หนูอายุ 19 ปี เป็นลูกสาวคนเล็กของบ้าน หนูมีพี่สาวอยู่คนนึงชื่อแอน แก่กว่าหนู 3 ปี ตอนนี้ไปเรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกา หนูเรียนอยู่ปี 2 ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพค่ะ ที่บ้านของหนูอยู่ชานเมือง ฐานะค่อนข้างดี คุณพ่ออายุ 45 ปีเป็นผู้บริหารบริษัท ส่วนคุณแม่อายุ 42 ปีเคยเป็นอาจารย์ แต่เมื่อหนูคลอดฐานะคุณพ่อดีขึ้น และได้รับมรดกจากคุณปู่คุณย่า คุณพ่อจึงขอร้องคุณแม่ให้ออกมาดูแลหนูและพี่แอน
ที่บ้านหนูยังมีอีกครอบครัวนึงคือครอบครัวน้าลพกับน้ารี สองสามีภรรยาอายุราวๆ 40 กันทั้งคู่ น้ารีอยู่กับคุณปู่คุณย่ามาก่อนแล้วมาเป็นพี่เลี้ยงให้พี่แอนกับหนู เมื่อแต่งงานกับน้าลพคุณพ่อคุณแม่จึงรับน้าลพมาอยู่ช่วยงานอีกคนและยกบ้านหลังเล็กให้อยู่ โดยน้ารีคอยดูแลพี่แอนและหนู ช่วยงานบ้านงานครัว ส่วนน้าลพขับรถดูแลรถ ดูแลส่วน และงานซ่อมแซมต่างๆในบ้าน
เหตุเกิดขึ้นเมื่อก่อนปีใหม่ค่ะ ช่วงนั้นคุณพ่อไม่อยู่บ้าน ไปตรวจงบประจำปีสาขาที่ต่างจังหวัดหลายวัน กว่าจะกลับก็วันศุกร์ก่อนจะหยุดยาว คืนนั้นเที่ยงคืนกว่าหนูตื่นขึ้นมากลางดึกราวๆเที่ยงคืนกว่า และตั้งใจว่าจะหลับต่อแต่ก็ได้ยินเสียงคนคุยกันมาจากห้องคุณพ่อคุณแม่หรือว่าคุณพ่อจะกลับมา หนูจึงเดินไปที่ประตูห้องคุณพ่อคุณแม่เพื่อจะทักทายคุณพ่อ แต่ยังไม่ทันได้เคาะประตูหนูก็ได้ยินเสียงคุณแม่และเสียงผู้ชายแต่ไปใช่คุณ พ่อครางเบาๆ ดังลอดประตูออกมา
หนูออกไปที่ระเบียงซึ่งมีมุมที่สามารถมองไปที่หน้าต่างห้องนอนคุณพ่อคุณแม่ ได้ ห้องนอนคุณพ่อคุณแม่ยังเปิดไฟ หนูมองผ่านม่านที่รูดไม่สนิทเห็นร่างของน้าลพเปลือยท่อนบนทาบทับอยู่บน ร่างผู้หญิงซึ่งแม้ว่าจะไม่เห็นหน้าชัดเพราะตรงที่ที่หนูดูอยู่เป็นหัวเตียง เห็นแต่ศีรษะของผู้หญิงผมยาวอยู่ในชุดนอนบางเบา แต่หนูก็รู้ว่าเป็นคุณแม่ น้าลพกำลังจูบปากคุณแม่บดขยี้ไปมามือก็ลูบไล้ไปตามเนื้อตัว คุณแม่ไม่ได้ขัดขืนกางแขนกอดรัดจูบตอบน้าลพ เมื่อน้าลพเลื่อนหน้าลงมาไซ้ซอกคอ ร่องอก แล้วดูดเลียหัวนมของคุณแม่ ซ้ายขวาสลับกัน คุณแม่ก็ยกขาขึ้นทั้ง 2 ข้าง เกี่ยวรัดตัวน้าลพไว้ พลางแอ่นอกส่ายสะโพกเบียดกับตัวน้าลพไปมา สองมือก็กดศีรษะน้าลพลงกับอกปากก็ครางเบาๆ เสียงน้าลพพูดงึมงำจับใจความไม่ได้ หนูตกใจมากกับภาพที่เห็น รู้สึกอายแต่ก็อดที่จะยืนดูไม่ได้ มันทั้งอายทั้งอยากดูและรู้สึกวูบวาบอย่างบอกไม่ถูก
