โม่ซิวหย่วนมองไปทางเฉียวสือเนี่ยนด้วยความเหยียดหยามเล็กน้อย“คุณคิดว่าในสถานการณ์ที่ป๋อโจวไม่มีการเสนอราคา หมิงเหมาจะทิ้งเนื้อชิ้นใหญ่ขนาดนี้ แล้วมาร่วมมือกับเราเหรอ?”เฉียวสือเนี่ยนเอ่ย “สถานการณ์ปกติก็คงไม่ แต่ถ้ามีคนกระตุ้น ก็ไม่แน่ค่ะ”“โอ้?” โม่ซิวหย่วนจัดท่านั่ง และสนใจที่จะฟังเฉียวสือเนี่ยนพูดต่อจากนี้มากเฉียวสือเนี่ยนเปิดโทรศัพท์ของตัวเอง นำข้อมูลจากด้านในออกมาหนึ่งฉบับ และส่งไปยังด้านหน้าโม่ซิวหย่วน“เซี่ยลี่สยงผู้รับผิดชอบของหมิงเหมา ฉันรู้ข้อมูลเล็กน้อยของเขาผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ยินว่าตอนนั้นที่เขาเปิดโรงงานสุราขึ้นมาได้ นอกจากจะมีสูตรพิเศษแล้ว ยังอาศัยการสนับสนุนทางการเงินจากครอบครัวพ่อแม่ภรรยาของเขาด้วย ดังนั้น เขาจึงเชื่อฟังภรรยาทุกอย่าง เรียกได้ว่าภรรยาคุมเข้ม”“คุณเฉียววางแผนจะชักชวนเซี่ยลี่สยงให้ร่วมมือกับพวกเราผ่านภรรยาของเขา?”น้ำเสียงของโม่ซิวหย่วนราบเรียบเล็กน้อย ความอดทนก็ใกล้จะหมดแล้วยังนึกว่าเฉียวสือเนี่ยนเป็นฝ่ายเสนอความร่วมมือ จะมีความคิดที่ดีแค่ไหน แต่ก็เป็นเพียงแค่ที่รองกระถางดอกไม้เขาผลักคืนโทรศัพท์ของเฉียวสือเนี่ยน “เกี่ยวกับเรื่องการดำเนินจดทะ
โทรศัพท์น่าจะเปิดลำโพง ไม่นานน้ำเสียงเสียใจของคุณย่าก็ดังขึ้น“เนี่ยนเนี่ยน หรือว่าเพราะเธอโกรธเจ้าเด็กเยี่ยนฉือ จนไม่ยินดีแม้แต่จะไปกับย่าแล้วเหรอ?”เฉียวเนี่ยนทนฟังน้ำเสียงแบบนี้ของคุณย่าไม่ไหว จึงรีบเอ่ย “หนูยินดีไปกับคุณย่าแน่นอน——”“งั้นก็ตกลงตามนี้แล้วนะ พรุ่งนี้ฉันจะให้คนขับรถไปรับพวกเธอ!”ไม่รอให้เฉียวสือเนี่ยนพูดต่อจากนี้ให้จบ คุณย่าฮั่วก็วางสายเรียบร้อยแล้ว น้ำเสียงก็ร่าเริงขึ้นอย่างชัดเจนด้วยเฉียวสือเนี่ยน “...”ตอนบ่ายของวันรุ่งนี้ เฉียวสือเนี่ยนได้รับโทรศัพท์จากคนขับรถเมื่อเธอเดินมาถึงรถและก่อนจะเปิดประตู กลับเห็นฮั่วเยี่ยนฉือก็นั่งอยู่ด้านหลังเช่นกันเขาสวมชุดสูทสีดำ และกำลังวุ่นอยู่กับคอมพิวเตอร์ใบหน้าแสนเย็นชา รูปลักษณ์ที่โดดเด่น ทำให้เหมือนคนดังที่ขึ้นปกนิตยสารทางการเงินมากเมื่อได้ยินเสียงเธอเปิดประตู ฮั่วเยี่ยนฉือก็เหลือบมองอย่างสงบนิ่ง และดูคอมพิวเตอร์ต่ออีกครั้งผู้ชายนิสัยเสีย ตัวเองมีคนขับรถอยู่แท้ ๆ ยังต้องให้คนขับรถของคุณย่ามารับเฉียวสือเนี่ยนไม่อยากนั่งกับเขา จึงคิดจะปิดประตูและไปนั่งข้างคนขับ“อย่าสร้างปัญหา คุณย่ากำลังรออยู่” รับรู้ได้ถึงเจ
