“อะไรกัน?!”นักบู๊ที่อยู่ใกล้พ่อบ้านหวังมากที่สุดคนหนึ่ง ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ถูกพ่อบ้านหวังตบจนสมองระเบิดเละเป็นเหมือนกับแตงโมที่แตกเป็นเสี่ยงๆ เลือดเนื้อติดอยู่บนกำแพง น่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด“แดนแปรภาพ?! เขาอยู่ในแดนแปรภาพ!”นักบู๊ที่อยู่รอบด้านสัมผัสได้ถึงพลังบนตัวของพ่อบ้านหวังที่ผิดปกติในทันทีผู้แข็งแกร่งแดนแปรภาพเทียบกับเซียนเทียนแล้ว แข็งแกร่งกว่าไม่ใช่แค่เพียงนิดหน่อยหลังจากการรวมตัวของพลังชี่แท้กับการควบคุมพลังได้ตามใจชอบ ความสามารถของผู้แข็งแกร่งแดนแปรภาพไม่ใช่นักบู๊ระดับเซียนเทียนจะสามารถเทียบเท่าได้แน่นอนว่า หนึ่งในนี้นอกจากมีตัวตนที่สุดยอดเหนือขั้นตัวอย่างเช่นหลินเฟิงถึงแม้หลินเฟิงจะเป็นขั้นเซียนเทียนต้าหยวนหม่าน แต่แดนแปรภาพทั่วๆ ไปก็ทำอะไรเขาไม่ได้นอกจากแดนแปรภาพขั้นสูงสุด ถึงจะบีบคั้นให้หลินเฟิงใช้ไม้ตายของตัวเองออกมานี่ต้องยกคุณความดีให้กับการที่วิทยายุทธของหลินเฟิงถดถอยเมื่อสามปีก่อนบรรลุถึงขั้นเซียนเทียนต้าหยวนหม่านสองครั้ง ทำให้พลังชี่แท้ของหลินเฟิงแข็งแกร่งยิ่งกว่านักบู๊ทั่วๆ ไป ถึงขั้นที่นักบู๊แดนแปรภาพบางคนก็ยังเทียบไม่ได้และในตอนนี้ หล
เห็นเผิงกวงฉี่เผชิญหน้ากับความตายของตัวเองได้สงบนิ่งขนาดนี้ ถึงกับยังเห็นเขาเป็นคนรับใช้ สีหน้าของพ่อบ้านหวังบิดเบี้ยวเล็กน้อยถึงขั้นที่เขาคิดว่าหากฆ่าเผิงกวงฉี่ไปแบบนี้กลับจะเป็นเขาที่พ่ายแพ้เผชิญหน้ากับสายตาจริงจังของเผิงกวงฉี่ ในตอนนี้พ่อบ้านหวังกลับรู้สึกลังเลแล้ว“สิบกว่าปีก่อน นายเคยให้คำสัตย์กับฉัน นายจะติดตามฉันตลอดชีวิต”จู่ๆ เผิงกวงฉี่ก็พูดเรื่องเก่าๆ ขึ้นมาเขายิ้มพูดเรียบๆ:“ตอนนั้นสีหน้าที่อับจนหนทางของนาย คำพูดที่จริงจังแต่ละคำ ทำให้ฉันจดจำฝังใจ จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังสามารถนึกขึ้นมาได้”เผงกวงฉี่เหมือนกับได้เห็นฉากในตอนนั้นขึ้นมาจริงๆเขาถอนหายใจพูดว่า:“เราสองคนเป็นเพื่อนเล่นกันตั้งแต่เด็ก ถึงแม้ภายหลังจะแยกจากกันเป็นเวลานาน ตอนที่นายถูกตามฆ่า และกลับมาพึ่งพาฉันอีกครั้ง ฉันยังเห็นคงมีความเชื่อมั่นต่อนายโดยที่ไม่มีเงื่อนไขใดๆ”“ฉันกวงเผิงฉี่ชีวิตนี้เชื่อใจแค่นายคนเดียวของฉัน แต่ว่า...”เผิงกวงฉี่ยิ้มอย่างขมขื่นพูดว่า:“ดูท่าแล้วโชคชะตาล้อเล่นกับคนสินะ...”“......”ได้ยินคำพูดแบบนี้ของเผิงกวงฉี่ พ่อบ้านหวังนิ่งอึ้งครู่หนึ่ง สีหน้าค่อยๆ เปลี่ยนไปละอายใจเล็กน้
