หวางเส้าหลงพูดขึ้นทันที “ฮุ่ยหราน พวกเราอย่าเสียเวลาเปลืองน้ำลายไปพูดกับคนบ้านี้เลย” “วันนี้มีเรื่องมากมาย ผมคิดว่าคุณคงเหนื่อยแย่แล้ว” “ผมเปิดห้องวีไอพีไว้ที่โรงแรมเทียนอวี่ คุณกับคุณป้าไปพักผ่อนก่อนดีกว่าไหม?”จางกุ้ยหลานตอบตกลงอยู่หลายครั้ง “ดีเลย ดีเลย วันนี้ฉันเหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว” “ลูกสาว พวกเราไปกันเถอะ”จางกุ้ยหลานดึงมือลูกสาวอย่างเร่งเร้าหลี่ฮุ่ยหรานยืนนิ่งอยู่กับที่ “แม่คะช่างมันเถอะ”เธอรู้ดีว่าหวางเส้าหลงกำลังคิดอะไรอยู่แต่ว่าตอนนี้เธอยังไม่พร้อมที่จะเริ่มความสัมพันธ์ใหม่จางกุ้ยหลานเหลือบมองไปที่หลินเฟิง “ช่างมันอะไรกัน ลูกจะรีบกลับบ้านเร็วไปทำไม? ยังไงเสียที่บ้านก็ไม่มีผู้ชาย”เมื่อหวางเส้าหลงเห็นแบบนั้น เขาก็รีบตีเหล็กในขณะที่ยังร้อนอยู่ “ใช่แล้ว ฮุ่ยหราน ดีเลยคืนนี้พวกเราจะได้คุยกันต่อเรื่องการเซ็นสัญญาในวันพรุ่งนี้”ในเวลานี้ หลินเฟิงลุกขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางเย็นชา แต่น้ำเสียงของเขากลับเต็มไปด้วยความโกรธ “หลี่ฮุ่ยหราน ผมแนะนำให้คุณรีบกลับบ้านอย่าเถลไถลไปไหน”ภรรยาของตัวเองที่เพิ่งจะหย่าได้สองวัน จะไปเปิดห้องกับชายอื่นเสียแล้วในใจของหลินเฟิงรู้สึกโกรธขึ้นมาอย่างไม
ภายในห้องมีโต๊ะอยู่เพียงตัวเดียว ซึ่งในตอนนี้หลายคนก็ได้นั่งไปแล้วถังหว่านยิ้มและพูดว่า “หลินเฟิง ฉันขอแนะนำคุณสักหน่อย” “ท่านนี้คือผู้ว่าเมืองเจียงโจว หลิวกั๋วฮุย”ท่านแรกเป็นชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าทรงเหลี่ยมน่าเกรงขามพยักหน้าให้เล็กน้อยหลินเฟิงยกมือขึ้นคารวะแล้วพูดว่า “ผมเคยพบกับท่านผู้ว่าหลิวแล้ว”จากนั้นเธอก็ค่อย ๆ ไล่แนะนำต่อไปเรื่อย ๆ “ท่านนี้คือประธานหอการค้าเจียงโจว ท่านผู้นำแห่งสำนักเจียงโจวเทียนเตา ท่านผู้นำอุตสาหกรรมยาสมุนไพรเจียงโจว...”หลังจากแนะนำไปแล้วรอบหนึ่ง ผู้คนบนโต๊ะเกือบทั้งหมดต่างก็เป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในเมืองเจียงโจวหลินเฟิงคำนับทักทายพวกเขาทีละคนสุดท้ายถังหว่านก็ได้แนะนำเขาให้ทุกคนรู้จัก “ท่านนี้ก็คือหลินเฟิงที่ฉันพูดถึง”ท่านผู้นำแห่งสำนักเจียงโจวเทียนเตากล่าวขึ้นทันที “ดูจากมารยาทของคุณหลินแล้ว คงจะเคยฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาอยู่บ้าง”หลินเฟิงกล่าวอย่างถ่อมตัว “พอรู้แค่เล็กน้อย ไม่ถึงกับเก่งกาจอะไรหรอกครับ”เกี่ยวกับเรื่องที่หลินเฟิงฝึกพัฒนาหัตถ์สายฟ้า ถังหว่านยังไม่ได้พูดขึ้นมาให้ใครฟังและก็ยังสั่งให้ฉินอิ๋งเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับอย่างเด็ดขาด
