มีวันยอมให้พี่ชายบุญธรรมแต่งงานกับหญิงคนใดเด็ดขาด
“พี่ก็ไม่ยอม”
“งั้นเราหนีไปด้วยกันเถอะค่ะ “หล่อนจับมือของชาร์ลีเอาไว้ และมองเขาอย่างรอคอยคำตอบ “ไปที่ไหนก็ได้ที่มีแค่เราสองคน นะคะพี่ชาร์ล”
ชาร์ลีวางมือของตัวเองบนหลังมือเล็กของไลลา ก่อนจะพูดความจริงที่ต่างก็รู้ดีอยู่เต็มอกออกมา
“ไลลาก็รู้นี่ว่าเราหนีท่านแม่ไม่พ้นหรอก และที่สำคัญหากพี่ปฏิเสธคำสั่งของท่าน คนที่เดือดร้อนก็จะเป็นน้องนะไลลา”
“ไม่ค่ะ น้องไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ขอแค่ให้น้องได้อยู่กับพี่ชาร์ล ให้เราได้ครองรักกัน...” น้ำตาของไลลาไหลพราก หากย้อนเวลากลับไปได้ หล่อนจะไม่มีวันยอมให้แคทเธอรีนอุปการะในฐานะลูกสาวบุญธรรมเด็ดขาด
“พี่จำเป็นต้องแต่งงาน”
“พี่ชาร์ล...!”
“มันเจ็บปวดมาก... พี่รู้ไลลา...”
มือใหญ่ของชาร์ลียกขึ้นโอบประคองดวงหน้าที่ชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาของไลลาเอาไว้ ก่อนจะพรมจูบไปทั่วอย่างแสนเสน่หา ปากก็พร่ำขอโทษ
“พี่ขอโทษที่ไม่อาจทำให้น้องมีความสุขได้อย่างที่เคยให้คำมั่นเอาไว้”
“พี่ชาร์ล... น้องทนเห็นพี่แต่งงานไม่ได้หรอกค่ะ น้องเจ็บ น้องจะขาดใจ...”
“ฟังพี่นะไลลา...” ชาร์ลีจ้องลึกเข้าไปในดวงตาชุ่มฉ่ำของไลลา ก่อนจะบอกบางอย่างออกมา “พี่แต่งงานก็จริง แต่การแต่งงานจะเป็นแค่ฉากหน้าที่พี่มีเอาไว้ซ่อนความสัมพันธ์ของเราเท่านั้น”
“พี่ชาร์ลหมายถึง...”
“พี่จะยอมแต่งงานตามที่ท่านแม่ต้องการ แต่พี่จะใช้การแต่งงานนี้รักษาความรักของเราเอาไว้ไงครับ”
ไลลายิ้มออกมาทั้งน้ำตา “งั้นก็แสดงว่าถึงพี่ชาร์ลจะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ตาม แต่เราสองคนก็ยังจะรักกันและมีความสัมพันธ์กันใช่ไหมคะ”
“ถูกต้องน้องพี่...”
“พี่ชาร์ลน้องดีใจที่สุดเลยค่ะ...”
ไลลาหัวเราะออกมาอย่างดีใจ และก็สวมกอดชาร์ลีเอาไว้อย่างแสนรัก
“แต่เราต้องเก็บความลับนี้เอาไว้ให้มิดที่สุดนะครับ ไม่อย่างนั้นท่านแม่จะมาทำลายมันอีก”
“แน่นอนค่ะ น้องสัญญา...”
ไลลาไต่มือขึ้นไปโอบรอบลำคอแกร่งของชาร์ลี และก็เขย่งปลายเท้าขึ้น เพื่อจะจูบปากของเขา แต่ชายหนุ่มขืนตัวเอาไว้
“เราทำแบบนี้ไม่ได้ เดี๋ยวมีใครมาเห็นเข้า ท่านแม่จะระแวงขึ้นมาอีก”
“แต่น้องคิดถึงพี่ชาร์ลนะคะ น้องอยากนอนในอ้อมแขนของพี่ชาร์ลอีก”
ชาร์ลีอมยิ้มบางๆ ยกมือขึ้นเกลี่ยหยาดน้ำตาบนแก้มนวลให้กับไลลาจนแห้ง
“งั้นคืนนี้พี่จะไปหา ไลลาเปิดหน้าต่างรอพี่ก็แล้วกัน”
“ค่ะ พี่ชาร์ล”
ไลลายิ้มหวาน มองชาร์ลีอย่างแสนรัก
“น้องรักพี่ชาร์ลมากนะคะ น้องยอมสละตัวเองเป็นนางบำเรอในเงาของพี่ชาร์ลตลอดไปค่ะ”
“ใครว่าน้องเป็นนางบำเรอของพี่ล่ะ น้องคือตัวจริงของพี่ต่างหาก ไลลา...”
