Share

บทที่ 1342

Author: เฉิงกวงโฮ่วถู่
เย่ซิวเพียงเอ่ยคำตอบเดียวว่ารอเฉย ๆ ก็พอแล้ว

เฉินอิ๋งอิ๋งแค่นเสียงหึ และไม่หันไปมองเขาอีก

ความจริงเธอไม่ได้คาดหวังอะไรจากเขาเลย ทั้งหมดก็แค่ม้าตายก็ต้องจับมารักษาเท่านั้นเอง

เพียงไม่นานก็ถึงเวลาที่นัดหมายไว้ พระหนุ่มชุดขาวกลับมาอีกครั้ง

เขาเปิดประตูห้องขัง มองเย่ซิวแล้วเอ่ยว่า

“โยมเย่ซิว ถึงเวลาแล้ว ช่วยแสดงผลลัพธ์ของการฝึกฝนให้เห็นหน่อยเถิด”

เย่ซิวยิ้มบาง “ท่านอาจารย์จงดูให้ดี และอย่าตกใจก็แล้วกัน”

ตูม

เย่ซิวตวัดฝ่ามือออกไปหนึ่งครั้งเพื่อแสดงวิชาฝ่ามือวัชระปราบมารออกมาอย่างเต็มพิกัด

ด้านหลังของเขาปรากฏรูปเคารพพระโพธิสัตว์โกรธเกรี้ยวในสภาพแข็งแกร่งราวของจริงอีกครั้ง

พระในชุดขาวที่เดิมทีดูสงบนิ่งถึงกับสะดุ้งตกใจ ร้องออกมาด้วยความตะลึงว่า “เป็นไปได้ยังไง?!”

แววตาของเย่ซิววาบเย็นเฉียบ ก่อนจะฉวยจังหวะที่อีกฝ่ายเสียสมาธิชั่วขณะ ตัดสินใจเปิดฉากโจมตีอย่างดุดันต่อเนื่องเด็ดขาด

ตลอดเวลากว่าหนึ่งวันที่ผ่านมา เย่ซิวกลืนโอสถกว่าหนึ่งแสนเม็ด สะสมพลังวิญญาณไว้ในร่างกายจำนวนมหาศาล

“ตรึง ๆ ๆ!!”

เขาใช้เทพวิชาวาจาศักดิ์สิทธิ์ต่อเนื่องถึงสิบสองครั้ง ทำให้ทั้งร่างกายและจิตวิญญาณของพระชุดขาว
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1344

    เย่ซิวพยักหน้าแล้วก้าวเดินไปข้างหน้าเพราะไม่รู้ว่าพระชุดขาวนั้นอาศัยอยู่ที่ไหน เย่ซิวจึงได้แต่แสร้งทำเป็นเดินตรวจตราตลอดเส้นทางที่ผ่านมา เหล่าพระที่พบเห็นแต่ละคนต่างก็มีพลังแข็งแกร่งด้วยกันทั้งสิ้นเขาเดินวนอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็หาสถานที่ที่พระชุดขาวใช้ฝึกสมาธิและวิชาต่อสู้เป็นประจำพบเมื่อเข้าไปด้านใน เย่ซิวก็หันไปบอกผู้ช่วยว่า “ไปเชิญยอดฝีมือระดับวิญญาณก่อกำเนิดของเรามาที่นี่ให้หมด”ผู้ช่วยมีท่าทางสงสัยเล็กน้อย ว่าทำไมอยู่ดี ๆ ถึงทำแบบนี้ แต่ก็ไม่กล้าถามอะไร ได้แต่รับคำอย่างนอบน้อมแล้วถอยออกไปเย่ซิวให้คนอื่นที่เหลือออกไป จากนั้นก็เริ่มลงมือจัดวางค่ายกลภายในห้อง เย่ซิววางค่ายกลอันทรงพลังนับไม่ถ้วนลงไปตามด้วยปลดปล่อยวิญญาณนักรบ พร้อมกับเรียกเจี้ยนจีให้ซ่อนตัวอยู่ในเงาเขาอ้าปากพ่นกระบี่บินสายฟ้าออกมาสามสิบหกเล่มและซุกซ่อนไว้เหนือค่ายกลไม่นาน ที่แห่งนี้ก็กลายเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยอันตราย ซ่อนกลิ่นอายสังหารเอาไว้ทุกหนแห่งและจากนั้นอีกไม่นาน ยอดฝีมือของสำนักวัชระก็มาถึงภายนอกเย่ซิวยังคงสงบนิ่ง แต่ในใจกลับรู้สึกตกตะลึงอย่างยิ่งในกลุ่มคนพวกนั้นมียอดฝีมืออยู

