Home / โรแมนติก / สยบเสือใหญ่ / บทที่2│เขาเล็งคุณไว้แล้ว (3)

Share

บทที่2│เขาเล็งคุณไว้แล้ว (3)

last update Last Updated: 2024-12-22 00:24:36

⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆

 สารินหลับจริงๆ หลับสนิทเลยด้วย แล้วมีหน้ามาว่าเธอเด็ก

 พิลลาหาใช่คนใจร้ายใจดำต่อเพื่อนมนุษย์ นอกจากจะเปิดแอร์ไว้ ยังเผื่อแผ่น้ำใจด้วยการหันพัดลมให้คนที่จมอยู่ในห้วงนิทรา ส่วนตัวเองก็นั่งไถหน้าจอไปเรื่อยเปื่อย มีลูกค้าเข้ามาประปราย

 ประมาณบ่ายสองห้าสิบ มีหญิงวัยกลางคนเข้ามาถ่ายเอกสาร เธอก็ลุกออกจากเก้าอี้เพื่อไปทำให้

 เจ้าหล่อนชวนคุย “อากาศร้อนมากเลยเนอะ หน้าฝนแล้วแท้ๆ”

 เสียงเครื่องถ่ายเอกสารดังเข้าโสตประสาท

 “อบอ้าวแบบนี้ เผลอๆ อีกเดี๋ยวฝนก็ตกค่ะ เมื่อวานซืนร้อนแบบนี้แหละ พอช่วงโรงเรียนเลิกก็เทมาอย่างกับฟ้ารั่ว”

 “น่าจะตกกลางคืน จะได้นอนสบาย ตกกลางวันไปไหนมาไหนลำบาก”

 บทสนทนานั้นลอยเข้าหูบุคคลที่สามอย่างช่วยไม่ได้

 เจ้าของร้านยิ้มพลางคว้ากระดาษมาถือ ก้าวเดินมาในส่วนที่ทำงานของตน เพื่อนำกระดาษที่ถ่ายเอกสารแล้วใส่ถุงให้ลูกค้า ปากก็ทำหน้าที่ขยับเพื่อตอบโต้บทสนทนากับอีกฝ่าย “จีบก็ชอบเวลาฝนตกตอนกลางคืนเหมือนกันค่ะ หลับไปกับเสียงฝน ฟินอย่าบอกใคร”

 “อากาศเย็นด้วยนะ น้าชอบมาก”

 สองมือขาวผ่องพนมเข้าหากัน “ถ้าจะตก เก็บไปตกคืนนี้ทีเถอะ เพี้ยง”

 คนอายุมากกว่าระบายยิ้มให้เด็กสาว

 ทันทีที่ลูกค้าออกไปจากร้าน เธอก็พลิกข้อมือมาดูนาฬิกา อีกประมาณห้านาทีก็จะถึงเวลาที่ควรปลุกเขาแล้ว เธอจึงร่นเวลาโดยการหันไปหาคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ที่พื้น เพราะการมาของเขา ทำให้วันนี้เธอต้องนั่งอยู่บนเก้าอี้ติดกันหลายชั่วโมง ไม่ได้อู้อย่างทุกวัน

 เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงพูดห้วนๆ ของหญิงสาว “ตื่น”

 สารินเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างเชื่องช้า ท่าทางสะลึมสะลือบอกกับเธอว่าเขารู้สึกตัวแล้วหลังจาก ‘โดนเตะ’ เข้าไปเสียเต็มแรง

 คนตัวใหญ่หรี่ตาแคบ หัวคิ้วย่นเข้าหากัน “เจ็บ”

 พิลลาไหวไหล่ “เรียกหลายรอบแล้วไม่ตื่นเอง” ก่อนเสริม “สามโมงแล้ว ไหนว่าไปรับเรไร”

 ชายหนุ่มยันตัวลุกขึ้นนั่ง และเลือกที่จะทดไว้ในใจว่าเต้าหู้ยี้ได้กระทำการประทุษร้ายและโกหกเขา ไม่มีสักประโยคที่เธอปลุกเขาให้ตื่น เขาตื่นด้วยตัวเอง และถูก ‘ปลุก’ ให้ตื่นจริงๆ อีกครั้งด้วยฝ่าเท้าของนางมาร

