เสียงคลิกเมาส์ดังแผ่วเบาในมุมหนึ่งของร้านคาเฟ่เล็ก ๆ ที่ตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่น ผ้าม่านโปร่งแสงปล่อยให้แสงแดดยามเย็นลอดผ่านเข้ามา บรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นกาแฟหอมกรุ่นและเสียงเพลงเบา ๆ ที่เปิดคลอ
เจนั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ด้วยสีหน้าจริงจัง ดวงตาจับจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้า บนจอแสดงภาพแผนที่ของเกมคิงดอมเควสออนไลน์ พร้อมกับบันทึกย่อที่เต็มไปด้วยรายละเอียดการวางแผนสำหรับอีเวนต์ใหญ่คืนนี้
“ธนูยืนแนวหลัง... นักเวทย์ต้องคุมวงพื้นที่ตรงนี้ แล้วก็ตั้งแทงค์ไว้ตรงนี้กันบอสหลุด” เจพึมพำเบา ๆ พลางจดบันทึกเพิ่มเติมในสมุดข้างตัว
ขณะกำลังตั้งใจวางแผน เสียงใสของมีน พนักงานสาวในร้านและรุ่นพี่มหาวิทยาลัยก็ดังขึ้น
“เจ พี่ขอตัวไปทำธุระที่ธนาคารสักครู่นะ”
เจเงยหน้าจากจอ ยิ้มรับเล็กน้อย
“ได้สิพี่มีน ไปเถอะ เดี๋ยวเจดูร้านให้เอง”
“ขอบใจมาก ถ้ามีลูกค้าเยอะเดี๋ยวพี่รีบกลับ” มีนส่งยิ้ม ก่อนจะหยิบกระเป๋าและเดินออกจากร้านไป
เจเหลือบตามองประตูร้านที่ปิดลงชั่วครู่ ก่อนจะกลับมาจดจ่อที่หน้าจอเหมือนเดิม
เธอรู้ดีว่าอีเวนต์ใหญ่คืนนี้ไม่ใช่แค่การปราบบอสธรรมดา แต่มันคือบททดสอบความสามัคคีของทีมและความสามารถในการวางแผนของเธอในฐานะหัวหน้ากิลด์
“ยังไงก็ต้องผ่าน...” เจพึมพำกับตัวเอง ขณะมือยังคงเขียนและวาดแผนผังบนกระดาษอย่างรวดเร็ว
• • • • • • •
ไม่ถึงห้านาทีหลังจากนั้น เสียงกระดิ่งที่ประตูร้านดังขึ้นเบา ๆ ดึงความสนใจของเจจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ เธอเงยหน้าขึ้นมองอัตโนมัติ
ชายหนุ่มในชุดลำลองเรียบง่ายก้าวเข้ามาในร้าน เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขน กางเกงยีนส์เข้ารูป ดูสะอาดสะอ้านแต่แฝงด้วยเสน่ห์ลึกลับที่ดึงดูดทุกสายตา
เจชะงักไปเล็กน้อยเมื่อจำได้ทันทีว่าชายตรงหน้าคือ แทนไท คนดังของมหาวิทยาลัย—ทั้งตัวแทนแข่งวิชาการ ผู้เล่นเกมระดับท็อป และขวัญใจสาว ๆ เกือบทุกคณะ
แทนเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ รอยยิ้มบางปรากฏขึ้นเพียงแวบหนึ่งบนใบหน้าคมคายก่อนจะหายไป ดวงตาของเขากวาดมองเมนูที่แขวนอยู่บนกระดานไม้ด้านหลังเจ
“รับอะไรดีคะ?” เจเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงปกติ ขณะวางปากกาลงและปิดสมุดบันทึกบนโต๊ะ
“เอา... เอสเปรสโซ่ร้อนแก้วหนึ่ง” เสียงของเขาสุภาพ ทุ้มนุ่ม และเข้ากับบุคลิกเยือกเย็น
