LOGIN"ฉันคงเรียนต่อไม่ได้แล้วค่ะ" "ถ้าติดขัดเรื่องเงิน ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น" "คุณหมอจะจ่ายค่าเรียนให้ฉันด้วยเหรอคะ" เขาพยักหน้าตอบ ยังไงก็มาถึงขั้นนี้แล้วนี่ คงต้องเป็นแบบนั้น "แต่ว่า.." "แต่ว่าอะไร" "เรื่องที่ขอร้องให้ช่วยก่อนหน้าฉันยังไม่ได้ตอบแทนคุณหมอเลย" เขาทำแค่มองหน้าเธอ ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นบ้าอะไร ทุกอย่างมันเข้ามาแบบไม่ได้ตั้งตัวเลย เธอเป็นใครมาจากไหนก็ยังไม่รู้ แถมเป็นลูกสาวของคนที่คิดจะฆ่าพี่ชายเพื่อน "คุณหมอพอมีเวลา อยู่กับฉันสักหน่อยไหมคะ" "ทำไม" "ฉันขอไปอาบน้ำก่อน" เธอพร้อมมากที่จะยกร่างกายให้เขาเชยชม แต่เขานี่สิไม่มีเวลาว่างให้เลย "หือ?" "ให้เวลาฉันสักหน่อยนะคะคุณหมอ" ___________________ "ดะ เดี๋ยวก่อน" ชายหนุ่มรีบหยุดไว้เมื่อเธอขยับต่ำลงไปอีก "คุณหมอกลัวเหรอคะ" แทนที่จะเป็นผู้ชายพูดคำนี้ "วันนี้ไม่ต้องใช้ปากหรอก" เพราะตรงที่ถูกฟันของเธอวันนั้นเพิ่งจะหายดี "ถ้างั้นเริ่มเลยไหมคะ" "มีถุงยางเหรอ"
View Moreแกร็ก~
ทีแรกก็ลืมไปแล้วล่ะว่ามีคนแอบอยู่ในนี้ แต่พอเปิดประตูเข้ามาก็นึกได้ "ออกมา" หญิงสาวที่ซ่อนกายอยู่มุมหนึ่งในห้องนั้นก็ค่อยๆ ขยับออกมาจากซอก ที่เธอยังรออยู่เพราะอยากรู้ว่าตำรวจมาพบคุณหมอทำไม "คุณตำรวจมาทำไมคะ" "แล้วคิดว่ามาทำไมล่ะ" "มาเรื่องของคุณพ่อใช่ไหมคะ" "เธอกลับไปก่อนไป" "ฉันรู้ว่าพ่อทำเกินกว่าเหตุ แต่ครอบครัวของฉันก็ถูกพวกมันทำร้ายเหมือนกัน" "ผมก็บอกแล้วไงว่าให้ไปคุยกับคู่กรณีของคุณเอง" เขาไม่รู้จักเธอ ไม่รู้จักครอบครัวของเธอก็เลยไม่อยากรับรู้เรื่องนี้ด้วย "คุณหมอยังคิดว่าฉันกับพวกเขาจะคุยกันได้อีกเหรอคะ" "ก็เป็นซะแบบนี้ พ่อของคุณไปยิงลูกชายพ่อเลี้ยงก่อน" "แต่พ่อก็ถูกทำร้ายร่างกาย จนตอนนี้ยังไม่ฟื้นตัวเลย" "คุณต้องเข้าใจคนระดับนั้น ท่านจะปล่อยให้ใครมาทำร้ายลูกชายได้ฟรีๆ เหรอ แล้วพ่อคุณมีแรงจูงใจอะไรถึงคิดจะฆ่าเขา" "ถ้าไม่เพราะไอ้พ่อเลี้ยงนั่นครอบครัวฉันก็คงไม่ตกอยู่ในสภาพนี้" "ทำไม" ทีแรกก็ว่าจะไม่เข้าไปยุ่งแล้วแหละ แต่เอาวะยังไงก็สลัดไม่ออกแล้วนี่ "แม่ฉัน.." ก๊อก ก๊อก "คุณหมอคะมีเคสผ่าตัดด่วนค่ะ" พยาบาลที่เข้ามามองไปทางด้านผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างโต๊ะทำงานของคุณหมอเล็กน้อย ที่มองเพราะแปลกใจว่าผู้หญิงคนนี้เข้ามาตั้งแต่เมื่อไร