“เอ่อ...นี่เป็นเพราะอะไรครับ?” หลินฝานงุนงงเล็กน้อยในทันที เขาไม่เข้าใจเหตุผลหลินเฟิงครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น “แฟนสาวของคุณคนนี้...ไม่ใช่คนประเภทเดียวกับคุณ”หลินฝานได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วทันที “คุณพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไรครับ?”“หลินเฟิง ครอบครัวของพวกเราในตอนนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับคุณ คุณอย่ามายุ่งเรื่องครอบครัวของพวกเรา”ในสายตาของเขา แฟนของเขาพูดโน้มน้าวเก่ง รู้จักปรับตัว และไม่เคยรังเกียจที่เขายากจนหลินเฟิงเป็นคนนอก มีสิทธิอะไรมาชี้นำหวงเสี่ยวม่าน?แต่ที่เขาไม่รู้ก็คือ ข้อเสียของหวงเสี่ยวม่านเพียงหนึ่งเดียวก็คือชอบสวมเขาให้เขาหลินเฟิงได้ยินก็พูดไม่ออกชั่วขณะหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็ยังพูดเตือนขึ้นมา “อันที่จริงผมไม่ได้อยากยุ่งเรื่องครอบครัวของคุณ”“เพียงแต่แค่เตือนคุณไว้ก็เท่านั้น”“พอแล้ว นี่ไม่เกี่ยวกับคุณ คุณกลับไปได้แล้ว” หลินฝานก็ไม่ได้ไว้หน้าเขา และไล่เขาไปในทันทีในตอนนั้นหลินเสวี่ยฮุ่ยก็กลับมาจากด้านนอกพอดีเห็นพี่ชายของตัวเองตะโกนเสียงดังใส่หลินเฟิง เธอจึงรีบเข้ามาถาม “พี่ นี่เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”“ไม่มีอะไร”หลินฝานตวาดใส่หลินเฟิง “ต่อไป
“เสี่ยวม่าน เสื้อผ้าของคุณเกิดอะไรขึ้น?” หลินฝานสังเกตเห็นคอเสื้อของแฟนสาวของเขาเปิดออกกว้างหวงเสี่ยวม่านหยุดชะงัก และก้มหน้าดู จากนั้นก็รีบจับคอเสื้อไว้มิดชิดแล้วพูดขึ้น “อ่อ...ฉันไม่รู้ว่ากระดุมหลุดไปตอนไหน”เมื่อครู่ที่ห้องน้ำทั้งสองคนรีบร้อนเกินไป กระดุมจึงถูกกระชากหลุดหลินฝานรู้สึกกลัดกลุ้มใจเล็กน้อย ในตอนที่อยากจะจี้ถามต่อพยาบาลคนหนึ่งก็เดินเข้ามา “ใครคือญาติของจ้าวเฉียวอวิ๋นคะ?”หลินฝานรีบเดินเข้าไปพูด “ผมครับ ผมคือลูกชายของจ้าวเฉียวอวิ๋น”“ตอนนี้แม่ของคุณสามารถย้ายไปที่ห้องพักพิเศษได้แล้วค่ะ” พยาบาลพูดหลินฝานไม่ได้รู้สึกแปลกใจมากนัก ในเมื่อเมื่อครู่นี้เซี่ยสือซินพูดเอาไว้แล้วเขาพยักหน้าติดต่อกันแล้วพูดขึ้น “งั้นพวกเราต้องไปจ่ายเงินที่ไหนครับ?”“จ่ายเงินอะไรคะ?”พยาบาลชะงักแล้วพูด “ห้องพักพิเศษห้องนี้ผู้อำนวยการหวังเป็นคนอนุญาตพิเศษ พวกคุณรีบตามฉันมาเถอะค่ะ”“ผู้อำนวยการหวัง? ใช่ผู้อำนวยการหวังท่านนั้นของโรงพยาบาลเจียงโจวเหรอครับ?” หลินฝานถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ“แน่นอน ไม่อย่างนั้นยังจะเป็นใครได้อีกคะ?” พยาบาลพูดครอบครัวของหลินฝานมองไปทางเซี่ยสือซินหวงเสี่ยว
