“พ่อทำแบบนั้นไม่ได้นะ เดือนหน้าไหมจะแต่งงานแล้ว ทำอย่างนี้ทำร้ายจิตใจไหมมากเลยนะ” กัญญาภรณ์รีบค้านความคิดบิดา
“แล้วจะให้ทำยังไง เอ็งก็ไม่ยอมทำตามที่เถ้าแก่บอกก็ต้องให้ไหมไปเป็นเมียนายหัวสิงห์แทน ไม่งั้นเราไม่เหลืออะไรแน่”
พจน์กลัดกลุ้มไม่น้อย นึกโทษตัวเองที่ไม่น่าหวังรวยทางลัดและเชื่อคำพูดของป๋าจิตมากเกินไป หลงลมจนตั้งบ่อนขึ้นมา
“เรื่องหนี้เจรจาไม่ได้เหรอพ่อ ขอผ่อนผันเขาไปก่อน”
ผู้พูดพยายามทำใจเย็นและทำให้ตัวเองมีสติมากที่สุดมีความคิดที่ว่า ปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้
“ถ้าเจรจาได้จะเรียกเอ็งกลับมาบ้านทำไม ไม่จนปัญญาก็คงไม่กวนเอ็งหรอก” พจน์ทำหน้าเครียดจัด “เถ้าแก่เป็นคนดีมาก ผัดผ่อนให้หลายครั้งแล้ว ให้จ่ายแต่ดอก แต่ที่ต้องยึดเพราะสัญญาระบุไว้ว่า ภายในหนึ่งปีครึ่งถ้าหาเงินต้นมาให้ไม่ได้ครึ่งหนึ่งที่ดินทั้งหมดจะถูกยึด แล้วก็ถึงกำหนดแล้วด้วย”
น้ำเสียงพจน์เศร้าหนักขึ้นไปอีก
“พ่อเอ็งก็กลุ้มนะ ไม่รู้จะหาเงินจากที่ไหน ไปหยิบยืมใครจะมีเงินตั้งสิบล้าน พอดีเถ้าแก่เสนอวิธีนี้ แม่ก็เลยเรียกเอ็งกลับบ้านไง” สายหยุดรู้นิสัยลูกสาวคนโตดีว่าดื้อรั้นมากแค่ไหน ไม่ยอมคนถ้าไม่จนตรอกจริงๆ ยิ่งเรื่องที่ให้ไปเป็นเมียนายหัวสิงห์ คนที่ไม่รู้จักและไม่เคยเห็นหน้ายิ่งยากเพิ่มหลายเท่า “ก็อย่างที่พ่อเอ็งพูด ถ้าแกไม่ยอมก็คงต้องส่งไหมไปแทน ส่วนเรื่องแต่งงานก็ช่างมันล้มเลิกได้นี่ ที่สำคัญถ้าทางโน้นรู้ว่า บ้านเรามีหนี้สินเป็นสิบล้านก็คงไม่อยากให้แต่งงานด้วย”
“พ่อกับแม่ทำอย่างนี้ไม่นึกถึงใจหนูกับใจไหมบ้างเลย หนูเป็นลูกนะไม่ใช่ผลไม้ที่จะประเคนให้ใครกินก็ได้” ไม่ใช่ว่ากัญญาภรณ์ไม่อยากช่วยบิดามารดา ทว่าวิธีการนี้มันไม่ใช่ เธอรับไม่ได้ที่อยู่ๆ ต้องไปเป็นเมียนายหัวสิงห์ที่ไม่รู้จักและไม่เคยเห็นหน้า เธอทำใจยากกับเรื่องที่บุพการีให้ทำ “เดี๋ยวหนูจะไปพูดกับเถ้าแก่สันต์เอง เผื่อไม่ต้องทำเรื่องบ้าๆ นั่น”
“เอาสิ อยากไปก็ไป ถ้าได้ก็ดี” พจน์ไม่ห้าม “เอ็งไปกับไอ้ยูก็ได้ ให้ไอ้ยูขับรถไปให้ เถ้าแก่อยู่บ้านหลังใหม่ เอ็งไม่รู้จักหรอก แต่ไอ้ยูรู้จัก”
“เอ็งไปกับแพรก็คอยปรามๆ มันบ้างนะ ไปประนอมหนี้ไม่ใช่ไปแดกหัวเขา ท่องไว้ว่าเขาเป็นเจ้าหนี้ ทำห่ามๆ ใส่เถ้าแก่ระวังจะโดนยึดที่ดิน ยึดบ้านก่อนกำหนด”
สายหยุดสั่งชุติมา กัญญาภรณ์หน้างอใส่บิดามารดา ก่อนเดินออกจากบ้านไปพร้อมกับชุติมา
