Share

บทที่ 350

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
ฮ่องเต้และหวงโฮ่วได้ต้อนรับเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีที่ตำหนักหยีเดี้ยน

หลังจากกราบไหว้เสร็จแล้ว ฮ่องเต้พระราชทานนั่งลง หวงโฮ่วฉีมองดูซ่งซีซีที่แต่งกน้าเบาๆ นางก็ถอนหายใจเบาๆ

โชคดีที่ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี

หากให้นางเข้าวังจริงๆ เกรงว่าวังหลังนี้คงจะเป็นของซ่งซีซีแล้ว

หน้าตาที่งดงามเพียบพร้อมเช่นนี้ นางสนมในวังหลังคงไม่มีใครเทียบได้กระมัง

นางมองไปที่ฮ่องเต้โดยไม่รู้ตัว และเห็นว่าฮ่องเต้กำลังมองดูซ่งซีซีอยู่ แต่ใจของนางก็อดไม่ได้ที่เต้นผิดจังหวะ สายตานี้ นางคุ้นเคยมาก

เมื่อใดก็ตามที่เขาเห็นสตรีที่ทำให้เขาหวั่นไหวนั้น สายตาของเขาก็จะดูพิเศษอยู่เสมอ

นางรู้สึกดีใจอีกครั้งที่ซ่งซีซีแต่งงานกับเซี่ยหลูโม่แล้ว

เมื่อพูดถึงคำสั่งที่ฮ่องเต้ออกให้ในเวลานั้น นางกลัวมากจนนอนไม่หลับไปหลายคืน หากเป็นสตรีทั่วไปก็ไม่ว่าอะไร แต่นางคือซ่งซีซี ท่านพ่อและพี่ชายที่เสียชีวิตในสนามรบของนางนั้นมีน้ำหนักอยู่ในใจของฮ่องเต้มากเกินไป อีกอย่างรูปร่างหน้าตาของนางก็สวยโดดเด่นเกินไป

โชคดีที่สิ่งที่นางกังวลนั้นไม่ได้เกิดขึ้น ซ่งซีซีกลับเป็นน้องสะใภ้ของนางแทน

ดังนั้น รอยยิ้มของหวงโฮ่วที่มีต่อซ่งซีซีในวันนี้จึงยิมจริงใจ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Tiwapon Prasertsarn
เวลาพูดคุยกับนางไม่ต้องเสียแรง
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 351

    หวงโฮ่วก็หมดหนทางจริงๆ สนมฮุ่ยไทเฟยเห็นว่าฉินอ๋องได้แต่งงานกับลูกสาวของตระกูลฉี นางก็ต้องการให้องค์หญิงเซียนหนิงแต่งงานเข้าตระกูลฉีด้วยฮองไทเฮาก็ยอมรับ ฮ่องเต้เป็นลูกกตัญญู ย่อมต้องเชื่อฟังไทเฮาเช่นกันแต่ในบรรดาผู้ชายในตระกูลฉี นอกจากฉีหลิวที่ไม่ชอบเรียนหนังสือ เอาแต่เล่นกับแมวหมาไปวันๆ ใช้ชีวิตอย่างไม่เอาไหน คนอื่นๆ ก็เรียนหนังสือหนัก พยายามอยากตั้งหลักในราชสำนักให้ได้โดยเฉพาะน้องห้า น้องห้าเป็นเครือเดียวกันกับนาง เรียนหนักตั้งแต่เด็ก ก็เพื่อสอบเข้าจอหงวน หากแต่งงานกับองค์หญิง ก็เป็นได้แค่ฝู้หม่าที่ไร้อำนาจ งั้นความพยายามของเขาก็ไม่เท่ากับว่าไร้ประโยชน์หรือ?หวงโฮ่วรู้ว่านางไม่สามารถออกความเห็นใดๆ เกี่ยวกับการแต่งงานขององค์หญิงคนโต ดังนั้นจึงได้แต่มาขอความช่วยเหลือจากซ่งซีซีนางคิดว่าซ่งซีซีจะไม่ยอมช่วย แต่ประโยคสุดท้ายแสดงให้เห็นถึงความคิดของนางแน่นอนว่านางรู้สึกซาบซึ้งใจนางพูดว่า "ถ้าเซียนหนิงและน้องหกของข้าจะแต่งงานด้วยกัน ข้าจะมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้พระชายา ข้าก็ติดหนี้เจ้าด้วย"ซ่งซีซียิ้มและไม่พูดอะไรนางไม่เคยขาดแคลนของขวัญชิ้นใหญ่อะไร หนี้ของหวงโฮ่วนางก็ไม่ต้องการ แค่ยึดมั่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 352

