LOGIN“กลับมาแล้วค่ะ” ทันทีที่ก้าวขาเข้ามาในบ้าน ร่างบางตรงเข้าไปหาบิดามารดา ที่นั่งรอเธออยู่ที่ห้องรับแขก ก่อนจะหอมแก้มท่านทั้งสองแล้วยิ้มหวานให้ท่าน
“กลับมาเร็วจังล่ะลูก แม่คิดว่าจะถึงบ้านดึกกว่านี้” กานดา มารดาของหญิงสาวถามเสียงหวาน พร้อมกับยิ้มให้เธอ
“รถไม่ติดค่ะแม่ แล้วนี่ลุงชลิตยังไม่มาเหรอคะ”
“น่าจะอีกสักพักนะ อ้าว…..พูดถึงก็มาพอดีเลย”
หลังจากกานดาพูดจบ ชายวัยกลางคนก็เดินเข้ามาในบ้านของ ตามด้วยชายคนหนึ่งที่เธอคุ้นตา เธอมองเขาด้วยความแปลกใจ ในขณะที่ทำเพียงแค่มองสบตาเธอเงียบๆ
“สวัสดีค่ะคุณลุง” เธอยกมือพนมพร้อมกล่าวทักทายผู้ใหญ่ที่มาใหม่ด้วยรอยยิ้ม
“ไหนดูซิ เด็กหญิงตัวน้อยๆของลุงโตเป็นสาวแล้วหรือเนี่ย มาให้ลุงกอดหน่อยมา”
ชายวัยกลางคนที่มาใหม่ อ้าแขนรอรับหญิงสาวเข้าสู่อ้อมกอด ลลัลนายิ้มหวานด้วยความชอบใจก่อนจะโผไปกอดคุณลุงผู้ใจดีของเธอ ที่เมื่อสมัยเธอเด็กๆคุณลุงชลิตผู้ใจดีชอบแวะมารับเธอไปเที่ยว มีขนมมาฝากเธอเสมอเวลาที่คุณลุงมาหาคุณพ่อของเธอ
“เอาล่ะ คุณลุงคุณหลาน แสดงความคิดถึงกันพอละ แนะนำใครอีกคนด้วยสิ” ศรัญ บิดาของหญิงสาวพูดด้วยสีหน้ายิ้มกริ่มเบาๆ พร้อมกับพยักหน้าไปทางใครอีกคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง
“เออใช่ หนูลัล หนูจำพี่นัทได้มั้ย ลูกชายลุงที่ชอบชวนหนูไปทานไอศกรีมกันไงลูก พี่เขากลับมาจากอังกฤษแล้วนะ” ลลัลนามองตามมือของคุณลุงชลิตของเธอ ที่ชี้ไปทางเจ้าของชื่อ ชายหนุ่มผู้มาใหม่ที่เธอเพิ่งพบเจอเขาเมื่อตอนกลางวัน
“สวัสดีค่ะ” เธอพนมมือไหว้ระดับอก ก่อนจะหันไปกอดคุณลุงชลิตผู้ใจดีของเธอต่อ
“ทักทายกันเสร็จแล้วเนอะ ไปทานข้าวกันดีกว่า” ศรัญกล่าวขัดจังหวะขึ้น ก่อนจะชวนทุกคนเดินไปยังห้องรับประทานอาหาร
“คุณลุงสบายดีมั้ยคะ ไม่เห็นมาหาลัลบ้างเลย” ลลัลนาพูดคุยออดอ้อนคุณลุงชลิตของเธอ พร้อมกับกอดแขนท่านระหว่างเดินไปห้องรับประทานอาหาร
“ลุงยุ่งๆเรื่องที่บริษัท อยู่ในช่วงเปลี่ยนตำแหน่งน่ะ ลุงเกษียณตัวเองแล้วให้นัทดูแลต่อ ลุงแก่แล้ว จะพักแล้ว จะได้มีเวลามาหาหนูลัลบ่อยๆไง” ชายวัยกลางคนตอบเอาใจลูกสาวของเพื่อนรักด้วยรอยยิ้ม
บรรยากาศบนโต๊ะอาหาร ผู้ใหญ่ทั้ง 3 คนต่างนั่งคุยกันอย่างออกรส ในขณะที่หญิงสาวหน้าหวานได้แต่นั่งทานข้าวเงียบๆพร้อมกับหลบสายตาของชายหนุ่มที่นั่งมองเธออย่างเปิดเผย