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1343

    เมื่อเย่ซิวทะลวงผ่านวิชาแปรมังกรชั้นที่หกสำเร็จ ร่างมังกรของเย่ซิวก็ยาวถึงสามร้อยเก้าสิบเก้าเมตรด้วยขนาดมหึมานั้น ห้องขังนี้ไม่อาจรองรับได้ เขาจึงยังไม่ได้เผยร่างออกมาเสียงหอบหายใจดังถี่แรง เย่ซิวโคจรวิชา รักษาบาดแผลทั่วร่างให้หายดี จากนั้นจึงย่อตัวลง ค้นตัวพระชุดขาวอย่างละเอียด และก็พบของหลายชิ้นถ้วยไม้ที่ดูเก่าคร่ำคร่า แต่แท้จริงกลับเป็นสมบัติเวทมนตร์ระดับสุดยอด หยกจารึกหนึ่งชิ้น และแหวนผนึกของหนึ่งวงก่อนอื่นเขาลองเริ่มจากสมบัติเวทมนตร์ระดับสุดยอด เย่ซิวพยายามจะหลอมรวมเข้ากับมัน แต่กลับพบว่าเกิดแรงต้านมหาศาล หลังจากใช้เวลาครู่หนึ่งพิจารณา เย่ซิวก็เข้าใจได้ทันที นี่ต้องเป็นของที่ต้องใช้วิชาสายพุทธหลอมเท่านั้นแน่เขาจึงวางมันไว้ก่อน แล้วหยิบหยกจารึกขึ้นมาแนบกับหน้าผากทันใดนั้น ข้อมูลมหาศาลก็ทะลักเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง จนแทบจะทำให้ดวงวิญญาณของเย่ซิวระเบิดออกเย่ซิวใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมงเต็ม กว่าจะดูดซับข้อมูลทั้งหมดในหยกจารึกได้สำเร็จ เนื้อหาในนั้นล้ำค่ามหาศาล ครอบคลุมวิชาแทบทุกแขนงของสำนักไม่ว่าจะเป็นดรรชนีวัชระ ฝ่ามือวัชระ หรือหมัดอรหันต์ปราบพยัคฆ์แต่สิ่งที่ด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1342