ครู่ใหญ่น้าลพก็เลื่อนหน้าลงไปซุกไซ้ที่ท้องน้อย ทั้งจูบทั้งไซ้แลบลิ้นยาวเลียเรื่อยลงไปถึงเนินนูนแล้วซุกหน้าลงไป คุณแม่กดศีรษะน้าลพแน่นมือเกร็งจิกผมกระดกก้นรับเป็นระยะๆ ถอนหายใจเฮือกๆ จนอกกระเพื่อมปากร้องครางดังขึ้น หนูเสียวซ่านที่ท้องน้อยรู้สึกกระตุกวาบๆ ที่ก้นและช่องคลอด น้าลพซุกไซ้อยู่ครู่ใหญ่จนคุณแม่ทนไม่ไหวดึงศีรษะน้าลพขึ้นมาข้างบน น้าลพผงกหัวลุกขึ้นถอดกางเกงขาสั้นและกางเกงในออก เอามือช้อนขาของคุณแม่ทั้งสองข้างพาดไหล่
หนูเห็นท่อนเนื้อกำยำปูดโปนด้วยเส้นเอ็นของน้าลพผงกหงึกๆ น้าลพจับมันเขี่ยวนไปที่เนินนูนของคุณแม่แล้วค่อยๆสอดใส่มันลงไป คุณแม่แอ่นก้นรับ ครางดังๆออกมา น้าลพหยุดพลางค่อยๆสอดเข้าไปทีละน้อยจะมิดลำแล้วค่อยๆ ชักเข้าชักออกมือก็ขยำขยี้อกอวบนิ้วคอยบี้ปลาย ยอดอกคุณแม่ก็แอ่นก้นรับเป็นระยะ หนูเสียวมากขึ้นรู้สึกเหมือนว่าเนินเนื้อของหนูจะบวมขึ้น ภายในร่องหลืบฉ่ำแฉะ หนูเพลินดูน้าลพกับคุณแม่ร่วมรักกันไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบ มารู้ตัวเมื่อน้าลพเร่งจังหวะเร็วขึ้น คุณแม่บิดกายครวญครางออกมาดังๆ สักพักน้าลพก็เแหงนหน้าขึ้นร้องครางออกมาแล้วก็ทรุดตัวลงทาบทับกับร่างคุณ แม่ หนูรีบกลับจากระเบียงเข้ามาในบ้าน ค่อยๆย่องเข้ามาในห้อง ขึ้นเตียงนอนคืนนั้นหนูนอนไม่หลับค่ะ มันตื่นเต้นปั่นป่วนไปหมด ภาพคนสองคนเปลือยกายกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันมันลอยวนเวียนทุกครั้งที่หนูหลับตา หูก็แว่วเสียงคนคุยกัน เสียงครวญคราง หนูอดจินตนาการเห็นภาพตามไม่ได้ ความเสียวซ่านในท้องน้อยมีมากขึ้นจนหนูเผลอเอามือล้วงไปลูบไล้เนินนูนของหนู ภายในร่องเนื้อฉ่ำแฉะ
