Share

บทที่ 3

last update Last Updated: 2025-01-12 21:06:05

10.30 น.

          ธรรม์บดีเงยหน้ามองคนที่เดินเข้ามาในห้อง เขาวางปากกาลงบนโต๊ะ เอนตัวพิงเก้าอี้ด้วยท่าทางสบายๆ นรภัทรยิ้มให้เพื่อน ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวตรงกันข้าม

          “ฉันนัดนายเที่ยง มาทำห่าไรตอนนี้วะ” เจ้าของห้องถาม

          “มาส่งคุณแม่ที่โรงพยาบาลน่ะ เลยแวะมาเลย”

          “แล้วไม่รอท่านกลับบ้านเหรอ”

          “ไม่อ่ะ เดี๋ยวพี่เมฆมารับ” นรภัทรตอบ เขามองถุง    แซนวิชบนโต๊ะทำงาน ไม่ถามเจ้าของห้อง คว้าถุงมาวางตรงหน้า หยิบของว่างออกมาหนึ่งชิ้นแล้วลงมือรับประทานทันที “อืม แซนวิชนี่อร่อยดีนะ”

          สายตาแปลกใจของธรรม์บดีมองหน้าผู้พูดที่เคี้ยวของกินในปาก

          “แค่แซนวิชธรรมดา อร่อยตรงไหนวะ”

          “ตรงน้ำสลัดไง ไส้แซนวิชเหมือนกันทั้งนั้นแหละ ต่างกันก็ตรงน้ำสลัดที่สูตรใครสูตรมัน” นรภัทรตอบเพิ่มเติม “ว่าแต่นายซื้อที่ไหนมา อร่อยดี”

          “ไม่ได้ซื้อ ลูกมะ...ลูกหมีทำให้ฉันกิน” ธรรม์บดีเกือบหลุดปากเรียกผิดชื่อ ดีที่รู้ตัวทัน “ฉันยังไม่ทันกิน นายดันกินซะก่อน”

          “ช่วยไม่ได้ นายไม่กินเอง” พูดจบก็กัดกินที่เหลือเข้าปาก

          “ฉันไม่อยากกินต่างหากล่ะ เพราะถ้าอยากกิน มันคงไม่เหลือถึงนาย” ธรรม์บดีย้อน

          “ฝีมือการทำอาหารของลูกหมีดีนะ ดีมากๆ ด้วย ครั้งก่อนไปบ้านนาย ได้กินแกงเลียงใส่กุ้งสด ฉันติดใจเลย คราวหน้าต้องบอกให้ลูกหมีทำให้กินซะแล้ว”

          “ไม่เห็นอร่อยเลย กินไปคำนึงแทบจะคายทิ้ง”

          “คายทิ้ง” นรภัทรทวนเสียงสูง “คายทิ้งออกจากปากหรือกลืนลงคอวะ วันนั้นนายกินข้าวสองจานเชียวนะ นี่ขนาดไม่อร่อยนะเนี่ย ถ้าอร่อย ข้าวคงหมดหม้อ”

          “กวนตีนนะมึง” ธรรม์บดีถึงกับหน้าตึง เมื่อเพื่อนเอาความจริงมาย้อน

          “แล้วเมื่อไหร่ลูกหมีจะท้องวะ นี่ก็เดือนนึงแล้วนะ ไม่มีวี่แววเลย มีน้ำยาหรือเปล่าวะไอ้อิฐ”

          “ฉันไม่เคยมีอะไรกับเธอ แล้วลูกหมีจะท้องได้ไง ถ้าท้องคงไม่ได้ท้องกับฉันแน่ๆ”

ธรรม์บดีตอบตามจริง ซึ่งเรื่องนี้นรภัทรรู้ดี ที่เอ่ยออกไปก็แค่แซวเพื่อนเล่นๆ

          “อย่าบอกนะว่าพึ่งหมอ”

          “ก็คงอย่างนั้น เห็นหน้าแล้วกินไม่ลง หมดอารมณ์ดื้อๆ” ความที่เป็นเพื่อนสนิทกัน ธรรม์บดีเลยเปิดอกพูดกับเพื่อนได้ตามตรง

