คลับหรู
“แกลืมมือถือใช่ไหม”
พริกแกงเห็นต้นหลิวเดินมาที่จุดนัดพบก็รีบดึงมือเพื่อนเธอเข้ามาที่มุมมืดของร้านทันที พริกแกงเข้านอกออกในที่นี่บ่อยเธอจึงรู้แทบทุกซอกทุกมุม
“แกรู้ได้ไง”
ต้นหลิวแปลกใจเล็กน้อยที่เพื่อนเธอรู้ว่าเธอลืมมือถือ ตัวเธอเองยังรู้ตัวเมื่อถึงที่นี่แล้วเลย
“ก็ฉันโทรหาแกแล้วยัยต้นรักรับน่ะสิ แถมบอกจะรีบเอามือถือมาให้แกอีก”
“อ้าวอย่างนั้นก็ซวยน่ะสิ ยัยต้นรักก็ต้องสงสัยแน่เลย”
ต้นหลิวเริ่มมีสีหน้าตระหนก หากต้นรักรู้ว่าเธอไม่ได้มาทำงานที่นี่อย่างที่บอก เรื่องนี้เธอจะต้องทะเลาะกับต้นรักใหญ่โตแน่
“งั้นแกก็ต้องรีบเลยก่อนที่ยัยต้นรักจะมา ฉันมองไว้ให้แกแล้วว่าเหยื่ออยู่ตรงไหน น่าจะมีเงินเพราะดื่มแต่ของแพงๆ”
พริกแกงเห็นทีจะต้องให้ต้นหลิวนั้นรีบลงมืออย่างรวดเร็วก่อนที่ต้นรักนั้นจะมาที่นี่ เธอลอบมองเหยื่อไว้หลายคนเห็นจะเป็นพ่อฝรั่งตาน้ำข้าวคนนั้นที่นั่งอยู่คนเดียวน่าจะเข้าถึงง่ายที่สุด
“ฝรั่งคนนั้นอะนะ”
ต้นหลิวมองไปตามที่เพื่อนของเธอชี้เธอเห็นว่าเขานั้นนั่งดื่มอยู่คนเดียว แต่งตัวก็ธรรมดาคงจะเป็นการง่ายต่อการที่เธอจะปลดทรัพย์
“ใช่แก ฉันเห็นนั่งเซ่ออยู่คนเดียวตั้งนานแล้ว ดื่มหนักด้วยคงจะไม่ค่อยระวังตัว”
พริกแกงคิดไปเองว่าฝรั่งคนนี้น่าจะไม่ค่อยระวังตัวเท่าไรเพราะดื่มหนักแล้วจากที่เธอคอยสังเกต
“ขอให้เซ่อจริงอย่างที่แกว่าก็แล้วกัน ฉันไปล่ะนะ”
ต้นหลิวอมยิ้มกรุ้มกริ่ม มองเหยื่อด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ หวังว่างานนี้มันจะผ่านไปด้วยดี เธอจะได้มีเงินไปจ่ายค่ารักษาแม่ของเธอ
“เดี๋ยวฉันจะรออยู่ทางนี้ ถ้ามีอะไรแกก็วิ่งมาทางฉันก็แล้วกันข้างหลังเป็นลานจอดรถ”
“โอเค”
ทั้งสองนัดแนะทางหนีทีไล่กันอย่างดิบอย่างดีก่อนที่ต้นหลิวจะเดินเข้าไปจัดการตามแผน
เบนจามินนั่งดื่มในร้านของเพื่อนเขาอย่างสบายอารมณ์ ถึงจะดื่มไปมากแต่คนคอแข็งอย่างเขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะเมาเลยสักนิด ยังมีสติอยู่เสมอ
พลันสายตาชายหนุ่มมองไปเห็นหญิงสาวที่ทำท่าจะเดินมาทางเขา แถมยังส่งยิ้มมาให้เขาอย่างหยาดเยิ้ม เขาเลยยิ้มตอบอัตโนมัติโดยที่ไม่รู้ตัว
“เฮ้อ...สู้”
ต้นหลิวกล้าๆกลัวๆเพราะนี่เป็นงานแรกของเธอที่จะต้องทำอะไรแบบนี้ เมื่อเห็นเหยื่อตกหลุมพรางแล้วเธอก็ทำทีเดินไปใกล้ๆดึงมือให้เขามาเต้นด้วย
