LOGIN“เอ๊ะคุณนี่!!” เธอยอมรับว่าเธอทำแบบนั้นจริง แต่ก็แค่แกล้งยั่วเขาเล่นๆ แค่หวานเสน่ห์เพื่อความสนุก ไม่คิดว่าเขาจะเดินมาขอเบอร์จริงๆนี่นา เธอทำแบบนี้ออกบ่อย ก็ไม่เห็นมีใครตื๊อไม่ยอมปล่อยแบบหมอนี่เลย บอกว่ามีแฟนแล้วไม่ได้ยินรึไง
“คุณนี่สเป๊คผมเลย ไปกับผมเถอะ” เขาคว้าหมับแก้มก้นเธออย่างไร้มารยาท แล้วบีบแรงจนเธอเจ็บ
“โอ๊ย! ไอ้บ้านี่ ปล่อย!” เธอตกใจกับการจู่โจมของเขา จึงตบหน้าเขาไปเต็มแรงแล้วผลักเขาจนเซไปโดนโต๊ะใกล้ ๆจนข้าวของบนโต๊ะนั้นหล่นระเนระนาด พวกที่นั่งโต๊ะนั้นรีบลุกยืนแล้วโวยวายหัวเสีย
“กรี๊ดดดดด ไอ้โรคจิต!!” นารารินชี้หน้าเขา “ช่วยด้วยค่ะ ไอ้โรคจิตมันลวนลามฉัน!!”
“ว๊ายตายแล้ว!” สองสาวเพื่อนซี๊ตกใจกรี๊ดลั่น ก่อนจะรีบคว้าตัวนารารินแล้วพากันวิ่งออกจากผับไปทันที ท่ามกลางความชุลมุนและตกตะลึงของคนทั้งผับ ขณะเสียงบรรเลงเปียโนยังดังคลอบรรยากาศ
“เฮ๊ยไอ้เมฆ!” กลุ่มเพื่อนของเหนือฟ้ารีบเข้ามาฉุดรั้งตัวเขาให้ลุกขึ้นยืน แล้วรุมล้อม สอบถามละล่ำละลัก “แกเป็นไงบ้างวะ เจ็บตรงไหนรึเปล่า!!!”
“อย่ามายุ่งกับกู!!!!” เหนือฟ้าตวาดเหว กัดกรามแน่นจนเป็นสัน สีหน้าโกรธแค้นอย่างเห็นได้ชัด
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครวะ ทำไมกล้าตบไอ้เมฆได้” เพื่อนคนหนึ่งตั้งคำถาม “แถมด่าว่าเป็นไอ้โรคจิตอีก!”
“พวกมึงไม่ต้องเสือก!!!” เหนือฟ้าหันมองประตูทางออกผับด้วยสายตาเย็นชาแฝงความโกรธแค้น ในชีวิตนี้ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธเขาสักราย ไม่เคยมีใครกล้าทำให้เขาอับอายต่อหน้าเพื่อน ๆ และผู้หญิงได้มากมายขนาดนี้มาก่อน
ที่สำคัญ...เธออ้าขาให้เขาเห็นกางเกงในด้วยซ้ำ มันเป็นการส่งสัญญาณให้ตัวผู้นี่นา แต่พอเขาตอบสนองกลับปฏิเสธอย่างนั้นเหรอ เธออยากให้เขาอับอายอย่างนั้นสินะ อยากด่าเขาว่าไอ้โรคจิตนั่นเอง !
เธอเล่นผิดคนแล้ว เพราะเขาไม่ใช่แค่ไอ้โรคจิต แต่เขามันโคตรชั่วของแท้ไงล่ะ
“ยัยนี่! กล้าตบกูเหรอวะ อย่าให้เจออีกนะ!!!”
เขาสาวเท้าเดินออกจากผับไปด้วยความอับอาย สาวสวยมากมายแอบมองเขาแล้วซุบซิบสนุกปาก วินาทีนี้ถ้ามุดหนีลงดินได้ก็คงจะทำไปแล้ว !!!
“เฮ๊ยไอ้เมฆ !!! จะไปแล้วหรือวะ!!! แล้วสาว ๆ ของมึงล่ะ ตั้งหลายคนเนี่ย???”
“ช่างแม่งสิวะ!!!”
แต่เขาไม่มีวันช่างแม่งกับเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเขาในค่ำคืนนี้แน่นอน เขาจะจดจำใบหน้าของผู้หญิงคนแรกในโลกที่ดูถูกเขาไว้ในก้นบึ้งของสมองเลยล่ะ
หากไม่เจอกันแล้วในชาตินี้ ก็ถือว่าเธอโชคดีไป แต่ถ้าชะตากำหนดให้เราเจอกันอีก ก็ถือว่าเป็นเวรกรรมของเธอ ที่เธอต้องชดใช้ก็แล้วกัน เพราะเขาเอาคืนสาสมแน่นอน!!