 เดี๋ยวเตะ เดี๋ยวต่อย ใจลึกๆ ก็อยากกระทืบ

 ทำได้ทำไป ถึงทีเขา ‘เอา’ คืนเมื่อไร จะเอาให้ขาสั่นจนเดินไม่ได้เลยนางหมวยผี

 พอดีกับที่สายเรียกเข้าดังขึ้น เขากดรับอย่างไม่อิดออดเมื่อเห็นว่าปลายสายคือ ภูริ เพื่อนสนิทที่ซื้อตัวเรไรไปในราคาสามหมื่นบาท

 (เด็กๆ บอกมึงไม่อยู่บ้าน)

 ตาคมเข้มไม่ละออกจากสาวงาม “ก็ไม่อยู่”

 (มุดหัวอยู่ไหนล่ะ กูพานกมาคืน)

 “บอกแล้วว่าจะไปเอง”

 (เอาเป็นว่ากูมาถึงบ้านมึงแล้วอะครับ จะโผล่หัวมาได้ยังคุณเสือใหญ่)

  “รอสักครู่นะครับคุณพัล พอดีผมก็ไม่ได้ว่างด้วยสิ”

 (ทำหัว) ภูริเว้นช่วง ละไว้ในฐานที่เข้าใจ (อะไรอยู่ล่ะครับ)

 สารินก็เข้าใจ “คุณก็ ผมไม่ได้ทำอะไรพรรค์นั้นหรอก” ระหว่างการพูดคุยกับเพื่อนสนิท เขายังคงไม่ได้ละสายตาไปจากพิลลาเลยสักวินาที แม้ว่ายายหมวยขมูขีจะยืนเท้าเอวมองอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นักก็ตาม “แค่กกสาวเอง”

 สิ้นประโยค ฝ่าเท้าเล็กๆ ก็เตะไปที่ท่อนขาแข็งแรง ถลึงตาใส่ ขยับปากสื่อสารโดยไร้เสียง ‘อย่า-ปาก-มาก’

 (กกใคร)

 หากพิลลาคิดว่าเขาจะสำนึก มันไวไปสิบปี “ผู้หญิงเขายังไม่อยากเปิดตัว” มิหนำซ้ำยังยักคิ้วท้าทายเธออีกด้วย “วางก่อน เดี๋ยวกูไป”

 สายถูกวางทันทีที่สารินพูดจบ กายสูงลุกขึ้นยืนก่อนถือวิสาสะเดินเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ ที่เธอก็ไม่ได้เอ่ยปากห้าม แต่ก็ไม่ได้ยินดีให้ใช้

 ร่างกำยำเดินออกมาทั้งหน้ามีหยดน้ำเกาะพราว “ขอบคุณสำหรับที่นอนครับ หลับสบายมาก”

 “อือ แต่วันหลังไม่ต้องเสนอหน้ามาแล้วนะคะ ไม่ต้อนรับ”

 เขาไม่ยี่หระกับท่าทีที่ไม่เป็นมิตรของสาวเจ้า กล่าวอีกประเด็น “เสร็จธุระกับเพื่อนแล้วค่อยไปหาพี่นะคะตัวเล็ก”

 ‘ตัวเล็ก’ รับคำส่งๆ มองสารินเดินออกจากร้านจนเขาหายไปจากครรลองสายตาพร้อมรถมอเตอร์ไซค์ ถึงได้พรูลมหายใจออกอย่างเหนื่อยอ่อน

 ไม่ใช่เพียงกับผู้ชายคนนี้ แต่มัทรีและลัลนาคงกัดไม่ปล่อย

 วันนี้อากาศร้อนอบอ้าวคล้ายฝนจะตก ช่วงสี่โมงกว่าฟ้าก็ครึ้ม ทว่าในท้ายที่สุดก็ไม่มีเม็ดฝนหล่นจากฟากฟ้า พอห้าโมงพิลลาก็ปิดร้านและตรงกลับบ้าน ทันทีที่ไปถึงก็เห็นสมาชิกครอบครัวจับกลุ่มกันครบทุกคน และมีสมาชิกตัวน้อยๆ อยู่ด้วย