ทำไมพยาบาลที่นั่งอยู่ด้านหน้าถึงไม่เห็น ที่จริงเธอจะหลบแล้วล่ะ แต่พยาบาลเล่นเคาะประตูแล้วก็เปิดเข้ามาเลยใครจะหลบทันล่ะ "อุบัติเหตุเหรอ" หมอคีตะรีบลุกขึ้นคว้าของที่จำเป็นของตัวเองแล้วเดินตามพยาบาลออกไป โดยไม่สนใจสิ่งที่เธอกำลังจะพูดเมื่อสักครู่อีก หญิงสาวคนนั้นเดินคอตกกลับมาที่ห้องเล็กๆ ข้างบันไดหนีไฟ ห้องนี้ที่จริงเป็นห้องเก็บของ เครื่องปรับอากาศก็ไม่มี แต่ก็ยังดีที่มีพัดลมให้ เพราะพ่อของเธอถูกนำมาซ่อนเพื่อรักษาตัวไว้ห้องนี้ "ไปไหนมา" ชายวัยกลางคนที่นอนร่างกายฟกช้ำอยู่บนเตียงถามบุตรสาว เธอบอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำแต่ก็ไปนานมาก "พ่อไม่น่าจะวู่วามเลย ถ้าพ่อถูกจับไปพวกมันต้องยัดข้อหาให้พ่อหนักแน่" "ฉันไม่กลัวหรอก ถ้าฉันไม่ตายคนที่ตายก็ต้องเป็นพวกมัน" "ถ้าพ่อไม่ตายคนที่ตายก็คือพวกมัน" "พ่อคะ" วาดฝันไม่คิดว่าพ่อจะกล้าทำอะไรแบบนี้ ท่านไม่เคยปริปากพูดออกมาสักคำว่ากำลังคิดจะทำอะไร แต่พอมารู้อีกทีทางโรงพยาบาลก็โทรมาบอกว่าตอนนี้พ่อเธออยู่ในห้อง ICU "มาพยุงพ่อลุกหน่อย" "พ่อจะเอาอะไรคะ" "ก็จะเดินไง นอนอยู่แบบนี้เมื่อไรจะเดินได้" "ขนาดจะลุกยังต้องได้พยุงเลย" วันชัยกัดฟันดันตัวลุกขึ้นจากที่นอน ตอนที่ถูกพวกมันจับมัดไว้ที่บ้านร้าง เจอทั้งเท้าและก็หมัดเข้าไปหลายต่อหลายครั้ง จนกระดูกซี่โครงร้าวโชคดีที่ไม่ถึงกับหัก ส่วนคนที่ถูกวันชัยยิงตอนนี้ก็ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเดียวกัน แต่ก็คนละชนชั้น พวกมันได้อยู่ห้อง VIP มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง "พ่อปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหนูได้ไหม หนูสัญญาว่าจะให้พวกมันรับกรรมที่ทำไว้กับเราให้ได้" "โดยเอาทางกฎหมายเข้ามาเอาผิดมันน่ะเหรอ ลูกคิดหรือว่ากฎหมายจะเอาผิดคนรวยแบบพวกมันได้" "ในเมื่อมือของเราเอื้อมไม่ถึง เราก็ยืมมือของคนที่ยาวกว่ามาเอื้อมสิคะ" "หนูหมายความว่ายังไง" "พ่อเชื่อใจฝันนะ ฝันขอเวลาอีกไม่นาน" "หนูจะทำอะไร อย่าเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง" ก่อนหน้านี้ความคิดของวาดฝันไม่ได้เป็นแบบนี้ แต่พ่อก็พูดถูก คนจนแบบพวกเธอหรือจะไปสู้คนรวยได้ แต่เธอก็ไม่ได้คิดจะสู้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ขอแค่ให้พวกมันได้รับกรรมตามกฎหมายก็พอ หลังจากผ่าตัดเสร็จหมอคีตะก็กลับมาห้องทำงาน