หลานเฟยตกตะลึงในทันที ตัวเองทำได้เงียบเชียบขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่ายังถูกจับได้อีก?ในเมื่อถูกจับได้แล้ว เธอก็ไม่แอบซ่อนอีกต่อไป“ใครให้ความกล้ากับพวกนายที่กล้าลักพาตัวคุณหนูตระกูลถัง รีบปล่อยคนไปซะ แล้วจะไว้ชีวิตพวกนาย”เสียงหัวเราะเยาะดังออกมาจากลานจอดรถใต้ดินที่ว่างเปล่า“อุ๊ยอุ๊ยอุ๊ย เป็นเด็กผู้หญิงซะด้วย ไอ้คนสกุลหลินคนนั้นไม่ได้มาด้วยเหรอ?”“หึ เขามาแล้วจะมีประโยชน์อะไร? เจ๊คนเดียวก็เพียงพอที่จะจัดการพวกนายได้แล้ว” หลานเฟยพูดออกมาอย่างเหยียดหยาม“หึหึ ดูเหมือนว่าพวกคุณจะฟังไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณชายเซี่ยงพูดนะ งั้นก็ไปตายซะเถอะ”หลานเฟยขมวดคิ้วแน่น คิดไม่ถึงว่าคนที่พูดคนนี้จะไม่ใช่เซี่ยงหลง?ในตอนที่เธอกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ก็มีลมกระโชกแรงพัดเข้ามาที่ตัวเองทันใดนั้นหลานเฟยก็หลบออกไปทันที แต่ลมที่แรงราวกับใบมีดแหลมคมนั้นตัดโดนเส้นผมที่ด้านหน้าของเธอเธอตกใจจนหน้าถอดสี และตกตะลึงอย่างมาก “รวดเร็วเป็นอย่างมาก”หลานเฟยอาศัยสัญชาตญาณหลบหลีกการโจมตีนี้ แต่พรรคพวกด้านหลังของเธอกลับไม่ได้โชคดีแบบนี้พวกเขาไม่ได้มีความสามารถเท่าหลานเฟย และยิ่งไปกว่านั้นลานจอดรถใต้ดินก็มืดจนมองไม
“ทำไมฉันไม่เคยได้ยินในการจัดอันดับโลกมาก่อน?”เธอเป็นปรมาจารย์อันดับที่ยี่สิบของการจัดอันดับโลก บุคคคลนี้ก็เกือบจะฆ่าตัวเองในชั่วพริบตาความสามารถของบุคคลนี้อย่างน้อยก็เป็นหนึ่งในสิบอันดับแรกของการจัดอันดับโลก แต่ปรมาจารย์สิบอันดับแรกนั้นเธอต่างก็รู้จักทั้งหมดไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีคนที่เก่งเรื่องวิชาตัวเบากับวิชากรงเล็บแบบนี้ชายร่างผอมหัวเราะเยาะ “การจัดอันดับโลก? สาวน้อยดูเหมือนว่าคุณจะยังไม่รู้ว่าเหนือฟ้ายังมี เหนือคนยังมีคนมันหมายความอย่างไรสินะไม่ใช่ว่าปรมาจารย์ทุกคนในโลกจะไปแย่งชิงชื่อเสียงจอมปลอมแบบนี้”หลานเฟยตกตะลึง ไม่ใช่ปรมาจารย์อันดับโลก แต่คนผู้นี้มีความเชี่ยวชาญเรื่องของศิลปะการต่อสู้อย่างมาก ก็ต้องเป็นปรมาจารย์สำนักแน่นอนตัวเองดูถูกปรมาจารย์ในเมืองเจียงโจวต่ำไปจริง ๆ!เมื่อชายร่างผอมเห็นสีหน้าท่าทางที่เสียใจของเธอ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมาทันที“ทำไมล่ะ? เสียใจงั้นเหรอ?”หลานเฟยกัดฟันแล้วพูดขึ้นว่า “เรื่องมาถึงตอนนี้ จะฆ่าหรือหั่นเป็นชิ้น ๆ ก็ลงมือเลย ไม่จำเป็นต้องพูดไร้สาระให้มากมาย”ในฐานะนักบู๊คนหนึ่ง เธอพร้อมที่จะตายอยู่แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เธอก็ไม่ได