หนูลูบไล้โดนติ่งเนื้อจนเสียววาบๆ ทุกครั้งที่สัมผัสโดนหนูลูบไล้อยู่พักใหญ่มันก็กระตุกวาบๆ น้ำไหลออกมาจากภายในร่องหลืบมากขึ้น หนูรู้สึกโล่งปลอดโปร่งและผ่อนคลายจนเผลอหลับไปตอนเช้าที่โต๊ะอาหาร คุณแม่นั่งทานอาหารเช้าอยู่คนเดียว ขณะที่หนูลงมาจากห้องนอนเพื่อเตรียมไปมหาวิทยาลัย คุณแม่ดูสดชื่นแต่ของบตาออกคล้ำๆ เล็กน้อย หนูแกล้งถามไปว่า “คุณแม่นอนดึกเหรอคะ” คุณแม่บอกว่า “จ๊ะ เมื่อคืนดูทีวีดึกไปหน่อย” หนูทานโจ๊กซึ่งคุณแม่ให้น้าลพไปซื้อให้ หนูก็เพิ่งทราบว่าน้ารีแกไปนอนเฝ้าไข้พ่อแกที่ล้มป่วยเมื่อคืน แกจะกลับมาช่วงกลางวัน ทำงานบ้านแล้วจะออกไปเฝ้าพ่อต่อ ในใจหนูคิดว่าหากน้ารีทราบเรื่องเมื่อคืน แกคงจะเสียใจเหมือนที่หนูเสียใจ หนูไม่ทราบว่าคุณแม่ทำอย่างนั้นได้อย่างไร ตอนไปมหาวิทยาลัย น้าลพขับรถไปส่ง หนูแทบไม่อยากมองหน้าน้าลพ น้าลพเห็นท่าทางเพลียๆ ของหนูก็ถามว่า “คุณหนูไม่ค่อยสบายเหรอครับ” หนูพยักหน้า น้าลพถามว่าวันนี้จะเลิกเรียนกี่โมงจะให้มารับเมื่อไหร่ วันนั้นหนูมีเรียนเฉพาะช่วงเช้า ตอนบ่ายว่างหนูอยากรีบกลับบ้าน หนูไม่อยากให้น้าลพมีโอกาสอยู่กันตามลำพังกับคุณแม่ หนูจึงนัดให้แกมารับตอนบ่ายโมงครึ่ง
วันนั้นหนูเรียนไม่รู้เรื่อง ภาพที่เห็นเมื่อคืนก่อนมันเข้ามารบกวนจนหนูรู้สึกบอกไม่ถูก จนเที่ยงเลิกเรียนหนูไปทานอาหารกลางวันกับเพื่อนๆ แล้วลงมานั่งอ่านหนังสือ ซึ่งก็อ่านไม่รู้เรื่องได้แต่พลิกหนังสือไปมา จนกระทั่งบ่ายโมงครึ่งจึงมานั่งที่หน้าคณะรอน้าลพ จนเกือบบ่ายสองน้าลพจึงมา แกขอโทษหนูที่มาช้าบอกว่าไปส่งน้ารีที่โรงพยาบาลจึงมาช้า หนูขึ้นนั่งบนรถแล้วหลับตาอดคิดถึงเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ ลืมตามาเห็นน้าลพก็นึกถึงท่าทางร่วมรักเมื่อคืน รถวิ่งมาได้สักพักน้าลพเรียกหนูถามว่าไม่สบายเหรอ และคะยั้นคะยอให้หนูไปหาหมอ หนูปฏิเสธไปแล้วบอกว่าแค่ปวดหัว เดี๋ยวแวะซื้อพาราฯให้หนูทานสักเม็ดคงจะหาย แล้วหนูก็ส่งเงินให้น้าลพ น้าลพจอดรถแวะร้านขายยาแล้วลงไปซื้อยา สักพักก็กลับมาส่งยาให้หนูพร้อมกับน้ำเปล่า 1 ขวด หนูรับยามาทานแล้วก็ดื่มน้ำจนหมดแล้วก็นั่งพิงเบาะหลับตา
วันนี้รถไม่ติดเลยรถวิ่งไปได้สักครู่หนูก็เคลิ้มหลับ มันหลับๆ ตื่นๆ ภาพน้าลพกับคุณแม่มาวนเวียนอยู่ในสมอง ภาพหน้าลพกอดจูบซุกไซ้คุณแม่ ภาพท่อนเนื้ออันกำยำของน้าลพ ภาพการกระแทกกระทั้น ภาพการแอ่นอกยกก้นของคุณแม่ หนูรู้สึกวาบๆ ที่ท้องน้อยใจเต้นแรง หายใจแรง ภาพต่างๆ แจ่มชัดขึ้น หนูรู้สึกกระตุกหงึกๆ ภายในร่องหลืบ จนต้องถอนหายใจออกมาจนถึงบ้านหนูลงจากรถ เดินเข้าบ้านไม่เห็นคุณแม่อยู่ในบ้าน คงจะอยู่ข้างบน ความรู้สึกวาบหวิวมันประดังเข้ามาจนหนูแทบอั้นไม่ไหว หนูรีบขึ้นไปข้างบนเข้าห้องนอนล็อคประตูเปิดแอร์ทิ้งไว้แล้วเข้าห้องน้ำ