“มันจะยอมเหรอพี่ พี่ก็รู้นิสัยมันนะ” สายหยุดพูดกับสามีด้วยสีหน้าหนักใจ
“แผนสอง” พจน์เอ่ยสั้นๆ ใบหน้ายิ้ม สายหยุดหยิบซองอีโนออกมาจากกระเป๋าเสื้อ พร้อมกับถอนหายใจไม่คิดว่าตนต้องแสดงละครเพื่อให้ลูกสาวคนโตจอมห่ามยอมทำตามข้อเสนอของเถ้าแก่สันต์
ณ บ้านเถ้าแก่สันต์
บ้านหลังใหญ่ตั้งตระหง่านบนเนื้อที่กว่าสองไร่ เป็นบ้านที่ปลูกสร้างมาแล้วสองปี พื้นที่ใช้สอยในบ้านร่วมเจ็ดร้อยตารางเมตร พื้นที่โดยรอบเป็นต้นไม้น้อยใหญ่ปลูกให้ความร่มรื่น มีสนามหญ้าไว้สำหรับนั่งพักผ่อนยามเช้าหรือเย็น
ภายในบ้านตกแต่งเรียบง่าย ส่วนใหญ่เป็นเฟอร์นิเจอร์จากบ้านหลังเก่าถูกนำมาไว้ที่นี่ รวมถึงของโบราณหายากที่เจ้าของบ้านสะสมมาหลายสิบปีก็ย้ายมาไว้บ้านหลังนี้เช่นกัน จะซื้อเพิ่มเติมก็คงเป็นโคมไฟระย้าราคาเรือนแสน และของตกแต่งบ้านอีกสามสี่อย่าง
ยามบ่ายของทุกวันเถ้าแก่สันต์เจ้าของบ้านจะนั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่น นั่งดูไปจิบชาไป บางครั้งปานวาดหรือที่ใครๆ เรียกว่าเถ้าแก่เนี้ยจะเข้ามานั่งข้างๆ ชวนคุยและดูทีวีไปด้วยกัน ทว่าบ่ายวันนี้ต่างกับทุกวัน เพราะในห้องนอกจากจะมีภรรยานั่งร่วมห้องด้วย ยังมีลูกชายหัวแก้วหัวแหวนนั่งอยู่ใกล้ๆ และกำลังตกใจกับเรื่องที่บิดากำลังให้ทำ
“พ่อว่าไงนะ จะให้ผมแต่งงานมีเมียงั้นหรอ”
สิงหนาทหรือนายหัวสิงห์ วัยสามสิบห้าปีลูกชายคนเดียวของเถ้าแก่สันต์และนางปานวาดเอ่ยด้วยน้ำเสียงตกใจที่รู้ว่า บิดาต้องการให้ตนทำสิ่งใด
“แกจะตะโกนทำไม ทำเป็นตกอกตกใจไปได้” เถ้าแก่สันต์รู้อยู่แล้วว่าสิงหนาทต้องตกใจและคงค้านหัวชนฝา แต่ไม่ว่าจะค้านหนักแค่ไหน คราวนี้เขาไม่มีวันยอมเด็ดขาด “แค่ฉันให้แกแต่งงานมีเมียแค่เนี่ย ทำหน้าอย่างกับให้ไปตาย”
“ไม่เอานะพ่อ ผมไม่อยากมีเมีย” สิงหนาทปฏิเสธทันที
“ทำไมถึงไม่อยากมี เมื่อก่อนแกกระหายจะมีเมียมากไม่ใช่เหรอ หรือว่าแกเปลี่ยนใจเป็นเกย์”
คนฟังถึงกับของขึ้นที่ถูกกล่าวหาแบบนี้ โดยเฉพาะออกมาจากปากบิดาที่รู้ทั้งรู้ว่า ตนนั้นแมนทั้งแท่ง
“พ่อก็รู้ว่าผมไม่ใช่เกย์ แล้วพ่อก็รู้ด้วยว่าทำไมผมถึงไม่อยากมีเมีย” สิงหนาทโต้บิดา “ผมอายุแค่สามสิบห้าเองนะพ่อ ผมไม่อยากมีเมีย ถ้าเมียคนนั้นไม่ใช่คนที่ผมหามา ผมซื้อกินอย่างทุกวันนี้ก็ไม่เห็นเดือดร้อน”
“มันไม่เดือดร้อนแกแต่เดือดร้อนฉันกับแม่แกไงล่ะ”
“เดือดร้อนยังไงพ่อ” สิงหนาทถามกลับ
