ช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเธอ เหมือนทุกอย่างมันเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว 2 อาทิตย์ที่แล้ว เธอยังเป็นนักศึกษาเตรียมจบธรรมดาอยู่เลย ตอนนี้เธอกลายเป็นคนที่แต่งงานแล้ว แถมเขายังเป็นรักแรกของเธอ..... “ไม่มีคำถามอะไรเหรอ” ชายหนุ่มถามเสียงเรียบ ก่อนจะดึงผ้าขนหนูผืนเล็กในมือของหญิงสาวมาเช็ดเส้นผมให้ “ไม่มีค่ะ” ลลัลนาขยับตัวหันหลังปล่อยให้เขาเช็ดผมให้เธอ “แพรเป็นแฟนเก่าของฉัน แต่ฉันรู้สึกว่าเขาเป็นผู้หญิงที่เข้ากับฉันไม่ได้เลย ฉันเลยเลือกที่จะไม่ไปต่อ” “ค่ะ ลัลก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ” ดูจากการกระทำวันนี้ เธอเองก็พอจะเข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่คบกับแพรวาต่อ “ไม่หึง?” “ไม่ค่ะ” “อยากให้หึง” “คะ…” ไร้เสียงตอบจากนัทธี แต่ร่างบางที่กำลังนั่งชันเข่ากลับถูกอุ้มขึ้นมานั่งบนตักแกร่ง “อยากให้หึง” ชายหนุ่มพูดพลางโอบเอวเล็กเอาไว้ “พี่นัทกำลังจีบลัลเหรอคะ” “ใช่ ฉันกำลังจีบภรรยาตัวเอง” เขาตอบพร้อมกับสบตากลมโต
View Moreช่างแต่งหน้าจับ สองสาวแยกกันแต่งหน้าแต่งตัว ลลัลนา โดนจับแต่งหน้าแต่งตัวเต็มที่ ใบหน้ารูปไข่สวยหวาน ดวงตากลมโต จมูกโด่งปลายเชิดนิดๆ บ่งบอกความรั้นของเจ้าของใบหน้า ริมฝีปากบางเป็นกระจับ ถูกแต่งแต้มให้ดูหวานละมุนจับใจ ชุดเดรสเกาะอกกระโปรงยาวสีขาว ถูกนำมาสวมใส่ ความสวยหวานลงตัว น่ามองจนไม่อาจละสายตาได้“โห แกสวยมากเลยว่ะลัล สวยหวานเลย” ฟางข้าวที่เพิ่งเปลี่ยนชุดเป็นชุดเดรสสีฟ้าอ่อนเดินออกมาพอดี ได้พูดขึ้น“แก ฉันรู้สึกแปลกๆว่ะ” ลลัลนาพูดกับเพื่อนสนิท หลังรู้สึกว่าการแต่งหน้าแต่งตัวของเธอ มันมากกว่าปกติ“แกเพิ่งรู้สึกเหรอ เสร็จแล้วก็ไปเถอะ” ฟางข้าวพูดพลางดึงข้อมือลลัลนาออกจากห้องสองสาวลงมาข้างล่าง ก็พบว่าทุกคนกำลังรออยู่แล้ว“มาเลยลูก ใกล้ได้เวลาแล้ว” กานดาลุกขึ้นไปจูงมือลลัลนา มานั่งที่ตรงหน้าของนัทธี วินาทีนี้ ลลัลนารู้ทันทีว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นลลัลนามองหน้าเขาเคืองๆที่ไม่ยอมบอกอะไรเธอ ทั้งที่เขารู้ว่าวันนี้เขาพาเธอมาที่บ้านทำไม“ได้เวลาสวมแหวนแล้ว” ชลิตบอกกับทุกคน นัทธีจึงหยิบแหวนขึ้นมาสวมที่นิ้วนางข้างซ้ายให้กับลลัลนา หลังสวมแหวนเสร็จ ลลัลนาพนมมือไหว้เขาตามพิธี เขารับไหว้พร้อมกับมอง
ที่มหาวิทยาลัย“แก ไปซื้อของเป็นเพื่อนฉันหน่อย พรุ่งนี้วันเกิดคุณแม่ ท่านบอกว่าปีนี้ไม่จัดงาน ฉันเลยอยากหาของขวัญให้ท่านสักหน่อย” ฟางข้าวคล้องแขนลลัลนาพลางเอ่ยเสียงอ้อนๆระหว่างกำลังเดินออกมาหน้าอาคารเรียน“ลัล”“คะ”ขณะที่กำลังพากันเดินไปที่ลานจอดรถของมหาวิทยาลัย ได้มีเสียงคุ้นเคยดังขึ้น สองสาวชะงัก แล้วหันกลับไปมองตามที่มาของเสียง ก่อนจะเห็นว่านัทธียืนพิงรถมองพวกเธออยู่“…..” นัทธียืนสบตาลลัลนาเงียบๆ“มีอะไรหรือเปล่าคะ”“เรียกชื่อฉัน” ชายหนุ่มไม่ตอบคำถามเธอ แต่เอ่ยบอกในสิ่งที่เขาต้องการด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ“มีอะไรหรือเปล่าคะ…พี่นัท” ลลัลนาทำตามที่เขาต้องการอย่างว่าง่ายพลางถอนหายใจเบาๆ สรรพนามที่ลลัลนาใช้เรียกชายหนุ่มตรงหน้าทำให้ฟางข้าวแปลกใจ“ไปธุระด้วยกันหน่อย พาเพื่อนเธอไปด้วยก็ได้นะ”“แต่ลัลจะไปทำธุระกับข้าวค่ะ”“ไปด้วยกัน แล้วเดี๋ยวฉันพาไปทำธุระ”“แต่ลัลขับรถมาค่ะ”“จะแคร์อะไร ในเมื่อเธอก็มามหาลัยพร้อมฉันได้” เขาพูดดักคอหญิงสาว จนเธอเงียบลงไปในที่สุด“ขอโทษนะข้าว แกไปกับฉันก่อนได้มั้ย แล้วเดี๋ยวฉันไปซื้อของเป็นเพื่อน” ลลัลนาหันไปบอกเพื่อนสนิทน้ำเสียงเซ็งๆ“ไม่มีปัญหา” ฟางข้าวตอบพล
“กลับมาแล้วค่ะ” ทันทีที่ก้าวขาเข้ามาในบ้าน ร่างบางตรงเข้าไปหาบิดามารดา ที่นั่งรอเธออยู่ที่ห้องรับแขก ก่อนจะหอมแก้มท่านทั้งสองแล้วยิ้มหวานให้ท่าน“กลับมาเร็วจังล่ะลูก แม่คิดว่าจะถึงบ้านดึกกว่านี้” กานดา มารดาของหญิงสาวถามเสียงหวาน พร้อมกับยิ้มให้เธอ“รถไม่ติดค่ะแม่ แล้วนี่ลุงชลิตยังไม่มาเหรอคะ”“น่าจะอีกสักพักนะ อ้าว…..พูดถึงก็มาพอดีเลย”หลังจากกานดาพูดจบ ชายวัยกลางคนก็เดินเข้ามาในบ้านของ ตามด้วยชายคนหนึ่งที่เธอคุ้นตา เธอมองเขาด้วยความแปลกใจ ในขณะที่ทำเพียงแค่มองสบตาเธอเงียบๆ“สวัสดีค่ะคุณลุง” เธอยกมือพนมพร้อมกล่าวทักทายผู้ใหญ่ที่มาใหม่ด้วยรอยยิ้ม“ไหนดูซิ เด็กหญิงตัวน้อยๆของลุงโตเป็นสาวแล้วหรือเนี่ย มาให้ลุงกอดหน่อยมา”ชายวัยกลางคนที่มาใหม่ อ้าแขนรอรับหญิงสาวเข้าสู่อ้อมกอด ลลัลนายิ้มหวานด้วยความชอบใจก่อนจะโผไปกอดคุณลุงผู้ใจดีของเธอ ที่เมื่อสมัยเธอเด็กๆคุณลุงชลิตผู้ใจดีชอบแวะมารับเธอไปเที่ยว มีขนมมาฝากเธอเสมอเวลาที่คุณลุงมาหาคุณพ่อของเธอ“เอาล่ะ คุณลุงคุณหลาน แสดงความคิดถึงกันพอละ แนะนำใครอีกคนด้วยสิ” ศรัญ บิดาของหญิงสาวพูดด้วยสีหน้ายิ้มกริ่มเบาๆ พร้อมกับพยักหน้าไปทางใครอีกคนที่ยืนอยู
ใจกลางเมืองอันแสนวุ่นวาย ลลัลนา หญิงสาวใบหน้าหวานดวงตากลมโต ผมตรงยาวสลวย ผิวขาวเหลืองสุขภาพดี กำลังฝ่ารถติดเพื่อที่จะไปให้ทันเวลาเข้าเรียน เธอไม่เคยขาดเรียน หรือไปสายเลยถ้าไม่จำเป็นจริงๆหญิงสาวถอนหายใจเบื่อหน่ายกับรถติด ถึงแม้ว่าเธอจะออกจากที่พักเร็วขนาดไหน ก็ยังไม่พ้นต้องเผชิญกับปัญหานี้อยู่ดี ดวงตากลมโตมองไปข้างหน้าอย่างตั้งใจ ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปยังมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของเธอหลังจอดรถเรียบร้อย มือบางหยิบกระเป๋าสะพายข้างใบโปรดของเธอ พร้อมกับหอบเอกสารประกอบการเรียน เดินตรงไปยังโต๊ะที่เธอและเพื่อนสนิทนั่งกันเป็นประจำ และเหมือนดังเช่นทุกวัน ที่ฟางข้าวเพื่อนสนิทของเธอจะมาถึงก่อนและนั่งรอเธออยู่“ตกลงแกรู้หรือยัง ว่าจะทำธีสิสเกี่ยวกับอะไร” เสียงหวานใสของฟางข้าวดังขึ้นถามเธอ หลังจากนั่งคุยไร้สาระกันมาพักใหญ่ๆ“ยังไม่รู้เลยอะ” ลลัลนาตอบเสียงเบื่อหน่าย“เดี๋ยวก็เสร็จไม่ทันหรอก”“ทันแหละ”“แกเนี่ยนะ ไม่เตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ”“เอาน่า ไม่มีเวลาหานี่นา”เสียงการสนทนาของหญิงสาวสองคนดังขึ้นที่โต๊ะหินใต้อาคารเรียน ระหว่างรอเวลาขึ้นชั้นเรียน ยิ่งใกล้ช่วงเวลาเรียนจบ นักศึกษาแต่ละคนก
Comments