เขาเป็นคนเดียวในเหตุการณ์ที่ดูจะไม่กังวลเลยแม้แต่น้อยในเวลานี้เมื่อคิดถึงคำพูดที่เขาพูดกับตัวเอง ในที่สุดเว่ยเชินก็อดไม่ได้ที่จะลงมือ“ฮึ่ม ถือว่ายังมีความกล้าอยู่บ้าง”หลิงเฟิงยิ้มอยู่ในใจดูเหมือนว่าเขากำลังกินข้าวอยู่ แต่ก็ไม่ได้นิ่งเฉยไม่ใช่ว่าไม่สนใจถังหว่านเขาได้ใช้หยวนชี่ทั้งห้าที่ออกมาจากชี่แท้ เพื่อสร้างตาข่ายป้องกันล้อมร่างกายของถังหว่านไว้ถ้าหากมือของบอดี้การ์ดแตะต้องถังหว่านในตอนนี้ จุดจบของบอดี้การ์ดคนนั้นก็คงจะน่าเศร้ามากแน่นอนสุดท้ายแล้วก็ถูกถังหว่านประกาศอย่างเอิกเกริกอย่างยิ่งใหญ่เพื่อให้เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัว ถ้าหลินเฟิงไม่ทำอะไรเลย มันจะเป็นการสูญเสียตำแหน่งเกินไปแต่ในเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าเว่ยเชินจะสามารถสังเกตเห็นสิ่งเหล่านี้ได้ เขายังคิดว่าหลินเฟิงไม่ได้สนใจความเป็นความตายของถังหว่านอยู่“ฮึ่ม ดูแบบนี้แล้ว ไอ้หมอนี่คงจะถูกซือหม่าหาวทำให้ตกใจจนขวัญหนีดีฟ่อแล้ว ก็เลยกินอาหารเพื่อปกปิดความสับสนวุ่นวายของในใจของตัวเองสินะ”ถึงแม้ว่าเว่ยเชินจะเกรงกลัวเบื้องหลังของซือหม่าหาว แต่ในจุดนี้ เขาจำเป็นต้องแสดงความรับผิดชอบออกมาให้มากกว่าหนุ่มน้อยที่หน้าตาดีคนนี
“เอ่อ…เอ่อ นี่ครับ”ตอนนี้บอดี้การ์ดกำลังอยู่ในสภาวะมึนงง ไม่เข้าใจว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น ทำได้เพียงนำกล่องไม้จิ้มฟันยื่นไปให้หลินเฟิงด้วยความตกตะลึงเขามองไปทางหลินเฟิงที่หยิบไม้จิ้มฟันออกมาแคะฟันอย่างงงงวยหลินเฟิงก็ชะงักงัน จากนั้นหันมองไปทางบอดี้การณ์ดคนนี้ด้วยความแปลกประหลาดแล้วพูดขึ้น: “นายดูฉันทำไม? ตอนนี้นายควรจะลงมือแทนผู้ว่าจ้างของนายต่อไม่ใช่เหรอ?”เมื่อได้ยินคำเตือนของหลินเฟิง บอดี้การ์ดคนนี้ถึงได้ตั้งตัวได้ และตะโกนด้วยความโมโห จากนั้นก็โผเข้าไปหาเว่ยเชินที่ถูกล้อมรอบไว้อยู่ผลปรากฏว่าไม่มีเรื่องประหลาดใจอะไรบอดี้การ์ดหลายคนนี้ถึงแม้ต่อสู้เก่ง แต่อยู่ต่อหน้ายอดฝีมือกำลังภายในก็ยังไม่เพียงพอเว่ยเชินคนนี้ก็มีความสามารถอยู่บ้าง ถึงแม้ผมจะยุ่งเหยิบ เสื้อผ้าจะเสียหาย แต่เขาก็ถือว่าผ่านการต่อสู้ที่ยากลำบากมาได้ยกหนึ่ง และกระทืบลูกน้องที่ซือหม่าหาวพามาจนนอนหมอบ“นึกไม่ถึงว่าจะเป็นยอดฝีมือกำลังภายใน? ไอ้หนุ่ม แกรอฉันได้เลย!”ซือหม่าหาวเห็นท่าทางไม่ดี ก็วิ่งออกไปจากห้องส่วนตัวทันที“ว้าว หล่อมาก ๆ เลยเว่ยเชิน คิดไม่ถึงว่าจะสามารถจัดการพวกเขาที่ล้อมรอบอยู่หลายคนขนาดนี้