    รถม้ามาจอดที่จวนองค์หญิงใหญ่ คนใช้ที่เฝ้าประตูเข้าไปรายงาน จากนั้นก็เดินออกมาด้วยสีหน้าขอโทษ "ไทเฟย ท่านพระชายาได้โปรดทรงยกโทษให้ข้าน้อยเถอะ เมื่อกี้ข้าน้อยลืมไปว่าวันนี้องค์หญิงใหญ่ออกไปข้างนอกแล้วขอรับ"เมื่อได้ยินดังนั้น สนมฮุ่ยไทเฟยก็พูดกับซ่งซีซีว่า "หากเป็นเช่นนี้ งั้นเรากลับไปก่อน ค่อยส่งคำเชิญมาใหม่พรุ่งนี้ก็ได้"ซ่งซีซีถามคนเฝ้าประตูนั้นว่า "มิทราบว่าองค์หญิงใหญ่ไปที่ไหน แล้วจะกลับมาเมื่อไหร่"คนเฝ้าประตูตอบว่า "งั้นก็ไม่ทราบแล้วขอรับ คงกลับมาดึกๆ ก็ได้ขอรับ"ซ่งซีซีกล่าวว่า "ไม่เป็นไร เรารอได้"หลังจากพูดอย่างนั้น นางก็จับมือสนมฮุ่ยไทเฟย แล้วเตรียมที่จะเดินเข้าไปคนใช้เฝ้าแระตูนั้นเห็นแล้วก็รีบวิ่งตามออกป "ไทเฟย ท่านพระชายา นี่คือจวนองค์หญิง อย่าบุกรุกเข้าไปนะ"ซ่งซีซียิ้มก่อนพูดว่า "จะว่าบุกรุกได้ยังไง เรามาที่นี่เพื่อเยี่ยมเยียน และนั่งรอองค์หญิงใหญ่กลับมาที่จวนองค์หญิง ทำไม ที่ห้องโถงใหญ่ของพวกเจ้าต้อนรับแขกไม่ได้หรือ"คนใช้เฝ้าแระตูเคยเห็นทีท่าบ้าอำนาจของซ่งซีซี ที่นางพูดด้วยรอยยิ้มเช่นนี้ มันไม่ได้หมายความว่านางเป็นคนพูดง่ายแม้แต่น้อยเลยในขณะที่เขาตกตะลึงนั้น ซ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 353

    ซ่งซีซีนั่งอยู่สักพัก และไม่ได้ดื่มชาหรือกินของว่าง จากนั้นก็ลุกขึ้นแล้วบอกว่านางอยากเดินเล่นสักหน่อยจวนองค์หญิงมักจะจัดงานเลี้ยงเชิญชวนแขกมาเที่ยวเสมอ และปล่อยให้แขกเดินเล่นทุกที่ได้ แน่นอนว่านี่เป็นกรณีที่ได้รับการจัดเตรียมล่วงหน้าของจวนองค์หญิงเท่านั้นจู่ๆ ก็บุกเข้ามา แล้วยังบอกว่าจะเดินเล่นสักหน่อย ย่อมไม่ได้รับอนุญาตแน่ๆ ที่จวนองค์หญิงมีสถานที่บางส่วนที่ไม่สามารถให้คนนอกเห็นเข้า ที่นั่นได้ซ่อนความลับอันร่มรื่นของจวนองค์หญิงนางเป็นพระชายาเป่ยหมิงอ๋อง ทหารประจำจวนไม่กล้าห้ามนาง หากโดนว่าไม่รู้ที่ต่ำที่สูง พวกเขางานเข้าแน่ๆส่วนคนใช้ทั่วไป ไม่สามารถต้านทานฝีเท้าที่นางที่ต้องเดินเข้าไปด้านในลานได้หลายคนขวางทางไว้ แต่นางสามารถหลบพวกเขาได้อย่างรวดเร็วและก้าวไปที่ลานด้านในหลังจากพยายามห้ามอยู่หลายครั้งแต่ก็ไร้ผล ในขณะที่ซ่งซีซีกำลังจะเข้าใกล้เรือนที่อยู่ลานด้านในหลังหนึ่งนั้น มีคนตะโกนเสียงดังว่า "องค์หญิงกลับจวน!"มุมปากของซ่งซีซีโค้งงอ ในที่สุดก็ยอมออกมาสักทีนางจัดเก็บทรงผม และมองดูเรือนนั้นแวบหนึ่ง ก่อนกล่าวว่า "ในเมื่อองค์หญิงกลับมาแล้ว งั้นข้าก็กลับไปรอที่ห้องโถงหลักแล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 354

