แอบรักมาตั้งหลายปี แต่สุดท้ายก็ได้แค่เพื่อน บางคนบอก 'แค่เพื่อนก็ดีเท่าไหร่แล้ว' ดีจริงเหรอ ? ทำไมฉันไม่อยากได้มันล่ะ ! จะว่าโลภก็ได้ แต่ฉันอยากได้มากกว่านั้น อยากเป็นมากกว่าเพื่อน อยากเป็นคนที่เขารัก และเพราะฉันอาจจะโลภเกินไป แม้แต่คำว่าเพื่อนก็เลยไม่เหลือ 'พัง' ทุกความสัมพันธ์ของเรามันพัง เขาไม่เหลือเยื่อใยให้ฉันสักอย่าง จะเรียกชั่วก็ไม่ผิด ที่ฉันแอบนอนกับเพื่อนตัวเองตอนมันเมาไม่ได้สติ ฉันปล่อยให้ตัวเองท้อง คิดง่าย ๆ แค่ว่า.. แม้ไม่ได้ตัวและหัวใจ ขอแค่เลือดเนื้อเชื้อไข ฉันก็เอา !
View Moreความรัก มักจะทำให้เรากลายเป็นคนโง่
แต่จริง ๆ แล้ว เราไม่ได้โง่หรอก เราก็แค่...รักคนอื่นมากกว่าตัวเราเอง
เหอะ! แต่ถ้าเอาเข้าจริง ๆ มันก็แค่คำปลอบใจคนอ่อนแอก็แค่นั้นแหละ
เพราะความจริงแล้วเราก็คนโง่ดี ๆ นี่เอง...
(ฮัลโหล) น้ำเสียงของผู้หญิงที่ผมคุ้นเคยเอ่ยขึ้น เมื่อเธอกดรับสายที่ผมโทรเข้าไปหา
"อยู่ไหนแล้ว ใกล้ถึงยัง" ผมถามเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เพราะเธอคือหัวใจของผม
(วันนี้เอคงไปหาไม่ได้นะยิม พอดีมีงานใหม่เข้ามา แล้วพี่ที่ทำงานเขาบอกว่าต้องส่งด่วน ยิมไม่โกรธเอใช่ไหม) เธอที่พูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดที่ผิดนัดกับผม
น้ำเสียงของเธอทำให้ผมโกรธไม่ลง
"เอทำงานเถอะ ยิมไม่โกรธหรอก ยิมเข้าใจ" ผมบอกเธอไป แม้จริง ๆ แล้วผมก็รู้สึกน้อยใจ แต่เพราะเธอต้องทำงาน ผมจึงพยายามเข้าใจเธอ
(ยิมเป็นแฟนที่น่ารักที่สุดเลย ขอบคุณที่เข้าใจเอนะ เสร็จงานแล้วจะรีบไปหาทันทีเลย)
"ครับ รักเอมากนะครับ"
ผมชื่อ 'ยิม' อายุ24ปี เป็นลูกชายคนเดียว บ้านของผมเปิดร้านทอง วัน ๆ ผมก็เลยมีหน้าที่นั่งขายทองอยู่หน้าร้าน ทั้ง ๆ ที่เรียนจบมาอีกสาย แต่เพราะพ่อแม่ต้องการให้ผมสบาย เลยยกร้านทองให้ผมดูแล แต่ตอนนี้ผมยังไม่ใช่เจ้าของ พ่อบอกรอให้ผมมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ก่อน
แล้วทุกอย่างจะเป็นของผม
รูปหล่อ พ่อรวย บ้านเปิดร้านทอง แต่ผมไม่โสดนะครับ แฟนผมน่ะสวยมาก เธอเป็นคนน่ารักที่สุด เธอชื่อ 'เอ' เรารู้จักเมื่อสามปีก่อน เธอคือผู้หญิงในสเปคที่ผมชื่นชอบ ผมจึงเข้าไปจีบเธอ
แล้วเราก็ตกลงเป็นแฟนกัน คบกันมาจนถึงปัจจุบัน
และเพราะเธอเป็นคนน่ารัก ครอบครัวของผมจึงเอ็นดูเธอมาก
แม่ของผมชวนให้เธอมาทำงานที่ร้านด้วยกัน แต่เธอบอกว่าเธออยากทำงานที่เธอรัก และไม่อยากให้คนอื่นมองว่าเธอเกาะผมกิน เธอจึงเลือกทำงานบริษัท อยู่ในตำแหน่งสายงานที่ร่ำเรียนมา