“หนูลัลเรียนใกล้จบหรือยัง”
“ปีสุดท้ายแล้วค่ะ”
“งั้นก็ดีสิ…”
หลังจากที่ลลัลนาตอบคำตอบชลิตไป เธอก็รู้สึกผิดสังเกตที่ผู้ใหญ่นั่งมองหน้ากันยิ้มๆ
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” เธอถามออกมาด้วยความแปลกใจ
“จะได้จัดงานหมั้นไว้ก่อนไงจ๊ะ” กานดาตอบบุตรสาวยิ้มๆ
“งานหมั้นอะไรคะ ใครหมั้น” ลลัลนาถามมารดาออกไปงงๆ
“ก็หนูกับพี่นัทไง” มารดาของหญิงสาวตอบพร้อมกับสบตา
“นี่พวกนายไม่เคยบอกหนูลัลหรือ” ชลิตเอ่ยถามออกมา
“บอกอะไรคะ”
“ก็หนูกับนัทหมั้นกันตั้งแต่เกิดแล้วนะ” ชลิตตอบหญิงสาวรุ่นลูกออกไป น้ำเสียงใจดี
“คะ!!” ลลัลนาตกใจ ในขณะที่ ‘เขา’ ยังนั่งมองหน้าเธอเงียบๆ เธอเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรเลยได้แต่นั่งรับประทานอาหารไปเงียบๆ พลางคิดในใจว่าเรื่องนี้ใครจะอธิบายให้เธอฟังได้บ้าง
มื้ออาหารที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยของผู้ใหญ่จบลงด้วยของหวานเล็กๆน้อยๆ ก่อนจะพากันเดินออกมาจากห้องรับประทานอาหาร
“เดี๋ยวลัลกลับก่อนนะคะ พรุ่งนี้ลัลมีเรียนตอนเช้าค่ะ สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่ สวัสดีค่ะคุณลุง”
หญิงสาวบอกกล่าวผู้ใหญ่พร้อมกับเดินไปกอดบิดามารดาของเธอ มือเรียวสวยพนมมือไหว้ลาผู้ใหญ่ทั้ง 3 ท่านที่อยู่ ณ ที่นั่น ชั่งใจสักพักก็พนมมือระดับอกไหว้ชายหนุ่ม ที่ยกมือรับไหว้เธอในระดับเดียวกัน ก่อนที่หญิงสาวจะเดินออกจากบ้านไปที่รถและขับออกไป
“งั้นผมกลับก่อนนะครับ พรุ่งนี้มีบรรยายครับ” นัทธีพูดขึ้นมาบ้าง หลังจากพ้นหลังของลลัลนาไป
“แกจะรีบไปไหนล่ะเจ้านัท ไม่อยู่คุยเรื่องงานหมั้นก่อนหรือ” บิดาของเขาเอ่ยถามออกมา
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ลิต เด็กมันมีหน้าที่การงาน นัททำงานอะไรล่ะจ๊ะ” กานดาถามเขาด้วยน้ำเสียงใจดี
“ผมดูแลบริษัทต่อจากคุณพ่อครับ ถ้ามีเวลาว่างผมก็รับเชิญไปบรรยายที่มหาวิทยาลัย…ครับ”
“อ้าว ที่เดียวกับที่ยัยลัลเรียนเลย ได้เจอน้องมั้ย”
“เจอครับ” เขาตอบกานดา เสียงเรียบสีหน้าสงบ
“มิน่าล่ะ วันนี้ถึงนั่งเงียบไม่มีอาการต่อต้าน” ชายหนุ่มสบตาบิดาของเขา โดยที่ไม่ได้พูดอะไร
“แล้วคอนโดเป็นไง โอเคมั้ย พวกคุณดูนะ ผมให้อยู่ที่บ้านไม่อยู่อยากไปอยู่คอนโด บอกสะดวกกว่า แอบไปซื้อคอนโดอยู่เองซะเฉยๆ ทิ้งให้คนแก่อยู่บ้านคนเดียว”