ฉันถอดเสื้อผ้าจนล่อนจ้อน สำรวจร่างกายตัวเองผ่านกระจกโต๊ะเครื่องแป้ง เห็นร่องรอยการโดนกระทำหยาบคายตามเนื้อตัวเป็นหย่อมๆก็นึกพึงพอใจขึ้นมา โดยเฉพาะตรงเนินสาวที่ระบมแดงและบวมฉึ่งอย่างเห็นได้ชัด“อืมมม...ดีจัง” ฉันมั่นใจว่าฉันจะได้เจอสองน้าหลานคู่นั้นอีกแน่นอน แต่เป็นเมื่อไหร่ค่อยว่ากันฉันเข้าห้องน้ำ อาบน้ำชำระล้างร่างกายจนสะอาดหมดจด สวมชุดคลุมออกจากห้องน้ำ ตอนนั้นเองได้ยินเสียงประตูห้องเปิด เลยรีบเดินออกจากห้องนอนตัวเองไปหาเพื่อนในห้องกลาง..“อุ๊ย! สภาพ! ไม่ได้เมาแน่นะ” เพื่อนสาวอยู่ในสภาพเหมือนเพิ่งไปฟัดกับหมามางั้นแหละ ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้าก็ยุ่งเหยิง แถมหน้าตาดูเหมือนเหนื่อยล้าสุดๆ ยัยนั่นเดินมาหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาเหมือนคนหมดแรง วางถุงในเบียร์กับขนม ก๊อปแก๊บลงบนโต๊ะ “สภาพเหมือนเมาเลยอ่ะ แถมเสื้อยับเหมือนไปฟัดกับใครมา”“ดื่มไปนิดหน่อยน่ะ เฮ้อ..เหนื่อย” พูดพร้อมกับทิ้งแผ่นหลังพิงพนักโซฟา ดวงตาปรือมองเพดานห้องเหมือนกำลังใช้ความคิด...ฉันเดินไปนั่งโซฟาตรงข้ามกับเพื่อน หยิบเบียร์กระป๋องจากในถุงมาเปิดสลักซดดื่ม “อ๊า...สุดยอดเลย ชอบเบียร์ยี่ห้อนี้สุดๆเลย อืมม ดีงามมาก โอวว ทำไมชีวิตมันมั
“โอยย สวยสุดๆเลย” ตาลุงคนขับไม่ยืนเปล่า ยื่นมือมาบีบคลำสองเต้าของฉันไม่ยอมปล่อย ขณะกระเป๋ารถเมล์จอมอึดกระแทกสวนซอยขึ้นมาถี่ๆ ต่อสู้กับแรงขย่มของฉันอย่างดุดัน จนรูรักร้อนผ่าวกระตุกระริก กดเกร็งไปทั้งตัว ฉีดน้ำสวาทออกมาพรั่งพร้อมเพรียงกัน“โอ้วววว” ฉันกับเขาร้องลั่นสามสมในรสสวาท ก่อนที่เขาจะก้มเข้าหาเต้าซ้าย อ้าปากงับดูดไล้เลียหัวนมของฉันอย่างสุขสม ส่วนเต้าขวาอยู่ในฝ่ามือตาลุงคนขับ บีบขยำ ขยี้หัวนมปรนเปรอไม่หยุด“โอววว...” ฉันเคลิบเคลิ้มในรสสวาทจนรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังล่องลอยอยู่ในอวกาศ เหมือนฝันแต่ก็ไม่ใช่ฝัน ฉันเพิ่งมีเซ็กซ์แบบสองต่อหนึ่งกับผู้ชายแปลกหน้าที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อ แถมไม่ได้เล่นกันบนเตียง แต่เล่นกันบนรถเมล์ ภายในอู่รถนอกเมือง ที่มีบรรยากาศเหมือนป่าช้าเสียมากกว่า“อ่า...” ครั้งที่สามจบลงอย่างสวยงาม แต่อีตากระเป๋ารถเมล์ไม่ยอมให้ฉันลงจากตักของเขา แถมไม่ยอมถอนตัวออกอีกต่างหาก“อืมม..” ตาลุงครางกระเส่า ขยับกายเข้ามาประชิดกับสะโพกลมตึงของฉัน จ่อท่อนสวาทกับรูรักของฉันที่ยังมีดุ้นเนื้อของหลานชายเสียบคาอยู่“อุ๊ย! จะทำไรคะ”“เข้าสองอันพร้อมกันไง” กระเป๋ารถเมล์กระซิบใกล้หูด้วยเสีย