เบนจามินเองก็ไม่ได้ขัดเมื่อแม่สาวคนสวยจะชวนเขาไปสนุกด้วย ถึงเธอจะไม่ได้สูงยาวเขาดีแบบพริตตี้ในร้าน แต่ร่างเล็กๆของเธอก็ยั่วยวนใจของเขาได้เป็นอย่างดี อีกทั้งใบหน้าสวยหวานที่ยิ้มให้ตลอดนั่นอีก ทำให้เบนจามินเริ่มหลงไหลคล้อยตามความต้องการของหญิงสาวไปได้ง่าย
ต้นหลิวกระหยิ่มอยู่ในใจที่ชายหนุ่มไม่ได้มีทีท่าปฏิเสธ เธอค่อยๆพาเขาเดินมายังกลุ่มคนที่ค่อนข้างเยอะและแออัด พร้อมเข้าประชิดตัวชายหนุ่มให้มากที่สุด พลันสายตาสังเกตเห็นแล้วว่ากระเป๋าเงินของเขาอยู่ตรงไหน จากนั้นก็ใช้ความมือไวหยิบอกมาอย่างง่ายดาย พร้อมหายเข้ากลีบเมฆปล่อยให้ชายหนุ่มยืนงงอยู่คนเดียว เธออาศัยความตัวเล็กของเธอฝ่ามุมมืดเข้ามายังจุดที่นัดกับเพื่อนเธอเอาไว้ทันที
“เป็นไงบ้างแก”
พริกแกงที่ยืนรอรับหญิงสาวที่ลานจอดรถเห็นเพื่อนเธอวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาจึงถามว่างานสำเร็จหรือไม่
“นี่ไง...ง่ายกว่าที่คิดเหมือนกันนะ”
ต้นหลิวโชว์กระเป๋าหนังใบหรูให้เพื่อนเธอดู ไม่คิดว่าเธอจะทำได้ง่ายขนาดนี้แต่ก็แอบสงสารผู้ชายคนนั้นอยู่เหมือนกัน
“หนอย...ยัยตัวแสบเล่นผิดคนซะแล้ว”
เบนจามินละสายตาครู่เดียวหญิงสาวก็หายไปแล้ว การกระทำของเธอทำให้เขาค่อนข้างแปลกใจเล็กน้อย พลันใช้ความตัวสูงของเขามองหาจนทั่วก็ไม่มี นึกเอะใจจึงรีบสำรวจตัวเองก็ปรากฏว่าเป็นอย่างที่คิด เขาโดนแม่สาวหน้าหวานขโมยกระเป๋าเงินไปเรียบร้อยแล้ว คิดไปคิดมาไม่น่าหลงเสน่ห์เธอตั้งแต่คราแรกเลย นั่งดื่มคนเดียวอยู่ดีๆก็ดีอยู่แล้ว
กระเป๋าเงินเขาไม่เสียดายสักนิด เพราะในนั้นมีแต่บัตรเครดิตที่อายัดเอาก็ได้ เขานึกเจ็บใจมากกว่า คิดในใจว่าอย่าให้เขาจับเธอได้จะลงโทษซะให้เข็ด พร้อมเดินออกจากร้านอย่างไม่สบอารมณ์โดยไม่มีใครทัดทานที่ไม่ได้จ่ายเงิน เพราะคนในร้านรู้ดีว่าเขาเป็นใคร
ทางด้านต้นรัก
“เดี๋ยวผมจอดให้คุณลงด้านหน้าแล้วขับรถไปรับคุณกลับที่ลานจอดด้านหลังนะครับ”
คาวีขับรถพาหญิงสาวมาส่งที่หน้าคลับด้วยความเป็นห่วงเขาคิดว่าควรจะรอรับเธอกลับเลยจะดีกว่า
“คุณหมอกลับเลยก็ได้ค่ะ ฉันกลับเองได้ค่ะ”
ต้นรักค่อนข้างเกรงใจหมอหนุ่มอยู่มาก แค่มาส่งเธอก็พอแล้ว เรื่องกลับเธอกลับเองได้เพราะที่นี่มันไม่ได้ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก
“ไม่เป็นไรครับผมเป็นห่วง กลัวว่าคุณจะเป็นอันตราย”
คาวียังยืนยันคำเดิมว่าเขาจะรอ
“งั้นขอบคุณนะคะ เดี๋ยวฉันจะรีบไปรีบมาค่ะ”