“รอสักครู่นะคะ” เจตอบกลับพร้อมรอยยิ้มเล็ก ๆ ก่อนจะหมุนตัวไปเตรียมเครื่องดื่ม
แทนยืนรอด้วยท่าทีผ่อนคลาย ดวงตาสำรวจร้านเล็ก ๆ แห่งนี้ที่ตกแต่งเรียบง่าย บรรยากาศอบอุ่นให้ความรู้สึกสงบ ท่ามกลางการสำรวจนั้น เขาสังเกตเห็นสมุดบันทึกเล่มหนาที่วางอยู่หลังเคาน์เตอร์ กระดาษแผ่นหนึ่งโผล่พ้นออกมาเล็กน้อย เผยให้เห็นภาพที่ดูเหมือนแผนที่ในเกมคิงดอมเควสออนไลน์
แทนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความสนใจ เขาเอียงตัวเล็กน้อยพยายามมองให้ชัดเจนขึ้น แต่ยังไม่ทันได้ถามอะไร เจก็วางแก้วเอสเปรสโซ่ร้อนตรงหน้าเขา
“เอสเปรสโซ่ร้อนค่ะ”
“ขอบคุณครับ” แทนตอบเสียงเรียบ ขณะหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาพร้อมเหลือบมองเจอย่างเงียบ ๆ
“ร้านนี้เงียบดีนะ” เขาพูดขึ้นลอย ๆ
“ค่ะ ช่วงนี้ลูกค้าไม่เยอะเท่าไหร่” เจตอบพร้อมรอยยิ้มสุภาพ
แทนพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะมุมร้าน เขาวางแก้วลงบนโต๊ะอย่างใจเย็น ก่อนจะหยิบแล็ปท็อปขึ้นมาเปิด ทว่าในจังหวะที่เขากำลังจะเริ่มงาน สายตากลับเหลือบไปที่เจอีกครั้ง
หญิงสาวหลังเคาน์เตอร์กำลังก้มหน้าก้มตาเขียนอะไรบางอย่างลงในสมุดบันทึกเล่มเดิม ใบหน้าของเธอดูจริงจัง สายตาจับจ้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์เหมือนกำลังวางแผนอะไรสักอย่าง
แทนพึมพำกับตัวเองเบา ๆ พลางเอนตัวพิงพนักเก้าอี้
“แปลกดี... ปกติคนในร้านกาแฟ ไม่น่ามานั่งวางแผนอะไรที่ดูเหมือนกลยุทธ์แบบนั้นหรอกมั้ง”
ขณะที่แทนไทนั่งจดจ่ออยู่กับหน้าจอแล็ปท็อปที่แสดงโค้ดโปรแกรมสำหรับทดสอบระบบใหม่ในเกมคิงดอมฯ เสียงพิมพ์แป้นคีย์บอร์ดดังเป็นจังหวะ สลับกับการกวาดสายตามองผลลัพธ์ของโค้ดที่กำลังรันอยู่
แต่ความตั้งใจนั้นกลับถูกขัดจังหวะโดยไม่ทันตั้งตัว เมื่อสายตาของเขาเผลอเหลือบมองไปทางเคาน์เตอร์
เจยังคงนั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ ผมยาวสลวยสีน้ำตาลที่ปล่อยไว้ถึงกลางหลัง ดูโดดเด่นตัดกับเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวหลวม ๆ และกางเกงยีนส์เรียบง่าย ริมฝีปากสีชมพูธรรมชาติเคลื่อนไหวเล็กน้อยเหมือนกำลังพึมพำอะไรบางอย่าง
ดวงตากลมโตสดใสสะท้อนแสงจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้า แต่กลับแฝงความมุ่งมั่นและฉลาดเฉลียว เจจดอะไรบางอย่างในสมุดบันทึกเล่มเล็ก ท่าทางของเธอดูเหมือนหลุดเข้าไปในโลกส่วนตัวที่ไม่มีใครเข้าถึงได้