เฉียวสือเนี่ยนเข้าใจความหมายที่คุณย่าฮั่วพูด แต่เธอไม่อยากหลอกตัวเองและคนอื่น “คุณย่า ท่านไม่ต้องปลอบใจหนูหรอกค่ะ ทัศนคติของฮั่วเยี่ยนฉือหนูรู้ดี”ไม่ต้องพูดถึงว่าเขายังคงเกลียดเธอ แม้จะเปลี่ยนความคิดจริง ๆ เธอก็ไม่อาจมีความคิดเพ้อฝันกับเขาได้อีกต่อไปความสัมพันธ์และสัญญาลับระหว่างเขากับป๋ายอีอี ชาตินี้ เธอไม่คิดจะเข้าร่วมอีกแล้วคุณนายใหญ่ฮั่วเห็นท่าทางที่ยืดมั่นของเฉียวสือเนี่ยน ก็ไม่ดื้อรั้นโน้มน้าวมากนักเนี่ยนเนี่ยนคงเก็บความเศร้าและความผิดหวังมามากพอแล้ว ถึงได้ตัดสินใจแบบนี้หวังว่าเจ้าเด็กบ้านั่นจะตาสว่างในเร็ววัน และกอบกู้หัวใจของเนี่ยนเนี่ยนกลับคืนมา......ในส่วนพักผ่อน คุณผู้หญิงทั้งหลายกำลังพูดคุยถึงลูกที่บ้านของตัวเองขึ้นมา“ใกล้จะถึงวันเกิดลูกชายของฉันแล้ว ได้ยินเขาบอกว่าเสื้อผ้าผู้ชายระดับไฮเอนด์ของ XX นั้นดี ทางนั้นเขาส่งลิงค์มาให้ฉันแล้ว ด้านบนมีรูปภาพหลายสไตล์เลย พวกคุณช่วยฉันดูหน่อยสิ!”คนหนึ่งในนั้นหยิบไอแพดออกมา หลายคนต่างก็เข้าไปมุงดูฮั่วเยี่ยนฉือเดินผ่านมาพอดี เขาก็เหลือบมองไปทางหน้าจอเช่นกัน“เยี่ยนฉือ รสนิยมในการแต่งตัวของนายดีขนาดนี้ ตาจะต้องถึงมาก
เฉียวสือเนี่ยนเห็นว่าฮั่วเยี่ยนฉือกลับมามีน้ำเสียงและท่าทางตามปกติแล้ว ยิ่งเพิ่มความมั่นใจว่า เมื่อกี้เขาจะต้องแกล้งเมาเพื่อหลอกเธอ!เธอโกรธจนเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และทิ้งฮั่วเยี่ยนฉือไว้เบื้องหลังกลิ่นหอมอ่อนๆ โชยเข้ามาสักพักหนึ่ง เงาร่างอันสวยงามของเฉียวสือเนี่ยนก็ห่างออกไปไกลแล้วฮั่วเยี่ยนฉือส่งข้อความหาลู่เฉินหนาน [ยกเลิกสัญญาความร่วมมือของโครงการอ่าวตระกูลลู่]ไม่รอลู่เฉินหนานตอบกลับ เขาก็ปิดเครื่องโทรศัพท์แล้ว......โจวเทียนเฉิงกังวลว่าบอสจะเมาจนหนักเกินไป จึงมารับถึงที่ร้านอาหารพร้อมกับคนขับให้คนขับรอ โจวเทียนเฉิงก็เดินมาถึงปากประตูของห้องที่เวลานี้บอสนั่งอยู่ที่เก้าอี้ยาวในห้อง กุมหน้าผากไว้ด้วยมือข้างเดียว คิ้วเข้มขมวดเล็กน้อย คล้ายกับไม่ค่อยสบายเขากำลังจะออกปากเรียก ‘ประธานฮั่ว’ ก็เห็นมือหนึ่งของเฉียวสือเนี่ยนถือผ้าขนหนู อีกมือหนึ่งซ่อนอยู่ใต้ผ้าขนหนู และกำลังเดินจากโต๊ะอาหารนั่นไปหาบอสด้วยความกังวลโจวเทียนเฉิงปิดปากอย่างรู้ทัน เห็นเฉียวสือเนี่ยนให้ผ้าขนหนูเช็ดหน้าผากของบอสอย่างอ่อนโยนเขายังไม่ทันได้ซาบซึ้งกับการเอาใจใส่อย่างอ่อนโยนของเฉียวสือเนี่ยน ก็