    นางมองดูสนมฮุ่ยไทเฟยด้วยสีหน้าสับสน "เกิดอะไรขึ้น? ไข่มุกตงจู่อะไรกัน และเดิมพันเรื่องอะไร? เมื่อคืนไม่ใช่แค่งานเลี้ยงเหรอ? เจ้าเอาสินเดิมของนางไปเมื่อไหร่? มันไม่ได้การนะ สินเดิมของลูกสะใภ้มันเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของนางเอง เจ้าเอาไปไม่ได้ แม้ว่าจะเป็นแค่ล้อเล่นก็ไม่ได้นะ"สนมฮุ่ยไทเฟยตกตะลึงอันที่จีิงด้วยการไปมาหาสู่กันระหว่างนางกับองค์หญิงใหญ่ในหลายปีมานี้ นางเคยคิดว่าองค์หญิงใหญ่จะไม่ให้เงินสามพันตำลึง แต่นางก็แอบตั้งความหวังไว้ โดยคิดว่านางเป็นคนสำคัญกับหน้าตา ในเมื่อบอกแล้ว ก็มีความเป็นไปได้ครึ่งนึงที่จะให้แต่องค์หญิงใหญ่กลับไม่แม้แต่จะยอมรับเรื่องที่เอาไข่มุกตงจูกับการเดิมพันด้วยซ้ำ นี่คือสิ่งที่นางไม่เคยคาดคิดมาก่อนนางอึ้งไปชั่วขณะ และมองหาแม่นมเกาโดยไม่รู้ตัว เมื่อเห็นว่าใบหน้าของแม่นมเกาแดงมากเนื่องจากความหนาวเย็น นางกำลังใช้แขนเสื้อปิดหน้าและสูดน้ำมูกกลับเข้าไปสนมฮุ่ยไทเฟยมองไปยังซ่งซีซีอีกครั้ง และซ่งซีซีก็ดูไม่แยแสราวกับว่านางคาดคิดมาแล้วนางไม่ยอมโดนซ่งซีซีดูถูก แต่ยิ่งโกรธกับความไร้ยางอายขององค์หญิงใหญ่ และพูดอย่างใจร้อนว่า "เจ้าพูดแบบนี้ได้ยังไง? เมื่อคืนข้ามอบไ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 355

    หลังจากที่นางพูดจบ จากนั้นก็ไหว้ให้องค์หญิงใหญ่อีกครั้ง "ซีซีรู้สึกประทับใจมากที่ท่านป้าปฏิบัติต่อเสด็จแม่ของข้าอย่างด้วยความจริงใจ ก่อนหน้านี้ชื่อเสียงของซีซีไม่ค่อยดี ท่านป้ามีความกังวลเช่นนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ซีซีรับประกัน จากนี้ไปต้องดีกับเสด็จแม่ให้ดีที่สุด ทุกอย่างต้องให้เสด็จแม่มาก่อน ส่วนไข่มุกตงจูเหล่านั้น เดิมทีก็คิดว่าจะแบ่งสักหน่อยให้เสด็จแม่ รอข้ากลับบ้านค่อยจัดคนส่งกล่องหนึ่งให้นาง ถึงเวลานั้น นางต้องการแบ่งให้ผู้ใดก็เป็นเรื่องของนาง ข้าที่เป็นลูกสะใภ้ย่อมไม่กล้าเข้าไปยุ่ง"องค์หญิงใหญ่รู้ว่า ซ่งซีซีกำลังให้ทางออกนางทางออกนี้ นางต้องเล่นไปตามน้ำชื่อเสียงที่นางสร้างขึ้นตั้งครึ่งชีวิต จะให้ไข่มุกตงจูไม่กี่เม็ดนั้นทำเสียหายได้อย่างไร พวกนับสู้จากแวดวงการต่อสู้นั้นจะเอ็นดูรักใคร่ซ่งซีซีอย่างไร เมื่อวันนางก็เห็นกับตาแล้วอีกอย่างสนมฮุ่ยไทเฟยไม่ควรมีเรื่องกับนางมากเกินไป บัดนี้นางรู้ต่อต้านแล้ว หากไปขอเงินนางที่หลังคงไม่ง่าย สู้เล่นไปตามน้ำเอาไข่มุกตงจูคืนนางจะดีกว่า แล้วค่อยหาเวลาไปล้างสมองนาง ยังมีโอกาสขอเงินและสมบัติมากมายจากนางตั้งเยอะได้ในอนาคตในใจของนางโกรธเป็