แม้เธอจะดูไม่ตั้งใจแสดงตัวให้โดดเด่น แต่ความสวยเซ็กซี่แบบธรรมชาติของเธอกลับชวนดึงดูดสายตาของแทนไทอย่างน่าประหลาด เสื้อเชิ้ตตัวโคร่งไม่สามารถปิดบังสัดส่วนได้ทั้งหมด ลำคอระหง และเอวเล็กที่โผล่พ้นชายเสื้อออกมาเล็กน้อยเวลาที่เธอเอื้อมมือหยิบของ ทำให้แทนเผลอมองอยู่นาน
‘เธอดูเหมือนคนธรรมดา...แต่มีบางอย่างในตัวเธอทำให้ละสายตาไม่ได้’
แทนรู้สึกได้ถึงจังหวะหัวใจที่เต้นเร็วขึ้นอย่างน่าแปลก รู้สึกเหมือนตัวเองถูกดึงดูดเข้าไปในออร่าที่ไม่ธรรมดาของผู้หญิงคนนี้
เขาพยายามกลับไปสนใจงานตรงหน้าด้วยการก้มดูโค้ดที่รันสำเร็จไปครึ่งหนึ่ง แต่ภาพของเจที่ยกมือขึ้นรวบผมหลวม ๆ หรือใช้ปากกาคลายผมที่มัดไว้ ก็ดูเหมือนจะถูกบันทึกไว้ในสายตาของเขาโดยอัตโนมัติ
“ทำไมถึงรู้สึกว่าเธอดูไม่เหมือนคนทั่วไป” แทนพึมพำกับตัวเองเบา ๆ
เขาขยับหน้าจอแล็ปท็อปเล็กน้อย หวังจะบดบังความตั้งใจที่แอบลอบมอง แต่ในจังหวะนั้นเอง เจเงยหน้าขึ้นจากสมุดบันทึก สายตาของเธอประสานเข้ากับดวงตาคมของแทนโดยไม่ทันตั้งตัว
เจเลิกคิ้วเล็กน้อยเหมือนจะสงสัยว่าเขามองอะไร ก่อนที่เธอจะยิ้มจาง ๆ ให้แบบมีมารยาท รอยยิ้มนั้นดูเรียบง่าย แต่กลับมีพลังบางอย่างที่ทำให้หัวใจของแทนไทสะดุด
แทนยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย รอยยิ้มที่ดูหล่อเหลาทะลุใจจนทำให้เจต้องหลบตาอย่างรวดเร็ว
‘บ้าเอ๊ย…ทำไมใจเต้นแรงแบบนี้’
เจพยายามสงบใจตัวเองก่อนจะกลับมาจดจ่อที่สมุดบันทึก
ความรู้สึกนั้นยังคงไม่จางหายไป แทนที่นั่งอยู่มุมร้านยังคงเหลือบมองไปที่เจเป็นระยะ เขารู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างในตัวเธอที่แตกต่างออกไป และมันเริ่มก่อตัวเป็นความสนใจที่เขาเองก็ไม่เข้าใจ
ทำไมเธอถึงดูน่าสนใจขนาดนี้...
ในขณะเดียวกัน เจที่นั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ก็พยายามตั้งใจจดจ่อกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้า แต่สายตาของเธอกลับแอบเหลือบมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่มุมร้านโดยไม่รู้ตัว
บ้าเอ๊ย...พอได้เห็นใกล้ๆ แม่งเอ๊ย! เขาหล่อมาก!!
แดมเมจรุนแรงขนาดนี้ ใครจะทนไหววะเนี่ย!!
ไม่แปลกใจที่ยัยแพรวาจะคลั่งขนาดนั้น
ทำใจเย็นๆ ไว้ เจ!!
แกจะมาหลงคนหล่อแบบนี้ไม่ได้นะ!!!
เจพยายามสงบใจตัวเอง สูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อไล่ความคิดฟุ้งซ่าน ความว้าวุ่นในใจทำให้เธอไม่ได้สังเกตว่าแทนเดินมาหยุดที่หน้าเคาน์เตอร์
เสียงของเขาดังขึ้นขัดความคิดที่กำลังสับสน
“นอกจากกาแฟ แล้วมีอย่างอื่นมั้ยครับ?”