หนูถอดเสื้อผ้าเปิดน้ำอาบ น้ำจากฝักบัวแม้จะช่วยให้หนูผ่อนคลายลงไปบ้าง แต่เมื่อถูกสบู่ลูบไล้เนื้อตัวความรู้สึกวูบวาบก็กลับเข้ามาอีก หนูเช็ดตัวนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาในห้องนอน สวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้นแล้วล้มตัวลงนอนกอดหมอนข้าง เอาเนินนูนของหนูถูไถหมอนข้างอย่างสุดจะห้ามใจ ภาพเมื่อคืนเร่งให้หนูวาบหวิว มันเสียวซ่านและตอดรัดภายในซอกหลืบ หนูเอาขาเกยหมอนข้างกระเด้งแอ่นเอาเนินนูนบดขยี้อย่างเมามัน หนูได้ยินเสียงปลดล็อคประตูดังกริ๊กประตูห้องเปิดออก น้าลพเดินเข้ามาแล้วล็อคประตูหนูตกใจมากถามแกว่า “เอ๊ะ น้าลพเข้ามาได้อย่างไรแล้วเข้ามาห้องหนูทำไม” น้าลพตอบว่า “ผมมีกุญแจสำรองเกือบทุกห้องของบ้านนี้ ผมเข้ามาดูคุณหนูเห็นว่าไม่ค่อยสบายเผื่อผมจะพาไปหาหมอ” หนูถามหาคุณแม่น้าลพแกบอกว่า “คุณนายไปบ้านเพื่อนผมไปส่งหลังจากไปส่งรีที่โรงพยาบาล ท่านให้ผมไปรับตอนห้าโมงครับ”
ผมเป็นคนหนึ่งที่มีประสบการณ์เรื่องลักหลับที่ผมประทับใจอยู่ครั้งหนึ่งมา เล่าให้ฟัง ตอนนั้นผมอายุ 20 ผมเป็น คนกรุงเทพฯ อาศัยอยู่กับพ่อแม่และมีน้องสาวคน 1 คนอายุ 17 เรียนอยู่ชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมชื่อดังย่านลาดพร้าว หน้าตาก็จัดว่าน่ารัก แต่เพราะผมเป็นพี่ชายเลยมองไม่ออกเท่าไหร่ (เห็นหน้ากันทุกวัน) เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้มันไม่ใช่การ ลักหลับน้องสาวผมเองหรอกครับ แต่ก็ไม่เชิงมากนัก น้องสาวผมชอบพาเพื่อนมาค้างที่บ้านเป็นประจำ และมีเพื่อนน้องอยู่ คนหนึ่งชื่อน้องหญิง น้องหญิงเรียนอยู่ที่เดียวกันกับน้องสาวผม เธอเป็นคนผิวขาว ผมสั้นๆ น่ารักมาก ผมเห็นแล้วยังชอบเลย แต่ไม่กล้าจีบเพราะเป็นเพื่อนน้อง เดี๋ยวจะหาว่าเราเป็นโคแก่ อีกอย่างหนึ่งต่อหน้าเพื่อนๆ ของน้องผม ผมจะวางตัวดี