พอเข้ามาในห้องก็นึกถึงใครบางคนขึ้นมาได้อีก ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะเดินไปมองดูซอกนั้นว่าเธอยังคงอยู่ในนี้ไหม "เล็กขนาดนี้เข้าไปอยู่ได้ยังไง" ชายหนุ่มมองดูหลังตู้เก็บเอกสาร มันเป็นซอกเล็กๆสำหรับเว้นระยะไว้ให้คนทำความสะอาดได้ แกร็ก.. "?" หันไปอีกทีคนที่เขากำลังมองหาก็เปิดประตูเข้ามา "ขอโทษค่ะฉันนึกว่าคุณหมอยังไม่เข้ามา" "คุณช่วยทำตามกฎของโรงพยาบาลหน่อยได้ไหมครับ" ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาพูดกับเธอ แต่ก็จะพูดจนกว่าเธอจะยอมฟัง "ถ้าฉันขอเข้ามาพวกพี่ๆ ที่อยู่ข้างหน้าก็ไม่ยอม" เธอก็เลยรอจนกว่าคนที่อยู่ด้านหน้าเผลอหรือไปทำธุระที่อื่นถึงแอบเข้ามาได้ "เอาแบบนี้แล้วกัน ผมจะนัดเจ้าทุกข์ที่พอจะคุยกับคุณรู้เรื่องให้มาพบ" "ฉันไม่ได้เข้ามาพูดเรื่องนั้นค่ะ" คีตะถามกลับโดยใช้สายตามองแทนคำพูด ถ้าเธอไม่ได้เข้ามาทำธุระเรื่องนั้นแล้วจะเข้ามาทำไม "ฉันมาของานคุณหมอทำค่ะ ในระหว่างที่ดูแลพ่อฉันอยากหาเงินไปด้วย" "ของานผมทำเนี่ยนะ?" มาไม้ไหนอีกวะเนี่ย เธอนี่ทำให้เขาแปลกใจได้ตลอดเวลาเลย "ฉันทำได้ทุกอย่างเลยนะคะ" ขณะที่พูดวาดฝันก็เดินเข้าไปใกล้คนที่นั่งอยู่ "คุณหมอต้องการให้ฉันทำอะไร ฉันทำได้หมดเลยค่ะ" สายตาเว้าวอนมองคนตรงหน้าแต่แฝงด้วยความยั่วยวนเล็กน้อย ถ้าตั้งใจฟังคงได้ยินเสียงกลืนน้ำลายของคุณหมอ ดวงตาเขายังคงไม่ได้ละไปจากใบหน้าสวยหวานของหญิงสาวตรงหน้าเลย แกร็ก.. "คุณหมอคะกิ๊ฟขอโทษด้วยค่ะที่ปล่อยเธอเข้ามา" กุ๊บกิ๊บคนที่อยู่หน้าห้องไปเข้าห้องน้ำ กลับมาก็ได้ยินป้าทำความสะอาดบอกว่าผู้หญิงคนนั้นแอบเข้าไปในห้องของคุณหมออีกแล้ว ก็เลยรีบเปิดประตูเข้ามาดู ถ้าเธอไม่ทำอะไรสักอย่างคงต้องถูกไล่ออกจากห้องไปอีกแน่เลย ทันใดนั้นเธอก็ตัดสินใจทำอะไรบางอย่างลงไป.. อึบ! "??" ไม่ได้ตกใจแค่กุ๊บกิ๊บหรอก คีตะก็ตกใจ อยู่ดีๆ เธอก็ทิ้งตัวลงนั่งบนตักของเขา เราทำบ้าอะไรลงไปวะเนี่ย เอาวะด้านได้อายอด หวังว่าคงไม่ถูกถีบออกจากห้องนะ..ยั่วรักคุณหมอกฤษณะ บทที่ 91 ตอนจบ"ไอ้หมอคนไหนคะ""ก็ไอ้หมอคนที่คุณคุยด้วยหน้าลิฟต์ไง""คุณหมอโอโซนน่ะเหรอคะ" ทีแรกไม่คิดว่าคนที่เขาพูดถึงเป็นหมอด้วยซ้ำถึงแม้ว่าจะมีคำว่าหมอ"ใช่ผมไม่ชอบให้คุณคุยกับมันเลย""เดี๋ยวนะคุณหมอเรียกคุณหมอโอโซนว่าอะไรนะคะ?""ถ้าไม่จำเป็นไม่ต้องไปพูดกับไอ้หมอคนนั้น""คุณหมออย่าบอกนะว่า..""