“ต้องให้มาด้วยเหรอ? พวกเราไม่ได้เรียกเขาสักหน่อย” หลินฝานสีหน้าเย็นชาอยากจะไล่หลินเฟิงกลับไปหลินเสวี่ยฮุ่ยรู้สึกเก้กังอย่างมาก“เอาล่ะ ในเมื่อเป็นแบบนี้ผมกลับไปก็ได้” หลินเฟิงเห็นท่าทางยืนหยัดของเขา จึงไม่ได้พูดอะไรอีกจากนั้นก็หันหลังเดินจากไปหลินเสวี่ยฮุ่ยเห็นแบบนั้นก็รีบตามออกมา“พี่หลินเฟิง เรื่องวันนี้ขอโทษด้วยจริง ๆ ค่ะ”หลินเสวี่ยฮุ่ยรีบตามหลินเฟิงไป “พี่ชายของฉันเป็นเพราะกังวลเรื่องอาการป่วยของคุณแม่ วันนี้พูดจาแย่ไปหน่อย พี่อย่าเก็บไปใส่ใจเด็ดขาดนะคะ”หลินเฟิงยิ้มแล้วลูบศรีษะของเธอจากนั้นก็พูดขึ้น “วางใจเถอะ ผมไม่ได้ใจแคบขนาดนั้น”“คุณรีบกลับไปเถอะ”“มีเรื่องอะไรติดต่อผมได้ทันที”หลินเสวี่ยฮุ่ยจ้องมองหลินเฟิงอย่างละเอียด มองดูรอยยิ้มที่สุภาพอ่อนโยนของเขา คิดว่าเขาไม่ได้โกรธจริง ๆ ถึงได้พยักหน้าและกลับไปที่ห้องพักผู้ป่วยหลินเฟิงเพิ่งเดินออกจากประตูโรงพยาบาล ก็เจอกับจางเจียหนิงที่ขับรถมาในมือของเธอยังถือของบำรุงมากมาย“คุณจาง คุณมาได้อย่างไรครับ?” หลินเฟิงถามขึ้นด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยจางเจียหนิงรีบพูดอธิบาย “คุณบอกว่าญาติของคุณป่วยไม่ใช่เหรอคะ? ฉันถึงได
“หัวหน้าหวัง วันนี้รบกวนคุณจริง ๆ ครับ”เซี่ยสือซินพูดด้วยความซาบซึ้ง “วันนี้ถ้าไม่ได้คุณ คุณแม่ของพนักงานของผมก็คงต้องเบียดกันอยู่ที่ห้องผู้ป่วยทั่วไปแล้ว”“หลินฝาน รีบมาสิ ฉันแนะนำให้นายรู้จักหน่อย ท่านนี้ก็คือหัวหน้าหวัง”หลินฝานรีบเดินเข้ามา และจับมือกับหัวหน้าหวังด้วยความตื่นเต้น “หัวหน้าหวังผมชื่อหลินฝาน เป็นพนักงานของเถ้าแก่เซี่ย วันนี้รบกวนคุณมากจริง ๆ ครับ”หวังเหว่ยเพียงแค่ตบไหล่ของเขาแล้วพยักหน้าพูด “เจ้าหนุ่ม ดูแลแม่ของนายให้ดี ๆ แต่เรื่องวันนี้ไม่ใช่ฉันเป็นคนช่วยเหลือ”“ห้องพักพิเศษมีเพียงแค่ห้องเดียว เก็บเตรียมเอาไว้สำหรับบุคคลใหญ่โตที่เกิดเรื่องขึ้นกะทันหัน ให้พวกคุณอยู่ที่นี่ได้เป็นการอนุญาตจากผู้อำนวยการหวังทั้งนั้น”เซี่ยสือซินยังคิดว่าหวังเหว่ยเพียงแค่ถ่อมตัวเท่านั้นจึงพูดขึ้นทันที “หัวหน้าหวังถ่อมตัวเกินไปแล้วครับ พวกเรามีสิทธิได้พูดคุยกับผู้อำนวยการหวังที่ไหนกันล่ะครับ”“ในนี้ยังต้องพึ่งพาคุณอยู่ดีครับ”หวังเหว่ยกลอกตา รู้สึกว่าสมองของเซี่ยสือซินไม่ค่อยดีเท่าไหร่“คุณคิดมากไปแล้ว ผมก็ไม่มีสิทธ์คุยกับผู้อำนวยหวังเช่นกัน”“ห๊ะ?” เซี่ยสือซินชะงัก ไม่ใช่เขาเป