เฉิงหว่านซินส่งมาหาเธอครั้งก่อนหลังเฉิงหว่านซินไปสั่งสอนป๋ายอีอีถึงบ้าน เฉียวสือเนี่ยนก็ไม่ได้ติดต่อกับเธออีกเลยในไลน์ก็ปฏิเสธข้อความของเธอเช่นกันเวลานี้เฉิงหว่านซินส่งรูปภาพมาคาดว่าก็คงไม่ใช่เรื่องดีอะไร เฉียวสือเนี่ยนกดลบออก และใส่หมายเลขของเธอลงในบัญชีดำ[พี่สาว ขอร้องล่ะ พี่กดรับหน่อยนะ] โจวหยางอิงส่งข้อความมาอีกครั้งต้องรักษาศักดิ์ศรีของเด็กหนุ่ม เฉียวสือเนี่ยนจึงไม่ยืนกรานอีก และกดรับการโอน[พี่สาว พี่ยุ่งมากเลยเหรอ ทำไมไม่เห็นมาฝึกที่โรงยิมเลยล่ะ?] โจวหยางอิงถามหลายวันมานี้เฉียวสือเนี่ยนเอาแต่ยุ่งอยู่กับแผนธุรกิจการฝึกที่นัดไว้ล่วงหน้าก็ไม่มีเวลาจะไปเฉียวสือเนี่ยนตอบกลับ [ยุ่งอยู่กับที่ทำงานนิดหน่อยน่ะ]โจวหยางอิงก็ส่งสติ๊กเกอร์ ‘ลำบากแล้ว’ มาเป็นชุด เฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าน่าสนใจดี จึงบันทึกไว้หลายอันจากนั้นเธอก็เลื่อนดูอินสตาแกรมของโจวหยางอิงนิดหน่อยพบว่าชีวิตของเขามีความหลากหลายมาก นอกจากจะแบ่งปันการทำงานแล้ว ยิ่งมากไปกว่านั้นก็คือวงดนตรีและอีกมากมาย ดูเป็นเด็กผู้ชายที่สดใสและมองโลกในแง่ดีเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย ดูเหมือนนานแล้วที่เธอไม่ได้สัมผ
โม่ซิวหย่วนยิ้มอย่างเย็นชาและชั่วร้าย “กล้าเล่นงานฉัน แม้ผิดกฎหมาย ฉันก็จะสั่งสอนให้กับพวกเธอ!”เมื่อเห็นท่าทีที่ไม่เกรงกลัวของโม่ซิวหย่วน รวมทั้งบอดี้การ์ดที่เข้ามาหาเธอ เฉียวสือเนี่ยนก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อยเธอมั่นใจเกินไปหน่อย คิดว่าอาศัยการรู้ล่วงหน้าจากชาติที่แล้ว ก็จะคุยเรื่องการร่วมงานกับโม่ซิวหย่วนได้ กลับไม่เคยคิดจะตรวจสอบให้ดีว่าตัวเขาเองเป็นคนอย่างไร!ตอนนี้เขาออกอาการโมโหไม่เลือกหน้า ต้องการจะมัดเธอไว้จริง ๆ แล้วเธอยังจะหนีได้อย่างไร?ในระดับความเกลียดชังที่ฮั่วเยี่ยนฉือมีต่อเธอ อย่าว่าแต่เขาจะสนใจเธอไหม แม้เขาจะสนใจ แต่เธอก็ไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณเขา!“ซ่อนเลย ดูสิว่าเธอจะไปซ่อนตัวที่ไหน!” โม่ซิวหย่วนลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปหาเธอชั้นสองน่าจะถูกโม่ซิวหย่วนกวาดล้างไว้หมดแล้ว ไม่มีคนเลย เธอจะตะโกนขอความช่วยเหลือก็ไร้ประโยชน์“ใครกล้าแตะต้องเธอ!”ตอนที่เฉียวสือเนี่ยนกำลังคิดว่าจะทุบขวดไวน์แล้วจ่อไปที่คอของตัวเองได้ผล หรือไม่ก็จ่อไปที่คอของโม่ซิวหย่วนจะได้ผลมากกว่ากัน ทันใดนั้นก็มีเสียงที่เย็นชาดังมาจากด้านหลังฮั่วเยี่ยนฉือ!บางทีน่าจะเป็นความเข้าใจผิดของเฉียวสือเนี่