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 356

    ซ่งซีซีกระพริบตา นางไม่ได้ได้ยินผิดใช่ไหม?เมื่อมองดูตัวเงินสองพันตำลึงที่ยัดให้นาง ซ่งซีซีก็รู้สึกปลื้มอกปลื้มใจจริงๆ ว้าว นางชอบมอบน้ำใจให้คนอื่นจริงๆ ชอบแบ่งเงอนให้ผู้อื่นได้อย่างง่ายดายนางมีศักยภาพที่จะถูกเอารัดเอาเปรียบจริงๆไม่สิ นางถูกเอาเปรียบแล้วนี่"เสด็จแม่มององค์หญิงใหญ่ชัดเจนหรือยัง" ซ่งซีซียิ้ม และน้ำเสียงของนางก็ดุอ่อนโยนขึ้นมากใบหน้าของสนมฮุ่ยไทเฟยมืดทะมึน "เจ้าคิดว่าข้าตาบอดหรือไง? จนถึงขั้นนี้แล้วข้ายังมองไม่ออก""เมื่อเห็นว่าท่านยังพูดดีๆ กับนาง เลยคิดว่าท่านยังถูกนางหลอกเอาไว้"สนมฮุ่ยไทเฟยพูดอย่างโกรธๆ "ไม่พูดดีๆ มันจะให้ทำยังไงได้อีก พวกเราสองคนต้องมีคนนึงทำหน้าดุอีกคนมาปลอบใจ เป็นไปไม่ได้ที่แตกคอกับนางกระมัง นางมีความสัมพันธ์กับที่ดีกับพวกฮูหยินเหล่านั้น หากนางใส่ร้ายข้าสักหน่อย ข้าก็ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงเอา เจ้าก็ไม่เป็น เพราะเจ้าหน้าหนาอยู่แล้ว"ซ่งซีซีไม่ได้พูดอะไร นางเริ่มนับตัวเงิน ล้วนเป็นตัวเงินหนึ่งร้อยตำลึง นางยื่นหนึ่งร้อยตำลึงให้แม่นมเกา แล้วพูดว่า "ชนะกลับมา ถือว่าเป็นเงินนำโชคนะ"แม่นมเกาตาค้างและรู้สึกหายใจลำบากเล็กน้อย "พระชายา นี่มันห

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 357

    นางแอบเหลือบมองซ่งซีซีแวบหนึ่ง และเห็นว่าท่าทางของนาง ดูสบายๆ และยังยิ้มสดใส ต้องยอมรับว่าใบหน้านี้สวยงามยิ่งกว่าดอกทอเสียอีก มีความฃสดชื่นยิ่งกว่าดอกบ๊วยทันใดนั้น สนมฮุ่ยไทเฟยก็เกิดความสงสัยขึ้นมาว่า "เจ้าไม่กลัวองค์หญิงใหญ่จริงๆ หรือ?"ซ่งซีซีถามกลับ "นางมีอะไรที่ทำให้คนเราต้องกลัวด้วยเหรอ""นางเป็นองค์หญิงใหญ่ เป็นเสด็จป้าของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน แม้แต่จักรพรรดิองค์ก่อนก็ยังยอมให้นาง อีกอย่างในแวดวงคนชั้นสูงของเมองหลวง นางได้ควบคุมคนอย่างน้อยครึ่งหนึ่งไป คำพูดของนางเพียงคำเดียวก็สามารถทำให้เจ้าเสื่อมเสียชื่อเสียงได้ในชั่วข้ามคืน"ซ่งซีซีไม่สนใจ "ก็ท่านบอกว่าข้าหน้าหนานี่ไม่ใช่เหรอ งั้นทำไมข้าต้องกลัวเสียชื่อ หากนางใส่ร้ายป้ายสีข้าอย่างมั่วๆ งั้นก็เท่ากับใส่ร้ายคนสำคัญที่ยึดเขตหนานเจียงกลับคืนมา แม้ว่านางจะเป็นองค์หญิงใหญ่ แต่ก็จะถูกนักวิชาการทุกคนในใต้เท้าวิพากษ์วิจารณ์อย่างแน่นอน"สนมฮุ่ยไทเฟยคิดว่าสิ่งเหล่านี้พูดง่าย แต่พอทำให้องค์หญิงใหญ่ไม่พอใจ หากนางต้องการแก้แค้น ก็คงจัดการได้ยากอย่างไรก็ตาม เมื่อนางคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ เรื่องที่จะเอาไข่มุกตงจูและเงินสามพันตำลึงนั