ผมหึง และก็ไม่ต้องไปคุยกับมันได้ยิ่งดี" เขาไม่คิดจะอ้อมค้อมกับเธออยู่แล้วไม่ชอบก็บอกไม่ชอบแต่กฤษณะก็แปลกใจในตัวเอง แต่ก่อนก็เคยมีเรื่องกันเขายังควบคุมอารมณ์ได้ แต่ทำไมตอนนี้แค่เห็นหน้าก็รู้สึกหงุดหงิดแล้ว"คุณหมอ.." เราจะช็อกก่อนไหมเนี่ยทำไมมันเต้นแรงขนาดนี้ ได้ยินชายอันเป็นที่รักบอกว่าหึงทำไมหัวใจเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ"คุณเป็นอะไร" เขากำลังจับชีพจรเธออยู่พอดี"ไม่ได้เป็นอะไรค่ะปกติดี""เอาเครื่องวัดคลื่นหัวใจเข้ามา" ชายหนุ่มรีบเปิดประตูบอกผู้ช่วยที่อยู่ด้านนอก"ไม่ต้องหรอกค่ะ วดีแค่ตื่นเต้นมากเกินไป""ตื่นเต้นเรื่องอะไร""ก็เรื่องที่คุณหมอหึงไงคะ""ผมหึงแล้วมันน่าตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ" เล่นเอาสะเขาตกใจเลย"ก็.."กฤษณะแอบยิ้มและส่ายหน้าเล็กน้อย ทีแรกยังกลัวเธอโกรธให้อยู่เ
ยั่วรักคุณหมอกฤษณะ บทที่ 90"หมอโอห์มคุณได้ยินไหม เมื่อกี้คุณแหม่มโทรมาบอกผลตรวจเลือดออกมาว่า...""ผมได้ยินแล้ว และทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ก็ได้ยินเหมือนกัน.." สายตาของคุณหมอโอห์มกรอกมองไปที่พ่อเลี้ยง เพื่อส่งสัญญาณให้รู้ว่าหาวิธีเอาตัวรอดให้ได้ด่วนเลย"......" กฤษณะเพิ่งรู้ตัวว่างานกำลังเข้า..ตายห่าแล้ว"เมื่อกี้คุณหมอว่าอะไรนะคะ" แต่เปรมวดีไม่ได้สนใจพ่อเลย ท่านจะรู้ความจริงหรือไม่รู้เธอก็ไม่ได้กลัว สิ่งที่เธอสนใจคือผลตรวจเลือดที่พยาบาลโทรมาแจ้ง"เลือดที่ผมนำไปตรวจผลออกมา ตอนนี้คุณตั้งท้อง" คิดแล้วทำไมเขาต้องกลัวด้วย มันเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับครอบครัว"พ่อคะ..วดีท้องจริงด้วยค่ะ" เธออยากบอกเรื่องยินดีแบบนี้กับพ่อ ถ้าแม่อยู่ตรงนี้ด้วยเธอก็จะกอดแล้วก็บอกท่าน"พ่อรู้แล้ว""ผมต้องขอโทษท่านมากนะครับ" กฤษณะพนมมือไหว้ขอโทษ คิดว่าท่านคงรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น"ขอโทษทำไมล่ะ แค่รักลูกสาวพ่อให้มากๆ ก็พอแล้ว"โอห์มลอบถอนหายใจโล่งอกมาก "..อุ๊ย" แต่ทำไมสายตาท่านที่มองเขา มันไม่เหมือนมองสองคนนั่นเลย"อย่าว่าอะไรให้คุณหมอโอห์มเลยนะคะพ่อ คุณหมอแค่..""แค่อะไรเหรอ"หลังทานข้าวเสร็จ..โอห์มรีบขอตัวออกมาก่อ