ในดวงตาของฮั่วเยี่ยนฉือแฝงไปด้วยความห่างเหินเล็กน้อยแม้กระทั่งเขาจะยังขมวดคิ้วอีกด้วยการตอบสนองเช่นนี้ทำให้ป๋ายอีอีตกตะลึงความรู้สึกอับอายผุดขึ้นในหัวใจแต่ใบหน้าของป๋ายอีอีกลับไม่ปรากฏอะไรออกมาเลย เธอยืนตัวตรงอีกครั้ง และขอโทษอย่างอ่อนโยน“เยี่ยนฉือ ถึงอย่างไร เรื่องของวันนี้ก็เป็นความผิดของฉันเอง ไม่ว่าจะลงโทษหรือจะด่า ฉันยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง”เรื่องราวอธิบายมาถึงส่วนนี้แล้ว ป๋ายอีอีก็ถือว่ายังพอให้อภัยได้ฮั่วเยี่ยนฉือไม่ตามเอาเรื่องอีก พลางเอ่ยอย่างจริงจังและเย็นชา “เรื่องนี้จะผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด ให้คนไปตรวจสอบเซี่ยลี่สยงอย่างละเอียด ถ้าไม่ใช่การใส่ร้าย ก็ถอนแผนการลงทุนซะ”ป๋ายอีอีรีบเอ่ย “วางใจเถอะ ฉันส่งคนไปตรวจสอบแล้ว ถ้าเขามีปัญหาจริง ๆ ไม่ต้องให้คุณบอกฉันก็ไม่กล้าร่วมงานกับเขาหรอก”สีหน้าของฮั่วเยี่ยนฉืออ่อนลงบ้างเล็กน้อย เขาคลึงระหว่างคิ้ว “ไม่มีเรื่องอะไรแล้วก็ออกไปเถอะ”ป๋ายอีอีเห็นถึงความไม่สบายใจของฮั่วเยี่ยนฉือ เธอจึงเอ่ยหยั่งเชิง “เยี่ยนฉือ เห็นคุณทุกข์ใจขนาดนี้ ฉันนวดศีรษะให้คุณเสียหน่อยดีไหม?“ทุกครั้งที่พ่อฉันปวดหัวฉันก็จะช่วยนวดให้เขา และเขาก็ชมว่าฝ
“แม้ความจริงแล้วเฉียวสือเนี่ยนจะน่ารำคาญ แต่ถึงยังไงพี่ก็ยังไม่ได้หย่าเลย จะไม่ค่อยดีหรือเปล่า?“ ลู่เฉิงหนานถามฮั่วเยี่ยนฉืออารมณ์ไม่ดี ”นายมีธุระอะไรก็ว่ามา ถ้าไม่มีก็ไสหัวไป“ เลขาเอาน้ำชามาส่งพอดี ลู่เฉิงหนานจึบส่งให้เขาอย่างเอาใจ ”พี่ฮั่ว ดื่มชาให้ชุ่มคอหน่อย”ความจริงแล้วฮั่วเยี่ยนสือรู้สึกไม่ค่อยสบายที่คอ เขาจึงรับน้ำชามา “แหะแหะ พี่ฮั่ว พี่คงรู้ว่าทำไมผมถึงมาใช่ไหมล่ะ!”รอให้เลขาออกไป ลู่เฉิงหนานก็ขายความน่าสงสารขึ้นมา “ตาแก่ที่บ้านผมให้ความสำคัญกับโครงการอ่าวมาก ถ้าพี่ปฏิเสธผม หลายเดือนนี้ ไม่สิ ปีนี้ทั้งปีก็จะไม่ได้รับอิสระแล้ว จะต้องโดนเขาจับไปที่บริษัทและบังคับให้ผมเรียนรู้งานแน่เลย!“ฮั่วเยี่ยนฉือเอ่ย ”พอดีเลยหูของฉันจะได้สงบลงแล้ว““พี่ฮั่ว พี่จะเป็นแบบนี้ไม่ได้นะ” ลู่เฉิงหนานร้องไห้กระซิก ๆ “พี่ลืมไปแล้วเหรอตอนนั้นที่โรงเรียน พี่กับโม่ซิวหย่วนทะเลาะกัน ใครที่พุ่งเข้าไปช่วยพี่อย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น?““ถูกคนกระทืบล้มจนผิวถลอกเลือดไหล และตกใจเป็นลมไป เพราะผมเอาแต่สนใจพี่จนเกือบต่อสู้แพ้ในครั้งนั้นไง?”“…” ลู่เฉิงหนาน “แต่ความซื่อสัตย์ของผมที่มีต่อพี่น้องอันนี้พี