          “จริงๆ แล้วฉันไม่อยากยุ่งเรื่องนี้หรอกนะ แต่ก็อดคิดไม่ได้”

          “คิดอะไร”

          “คิดว่าคุณย่านายขาดทุนยับน่ะสิ นายคิดดูนะ คุณย่าเสียเงินให้ทางนั้นไปสามสิบล้าน ถึงจะมีที่ดินมาค้ำประกันก็เถอะ แต่ก็เสียความรู้สึกที่ถูกเล่นแง่ เปลี่ยนตัวคนมาเป็นเมียนายซะงั้น ถ้านายไม่ทำอะไรเลย ปล่อยไปอย่างนี้ ไม่เรียกขาดทุน ไม่พูดว่าเสียเปรียบก็คงไม่ได้ เพราะทางนั้นมีแต่ได้กับได้” ธรรม์บดีฉุกใจเรื่องนี้ขึ้นมาทันใด “แล้วที่ดินผืนนั้น ตอนขายจะได้ราคาสามสิบล้านหรือเปล่า ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใช้เวลาเท่าไหร่กว่าจะขายได้ แล้วที่นายบอกว่า พึ่งหมอ นายจะเสียเงินซ้ำซ้อนทำไม ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ใช่น้อยๆ นะ ครั้งแรกไม่ติดก็ต้องมีครั้งที่สอง สามตามมา คนที่ฉันรู้จักหมดไปสองล้านยังไม่ติดเลย ทางนายนี่มีแต่เสียกับเสียนะ”

          ธรรม์บดีคิดตามคำพูดนรภัทร ไม่ใช่ว่าเขาไม่คิดว่า ทางบ้านตนขาดทุน ไม่ได้อะไรเลยกับการช่วยเหลือลัดดา แล้วยังอาจถูกหัวเราะเยาะที่โง่ ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยม หากทางนั้นรู้ว่า ต้องพึ่งเทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อมีลูก เสียเงินเพิ่มไปอีก คงถูกนินทาสนุกปาก เจ็บใจไปอีก

          “ไหนๆ ลูกหมีก็เป็นเมียนายแล้ว ดื่มเหล้าย้อมใจ จัดการลูกหมีซะ เอาทุนคืนไงล่ะ ถ้าไม่ท้องจริงๆ ค่อยพึ่งหมอ” นรภัทรแนะนำ “แล้วแต่นายนะ มันไม่ใช่เรื่องของฉัน ฉันแค่แนะนำ ไม่อยากให้นายขาดทุน เพราะอย่างน้อยก็ได้ลูกหมีเป็นเมีย ถอนทุนคืนมาหน่อยก็ยังดี”

           “มันก็จริงของนายนะ แบบนี้ฉันเสียเปรียบ ทางนั้นมีแต่ได้กับได้”

          “ก็คิดดูเอาเองล่ะกัน” นรภัทรไม่พูดต่อ “ฉันว่าเราไปกันเลยดีกว่า ไปหาไรกินก่อน ค่อยไปที่งาน ฉันยังไม่หายหิวเลย”

          ธรรม์บดีตกปากรับคำ เพราะเขาเองก็หิวไม่แพ้กัน ด้วยความที่มีอคติกับกุลธิรัตน์เป็นอย่างมาก เขาจึงไม่ได้กินมื้อเช้าและแซนวิชที่หล่อนทำ ตอนนี้ท้องเลยร้องประท้วง ขณะที่เขาลุกขึ้นออกไปจากห้องไปพร้อมกับนรภัทรด้วยความหิว ทว่าสมองยังนึกถึงคำแนะนำของเพื่อน เห็นทีเขาต้องตัดสินใจว่า จะทำอย่างไรกับเรื่องนี้

บ่ายสองโมง

          กุลธิรัตน์เดินเข้ามาในร้านกาแฟแบรนด์ดัง ที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา หล่อนโบกมือให้เพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะด้านใน ก่อนเดินไปหา