นัทธีได้ฟังสิ่งที่บิดาพูดก็ก้มหน้าลงเล็กน้อย ถ้ามีใครทันสังเกตสักหน่อย ก็จะได้เห็นว่ามีรอยยิ้มพึงพอใจผุดขึ้นที่มุมปากของเขา
“งั้นผมกลับเลยนะครับ” ร่างสูงยกมือพนมเพื่อลาผู้ใหญ่ ก่อนจะขับรถออกไป
ก๊อก ก๊อก
ลลัลนาที่เพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ กำลังจะหาน้ำดื่มก่อนเข้านอน ชะงักด้วยความแปลกใจ เพราะคนที่รู้ที่อยู่ของเธอ นอกจากบิดามารดา ก็มีแค่ฟางข้าวเพื่อนสนิทของเธอเท่านั้น เพราะเธอเป็นคนโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง ถ้าเธอไม่สนิทกับใครจริงๆเธอจะค่อนข้างไว้ตัว
ลลัลนาเดินมาเปิดประตูเพราะคิดว่าเป็นเพื่อนสนิทของเธอแวะมานอนด้วย แต่ก็ต้องตกใจ เพราะคนที่มาเคาะประตูห้องของเธอคือชายหนุ่มที่เพิ่งไปเจอกันที่บ้านของเธอเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน เขาผู้มีสถานะ ‘ว่าที่คู่หมั้น’
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาวถามเขา หลังจากยืนอึ้งไปสักพักใหญ่
“เปล่า” ร่างสูงตอบเจ้าของร่างเล็กเสียงเรียบ แต่กลับแทรกตัวเดินเข้ามาในห้องของหญิงสาว เจ้าของห้องอย่างลลัลนาจึงทำได้แค่เดินตามหลังเขามางงๆหลังจากเห็นเขามองสำรวจห้องของเธอ ก่อนที่เขาจะเดินไปนั่งที่โซฟา
“มาคุยกันหน่อยสิ” เขาพูดพลางพยักหน้าไปที่โซฟาข้างๆ แต่เธอเลือกที่จะเดินไปนั่งโซฟาตัวเล็กอีกตัวหนึ่งแทน
“มีอะไรคะ” ชายหนุ่มเหลือบตามองเธอเล็กน้อย แต่ลลัลนาไม่สนใจ
“ไม่พอใจ?”
“เรื่องอะไรคะ”
“เรื่องที่ต้องหมั้นกับฉัน”
“ก็เปล่านี่คะ”
“งั้นเหรอ…” ดวงตาคมมองสบกับหญิงสาวเงียบๆและเธอเองก็ไม่ได้หลบตาเขา เขามองเธออยู่สักพักก็ลุกขึ้นก่อนจะขยี้ศีรษะเธอเบาๆแล้วเปิดประตูออกจากห้องไป หญิงสาวมองตามหลังเขาไปพลางคิดอะไรบางอย่างในใจ ‘บางอย่าง’ ที่ไม่เคยมีใครรู้
“คุยอะไรกันอยู่ สาวๆ” นัทธีกับณดลเดินเข้ามาในห้องทานอาหาร หลังจากคุยเรื่องงานเสร็จ พอดีกับที่ลลัลนากับฟางข้าวเงียบเสียงลงพอดี“คุยกันตามประสาสาวๆ ค่ะ” ลลัลนายิ้มบางๆตอบนัทธีณดลเดินมานั่งลงข้างฟางข้าว จับมือเธอบีบเบาๆ“มีอะไรเหรอ” ฟางข้าวถามสามีงงๆ“เปล่า ไม่มีอะไร”“ไปดูเด็กๆกันเถอะ ป่านนี้น่าจะเลอะเทอะหมดแล้วล่ะ” ลลัลนาเอ่ยปากชวนทุกคน