ทำเหมือนจะสุภาพเรียบร้อย เพื่อนๆ น้องเคารพผมทุกคน แต่ในใจนี่สิอยากจะอึ๊บซะให้หมดทุกคน เพื่อนน้องทุกคนเลย โดยเฉพาะน้องหญิงที่น่ารัก และแล้ววันที่ฟ้าประทานก็มาถึง วันนั้นผมกลับจากมหาวิทยาลัย พอมาถึงบ้านปุ๊บก็เห็นรองเท้า น้องสาวผมกับรองเท้าผู้หญิงอีกคู่หนึ่ง ผมคิดในใจแล้วว่าต้องเป็นเพื่อนน้องคนใดคนหนึ่งแน่เลย ในใจผมอยากให้เป็นน้อ
ไอ้เชนเป็นเด็กกำพร้าบ้านแตกสาแหรกขาดมาอาศัยอยู่กับอาจารย์ปลั่งซึ่งเป็น อาจารย์ประเภทหมอเสน่ห์และเข้าทรงโดยตั้งสำนักหลอกชาวบ้านไปวันๆ โดยมีบ้านพักเก่าๆ แต่ภายในตกแต่งให้ดูขลังเพื่อตบตาผู้คนเป็นสำนักทรง ซึ่งผู้คนที่เข้ามาหาส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้ที่งมงายเชื่อถือในสิ่งที่มองไม่ เห็นและมักจะเป็นผู้หญิงเป็นส่วนมาก อาจารย์ปลั่งที่ผู้คนหลงนับถือแท้จริงคือสิบแปดมงกุฎตัวยง และยังเป็นชายหื่นกามที่หลงไหลในตัณหาราคะเป็นที่สุด ซึ่งเป้าหมายของการตั้งสำนักทรงและทำเสน่ห์ให้หญิงสาวก็เพื่อหวังที่จะได้ ทั้งตัวและเงินของเหยื่อและส่วนใหญ่ก็มักจะพลาดท่าตกเป็นเหยื่อให้ไอ้เฒ่า ปลั่งและไอ้เชนลูกศิษย์ได้ล่อและแบล็คเมย์เสมอๆ วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ลัดดาสาวไฮโซเมียนายพลซึ่งตอนนี้ตกอยู่ในห้วงของ ความทุกข์เพราะสามีนายพลไปติดเมียน้อยและไม่ค่อยกลับบ้านทิ้งให้ลัดดาและ น้องมิ้นลูกสาววัย 17 ต้องอยู่กับแม่ในบ้านหลังใหญ่รายล้อมด้วยคนใช้เพียงลำพัง ด้วยความที่อยากได้สามีคืนลัดดาจึงหวังใช้เสน่ห์จากอวิชาตามที่ได้รับคำบอก เล่าจากคนรับใช้ภายในบ้านว่ามีสำนักทรงและหมอเสน่ห์อยู่ใกล้บ้านและเนื่อง จากคนรับใช้ไม่เคยไปใช้บริการที่สำน
หนูชื่อสาวนะคะ กำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งนึงในกรุงเทพค่ะ แฟนสาวน่ะเค้าชอบให้สาวแต่งตัวโป๊ๆ ยั่วคนอื่นสาวก้อชอบค่ะ สาวชอบแต่งตัว แต่มาหลังๆ เวลานอนกับแฟนๆ สาวชอบพูดถึงให้สมมติว่าสาวนอนกะคนอื่นบ้าง มีคนอื่นอยู่ในเหตุการณ์ทำนู่นทำนี่กะสาวมั่งล่ะ แรกๆ สาวไม่ชอบเลย แต่หลังๆ ก้อลองจินตนาการแล้วรู้สึกว่ามันเสียวมากเลย แต่ไม่บอกแฟนหรอกไม่อยากให้เค้าคิดว่าเราเป็นผู้หญิงไม่ดีจนมาวันนึง