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 358

    แม่นมเกาพยายามหาช่องว่างเข้าไป กว่าจะถามผู้คนดูแลร้านได้ว่า "ไม่ทราบว่ามีสร้อยข้อมือทองคำพันเพชรพลอยหรือไม่"ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองนาง แล้วพูดเสียงดัง "มีขายที่ชั้นสองแต่สินค้าขายหมดแล้ว ปีนี้ได้สั่งทำแล้วทำอีก แต่ก็ขายหมดเกลี้ยง หากต้องการซื้อให้ไปที่ชั้นสองเพื่อทำการจอง น่าจะถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้ามีของ"ต้องการจองด้วยอย่างนั้นหรือ? จะรอของในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าด้วย?แม่นมเกาค่อยๆ ถอนตัวออกแล้วเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสอง นางเห็นว่าชั้นสองได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา และแบ่งออกเป็น แปดเก้าส่วน ตู้ต้อนรับลูกค้านั้นมีจัดวางเก้าอี้เอาไว้ ปูเบาะนุ่มนวลด้วย ตู้หนึ่งดูแลลูกค้าผู้มีเกียรติหนึ่งท่านอีกด้านหนึ่ง มีคนรออยู่มากกว่าสิบคน ทุกคนนั่งบนเก้าอี้กำลังกินของว่างและดื่มน้ำชาอยู่ ถ่านเงินกำลังลุกไหม้อย่างอบอุ่นในเตาถ่านแม้ว่าลูกค้าเหล่านี้จะร่ำรวย แตกลับไม่ได้สวมผ้ายก ดูท่าว่าล้วนเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวย ไม่ใช่คนจากตระกูลชั้นสูงแม่นมเกาเหลือบมองออกไป และเห็นว่าลูกค้าคนหนึ่งได้ใส่สร้อยข้อมือทองคำอยู่ในมือ มองดูว่าก็ดูสวยดีเลยให้ห่อมันทั้งหมด รูปแบบดูค่อนข้างทันสมัย แต่หากเทียบกับร้านจิ

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1614

    สนมฮุ่ยไทเฟยย่อมมีฐานะมั่นคงเช่นนี้ หลายปีมานี้ไม่ค่อยมีค่าใช้จ่าย รายรับกลับมากไม่น้อยเบี้ยหวัดจากในวัง ของกำนัลจากทุกบ้าน อีกทั้งบรรดาลูกหลานที่โตแล้วต่างก็สามารถตัดสินใจเองได้ บรรดาผู้ที่กตัญญูต่อท่านมีไม่น้อย โดยเฉพาะเสิ่นว่านจื่อ ยิ่งกตัญญูไม่ยั้งมือสำหรับหลานสาวคนเดียวนี้ ท่านไม่มีสิ่งใดที่เสียดายเลย คำพูดที่มักติดปากคือ เมื่อท่านสิ้นไป สมบัติทั้งปวงย่อมตกเป็นของหลานสาวบัดนี้เมื่อแม่ลูกสองคนไปถึงที่อยู่ของท่าน ท่านก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถึงเรื่องที่เซี่ยเจิงจะไปภูเขาเหม่ยชานฝึกวรยุทธ์อีกครา"ไม่ใช่ว่าข้าไม่เห็นดีเห็นงาม เพียงแต่การไปนานถึงเพียงนั้น ปีหนึ่งกลับมาได้ไม่กี่ครั้ง อนาคตยังบอกว่าจะออกไปผจญภัยอีก เด็กหญิงน้อยๆ เช่นนี้ จะไปฝ่าโลกภายนอกได้อย่างไร? ข้าขัดท่านพ่อของเจ้าไม่ไหว เขาเป็นคนไม่เข้าใจโลก พูดอะไรก็ไม่เคยพูดให้เข้าใจได้ ข้าก็ไม่มีทาง""ท่านยาย หลานไม่ใช่เด็กสาวบอบบางหรอกเจ้าค่ะ ท่านลองดูหมัดของหลานเถิด" เซี่ยเจิงชูหมัดขึ้น โบกไปมาอยู่ตรงหน้าสนมฮุ่ยไทเฟย กล่าวอย่างภาคภูมิว่า "หมัดนี้ของหลาน แม้แต่หมูป่ายังต้องสลบเหมือด"สนมฮุ่ยไทเฟยทอดถอนใจ "บุตรีบ้านอื่น มือเอา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1613

    สองสามีภรรยาเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีต ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกอบอุ่นในใจ โดยเฉพาะซ่งซีซี ที่แต่เดิมรู้สึกว่าการแต่งงานครั้งนั้นเป็นการถูกบังคับ แต่ใครจะคาดคิดว่าจะได้พบกับความสุขเช่นวันนี้ช่างเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดานักทันใดนั้นก็มีคนวิ่งพรวดพราดเข้ามาทางประตู ยังไม่ทันเห็นหน้าชัด ก็โผเข้ากอดเซี่ยหลูโม่แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นยินดี "ท่านพ่อ ของขวัญพิธีปักปิ่นที่ท่านมอบให้ข้านั้น ข้าชอบมากนัก ขอบคุณท่านพ่อ ข้ารักท่านพ่อที่สุดเลยเจ้าค่ะ"เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "ยังคงซุกซนเช่นเดิมหรือ? โตเป็นสาวแล้ว ต้องสุขุมให้มากหน่อย"แม้ว่าจะเอ่ยเช่นนั้น ทว่าดวงตากลับเปี่ยมด้วยความเอ็นดู มือช่วยจัดปิ่นที่นางสวมในพิธีปักปิ่นให้เรียบร้อย แล้วเอ่ยต่อว่า "เครื่องประดับหัวทับทิมแดงนั่นเจ้าไม่ชอบหรือ? ท่านแม่ของเจ้าตั้งใจเลือกให้นัก""ชอบเจ้าค่ะ ชอบทุกอย่างเลย" เซี่ยเจิงยิ้มจนตาหยี รักทุกสิ่งที่พ่อแม่มอบให้เซี่ยหลูโม่มองรอยยิ้มของบุตรสาวแล้วพลันรู้สึกเคลิ้มใจบุตรสาวยิ่งโต ยิ่งเหมือนซ่งซีซี ในวันแรกที่พบซ่งซีซีที่ภูเขาเหม่ยชาน นางก็ยิ้มเช่นนี้แต่หลังจากนั้น นางก็แทบไม่เคยยิ้มแบบนี้อีก ต่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1612