เจสะดุ้งเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมองแทนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ดวงตาคมที่มองตรงมาทำให้เธอรู้สึกเหมือนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ
“คะ? อะ...เอ่อ...ก็มีแซนวิชกับโดนัทค่ะ” เจตอบกลับพร้อมส่งยิ้มบาง ๆ เธอพยายามควบคุมให้ดูเป็นปกติ
แทนมองรอยยิ้มนั้นก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย
“งั้นขอแซนวิชหนึ่งชิ้นครับ”
“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ”
เจรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปที่ตู้ขนมเพื่อหยิบแซนวิชมาให้ ความตื่นเต้นที่เกิดขึ้นจากการสบตากับแทนยังคงสะกดเธอไว้ในจังหวะนั้น
แทนมองตามเธอเงียบ ๆ พร้อมกับรอยยิ้มมุมปากที่แทบไม่สังเกตเห็น ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความจริงใจ
“ร้านคุณบรรยากาศดีนะครับ เงียบสงบดี”
คำพูดนั้นทำให้เจชะงักเล็กน้อย เธอเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มกลับไป
“ขอบคุณค่ะ”
“จะว่าอะไรมั้ย ถ้าผมจะมานั่งทำงานที่ร้านคุณทุกวัน”
“O_O”
เสียงบรรเลงเปียโนแผ่วเบาของ Canon in D คลอเคลียไปกับบรรยากาศแสนโรแมนติกของ Aurora Grand Hall สถานที่จัดงานแต่งงานสุดหรูที่ถูกตกแต่งอย่างงดงามเหนือคำบรรยายภายในฮอลล์กว้างใหญ่ถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้สีขาวนวล สลับกับสีพีชและทองอย่างลงตัว ซุ้มดอกไม้ที่ตกแต่งด้วย ไลแลค และ ไฮเดรนเยีย ส่งกลิ่นหอมละมุนชวนให้รู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย แสงไฟจากแชนเดอเลียร์คริสตัลที่ห้อยระย้าอยู่เหนือศีรษะส่องประกายระยิบระยับ เพิ่มความหรูหราให้กับงานราวกับงานราตรีในเทพนิยายพรมยาวสีงาช้างทอดตัวจากประตูทางเข้าจรดแท่นพิธี สองข้างทางเต็มไปด้วยแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในวันสำคัญ ทุกสายตาจับจ้องไปยังประตูทางเข้า—ที่ซึ่งช่วงเวลาสำคัญของงานกำลังจะเริ่มขึ้นบนเวทีหลัก มีจอ LED ขนาดใหญ่กำลังฉายภาพของคู่บ่าวสาว ตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาพบกัน จนถึงวันที่พวกเขาก้าวข้ามทุกอุปสรรคและยืนเคียงข้างกันในวันนี้—วันที่พวกเขาจะเริ่มต้นชีวิตคู่ร่วมกัน—และแล้ว ประตูบานใหญ่ก็ค่อยๆ เปิดออก—เสียงบรรเลงดนตรีดังกระหึ่มขึ้นอีกครั้ง แขกในงานต่างกลั้นหายใจ เฝ้ารอการปรากฏตัวของเจ้าสาวที่แท่นพิธี เจ้าบ่าว—แทนไทยืนรออยู่ในชุดสูททักซิ
ภายในห้องแต่งตัวของเจ้าสาว กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกลิลลี่และกุหลาบขาวอบอวลไปทั่ว ผสมกับกลิ่นหอมจางๆ ของเครื่องหอมที่จุดไว้เพื่อสร้างบรรยากาศให้สงบและผ่อนคลายแสงแดดยามสายส่องผ่านม่านโปร่งสีขาว กระทบกับชุดเจ้าสาวที่เจสวมใส่อยู่ ชุดเดรสสีขาวบริสุทธิ์ตัดเย็บด้วยผ้าซาตินเนื้อนุ่ม แต่งด้วยลูกไม้ปักมือที่แสนประณีต ประดับไข่มุกเม็ดเล็กละเอียดราวกับหยดน้ำค้างต้องแสง กลีบผ้าถูกออกแบบให้พริ้วไหวอย่างเป็นธรรมชาติ สะท้อนแสงวาววับราวกับต้องมนต์เจนั่งอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ ผิวเนียนละเอียดของเธอแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบา ดวงตากลมสวยสะท้อนเงาของตัวเองในกระจก ผมยาวสลวยถูกเกล้าขึ้นอย่างเรียบร้อย ปล่อยปอยผมนิดๆ ลงมารับกับกรอบหน้าทำให้ดูอ่อนหวานกว่าเดิมเธอขยับมือสัมผัสชายกระโปรงเบาๆ ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ราวกับเพิ่งตระหนักได้จริงๆ ว่าวันนี้...