Chapter76สามพ่อแม่ลูกมองหน้ากันไปมาอย่างไม่รู้จะรับปากดีหรือไม่ ก่อนที่เถ้าแก่สันต์จะเป็นคนพูด“เอาตามนี้ก็ได้”“คุณสิงห์ไปจัดกระเป๋านะคะ แพรจะโทรจองตั๋วเครื่องบินเข้ากรุงเทพให้ แล้วจะจองตั๋วไปฮ่องกงให้ด้วยค่ะ”กัญญาภรณ์บอกสามี ที่พยักหน้ารับรู้แล้วเดินขึ้นไปชั้นบน หน้าที่จองตั๋วเครื่องบินเป็นหน้าที่ของคนกำลังตั้งครรภ์ ซึ่งก็แล้วเสร็จภายในสิบนาทียี่สิบนาทีต่อมาสิงหนาทมาหยุดยืนหน้าบ้าน ข้างกายเขาแน่นอนว่าไม่ใช่ใครอื่นใด กัญญาภรณ์ที่ตั้งครรภ์ใกล้คลอด เธอส่งยิ้มให้สิงหนาทที่ทำตาละห้อย ทำราวกับว่าไม่อยากจากเธอไป“ฉันไปแค่สองสามวัน แต่ทำไมรู้สึกว่ามันนานเหลือเกินกว่าจะได้เห็นหน้าเธออีก ฉันไม่อยากไปเลยถ้าไม่จำเป็น” สิงหนาทพูดจากใจ กัญญาภรณ์ตีแขนเขาเบาๆ“พูดอะไรก็ไม่รู้ ไม่ดีนะคะ อย่าพูดแบบนี้” เธอปราม “แพรรอคุณอยู่ที่นี่ค่ะ ไม่ไปไหน รีบกลับมานะคะ”“อยากจูบเธอก่อนไปจัง” เขาพูดจากใจ“จะบ้าเหรอ ถ้าคุณจูบฉันจริง ฉันต่อยหน้าคุณแน่”กัญญาภรณ์เขิน จุดที่ทั้งคู่ยืนไม่ได้อยู่กันตามลำพัง เถ้าแก่สันต์กับปานวาดก็อยู่ด้วย ส้มฉุนก็ยืนอยู่ตรงท้ายรถ ทว่าคนอย่างสิงหนาทอยากจูบเมียก็ต้องได้จูบ เขาคว้าตัวเธอ
Chapter75ใครพูดอะไรให้ไม่สบายใจ...กัญญาภรณ์อยากตะโกนบอกเขาดังๆ ว่า ก็คุณนั่นแหละ แต่ก็เก็บคำพูดนั้นไว้ พรางนึกถึงประโยคที่เขาคุยกับเพื่อน มันยังฝังอยู่ในหู ดังก้องตลอดเวลาสิงหนาทอยากได้ลูก แต่ไม่ต้องการเธอ...กัญญาภรณ์เชื่อคำพูดของสิงหนาททุกคำ เพราะคิดว่าการสนทนาระหว่างเขากับเพื่อนทั้งสามมาจากความรู้สึกจริง หากคุยกับคนอื่นคงไม่พูดอย่างนี้แน่ฝันไปเถอะว่าจะได้ลูก ปากหมาอย่างนี้ต้องเจอดีซะบ้าง“ไม่มีอะไรหรอก ฮอร์โมนมันว้าวุ่น” เธอตอบ เขาถึงกับงง เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายจริงๆ “ฉันง่วงแล้ว อยากนอน”พูดจบก็ดันร่างเขาให้ออกห่าง ก่อนล้มตัวลงนอนดื้อๆ สิงหนาทถึงกับเกาหัวกับอารมณ์แปรปรวนของกัญญาภรณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มีตอนนี้แหละที่ปั่นหัวเขาได้ดีทีเดียวสิงหนาทขยับตัวเข้ามาซ้อนด้านหลังกัญญาภรณ์ พาดแขนบนเอวสาว ฝ่ามือใหญ่ลูบท้องนูนใกล้คลอดของเธอเบาๆ ดังเช่นทุกคืน หอมแก้มเธอก่อนนอน ก่อนหลับด้วยท่านี้เช่นราตรีที่ผ่านมากัญญาภรณ์นอนลืมตาโพลงอยู่ในความมืดสลัว ส่วนคนข้างกายเธอนอนหลับสนิทได้ยินเสียงกรนเบาๆ เธอกำลังใช้ความคิดเรื่องที่ตนได้ยินเมื่อเย็นนี้ มันไม่หลุดไปจากความรู้สึกเลย ชีวิตคู่ของเธอกับเ