    สายหมอกเย็นยะเยือกปกคลุมยอด ดอกเหมยเบ่งบานหลายคราเซี่ยเจิงมีพรสวรรค์ทางวรยุทธ์สูงส่งนัก เรื่องนี้เรียกได้ว่าเก็บข้อดีของเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีมาไว้ทั้งหมดเหรินหยางอวิ๋นสามารถกล่าวได้อย่างภาคภูมิใจว่า เซี่ยเจิงคือลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงสุดในบรรดาศิษย์ทั้งหลายของภูเขาเหม่ยชานอูโซเว่ยเองก็ไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ได้ เมื่อนางถูกเซี่ยเจิงถามว่าใครเก่งกว่ากัน ระหว่างนางกับท่านพ่อ อูโซเว่ยได้แต่ตอบอย่างเลี่ยงๆ ว่า "พอๆ กัน ต่างก็มีข้อดี"วรยุทธ์ของเซี่ยเจิงที่ฝึกฝนมาจนถึงวันนี้ หาได้มาจากเพียงหมื่นสำนักเท่านั้นนางได้ร่ำเรียนจากทุกฝ่ายในภูเขาเหม่ยชานเมื่อนางมาถึงภูเขาเหม่ยชาน ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ผิวขาวเนียนราวหยก รอยยิ้มหวานละมุน ผู้ใดเห็นก็ต้องเอ็นดูนางช่างพูด ช่างคุ้นเคยเร็ว อีกทั้งปากหวานนัก หลอกล่อให้บรรดาหัวหน้าสำนักต่างถ่ายทอดวิชาให้หมดเปลือกเดิมทีนางมีนิสัยซุกซน แต่ด้วยการมุ่งมั่นฝึกวรยุทธ์ และฝึกฝนวิชาเนื้อใน จิตใจก็สงบนิ่งขึ้นมากครั้นถึงปีที่สิบห้า นางได้เข้าพิธีเก็บปิ่นพิธีเก็บปิ่นจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ของขวัญย่อมหลั่งไหลมาดังสายน้ำ ส่งเข้ามาไม่ขาดสายซ่งซีซีได้มอบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1611

    แสงแดดสาดลงบนกิ่งไม้ ใต้พุ่มใบหนาแน่น เผยให้เห็นขาเล็กๆ คู่หนึ่งแกว่งไปมา ดูแล้วชวนให้รู้สึกสบายใจนักนางมีนามเดิมว่าเซี่ยเจิง ชื่อนี้จารึกอยู่ในหยกพงศ์ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นชื่อเล่นว่าจิ้งเหยียนว่ากันว่าเพราะมารดาของนางรังเกียจที่นางพูดมาก จึงตั้งชื่อนี้เพื่อกดทับให้นางสงบลงเซี่ยเจิงเองเห็นว่าตั้งชื่อนี้ก็เปล่าประโยชน์ อีกทั้งฟังดูไม่น่าฟัง จิ้งเหยียนก็คือการเงียบงัน เช่นนั้นแล้วนางมีปากไว้ทำไม หากไม่ได้พูด เอาแต่กินหรือ?เช่นนั้นไม่ต้องกินจนอ้วนกลมไปหรอกหรือ?“ท่านหญิงของข้า ท่านอยู่ที่นี่เอง หาเสียจนข้าเหนื่อย” เป่าจูเงยหน้าขึ้นจากใต้ต้นไม้ ทั้งโกรธทั้งขบขัน “รีบลงมาเถิด ท่านอ๋องกับพระชายากำลังตามหาท่านอยู่”“ท่านอาเป่าจู พวกเขาเรียกหาข้าด้วยเรื่องอันใดกัน?” เสียงใสๆ ดังลงมาจากบนต้นไม้ แฝงด้วยความสบายใจและอิ่มหนำ“พระชายาจะไปภูเขาเหม่ยชาน บอกว่าจะพาท่านไปด้วย ท่านอยากไปหรือไม่?” เป่าจูเอ่ยเซี่ยเจิงได้ยินดังนั้น ก็รีบลื่นไถลลงจากลำต้นไม้ สองข้างไหล่มีเจ้าสุนัขจิ้งจอกสีขาวสองตัวเกาะอยู่ นางยิ้มดีใจกล่าวว่า “จริงหรือ? เช่นนั้นรีบไปเถิด”สองสุนัขจิ้งจอกนั้น ตัวหนึ่งชื่อเซวียนเช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1610