          “มานานหรือยัง ขอโทษนะที่มาช้า” กุลธิรัตน์กล่าวด้วยรอยยิ้ม

          “แกนี่ขยันขอโทษนะ มาทีหลังเพื่อนทีไร ขอโทษทุกที ทั้งที่ยังไม่ถึงเวลานัดเลย” พัชรินทร์อดว่าเพื่อนไม่ได้ “ฉันเพิ่งมาไม่ถึงนาทีเลย”

          “ก็แกมาก่อนไง ฉันเลยขอโทษ”

          “ย่ะ แม่คนดี ขอโทษอยู่นั่น เซ็งกับแกจริงๆ” กุลธิรัตน์กลับยิ้มให้พัชรินทร์ เพื่อนรักที่รู้จักกันมาตั้งแต่ประถมศึกษาปีที่หนึ่ง สนิทกันจนถึงทุกวันนี้ “รอปูจาก่อน เดี๋ยวมันมา”

          ปูจาหรือมิ่งเมือง ชาวเขาเผ่ามูซอบนดอยสูง เพื่อนสนิทอีกคนในรั้วสถานสงเคราะห์ อยู่ด้วยกันจนจบมัธยมศึกษาปีที่หก

          “ว่าแต่ทำไมแกนัดที่นี่ล่ะ ของกินที่นี่แพงนะ เสียดายเงิน ไปกินร้านข้างทางดีกว่า”

          “วันนี้ฉันเงินเดือนออก ฉันก็อยากกินอาหารในห้างบ้างน่ะสิ” พัชรินทร์ตอบเพื่อน “ฉันได้เงินพิเศษจากเจ้านายมา เพราะฉันดิวงานกับลูกค้าได้ ได้มาตั้งหมื่นนึงแน่ะ ฉันเลยโทรนัดแกกับปูจามาหาไรกินกันที่นี่ไง”

          “ฉันอยากมีงาน มีเงินเดือนเหมือนแกจัง หาตั้งหลายที่แล้ว ไม่ได้สักที”

ก่อนหน้ามาเป็นเมียธรรม์บดี หล่อนทำงานในบริษัทเอกชน ทำได้ร่วมสองปี หล่อนจำต้องออกจากงาน เนื่องจากบริษัทตกอยู่สภาวะขาดทุนติดต่อกันเป็นปี จำเป็นต้องคัดพนักงานออก กุลธิรัตน์เป็นหนึ่งในสามสิบคน หล่อนจึงตกอยู่ในสถานะว่างงาน หางานมาเป็นเดือนก็ยังไม่ได้ เงินที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ เป็นเงินที่เก็บสะสมไว้ แม้ไม่มาก แต่ก็ยังดีกว่าไม่มี

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อุ้มรักสามีไร้ใจ   วิวาห์พยศใจ Chapter 6

    Chapter 6“คุณปู่เหมือนไม่มีทางเลือกให้ผมเลย” เขาเอ่ยเสียงอ่อน“ย่าไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงว่า คุณปู่ทำแบบนี้ทำไม แต่ในเมื่อเป็นความต้องการของคุณปู่ หลานก็ทำไปก่อน แต่การเลิกลากันเพราะอยู่กันไม่ได้ คุณปู่คงไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่าย ใหญ่ไม่ต้องห่วงนะลูก ย่าจะช่วยหลานเอง รับรองมันอยู่บ้านหลังนี้ในฐานะเมียของใหญ่ได้ไม่นานแน่” นางหาทางโน้มน้าวต่อ“คุณปู่กำหนดวันแต่งงานหรือยังครับคุณย่า”“วันอาทิตย์หน้าจ้ะ” จอมทัพตกใจอีกรอบ เมื่อได้ยินคำตอบ“ทำไมมันเร็วจังครับ ผมมีเวลาทำใจแค่อาทิตย์เดียวเอง”อย่างนี้สินะที่เรียกกันว่า แต่งงานสายฟ้าแลบ หากเป็นงานวิวาห์ที่เขาปรารถนา เร็วกว่านี้เขาก็ยอม ทว่าสถานการณ์แบบนี้มันไม่ใช่“คุณปู่บอกว่า เตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว รอแค่ใหญ่ยอมแต่งเท่านั้น” สกาวใจเองก็ไม่คิดว่าจะเร็วปานจรวดเช่นนี้ “แต่งเร็วก็ดีนะ มันจะได้กระเด็นออกไปจากบ้านหลังนี้เร็วๆ หลานจะได้ไปแต่งงานกับน้ำหวานไง นะใหญ่นะ ทำตามที่คุณปู่ว่านะลูก”จอมทัพถอนหายใจอีกรอบก่อนจะตอบ“ผมมีทางเลือกด้วยหรือครับคุณย่า คุณปู่ประกาศิตมาซะขนาดนี้” ใช่...ลิขิตไม่ให้ทางเลือกเขาเลย “ผมจะทำตามที่คุณปู่ต้องการ ผมจะทำให้ผู้หญิงค

