Share

บทที่ 2

เมื่อถึงเดือนห้าเดือนหก สภาพอากาศของอิ๋งโจวก็ฝนตกเสียงปรอยๆ ไม่รู้จบ

หยาดฝนกระทบหน้าต่าง เสิ่นอวี้นอนหมดสติอยู่บนเตียง

สาวใช้ซงลู่เดินเข้าเรือนอย่างเร่งรีบ พลางกล่าว “ฮูหยินใหญ่กลับมาแล้ว บอกว่าหมอหลวงในวังไปจวนอ๋องหมิงหยางกันหมด ตอนนี้ไม่มีใครว่างเลย เจ้าเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดให้คุณหนูอีก…”

“อ๋องหมิงหยางยังไม่ฟื้นหรือ?”

ถานเซียงเงยหน้า สีหน้าเคร่งขรึม “อ๋องหมิงหยางเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของจวนอ๋อง ตอนนี้เพื่อช่วยคุณหนูของเราจึงบาดเจ็บสาหัส หากไม่ฟื้น อย่าว่าแต่คุณหนูตามหาหมอเลย จวนอ๋องรื้อถอนจวนของเราก็อาจเป็นได้!”

ซงลู่ขมวดคิ้วแน่น “ใช่ นายท่านไปขอโทษที่จวนอ๋องแล้ว ไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไร…หลิ่วอี๋เหนียง[footnoteRef:1]คนนี้อย่างไรก็เป็นแม่แท้ๆ ก็ไม่รู้จักช่วยหาหมอเสียเลย วันๆ รู้จักแต่เป็นห่วงคุณหนูซ่ง!” [1: อี๋เหนียง / อนุ = เมียน้อย ถือว่าเป็นเมีย มีหน้ามีตาระดับหนึ่ง แต่อยู่ต่อหน้าเมียหลวงก็เรียกแทนตัวเองว่าบ่าว และลูกของอี๋เหนียงต้องเรียกเมียหลวงว่าแม่]

ถานเซียงได้ยินอดไม่ได้ที่จะพร่ำบ่นเล็กน้อย “พูดถึงคุณหนูของเรานี่ก็จริงๆ เลย มีหมั้นหมายกับอ๋องหมิงหยางดีๆ ไม่เอา จะตามเกาะองค์ชายสามอย่างเดียว! หากไม่ใช่เพราะนางต้องการนัดอ๋องหมิงหยางไปเขาเยี่ยนหนานตอนฝนตกหนักให้ได้ จะเกิดปัญหาถึงขั้นนี้ได้อย่างไร!”

“เจ้าพูดให้น้อยๆ หน่อย”

ซงลู่พูดขัดนาง “เจ้าอยู่เฝ้าคุณหนูที่นี่ ข้าจะลองออกไปดูว่าสามารถเชิญหมอมาได้หรือไม่…”

นางลุกขึ้นกำลังจะออกจากเรือน พลันมีเสียงแหบดังมาจากบนเตียงกะทันหัน

“น้ำ”

เสิ่นอวี้รู้สึกว่าตนเองกระหายมาก ลำคอแทบมีควันพวยพุ่งแล้ว

นางลืมตาอย่างสะลึมสะลือ รู้สึกแค่ว่าราวกับตนเองตกลงไปในบ่อหินหลอมเหลว กระดูกร้อนวูบวาบ

เป็นอาการของไข้

แต่นางกับจ้านอวิ๋นเซียวตายไปแล้วไม่ใช่หรือ?

ในทัศนวิสัยที่ค่อยๆ ชัดเจนขึ้น เป็นหน้าต่างบานเล็กๆ ที่คุ้นเคยและเนิ่นนาน ดูเก่าเล็กน้อย เสียงฟ้าร้องและฝนดังมาจากนอกหน้าต่าง ทำให้นางงงงวยเล็กน้อย

จากนั้นก็มีเสียงที่อ่อนวัยเล็กน้อยของซงลู่ดังขึ้นข้างหู “หา! คุณหนูท่านฟื้นแล้วหรือเจ้าคะ?”