    เพียงแต่ ข้าก็รู้ดีว่าในใจของซ่งซีซีไม่ได้มีเสด็จน้อง นางเลือกแต่งกับเสด็จน้อง ก็เพียงเพราะไม่อยากเข้าวังถวายงานแม้นไม่ใช่สามีภรรยาที่จิตใจเป็นหนึ่งเดียว เช่นนั้นข้าจึงแต่งตั้งซ่งซีซีเป็นแม่ทัพใหญ่กองทัพซวนเจีย ให้รับผิดชอบดูแลกองทัพซวนเจียแทนในสายตาของผู้อื่น กองทัพซวนเจียยังคงอยู่ในมือของสามีภรรยาคู่นี้ ข้าไม่ได้ตัดอำนาจของเสด็จน้องเพิ่มเติมเมื่อมองในขณะนั้นแล้ว นับเป็นความคิดที่แยบยลอย่างยิ่งแต่ข้ากลับไม่คาดคิดว่าสามีภรรยาจะไม่ใช่คู่ที่ใจไม่ตรงกันเสมอไป เมื่อนานวันเข้าย่อมเกิดความรักใคร่ อีกทั้งผลประโยชน์ก็เป็นหนึ่งเดียวกันข้าไม่รู้เลย เพราะข้ากับฮองเฮาแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ได้ใจตรงกัน ข้าเองก็ไม่เคยไตร่ตรองเรื่องของสามีภรรยาแต่โชคดีที่ แม้ว่าพวกเขาสองสามีภรรยาจะรักใคร่กันภายหลัง แต่ก็ไม่เคยเกิดความทะเยอทะยานที่คิดจะชิงอำนาจเป็นข้าที่ระแวงเกินไปเดิมที ข้าเห็นว่าซ่งซีซีแม้จะมีวรยุทธ์สูงส่ง แต่การบัญชาการกองทัพซวนเจียย่อมลำบาก อีกทั้งมีผู้ไม่ยอมรับนางมากมาย ข้าคิดว่านางอาจถอดใจในสามหรือห้าเดือน เช่นนั้นข้าก็จะหาคนใหม่มาแทนที่แต่ไม่คาดเลยว่า เหล่าทหารหัวแข็งในกองทัพซวนเจี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1609

    แต่!แต่คนหนึ่งจะมีจิตใจที่มั่นคงและกล้าหาญได้อย่างไรเล่า?ใครจะคิดว่าในวันนั้นซ่งซีซีไม่ได้รับความไว้วางใจจากข้า แต่กลับขี่ม้าไปยังหนานเจียงเพื่อแจ้งข่าวให้เสด็จน้องทราบนี่เป็นเรื่องใหญ่ที่น่าตกใจและน่าทึ่งจริงๆ!หญิงที่หย่าร้างออกจากบ้าน ไม่มีผู้ติดตามหรือองครักษ์ กล้าบุกเข้าไปในค่ายทหารหนานเจียง ความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ในราชสำนักนี้ไม่มีใครทำได้หลายคนเสด็จน้องและข้าก็ต่างกัน เขาเชื่อในตัวซ่งซีซี และเตรียมทัพก่อนเวลา เพื่อรับมือกับกองทัพพันธมิตรแคว้นซาและซีจิงสนามรบจะอันตรายแค่ไหน ข้ารู้ดีไม่ต้องเล่ารายละเอียดเมื่อข่าวดีในการยึดหนานเจียงมาถึง น้ำตาไหลนองหน้าข้าหลังจากนั้นเสด็จน้องส่งคำกราบทูลเพื่อยกย่องทหารซ่งซีซีและพรรคพวกของนางแน่นอนว่าเป็นผู้มีคุณูปการใหญ่ ข้าจะให้รางวัลแก่พวกเขาแต่จ้านเป่ยว่างและยี่ฝางกลับทำให้ข้าผิดหวัง ข้าจึงต้องคิดอย่างลึกซึ้งถึงเหตุผลที่คนจากซีจิงทำลายข้อตกลงในสนามรบหนานเจียงข้าก็ไม่ใช่คนที่เริ่มคิดเรื่องนี้ในเวลานี้ แต่การแบ่งเขตแดนของเส้นแนวกั้นหลิ่งหลิงก็เป็นหนึ่งในผลงานการบริหารของข้า ข้าจึงพอใจในใจคนเรามักจะโลภ แต่ก็ต้องรู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1608