ด้วยความที่ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียง ต้นรักจึงจำใจให้ชายหนุ่มรอแล้วเธอจะได้รีบเข้าไปด้านใน
เบนจามินเดินออกมาด้านหน้าเพื่อที่จะเตรียมตัวกลับ เรื่องหัวขโมยเดี๋ยวเขาสั่งให้ลูกน้องของเขาจัดการ คงจะใช้เวลาไม่นาน
“อยู่นี่นี่เองแม่ตัวดี”
เมื่อเดินมาถึงที่จอดรถวีไอพีด้านหน้าคลับเขาก็อมยิ้มกริ่ม เพราะเห็นแม่สาวตัวดีที่ขโมยของของเขาไป จึงรีบเดินไปกระชากแขนหญิงสาวเอาไว้ ไม่คิดว่าเธอยังจะอยู่ให้เขาจับได้แบบนี้ แต่ก็ดีจะได้ไม่ต้องเสียเวลาให้ลูกน้องตามหา
“เดี๋ยวค่ะ คุณจะพาฉันไปไหนคะ ปล่อยฉันนะ”
ต้นรักถึงกับหน้าเสียตื่นตระหนก อยู่ดีๆมีฝรั่งตาน้ำข้าวเข้ามากระชากแขนเธอให้ตามเขาไปดื้อๆ
“แม่หัวขโมย ฉันไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆหรอก”
เบนจามินนึกหมั่นไส้หญิงสาวที่ทำหน้าซื่อได้อย่างแนบเนียน ทำเป็นไม่รู้เรื่อง ตอนอยู่ในร้านยังส่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้เขาอยู่เลย
“ขโมยอะไรคะ คุณเข้าใจผิดแล้วค่ะ”
ต้นรักยิ่งไม่เข้าใจในคำที่ชายหนุ่มพูดเข้าไปใหญ่ เธอพึ่งจะมาที่นี่ จะไปขโมยของของเขาได้อย่างไรกัน ทั้งพยายามแกะมือของเขาออกจากแขนเธอ แต่ก็ไม่ได้เป็นผลสำเร็จเพราะว่าตัวของเขาใหญ่กว่าเธอตั้งหลายเท่า ดูจากขนาดมือของเขาก็น่าจะสามารถหักคอเธอได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว
“เปลี่ยนชุดเร็วดีนี่ สงสัยจะทำเป็นอาชีพทำมากี่ครั้งแล้วล่ะ หากินสุจริตมันยากนักหรือไง” เบนจามินพูดเย้ยหยันหญิงสาวที่ตีหน้าซื่อเสียงแข็ง
“อะไรของคุณ นี่ปล่อยฉันนะ บอกให้ปล่อยไง”
เบนจามินลากหญิงสาวมายังรถสปอร์ตคันหรูของเขาพร้อมเปิดประตูด้านคนขับ เหวี่ยงหญิงสาวเข้าไปนั่งข้างเบาะคนขับพร้อมสตาร์ทรถและออกตัวไปทันที
ต้นรักกลัวจนน้ำตาร่วง ตัวเธอสั่นเป็นลูกนกที่จู่ๆมีคนบ้าที่ไหนมากล่าวหาเธอเป็นหัวขโมย ทั้งยังจะพาเธอไปที่ไหนก็ไม่รู้ด้วย ความเร็วที่ชายหนุ่มใช้ในการขับรถทำให้หญิงสาวต้องนั่งหลับตาปี๋ตัวเกร็งไปตลอดทาง อีกทั้งเธอยังร้องให้สะอื้นไม่หยุด เพราะไม่รู้ว่าจะหนีจากชายหนุ่มคนนี้ไปอย่างไร