ก่อนจะพากันลุกเดินออกไปยังสวนหน้าบ้าน“คุณแม่” กันชนกเห็นมารดาเดินมา ก็ชูกระถางต้นไม้ใบเล็กในมือให้ดูสีหน้าภูมิใจฟ้าครามเองก็เช่นกัน แต่เด็กน้อยทำเพียงหันไปพยักหน้าให้มารดา ก่อนจะส่งสายตาไปที่กระถางต้นไม้ที่เขาปลูก ฟางข้าวแทบจะกุมศีรษะกับความพูดน้อย เงียบขรึมของบุตรชายลลัลนาหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าของฟางข้าว ก็ฟ้าครามถอดบุคลิกของเธอมาเกือบหมด ในขณะที่กันชนก ร่าเริงสดใสเหมือนฟางข้าวไม่มีผิด“เอาล่ะๆ เล่นเสร็จอย่าลืมล้างมือกันด้วยนะเด็กๆ” นัทธีบอก สายตากวาดมองทุกคน ก่อนจะโอบเอวลลัลนาเดินตรงไปยังศาลาริมสระ ณดลจูงมือฟางข้าวเดินตามไป“ฉันว่านะ ฟ้าเหมือนแกเป๊ะเลยนะลัล” ฟางข้าวพูด เธอคงต้องทำใจกับนิสัยและบุคลิกของบุตรชายให้ได้สินะ“เอาน่า เดี๋ยวอีกหน่อยก็คงร่
“อ้าว มากันแล้วเหรอ” ร่างบางย่อตัวรับกอดที่คนตัวเล็กวิ่งตรงเข้ามากอดเธอ ก่อนจะหอมแก้มยุ้ยๆ ทั้งสองข้าง แล้วปล่อยร่างเล็กให้วิ่งกลับไปหามารดาฟางข้าวกับณดลเดินตามบุตรชายเข้ามาในบ้านของลลัลนา หลังจากที่ฟ้าครามลงจากรถ ก็วิ่งตรงเข้ามาในบ้าน ตรงเข้าไปกอดลลัลนา“พี่นัทกับน้องกันล่ะ” ฟางข้าวถามเพื่อนรัก เมื่อมองซ้ายมองขวาไม่เจอสามีกับบุตรชายของเพื่อนรัก“ขึ้นไปอาบน้ำน่ะ เมื่อกี๊เพิ่งปลูกต้นไม้กัน”“ฟ้าอยากปลูกต้นไม้ครับ” ฟ้าคราม บุตรชายของฟางข้าว ที่เกิดก่อนกันชนกไม่กี่เดือน เอ่ยบอกมารดา เมื่อได้ฟังการสนทนาเมื่อสักครู่“เดี๋ยวรอลุงนัทกับน้องกันลงมาก่อนนะครับ” ลลัลนาบอกฟ้าครามน้ำเสียงใจดี“ได้ครับ” เด็กน้อยรับคำก่อนจะเดินไปนั่งรอบนโซฟาเงียบๆ“สงสัยฟ้ากับกันน่าจะโดนสลับตัวกันนะ ฟ้านิสัยเหมือนแกเลย นิสัยนิ่งๆ ส่วนกันจะออกสดใสร่าเริงเหมือนฉัน” ฟางข้าวพูดสีหน้าครุ่นคิด ก้าวเท้ายาวๆตามบุตรชายเข้าไปในห้องนั่นเล่นลลัลนาหัวเราะชอบใจ พยักหน้าทักทายณดล ก่อนจะเดินตามฟางข้าวไปหลังจากเข้าไปในห้องนั่นเล่นกันไม่กี่นาที นัทธีก็อุ้มกันชนกตามเข้ามาในห้องนั่งเล่น วางร่างเล็กของกันชนกลง เดินไปหย่อนตัวนั่งลงเคีย