    เมื่อครั้งที่ข้าขึ้นครองราชย์ การศึกชิงคืนหนานเจียงก็ดำเนินมาแล้วหลายปี ชายแดนเฉิงหลิงก็ยังไม่สงบ ส่งผลให้ท้องพระคลังร่อยหรอ ราษฎรพลัดถิ่นไร้ที่อยู่อาศัยยามที่ข้าสวมอาภรณ์มังกร ประทับเหนือบัลลังก์มังกร ก็ลั่นวาจาในใจว่า ถึงจะไม่อาจเปรียบได้กับสมเด็จพระบรมราชบุพการีผู้ทรงพระปรีชาสามารถ แต่ข้าก็จะไม่เป็นจักรพรรดิที่โง่เขลาไร้ความสามารถ ข้าจะต้องชิงคืนหนานเจียง ทำให้แคว้นซางรุ่งเรือง ราษฎรมีความสุขต่อมาข้าจึงได้รู้ว่า มนุษย์นั้นมีเพียงในยามโง่เขลาหรือมีสติปัญญาเป็นเลิศเท่านั้น ถึงกล้าตั้งปณิธานยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้หนานเจียงพ่ายแพ้ ตระกูลซ่งทั้งเจ็ดพี่น้องล้วนพลีชีพในสนามรบแรกเริ่ม เสด็จพ่อและข้าก็ยังมีความหวังลมๆ แล้งๆ คิดว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งมีประสบการณ์ในสนามรบมาก อีกทั้งทหารที่เขานำก็กล้าหาญเชี่ยวชาญเสียดายที่เสบียงล่าช้า ทหารต้องสู้รบทั้งที่ท้องว่าง แม้จะทุ่มสุดกำลัง ก็ยังสู้ฝ่ายศัตรูไม่ได้ยิ่งเมื่อเคยยึดหนานเจียงกลับมาได้แล้ว แต่ต้องเสียคืนไป ผู้คนก็ยิ่งเชื่อว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งยังมีหวังจะตีคืนได้ด้วยเหตุผลหลายประการและความลังเลมากมาย ทำให้ข้าไม่อาจส่งกองทัพเป่ยหมิงของเสด็จน้องไปได

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1607

    ข้าเคยอ่านบันทึกการชันสูตรศพโดยมือชันสูตรแล้ว คำให้การของเขานั้นตรงกับบันทึกแทบทุกประการรายละเอียดอื่นๆ ของคดีก็เช่นกัน ข้าซักถามทีละข้อ เมื่อมั่นใจว่าตรงกันหมดแล้ว จึงส่งตัวเขาไปยังสำนักเขตจิงจ้าว และให้ท่านกงไต้เหรินส่งคนไปค้นหาอาวุธสังหารข้านึกว่าเมื่อจับคนร้ายได้ คดีนี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้น ไม่นับว่าสิ่งที่ข้าอดทนลอบเฝ้าอยู่หลายวันนั้นสูญเปล่าใครจะรู้ว่า พอไปถึงสำนักเขตจิงจ้าว หลิวเซิ่งกลับกลับคำให้การ บอกว่าถูกข้าบีบบังคับจนต้องรับสารภาพ คำสารภาพที่ข้าให้เขาเอ่ยออกมา ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าบังคับให้เขาพูดทีละคำเขาร้องขอความเป็นธรรม ยืนกรานว่าตนเองบริสุทธิ์กลับกัน เขายังกล่าวหาข้าว่าเป็นโจรหญิง ขอให้สำนักเขตจิงจ้าวจับข้าและข่าวร้ายก็มาอีก ระบุจุดที่เขาบอกว่าโยนอาวุธสังหารไป สำนักเขตจิงจ้าวส่งคนหลายสิบลงงมหา กลับไม่พบเสื้อผ้าหรือมีดเลยแม้แต่น้อยสำนักเขตจิงจ้าวสอบสวนอยู่หลายวัน เพราะเขามีบาดแผล จึงไม่ได้ใช้การทรมาน เขายังคงร้องขอความเป็นธรรม ตะโกนเสียงแหบพร่า ว่าตนบริสุทธิ์ไร้ซึ่งหลักฐาน อีกทั้งยังถูกข้อกล่าวหาว่าข้าบีบบังคับคำสารภาพ จึงจำต้องปล่อยตัวเขาไปก็ในตอนนั้นเอง ข้าจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status