“จะเสียใจได้ยังไง ดีใจมากต่างหาก แบบนี้ต้องบอกข่าวดีกับทุกคน”ด้วยความตื่นเต้นชายหนุ่มจึงรนรานควานหามือถือจะบอกข่าวดีแบบนี้กับทุกคนได้รับรู้“เอ่อ ไม่ต้องหรอกค่ะคุณเบน”ต้นรักหน้าเจื่อนก่อนจะบอกให้เบนจามินไม่ต้องบอกคนอื่น เพราะคนอื่นนั้นรู้หมดแล้ว“อย่าบอกนะว่าพวกเค้ารู้กันหมดแล้ว”“ค่ะ”“ยกเว้นฉันเนี่ยนะ...”เบนจามินเห็นสีหน้าต้นรักก็รู้ว่าเขาคงจะรู้ข่าวนี้เป็นคนสุดท้าย“โกรธฉันเหรอคะ? ฉันแค่อยากบอกกับคุณตอนที่คุณจำความรู้สึกระหว่างเราได้เท่านั้น ไม่อยากให้คุณคิดว่าฉันใช้ลูกมาเป็นบ่วงรั้งคุณ”ต้นรักพยายามอธิบายถึงเรื่องที่เธอไม่ได้บอกเรื่องลูกกับชายหนุ่ม เธอเองก็มีเหตุผลของเธอ และหวังว่าเขาจะเข้าใจ“เฮ้อ ใครจะโกรธเธอลง ฉันแค่นอยเฉยๆที่ได้รู้ทีหลังคนอื่นก็เท่านั้นเอง”เบนจามินแค่อยากได้รู้เรื่องลูกของเขาเป็นคนแรกเท่านั้น แต่เมื่อรู้ว่าหญิงสาวมีเหตุผลของเธอเขาเองก็ไม่ได้อยากคิดอะไรให้มันมากมายนัก แค่ได้รู้ว่ามีเจ้าตัวเล็กที่กำลังจะเกิดมาเป็นโซ่ทองคล้องใจเขาและเธอก็พอแล้วสองเดือนต่อมางานแต่งของต้นรักและต้นหลิวจัดขึ้นพร้อมกันอย่างยิ่งใหญ่ มีสื่อให้ความสนใจมากมายเพราะสองทายาทตระกูลดังต่
สองอาทิตย์ต่อมา20.00 น.คาวีพยายามหาทางช่วยให้เบนจามินกลับมาจำทุกอย่างได้ทุกวิถีทาง คราแรกเบนจามินก็ไม่ค่อยจะยอมให้ความร่วมมือเท่าไหร่ แต่เมื่อได้รับคำสั่งจากคุณย่าของเขาเบนจามินก็ต้องทำตามเพราะไม่อยากจะขัดใจคนเป็นย่า ส่วนต้นรักนั้นก็แพ้ท้องหนักจนต้องกลับมาอยู่ที่บ้านของเธอ ด้วยไม่อยากให้ชายหนุ่มสงสัย“เสื้อตัวนี้...”เบนจามินเข้าไปนั่งในห้องของต้นรัก เขาเห็นบางอย่างอยู่บนหัวเตียงของเธอจึงเข้าไปหยิบขึ้นมาดู มันเป็นเสื้อไหมพรมที่ยังถักไม่เสร็จที่เสร็จ แล้วก็เห็นจะมีเสื้อที่ตัวขนาดเท่าๆกันอีกหนึ่งตัวและตัวเล็กอีกหนึ่งตัวที่สีเหมือนกัน ทำให้ภาพบางภาพปรากฏขึ้นในหัวของเขาเป็นภาพที่เขากำลังลองใส่เสื้อไหมพรมหมีพูห์และมีต้นรักยืนยิ้มอยู่ข้างๆ และภาพต่างๆก็ค่อยๆหลั่งไหลเข้ามาในหัวอย่างชัดเจน ต่างจากเมื่อตอนแรกที่คาวีพยายามรักษาเขามาก ตอนนั้นทุกอย่างมันยังคงเลือนลางไม่ประติดประต่อ แต่ตอนนี้มันค่อนข้างที่จะทำให้เขาคิดอะไรขึ้นมาได้ความรู้สึกเก่าๆที่มันกลับมาทำให้เขาได้รู้ว่าตอนนี้เขาควรจะทำอะไรเช้าวันต่อมา“คุณเบน”ต้นรักค่อนข้างแปลกใจเบนจามินก็มาโผล่ที่บ้านของเธอแต่เช้า“เห็นหน้าฉันทำไมต้องทำ