ร่างบางถูกวางที่พื้นใต้ฝักบัว มือหนาเปิดน้ำให้ไหลลงมาชำระล้างคราบเหงื่อไคล มือใหญ่ลูบไล้เรือนกายบอบบาง ปลายนิ้วเขี่ยปลายยอดดอกบัวตูมอวบเล่นจนมันเป็นไต“พอแล้วค่ะ ลัลหมดแรงแล้วนะคะ” เจ้าของร่างบางจับมือหนาของสามี พึมพำพูดเบาๆ ตาใกล้จะปิดลงเต็มทีนัทธีก้มลงอ้าปากงับปลายยอดสีชมพูสวยเบาๆ ลิ้นหนาไล้วนรอบๆ มือบีบเคล้นดอกบัวตูมอวบใหญ่ล้นมือรุนแรงจนเป็นรอยมืออีกข้างที่ว่างอยู่เคลื่อนลงไปที่ช่องทางสวรรค์ ล้วงเข้าไปข้างในทีเดียว 2 นิ้ว ทำให้สายธารขาวขุ่นที่ยังค้างอยู่ข้างใน ไหลออกมาตามเรียวขาสวย“อื้ออออ” ร่างบางหงายเอนศีรษะ หลับตาครางเสียงแผ่ว“อีกสักรอบนะ” มือหนาปิดน้ำ ช้อนอุ้มร่างเล็กขึ้น พิงหลังกับผนัง แขนแกร่งช้อนใต้ขาเรียว พร้อมกับดันแก่นกายร้อนเข้าไปทีเดียวสุดลำในท่าอุ้มแตง“อ๊ายยยย” ลลัลนาหวีดเสียงดัง แขนคล้องคอหนาพยุงตัวเองใบหน้าหล่อเหลาโน้มตัวก้มหน้าไปแนบจูบเร่าร้อน ลิ้นหนาสำรวจโพรงปากนุ่มจนทั่ว กระหวัดเกี่ยวลิ้นเล็กปลุกเร้าอารมณ์ สะโพกสอบขยับโยกเบาๆลลัลนาหวีดครางในลำคอ ท่านี้แก่นกายของเขาเข้าไปลึก มันทั้งเสียวทั้งจุกในเวลาเดียวกันปากหยักถอนริมฝีปากออก ไล่ลงมาตามลำคอขาว ดูดผิวเนื้
“ลัลยังไม่อิ่มเลยค่ะ”นัทธีนั่งลงเหยียดขาออกอย่างรวดเร็ว ร่างบางขยับคร่อมท่อนกายลำใหญ่ที่กำลังตั้งโด่ กดสะโพกลงทีเดียวจนมิดโคน มือบางบดคลึงติ่งเกสรตัวเองเบาๆ เรียกเสียงคำรามจากคนใต้ร่างรุนแรง เมื่อเห็นภาพตรงหน้า“ซี้ดดดด มีเมียร่านแบบนี้ชอบไหมคะ” ปากบางร้องซี้ดซ้าด ถามยั่วสามี“โอ้ววว ยิ่งกว่าชอบอีกครับคุณเมีย กระแทกลงมาเลยจ้ะ จัดการเลย” คนใต้ร่างเธอกระซิบเสียงสั่นสะโพกกลมสวยขยับบดติ่งเกสรกับลำโคนเนื้อของคนใต้ร่าง เรียกเสียงครางในลำคอราวสัตว์ป่าคำรามกระหึ่มลั่นห้อง ก่อนจะยกสะโพกลอยขึ้น แล้วทิ้งตัวกระแทกลงไปสุดแรง“โอ้วว แน่นสุดๆเลยจ้ะเมียจ๋า”ยิ่งกระแทกกระทั้นแรงเท่าไหร่ มันก็ยิ่งจุก แต่ความเสียวซ่านมันเพิ่มอีกเป็นทวีคูณ ชายหนุ่มครางเสียงดัง เอ่ยคำหยาบคายเพิ่มอารมณ์กระสันกับบทรักบนเตียงหญิงสาวหวีดครางไม่หยุด ยกสะโพกกระแทกกระทั้นร่องสาวคับแน่นที่กำลังกลืนกินท่อนเนื้อลำใหญ่อยู่ข้างใน เอวบางร่อนควงให้ติ่งเกสรบดคลึงกับลำโคนท่อนเนื้อ ความเสียวซ่านส่งผลให้ภายในร่องรักคับแน่น ตอดรัดเป็นจังหวะ“อ๊ายยยย…” ร่างบางแทบสิ้นสติเมื่อสะโพกหนาเด้งเอวกระแทกสวนขึ้นยามที่เธอกระแทกกายลงชายหนุ่มอดทนต่อค