เป็นวันแต่งงานของเธอ“เฮ้อ...”เสียงถอนหายใจแผ่วเบาหลุดออกมา เธอไม่ได้ไม่อยากแต่งงาน... แต่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วเกินไปเพียงสามเดือนก่อน ข่าวการหมั้นหมายของเธอกับแทนไทกลายเป็นกระแสใหญ่ ทุกสายตาจับจ้องมาที่เธอ ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่กำลังจะได้แต่งงานกับเจ้าของบริษัทเ
สามเดือนต่อมา—บรรยากาศภายใน Aurora Convention Hall คึกคักไปด้วยเสียงฮือฮาของเหล่านักข่าวและแฟนเกมที่มารวมตัวกันเพื่องานแถลงข่าวครั้งยิ่งใหญ่ของเมกาเบิร์ธ สตูดิโอบนเวทีหลัก จอ LED ขนาดยักษ์ฉายภาพโลโก้ของเกมใหม่ล่าสุด ‘Helios Online’ หรือที่รู้จักกันในชื่อ โปรเจกต์ H—เกมออนไลน์ระดับ Next-Gen ที่ใช้เทคโนโลยี Neural AI อันล้ำสมัย ซึ่งสามารถพัฒนาและตอบสนองต่อผู้เล่นได้อย่างอัจฉริยะและบุคคลที่กำลังได้รับความสนใจจากทุกสายตาในตอนนี้ คือชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทสีดำสง่า ‘แทนไท ไทระ คณิณัตถ์’ ซีอีโอของเมกาเบิร์ธ สตูดิโอเขานั่งอยู่บนเวทีหลัก ข้างๆ กับคณะผู้บริหารและทีมพัฒนา ใบหน้าคมเข้มยังคงสงบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความมั่นใจแสงแฟลชจากกล้องจำนวนมากสาดส่องมายังเวทีแทนไทนั่งไขว่ห้าง มือข้างหนึ่งจับไมโครโฟน ดวงตาคมจับจ้องไปที่นักข่าวที่กำลังยกมือขอสัมภาษณ์พิธีกรยื่นไมค์ให้กับนักข่าวคนแรก“คุณแทนไท โปรเจกต์ H หรือ Helios Online เป็นเกมที่ใช้ AI ขั้นสูง ซึ่งนับเป็นเทคโนโลยีใหม่ของวงการเกมออนไลน์ คุณช่วยอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ไหมครับ?”แทนไทพยักหน้าช้าๆ ก่อนตอบเสียงเรียบแต่หนักแน่น“Helios
ภายในห้องทำงานของแทนไท กลิ่นกาแฟอ่อน ๆ ลอยอวลในอากาศ แต่บรรยากาศกลับเย็นยะเยือกจนน่าขนลุกชายหนุ่มนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาหนังสีดำ ดวงตาคมกริบจับจ้องไปที่หน้าจอทีวีขนาดใหญ่ที่กำลังรายงานข่าว การหายตัวไปของบุคคลสำคัญในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี“คริส วอลตัน ผู้บริหารระดับสูงของนีโอนิกซ์ หายตัวไปเมื่อคืนที่ผ่านมา ทางการกำลังเร่งติดตามตัว— “ซันที่ยืนอยู่ตรงโต๊ะทำงาน พึมพำขึ้นขณะโยนแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะกระจกเสียงดัง“หมอนั่นหายตัวไปเหรอ?”“ก็ไม่แปลก” คินเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ หยิบแก้วเหล้าขึ้นจิบด้วยสีหน้าเรียบเฉย“คนอย่างมัน พอรู้ว่าทางการกำลังจ้องเล่นงาน ก็คงเตรียมแผนหนีไว้อยู่แล้ว”แทนไทเหยียดยิ้มบางๆ แต่ในดวงตามีเพียงความเย็นชา“หนี? คิดว่าไปได้ไกลแค่ไหนกัน?”เขาหยิบมือถือขึ้นมา กดโทรออกไปยังหมายเลขหนึ่ง เสียงเรียกสัญญาณดังขึ้นเพียงครั้งเดียว ก่อนจะมีเสียงตอบรับจากปลายสายแทนไทพูดเพียงสั้น ๆ“จัดการตามแผน”ปลายสายเงียบไปเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะตอบกลับมาเสียงเรียบ “รับทราบครับ”• • • • • • •อีกฟากหนึ่งของโลก—“บ้าชิบ! ทำไมเรื่องมันกลายเป็นแบบนี้!?”คริส วอลตัน เดินวนไปมาอยู่ภายในห้องเพนต์เฮา