เป็นครั้งแรกค่ะสาวเคยเล่าไว้นานแล้วเรื่องตอนที่สาวไปเสม็ดแล้วแฟนสาวขอให้ช่วยใช้มือกะเพื่อนเค้า สาวยอมรับว่าสาวชอบมากอยากลองจริงๆ แต่สาวก้อกลัวค่ะหลังจากนั้นเราก้อเล่นกันแบบจงใจให้คนอื่นเห็นบ่อยๆสาวจะมีความรู้สึกมากเป็นพิเศษเวลาเห็นแฟนสาวหึงหวงด้วยจนมาวันนึงแฟนสาวอยากให้สาวลองเล่นเป็นผู้หญิงบริการ สาวก้อโอเคนะเพราะนึกว่าเค้าจาให้สาวแกล้งเป็นแล้วนอนกะเค้าที่ไหนได้มีอยู่คืนนึง เค้าออกไปเที่ยวกะเพื่อนนอกบ้านแล้วให้พอดึกๆ ก้อบอกให้สาวตามออกไปโดยใส่ใส่เสื้อผ้าแบบวาบหวิวสาวก้อลังเลนะ แต่เห็นว่าแฟนคงไม่ให้ไปนอนกะคนอื่นหรอก สาวก้อตามไปที่ร้าน ร้านนี้มืดมากเลยค่ะเป็นพวกเล้าจ์น่ะมีเด็กนั่งดริ้ง แฟนสาวนั
ผมยังเป็นนักศึกษาอยู่เลยครับ ผมชื่อหนุ่ยเป็นคนบ้านนอก ได้มีโอกาสสอบติดที่กทม. ผมจึงต้องอาศัยบ้านอาผู้ชาย อาผมชื่อว่าโต้งครับ แต่งงานแล้วมีลูกสองคนเป็นชายคนหญิงคน ผู้ชายอายุมากกว่าผม เขาแต่งงานมีลูกมีเมียไปแล้วครับ ส่วนลูกสาวอีกคนเพิ่งจะ ม.6 เองชื่อแยม อาสะใภ้ของผมมีชื่อว่าเตือน อายุน้อยกว่าอาผมตั้งเกือบสิบปีได้ คงอายุประมาณ 30 ได้มั้งครับ เนื่องจากว่าผมสนิทกับอาโต้งมาก อาผมจึงเชื่อใจและไว้ใจผมดูแลบ้านเวลาเขาไปทำงาน ส่วนอาเตือนเขาอยู่บ้านรับจ้างเย็บเสื้อผ้า ตอนแรกๆ ที่ผมได้เข้ามาอยู่ที่บ้านนี้ ตอนกลางคืนผมมักจะได้ยินเสียงแปลกๆ อยู่เสมอครับ คงไม่ใช่เสียงอะไรหรอกครับ เสียงอาทั้งสองของผมครางกระเส่านั่นเอง ผมมักจะแอบดูเป็นประจำและครั้งแรกที่ผมเห็นนั้นก็ทำให้ผมเกิดความคิดที่จะต้องเอาอาเตือนให้ได้ แม้ว่าอาโต้งจะดีกับผมเพียงไร แต่ด้วยความขาวความอวบและเนินโหนกอันแสนจะระทึกใจของอาเตือนนั้นผมห้ามใจไม่ไหวหรอกครับแล้ววันที่ผมรอคอยก็มาถึง วันนั้นอาโต้งออกไปทำงานตามเคย ผมจึงนอนอยู่บนห้องคนเดียวรอเวลาที่อาเตือนจะเข้ามาทำความสะอาดห้อง แล้วผมก็แกล้งนอนหลับแถมยังแก้ผ้าหมดเหลือแต่มังกรตัวเขื่อ