“น้องกันล่ะคะ” ลลัลนาเอ่ยถามขึ้น หลังจากออกจากห้องน้ำ แล้วเจอสามีนั่งอยู่ในห้อง“หลับไปแล้วจ้ะ” นัทธีบอกภรรยาสาวคนสวย ก่อนจะลุกไปโอบเอวบางเอาไว้หลวมๆหลังจากคลอด กันชนก ได้ไม่นาน รูปร่างของลลัลนาก็เข้าที่อย่างรวดเร็ว อาจจะเพราะเธอดูแลลูกชายด้วยตัวเอง มีพี่เลี้ยงคอยช่วยหยิบจับบ้างเล็กน้อย กับนอนเป็นเพื่อนหนูน้อยยามค่ำคืนเท่านั้น“ลัล น้องกัน 3 ขวบแล้วนะ” นัทธีหมุนเอวบางให้หันหน้ามาหาเขา ก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงอ้อนๆ“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”“พี่ว่ามีน้องให้น้องกันได้แล้วมั้งครับ น้องกันจะได้มีเพื่อน”“แต่น้องกันยังเด็กอยู่เลย ถ้ามีน้องให้น้องกัน ลัลก็ต้องแบ่งเวลาให้น้อง ลัลกลัวน้องกันจะน้อยใจค่ะ”“ไม่หรอก พี่ว่าลัลคิดมากไปนะ”“แต่…”“ไม่แต่แล้วครับ”นัทธีย่อตัว ช้อนอุ้มร่างบางที่สัดส่วนเต็มล้นขึ้น เดินตรงไปที่เตียง วางเธอลงเบาๆก่อนจะกระตุกกระโปรงชุดนอนตัวบางขึ้นเล็กน้อย ปลายนิ้วเกี่ยวแพนตี้ตัวจิ๋วออกอย่างรวดเร็ว“พี่นัท” ลลัลนาเอ่ยเรียกตั้งใจจะปรามสามี แต่ขาเรียวแยกออกจากกัน“หืม” นัทธีซุกใบหน้าลงดอมดมดอกไม้งามตรงหน้าอย่างหลงใหลลิ้นหนาร้อนผ่าวไล้เลียเกสรสีสวย ที่เขาทำการแหวกกลีบดอกไม้ออกด้วย
“ตายแล้ว ป่านนี้แล้วเหรอ งั้นฉันกลับก่อนนะ อย่าลืมเตรียมตัวด้วยล่ะ” หลังจากนั่งคุยกันมาสักพักใหญ่ ฟางข้าวก็เหลือบเห็นนาฬิกาที่ริมผนังห้อง เธอร้องอุทานออกมา เธอคุยจนลืมเวลาว่าเธอต้องทำธุระที่อื่นต่อ“รู้แล้วน่า เจอกันวันงาน”“เค เจอกันจ้ะ” ฟางข้าวกับณดลกลับบ้าน โดยมีลลัลนากับนัทธีเดินตามมาส่งที่หน้าบ้านหลังส่งฟางข้าวกับณดลกลับ นัทธีโอบเอวลลัลนามาที่ห้องนั่งเล่น“ไม่น่าเชื่อนะคะ ว่าข้าวกับดลจะลงเอยกันได้”“แต่พี่ว่าไม่แปลกนะ ณดลรักฟางข้าวมานาน สัญชาตญาณผู้ชาย ไม่ยอมเสียคนที่ตัวเองรักให้ใครอยู่ละ แล้วยิ่งถ้ามีใครที่ทำท่าว่าจะมาสนใจคนที่ตัวเองรัก ยิ่งไม่มีทางปล่อยเลย”“ก็คงงั้นค่ะ เซอร์ไพรซ์ตรงที่ข้าวท้องก่อนลัลนี่แหละค่ะ” หญิงสาวหัวเราะชอบใจ ก่อนจะซบไปที่บ่าแกร่งของสามี“แล้วพี่นัทล่ะคะ เราไม่ได้แต่งงานกัน แล้วมีคนเข้ามาจีบลัล พี่นัทจะทำยังไงคะ”“พี่ก็จะทำแบบณดลนั่นแหละ จับปล้ำทำเมียเลย ยังไงก็ปฏิเสธไม่ได้” นัทธีตอบภรรยาสาวสายตากรุ้มกริ่ม“แหม ผู้ชายนี่เป็นเหมือนกันหมดเลยนะคะ”“ไม่หรอก พี่ว่านะ ถ้าผู้หญิงไม่มีใจ ยังไงมันก็ยากนะที่จะลงเอยกันได้ สมัยนี้ไม่มีใครถือกันละ ว่าต้องเป็นคนแรกน่ะ