ระหว่างคิ้วของหลินเฟิงแสดงถึงความมั่นใจอย่างแน่วแน่ “ไม่เพียงเท่านั้น ท่านผู้ว่าหลิวทุกเช้าหลังจากตื่นนอนจะรู้สึกได้ว่ากล้ามเนื้อเอวเมื่อยล้า แขนขาอ่อนแรง”หลิวกั๋วฮุยสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ และมองไปที่หลินเฟิงอย่างจริงจัง “คุณรู้ได้อย่างไร?”เจ้าเด็กนี่ยังไม่เคยได้จับชีพจรของเขาเลยสักครั้ง และก็ยังไม่เคยได้ตรวจร่างกายของเขาเลยอาจจะเป็นไปได้ว่าถังหว่านไปเล่าอาการป่วยของตัวเองให้เขารู้ก่อนหน้านี้?”หลินเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “อาการเจ็บป่วยทั้งหมดของท่านผู้ว่าหลิวต่างเขียนแสดงอยู่บนใบหน้า แค่มองก็รู้แล้ว”หลิวกั๋วเฟิงหัวเราะเยาะออกมา “แค่มองหน้าฉันก็สามารถรู้อาการของฉันได้หมดเลยหรอ?” “ถ้าอย่างนั้นนายลองบอกมาว่าแท้จริงแล้วฉันเป็นโรคอะไร?”หลินเฟิงตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา “เลือดและลมปราณพร่อง ไฟหยินกำเริบ จัดอยู่ในกลุ่มอาการของหัวใจและปอด” “ท่านผู้ว่าหลิวป่วยเป็นโรคปอดขั้นรุนแรง ถ้าตามการคาดการณ์ของผมอีกไม่เกินสามวัน อาการของเขาจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่แย่ลงไปอีก” “ควรได้รับการรักษาอย่างเร็วที่สุด”ทันทีที่พูดจบ ภายในห้องก็เงียบกริบไปชั่วขณะหนึ่งวินาทีต่อมาก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้น “ฮ่าฮ
ณ โรงพยาบาลเจียงโจวหลี่เหวินเชาที่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลส่งเสียงร้องอย่างโอดครวญแขนของเขาถูกดามด้วยเฝือก ไม่สามารถขยับได้เลยแม้แต่น้อยดวงตาของจางกุ้ยหลานเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา เธอกล่าวออกมาพร้อมกับสีหน้าที่เจ็บปวด “เหวินเชา นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ใครทำร้ายลูกจนต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้ห้ะ?”หวางเส้าหลงพูดอย่างโกรธเคือง “เหวินเชา ใครทำร้ายนาย บอกฉันมา ฉันจะไปล้างแค้นให้นาย”หลี่เหวินเชาร้องอย่างโอดครวญ “จะเป็นใครไปได้ ก็ไอ้สารเลวหลินเฟิงนั่นแหละ”หลี่ฮุ่ยหรานชะงัก “คืนนี้หลินเฟิงอยู่ที่โรงแรมเทียนหวาตลอด” “เขาส่งลูกน้องมาทำร้ายผมไง!”หลี่เหวินเชากัดฟันพูดตอนแรกเขาอยู่ที่โรงแรมกำลังเตรียมตัวจะไปงานเลี้ยง แต่แล้วไอ้สารเลวเหลยเปียวนั่นก็โผล่เข้ามาทุบตีเขาอย่างรุนแรงเขาบอกเองว่าหลินเฟิงส่งเขามาเพียงแต่ว่าหลี่เหวินเชาไม่ได้บอกเรื่องที่เขาส่งคนไปทำร้ายตีแขนของหลินเฟิงก่อน”หลี่ฮุ่ยหรานกลับรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลก ๆ “ทำไมหลินเฟิงต้องหาคนมาทำร้ายนาย?”เท่าที่เธอรู้จักเขาเขาไม่ได้เป็นคนที่คิดเล็กคิดน้อยแบบนั้น?เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นเพราะแค่เห็นน้องชายของเธอขัดหูขัดตา แล้วถึงกับจะต้อง
หลินเฟิงส่ายหน้าบอก "ไม่ใช่"หลี่ฮุ่ยหรานโล่งอกไปทีแค่แป๊บเดียว จากกำปั้นที่แน่นของเธอค่อยๆคลายออก เหมือนกับยกภูเขาออกจากอก"หลินเฟิง ฉันต้องขอโทษแทนน้องฉันด้วยจริงๆ เหวินเชาไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร อย่าเอามาใส่ใจเลยนะ"ใบหน้าของหลี่ฮุ่ยหรานเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ใจตอนนี้ทั้งสองหย่ากันแล้ว เรื่องทั้งหมดก็เจ๊ากันไปเธอไม่อยากให้ครอบครัวของเธอไปหาเรื่องเขา"ผมขี้เกียจจะยุ่งกับเขา ถ้าเขาลำนึกแล้ว ก็อย่ามายุ่งกับผมอีก""ฉันจะเตือนเขาเอง"หลี่ฮุ่ยหรานก็ยอมรับเรื่องนี้เมื่อเอายาสมุนไพรเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็จะออกไปหลินเฟิงไม่ได้ทำการยื้อเวลาใด ๆภาพด้านหลังของหลี่ฮุ่ยหรานค่อยๆ ห่างออกไปจากนั้น ชายหนุ่มที่ย้อมผมสีเหลืองคนหนึ่งมาขวางทางของเธอเอาไว้เขายิ้มตาหยีและพูดว่า "รอก่อนนะครับคุณหลี่"หลี่ฮุ่ยหรานมองชายผมเหลืองที่ทำท่าทางทะลึ่งและถามอย่างระมัดระวังว่า "คุณเป็นใคร""ผมเป็นใครมันไม่สำคัญหรอก"ชายผมเหลืองทำท่าทะเล้น "พี่ใหญ่ของเราชื่นชมคุณหลี่มานานแล้ว อยากเชิญคุณไปพบหน่อย"หลี่ฮุ่ยหรานมองดูเขาแวบหนึ่งเขาผู้นี้มีผมสีเหลืองอร่าม ใส่ต่างหูสะดุดตาคู่หนึ่ง สักรอยสักที่มี
มุมปากของเขาเผยอขึ้นโดยไม่รู้ตัวเขาแอบยิ้มในใจ "สวรรค์ช่วยผมจริงๆ เป็นฮีโร่ที่ช่วยสาวงามมันช่างเพอร์เฟคอะไรอย่างนี้ คุณตกหลุมรักผมรึเปล่า?"ชายผมเหลืองจับหน้าอกตัวเองที่พึ่งถูกเตะไป และรู้ว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหวางเส้าหลงเขาชี้ไปที่หน้าของหวางเส้าหลงและพูดอย่างโกธรแค้นว่า "มีปัญญาแค่นี้หรอ คอยดูเถอะ""รอให้พี่ใหญ่ของกูมาจัดการกับมึง"หวางเส้าหลงเท้าสะเอวและพูดตะเบ่งเสียงออกมาว่า "กูจะรอมึงอยู่ที่นี่ ถ้ามึงไม่มานะ มึงก็เป็นหลานชายของผมแล้ว"ชายผมสีเหลืองไม่คิดว่าผู้ชายคนนี้จะแข็งแกร่งแบบนี้ เขาจึงรีบกลับไปเรียกคนมา"ฮื้อ"หวางเส้าหลงส่งเสียงอย่างหงุดหงิด และหันไปดูหลี่ฮุ่ยหรานเขาถามเธอด้วยความใส่ใจ "ฮุ่ยหราน คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?"หลี่ฮุ่ยหรานส่ายหน้าไปมา แต่ดวงตาของเธอมองไปตรงหลินเฟิงที่ห่างไปไม่ไกลเธอคิดว่าหลินเฟิงจะเป็นคนที่ช่วยเหลือเธอได้ในช่วงวิกฤตแต่ในที่สุดเขาก็ยืนไม่สนใจอยู่ตรงนั้นความผิดหวังเกิดขึ้นในใจของเธอเธออาจจะไม่มีตัวตนในสายตาของเขาแล้วหวางเส้าหลงมองตามสายตาของเธอไปแล้วก็เห็นว่าหลินเฟิงอยู่ที่นี่สายตาที่อ่อนนุ่มนั้นกลายเป็นเย็นชาไปในทันที "คนแซ
