Share

บทที่ 3

Author: กระดาษรักครึ่งแผ่น
“พี่หยวน ฮือฮือ...”

“หากพี่มาช้าไปกว่านี้ ฉันจะต้องสูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้วแน่ ๆ” หลี่ชิวจวี๋ร่ำไห้

จางหยวนโอบกอดหลี่ชิวจวี๋เอาไว้ ก้มหน้าลงเพื่อจะพูดปลอบใจสักสองสามคำ

คิดไม่ถึงว่าทันทีที่สายตาโฟกัสลงไปด้านล่าง ก็เห็นว่าเสื้อผ้าของหลี่ชิวจวี๋ยุ่งเหยิง

หน้าอกที่ขาวราวหิมะ เผยให้เห็นครึ่งหนึ่ง และกำลังแนบชิดกับหน้าอกของจางหยวน...

พอเขาได้สัมผัสถึงความนุ่มนวลของหลี่ชิวจวี๋ สูดดมกลิ่นหอมจากร่างกายของ เธอ จางหยวนที่เพิ่งจะมีสติสัมปชัญญะก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกฟุ้งซ่านเล็กน้อย และรู้สึกคันจมูกขึ้นมาทันที

โดยเฉพาะตอนที่เขานึกถึงการกระทำก่อนหน้านี้ของหลี่ชิวจวี๋ จางหยวนรู้สึกได้ถึงแรงกระตุ้นอันแผ่วเบาในใจ

ผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่เช่นนี้ แถมยังเป็นม่ายมาหลายปี หรือว่า จะทำกิจที่ยังทำกับหลี่ชิวจวี๋ไม่เสร็จต่อไป...

แต่พอจางหยวนสังเกตเห็นว่า เสื้อผ้าที่หลี่ชิวจวี๋ใส่ ดูเหมือนจะเป็นเสื้อผ้าแบบเดียวกับตอนที่เธอใส่ตอนแต่งงานเข้ามาในหมู่บ้านเซี่ยวาน เขาก็อดไม่ได้ที่จะลังเล

เฮ้อ!

พี่ชิวจวี๋ก็เป็นคนที่น่าสงสารเหมือนกัน

แถมยังเป็นผู้มีพระคุณของจางหยวนด้วย

ครอบครัวของหลี่ชิวจวี๋และครอบครัวของจางหยวนเป็นเพื่อนบ้านกัน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อที่จะรักษาอาการป่วยของจางหยวน พ่อแม่ของจางหยวนไม่เพียงแต่ใช้เงินออมทั้งหมดของครอบครัว ยังได้ขายที่ดินจำนวนมาก และยังติดหนี้ข้างนอกอีกหลายก้อน

ถึงขนาดที่ว่า พ่อของเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์แต่กลับไม่ไปรักษา ตอนนี้นอนล้มป่วยอยู่บนเตียง แม่ของเขาจึงต้องแบกรับภาระทั้งหมดของครอบครัวเพียงคนเดียว จนต้องป่วยจากการทำงานหนัก

เมื่อเห็นว่าเป็นเช่นนี้ คนที่มีอำนาจในหมู่บ้านเหล่านั้น จึงรังแกครอบครัวจางหยวนทั้งต่อหน้าและลับหลัง เพราะต้องการที่จะครอบครองที่ดินของบ้านจางหยวน

มีเพียงหลี่ชิวจวี๋เท่านั้นที่ดูแลครอบครัวของจางหยวนเป็นอย่างดี

เมื่อรู้ว่าครอบครัวของจางหยวนลำบาก หลี่ชิวจวี๋จึงถือโอกาสใช้จางหยวนช่วยเธอทำงาน แล้วส่งข้าวส่งอาหารไปให้ครอบครัวของจางหยวน