    เย่ซิวเพียงเอ่ยคำตอบเดียวว่ารอเฉย ๆ ก็พอแล้วเฉินอิ๋งอิ๋งแค่นเสียงหึ และไม่หันไปมองเขาอีกความจริงเธอไม่ได้คาดหวังอะไรจากเขาเลย ทั้งหมดก็แค่ม้าตายก็ต้องจับมารักษาเท่านั้นเองเพียงไม่นานก็ถึงเวลาที่นัดหมายไว้ พระหนุ่มชุดขาวกลับมาอีกครั้งเขาเปิดประตูห้องขัง มองเย่ซิวแล้วเอ่ยว่า “โยมเย่ซิว ถึงเวลาแล้ว ช่วยแสดงผลลัพธ์ของการฝึกฝนให้เห็นหน่อยเถิด”เย่ซิวยิ้มบาง “ท่านอาจารย์จงดูให้ดี และอย่าตกใจก็แล้วกัน”ตูมเย่ซิวตวัดฝ่ามือออกไปหนึ่งครั้งเพื่อแสดงวิชาฝ่ามือวัชระปราบมารออกมาอย่างเต็มพิกัดด้านหลังของเขาปรากฏรูปเคารพพระโพธิสัตว์โกรธเกรี้ยวในสภาพแข็งแกร่งราวของจริงอีกครั้งพระในชุดขาวที่เดิมทีดูสงบนิ่งถึงกับสะดุ้งตกใจ ร้องออกมาด้วยความตะลึงว่า “เป็นไปได้ยังไง?!”แววตาของเย่ซิววาบเย็นเฉียบ ก่อนจะฉวยจังหวะที่อีกฝ่ายเสียสมาธิชั่วขณะ ตัดสินใจเปิดฉากโจมตีอย่างดุดันต่อเนื่องเด็ดขาดตลอดเวลากว่าหนึ่งวันที่ผ่านมา เย่ซิวกลืนโอสถกว่าหนึ่งแสนเม็ด สะสมพลังวิญญาณไว้ในร่างกายจำนวนมหาศาล“ตรึง ๆ ๆ!!”เขาใช้เทพวิชาวาจาศักดิ์สิทธิ์ต่อเนื่องถึงสิบสองครั้ง ทำให้ทั้งร่างกายและจิตวิญญาณของพระชุดขาว

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1341

    “โยมเย่ซิวอยากเดิมพันอย่างไรหรือ?”“ง่ายมาก ท่านถ่ายทอดวิชาฝ่ามือวัชระปราบมารให้ผมถ้าผมฝึกจนสำเร็จได้ภายในสองวัน ท่านต้องปลดตรวนที่ผนึกพลังผมออก แต่ถ้าผมทำไม่ได้ ผมจะยอมเป็นศิษย์ของท่าน คิดว่าไงครับ”“ได้ งั้นก็ตกลงตามนี้”พูดจบ พระหนุ่มก็ใช้ปลายนิ้วชี้แตะไปที่หน้าผากของเย่ซิว จากนั้นก็ถ่ายทอดเนื้อหาทั้งหมดของฝ่ามือวัชระปราบมารให้เขาหลังจากเย่ซิวรับวิชาเสร็จ พระหนุ่มจึงปลดตรวนที่ผนึกพลังของเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน“งั้นอีกสองวันข้างหน้า อาตมาจะมาทดสอบผลลัพธ์การฝึกของโยมเย่ซิวอีกครั้ง”“ขอให้ท่านอาจารย์เดินทางโดยสวัสดิภาพ”ไม่นาน ห้องขังก็กลับมาเงียบสงัดห้องขังนี้นอกจากนักโทษแล้วก็ไม่มีพระรูปใดคอยเฝ้าดูแลคาดว่าต่อให้พวกเขาเปิดประตูออกไปได้ ข้างนอกก็คงยังมีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งยิ่งกว่ารอรับมืออยู่ จึงไม่จำเป็นต้องห่วงว่าจะมีใครหลบหนีได้เฉินอิ๋งอิ๋งมองเย่ซิวด้วยแววตาเยาะเย้ย “นึกว่านายจะเป็นคนมีฝีมือ ไม่นึกว่าจะเป็นแค่กระดูกอ่อนเท่านั้นเอง”เย่ซิวไม่ใส่ใจคำประชดประชันของเธอ เขาลุกขึ้นแล้วเริ่มฝึกฝ่ามือวัชระปราบมารทันทีพระหนุ่มรูปนั้นเดาผิดเสียแล้วร่างกายของเย่ซิวนั