“เข้าใจละ”ต้นรักพยักหน้าพลางเข้าใจและหายห่วงที่แม่เธอจะได้มีเพื่อนคุยนอกจากพยาบาลที่คอยดูแลอยู่“ผมอยากได้คำตอบ”คาวีเห็นว่าจังหวะนี้แหละที่เขาจะได้ขอคำตอบที่เคยถามหญิงสาวเอาไว้เสียที เพราะเขารอมันไม่ไหวแล้ว“คำตอบอะไร”ต้นหลิวทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าคาวีหมายถึงเรื่องอะไร“อย่ามาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้”คาวีรู้ว่าต้นหลิวรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร แต่เธอทำไขสือไปเท่านั้นเอง“ก็คุณบอกว่าให้ฉันคิดก่อนนี่”ต้นหลิวยังคิดที่จะบ่ายเบี่ยงในการตอบคำถาม“มันนานแล้วนี่คุณ”คาวีเห็นว่าที่เขาต้องถามเพราะว่าคำตอบที่เขารอคอยเขารอมันมานานแล้ว ถ้าเขาไม่ท้วงเธอมีหรือจะได้คำตอบ“ถ้าคุณช่วยให้คุณเบนกลับมาเหมือนเดิมเมื่อไหร่ วันนั้นฉันจะ...ตกลง”อันที่จริงต้นหลิวเองก็คิดเรื่องนี้มาแล้วเหมือนกัน แต่ก็ยิ่งมองว่าเธอกับเขามันต่างกันก็ยิ่งทำให้เธอตอบตกลงกับเขาไม่ได้ แต่วันนี้เธอไม่สนแล้ว เธอคิดอย่างเดียวว่าถ้าตอนนี้หมอหนุ่มรักษาเบนจามินให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมอย่างรวดเร็วได้ เธอก็จะตกลงคำขอของเขา เพราะเธออยากเห็นน้องเธอมีความสุขกับชีวิตครอบครัวเสียที“จริงนะคุณ”คาวีดึงมือเรียวมากุมเอาไว้ด้วยความดีใจ“อื
อาทิตย์ต่อมาเพนท์เฮ้าส์หรู“อาหารเช้าเรียบร้อยแล้วค่ะคุณเบน”เบนจามินกลับมาพักที่เพนท์เฮ้าส์ได้วันสองวันแล้ว แต่ก็ยังคงมีทีมแพทย์แวะเวียนมาดูอาการของเขาอยู่ไม่ห่าง ต้นรักยังคงตามติดเบนจามินคอยดูแลเขาอยู่ตลอด หวังทุกวินาทีว่าเขาจะจำเธอได้ เรื่องลูกในท้องเธอยังไม่คิดที่จะบอกเขาตอนนี้ เพราะเธออยากให้เขาจำความรู้สึกที่เคยรู้สึกกับเธอได้เสียก่อนจึงค่อยบอกเรื่องนี้กับเขา“นี่ฉันกำลังจะแต่งงานกับเธอจริงๆเหรอ”เบนจามินจำต้องให้ต้นรักมาอยู่กับเขาตามคำขอของคุณย่าของเขา ชายหนุ่มนึกสงสัยตัวเองอยู่ว่าตอนก่อนหน้านั้นเขาคิดอะไรอยู่ถึงอยากจะแต่งงาน แถมหญิงสาวยังดูจืดชืดไม่เหมือนผู้หญิงที่เขาเคยควงอีกด้วย“ค่ะ...”“อืม...”ต้นรักรีบพยักหน้าตอบชายหนุ่มอย่างมีความหวัง ว่าที่เขาถามเธอเรื่องนี้มาเขาอาจจะจำอะไรได้ก็ได้ แต่เบนจามินไม่ได้พูดอะไรต่อแถมยังทำหน้าเซ็ง ทำให้เธอรู้ว่าที่เขาถามเธอเขาไม่ได้คิดอะไรได้ คงแค่ไม่แน่ใจเท่านั้นว่าเขากับเธอจะแต่งงานกันจริงๆ“คุณเบนทานเยอะๆเลยนะคะ เสร็จแล้วจะได้ทานยาค่ะ”ถึงชายหนุ่มจะกลับมาเอาแต่ใจหรือหงุดหงิดใส่เธอแบบเดิมเธอก็ยอม ขอแค่ได้ดูแลอยู่ข้างๆเขาแบบนี้ก็พอ“ฉันรู้