เมื่อก่อน จางหยวนไม่รู้อะไรเลย

แต่ตอนนี้ เขาได้กลับมาเป็นปกติแล้ว

เขาแอบสาบานในใจว่า ต่อไปจะต้องหาเงินให้ได้เยอะ ๆ เพื่อที่จะได้ตอบแทนพ่อแม่และพี่ชิวจวี๋เป็นอย่างดี

ในขณะเดียวกัน ความกระเหี้ยนกระหือรือของจางหยวนที่มีในตอนแรก ก็ได้จางหายไป

หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อหลี่ชิวจวี๋สงบสติอารมณ์ได้แล้ว จางหยวนก็พูดว่า: "พี่ชิวจวี๋ ตอนนี้ก็สายมากแล้ว พวกเรารีบเก็บข้าวโพดกลับไปกันเถอะ"

หลี่ชิวจวี๋จัดระเบียบเสื้อผ้าตนเองเล็กน้อย แปรงผมที่กระเซอะกระเซิง แล้วพยักหน้าตอบรับ

พอทั้งสองออกจากสระน้ำไปแล้ว ก็ไปที่ไร่ข้าวโพด เพื่อเอาข้าวโพดที่อยู่ในไร่ขึ้นรถ

ภายใต้พระอาทิตย์ตกดิน

จางหยวนลากรถสามล้อ ส่วนหลี่ชิวจวี๋ก็ช่วยเข็นรถสามล้ออยู่ข้าง ๆ

เธออดไม่ได้ที่จะแอบมองจางหยวน

“แปลกจัง! ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าพี่หยวนไม่เหมือนเมื่อก่อน?”

แม้ว่าหลี่ชิวจวี๋จะสงสัย แต่ก็ไม่มีเวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก

เพราะอีกไม่นานก็จะถึงบ้านเธอแล้ว

จางหยวนช่วยหลี่ชิวจวี๋ย้ายถุงข้าวโพดหนึ่งถุงไปวางไว้ใต้ชายคาบ้าน

หลี่ชิวจวี๋รีบเข้าไปในบ้านเพื่อผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นก็ก่อไฟทำอาหาร

เดิมทีจางหยวนคิดว่าจะจากไปหลังจากทำงานเสร็จ แต่ไม่สามารถต้านทานความกระตือรือร้นของหลี่ชิวจวี๋ได้ จึงทำได้แค่มาที่ห้องนั่งเล่นเพื่อทานอาหาร

“พี่หยวน พี่ลำบากแล้ว กินเยอะ ๆ นะ!”

หลี่ชิวจวี๋คีบอาหารให้กับจางหยวนอย่างกระตือรือร้น

ทันทีที่จางหยวนเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นหลี่ชิวจวี๋สวมชุดเดรสสั้นแขนกุดสีขาว หน้าอกนูน ซึ่งดูเหมือนจะไม่สามารถปกปิดทิวทัศน์ที่สวยงามในนั้นได้

สิ่งที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ เมื่อหลี่ชิวจวี๋นั่งลง ชุดเดรสที่สั้นมากตัวนั้น เกือบจะถึงต้นขาของเธอเลย

ผิวที่เผยออกมาแบบวับ ๆ แวม ๆ ทำให้จางหยวนรู้สึกเขินอายเล็กน้อย จึงรีบก้มหน้าลงเพื่อกินข้าว

หลี่ชิวจวี๋ไม่รู้ว่าจางหยวนกลับมามีสติสัมปชัญญะแล้ว เธอจึงไม่อายที่จะเผยเนื้อหนังมังสาออกมา

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเห็นสายตาของจางหยวน เธอก็รู้สึกถึงความสุขที่อธิบายไม่ได้

ต้องบอกว่า ทักษะการทำอาหารของหลี่ชิวจวี๋นั้นยอดเยี่ยมมากจริง ๆ

จางหยวนกินข้าวไปสามชาม

เขาลูบหน้าท้องที่กลมป่องของตน วางตะเกียบลง แล้วกำลังจะจากไป

ถ้ายังทำแบบนี้ต่อไปเขากลัวว่าตนเองจะทนไม่ไหว

หลี่ชิวจวี๋เป็นคนที่มีเสน่ห์มากจริง ๆ

แต่ทว่า ทันทีที่เขาลุกขึ้น ก็ถูกหลี่ชิวจวี๋ดึงเอาไว้

“เฮ้ พี่หยวน เสื้อยืดของพี่ขาดแล้ว เดี๋ยวพี่สะใภ้จะปะชุนให้พี่นะ”