“แล้วผู้หญิงคนที่พี่จะแต่งงานด้วยล่ะคะ นางจะเป็นอะไรของพี่กัน”
“เมียบนหิ้งไงครับ”
“ยังไงเหรอคะพี่ชาร์ล”
ไลลาเข้าใจความหมายดี แต่ก็อดที่จะถามออกไปเพื่อให้มั่นใจยิ่งขึ้นไม่ได้
“เมียที่พี่ไม่คิดจะแตะต้อง”
ไลลายิ้มกว้างอย่างมีความสุข ได้ยินชาร์ลีพูดแบบนี้หล่อนก็สบายใจแล้ว
“น้องรักพี่ชาร์ลที่สุดเลยค่ะ”
“พี่ก็รักน้อง ไลลา...”
ทั้งคู่กอดกันแนบแน่น ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปคนละทางเพื่อปกป้องคนอื่นครหา
ช้องนางที่ยืนทอดสายตามองออกไปยังสวนสวยผ่านระเบียงห้องนอนสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อถูกอ้อมแขนอบอุ่นที่แสนคุ้นเคยสวมกอดเข้ามาทางด้านหลัง“อุ้ยยย คุณชาร์ล...”คนตัวโตที่เพิ่งกลับจากทำงานระดมจูบซอกคอระหง “คิดถึงจังเลยครับที่รัก...”“แหม เราเพิ่งห่างกันแค่แปดชั่วโมงเองนะคะ”“แค่ชั่วโมงเดียว ผมก็จะขาดใจตายอยู่แล้วล่ะ”ร่างของหล่อนถูกจับให้หมุนกลับมาเผชิญหน้ากับสามีสุดหล่อ เขาโน้มหน้าลงมาจูบหน้าผากแผ่วเบา ก่อนจะเลื่อนเลยลงมาจูบปากอิ่ม สาวน้อยเผยอปากรับจูบตอบ“แอบไปกินน้ำผึ้งมาหรือเปล่าเนี่ย ทำไมปากหวานจัง”“คุณชาร์ลน่ะ...”หล่อนระบายยิ้มเอียงอาย สองพวงแก้มแดงระเรื่อ หัวใจพองฟูคับแน่นอก ตั้งแต่กลับมาเลแวนต้าอีกครั้ง ชีวิตของหล่อนก็เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียวชาร์ลีรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้เอาไว้กับหล่อนตอนที่ตามไปง้อที่เมืองไทยเป็นอย่างดี เขาปฎิบัติตัวกับหล่อนด้วยความรัก เอาใจใส่ และทำหน้าที่ของสามีที่ดีอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แถมคำว่ารักจากปากของเขาก็ยังกระซิบพร่ำบอกข้างหูทุกค่ำคืนหล่อนมีความสุข... จนไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่กำลังได้รับอยู่มันคือความจริง“คิดถึงผมไหม...” เขาก้มหน้าหล่อๆ ล
บนเตียงนอนของหล่อนยุ่งเหยิงยับเยิน เมื่อสองร่างเปลือยเปล่ากำลังคลุกเคล้าโรมรันกันอย่างดุเดือด กายสาวบิดเร่าๆ เมื่อถูกชาร์ลีปลุกเร้าจนร้อนราวกับเปลวเพลิงเขาจูบ เขาดูดปาก ล้วงลิ้นร้อนๆ เข้ามาหา รัดรึงลิ้นเล็กอย่างหื่นกระหาย ส่วนฝ่ามือก็ลูบไล้บีบเคล้นเต้านมหนักหน่วง กายสาวดิ้นเร่าๆ ด้วยความเสียดเสียวทรมาน เสี้ยวสติหนึ่งพยายามจะต่อต้าน แต่ก็ถูกปัดเป่าจนจางหาย ตอนนี้ในหัวของหล่อนมีแต่ความว่างเปล่า“อา... อ๊า...”หล่อนหยัดหน้าอกอวบขึ้นสูงตอบรับนิ้วยาวที่กำลังบี้บดอยู่กับปลายถัน เขาเอาทั้งสองมือดึงยอดทรวงเอาไว้ สนุกสนานกับการเห็นมันค่อยๆ แข็งเป็นไตสู้นิ้วมือ“อา... อา... คุณชาร์ลขา... อ๊า...”รอยยิ้มพึงพอใจระบายเต็มใบหน้าหล่อเหลา ยิ่งเห็นหล่อนดิ้นพล่านด้วยความกระสัน เขาก็ยิ่งเพิ่มน้ำหนักนิ้วและฝ่ามือที่คุกคามเต้าอวบยิ่งขึ้น“ได้โปรด... คุณชาร์ลขา... อา...” หล่อนวิงวอนเขาทั้งทางร่างกายและสายตา“รู้ไหม... เธอเป็นผู้หญิงที่น่าเสพสุขด้วยเหลือเกิน ช้องนาง...”หล่อนไม่เข้าใจความหมายของเขานัก เพราะตอนนี้สมองว่างเปล่า สิ่งเดียวที่รับรู้ได้ก็คือสัมผัสสวาทจากผู้ชายบนร่างเท่านั้น“ได้โปรด... นางร้อน..