ในแผนกผู้ป่วยในของโรงพยาบาลเมืองเจียงโจวหลี่ฮุ่ยหรานเอนตัวและก้มหน้าลงครุ่นคิดอะไรบางอย่างในทางเดินหวางเส้าหลงเข้ามาและถามอย่างอ่อนโยน "ฮุ่ยหราน คุณกำลังคิดอะไรอยู่""ไม่มีอะไร"หวางเส้าหลงถามหยั่งเชิง "ไม่ใช่ว่าคิดถึงหลินเฟิงอยู่เหรอ?"หลี่ฮุ่ยหรานฝืนยิ้มและส่ายหน้า "ฉันจะคิดถึงเขาทำไม""ใช่ครับ ไอ้ขยะนี่ คุณรีบลืมเขาไปเถอะ"หวางเส้าหลงดูถูกเขาและพูดต่อว่า "แม้ว่าคุณจะเป็นภรรยาเก่าของเขา แต่พอเห็นว่าคุณตกอยู่ในอันตราย เขาก็กลับไม่กล้าเข้าไปช่วย""ผู้ชายแบบนี้ไว้ใจไม่ได้เลย"หลี่ฮุ่ยหรานพยักหน้าคุณหวางถือโอกาสหยิบแหวนเพชรออกมาจากกระเป๋าของเขาเขามองเธออย่างรักใคร่ "ฮุ่ยหราน นี่คือรุ่นล่าสุดของห้างเทียนเป่าหวีอวี้หางเลยนะ ผมตั้งใจซื้อมาให้คุณโดยเฉพาะ""เดิมทีอยากซื้อเป็นของขวัญสำหรับความร่วมมือกับตระกูลถัง แต่น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสจะให้คุณเมื่อวานนี้"หลี่ฮุ่ยหรานตกใจมาก "คุณหวาง มันหมายถึงอะไร""ฮุ่ยหราน คุณไม่รู้ความหมายของน้ำใจของผมจริงๆหรอ?" สายตาของหวางเส้าหลงร้อนผ่าวมาก และจ้องมองเธออย่างตั้งใจหลี่ฮุ่ยหรานไม่กล้าสบตากลับ "คุณหวาง น้ำใจคุณฉันรับไว้แล้ว แต่ฉันคิด
แอบด่าในใจว่าจางกุ้ยหลานมันปัญญาอ่อนซะจริงๆพวกมันมีคนมากมายขนาดนั้น ตัวเขาเองจะไปต่อสู้ได้อย่างไรตอนนี้เขาจะวิ่งหนีก็ไม่ได้ ไม่หนีก็ไม่ได้ชายผมเหลืองนึกขึ้นได้ว่ามีคนหนึ่งจึงชี้ไปที่หวางเส้าหลงที่อยู่ด้านหลังและพูดว่า "พี่ใหญ่ ไอ้เหี้ยนี่ที่ตีผมเอง"ชั่วครู่หนึ่ง สายตาของคนพวกนี้ก็มองตรงไปที่เขาหวางเส้าหลงรู้สึกพะว้าพะวังอย่างมากเขากัดฟันเดินไปข้างหน้าหลี่ฮุ่ยหรานเพื่อปกป้องเธอให้หลบอยู่ข้างหลังเขาเขาจำใจต้องพูดว่า "ทุกคนต่างก็มีหน้ามีตาในสังคม""ตอนนี้เราก็อยู่ในสังคม ใช้มีดใช้ขวานมาตีกันแบบมันไม่ดีนะ ทุกคนไว้หน้าผมบ้าง ผมจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลของน้องชายคุณให้แล้วกันดีไหม""เรื่องนี้ช่างมันเถอะ""ฉาด" พี่ใหญ่ยกมือตบหน้าเขาหนึ่งทีตบหวางเส้าหลงจนมึนงงรู้สึกเวียนหัวและตาลาย"มึงคือใครวะต้องไว้หน้ามึง?"หวางเส้าหลงรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก เพราะเขาถูกตบหน้าสามครั้งแล้วภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งวันเขาพูดด้วยความโกรธว่า "ผมเป็นหวางเส้าหลงของตระกูลหวาง""หวางเส้าหลงอะไรวะ กูไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน จัดการมันซะ!"พอพี่ใหญ่ออกคำสั่งลูกน้องที่อยู่ข้างหลังเขาก็รีบพุ่งเข้าไป