  • อุ้มรักสามีไร้ใจ   วิวาห์พยศใจ Chapter 5

    Chapter 5 สกาวใจเดินมาหยุดหน้าห้องนอนของหลานชาย วันนี้นางตั้งใจจะพูดเกลี่ยกล่อมให้จอมทัพยอมแต่งงาน ถึงแม้ว่าจะหนักใจไม่น้อยกับภารกิจนี้ แต่พอนึกถึงผลประโยชน์ที่ตนจะได้ ทำให้กำลังใจพุ่งสูง แผนการพูดหว่านล้อมก็บังเกิด แล้วคิดว่ามันจะสำเร็จสวยงามตามตั้งใจ ก่อนจะรวบรวมพลังเคาะประตูห้อง อึดใจต่อมาประตูห้องบานนั้นก็เปิดออก “ย่ามีเรื่องจะคุยด้วย ใหญ่พอมีเวลาให้ย่าไหมลูก”จอมทัพชะงักไปเล็กน้อยกับประโยคที่ได้ยิน เพราะตลอดหลายปีมานี้ สกาวใจไม่เคยมาหาเขาที่ห้อง หากจะมีเรื่องคุยก็ไปคุยระหว่างทานอาหาร หรือไม่ก็ในห้องรับแขก ห้องนั่งเล่นแล้วแต่โอกาส การที่สกาวใจมาหาเขาในวันนี้ ต้องมีเรื่องสำคัญจะพูดด้วยแน่นอน ในใจคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องการถูกคลุมถุงชน “เชิญครับคุณย่า” สกาวใจก้าวเข้าไปในห้องหลานรัก ทรุดกายลงนั่งบนโซฟาปลายเตียง โดยมีจอมทัพนั่งอยู่ใกล้ๆ “คุณย่ามีอะไรจะพูดกับผมครับ” “ย่าพูดตรงๆ นะใหญ่ ย่าอยากให้ใหญ่แต่งงานตามที่คุณปู่บอก”จอมทัพอึ้งและตกใจ ที่อยู่ๆ สกาวใจก็มาพูดให้เขายอมทำตามความต้องการของลิขิต ทั้งที่เมื่อวานนี้สกาวใจมีทีท่าไม่เห็