ภายในห้องพักฟื้นของโรงพยาบาล เสียงเครื่องวัดชีพจรดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อจางๆ ลอยอวลในอากาศ แสงไฟสีขาวสะอาดตาทำให้บรรยากาศของห้องดูเงียบเหงาไปถนัดตาซันและคินนั่งอยู่คนละฝั่งของเตียง พวกเขาเฝ้าดูธีรัชที่ยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียงคนไข้ ผ้าพันแผลสีขาวบริเวณชายโครงด้านซ้ายของเขา บ่งบอกถึงร่องรอยของกระสุนที่ฝังเข้าไปในร่างกายเขาเกือบตาย—เพราะการตัดสินใจของตัวเองโชคดีที่นำตัวมาส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นป่านนี้คงไปนอนเฝ้ารากมะม่วงแล้ว หมอแจ้งว่า กระสุนไม่โดนอวัยวะสำคัญแต่ก็ทำให้เสียเลือดไปมากกว่าที่คาด ทั้งซันและคินถึงจะได้ยินแบบนั้น แต่ก็ยังไม่วางใจแม้หมอจะบอกว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ทั้งซันและคินก็ยังไม่วางใจกริ๊ก...เสียงเปิดประตูทำให้ทั้งสองเงยหน้าขึ้นทันที“มันยังไม่ตื่นอีกเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากหน้าประตู ก่อนที่ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตดำจะก้าวเข้ามาในห้อง ดวงตาคมกริบของแทนไทกวาดมองไปยังร่างที่นอนแน่นิ่งบนเตียง ก่อนจะสบตากับซันและคิน“อืม...หมอบอกว่ามันเสียเลือดเยอะ โชคดีที่กระสุนไม่ได้โดนอวัยวะสำคัญ” ซันพูดเสียงเรียบ แต่แฝงความเป็นกังวล“แต่มันก็เกือบไปแล้
ภายในห้องประชุมลับของเมกาเบิร์ธ แทนไทนั่งเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ มือข้างหนึ่งเคาะลงบนโต๊ะเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ดวงตาคมกริบจับจ้องไปยังหน้าจอที่กำลังแสดงข้อมูลของ นีโอนิกซ์—บริษัทคู่แข่งที่พยายามเล่นสกปรกกับพวกเขามาตลอดทุกการเคลื่อนไหวของฝั่งนั้นถูกเก็บบันทึกไว้หมดแล้วหลักฐานการว่าจ้างแฮ็กเกอร์ที่พยายามแทรกซึมเข้าระบบ ข้อมูลการโอนเงินระหว่างบุคคลที่เกี่ยวข้อง—ทุกอย่างอยู่ในมือของพวกเขาแล้วซันนั่งไขว่ห้างอยู่อีกฝั่งของโต๊ะ เขาใช้ปลายนิ้วเคาะโต๊ะเบาๆ สีหน้าครุ่นคิด ขณะที่คินนั่งเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ กอดอกแน่น พลางจ้องมองหน้าจอที่ฉายเอกสารลับต่างๆ“เราได้ข้อมูลที่ต้องการหมดแล้ว” ซันเป็นคนเอ่ยขึ้นก่อน น้ำเสียงของเขาหนักแน่นและจริงจัง“ไอ้พวกนั้นคิดว่าแผนมันยังไม่แตก” คินเสริมเสียงเรียบ ก่อนจะกระตุกยิ้มเย็นแทนไทละสายตาจากหน้าจอ ดวงตาคมกริบเปล่งประกายเจ้าเล่ห์“เพราะงั้น...” เขาหยุดเว้นจังหวะเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ“ได้เวลา ‘ส่งคืน’ แล้วล่ะ”ซันกับคินสบตากันทันที—พวกเขารู้ดีว่า แทนไทหมายถึงอะไรแทนไทยิ้มเย็นขณะเลื่อนสายตาอ่านแผนตอบโต้บนไอแพดที่เขาเตรียมการมาอย่างดี เขาหันไปม