พูดจบ หลี่ชิวจวี๋ก็อดไม่ได้ที่จะถอดเสื้อยืดของจางหยวนออก

จากนั้นก็เข้าไปในบ้านเพื่อหยิบเข็มและด้าย มาปะชุนเสื้อผ้าให้จางหยวน

จางหยวนเปลือยท่อนบน จึงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่ก็ยากที่จะปฏิเสธความมีน้ำใจของหลี่ชิวจวี๋ อีกอย่างหลี่ชิวจวี๋ก็ไม่ได้เปิดโอกาสให้จางหยวนปฏิเสธเลย

ในขณะที่จางหยวนกำลังคิดว่าจะหาอะไรมาคลุมบนตัวของเขา

หลี่ชิวจวี๋ก็ขมวดคิ้วทันที

"ซี๊ด……"

เธอก็รู้สึกตื่นตระหนก แล้วหยุดขยับมือ

“โอ๊ย!” เธออุทานออกมาด้วยความเจ็บปวด หลี่ชิวจวี๋ก็รีบกุมท้องน้อยของตนเองเอาไว้ แล้วขมวดคิ้วแน่น

จางหยวนจึงรีบถามว่า: "พี่ชิวจวี๋ พี่เป็นอะไรไปเหรอ?"

หลี่ชิวจวี๋ส่ายหัว

สีหน้าของเธอซีดเผือด ราวกับว่าทาปูนขาว ไม่มีเลือดฝาดเลยแม้แต่น้อย

ช่วงเวลาต่อมา

พลั่ก

จู่ ๆ หลี่ชิวจวี๋ก็ล้มลงกับพื้น แล้วส่งเสียงครางเล็กน้อย

จางหยวนรีบก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

เขาจับมือของหลี่ชิวจวี๋เอาไว้

มือของหลี่ชิวจวี๋เย็นเป็นอย่างมาก

ทันใดนั้น ความรู้ทางการแพทย์มากมายก็ผุดขึ้นในสมองของจางหยวน

ความรู้เหล่านี้ ราวกับว่าเขาได้เรียนรู้ความรู้ทั้งหมดนี้มาด้วยตนเอง

อันที่จริง นี่คือมรดกของนางฟ้าผู้งามเพริศพริ้งตนนั้น

เขาสรุปอย่างรวดเร็วว่า หลี่ชิวจวี๋คือมีภาวะมดลูกเย็น

“พี่ชิวจวี๋ พี่มีภาวะมดลูกเย็น และรุนแรงมาก อย่างน้อยน่าจะเป็นมาสิบกว่าปีแล้ว”

“ดังสุภาษิตที่ว่า โรคทั้งหลายจะเกิดขึ้น เมื่อมดลูกเย็น และโรคทั้งหลายก็เกิดจากความเย็น หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าจะปรับหยินหยางได้ยาก และจะนำไปสู่ภาวะมีบุตรยาก!”

หลี่ชิวจวี๋พยักหน้าอย่างยากลำบาก: "เร็วเข้า ช่วยเอายามาให้ฉันหน่อย มันอยู่ในลิ้นชัก..."