  • อุ้มรักสามีไร้ใจ   วิวาห์พยศใจ Chapter 4

    Chapter 4 ร้านศรัญญาเบเกอรี่ ร้านกาแฟและเบเกอรี่ขนาดสองคูหาในตึกแถวริมถนนสายธุรกิจที่มีผู้คนพลุกพล่าน มากหน้าหลายตาไม่ว่าจะเป็นคนไทยและชาวต่างชาติที่สัญจรไปมาตลอดทั้งวัน ส่งเสริมให้ร้านค้าร้านขายต่างๆ ในย่านดีพลอยขายดีไปด้วย ร้านแห่งนี้ก็เช่นกัน มีลูกค้ามาใช้บริการต่อเนื่อง ยิ่งช่วงเที่ยงจะมีลูกค้ามากเป็นพิเศษ ทำให้พนักงานในร้านและเจ้าของร้าน ชงเครื่องดื่มตามออเดอร์แทบไม่ทัน ร้านดังกล่าวเปิดได้เพียงหนึ่งปี แต่มีลูกค้าขาประจำมาซื้อเบเกอรี่ที่มีอยู่หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นขนมปังไส้ต่างๆ แยมโรล พายและขนมเค้ก โดยเฉพาะเค้กเป็นอาหารขึ้นชื่อของร้านนี้ เนื่องจากเจ้าของร้านทำสูตรเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร และนั่นทำให้มีออเดอร์สั่งยาวเหยียดนานหลายเดือน แล้วดูเหมือนว่า ออเดอร์จากลูกค้าจะมีต่อเนื่องไปถึงสิ้นปีไพลินสาวมั่น ฝีปากกล้า ไม่กลัวคนเดินฉีกยิ้มเข้ามาในร้านอย่างคุ้นเคย หญิงสาวมองลูกค้าที่มาใช้บริการแล้วยิ้มกับความสำเร็จของเพื่อน ที่นับวันจะมีลูกค้ามากขึ้น ก่อนจะเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม ที่มีพนักงานรับออเดอร์ลูกค้า“นก แก้วอยู่ไหม” ไพลินถามหาเพื่อนรักกับดวงกมลพ

  • อุ้มรักสามีไร้ใจ   วิวาห์พยศใจ Chapter 3

    Chapter 3“คุณพ่อครับ ผมขอโทษแทนใหญ่ด้วยนะครับ” คนกลางอย่างวิมุต รีบขอโทษบิดาแทนบุตรชาย “ดวงกราบขอโทษคุณพ่อค่ะ ใหญ่อาจจะพูดแรงไปหน่อย เดี๋ยวดวงจะพูดกับใหญ่เองค่ะ” ดวงดาราขอโทษแทนจอมทัพอีกคน ทว่าทีท่าของลิขิตยังคงนิ่งเฉยจนสองสามีภรรยานึกหวั่น“ทุกคนออกไปก่อน พ่อมีเรื่องจะคุยกับแม่”เป็นคำสั่งที่ทุกคนพร้อมจะปฏิบัติตาม วิมุตเดินนำภรรยาและบุตรสาวอีกสองคนเดินออกไปจากห้อง รั้งท้ายด้วยนภาพร“เรื่องที่จะคุยกับฉันมีลับลมคมนัยมากหรือไง ถึงได้ต้องให้ทุกคนออกไปจากห้องนี้”“ผมอยากให้คุณช่วยเรื่องใหญ่” ลิขิตเปิดเรื่อง“ช่วยเรื่องใหญ่” นางทวนคำพูด “จะให้ฉันช่วยพูดกับใหญ่ให้แต่งงานกับผู้หญิงที่คุณหาให้ใช่ไหม”“ใช่”“ถ้าอย่างนั้นฉันไม่ช่วย ฉันเห็นด้วยกับใหญ่ที่ใหญ่น่าจะหาคู่ชีวิตเอง ไม่ใช่ถูกคลุมถุงชนที่ไม่มีใครเขาทำกันแล้ว”สกาวใจเลือกที่จะเข้าข้างหลานชาย สิ่งใดที่สามีคิดว่าดี นางจะค้าน เรื่องใดที่สามีเห็นว่าสมควร นางจะคิดต่างตรงกันข้าม ซึ่งลิขิตนึกอยู่แล้วว่าต้องออกมาในรูปแบบนี้“คุณยังอยากได้ไร่รังสรรค์อยู่หรือเปล่า ถ้าอยากได้ผมจะยกให้ แต่มีข้อแม้ว่าคุณต้องช่วยผมพูดกับใหญ่ ให้ใหญ่ยอมแต่งงาน”ข้อเสน