 เธอทัก “ไปพาเรไรมาแล้วเหรอ”

 “ครับ ไปตั้งแต่สี่โมงนิดๆ แต่เพิ่งกลับมาได้แป๊บเดียวเอง” ผู้เป็นพี่ขมวดคิ้วเป็นเชิงถาม “โดนพี่เสือเทศน์อยู่น่ะครับ เรื่องที่ทำอะไรลับหลังผู้ใหญ่จนเดือดร้อนไปทั่ว”

 คงเป็นเรื่องเดียวที่เธอเห็นด้วยกับเขาคนนั้น

 “ขอโทษนะครับพี่จีบ ที่ผมสร้างปัญหาให้”

 “อย่าทำอีกก็พอ” พิรภพรับคำหนักแน่น พร้อมกับขาเรียวที่เดินผ่านหน้าคนทั้งสามไป แต่แล้วก็จำต้องหยุด “แม่ เย็นนี้จีบไม่กินข้าวที่บ้านนะ จะไปกินสเต๊กที่ร้านเมลฟี่”

 กัลยารับคำลูกสาว แต่มิวาย “วันนี้แม่ทำเล้งแซ่บไว้ ถ้าไม่อิ่มจะกลับมากินก็ได้ เดี๋ยวแบ่งไว้ให้”

 ลูกคนโตเบะปากเหมือนเด็กๆ “อยากกินอ่า”

 “ก็นั่นแหละ ถ้ากินไหวก็กลับมาอุ่น ถ้าไม่ไหวพรุ่งนี้เช้าค่อยกิน”

 พิลลาเดินกลับขึ้นห้อง พร้อมกับก่นด่ามัทรีไปในใจ หากวันนี้อีกฝ่ายไม่คิดจะนัดกะทันหัน เธอคงได้อยู่ที่บ้านเพื่อทานของโปรด แต่จะไม่ไปก็พิรุธเยอะเกิน

 หญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวเสร็จสรรพในช่วงหกโมงกว่า โดยเลือกใส่เสื้อผ้าสบายๆ อย่างเสื้อยืดเข้าคู่กับกางเกงช้าง หน้าขาวๆ ไร้การแต่งแต้มจากเครื่องสำอาง จะมีเพียงลิปบาล์มเท่านั้น แม้แต่คิ้ว เธอยังไม่เขียน และใช่ว่าเธอไม่รู้ที่ใครต่อใครชอบแอบเรียกเธอว่า ‘เต้าหู้ยี้’ เพราะแม้แต่น้องชายแท้ๆ ยังเคยหลุดปากพูดเลย

 โดนพิพากษาไปหลายป้าบ

 หน้าโล้นแล้วหนักหัวใครหรือยังไง

 เรียวขาสวยก้าวลงไปยังชั้นล่างของบ้าน เปิดปากตะโกนบอกญาติผู้น้อง “ใจ พี่เอามอ’ไซค์ไปนะ แกจะไปไหนหรือเปล่า”

 เด็กหนุ่มที่อยู่หลังบ้านก็ตะโกนกลับมา “เอาไปเลยครับ ผมไม่ได้จะไปไหน”

 เธอคร้านจะใช้งานพิลลี่ เพราะตั้งใจว่าจะรีบไปรีบกลับ ระยะทางจากบ้านไปร้านสเต๊กของมัทรีนั้นไม่ไกลกันมาก ตอนที่มาถึง ยังไม่หนึ่งทุ่มเลยด้วยซ้ำ แต่กลับเห็นยายหน้าคมวางก้นแน่นๆ ลงบนเก้าอี้อยู่ก่อนแล้ว ปกติมันเป็นคุณนายสายเสมอ เพราะบ้านอยู่อำเภอเมือง ไม่ใช่กำแพงแสน ต้องใช้เวลาราวๆ สี่สิบนาทีเห็นจะได้กว่าจะมาถึงที่นี่ แล้ววันนี้ผีตัวไหนสิงให้มาก่อนเธอกัน

 “อีนม!” เสียงแปดหลอดของเจ้าของร้านดังขึ้นทันทีที่เธอเดินเข้าไปด้านใน “หล่อนมาให้ฉันง้างปากซะดีๆ”