“คุณหลิน นี่เป็นเรื่องของผมกับหวังเจิง คุณอย่าเข้ามายุ่ง ทางที่ดีคุณรีบถือโอกาสหนีไปซะเถอะ”หลังจากเผิงกวงฉี่ทำการวิเคราะห์เขาคิดว่าหลินเฟิงอายุน้อยขนาดนี้ และมีวิชาแพทย์ที่มหัศจรรย์อย่างมาก ดังนั้นเวลาที่ทุ่มเทให้กับศิลปะการต่อสู้ก็คงมีไม่มากเท่าไหร่เมื่อครู่สกัดกั้นฝ่ามือหนึ่งเอาไว้ก็คงจะพยายามเต็มที่แล้วหากเป็นแบบนี้ต่อไป จุดจบของหลินเฟิงคงไม่ต่างอะไรกับนักบู๊คนอื่นๆ จะต้องตายไปด้วยสภาพที่น่าอนาถอย่างถึงที่สุดในเมื่อถือว่าเป็นผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตเขา เขาไม่อยากเห็นหลินเฟิงเสียชีวิตไปอย่างสูญเปล่า“หึหึ...”ใครจะรู้ว่าหลินเฟิงไม่เพียงไม่ได้จากไป แต่กลับหัวเราะเบาๆ และหันหน้ามาถามว่า:“เถ้าแก่ผมคิดว่าผมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขางั้นเหรอ?”“เรื่องนี้...”คำถามนี้ของหลินเฟิงกลับทำให้เผิงกวงฉี่นิ่งอึ้งไปเขาไม่สามารถตอบกลับว่า “ใช่” ได้อยู่แล้ว แต่ก็ไม่อยากให้หลินเฟิงอวดฝีมืออัดอั้นอยู่นาน ก็ทำได้เพียงส่ายหน้าอย่างจนปัญญา“คุณหลิน พ่อบ้านหวังคนนี้เป็นเพื่อนกับผมตั้งแต่เด็ก ก่อนหน้านี้คุณช่วยชีวิตผมไว้ครั้งหนึ่งแล้ว ทำให้ผมรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณอย่างมาก ตอนนี้ผมไม่ควรจะดึงคุณเข
พ่อบ้านหวังถึงแม้ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้หลินเฟิงใช้วิธีอะไรหลบการตรวจสอบจากเขาแต่ตอนนี้สามารถสัมผัสพลังของหลินเฟิงได้อย่างชัดเจน ความกังวลที่อยู่ในใจก็ถูกกำจัดไปขั้นเซียนเทียนต้าหยวนหม่านแข็งแกร่งไหม?แข็งแกร่ง!แต่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา“ตายยยย!”เพื่อไม่ให้เป็นการยืดเยื้อ พ่อบ้านหวังใช้วิชาฝ่ามือที่แข็งแกร่งที่สุดของตัวเองออกมา พลังทั้งหมดของร่างกายรวมอยู่ที่บนฝ่ามือ จะฆ่าหลินเฟิงได้หรือไม่ ก็ดูวิชานี้แหละแน่นอนว่า เขาก็มองออกว่าหลินเฟิงจะปกป้องเผิงกวงฉี่ให้ได้ ดังนั้นฝ่ามือนี้จึงใช้แรงทั้งหมดถ้าหากหลินเฟิงจะหลบเช่นนั้นฝ่ามือนี้ก็จะตกไปที่ตัวของเผิงกวงฉี่เช่นนั้นเผิงกวงฉี่ก็จะต้องตายอย่างแน่นอนดังนั้นหลินเฟิงอยากให้เผิงกวงฉี่มีชีวิตรอด งั้นก็จะต้องรับฝ่ามือนี้ของเขาเอาไว้!เห็นเพียงแค่ฝ่ามือขาวดำผสมผสานกันของพ่อบ้านหวัง กลับเกิดพลังชี่แท้สีเทาหม่นๆ ออกมาเมื่อพลังชี่แท้ปรากฏออกมา ก็ทำให้สิ่งรอบข้างเคลื่อนไหว ทั่วทั้งอาคารสำนักงานสั่นคลอนเหมือนจะถล่มนี่ก็คือการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของผู้แข็งแกร่งแดนแปรภาพ“หึ...”มองดูฝ่ามือที่โจมตีอย่างดุดัน หลินเฟิงไม่มีท่าที