“ห๊ะ?” หลินเสวี่ยฮุ่ยชะงักทันทีเธอกับหลินเฟิงเป็นเพียงแค่เพื่อนกันทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้เป็นน้องสาวแท้ ๆ อะไรนะ!จางเจียหนิงก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแค่จ้องมองหลินเสวี่ยฮุ่ยอย่างละเอียดแล้วพยักหน้า“เป็นคนที่มีเค้าโครงความสวยจริง ๆ”“เอาล่ะ พวกคุณออกไปก่อนเถอะ ฉันกับผู้อำนวยการหวังจะขอศึกษาอาการป่วยของคุณแม่พวกคุณสักหน่อย”จางเจียหนิงเอ่ยปาก พวกเขาก็พยักหน้ากันติด ๆในเมื่อยังมีผู้อำนวยการของโรงพยาบาลเจียงโจวอยู่ด้วยทุกคนก็ออกจากห้องพักหลินเสวี่ยฮุ่ยพูด “พี่ใหญ่ ฉันบอกแล้ว เมื่อครู่ไม่ควรจะไล่หลินเฟิงออกไป ครั้งหน้าเจอกับหลินเฟิงอีกครั้งพี่ควรจะอธิบายอย่างไร?”หลินฝานสีหน้าเก้กังถึงแม้ในใจจะรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่เมื่อนึกได้ว่าเขาใส่ร้ายป้ายสีแฟนสาวของตัวเองก็โมโหขึ้นมาไม่ใช่แค่เรื่องเดียว“แล้วจะอย่างไรล่ะ? หรือว่าพวกเราตระกูลหลินไม่มีเขาแล้วจะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้แล้วเหรอ?”“อีกอย่างต่อไปเธอก็ไปมาหาสู่กับหลินเฟิงให้น้อย ๆ หน่อย ฉันดูแล้วไอ้หมอนี่ก็แค่อยากได้ร่างกายของเธอ”หลินเฟิงคนนี้ความสามารถเก่งกาจ แถมยังมีเส้นสายทำไมต้องต้องดีกับครอบครัวของเขาขนาดนี้ด้วย?วันนี้ก็ยั
หลินฝานพูดอย่างคลุมเครือ “ให้ฉันพูดนะไอ้หมอนี่ต้องชอบเสวี่ยฮุ่ยแน่ ๆ”“ดังนั้นถึงได้กระตือรือร้นแบบนี้”หลินเสวี่ยฮุ่ยใบหน้าน้อย ๆ แดงก่ำ “พี่ใหญ่ พี่อย่าพูดแบบนี้ ต่อให้เขาชอบฉันจริง ๆ เขาก็ไม่ได้ทำเรื่องอะไรไม่ดีสักหน่อย”“ทำไมพี่ต้องไม่ชอบเขาขนาดนี้ด้วยนะ?”หลินฝานโบกมือแล้วพูดอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ “โอ้ย น้องสาว เธอกับหลินเฟิงฐานะไม่เท่าเทียมกัน เธอไม่เห็นผู้หญิงพวกนั้นที่อยู่ข้างกายของเขาเหรอ?”“คนไหนบ้างที่เป็นบุคคลธรรมดารับมือได้ง่าย เธอคิดว่าเขาชอบเธอจริง ๆ เหรอ อ้าปากปิดปากก็เรียกน้องสาว รอให้เขาเล่นจนพอ ก็จะถีบหัวส่ง”หลินเสวี่ยฮุ่ยพูดไม่ออกชั่วขณะ ในใจรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยในเมื่อพี่ชายของตัวเองพูดความจริง ผู้หญิงที่อยู่ข้างกายของหลินเฟิงแต่ละคนไม่ธรรมดาจริง ๆจ้าวเฉียวอวิ๋นสูดหายใจเข้าลึก ๆ และครุ่นคิดถึงคำพูดของลูกชายอย่างละเอียดมีจุดหนึ่งที่เธอไม่เห็นด้วยอย่างมากเพราะว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างกายของหลินเฟิงสวยระดับชาติจริง ๆ ลูกสาวของตัวเองเทียบไม่ได้ด้วยซ้ำแต่อีกฝ่ายก็ยังเปลืองแรงมาเอาใจครอบครัวของเธอหรือว่า...เขาก็คือพี่ชายแท้ ๆ ของเสวี่ยฮุ่ยจริง ๆ?หลินเสวี่ยฮุ่ยเป็น