 “ก็มาแล้วนี่ไง”

 พิลลาเลือกที่จะนั่งฝั่งตรงข้ามลัลนา ฝ่ายนั้นมองเธอแล้วบิดยิ้มมุมปาก เอ่ยด้วยเสียงเอื่อยๆ ว่า “ร่าน”

 ปกติแล้วแม่นี่เป็นพวกนุ่มนิ่มพอสมควร เห็นจะมีแต่กับกลุ่มเพื่อนนี่แลที่ลัลนางัดความปากจัดมาใช้ได้

 “ขอร้องเถอะอีเนื้อ อย่าทำเหมือนนี่ผิดบาปขนาดนั้น กะอีแค่ซ้อนท้ายผู้ชาย”

 มัทรีละจากงานแล้วส่งต่อให้เหล่าลูกน้องเป็นฝ่ายจัดการ เพราะวันนี้เจ้าหล่อนไม่ว่างเสียแล้ว ก่อนจะพาตัวเองไปนั่งข้างๆ ลัลนา โดยที่ตาก็จ้อง ‘ผู้ต้องสงสัย’ ไม่กะพริบ

 “เล่ามาให้หมดว่าทำไมถึงไปซ้อนท้ายผู้ชายของฉัน แล้วอย่าคิดโกหกเชียว”

 “ผู้ชายของหล่อนใช่ไหม”

 “ใช่ เขาหล่อ” มัทรีตอบอย่างไม่ลังเล “คนหล่อเป็นของฉันหมด ห้ามแย่ง”

 ลัลนาผงกศีรษะให้ผู้พูด “ถูก ถูกต้อง เนื้อนมไข่เรามีกฎเหล็กนี่น่า”

 เจ้าของร้านเสริม “เราจะไม่หม่ำๆ ผู้ชายคนเดียวกัน ถ้าเพื่อนชอบ ต้องถอย ถ้าเพื่อนกินแล้ว ห้ามกินต่อ ของแสลง”

 “ช่าย กินแล้วตาย” ก่อนคนหน้าคมจะถามต่อ “แล้วพี่จะเทยกินพี่เสือใหญ่ไปยัง”

 “ยัง”

 “อีนมล่ะ”

 พิลลากลอกตาให้กับคำถามนั้น “ไม่กิน ไม่ได้อยากกินด้วย” นัยน์ตาเรียวฉบับสาวหมวยเบนไปทางเพื่อนอีกคน “แล้วถ้ามันเป็นของหล่อนนะ ก็รีบๆ ตีตราเขาสักทีสิ จะได้ไม่ต้องมาพะวงอะไรฉัน ฉันไม่ได้ชอบเขาสักหน่อย”

 มัทรีหรี่ตาแคบ “ไม่หวานนะ”

 “ไม่หวาน เพราะฉันเกลียดพี่เสือใหญ่ของหล่อนสุดๆ เลยนางเมลฟี่”

⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สยบเสือใหญ่   บทที่4│ใครจะใหญ่กว่าเสือ (5)

    ⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “อีนม” มือที่ตั้งท่าจะคว้าผ้าขนหนูเป็นอันชะงัก ก่อนหันกลับมาเลิกคิ้วใส่มัทรี “หล่อนได้กับพี่เสือใหญ่ยัง” ลมหายใจของพิลลาสะดุดกึก นัยน์ตาเบิกโต ภาพความทรงจำที่เพิ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ผุดมาอย่างกับมีใครไปตั้งโปรแกรมไว้ สัมผัสนั้นคล้ายว่ายังติดอยู่ที่มือ ทำให้พิลลาแข็งทื่อไปทั้งตัว กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอก็เป็นนาที “ยัง ไม่ใช่ ใช่นั่นแหละ แต่หมายถึงว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน จะได้กับเขาได้ไง” สองเสียงประสานกัน “เหรอ / เหรอ” “ใช่ ฉันเคยโกหกอะไรพวกหล่อนหรือ-” “เยอะแยะ” “แต่เรื่องนี้พูดจริง” พิลลายืนยันหนักแน่น หลังได้ผ้าขนหนูมาไว้ในมือ เธอก็โพล่งขึ้นเพื่อตัดบท “ไปอาบน้ำละ” บรรยากาศในร้าน PEEK A BEER เป็นอย่างที่เคยเป็น มีเสียงเพลงจากนักร้องที่เคล้าไปกับเบียร์เย็นๆ เหล้าที่แสนบาดคอ และกับแกล้มที่ขาดไม่ได้ ช่วงหัวค่ำมักเป็นเช่นนี้ แต่พอดึกเข้าหน่อย ผีเสื้อราตรีก็ออกโรง และพวกเธอสามคนไม่เคยแผ่ว “ใครพอจะทราบข่าวบ้างว่าช่วงนี้ยายฟายมันตีกับใคร” ประโยคนั้นเรียกสายตาของสองสาวต่างขั้วได้เป็นอย่างดี ‘ยายฟาย’ ของมัทรีคืออรอนงค์ เพราะเป็นคู่ปรับกันมานาน เห็นว่าชื่อฝ้าย เลยเปล