Chapter74 “ทำไม มึงจะทำอะไรตอนนั้น” กรรชัยรีบถาม “กูก็เอาลูกไว้ แล้วเฉดหัวแพรออกจากบ้านไงล่ะ ใครจะอยากมีเมียแบบนี้วะ ห้าวก็ห้าว ไม่มีความเป็นผู้หญิงเอาซะเลย กูทนมาได้หลายเดือนถือว่ากูเก่งแล้วนะ ถ้าให้ทนตลอดชีวิต กูบาย”สิงหนาทพูดไม่ทันคิด เขาคิดว่าพูดในกลุ่มเพื่อนเอาฮา ทว่าคนที่แอบได้ยินคำพูดของสิงหนาทกับเพื่อนทุกคำอย่างกัญญาภรณ์ไม่ฮาไปด้วย น้ำตาเธอหยดไหลลงมาทันใด มือที่ถือจานผลไม้สั่นจนเกือบทำจานหล่น เธอรีบเดินหนีห่างประตูตรงระเบียงทันที เพราะไม่อาจข่มใจ ข่มอารมณ์และความรู้สึกตอนนี้ได้ หัวใจเธออาบไปด้วยความเสียใจกับคำพูดไม่ทันคิดของสิงหนาท ซึ่งเธอคิดว่า เขาคงรู้สึกตามที่พูดออกมาจริง“กูจะคอยดูว่ามึงจะทำตามที่พูดได้ไหม แต่กูบอกตอนนี้เลยว่า ไม่” ณรงค์เดชดักคอเพื่อนอย่างรู้นิสัย “มึงอย่าพูดแบบนี้อีกนะ พวกกูรู้ว่ามึงรู้สึกยังไงกับแพร พวกกูสามคนได้ยินไม่เท่าไหร่หรอกก็แค่ฮา แต่ถ้าคนอื่นมาได้ยินมันจะขำไม่ออกนะ โดยเฉพาะแพร”“กูรู้หรอกน่า กูก็พูดกับพวกมึงนี่แหละ ขืนพูดให้แพรได้ยิน แพรเสียใจแน่ พาลโกรธกูอีก” พูดจบก็ลุกขึ้นยืน เพื่อนทั้งสามพากันงง“แล้วมึงจะไปไหน” ธรรมศักดิ์
Chapter73 เก้าเดือนต่อมา ทุกอย่างเป็นไปตามเถ้าแก่สันต์ต้องการ อริยะกับพวกไม่ยุ่งกับกัญญาภรณ์อีกเลย ไม่มีแผนชั่วใดๆ ทั้งสิ้น พรรณนาราก็เหมือนกับหายไปจากชีวิตสิงหนาท เธอโทรมาสิงหนาทในวันต่อมาเพื่อบอกว่า จะเดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อทำงานให้กับอริยะ หลังจากวางสายสิงหนาทไม่ได้รู้สึกเสียใจที่เธอต้องไกลห่าง เขารู้สึกโล่งใจสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ความสัมพันธ์ระหว่างสิงหนาทกับกัญญาภรณ์ก็ราบรื่น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสิงหนาทเอาใจคนท้องเก่งมาก ทำอาหารให้กินทุกวัน อยากกินอะไรจัดให้ทุกอย่าง ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปทั้งอาหารไทย จีน ฝรั่งและเวียดนาม แต่ที่ขาดไม่ได้คือ เมนูที่ทำจากปลาร้า เธอกินไม่เบื่อแล้วคิดว่าคงกินไปจนกว่าจะคลอดไม่เพียงแค่นี้สิงหนาทยังทาครีมบำรุงผิวสำหรับสาวตั้งครรภ์เพื่อไม่ให้ท้องลายทุกเช้าและก่อนนอน จัดเตรียมแคลเซียมแบบเม็ดฟู่ให้เธอกินทุกวัน บีบนวดให้ทุกครั้งที่เธอบ่นว่าปวดเมื่อย ยิ่งตอนนี้ใกล้คลอดเข้าไปทุกขณะ สิงหนาทเป็นหมอนวดประจำตัวเธอ ทั้งเช้าสายบ่ายเย็นและก่อนนอน พาไปหาหมอตามกำหนดไม่ขาด และอีกหนึ่งอย่างที่ทั้งคู่ทำพร้อมกันคือ ออกกำลังกาย ส