“พวกเธอเดาสิ วันนี้ฉันกับพี่สาวของฉัน ฟังคำพูดของอดีตสามีของเธอ ไปที่บริษัทเต๋อหนิงด้วยกันกับเขา พวกเธอเดาสิว่าเกิดอะไรขึ้น?”ตอนที่หลี่ฮุ่ยหรานกลับมาถึงบริษัท ก็เห็นจางซินกำลังเก็บกวาดข้าวของของตัวเอง เตรียมตัวจะจากไปแต่ก่อนที่เธอจะจากไป ยังตั้งใจพูดเสียงดังกับพนักงานของหลี่ซื่อกรุ๊ปว่า:“เขาบอกว่าเผิงกวงฉี่จะโอนที่ดินห้าผืนที่ประมูลมาได้ให้อย่างว่าง่าย แต่ความเป็นจริงล่ะ?”“คนรับใช้ส่วนตัวของเผิงกวงฉี่ ไม่รู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำ พวกเราไปที่นั่น เป็นการถูกหักหน้าชัดๆ เลย”“จิ๊จิ๊จิ๊ พวกเธอไม่ได้เห็นช่างน่าเสียดายจริงๆ หน้าของหลี่ฮุ่ยหรานนะ ยังมีสีหน้าของหลินเฟิงคนนั้น แต่ละคนหน้าตาบึ้งตึง เหมือนกับกินแมลงวันเข้าไป”“ฮ่าฮ่าฮ่า...น่าขำชะมัดเลย”“พวกเธอคิดดูนะ เผิงกวงฉี่เขาเป็นใครกัน จะฟังคำพูดของหลินเฟิงอย่างว่าง่ายได้ยังไง?”“เขานับประสาอะไรกัน?”“ยังไงฉันไปแล้ว พวกเธออยู่ที่นี่ ถูกอดีตสามีของหลี่ฮุ่ยหรานพาพวกเธอตกต่ำไปด้วยกันเถอะ!”ขณะพูด จางซินเก็บกวาดข้าวของของตัวเอง และหัวเราะเสียงดังเดินออกจากห้องทำงานแต่ทว่าที่ทางเดิน เธอเห็นหลี่ฮุ่ยหรานที่กลับมาแล้วพอดีหลี่ฮุ่ยหรานฟัง
“หึ หลี่ฮุ่ยหราน เธออย่าลำพองใจไป วุ่นวายอยู่นาน เธอเปลี่ยนเรื่องพูด ไม่ใช่เพราะฉันพูดความจริงงั้นเหรอ?”“เธอกับหลินเฟิงไม่สามารถเอาที่ดินกลับมาจากเผิงกวงฉี่ได้ด้วยซ้ำ หรือไม่ใช่งั้นเหรอ?”“งั้นเธอคิดผิดแล้ว”ตอนที่หลี่ฮุ่ยหรานผลักประตูห้องทำงานของตัวเอง กำลังจะเดินเข้าไป ก็ได้ยินเสียงตะโกนของจางซินพอดีเธอหยุดชะงักฝีเท้า หันหน้าไปทางจางซินและส่งสายตาดูถูกและเย็นชาให้เธอ“ฉันเชื่อว่าหลินเฟิงจะนำที่ดินเหล่านั้นที่หลี่ซื่อกรุ๊ปของเราต้องการกลับมาได้แน่ ในเมื่อเขารับปากกับฉันแล้ว งั้นก็จะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง”“หึ งั้นเธอพูดแบบนี้ ฉันก็ยังไม่กลับไปก่อนชั่วคราว”จางซินพูดหน้าด้านๆ:“ฉันอยากดูว่าหลินเฟิงคนนั้นมีความสามารถอะไร! ถูกเธอยกยอปอปั้นได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้”“หลี่ฮุ่ยหราน ถ้าหากหลินเฟิงไม่สามารถนำที่ดินมาจากในมือของเผิงกวงฉี่ได้ เธอจะว่ายังไง?”“งั้นฉันถอนตัวจากประธานบริษัทหลี่ซื่อกรุ๊ป”หลี่ฮุ่ยหรานหัวเราะเยาะ และกลับเข้าไปที่ห้องทำงานของตัวเอง“ฮ่าฮ่า ดี...เธอพูดเองนะ!”จางซินหัวเราะเสียงดังตอนนี้เธอโมโหจนหน้ามืดตามัวไปหมดไม่เพียงเพราะเรื่องของจ้าวเว่ย ยิ่งเป็นเพราะหลี่