เสิ่นอวี้หันไปมองทางนาง

เด็กผู้หญิงตัวน้อยสวมชุดกระโปรงรัดอกสีฟ้าอมเขียว ผิวขาวนุ่มนิ่ม หน้ากลม ดวงตากลมโต ใบหน้ายังมีอายของความเยาว์เสี้ยวหนึ่ง เวลายิ้มแลดูบริสุทธิ์มาก

ท่าทางแค่อายุสิบสามสิบสี่เอง

“...เจ้าหยิกข้าที”

เสิ่นอวี้มองดูนางอย่างงงวยเล็กน้อย ซงลู่ตายตอนนางอายุสิบหกปี ตามคำบอกเล่าของซ่งหว่านฉิ่งในตอนนั้น บอกว่านางพบกับมือสังหารตอนอยู่ข้างนอก ซงลู่เพื่อปกป้องนาง ถูกมือสังหารแทงทะลุคอด้วยกระบี่เดียว

แต่ดูจากการแสดงออกของซ่งหว่านฉิ่งในภายหลัง ตอนนั้นซงลู่น่าจะเห็นความลับบางอย่างของนางเสียมากกว่า จึงถูกฆ่าปิดปาก

ดวงตาของเสิ่นอวี้น้ำตาซึมเล็กน้อย

“คุณหนู ท่านร้องไห้ทำไม? ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าเจ้าคะ?”

ซงลู่เห็นแล้วตะลึงงัน รีบประคองนางลุกขึ้นมาป้อนน้ำ

เสิ่นอวี้ได้ดื่มน้ำเล็กน้อย จึงจะรู้สึกสติหวนคืนบ้าง อดไม่ได้ที่จะแกะเสื้อออก ดูหัวไหล่แวบหนึ่ง

หัวไหล่ข้างซ้ายเรียบเนียนราวหยก ไม่มีร่องรอยบาดแผลแม้แต่น้อย

แต่ทั้งๆ ที่นางจำได้อย่างชัดเจน เมื่อตอนอายุสิบเก้าปี นางช่วยรับดาบแทนองค์ชายสามหยวนเฉิน ดาบครั้งนั้นฟันลงมาแรงมาก ทิ้งบาดแผลที่น่ากลัวไว้บนไหล่ลากยาวไปถึงหน้าท้องของนางสายหนึ่ง

แต่ตอนนี้กลับไม่มีอะไรเลย

“คุณหนู ท่าน…เจ็บไหล่หรือเจ้าคะ?”

ด้านข้าง ถานเซียงมองนางอย่างประหลาดใจ เอื้อมมือออกไปแตะไหล่ของนาง “กลิ้งลงมาจากบนเขากระแทกโดนกระดูกใช่หรือไม่เจ้าคะ?”

“กลิ้งลงมาจากบนเขาหรือ?”

เสิ่นอวี้มองถานเซียง ในส่วนลึกของดวงตายิ่งงงงวย

นางมาถึงนรกแล้วหรือ?

เหตุใดไม่เพียงเจอซงลู่ที่ตายไปแล้ว ยังเจอถานเซียงอีกด้วย?

ในความทรงจำ องค์ชายสามหยวนเฉินเพื่อวางหูตาไว้ในวัง ส่งถานเซียงไปขึ้นเตียงของขันทีเฉาเต๋อเฉิง ถูกเฉาเต๋อเฉิงกระทำการทารุณกรรมจนตาย ตายอย่างน่าสังเวชมาก

นึกถึงตรงนี้ ความรู้สึกผิดที่รุนแรงหลั่งไหลเข้ามาในใจ ทันใดนั้นนางก็ดิ้นรนลุกขึ้นจากเตียง พลันทิ้งตัวคุกเข่าไปทางถานเซียง “ถานเซียง ขอโทษ!”

คราวนี้ถานเซียงตกใจมาก!

“คุณหนู ท่านเป็นอะไร? นี่ท่านเป็นไข้จนเลอะเลือนแล้วหรือเจ้าคะ?”