“อ๋อ น่ารักเหมือนกันนะถ้าย่าได้เห็นตาเบนใส่เสือแบบนี้คงแปลกตาน่าดู”เอมม่าเห็นเสื้อไหมพรมในมือของต้นรักก็อดชมไม่ได้ หญิงสาวมีฝีมือจริงๆแถมยังนึกภาพไม่ออกอีกด้วยหากหลานชายเธอใส่เสื้อแบบนี้จะเป็นแบบไหน“ค่ะ คุณเบนเคยใส่ลายหมีพูห์ด้วยนะคะ”ต้นรักอยากจะให้เอมม่าเห็นแบบที่เธอเคยเห็นเหลือเกินตอนที่เบนจามินนั้นใส่เสื้อไหมพรมลายหมีพูห์ที่เธอทำให้ตัวแรก“ตาเบนเนี่ยเหรอ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”เอมม่าอดหัวเราะไม่ได้เมื่อรู้ว่าหลานชายเธอเคยใส่เสื้อแบบนี้แล้ว“ค่ะคุณย่า”ต้นรักอดขำตามเอมม่าไม่ได้ เพราะตอนนั้นที่เบนจามินใส่ก็ดูไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกัน แต่เขาก็ยอมใส่เพราะว่าเธอเป็นคนทำให้สองวันต่อมา16.00 น.“โอเคแล้วใช่ไหมหลิว หรือจะอยู่ที่อีกคืน”ต้นรักสอบถามอาการของพี่สาวเธอว่าดีขึ้นแล้วหรือไม่ ใจจริงเธออยากจะให้พี่สาวนอนดูอาการที่นี่ก่อนสักคืนสองคืนด้วยซ้ำ ติดตรงที่ต้นหลิวคะยั้นคะยอจะกลับบ้านนี่แหละ“โอ้ย เค้าไม่อยู่แล้วล่ะรัก เบื่อการนอนที่นี่จะตายอยู่แล้ว จะได้กลับไปอยู่กับแม่ด้วย”ต้นหลิวนึกถึงเรื่องที่จะต้องนอนโรงพยาบาลอีกคืนก็ถึงกับมีสีหน้าไม่สบอารมณ์ เพราะเธออยากกลับไปนอนที่บ้านเต็มทนแล้ว อีกอย่างก็อย
โรงพยาบาล“หลิวเป็นยังไงบ้างคะ”ต้นรักรู้ข่าวว่าพี่สาวเธอโดนยิงก็แทบช็อค ไม่เข้าใจว่าทำไมคนรอบข้างของเธอต้องพากันนอนเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลกันหมด“หมอกำลังผ่าตัดเอากระสุนออกอยู่ครับ”ฮาเปอร์รีบบอกหญิงสาวที่รีบเดินมาถามข่าวกับเขาอย่างรวดเร็วแอบหวั่นใจอยู่ว่าเรื่องแบบนี้คงกระทบหกระเทือนจิตใจของหญิงสาวอยู่ไม่น้อยเมื่อต้องรับรู้ว่าคนรอบข้างล้วนมีแต่เรื่องเจ็บตัวกันไปหมด“โถ่...”“รัก!!”ต้นรักถึงกับยืนไม่อยู่ แล้วสติเธอก็ดับวูบไปดีที่พริกแกงนั้นรับเอาไว้ทัน“หนูต้นรักเป็นยังไงบ้าง”เอมม่ารู้สึกปวดหัวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเหลือเกินยังไงเธอก็เชื่อไปแล้วร้อยเปอร์เซ็นว่าเรื่องทุกอย่างเป็นฝีมือของนิรินแน่นอน“คือ คุณต้นรักพึ่งจะตั้งครรภ์อ่อนๆร่างกายเธออ่อนเพลียมากช่วงนี้ญาติก็อย่าให้คนไข้มีอะไรมากระทบจิตใจมากนักนะคะ”หมอสาวตรวจดูอาการของต้นรักแล้วก็พอจะรู้สาเหตุของอาการที่เธอเป็นลมบ่อยๆ ทั้งยังต้องให้เธอนั้นระวังอย่าให้อะไรมากระทบกระเทือนจิตใจของหญิงสาวอีกด้วย“อะ..เอ่อ..ค่ะหมอ”พริกแกงถึงกับสะอึกกับคำกล่าวของหมอสาวคนในห้องทุกคนต่างก็อึ้งไปตามๆกัน ยังไม่มีใครพูดอะไรออกมาในตอนนี้“นี่เจ้าตัวก็น่าจะไ