“พ่อรอนางนานไหม...” หางเสียงของหล่อนจางหายวับไปทันตา เมื่อสายตามองเห็นว่าบิดาไม่ได้อยู่ตามลำพัง แต่กำลังนั่งคุยอยู่กับชาร์ลีอย่างออกรสออกชาติหล่อนหน้าซีดเผือด รู้สึกเหมือนกับว่าพื้นดินใต้ฝ่าเท้ากำลังจะเคลื่อนตัวออกจากกัน“พ่อคะ อย่าไปคุยกับเขาค่ะ”“อ้าว ทำไมพูดถึงสามีตัวเองแบบนี้ล่ะนาง”คำถามของบิดา ทำให้ดวงตากลมโตเบิกกว้าง หล่อนจ้องมองชาร์ลีที่นั่งกอดอกยิ้มร่าด้วยความไม่พอใจเขาไม่ควรดึงพ่อของหล่อนเข้ามาเกี่ยวข้อง และที่สำคัญ เขาควรจะกลับไปเลแวนต้าได้แล้ว“คุณชาร์ลไม่ใช่สามีของนางหรอกค่ะพ่อ เราเป็นแค่...”ชาร์ลีไม่คิดจะรอให้หล่อนพูดจบ เขาลุกขึ้น และเดินเข้ามารั้งร่างสาวเข้าสู่อ้อมกอดอย่างรวดเร็ว ซึ่งมันเกิดขึ้นเร็วมากจนหล่อนต่อต้านไม่ทันร่างสาวถลาเข้าสู่อ้อมแขนอบอุ่นไม่ต่างจากลูกนกโผเข้าสู่อ้อมอกของมารดาเลย“ฉันรู้หรอกว่าทำให้เธอเข้าใจผิด แต่ก็อธิบายไปแล้วนี่ว่าฉันมีแต่เธอคนเดียว ไม่มีใครทั้งนั้น ทำไมยังไม่เลิกงอนอีกล่ะ”แล้วเขาก็ก้มลงจูบกระหม่อมของหล่อน โดยที่หล่อนทำได้แค่ยืนตัวแข็งทื่อ“ก็อย่างที่ผมเล่าให้คุณพ่อฟังนั่นแหละครับ ตอนแรกผมไม่ได้ตั้งใจจะรักลูกสาวของคุณพ่อหรอกครับ แต่พ
“อ้าว คุณชาร์ลี มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ย”เกสราได้ยินเสียงเอะอะโวยวายก็ออกมาดู แล้วก็เห็นชาร์ลียืนอยู่กลางห้องโถงของบ้าน สีหน้ากำลังบูดบึ้งได้ทีเลยทีเดียว“สักพักแล้วล่ะครับ”“แล้วนี่ช้องนางไปไหนล่ะคะ หรือว่าไปยกน้ำมาให้คะ”ชายหนุ่มกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ ด้วยความหงุดหงิด ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะต้องวิ่งตามหลังผู้หญิงคนไหน แต่ช้องนางทำให้เขาเป็นบ้า“วิ่งหนีผมไปแล้วครับ”“ตายจริง ปกติช้องนางเป็นเด็กมีเหตุผลนี่นา ไม่น่าทำตัวงี่เง่าแบบนี้นะคะ”“เธอทำครับ ทำทุกอย่างที่ผู้หญิงงี่เง่าเจ้าน้ำตาคนหนึ่งจะทำได้เลยทีเดียว และผมก็บ้ามากที่อดทนง้อได้นานถึงขนาดนี้”เกสราอมยิ้ม ก่อนจะเชื้อเชิญให้ชาร์ลีนั่งลงบนโซฟา “ค่อยๆ พูดค่อยๆ จากันนะคะ ช้องนางน่ะ เป็นเด็กจิตใจดี และมีเหตุผลเสมอค่ะ ถ้าบอกให้เธอเข้าใจ ฉันว่าเธอจะอ่อนลงค่ะ”“แต่ผมก็บอกไปแล้วว่าผมมาตามกลับเลแวนต้า แต่เธอก็ยังงี่เง่าไม่ยอมท่าเดียว”“งั้นคุณชาร์ลีก็ไม่ต้องไปใส่ใจอะไรช้องนางแล้วล่ะค่ะ ก็หย่าๆ กันไปเลยตามที่เธอต้องการเถอะค่ะ”“ผมจะทำอย่างนั้นได้ยังไงกันล่ะครับ”เกสราจ้องหน้าของชายหนุ่มสูงศักดิ์ มองอย่างรอคอยคำตอบ และก็เ