“คุณหลินมีความสามารถขนาดนี้ ทำไมถึงได้...ได้เป็นเพียงแค่หัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัย?! นี่มันช่าง...”หลังจากเผิงกวงฉี่ตั้งตัวได้ ก็ไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะดีตามหลักแล้ว หลินเฟิงคนที่มีความสามารถขนาดนี้ ต่อให้แย่แค่ไหนก็ควรจะเป็นกรรมการบริษัท เข้าร่วมในการวางแผนของบริษัทแต่คิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงจะเป็นแค่หัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยเท่านั้นพูดให้ดูแย่หน่อย ก็คือหัวหน้ายามนี่ทำให้เผิงกวงฉี่รับมือไม่ทัน“หึหึ...”หลินเฟิงก็ไม่ได้รู้สึกโมโห เพียงแค่หัวเราะ และไม่ได้พูดอะไรมากมายนักเผิงกวงฉี่กลับทอดถอนใจเล็กน้อย จากนั้นมองหลินเฟิงที่อยู่ข้างๆ พูดเชื้อเชิญด้วยความจริงใจว่า:“คุณหลิน เทียบกับการเป็นแค่หัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยเล็กๆ ที่นี่ ไม่สู้มาเผิงกวงกรุ๊ปของผมดีกว่า”“ผมจะจัดตำแหน่งที่เหมาะสมกับสถานะของคุณให้ อีกทั้งขอให้คุณเป็นกรรมการบริษัท เข้าร่วมแผนงานของเผิงกวงกรุ๊ป”“เชื่อผมนะครับ คุณอยู่ที่เผิงกวงกรุ๊ป จะต้องมีอนาคตที่สูงกว่าตอนนี้อย่างแน่นอน”เผชิญหน้ากับการเชื้อเชิญของเผิงกวงฉี่ หลินเฟิงปฏิเสธอ้อมๆ“ผมเกิดมาชอบความอิสระ ไม่ชอบการผูกมัด โดยเฉพาะเรื่องซับซ้อนภา
แต่ทว่าหลินเฟิงที่อยู่ข้างๆ กลับพบเห็นบ่อยจนชินตาแล้ว“ไม่จำเป็นต้องสนใจเธอ ก็แค่ตัวตลกคนหนึ่งก็เท่านั้น”หลินเฟิงโบกมือ และเรียกเผิงกวงฉี่ให้อ้อมจางซิน เข้าไปในห้องทำงานของหลี่ฮุยหราน“เอ๊ะ เดี๋ยวสิ”จู่ๆ จางซินก็ก้าวเดินเข้ามา ขวางทางของเผิงกวงฉี่“คุณมีธุระอะไรไหมครับ?”เผิงกวงฉี่เห็นในดวงตาของผู้หญิงคนนี้เต็มไปด้วยความดูถูก ในใจก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเขาเป็นถึงเศรษฐีอันดับหนึ่งที่มีชื่อเสียงของหัวตงปกติแล้วใครกล้าใช้ท่าทางแบบนี้ปฏิบัติต่อเขากัน?“ให้ฉันเดาดูนะ คุณคงไม่ใช่เผิงกวงฉี่เศรษฐีอันดับหนึ่งของหัวตงที่หลินเฟิงเชิญมาหรอกนะ?”จางซินพูดไปพูดมา ก็ตั้งใจเคลื่อนสายตาไปที่ตัวหลินเฟิง“ถูกต้อง ผมเองครับ”เผิงกวงฉี่พยักหน้าเรียบๆ“จางซิน ฉันเตือนเธอให้เจียมตัวหน่อย อย่าหาเรื่องใส่ตัว”หลินเฟิงขมวดคิ้วตวาดเสียงเย็นชา“ไม่ไม่ไม่ ฉันจะหาเรื่องใส่ตัวได้ยังไงล่ะ!”จางซินหัวเราะเยาะ จ้องมองเผิงกวงฉี่ที่อยู่ตรงหน้า จากนั้นส่งเสียงจุ๊ปากพูดด้วยความประหลาดใจ:“นายพูดสิ หลินเฟิง นายจ้างนักแสดงมาทำไมถึงไม่จ้างคนที่เป็นมืออาชีพหน่อย หาคนที่สีหน้าซีดเซียว เหมือนวินาทีต่อไปจะนอน
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