นี่เป็นโรคประจำตัวของหลี่ชิวจวี๋ ซึ่งจะเกิดขึ้นเพียงเดือนละครั้งเท่านั้น

แต่วันนี้หลังจากที่เธอลงสระน้ำหลังเขา และได้ต่อสู้กับหม่าเหล่าซานแล้ว

ผลที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างความร้อนและความเย็น ทำให้อาการเจ็บป่วยเดิม ๆ ของเธอกำเริบก่อนเวลา

จางหยวนจึงรีบเปิดลิ้นชักแล้วหยิบยาออกมาจากข้างในตามคำแนะนำ

หลังจากอ่านคำแนะนำบนขวดยาแล้ว จางหยวนก็ส่ายหัว แล้วพูดว่า: "พี่สะใภ้ ตอนนี้อาการของพี่รุนแรงมาก กินยาจะทำให้ออกฤทธิ์ช้า ผมนวดให้พี่ดีกว่า จะได้เห็นผลเร็วขึ้น"

หลี่ชิวจวี๋มีสีหน้าที่งุนงง จางหยวนนวดเป็นด้วยเหรอ?

จางหยวนไม่รอให้หลี่ชิวจวี๋ตอบรับ อุ้มหลี่ชิวจวี๋ขึ้นมา พาไปที่ห้องนอน แล้ววางเธอลงบนเตียง

เนื่องจากชุดเดรสของหลี่ชิวจวี๋สั้นมาก ชายกระโปรงจึงถูกม้วนขึ้นในเวลานี้

ตำแหน่งใต้สะเอว ถูกเปิดเผยต่อหน้าต่อตาของจางหยวน

มันช่างเป็นภาพที่ทำให้เลือดและชีพจรของคนพุ่งกระฉูด

ขาอันเรียวขาวเหล่านั้น น่าจะเป็นสิ่งที่เล่นตลอดชีวิตก็ไม่มีวันเบื่อ

แต่จางหยวนกลับเมินเฉย

ในตอนนี้การรักษาโรคเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

เขาให้หลี่ชิวจวี๋นอนราบ แล้วยกขาทั้งสองข้างขึ้น

จากนั้นจางหยวนก็ยื่นมือขวาออกมาแล้ววางลงบนหน้าท้องของหลี่ชิวจวี๋ หลังจากพบจุดฝังเข็มแล้ว เขาก็เริ่มถูมันเบา ๆ

เดิมทีหลี่ชิวจวี๋ไม่เชื่อ

แต่ไม่นาน เธอก็รู้สึกถึงกระแสความร้อนที่ไหลออกมาจากฝ่ามือของจางหยวน เข้าสู่ร่างกายของตนเอง

ไม่นานหลังจากนั้น ด้วยการกระทำของจางหยวนผนวกกับเวลาที่ผ่านไป ความเจ็บปวดก็ค่อย ๆ บรรเทาลง

หลี่ชอวจวี๋รู้สึกผ่อนคลายไปทั่วทั้งร่างกาย

"โอ๊ย……"

เธออดไม่ได้ที่จะเปล่งเสียงร้องออกมา แต่ก็รีบเบือนหน้าหนีด้วยความอาย

จากนั้น เธอก็อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นแล้วพินิจมองจางหยวนอย่างเงียบ ๆ

จางหยวนที่เปลือยท่อนบน นอกจากจะมีรูปร่างสมส่วนแล้ว ยังมีกล้ามเนื้อหน้าท้องอีกด้วย

ใบหน้าที่สวยงามของ หลี่ชิวจวี๋ เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงโดยไม่รู้ตัว...
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Jiraphat Thirapanya
น่าสนใจน่าอ่านดี
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 422

    เพราะเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่มูลค่าหลายแสน มากกว่าทรัพย์สินทั้งหมดของจางหยวนตอนนี้เสียอีก! คิดไปคิดมา จางหยวนก็ยิ่งรู้สึกสับสน สุดท้ายเขาตัดสินใจที่จะไม่คิดอะไรมากแล้วเพราะอย่างไรเสียเขาได้บอกไปกับฉู่เสวี่ยเยี่ยนแล้วว่าขอเวลาคิดสองวัน ก็ใช้เวลาคิดสองวันแล้วค่อยว่ากันทว่าตอนนี้จางหยวนมีเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือการไปซื้อลูกไก่! เดิมทีจางหยวนตั้งใจว่า ตอนเช้าจะไปช่วยจ้าวเจียซินรักษาเป็ดที่ฟาร์มเลี้ยงเป็ด แล้วตอนบ่ายจะไปซื้อลูกไก่เนื้อที่บ้านของหยวนเต๋อหวัง อารองของหยวนเสวี่ยไก่ฟีนิกซ์ได้ผลตอบรับดีมาก ถึงเวลาที่จะเลี้ยงไก่ฟีนิกซ์รุ่นใหม่เพิ่มแล้วแต่เนื่องจากเมาตั้งแต่เที่ยง เขาจึงกลับบ้านในช่วงบ่าย แล้วเตรียมที่จะไปซื้อลูกไก่ที่บ้านของหยวนเต๋อหวังอีกครั้งในวันพรุ่งนี้แต่บางครั้งแผนการก็มักจะไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ วันรุ่งขึ้น ตอนที่ฟ้ายังมืดครึ้ม ฝนก็ตกหนัก จะไปซื้อลูกไก่ในเมืองด้วยการสวมเสื้อกันฝนแบบนี้ จางหยวนทำไม่ได้ รถสามล้อไฟฟ้าของเขาเป็นแบบเปิดโล่ง ไม่มีหลังคาบังฝน จึงกันฝนไม่ได้ เมื่อมองไปที่เกาเสี่ยวอวี๋ นักข่าวสาวที่กำลังรายงานพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 421

    "ฮัลโหล เสี่ยวอวี้? ผมนัดเรียบร้อยแล้ว สำหรับคืนพรุ่งนี้ เธอยืนยันแล้วใช่หรือไม่?” ตู้เหิงเซิงงถามคนในสาย “สบายใจได้ประธานตู้ ประเดี๋ยวฉันจะไปลางานกับหัวหน้าสถานี แล้วคุณว่าคืนพรุ่งนี้ฉันควรใส่ชุดสไตล์ไหนดี?” เกาเสี่ยวอวี้ยิ้มเสียงออดอ้อน ตู้เหิงเซิงงพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูบ้ากาม “แน่นอนว่าต้องเป็นชุดที่คุณใส่เวลาเป็นพิธีกรรายการ! เชื่อฉันสิ ชุดนั้นจะทำให้ผู้ชายเกิดความอยากจะพิชิตใจคุณอย่างแน่นอน! อยากจะฉีกชุดของคุณทิ้งให้หมดในทันทีเลย......” “บ้าน่ะ ประธานตู้พูดตรงเหลือเกิน! งั้นตกลงตามนี้แล้วกัน คืนพรุ่งนี้เจอกัน!” เกาเสี่ยวอวี้พูดจบแล้วก็วางสายทันที ตู้เหิงเซิงยังรู้สึกไม่สะใจเท่าไหร่ “จางหยวนเอ๋ยจางหยวน โชคดีเสียจริงๆ! คืนพรุ่งนี้ต้องโดนจิ้กจอกสาวดูดเอาพลังงานหมดเป็นแน่!” ตอนนี้จางหยวนยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย มื้ออาหารที่ตู้เหิงเซิงงชวนเขาไปกินนั้น แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการ “เลี้ยงต้อนรับ” ที่เต็มไปด้วยอันตราย! และอาจจะพลาดท่าเสียตัวได้ง่ายๆ! แต่แม้รู้ว่าเป็นกับดัก จางหยวนก็ยังไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องนั้นเพราะเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำรออยู่!เพิ่งวางสายจากตู้เหิงเซิงไปไม่