มองซงลู่ที่ตะลึงงันเช่นกันแวบหนึ่ง ถานเซียงรีบลากนางลุกขึ้น “คุณหนู ไม่ง่ายเลยที่กว่าท่านจะฟื้น รีบขึ้นไปนอนบนเตียงเจ้าค่ะ…”

เสิ่นอวี้ยังอยากพูดอะไรบางอย่าง พลันเหลือบไปเห็นตนเองในกระจก ตัวแข็งทื่อทันที

สีหน้าและดวงตานางในกระจกแดงก่ำ อาการของไข้นั้นชัดเจนมาก แต่ที่ชัดเจนกว่านั้นคือผิวอันละเอียดอ่อนบนใบหน้าที่อวบอิ่ม ริมฝีปากแดงแก้มชมพู กลิ่นอายของความเยาว์ยังไม่หลุด

โดยเฉพาะตรงเอวยังมีหยกขาวแกะสลักนกเป็ดน้ำแขวนอยู่หนึ่งชิ้น

หยกขาวชิ้นนี้เป็นของขวัญที่หยวนเฉินมอบให้นางเป็นการส่วนตัวตอนพิธีปิ่นปักผม[footnoteRef:2] และเป็นของแทนใจคำสัตย์ปฏิญาณความรักของพวกเขา [2: พิธีปิ่นปักผม เป็นพิธีปักปิ่นให้แก่เด็กผู้หญิงอายุครบ 15 ปี เพื่อแสดงออกถึงการเปลี่ยนผ่านจากวัยเด็กก้าวสู่ช่วงวัยสาว]

ของสิ่งนี้ถูกนางขว้างทิ้งตั้งแต่ตอนที่พวกเขาโกรธแตกคอกันแล้ว

ตอนนี้กลับกลับมาอยู่บนตัวนาง!

พลันร่างกายเสิ่นอวี้โซเซ “ปี…ปีนี้เป็นหยวนคังปีที่สี่สิบเอ็ดใช่หรือไม่?”

“ใช่แล้วคุณหนู ท่านเป็นอะไรเจ้าคะ?”

ถานเซียงประหม่าเล็กน้อย รีบประคองนางขึ้นเตียง

เสิ่นอวี้ล้มนั่งลงบนเตียง จิตใจสั่นสะท้าน

หยวนคังปีที่สี่สิบเอ็ด นางเพิ่งปักปิ่นปักผม!

ปีนั้น นางเพื่อให้ได้แต่งงานกับองค์ชายสามเป็นชายาโดยเร็ว นางฟังทุกอย่างที่เขาพูด

ช่วงเช้าเมื่อเจ็ดวันก่อนหน้านี้เอง นางตอบตกลงองค์ชายสาม นัดจ้านอวิ๋นเซียวไปเขาเยี่ยนหนาน โกหกเขาว่าตนมีเรื่องสำคัญจะพูดกับเขา หากเขาไม่มา อย่าคิดว่าจะได้เจอนางอีกในชีวิตนี้

เมื่อจ้านอวิ๋นเซียวไปถึงเขาเยี่ยนหนาน สิ่งที่รอต้อนรับเขากลับเป็นการลอบสังหารซุ่มโจมตีจากทุกรอบด้าน!

แต่วรยุทธ์ของจ้านอวิ๋นเซียวเลิศล้ำ คนทั่วไปไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

นางเพื่อให้องค์ชายสามทำสำเร็จ จงใจกลิ้งลงไปจากเขา!

จ้านอวิ๋นเซียวเพื่อช่วยนาง ถูกลูกธนูพิษยิงเข้าที่ขาสองข้าง

พิษรุนแรงไร้ทางแก้

จวนอ๋องหมิงหยางเชิญหมอเทวดาทั่วหล้า ก็ไม่สามารถแก้พิษนั้นได้ ท้ายที่สุดเขาได้แต่ติดอยู่บนรถเข็นตลอดชีวิต วรยุทธ์ทั้งหมดก็ถูกทำลายจนสิ้น!