“โอ้วโหวว ขาวสวยจัง” เสียงแหบพร่าของตาลุงคนขับดังใกล้หู..ใช่แล้ว แม้ในแสงสลัวก็ยังมองออกว่าฉันผิวขาวผุดผ่องไปทั้งตัว “หอมไปทั้งตัวเลย..อืมม”“บอกแล้วว่าเด็ด” อีตากระเป๋ารถเมล์ลุกขึ้นยืน ขยับแก่นกายเข้ามาใกล้หน้าฉัน สาวรูดแท่งเนื้อจนแข็งประมาณหนึ่ง นำมาจ่อริมฝีปากฉัน“อ่าม..” ฉันอ้าปากรับดุ้นเนื้อเข้าปากด้วยความเต็มใจ ละเลงเลียดุ้นเนื้อยาวราวกับหิวโหย ขณะตาลุงคนขับลงไปนั่งที่พื้นรถ จับสองขาของฉันแหวกออกจนสองกลีบแบะอ้า ก้มเข้าหาพร้อมลิ้นสากกลิ่นบุหรี่ ตวัดเลียเม็ดกระสันเสียวพลางครางสุขสม“อื้ออ อื้ออ อืออ..” ฉันโมกแท่งเนื้อของกระเป๋ารถเมล์จนหัวสั่นหัวคลอน ทำเขาร้องครางอย่างพึงพอใจ อดไม่ไหว ใช้สองมือบีบขยำสองเต้าด้วยความแรง ส่วนตาลุงดูดเลียกลีบงามอย่างเอร็ดอร่อย ทำฉันเสียวซ่านจนน้ำสวาทหลั่งเยิ้มเต็มร่อง “อ้า อ้า อ้า..”“อืมมม..อย่างนั้น อย่างนั้น อือมม..” กระเป๋ารถเมล์หน้าเคลิ้มหายใจแรง ถอนแท่งเนื้อออกจากปากของฉันแล้วขยับกายออก ส่งสัญญาณให้ฉันยืนกึ่งนั่งหันหลังให้ โดยวางเข่าข้างนึงบนเบาะเพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ...ฝ่ามือใหญ่ตบตีก้นฉันสาม-สี่ครั้ง ก่อนที่เขาจะจับก้นฉันให้กระดกขึ้น แล้วใช้นิ้ว
“อ๊ะ...” หัวใจฉันเต้นรัวไปหมด พยายามคิดว่าก่อนหน้าที่ฉันจะหลับคารถเมล์จนรถมาหยุดที่อู่ ฉันพูดอะไรกับพวกเขาไปกันนะ แล้วฉันก็คิดออก !!‘โอ้วว นังทิชา แกบ้าไปแล้วเหรอ???’ปลุกด้วยลิ้น..สินะ!!ตอนนั้น ฉันแสร้งทำเป็นพูดทีเล่นทีจริง แสร้งทำเป็นคะนองปาก เพราะคิดว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างดีก็แค่หมาหยอกไก่แต่ก็แอบคิดในใจนะว่า ก่อนลงจากรถเมล์ อาจมีการนัดหมายไปวันไนท์สแตนด์กันที่โมเต็ลราคาถูกใกล้ๆ เอากันสนุกๆเหมือนครั้งก่อน“อื้ออ...” แต่สาบานเลย..ฉันไม่ได้วาดภาพนี้ไว้เลย ภาพที่ตัวเองโดนชายแปลกหน้าสองคนรุมบนรถเมล์ ท่ามกลางแสงสลัวอันเย็นเยือก บรรยากาศเหมือนอยู่ในหนังฆาตกรรม“อ๊ะ อ้า ซี๊ดส์ นี่..อูยย นี่” ฉันอยากจะอ้าปากบอกให้พวกเขาหยุดกระทำหยาบหยามใส่ฉัน แต่ร่างกายของฉันกลับสนองตอบปลายลิ้นรสสัมผัสหยาบคายของพวกเขาด้วยความเต็มใจ ปลายลิ้นสากที่กระดกเลียทรวงเต้าของฉันอย่างหิวโหย ปลายลิ้นสว่านที่กำลังละเลงเลียร่องกลีบของฉันจนหัวสั่นหัวคลอน “อ่า..ซี๊ดส์ อูยย เสียวนะ อื้ออ นี่นาย..ยะ หยุด หยุดก่อนซี”เสียงห้ามของฉันโคตรอ่อนแรง เสียหายใจกระเส่าอย่างมีอารมณ์ดังกว่าหลายเท่า อีตากระเป๋ารถเมล์ตัวแสบผละปลา