เมื่อหลินเฟิงเห็นก็พยักหน้าเงียบ ๆ“ไอ้สารเลว นายเนี่ยนะอยากฆ่าฉัน?” ชายคนนั้นตวาดด้วยความโมโห และเดินตรงไปทางหวงเฮ่อหวงเฮ่อยกมีดขึ้นมา ก่อนจะมีแสงเยือกเย็นแวบผ่านทั้งสองร่างผสานกันสีหน้าของชายคนนั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก ก่อนที่รูม่านตาจะขยายกว้างขึ้นก่อนที่บนหน้าอกจะรู้สึกเย็นยะเยือกเมื่อก้มลงมอง รอยเลือดลึกบนหน้าอกปรากฏขึ้นมา หัวใจก็ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน“นี่มัน...เป็นไป...ไม่ได้”“พรวด” เลือดพุ่งทะลักออกมาชายคนนั้นล้มลงไปกับพื้นเสียงดังตุบ ด้วยสีหน้าเหลือเชื่อตัวเองผ่านการสู้รบมาหลายร้อยครั้ง สังหารนักสู้มือฉกาจมาตั้งเท่าไหร่ คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะพ่ายแพ้ให้กับน้ำมือของคนวัยกลางคนหวงเฮ่อเก็บดาบในครั้งเดียว การเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วมันง่ายดายราวกับเมื่อสักครู่เพียงแค่เฉือดไก่ธรรมดาทั่วไปหลานเฟยที่เป็นล้มนั่งอยู่ที่พื้นก็รู้สึกตกตะลึง ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแน่? หรือว่าจะเป็นปรมาจารย์อันดับสวรรค์?หลินเฟยค่อย ๆ เดินไปข้าง ๆ หลานเฟย และวางมือลงบนไหล่ของเธอพร้อมกับบีบเบา ๆ“อ๊ะ....” หลานเฟยส่งเสียงร้องออกมาทันทีหลินเฟิงค่อย ๆพูด “แขนของคุณหักแล้ว ออกจากที่นี้ไปก่อ
“เอาของที่ผมต้องการมาด้วยหรือเปล่า?” เซี่ยงหลงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาหลินเฟิงค่อย ๆหยิบเช็คหนึ่งหมื่นล้านบาทกับตำรับยาปรับประสานพลังออกมาจากในกระเป๋าแล้วพูดขึ้นว่า “นี่ก็คือของที่คุณต้องการ”เซี่ยงหลงยื่นนิ้วมือมาเกี่ยวแต่ทว่าหลินเฟิงกลับเก็บสิ่งของเข้ากระเป๋าอีกครั้ง“ปล่อยถังหว่านซะ”เซี่ยงหลงขมวดคิ้ว “นี่คุณกำลังเจรจาข้อตกลงกับผมงั้นเหรอ?”ฉินเสี่ยวเทียนเอ่ยอย่างเหยียดหยาม “ผมว่านะเซี่ยงหลง นี่เป็นการค้าขายยื่นหมูยื่นแมว พวกเราเอาของมาแล้ว คุณก็ควรปล่อยคนได้แล้ว”“ฮ่าฮ่าฮ่า....”ทันใดนั้นเสียงหัวเราะของเซี่ยงหลงก็ดังขึ้น: “พวกคุณมีคุณสมบัติอะไรที่จะมาเจรจาข้อตกลงกับผม?”ฉินเสี่ยงเทียนพูดด้วยน้ำเสียงโมโห “ผมสั่งคุณในฐานะนายกรัฐมนตรีเจียงโจว สิ่งที่คุณทำอยู่มันเข้าข่ายลักพาตัว”“นายกรัฐมนตรีเจียงโจว? คิดว่าอะไรซะอีก?” เซี่ยงหลงกรอกตาไปมา“นาย...” ฉินเสี่ยวเทียนก็ถูกน้ำเสียงการพูดของเขาทำให้โกรธจนเลือดขึ้นสมองทันทีไม่ว่าอย่างไรก็ตามเขาก็คือบุคคลสำคัญในเจียงโจว คิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มคนนี้จะไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยแบบนี้เขาทนได้ที่ไหนกันเขาโกรธจนอยากจะพุ่งออกไปทันทีอยากจ