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1340

    น่าแปลกใจไม่น้อยที่เฉินอิ๋งอิ๋งก็ขอหมั่นโถวเพิ่มอีกสองลูกเช่นกัน เธอใช้แม่น้ำที่ไหลผ่านมาล้างคราบฝุ่น แล้วค่อย ๆ กัดกินทีละคำเย่ซิวก็เคี้ยวหมั่นโถวแข็ง ๆ ไปพลาง สายตาก็เหลือบมองสำรวจทัศนียภาพรอบข้างไปด้วยเขาไม่เคยมาแถวนี้มาก่อน จึงไม่รู้เลยว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนเมื่อกินเสร็จแล้ว กรงขังนักโทษก็ถูกคลุมด้วยผ้าดำอีกครั้ง แล้วขบวนก็ออกเดินทางต่อไปสุดท้ายพอถึงช่วงเย็น ขบวนก็เดินทางมาถึงวัดร้างทรุดโทรมแห่งหนึ่งทว่าทันทีที่ทุกคนเดินผ่านม่านพลังบาง ๆ เข้าไป ภาพตรงหน้าก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงแท่นวิหารทองเหลืองสว่างไสวเรียงรายอยู่ทั่วบริเวณ พระสงฆ์เดินผ่านไปมานับไม่ถ้วน เสียงระฆังวัดดังไม่ขาดสาย“คารวะท่านเจ้าอาวาส”พระสงฆ์จำนวนมากพากันค้อมกายทำความเคารพต่อหน้าพระหนุ่มรูปงามผู้นำขบวนเขานำตัวเย่ซิวและคนอื่น ๆ ไปคุมขังด้วยตนเองในมือข้างหนึ่งถือบาตรสีทอง ภายในเต็มไปด้วยของเหลวสีทองที่ไม่รู้ว่าคืออะไร อีกมือหนึ่งถือพู่กันเขาใช้ของเหลวสีทองเขียนอักขระลงบนประตูกรงแต่ละบานโดยเริ่มจากกรงนักโทษกรงแรก แสงสีทองแวบผ่าน กรงแต่ละห้องก็แข็งแรงแน่นหนายิ่งขึ้นเหนือกรงแต่ละบานยังมีรูปปั้นพระโพธิ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1339

    ขบวนม้ากลุ่มหนึ่งกำลังเดินทางผ่านพื้นที่รกร้างว่างเปล่าไร้ผู้คนม้าเหล่านี้เป็นม้าวิญญาณที่มีสายเลือดมังกรวารีอยู่เล็กน้อย สามารถเดินทางได้พันลี้ต่อวันพวกมันแต่ละตัวลากจูงกรงนักโทษหนึ่งคันกรงนักโทษเหล่านั้นแบ่งเป็นสิบช่อง ในแต่ละช่องขังนักโทษไว้หนึ่งคนเย่ซิวก็นั่งอยู่ในนั้นด้วยตรงข้ามเขาคือเฉินอิ๋งอิ๋งหญิงสาวคนนี้ทั้งมือและเท้าล้วนถูกใส่โซ่ตรวน ทั่วร่างยังถูกแปะด้วยยันต์วัชระเจ็ดแปดแผ่นเพื่อผนึกพลังทั้งหมดของเธอเอาไว้เย่ซิวเองก็สภาพไม่ต่างกันนักความจริงแล้วเขายังมีวิธีแก้ผนึกในร่างของตัวเองได้เพียงแต่พระหนุ่มคนนั้นซึ่งดูภายนอกเหมือนอายุยังน้อย แต่ที่จริงอายุห้าถึงหกร้อยปีแล้ว มีพลังระดับรวมกายาขั้นสูงหากเขาแสดงพิรุธขึ้นมา เกรงว่าจะถูกลากไปผ่าร่างศึกษาแน่ ๆเย่ซิวมองเฉินอิ๋งอิ๋งที่มีสีหน้าหมองหม่น แล้วเอ่ยอย่างจนปัญญา “เธอไปทำอะไรให้คนเขาแค้นนักหนา? ถึงได้ยกพรรคยกพวกมาจัดการเธอขนาดนี้ แถมยังลากฉันซวยไปด้วยอีก”เฉินอิ๋งอิ๋งเหลือบตามามองเขาแวบหนึ่ง แต่ไม่ได้พูดอะไรจากแววตาของเธอ เย่ซิวจับได้ถึงความหงุดหงิดบางอย่างคาดว่าเธอเองก็คงไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้เหมือน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status