  • อุ้มรักสามีไร้ใจ   วิวาห์พยศใจ Chapter 2

    Chapter 2“เอ...แล้วมันเรื่องอะไรกันนะ ใหญ่พอจะรู้ไหมลูก” ดวงดาราหันมาถามบุตรชายที่เป็นเพียงคนเดียวที่ไม่อยากรู้เรื่องนี้“ผมไม่ทราบครับคุณแม่” จอมทัพตอบตามตรงการสนทนาของคนภายในห้องยุติลง เมื่อลิขิตก้าวเข้ามาในห้องพร้อมกับนภาพรภรรยาน้อย สกาวใจมองค้อนสามี ก่อนจะจิกสายตาใส่นภาพรที่ยกมือไหว้ แต่แทนที่นานๆ จะได้อยู่กันพร้อมหน้าสักครั้ง สีหน้าทุกคนจะชื่นมื่น ตรงกันข้ามกลับมีความอึดอัดลายล้อมไปทั่วบริเวณ โดยเฉพาะสกาวใจ ผู้สูงวัยอายุเจ็ดสิบปีที่ไม่อยากจะมานั่งอยู่ในห้องนี้ แต่ก็จำยอมมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “มีอะไรก็รีบพูดมาดีกว่า ฉันรู้สึกคลื่นไส้เมื่อเห็นหน้าใครบางคน เดี๋ยวความดันฉันขึ้น”สกาวใจเชิดหน้าพูดใส่สามี ปรายตามองนภาพรภรรยาน้อยอย่างเกลียดชัง อยากจะลุกขึ้นไปกระชากผมแล้วตบหน้าให้สาสมกับความคั่งแค้นในจิตใจ“นานๆ ทีจะอยู่กันพร้อมหน้า พูดดีๆ กันไม่ได้หรือไง”ลิขิตอ่อนใจเรื่องนี้ไม่น้อย แล้วรู้ดีว่าสิ่งที่ตนทำนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและไม่สมควรให้อภัย เขาจึงไม่คิดโกรธเคืองในคำพูดของสกาวใจที่มักจะพูดเหน็บแนมและแขวะเนืองๆ“คุณไม่เป็นฉัน คุณไม่รู้หรอกว่าฉันร

  • อุ้มรักสามีไร้ใจ   วิวาห์พยศใจ Chapter 1

    Chapter 1กระเป๋าเดินทางหลายใบถูกลำเลียงมาไว้หน้าบ้านไม้สองชั้น ตั้งอยู่บนเนื้อที่หนึ่งร้อยตารางวา ก่อนที่เจ้าของกระเป๋าจะเดินออกมายืนรอรถตู้ที่จะรับไปสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา ไปใช้ชีวิตอยู่ที่โน้นกับสามีใหม่ของธนวรรณ ที่หอบหิ้วบุตรสาวและน้องสาวไปอยู่ด้วยเด็กหญิงธนัสสรณ์หรือน้ำหวานวัยสิบสองปีหนึ่งในสมาชิกของบ้านหลังนี้ ชะเง้อคอมองไปยังประตูรั้วบ้านไม่วางตา ราวกับว่ากำลังรอใครบางคนอยู่“มองหาพี่ใหญ่เหรอจ้ะน้ำหวาน” ธนพรน้าสาวเอ่ยถามหลานสาวอย่างรู้ใจ“ใช่ค่ะ พี่ใหญ่สัญญาว่าจะมาส่งน้ำหวาน” ปากเด็กหญิงพูด ทว่าสายตายังคงมองไปยังมองไปยังจุดเดิม“เดี๋ยวพี่ใหญ่คงมา พี่ใหญ่เป็นคนรักษาสัญญา รับปากอะไรไว้ก็ต้องทำตามนั้น” ธนพรปลอบหลานรักพร้อมกับฉีกยิ้มเมื่อเห็นร่างของคนที่ธนัสสรณ์รอคอย เดินเข้ามาในบ้าน “นั่นไง พี่ใหญ่มาแล้ว”ธนัสสรณ์มองคนที่ตนเองรอคอยด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าในใจจะหมองเศร้าที่ต้องจากพี่ชายข้างบ้านที่แสนดีไปอยู่คนละซีกโลก แต่อย่างน้อยก่อนจากลาเธอก็ได้พบหน้าเขา“สวัสดีครับคุณอา” จอมทัพ รุจิเวโรจน์วัยสิบเจ็ดปีพนมมือไหว้เจ้าของบ้าน รวมทั้งธนพร“สวัสดีจ้ะ” ธนวรรณมารด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status