หลี่ว์เจิ้งหยางยิ้มบางเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น “แน่นอนอยู่แล้ว คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่ายาปรับประสานพลังของตระกูลถังจะแซงหน้ายาบำรุงสตรีของตระกูลเซี่ยง”“ครั้งนี้พวกเราจะต้องเอาสิทธิการเป็นตัวแทนของยาปรับประสานพลังมาให้ได้”แน่นอนว่า ถ้าหากสามารถเอาสูตรยาของยาปรับประสานพลังมาได้ก็คงจะดีอย่างมากจางซินที่อยู่ด้านข้างพยักหน้า “คุณชายหลี่ว์ ถ้าหากได้สิทธิการเป็นตัวแทนของยาปรับประสานพลังมาได้ คุณอย่าลืมหุ้นส่วนส่วนนั้นของฉันนะคะ”สองวันมานี้หลี่ว์เจิ้งหยางกับจางซินคลุกคลีอยู่ด้วยกันด้วยความสามารถโน้มน้าวผู้หญิงของหลี่ว์เจิ้งหยาง จางซินก็ถูกเกลี้ยกล่อมให้คล้อยตามด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำและก็กู้เงินมาลงทุนให้เขาห้าสิบล้านบาทหลี่ว์เจิ้งหยางโอบเอวของจางซินเอาไว้แล้วยิ้มบาง “นั่นแน่นอนอยู่แล้ว เธอมีหัวการค้ามากกว่าพี่สาวของเธอเยอะเลย”จางซินถูกชมจนลำพองใจอย่างมาก “ชิ ถ้าฉันมีธุรกิจของครอบครัว หลี่ฮุ่ยหรานจะเอาอะไรมาเทียบกับฉัน”หลี่ว์เจิ้งหยางยิ้มบาง ผู้หญิงคนนี้เห็นตัวเองเป็นบุคคลสำคัญไปซะแล้วถึงแม้ในใจจะดูถูก แต่ปากก็ยังพูดว่า “เอาล่ะ พวกเรารีบเข้าไปกันเถอะ งานสิทธิการเป็นตัวแทนจะเริ่มต้นขึ้
กัวฮ่าวยิ้มบางหลี่ว์เจิ้งหยางก็พูดแนะนำอีก “ผู้จัดการกัว ท่านนี้ก็คือจางซิน ลูกพี่ลูกน้องของประธานบริษัทหลี่ซื่อกรุ๊ปที่ผมบอกคุณก่อนหน้านี้”“อ่อ...ที่แท้ก็คุณจางนี่เอง”กัวฮ่าวมองไปทางหลี่ว์เจิ้งหยางแล้วพูดด้วยความสนใจ “คุณชายหลี่ว์มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามไปทั่วจริง ๆ นะครับ”“เดินไปที่ไหนก็มีสาวสวยคอยอยู่เคียงข้าง!”“ฮ่าฮ่าฮ่า...ผู้จัดการกัวพูดคุยได้ขำจริง ๆ ครับ”หลี่ว์เจิ้งหยางหัวเราะเสียงดัง จากนั้นก็ถามขึ้นทันที “ผู้จัดการกัวสิทธิ์การเป็นตัวแทนยาปรับประสานพลังในครั้งนี้...”เมื่อพูดถึงเรื่องเป็นการเป็นงาน กัวฮ่าวสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันทีเขาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “คุณชายหลี่ว์ ครั้งนี้คนที่มาเข้าร่วมการเป็นตัวแทนยาปรับประสานพลัง ต่างเป็นตระกูลใหญ่โตของภาคกลาง การแข่งขันของคุณไม่น้อยเลย”หลี่ว์เจิ้งหยางรีบพูดขึ้น “จุดนี้ผมรู้อยู่แล้วครับ”“เพียงแต่เนื่องจากความสัมพันธ์ของพวกเรา ผมเชื่อว่าผู้จัดการกัวยังมีวิธีอยู่”“อีกอย่างครั้งนี้ยังมีหลี่ซื่อกรุ๊ปเข้าร่วมด้วย คุณจางก็เลื่อมใสคุณมานานมากแล้ว”ในตอนนี้กัวฮ่าวยิ้มมุมปาก แล้วตบบ่าของเขา “วางใจเถอะ ในเมื่อผมรับปากเรื่องของคุ
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