และนางยังไม่รู้จักสำนึกผิด ภายใต้การยุยงของซ่งหว่านฉิ่งกับหลิ่วอี๋เหนียง ฉีกสัญญาหมั่นกับจ้านอวิ๋นเซียวต่อหน้าทุกคน หลังจากนั้นไม่กี่วันในงานเลี้ยงวันเกิดของพระชายาเฒ่า ส่งผลให้จวนอ๋องหมิงหยางบันดาลโทสะ เริ่มไม่ลงรอยกับตระกูลเสิ่น

หลังจากนั้นเป็นต้นมา ท่านพ่อกับพี่ชายใหญ่ตกที่นั่งลำบากในราชสำนัก

แม่ใหญ่ก็โมโหนางจนกระอักเลือด ล้มป่วยลุกไม่ขึ้น พี่หญิงใหญ่เพื่อปกป้องตระกูลเสิ่น จำต้องแต่งงานกับคนที่นางไม่ชอบ ท้ายที่สุดต้องทนทุกข์ระทม

ส่วนซ่งหว่านฉิ่งกับหลิ่วอี๋เหนียนยืนข้างหน้าทั้งใจ บอกว่านางทำถูกแล้ว องค์ชายสามจึงจะเป็นสามีที่พึ่งได้มากที่สุด

นางเชื่อคิดว่าเป็นเรื่องจริง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ฟังพวกนางทุกอย่าง กิริยาการกระทำไม่เหมาะ ตามเกาะองค์ชายสามอย่างไร้ยางอาย ท้ายที่สุดเป็นที่รังเกียจของผู้คน ตระกูลเสิ่นก็พลอยเดือดร้อนไปด้วย ต้องสนับสนุนองค์ชายสามขึ้นครองบัลลังก์อย่างไม่มีทางเลือก

กระทั่งสุดท้าย พบกับจุดจบของบ้านแตกคนตาย!

จิตใจเสิ่นอวี้สั่นสะท้าน พลันจับแขนถานเซียงพลางถาม “ข้าหมดสติไปเจ็ดวัน แล้วอ๋องหมิงหยางล่ะ? อ๋องหมิงหยางเป็นอย่างไรบ้าง?”

ถานเซียงตะลึงงัน หลังหวนคืนสติแววตาครึ้ม “คุณหนูกำลังถามว่าเขาตายหรือยังใช่หรือไม่?”

“...”

เสิ่นอวี้สำลักจนพูดอะไรไม่ออก ชาติที่แล้วนางแทบรอไม่ไหวอยากให้จ้านอวิ๋นเซียวตาย ต่อให้เป็นคนโง่ก็มองออก

แต่ครั้งนี้…

เสิ่นอวี้หวังว่าทุกอย่างจะเริ่มต้นใหม่ อยากให้เหตุการณ์จ้านอวิ๋นเซียวบาดเจ็บสาหัสไม่เคยเกิดขึ้น

ถานเซียงตระหนักว่าน้ำเสียงของตนไม่ถูกต้อง หลังจากปรับครู่หนึ่ง ก็ทำร้ายความหวังเสี้ยวสุดท้ายของนาง

“ได้ยินมาว่าอาการบาดเจ็บสาหัสมาก จวนอ๋องหมิงหยางเคยเชิญหมอทั้งเมืองไปแล้ว แต่ก็ไม่มีข่าวดีส่งกลับมา…นายท่านไปทางนั้นทุกวัน ท่านอ๋องเฒ่าโกรธมาก ไม่ยอมให้เข้าเลยเจ้าค่ะ”

“หากอ๋องหมิงหยางไม่ดีขึ้น คาดว่าไฟโทสะของจวนอ๋องไม่ใช่สิ่งที่จวนโหวของเราจะแบกรับไหวนะเจ้าคะ”

หัวใจเสิ่นอวี้เย็นวูบ กำลังคิดว่าจะแก้สถานการณ์อย่างไร

เวลานั้นเอง เสียงที่กลัดกลุ้มเล็กน้อยของจื่อซูดังมาจากข้างนอก “ทำอย่างไรดี คุณหนูซ่งเอะอะจะพบคุณหนูให้ได้ ขวางอย่างไรก็ขวางไม่อยู่ แต่ฮูหยินใหญ่สั่งไว้ว่าไม่อนุญาตให้ใครเข้าก่อนที่นางจะกลับมา!”

ซ่งหว่านฉิ่ง?

เสิ่นอวี้เงยหน้าฉับพลัน

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status