ถามว่าผมหวงเธอไหม ตอบเลยว่าหวงมาก แต่เธอบอกให้ผมเชื่อใจเธอ เพราะมันคือทางที่เธอเลือก เธอบอกมันคือความสุขของเธอ ผมจึงพยายามไม่คิดอะไรมาก
ความสุขของเธอคือความสุขของผม
ส่วนเรื่องแต่งงาน ผมเคยเกริ่นกับเธอไว้แล้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมา แต่เธอบอกว่าเธออยากหาประสบการณ์ชีวิตอีกสักนิด เธอขอเวลาผม เธอบอกว่าถ้าเธอพร้อม เธอจะตอบตกลงทันที
ซึ่งผมก็ยินดีรอเธอ เพราะว่าผมรักเธอ รักเธอมาก
"ยิม! " เสียงของผู้หญิงเอ่ยเรียกชื่อผมดังขึ้น
"ว่าไง ไม่ช่วยแม่ทำงานเหรอ" ผมมองคนตรงหน้าที่ยืนยิ้มหน้าแป้นให้ผม
"วันนี้งานเสร็จแล้ว คืนนี้นัดรวมแก้งค์ ขอติดรถไปด้วยนะ" เธอกดรหัสประตูลูกกรงแล้วเดินเข้ามานั่งข้างผม
"ใครบอกกูจะไป" ผมเลิกคิ้วสูง
"เอ้า เพื่อนนัดดื่มกัน มึงก็ต้องไปสิ ไม่รู้ล่ะ ยังไงมึงก็ต้องไป ไม่กินก็เรื่องของมึง แต่มึงต้องไปนั่งรอแบกกูกลับ"
"เอาแต่ใจไม่เปลี่ยน แบบนี้ไงมึงเลยไม่มีแฟน" ผมพูดแทงใจดำ
"ไอ้ยิม มึงรู้ได้ไงกูไม่มี สวยระดับกูคนคุยเพียบจ้ะ ไม่รู้ล่ะ ยังไงก็แวะรับกูด้วย ทุ่มครึ่งคืนนี้นะ เพราะแก๊งค์เรามันจะไปร้านเปิดใหม่" พูดจบเธอก็กดรหัสประตูลูกกรง แล้วก็เดินออกไป
"มึงมาแค่นี้ไม่จำเป็นต้องกดรหัสเข้ามานั่งก็ได้มั้ง" ผมท้วงขณะที่เธอกำลังจะออกจากประตูร้าน
"ความสุขของกู อย่าเสือกดิ" ว่าจบเธอก็เปิดประตูร้านเดินออกไป
เธอคนนี้มันชื่อ 'แจง' เป็นเพื่อนข้างบ้านของผม เราสนิทกันตั้งแต่เด็ก บ้านมันเปิดร้านพรีเวดดิ้ง มันเรียนที่เดียวกับผมตั้งแต่อนุบาลยันมหาวิทยาลัย เรียนคณะเดียวกับผม และกลับมาสืบทอดกิจการร้านของที่บ้านแบบผม เพราะโดนคำสั่งพ่อแม่เหมือนผมอีกเช่นเคย
แจงเป็นคนสวย มันมีแฟนตั้งแต่ตอนเรียนอนุบาล ยันมหาวิทยาลัย หน้าไม่เคยซ้ำ นับไม่ถ้วนด้วย ผู้หญิงอะไรโคตรเจ้าชู้ และที่สำคัญมันโคตรเอาแต่ใจ ส่วนใหญ่เลยไม่มีผู้ชายหน้าไหนทนมันได้นาน
ที่คบกับมันได้ก็มีแต่บรรดาเพื่อน ๆ กันทั้งนั้น เพราะมันชอบแสดงนิสัยแย่เฉพาะกับแฟนเป็นส่วนใหญ่
กับเพื่อนแทบน้อยครั้งที่มันจะแสดงด้านไม่ดีออกมา