ชุยหยวนส่งเสียงไม่พอใจออกมาด้วยความเหยียดหยาม “ถ้าหากรู้แต่แรกว่าเธอกลายเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่น่าเรียกเธอมาด้วย”“เอาเถอะ”ถังหว่านยิ้มแล้วพูด: “พวกเราทานข้าวกันต่อเถอะ”ในตอนที่ทุกคนกลับไปนั่งประจำที่ตรงที่โต๊ะอาหารอีกครั้ง จู่ ๆ นอกประตูก็มีเสียงกรีดร้องของเผิงหย่าฟางดังขึ้นมา“เกิดอะไรขึ้น?!”ในใจของทุกคนสุขุมแล้วพากันมองไปทางประตูซือหม่าหาวจากไปและก็กลับมาอีกแล้วข้างกายเขาก็มีชายวัยกลางคนที่สวมชุดจงซานสองคนติดตามมา ชายวัยกลางคนสองคนนี้ลมหายใจยาวเหยียด ท่าทางกระปรี้กระเปร่า แค่ดูก็รู้ว่าเป็นยอดฝีมือกำลังภายในอีกทั้งกำปั้นของชายวัยกลางคนสองคนนี้ยังมีหยดเลือดอยู่เล็กน้อย และเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เลือดของพวกเขา“คุณชายซือหม่า เรื่องมาจนถึงตอนนี้แล้วยังไม่ยอมแพ้อีกเหรอ?”“ยอมแพ้?”ซือหม่าหาวหัวเราะเสียงดัง และไม่ได้มีสีหน้าที่ดีเหมือนอย่างเมื่อครู่แล้ว เขามีสีหน้าดุดัน และหัวเราะอย่างบ้าคลั่งขึ้นมา: “ไอ้หนุ่มแกอย่าคิดว่ามีความสามารถนิดหน่อยแล้วจะกล้าทำอวดเก่งต่อหน้าฉันนะ สองท่านนี้คือพ่อบ้านของตระกูลซือหม่าที่ประจำเมืองเจียงโจว”“วันนี้ฉันจะให้พวกเขากำจัดชีวิตน้อย ๆ ของแกซะ!”
ในตอนที่เว่ยเชินหลังตาลง เตรียมจะรับความตายของเขาจู่ ๆ เสียงที่เย็นชาก็ดังขึ้น“วุ่นวายพอแล้วยัง? ถ้าวุ่นวายพอแล้วก็ไสหัวไปซะ”“เอ๊ะ?”เว่ยเชินคุ้นเคยกับเสียงนี้เป็นอย่างนี้ นี่มัน...นี่มันผู้ชายหน้าตัวเมียที่ชื่อหลินเฟิงคนนั้นไม่ใช่เหรอ? ทำไมเขาถึงกล้าพูดแบบนี้ในเวลานี้?หรือว่าเขาไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว?เว่ยเชินเงยหน้าขึ้นมองไปด้วยความสงสัย และเห็นภาพที่ทำให้เขาตกตะลึง เห็นเพียงแค่พ่อบ้านจางคนนี้ยกหมัดขึ้นสูง เห็นได้ชัดว่าต้องการต่อศีรษะของเขาให้ระเบิดแต่แขนของพ่อบ้านจางกลับถูกวัยรุ่นที่หน้าตาเฉยเมยยื่นมือออกมาจับไว้ จึงทำให้พ่อบ้านจางคนนั้นไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ หน้าผากเต็มไปด้วยหยดเหงื่อ“ไอ้หนุ่ม...นายเป็นใคร?!”ซือหม่าหาวที่อยู่ข้าง ๆ เห็นหลินเฟิงจับเขนของพ่อบ้านจางเอาไว้ได้ เขาคิดว่าพ่อบ้านจางก็แค่ไม่ทันได้ระวังถึงได้ถูกเขาจับเอาไว้ได้“พ่อบ้านจาง พ่อบ้านหลี่ ฆ่าทุกคนที่อยู่ภายในห้องนี้ให้หมด! อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว!”“พ่อบ้านจาง คุณไม่ได้ยินคำพูดของผมเหรอ? ยังจะนิ่งเฉยอะไรอยู่อีก?!”เห็นพ่อบ้านจางยังคงแข็งทื่ออยู่กับที่ ซือหม่าหาวยังคิดว่าชายวัยกลางคนคนนี้ไม