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 420

    หากเขาไม่มีความสามารถอะไรเลยเหมือนจินฟานที่สนใจแต่ประชาสัมพันธ์ยาสุดพิเศษ เช่นนั้น แม้จ้าวลี่ซานจะแนะนำเขาให้เพื่อนร่วมอาชีพมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์! หลังจากได้ยินเช่นนั้น จางหยวนพยักหน้าอย่างแรง “อาจ้าว ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้ว! ขอบคุณที่ช่วยแนะนำคนรู้จักให้ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!" ขณะพูดประโยคนี้ จางหยวนรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง งานหลักของเขาควรเป็นแพทย์แผนจีนชัดๆ แต่ทำไมตอนนี้ถึงโด่งดังเพราะเป็นสัตวแพทย์ไปได้? หรือว่า......ต่อไปทุกคนจะคิดว่าเขาเป็นสัตวแพทย์ชื่อดัง ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นแพทย์แผนจีน?พอคิดว่าอนาคตข้างหน้าเวลาเดินไปบนถนน เจอใครก็ทักมายและเรียกเขาว่าหมอจางอย่างสนิทสนม จางหยวนก็อดขนลุกไม่ได้ ทว่าตามคำกล่าวที่ว่าของผู้ใหญ่ให้ก็ต้องรับ ความหวังดีของจ้าวลี่ซาน จางหยวนก็ย่อมปฏิเสธไม่ได้เมื่อจางหยวนกลับไปที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้ง ปัญหาอีกอย่างก็ตามมา! ตู้เหิงเซิงโทรมา “รบกวน” อีกครั้ง! พอเห็นเบอร์โทรศัพท์ของเขา จางหยวนแทบอยากโยนโทรศัพท์ทิ้งเมื่อคืนเขาบอกตู้เหิงเซิงชัดเจนแล้วว่า เขาจะไม่ผิดสัญญา ตู้เหิงเซิงคนนี้ทำไมถึงตื้อไม่เลิกเช่นนี้?จางหยวนรับสายทันท

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 419

    พ่อลูกตระกูลจ้าวพยายามโน้มน้าวจางหยวนให้รับซองแดง แต่จางหยวนยืนกรานไม่รับสุดท้ายเมื่อไม่มีทางอื่น ทั้งสองจึงต้องยอมแพ้ แต่ไม่นานดวงตาของจ้าวลี่ซานก็เป็นประกาย เขาคิดหาวิธีตอบแทนจางหยวนได้แล้ว! “พี่หยวน ไม่รับซองแดงก็ไม่เป็นไร แต่อาจ้าวขอเชิญเอ็งไปกินข้าว เอ็งต้องห้ามปฏิเสธนะ!” จ้าวลี่ซานพูดพร้อมรอยยิ้ม จางหยวนพยักหน้ายิ้ม “กินข้าวได้อยู่แล้ว ต้องสั่งอาหารเพิ่มสักสองอย่างนะ ผมกินเยอะ! ฮ่าๆ” คำพูดที่ตรงไปตรงมาทำให้คนทั้งสามถึงกับหัวเราะลั่น เมื่อถึงเวลามื้ออาหารกลางวัน จางหยวนก็รู้ว่าทำไมจ้าวลี่ซานถึงเชิญเขาไปกินข้าว ถึงจะบอกว่าเชิญไปกินข้าว แต่เป้าหมายที่แท้จริงของจ้าวลี่ซานคือการแนะนำคนรู้จักให้จางหยวน! เขาเชิญเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์หลายรายในเมืองมาด้วยกัน และแนะนำให้รู้จักกับจางหยวน พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่จางหยวนเอาชนะจินฟานเมื่อเช้าให้ฟัง เมื่อเหล่าเจ้าของฟาร์มได้ยินว่าจางหยวนสามารถรักษาสัตว์ป่วยที่แม้แต่ช่างเทคนิคจากโรงงานผลิตยาสัตว์ก็รักษาไม่ได้ พวกเขาจึงรู้สึกอยากรู้จักจางหยวนกันมากขึ้นทันทีที่จางหยวนเข้าใจเจตนาของจ้าวลี่ซาน เขาก็เล่าเรื่องที่เคยรักษาโรคอหิวาต