เมื่อเห็นว่าจะต้านทานไม่ไหว หนิงเวยก็ลงมือทันทีแส้ยาวที่ราวกับงูพิษฟาดไปทางหวงเฮ่อต้อนเขาจนใช้ได้เพียงแค่ยกมีดมาขวางเอาไว้หนิงข่ายคว้าโอกาสไว้ทันทีแล้วเข้าไปหนุนกำลังใบหน้าที่ดุร้ายพูดขึ้น “แม่ง ฉันกับน้องสาวบำเพ็ญวิทยายุทธจนสำเร็จเป็นเทพ เป็นพวกนายกลุ่มนี้ที่ใส่ร้ายพวกเราจนถูกไล่ออกจากตระกูล”“ไม่เคารพต่อพระเจ้า สมควรถูกฆ่า”เมื่อเห็นท่าทางที่บ้าคลั่งของเขา หวงเฮ่อก็ว่าปัญญาอ่อนในใจทันใดนั้นเขากลับทิ้งมีดแล้วถอยหลังทันทีแต่การโจมตีของสองพี่น้องกลับไม่ลดลงเลยในมือของหวงเฮ่อไม่มีมีดแล้ว การต่อสู้แบบหนึ่งต่อสองจึงยากขึ้นไม่นานก็พลาดท่า ถูกทั้งสองคนเตะกลับมาทันที“หึ”สองพี่น้องหัวเราะเยาะและพูดอย่างเหยียดหยาม “ความสามารถแค่นี้ ก็กล้ามาอวดต่อหน้าพวกเราสองพี่น้องแล้วงั้นเหรอ?”ใบหน้าของหวงเฮ่อเปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะเลือดลมสูบฉีด ตัวเองไม่สามารถสู้กับอีกฝ่ายตัวเดียวได้ เขาคิดไม่ถึงว่าตระกูลเซี่ยงจะมีปรมาจารย์ที่มากมายขนาดนี้ดูท่าว่าเพื่อล้างแค้นให้ลูกชายจะยากขึ้นไปอีกขั้นเมื่อคิดมาถึงตรงนี้เขาไม่เพียงแต่ตำหนิตัวเองเท่านั้นถังหว่านที่อยู่ข้าง ๆ คิดว่าปรมาจารย์ที่หล
“อ๊าก...” หนิงข่ายส่งเสียงออกมาอย่างน่าเวทนาพร้อมกับกริชที่หลุดออกจากมืออวัยวะภายในราวกับถูกรถบรรทุกชนอย่างแรง หน้าอกก็ยุบจนเป็นหลุม และกระเด็นออกไปเหมือนว่าวที่สายขาด“ตึง” เสียงดังขึ้น พร้อมกับร่างที่ล้มลงกับพื้นอย่างแรงเลือดไหลออกมาเต็มปาก“พี่ใหญ่” หนิงเวยที่เห็นพี่ชายของตันเองได้รับบาดเจ็บ ก็ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ ก่อนจะจับแส้ที่เหลืออยู่อีกครึ่งไว้แน่นแล้วฟาดใส่เข้าที่หัวของหลินเฟิงหลินเฟิงไม่ได้มองเธอเลยสักนิด กลับยกมือขวาขึ้นและคว้าแส้ของหนิงเวยไว้ในทันทีหนิงเวยมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็ตกใจจนหน้าถอดสี ก่อนจะพยายามดึงแส้ยาวด้วยมือทั้งสองข้างแต่หลินเฟิงก็มั่นคงราวกับเป็นภูเขา ไม่ขยับเขยื่อน“คุณก็มีแรงแค่นี้งั้นเหรอ?”หลินเฟิงเยาะเย้ยด้วยความดูถูกเหยียดหยาม เมื่อพูดจบก็ออกแรงดึง พื้นที่ใต้เท้าของหนิงเวยรองรับน้ำหนักพละกำลังนี้ไม่ไหวจึงแตกออกเป็นเสี่ยง ๆทันที ทำให้เธอลืนไหลออกไปหลายเมตรและยิ่งเข้าใกล้หลินเฟิงมากขึ้นเรื่อย ๆ“นาย...ฉันจะสู้กับนายเอง” หนิงเวยมองเห็นพละกำลังที่ไม่สามารถเทียบกับหลินเฟิงได้ก็ไม่ดึงกับหลินเฟิงอีกต่อไป แล้วจะเหยียบใต้เท้าอย่างแรงคน