ชายวัยกลางคนสองคนนั้นที่ซือหม่าหาวพามาเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนทั่วไป แค่ลงมือก็บดขยี้เว่ยเชินได้แต่อยู่ที่หลินเฟิงหลินเฟิงยังไม่ได้ลงมือ ก็ทำให้สองคนนี้ตกตะลึงจนสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากแค่คำพูดประโยคเดียวก็ทำให้ทั้งสองคนพาซือหม่าหาวหนีไปอย่างตื่นตระหนก กลัวว่าถ้าหนีไปช้าก็จะถูกฆ่าตายได้ความแข็งแกร่งในความสามารถของหลินเฟิง ไม่จำเป็นต้องยืนยันเพิ่มเติมอีกแล้ว“ขอบคุณคุณหลินที่ช่วยชีวิตผม บุญคุณในวันนี้ เว่ยเชินจดจำเอาไว้ในใจแล้ว”คนที่ทำลายความเงียบงันก่อนก็คือเว่ยเชินที่ฝืนลุกขึ้นมาจากพื้นตอนนี้เขาสีหน้าซีดเซียว ขาข้างหนึ่งของตัวเองถูกทำให้พิการไปโดยสิ้นเชิงแล้ว แต่อย่างน้อยเป็นเพราะหลินเฟิงลงมือถึงได้มีชีวิตรอดกลับมาได้หลังจากที่ได้รับรู้ว่าหลินเฟิงอยู่ระดับเซียนเทียน เขาก็หมดความคิดที่จะหาเรื่องกับหลินเฟิงในทันทีเมืองเจียงโจวที่ใหญ่โต มียอดฝีมือระดับเซียนเทียนสักกี่คน?อีกทั้งยังอายุน้อยอย่างเช่นหลินเฟิงแบบนี้ บอกว่าหลินเฟิงไม่มีคนหนุนหลัง ตีให้ตายเขาก็ไม่เชื่อ“ผมฝีมือสู้คนอื่นไม่ได้ ยังจะไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา ไม่มีหน้าจะเผชิญหน้ากับคุณหลินอีกแล้วจริง ๆ ต่อไปคุณหนูทั
“ห้องนี้คือ 106 คุณพักอยู่ที่นี่ชั่วคราวเถอะ”หลังจากที่จัดแจงที่พักให้หมิงอิ่งอิ่งเรียบร้อย ทุกอย่างเหมาะสม หลินเฟิงไตร่ตรองครู่หนึ่ง ก็เดินออกจากประตูใหญ่คฤหาสน์อ่าวเทียนสุ่ยตามลำพัง ตรงกลางถนนที่มืดมิด รถหรูลินคอล์นจอดลงตรงหน้าหลินเฟิงช้า ๆหลินเฟิงยืนอยู่ตรงหน้าไฟรถของรถหรูแล้วถอนหายใจพูดว่า:“ดูท่าซือหม่าหาวคิดอยากตายจริง ๆ สินะ”“ไอ้หนุ่ม หาเรื่องตระกูลซือหม่าของฉัน ยังคิดจะจากไปง่าย ๆ งั้นเหรอ?”ประตูรถเปิดออก ชายชราหนวดเคราสีเทาที่สวมชุดสีดำทั้งตัวลงมาจากรถ และมองไปทางหลินเฟิงด้วยท่าทางทะนงองอาจ: “ไอ้หนุ่ม นายจะต้องชดใช้กับความประมาทเลินเล่อของนายเอง!”“ส่วนพวกคุณ ก็จะต้องชดใช้เพราะความไม่รู้ของตัวเองหรือไม่?”หลินเฟิงถามชายชรากลับด้วยสีหน้านิ่งเฉยนี่ทำให้ชายชราสีหน้าเย็นชา เขาหัวเราะเสียงดังแล้วพูดขึ้น: “นายที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนนี้น่ะเหรอ อยากจะมางัดข้อกับคนแก่อย่างฉัน?”“นายคู่ควรด้วยเหรอ?”“ประโยคนี้ส่งกลับไปให้คุณเหมือนกัน ตาแก่”สายตาของหลินเฟิงเผยความเฉียบคมออกมา เขาไม่พูดพล่ามอีกต่อไป จากนั้นดีดตัวขึ้น เด้งออกไปเหมือนกระแสไฟ และปรากฏที่ตรงหน้าของชายชรา