ยั่วรักคุณหมอกฤษณะ บทที่ 89"นี่มันอะไรกัน" เปรมวดีจำได้ว่าผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างรถก็คือลูกน้องของพ่อ"ท่านให้พวกผมเอารถมาให้คุณหนูไว้ใช้ครับ""พวกฉันมีรถใช้อยู่เอากลับไป" กลัวว่าคุณหมอจะคิดว่าทางครอบครัวของเธออวดร่ำอวดรวย"คุณหนูคงต้องคุยกับท่านเองแล้วล่ะครับ หมดหน้าที่ของพวกผมแล้ว กุญแจรถอยู่ในรถนะครับ""เดี๋ยวก่อนสิ" พอเรียกคนของพ่อไม่หันกลับมา เธอก็เลยหันไปหาเขา "คุณหมอคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะ""ผมจะว่าอะไรให้ท่านได้ล่ะครับ นั่นพ่อคุณนะท่านคงอยากให้ลูกสาว""คุณหมอไม่โกรธจริงนะคะ""ไม่โกรธหรอก แต่วันนี้ผมคงต้องขอติดรถคุณไปโรงพยาบาลด้วย" เขาก็คิดอยู่ว่าจะโทรให้เพื่อนมารับดีไหม เพราะไม่อยากพาเธอไปโหนรถเมล์"ถ้างั้นเราเก็บรถไว้ใช้แค่คันเดียวก็พอนะคะ""แล้วแต่คุณเถอะ ก็ท่านมอบให้คุณนี่""ขอบคุณคุณหมอมากนะคะที่เข้าใจ เอาเป็นว่าวันนี้วดีจะขับรถเอง..โอ๊ย" ขณะที่ก้าวเท้าเธอก็รู้สึกเจ็บหน่วงที่ท้องอีก แปลกจังเธอไม่เจ็บท้องแบบนี้มานานแล้ว เพราะตั้งแต่เรียนหมอมาเธอก็มีวิธีรักษาตัวเองเรื่องเจ็บท้องประจำเดือน"เดี๋ยวผมขับเอง" กฤษณะเดินอ้อมไปเปิดประตูให้เธอได้ขึ้นนั่ง แล้วเขาก็กลับมาประจำที่คนขับ[โรง
ยั่วรักคุณหมอกฤษณะ บทที่ 88หลังทานข้าวเสร็จปุรเชษฐ์ก็ให้คนมาส่งทั้งสองที่บ้านของหมอกฤษณะ ทีแรกเขาก็ขอให้ท่านบอกคนรถไปส่งที่โรงพยาบาลเพราะว่ารถของทั้งสองอยู่ที่นั่น แต่พ่อของเธอบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงกลับมาพักผ่อนกันให้สบายใจเพราะมันดึกแล้ว กฤษณะก็เลยยอมทำตามเพราะไม่กล้าขัดใจท่าน"พรุ่งนี้เราค่อยนั่งรถโดยสารออกไปก็ได้ค่ะ" แค่มองหน้าก็รู้แล้วว่าเขาคงเป็นกังวลเรื่องนี้"เรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอก เรามาพูดอีกเรื่องกันดีกว่า""เรื่องอะไรคะ""ทำไมถึงไม่บอกผมแต่ทีแรก" เขาไม่มีโอกาสถามเพราะอยู่ต่อหน้าพ่อของเธอ"จะให้เปรมเข้ามาแล้วก็บอกว่าเป็นใครเลยหรือคะ แล้วคุณหมอจะคิดยังไงล่ะ""ไม่คิดว่าคุณยังจะจำผมได้อีก" เรื่องนี้มันผ่านมาเป็น 10 ปีได้แล้วมั้ง ขนาดเขายังจำเธอไม่ได้เลย แต่ก็ไม่แปลกหรอกตอนนั้นยังไม่แตกเนื้อสาวเลยด้วยซ้ำ แต่มาตอนนี้ดูสิสวยสะพรั่งเลย"จำได้สิคะ เปรมจำคุณหมอได้ไม่มีวันลืม""อย่าบอกนะว่า.."หญิงสาวพยักหน้า แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเขาจะถามอะไร"คุณเรียนหมอเพราะจะมาหาผมจริงเหรอ..""ค่ะ""เด็กโง่เอ้ย" มือหนาเอื้อมไปโอบร่างของเธอเข้ามาแนบไว้กับแผ่นอก "ทำไมต้องทำแบบนั้นด้วย""เปรมอยากให้คุณหม