Chapter72อริยะเอ่ยขึ้นอย่างคนจนมุม มองชายสูงวัยที่มีอำนาจมากกว่าตนอย่างกริ่งเกรง “ก็ไม่มีอะไรมาก แค่คุณทุกคนอย่ายุ่งกับแพร ลูกสะใภ้ของผมอีก ถ้าแพรกับหลานของผมเป็นอะไรไป ผมจะโทษพวกคุณแล้วจะสั่งสอนให้พวกคุณรู้ว่า ใครแตะแพร...มันต้องไม่ตายดี” เถ้าแก่สันต์เสียงเย็นเยียบทว่าหนักแน่น แววตาจริงจังจนคนฟังรับรู้ได้ว่า เขาเอาจริง “ส่วนเธอ...ปริม เธอต้องเลิกติดต่อกับสิงห์อย่างถาวร ห้ามติดต่อกันทุกทาง แล้วไปให้ไกลจากสิงห์ ถ้าฉันรู้ว่าเธอไม่ทำตามที่ฉันบอก เตรียมตัวไปเยี่ยมพ่อเธอที่คุกได้เลย ฉันไม่ปล่อย ไม่ช่วยเหมือนครั้งก่อนแน่ แต่จะกระทืบให้จมดิน” เป็นอีกครั้งที่พรรณนาราถูกเถ้าแก่สันต์บีบคั้น บีบให้ทำในเรื่องที่ไม่อยากทำ ทว่าก็ต้องทำตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ทำ ความชั่ว ความเลวที่ประดิษฐ์ทำไว้ก็จะถูกเปิดเผย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ชะตาชีวิตของประดิษฐ์จะเป็นเช่นไร รวมถึงอนาคตทางการเมืองของอริยะก็ต้องดับวูบลง เลิกล้มความตั้งใจทำเรื่องดังกล่าว เพื่องานใหญ่และเงินจำนวนมากที่จะเข้ากระเป๋าดีกว่า “ผมจะมั่นใจได้ยังไงว่าเถ้าแก่จะไม่ผิดคำพูด” อริยะถาม “ผมบอก
Chapter71“ถ้ามึงไม่อยากตายก็อยู่แต่ในห้อง อย่าคิดหนีไปไหน จะมีคนเอาข้าวเอาน้ำมาให้กินสามมื้อ รอจนกว่าเถ้าแก่สันต์จะจัดการเรื่องนี้เสร็จ มึงสองตัวก็จะไปจากที่นี่ได้ แต่ถ้ามึงคิดหนี กูไม่รับรองความปลอดภัยมึงนะ”สุชาติย้ำบอกโย่งกับดำ ที่พร้อมทำตามอย่างคนกลัวตาย เมื่อจัดการทางนี้เรียบร้อย สุชาติเดินไปนั่งรถยนต์คันเดียวกับเถ้าแก่สันต์ ก่อนที่เขาจะขับรถพาเถ้าแก่สันต์กลับบ้านงานวันนี้เสร็จสิ้นแล้ว งานวันพรุ่งนี้คืองานใหญ่ที่เถ้าแก่สันต์ต้องรีบเร่งจัดการ ก่อนที่พวกนั้นจะคิดแผนชั่วทำลายทายาทตัวน้อยๆ ในท้องกัญญาภรณ์ทำใครทำได้ แต่อย่าคิดทำลูกสะใภ้ของเถ้าแก่สันต์...ใครคิดแตะ...ตายอริยะทำหน้าแปลกใจและตกใจเมื่อรู้จากลูกน้องว่า เถ้าแก่สันต์มาหาถึงบ้าน เขามองหน้าประดิษฐ์ พี่ชายที่มาค้างบ้านตนตั้งแต่เมื่อวาน สงสัยว่าเถ้าแก่สันต์มาหาตนทำไม “หรือว่ามันจะรู้เรื่องเมื่อวานนี้” ประดิษฐ์คาดเดา “คงไม่รู้หรอก ไอ้สองตัวมันทำงานกับฉันมานาน มันรู้ดีว่าต้องทำยังไง อีกอย่างมันหนีออกจากโรงบาลตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ป่านนี้ไปไกลแล้วมั้ง”อริยะได้ข่าวมาว่า โย่งกับดำสองลูกน้องที่ให้ไปทำงานเมื่อวาน