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 418

    ยิ่งสองพ่อลูกตระกูลโจวชมเชยจางหยวนมากใด สีหน้าของจินฟานก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้นเป็ดสองตัวที่เดินเล่นอยู่บนพื้น ราวกับฝ่ามือที่ตบหน้าจินฟานอย่างแรงไม่เพียงเสียงดังฟังชัด และยังเจ็บปวดมาก!ยาของจางหยวนรักษาเป็ดให้หายดี ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า กาฬโรคเป็ดที่จินฟานพูดถึงก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องโกหกหมด!เมื่อจ้าวลี่ซานลุกขึ้นยืน เขามองจินฟานด้วยสายตาที่ไม่พอใจ“ช่างเทคนิคจิน ผมต้องการคำอธิบายจากคุณ! ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าเป็ดของผมเป็นกาฬโรคเป็ด แล้วให้ผมซื้อยาจากต่างประเทศ ตอนนี้เป็นเช่นนี้ คุณจะอธิบายอย่างไร”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาก็ยังฝืนยิ้มออกมา“เถ้าแก่จ้าว คนเราย่อมผิดพลาดกันได้ ครั้งนี้ถือว่าผมดูผิดไป!”“จริงหรือ? อย่าคิดว่าคนอื่นโง่กันหมดนะ ช่างเทคนิคจิน ผมว่าต่อไปนี้คุณไม่จำเป็นต้องมาขายยาในเมืองของเราอีกแล้ว! ให้บริษัทของคุณส่งช่างเทคนิคคนอื่นมาแทนเถอะ ผมจะบอกกับคนอื่นๆ ในเมืองด้วย!” จ้าวลี่ซานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหตุผลที่เขาเชื่อฟังจินฟาน เพราะเขามีความเชื่อมั่นในช่างเทคนิคของโรงงานผลิตยาเกินไปแต่จินฟานกลับใช้ความไว้วางใจของเขา พูดจาหลอกลวงจ้าวลี่ซาน จ้าวลี่ซาน

  • แพทย์เซียนน้อยมือฉมัง   บทที่ 417

    ทันใดนั้น จ้าวลี่ซานรีบวิ่งไปหาเป็ด แล้วนั่งยองตรวจสอบอ้วกของเป็ด ไม่นาน เขาก็เห็นพยาธิเม็ดเลือดสีแดงอยู่ด้านใน พยาธิตัวนั้นยาวประมาณเล็บนิ้วก้อย แต่บางมาก บางราวกับเชือก “นี่......นี่คือพยาธิเม็ดเลือดหรือ? หรือว่าเป็ดในฟาร์มของฉันจะติดโรคพยาธิเม็ดเลือดในเป็ดจริงๆ?” จ้าวลี่ซานพูดด้วยความตกตะลึง ทันทีที่จ้าวลี่ซานพูดจบ จินฟานก็เดินตรงเข้ามา มองจ้าวลี่ซานด้วยสายตาเย้ยหยัน “เถ้าแก่จ้าว คุณเป็นคนมากประสบการณ์ ทำไมถึงโดนหลอกด้วยเล่ห์เหลี่ยมแบบนี้ได้!”จ้าวลี่ซานเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ “เล่ห์เหลี่ยม? เล่ห์เหลี่ยมอะไร?” “คำตอบง่ายมาก! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ถูกเป็ดอาเจียนออกมาจริง! แต่คุณอย่าลืมว่าเมื่อครู่เป็ดดื่มอะไรเข้าไป! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ที่อาจถูกป้อนเข้าไปตอนนั้นก็เป็นได้!” จินฟานพูดด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย เขาไม่เคยเชื่อว่าจางหยวนจะสามารถระบุอาการป่วยของเป็ดได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อในสิ่งที่จางหยวนพูด เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวเจียซินก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับพูดว่า “เมื่อครู่ฉันยังคิดว่าคุณไม่ใช่คนโง่ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันคิดผิด!” จินฟานขมวดคิ้วมองเขา “ค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status