มันเกิดขึ้นตอนที่ผมเรียนอยู่ชั้นปี 3 ผมมีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่งชื่อนพ ผมนอนกับผู้หญิงครั้งแรกก็ไอ้นพนี่แหละครับ นพพาผมไปเที่ยวเธคและแนะนำให้รู้จักกัน แล้วครั้งแรกนี่แหละครับที่ผมได้เสียวกับเธอโดยที่เธอทำเองหมดเลย ทั้งอมดูดและขย่มจนผมหมดแรงไปเลยครับซึ่งเธอจัดเจนมากกับเรื่องบนเตียง แล้วนพก็บอกผมว่าเธอนอนกับผู้ชายมาแล้วหลายคนแม้กระทั่งตัวมันเอง แต่เธอจะนอนกับคนที่เธอพอใจเท่านั้นครับ ผมเลยโชคดีได้นอนกับเธอเกือบสองอาทิตย์แล้วก็เลิกติดต่อกันไปตั้งแต่นั้นมาผมกับไอ้นพจะได้ผู้หญิงไปนอนด้วยเสมอเพราะพวกเราหน้าตาดีมีรถขับมีเงินพวกเธอเลยยอมมาด้วย และพวกเธอก็สวยๆ ทั้งนั้น เรียนอยู่ก็มีพวกเธอต้องการความสนุกเท่านั้น ผมกับนพนอนกับผู้หญิงมาหลายรูปแบบทั้งสาวใหญ่ แม่ม่าย วัยรุ่น ทั้ง 2 ต่อ 1 เราไม่อายกันหรอกครับ แล้วจู่ๆ ผมนึกอยากลองเย่อกับผู้หญิงวัยอ่อนกว่าเราสองคน เพราะตั้งแต่เราเที่ยวกันมาเคยแต่นอนกับหญิงมหาวิทยาลัยทั้งนั้นเด็กมัธยมด้วยกันยังไม่เคย แล้วเราก็ตกลงไอ้นพมันจะหามาให้ครับมันก็เร็วทันใจดีเหลือเกินไอ้นพบอกได้แล้วขาดแต่สถานที่ แต่มันก็พอดีพ่อแม่ผมไม่อยู่ไปต่างจังหวัดเหลือผมอยู่บ้านค
หนูบอกแกว่าหนูไม่เป็นอะไรมาก นอนพักสักครู่ก็คงหาย แต่น้าลพยังไม่ออกไปจากห้อง ทรุดตัวลงนั่งบนเตียงข้างๆ หนู เอามือลูบไล้ท่อนขาเรียวเปลือยของหนูแล้วพูดว่า “คุณหนูครับเมื่อคืนคุณหนูแอบดูผมกับคุณผู้หญิงใช่มั้ยครับผมเห็นเงาที่ระเบียง” หนูตกใจมากที่ทราบว่าน้าลพแกเห็นที่หนูแอบดู หนูผุดลุกขึ้นนั่ง หลบตาแกหน้าชาวูบด้วยความอาย น้าลพลูบไล้แผ่นหลังมาถึงสะโพกหนูพลางกระซิบว่า “คุณหนูไม่ต้องอายหรอกครับ คุณหนูบอกผมได้ไหมครับว่าเห็นอะไรบ้างและคุณหนูรู้สึกยังไง” หนูเสียวซ่านเมื่อน้าลพลูบไล้เข้าไปในเสื้อยืด ภาพเมื่อคืนวานผุดเข้ามาในความคิดของหนู ความเสียวซ่านจากภาพนั้นประกอบกับการถูกจู่โจมลูบไล้ ทำให้รู้สึกวูบวาบไปทั้งตัว น้าลพแกก้มหน้าลงซบที่ซอกอกหนูมือก็ยังคงลูบไล้ลามไปเรื่อยๆ หนูพยายามปัดป้องผลักไส แต่ความซาบซ่านทำให้ต้องแอ่นอกรับหน้าของน้าลพอย่างสุดที่จะห้ามใจน้าลพดึงเสื้อยืดหนูขึ้นแล้วฝังหน้าลงระหว่างร่องอกที่ห่อหุ้มด้วยเสื้อชั้นใน แลบลิ้นเลียไปตามชายเนินถันที่ตึงเต่งของหนู หนูพยายามจะผลักไสแต่มันไม่มีแรงเอาซะเลย น้าลพกดตัวหนูนอนราบลงจับมือหนูทั้งสองข้างยกขึ้นแล้วดึงเสื้อยืดขึ้นจนเสื้อรูดพ้นจากร่