ทวารทั้งเจ็ดมีเลือดไหล ตายไปอย่างน่าอนาถที่สุด“ออกรถ ไปโรงแรมจิ่วโจว”หลินเฟิงเปิดประตูรถ ขึ้นรถยนต์ลินคอล์นของชายชราในตอนนี้คนขับรถตกใจจนมึนงงไม่มีเวลาครุ่นคิดอย่างอื่น เพื่อรอดชีวิตคนขับรถทำได้เพียงฟังคำสั่งของหลินเฟิง เลี้ยวหัวรถและขับไปทางโรงแรมจิ่วโจวและในตอนนี้ ภายในโรงแรม ซือหม่าหาวกำลังสวมชุดคลุมอาบน้ำ เพลิดเพลินกับการนวดของเผิงหย่าฟางเขานอนคว่ำอยู่บนเตียง มือกำโทรศัพท์เอาไว้“คุณชายซือหม่าย ทำไมเสียงของคุณท่าทางดูอารมณ์ไม่ดี”อีกฝ่ายของโทรศัพท์กลับมีเสียงพูดของกู้เฉินดังขึ้น“เป็นเพราะช่วงนี้ตัวทำเงินในบริษัทของผมหนีไปแล้วน่ะสิ แม่ง”ซือหม่าเจียด่าทอคำหยาบ และบอกเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้แก่กู้เฉิน“อะไรนะ?!”กู้เฉินที่อยู่อีกฝ่ายของโทรศัพท์นิ่งอึ้งอย่างเห็นได้ชัด และยืนยันกับหม่าซือเจียซ้ำ ๆ ว่าหลินเฟิงที่เขาพูดถึงเป็นหลินเฟิงคนไหน“คุณชายซือหม่าย ผมเกลี้ยกล่อมให้คุณรีบหนีไปเถอะครับ”หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง กู้เฉินที่อยู่อีกฝ่ายขอโทรศัพท์ก็พูดขึ้น: “หลินเฟิงคนนั้นความสามารถแข็งแกร่งมาก อีทั้งนิสัยใช้อำนาจบาตรใหญ่ ถ้าหากผมเดาไม่ผิด ตอนนี้เขาน่าจะอยู่ระหว
“ตรงนี้มีที่ให้เธอพูดจาด้วยเหรอ?”หลินเฟิงสายตาเย็นชาหวาดมองเผิงหย่าฟาง ในดวงตาเต็มไปด้วยแรงสังหารแต่เผิงหย่างฟางไม่รู้สึกกลัวแม้แต่น้อย เธอแอ่นอกเผชิญหน้ากับหลินเฟิงแล้วพูดว่า: “นายก็แค่ถือว่าถังหว่านนังผู้หญิงต่ำช้าคนนั้นหนุนหลังนายไม่ใช่เหรอ?”“ฉันยอมรับว่าตระกูลถังมีความสามารถอยู่บ้าง แต่คุณชายซือหม่าก็ใช่ว่าจะกลัวตระกูลถัง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ชายหน้าตัวเมียที่เกาะถังหว่าอย่างนาย ทางที่ดีนายควรจะสำนึกถึงสถานะของตัวเอง!”การดูถูกเหยียดหยามติดต่อกันของเผิงหย่าฟางทำให้หลินเฟิสีหน้าเปลี่ยนไปเย็นชา“แก…หุบปาก!”เห็นความดุดันบนตัวของหลินเฟิงยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรง ซือหม่าหาวก็รู้สึกลางสังหรณ์ไม่ค่อยดี เขารีบตวาดเผิงหย่าฟางให้หุบปาก แต่เผิงหย่าฟางไม่มีท่าทีจะหยุดด้วยซ้ำ แต่กลับพูดยั่วโมโหหลินเฟิงต่อ: “คุณชายซือหม่าทำการตรวจสอบนายเรียบร้อย ได้ยินว่านายมีอดีตภรรยาคนหนึ่ง แต่น่าเสียดายอดีตภรรยาของนายอีกสองวันก็จะแต่งงานกับคุณชายของตระกูลกู้เมืองเจียงโจวแล้ว”“ถ้าฉันเป็นนาย คงจะหาที่ที่ไม่มีคนและเช็ดน้ำตาไปตั้งนานแล้ว ไม่รู้ว่านายเอาความกล้ามาจากไหน ยังกล้ามาพาลเกเรถึงที่คุณชายซือหม่า!”
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