“อ่าห์..” สายฝนที่กระหน่ำเทลงมาไม่ขาดสาย ท่ามกลางรถราพลุกพล่านท้องบนถนน เสียงบีบแตร เสียงเครื่องยนต์ยังคงดังกระหน่ำต่อเนื่อง แต่สมองฉันกลับได้ยินเพียงเสียงครางกระเส่าของตัวเอง ยามเปลือยกายล่อนจ้อนอยู่บนเตียงในโมเตลราคาถูก ดิ้นกายส่ายไหวอย่างเร่าร้อน แอ่นเนินสวาทป้อนปากลิ้นกลิ่นบุหรี่ของชายแปลกหน้า อย่างสุขสมใจ“อ่าห์...อ่าห์ อืออ อูววว ซี๊ดส์” ฉันหลับตาเพราะไม่อยากเห็นหน้าหมอนั่น แต่ภาพตอนมีเซ็กซ์กับอีตากระเป๋ารถเมล์ก็ยิ่งฉายชัดในความรู้สึก ใบหน้าก่ำแดงเต็มไปด้วยอารมณ์ใคร่ของเขายามสุขล้นแรงกระสัน ขณะกระแทกท่อนเอ็นใส่รูสาวของฉันถี่ยิบ ร่ำร้องครวญครางโหยหวนอย่างกับสัตว์ป่าติดสัตว์“โอวว..” ฉันเม้มริมฝีปากอย่างมีอารมณ์ หายใจเร็วแรงกระชั้น พยายามกดกลั้นอารมณ์กระสันเอาไว้ แต่กลีบสวาทกลับร้อนผ่าวกระตุกระริก ออกอาการหิวโหยรสใคร่จนถึงกับหลั่งน้ำเหนียวใสชโลมร่องกลีบ “อูววว..”ใช่แล้ว...ฉันรู้ตัวว่าต้านทานแรงกระตุ้นจากสัญชาติญาณดิบไม่ไหว หากไม่ทำอะไรสักอย่างเพื่อผ่อนปรนแรงปรารถนาที่กำลังเล่นงานฉันอยู่อย่างเลือดเย็น ฉันจะต้องปวดไมเกรนฉุกเฉินจนหัวแทบกระเบิดอย่างแน่นอน“อืมม..อ่าห์ ซี๊ดส์” โชคดีที
“น่าจะขอเบอร์ติดต่อไอ้บ้านั่นไว้” เผื่อวันไหนอยากปลดปล่อยจะได้มีที่ระบาย เพราะหมอนั่นพยายามขอเบอร์ฉันก่อนจะร่ำลากันในคืนนั้น แต่ฉันอยากให้มันเป็นแค่วันไนท์สแตนด์ ก็เลยไม่สานต่อให้เสียระบบ “อืออ...เจ็บใช่ชะมัดเลย”สายฝนโปรยปรายเป็นสายไล่ให้ฉันก้าวขึ้นรถเมล์อย่างเร่งรีบ โชคดีหน่อยที่มีที่นั่งว่างเยอะ ผู้โดยสารก็ไม่ได้มากมายอะไร ทั้งที่ยังไม่ดึกมากฉันเลยเดินไปนั่งเก้าอี้เกือบท้ายๆรถ เพราะอยากนั่งแบบส่วนตัว เผื่อน้ำตามันไหล จะได้ไม่อายใคร “เฮ่อ..เสียอารมณ์ชะมัด อุตส่าห์เตรียมตัวเตรียมใจจะมันส์แล้วแท้ๆ ทำไมมันเฮงซวยแบบนี้วะ เฮ้อ....อดขย่มไอ้เอกเลยอ่ะ เสียดายชะมัด เราไม่น่าไปเคาะประตูร้านเลย เราน่าจะแกล้งทำเป็นไม่รู้แล้วจัดมันให้หนักๆ ชิ!”เมื่อเลือกที่นั่งเรียบร้อย ฉันนั่งมองหน้าต่างรถที่มีหยดฝนเกาะพราว อยู่ๆหวนคิดไปถึงคืนวันไนท์สแตนด์แล้วเสียวซ่านในอารมณ์ขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ คิดถึงความเร่าร้อนและหยาบโลนของชายแปลกหน้าคนนั้น คิดถึงลิ้นสากๆร้อนๆและลำเอ็นขนาดเขื่องที่ทำให้ร่องกลีบเสียวซ่าน...“โอววว อืมม..” คืนนี้อาจต้องช่วยตัวเองในห้องน้ำสักหน่อย ไม่อย่างนั้นคงเคร่งเครียดและอึดอัดในอารมณ์