“ดี ดี ดี คุณไม่ทำให้ผมผิดหวังจริง ๆ”เซี่ยงหลงพูดคำว่าดีสามครั้ง ชื่นชมหลินเฟิงอย่างเกินความเป็นจริง: “ถ้าคุณตายเร็วเกินไปงั้นก็น่าเบื่อแย่”หลินเฟิงหันหน้ามาช้า ๆ จากนั้นมองไปทางเซี่ยงหลง ในฐานะปรมาจารย์ เขารู้ตั้งนานแล้วว่าเซี่ยงหลงต่างหากที่เป็นคนที่ความสามารถแข็งแกร่งที่สุดในห้องทำงานแห่งนี้แต่หลินเฟิงยังคงไม่เห็นเข้าอยู่ในสายตาจากนั้นชี้ไปที่เท้าของตัวเองช้า ๆ: “เห็นแก่ที่คุณลำบากบำเพ็ญตน คุกเข่าขอโทษถังหว่าน ผมจะพิจารณาไว้ชีวิตคุณไม่ให้ตาย”“ฮ่าฮ่าฮ่า...”เซี่ยงหลงกลับหัวเราะเสียงดัง: “ไอ้หนุ่ม นายกล้าใช้ให้ฉันคุกเข่าให้นายงั้นเหรอ?”โอวหยางชิ่งที่อยู่ด้านข้างหัวเราะเยาะ: “ครั้งที่แล้วคนที่กล้าพูดกับอาหลงแบบนี้ ถูกหั่นเป็นแปดชิ้นใหญ่ ๆ แล้ว”เซี่ยงหลงดึงเสื้อคลุมที่อยู่บนตัวออกทันที: “ไอ้หนุ่ม วันนี้ฉันจะให้นายได้เปิดโลกว่าอะไรที่เรียกว่าความสามารถของขั้นเทพ”“อะไรนะ? ความสามารถขั้นเทพ?” ฉินเซี่ยวเทียนได้ยินแบบนี้ก็ตกตะลึงอย่างมากเซี่ยงหลงคนนี้อายุยังไม่ถึงสามสิบหรอกมั้ง? แต่กลับถึงระดับขั้นเทพแล้ว?นี่มันอัจฉริยะระดับไหนกันนะ?เซี่ยงหลงตวาดด้วยความโมโห แล้วรวบรวม
วินาทีต่อมาหลินเฟิงปล่อยชี่แท้ออกมา ชี่แท้สีขาวบริสุทธิ์ไม่มีสิ่งปนเปื้อนใด ๆ แทบจะใกล้เคียงกับสีโปร่งใส อีกทั้งชี่แท้เกาะกลุ่มกันอยู่บนตัวของหลินเฟิง เหมือนกับเป็นเสื้อเกราะล่องหนเมื่อย้อนกลับมาดูชี่แท้ของเซี่ยงหลง ยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบเทียบกับหลินเฟิงแล้วต่างกันเหมือนฟ้ากับดิน“นายก็อยู่ในขั้นเทพเหรอ?” เซี่ยงหลงตกตะลึงอย่างมาก ไม่กล้าเชื่อสายตาของตัวเองด้วยซ้ำหวงเฮ่อเห็นแบบนี้ก็ไม่อยากจะเชื่อ: “นี่...ชี่แท้ของหลินเฟิงบริสุทธิ์ถึงขั้นนี้เลยเหรอ?”“นี่เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีคนที่จะทำให้ชี่แท้บริสุทธิ์ได้ถึงขั้นนี้” ฉินเซี่ยวเทียนส่ายหน้าติดต่อกันแล้วคิดว่านี่มันเป็นไปไม่ได้คนทั่วไปทำไมได้จริง ๆ นั่นแหละ แต่หลินเฟิงเหยียบเข้าขั้นเทพสองครั้ง ชี่แท้บริสุทธิ์ทั้งสองครั้ง ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้มองดูหลินเฟิงควบคุมชี่แท้ได้อย่างดีเลิศ และชี่แท้ที่บริสุทธิ์ถึงขั้นนี้ เซี่ยงหลงเดือดเป็นฟืนเป็นไฟตั้งแต่เล็กเขาถูกเรียกว่าเป็นอัจฉริยะ เขาไม่เชื่อและไม่สามารถยอมรับได้ว่ามีคนแข็งแกร่งกว่าเขา“แม่ง วันนี้ฉันจะฆ่าแกให้ได้”เซี่ยงหลงในตอนนี้ไม่มีความใจเย็นเหมือนเมื
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