  • สยบเสือใหญ่   บทที่4│ใครจะใหญ่กว่าเสือ (4)

    ⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ “ช่วยไอ้เสือกำพร้าแม่ตัวนี้หน่อยได้ไหมครับ” ร่างระหงบนตักแกร่งอาศัยจังหวะนี้ในการพุ่งตัวไปหาชายหนุ่ม แตะริมฝีปากไปที่ปากหยักติดคล้ำ แล้วจึงผละออกมาก่อนที่สารินจะทันตั้งตัว นอกจากริมฝีปาก ร่างแน่งน้อยก็ผละออกจากตักแกร่งในเวลาถัดมา “สอง” เธอหอบหายใจราวกับเพิ่งวิ่งมาราธอนมาก็ไม่ปาน “สองครั้งแล้ว เหลืออีกแค่แปดครั้ง” นัยน์ตาคมจ้องมองไปยังผู้พูด ยกมุมปากขึ้นจนกลายเป็นรอยยิ้ม เสียงแค่นหัวเราะดังขึ้น “อ้อ เมื่อกี้เรียกจูบ?” “ก็ใช่ ของวันนี้ถือว่าเรียบร้อยแล้ว” “ไม่เอาน่า ใครมันจูบกันแบบนี้ เด็กน้อยมาก โคตรรับไม่ได้” “รับไม่ได้ก็เรื่องของพี่ จีบจะกลับบ้านแล้ว” “พุดจีบ” เสียงเข้มๆ เอ่ยเรียกชื่อของเธอ สีหน้าและแววตาไร้แววล้อเล่น ทำให้เธอคาดเดาอารมณ์ของอีกฝ่ายไม่ได้ พิลลาจึงค่อยๆ ก้าวเท้าถอยหลังเพื่อเว้นระยะห่าง “มานี่” “ไม่ จะกลับบ้าน” “มา” สารินยันกายลุกขึ้นยืน พร้อมกับที่ก้าวเท้ามาทางนี้ “แบบนี้มันไม่เรียกว่าจูบ อย่ามาโกง” พิลลาไม่อยู่ฟัง รีบสับเท้าวิ่งออกจากบ้าน ก่อนตรงไปยังรถมอเตอร์ไซค์แล้วบิดสุดแรงเกิด เธอไม่เคยหมดท่าขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยรู้สึกแพ้ย่อยยับจนม

  • สยบเสือใหญ่   บทที่4│ใครจะใหญ่กว่าเสือ (3)

    ⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ บ้านทั้งหลังมืดสนิท พิลลาจึงเปิดไฟจนพอมีแสงสว่าง คงจะเป็นอย่างที่เด็กวัยรุ่นหน้าบ้านบอก สารินอยู่หลังบ้าน และเธอก็ไม่ได้พกมือถือติดตัวมาด้วย หากต้องเดินออกไปเรียกอย่างไรก็คงต้องเจอกับคนที่อยู่ด้านหลัง จึงหวังว่าความเปลี่ยนไปในบ้านจะเรียกสายตาของเขาได้ ไฟในบ้านเปิดเอง เจ้าของบ้านจะไม่สงสัยแล้วเข้ามาดูหน่อยหรือ แต่ผ่านมาห้านาทีเห็นจะได้ ก็ไม่มีใครเดินเข้ามาด้านใน และวันนี้เธอก็ไม่ได้ว่างมารอเขานานๆ ด้วย เพราะอยากกลับให้ถึงบ้านก่อนที่สองสาวจะมาถึง ไม่อย่างนั้นต้องปั้นน้ำเป็นตัวอีกเช่นเคย พิลลาเดินไปที่ประตู แนบหูไปกับบานไม้เพื่อฟังความเคลื่อนไหวรอบนอก ที่ก็ได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวของพวกวัยรุ่นที่มารวมตัวกัน บางครั้งก็มีเสียงทุ้มต่ำที่คุ้นหูดังเข้าโสตประสาท ร่างระหงสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ยื่นมือไปแตะที่ลูกบิดแล้วออกแรงหมุนช้าๆ จนมันถูกเปิดในที่สุด ไม่รู้ว่ากี่สายตากันแน่ที่มองมา แต่เธอตวัดตาไปมองเพียงสารินคนเดียว อย่างน้อยการมองแค่เขาก็ลดความอายลงไปได้มากโข “มีธุระจะคุยด้วยค่ะ” ว่าจบก็ปิดประตูลงทันที ก่อนสับเท้าเดินไปนั่งที่โซฟาทั้งใบหน้าบึ้งตึง เธอโกรธตัวเองที่เลือก

  • สยบเสือใหญ่   บทที่4│ใครจะใหญ่กว่าเสือ (2)

    ⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ Pudjeeb Philla: พี่ลืมของไว้ที่ร้าน เธอกำลังจะถ่ายรูปกระเป๋าสตางค์ส่งไปให้ หลังเปิดดูแล้วพบสารพัดบัตร รวมถึงบัตรประชาชนที่มีหน้าเขาแปะหราไว้ พร้อมกับชื่อ ‘สาริน อัศวกมล’ ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ลัลนารีบต่อสายหามัทรีอย่างเร่งด่วน ทว่าข้อความของเขาก็ถูกส่งเข้ามาเสียก่อน Sarin Asawakamol: หัวใจ?? จากตั้งใจจะถ่ายรูป เธอก็เปลี่ยนมาโต้ตอบกับเขาแทน เห็นแล้วคันไม้คันมืออยากหยุมหัวคน Pudjeeb Philla: ใช่จ้า กำลังจะเอาไปต้มให้หมากิน Sarin Asawakamol: หมาในปากหรือเปล่าครับ Sarin Asawakamol: เลี้ยงดีจังเลยนะ ถึงว่า ขยันทำงานเหลือเกิน Pudjeeb Philla: อ๋อค่ะ คนที่จีบเพิ่งยกพวกไปรุมกระทืบก็พูดแบบนี้แหละ Sarin Asawakamol: อยากโดนจังSarin Asawakamol: โคตรอยาก เธอด่าเขาในใจ แต่ไม่พิมพ์ด่าให้เรื่องยืดยาว เลือกที่จะตัดบทด้วยการส่งรูปกระเป๋าสตางค์ไปให้ Pudjeeb Philla: จะให้เอาไปให้หรือจะมาเอาเอง Pudjeeb Philla: ร้านปิดห้าโมง ถ้ามาก็อย่าเกินนี้ แต่ถ้ารอจีบเอาไปให้ก็ค่ำๆ Pudjeeb Philla: แต่ของพี่นั่นแหละ มีบัตรประชาชน ส่วนเงินไม่ได้นับ แต่ไม่ได้ยุ่งอะไร ถ้าหายก็ไม่เกี่ยวกับจีบ

  • สยบเสือใหญ่   บทที่4│ใครจะใหญ่กว่าเสือ (1)

    ⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ สารินกลับไปแล้ว หลังจากนั่งๆ นอนๆ อยู่หลังโต๊ะทำงานของเธออยู่หลายชั่วโมง ที่จริงเขายังไม่คิดจะกลับ ถ้าไม่ติดที่เธอไล่ตะเพิดเพราะลัลนากำลังจะมาที่ร้าน เพื่อนสนิทเดินมาทิ้งตัวนั่งที่เก้าอี้ “คืนนี้ออกไหม” “ถ้าหล่อนกับเมลฟี่ไป ฉันก็ไป” “เป็นไร” พิลลาหันไปมุ่นคิ้วใส่เพื่อน “เห็นทำหน้าเซ็งๆ” เป็นอย่างที่ลัลนาว่า เธอเซ็งมากๆ ที่คนอย่างสารินเข้ามาข้องเกี่ยวกับชีวิต ยิ่งเขาพยายามล้ำเส้นที่ตกลงกันไว้ ไม่ยอมให้มันหยุดที่การจูบ แต่คิดจะจีบ เธอก็เกิดอาการอึดอัดคับแน่นในใจ ครั้นจะให้จ่ายเงินก็มีไม่พอ กว่าจะได้แต่ละบาทนั้นไม่ใช่ง่ายๆ ยิ่งต้องจำนำข้าวของสำคัญหรือเลือกหยิบยืมเพื่อนสนิท เธอทำไม่ได้ เนื้อนมไข่คบกันได้นานเพราะไม่มีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง ไม่มีใครเคยยืมเงินกันให้ต้องผิดใจ ไม่ร่วมธุรกิจกันในหมู่เพื่อน ทานข้าวก็หารเท่า ดื่มเหล้าไม่เคยเอาเปรียบ มาครั้งนี้เธอก็ไม่มีความกล้ามากพอจะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากเพื่อน แม้จะรู้ว่าเพื่อนต้องช่วย แต่มันจะเป็นปมในใจว่าครั้งหนึ่งเธอเคยหยิบยืมเงินคนสนิท แค่ยอมให้ไอ้หน้าวัวจูบไม่กี่ครั้ง เปลืองตัวแค่นี้ สบาย ก็ถ้ามันทำแค่นั้น เธอค

  • สยบเสือใหญ่   บทที่3│คืนฝนพรำที่กำแพงแสน (5)

    ⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆ ‘ป๋า’ เดินออกไปจากร้าน ควบมอเตอร์ไซค์ไปทางร้านน้ำ พิลลามองจนลับสายตาก่อนส่ายหัวน้อยๆ ป๋าอะไรกัน คนที่ขายนกทอดตลาดทั้งๆ ที่เพิ่งเลยกำหนดมาวันเดียวน่ะ หรือจะขอผ่อนก็แสนจะเรื่องมาก สารินมันเค็มยิ่งกว่าน้ำทะเลเสียอีก ช่วงเที่ยงๆ แบบนี้ ร้านน้ำของปาริฉัตรมีลูกค้าหนาตาทีเดียว หนึ่งในนั้นคืออรอนงค์ บ้านของอรอนงค์ประกอบกิจการซัก อบ รีด ตั้งแต่เขาย้ายมาดูแลตาที่นี่ ก็ได้บ้านนี้ในการจัดการส่วนของเสื้อผ้าอาภรณ์ ไม่ต้องลำบากซักตากเองให้เหนื่อย หลังจากตาถึงแก่กรรม เขาก็ไม่คิดจะย้ายกลับไปอยู่กับครอบครัวที่กรุงเทพฯ เพราะหลงรักกำแพงแสนเสียแล้ว นอกจากส่งเสื้อผ้าซักกับบ้านของอรอนงค์ สาวเจ้ายังอาสาเข้ามาดูแลความสะอาดของบ้านทุกสัปดาห์อีกด้วย เขามีหน้าที่จ่าย และก็ยินดีจ่าย เพราะเธอทำมันได้ดีไร้ที่ติ “ไปไงมาไงเนี่ยพี่เสือใหญ่” สารินระบายยิ้มให้แม่ค้าร้านน้ำ “มาซื้อน้ำน่ะ” “แหม อยากลัดคิวให้สุดหล่อจริงๆ แต่เดี๋ยวโดนคนอื่นเขม่นเอา เพราะงั้นนั่งรอก่อนนะ” เขาเลือกที่จะนั่งโต๊ะเดียวกับอรอนงค์และกีรติ ซึ่งเป็นสองสาวที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี “มาซื้อน้ำเหรอพี่” ชายหนุ่มพยักหน้าเป็

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status