หลังจากร้องไห้มาตลอดทางจนคนขับรถแท็กซี่ต้องหยิบกระดาษทิชชูยื่นมาให้ซับน้ำตา หล่อนก็ก้าวลงจากรถด้วยความอ่อนแรงหลังจากจ่ายค่าโดยสารเสร็จแล้ว“คุณชาร์ลยังต้องการอะไรจากนางอีก... แค่นี้นางยังเจ็บไม่พอหรือไง...”หลังมือเล็กยกขึ้นป้ายน้ำตาออกจากแก้มนวลหลายครั้งเพราะต้องการให้มันแห้งเหือด หล่อนไม่ต้องการให้คนในบ้านเห็นความอ่อนแอของตนเองช้องนางกำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในบ้าน แต่แล้วเสียงแตรรถยนต์ก็แผดเสียงดังลั่น หล่อนสะดุ้งตกใจจนต้องหันกลับไปมอง และก็เห็นชาร์ลีก้าวลงมาจากรถคนนั้นหล่อนช็อกค้าง สองขาอ่อนเปลี้ยจนก้าวหนีไปไหนไม่ได้ หล่อนเห็นเขาหยิบเงินหลายใบยื่นให้กับมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขับนำหน้ามา ก่อนจะย่างสามขุมเข้ามาหาหล่อนหนีสิ...หล่อนสั่งตัวเอง แต่ขาไม่ยอมขยับ จนกระทั่งเขาก้าวเข้ามาหยุดตรงหน้า กลิ่นอายอันตรายของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก หน้างามซีดเผือดไร้สีเลือด“คุณชาร์ล...”เขาโน้มหน้าต่ำลงมาหา และกระซิบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาที่ข้างใบหูของหล่อน“เธอหนีฉันไม่พ้นหรอก ช้องนาง”หล่อนตัวสั่นเทา หัวใจก็สั่นสะท้าน ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองคนใจร้าย มองอย่างอยากรู้ว่าเขาจะทำร้ายกันไม่พอหรือไง ถึงไม่สนใจตอบค
“พอนางมีรายได้แล้ว นางจะ... ผ่อนใช้หนี้คุณชาร์ลค่ะ”“ฉันไม่ได้ต้องการเงินขี้ปะติ๋วของเธอหรอก เพราะกว่าเธอจะใช้หนี้สินที่อาของเธอเอาจากท่านแม่ของฉันครบ ฉันก็ขึ้นไปนอนเล่นบนสวรรค์ไม่รู้กี่ปีแล้วมั้ง” เขาประชดประชันด้วยน้ำเสียงดุกระด้างน่าหวาดกลัว“งั้นนางจะหัดซื้อลอตเตอรี่ก็แล้วกันค่ะ”คนที่ขับรถอยู่หันขวับมามองด้วยความแปลกใจ “ทำไมต้องซื้อลอตเตอรี่ด้วย ชอบเสี่ยงโชคด้วยหรือเธอน่ะ”“เปล่าค่ะ นางไม่ได้ชอบเสี่ยงโชค แต่นางต้องการถูกรางวัลที่หนึ่ง เพื่อที่จะได้มีเงินไปใช้หนี้คุณชาร์ลไงคะ”นี่เขาหัวเราะทำไมกันนะ หล่อนพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นเหรอหล่อนช้อนตาขึ้นมองเขา ก็พบว่าเขาหัวเราะจนหน้าดำหน้าแดงเลยทีเดียว ก่อนจะละสายตาจากท้องถนนมามองหล่อน“ทำไมเธอละโมบแบบนี้ล่ะ เธอถูกรางวัลที่หนึ่งมาแล้วครั้งหนึ่ง ควรจะให้คนอื่นเขาบ้าง อย่าใจแคบนักเลย”“นางไม่เคยซื้อลอตเตอรี่มาก่อนเลยในชีวิต แล้วนางจะถูกรางวัลที่หนึ่งได้ยังไงกันคะ”“ก็ฉันไงล่ะ ลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งของเธอ”เขาอมยิ้มแพรวพราว และเมื่อเห็นเครื่องหมายคำถามบนใบหน้าของหล่อนจึงอธิบายต่อ“การที่เธอได้ฉันเป็นสามีก็ไม่ต่างจากการถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หน