“มากันแล้ว มา ๆ ลูกเข้าบ้านเร็ว” แม่ของผมกวักมือเรียกผมและภามเพื่อเข้าบ้านหลังจากที่เมื่อคืนผมโดนจัดชุดใหญ่ เพราะไม่ไว้ใจเก็บเรื่องไร้สาระของภามไปฝันเป็นตุเป็นตะ พอตื่นมาก็งี่เง่าเง้างอนนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมกลับมาบ้านแล้วโดนกระหน่ำแทงเช้ามาภามมันเลยลากผมมาทานข้าวเช้าที่บ้านของผม เนื่องจากเมื่อคืนมันบังคับให้ผมโทรนัดครอบครัวซึ่งตลอดการเดินทางมาที่บ้านแม่ของผมนั้น ผมเกร็งมากครับ เกร็งกลัวไปหมด กลัวครอบครัวจะรับเรื่องของผมกับภามไม่ได้กลัวพวกท่านจะกีดกัน ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นผมคงทนไม่ได้แน่นอน“พ่อแม่สวัสดีครับ” ภามยกมือขึ้นไหว้พ่อกับแม่ของผม ซึ่งพ่อนั่งอยู่ที่เก้าอี้ของโต๊ะอาหาร ส่วนแม่ท่านเพิ่งจะเดินไปนั่งที่ข้างกายพ่อ“นั่ง ๆ ภาม แล้วนี่นึกอะไรถึงพากันมาแต่เช้า” พ่อยิ้มรับและชวนให้นั่ง ต้องขยายความก่อนนะครับว่าภามมาที่บ้านของผมบ่อย มาในฐานะเพื่อนในความเข้าใจของครอบครัวผม“มีเรื่องจะพูดคุยกับพ่อแม่ครับ” ภามเป็นคนตอบ ส่วนผมยังยืนเกร็งเพราะกลัวสิ่งที่กำลังจะเกิดในเวลาอีกไม่นานที่จะถึง“ดูท่าจะซีเรียส งั้นกินข้าวกันก่อนค่อยคุยกันนะ นั่งทานลงทานข้าวสิเค” แม่ของผมบอกแล้วยิ้ม ผมจึงนั่ง
“เค เค เคด่วย ไอ้เค!!!” เสียงแว่วมาของไอ้ภามมันเอ่ยเรียกผมพร้อมกับแรงเขย่าแรง ๆ“ไอ้ภาม!!!” ผมเงยหน้ามองมันด้วยความตกใจ“เป็นบ้าอะไรของมึง เห็นกูทำไมต้องตกใจ มึงมีความผิดอะไร พูดมา” ไอ้ภามมันเดินมาที่โซฟาที่ผมนอนอยู่และนั่งลงข้างผมก่อนจะยื่นมือมาดึงจับที่ตัวผม“อย่ามาจับกู ไอ้เหี้ย มึงมันเลว ใจร้าย ทำร้ายจิตใจกู ที่ทำทุกอย่างก็แค่สงสารกู มึงไม่เคยรักกูเลย” ผมขยับตัวหนีออกจากมันปัก!ไอ้ภามมันตบที่หัวของผม“ไอ้เค รอบนี้อะไรพูดมา กูงอนเรื่องที่บ้านของมึง มึงถึงขั้นเก็บเอาไปฝันคิดว่ากูนอกใจใช่ไหม มึงถึงได้นอนร้องไห้อยู่แบบนี้”เวรแล้วครับ“อย่าบอกนะว่าทั้งหมดเพราะกูฝันเป็นตุเป็นตะ” ผมมองไอ้ภามแล้วทำหน้าอึ้งรอครับ เพราะรู้สึกเหมือนจะรู้คำตอบแล้ว“เออดิ กูเนี่ยนะจะนอกใจมึง ไอ้เหี้ย เรื่องนี้นี่คิดไม่เลิกสักทีเนอะ แล้วนี่ยังไง”“ยังไงอะไรภาม” เมื่อรู้ตัวว่าทุกอย่างคือความฝันที่ผมสรรค์สร้างมันขึ้นมา ผมก็รีบขยับตัวนอนหนุนที่ตักของคนที่ผมเรียกว่าแฟน รีบเตรียมแผนอ้อนมันเลยครับ“มึงให้ลูกค้าในร้านกอดทำไม”แต่เดี๋ยวนะ!!!เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด เรื่องนี้ผมจะนอนท่านี้ไม่ได้เหมือนจะไม่ทัน ผมรู้ตัวช
สามวันผ่านไป...สามวันผ่านไปแล้ว ชีวิตของผมก็ยังจมอยู่กับความเมา ผมเช่าห้องพักรายวันแล้วซื้อเหล้าเข้ามากินแบบไม่คิดอะไรทั้งนั้น นอกจากเรื่องราวที่ผ่านมาของผมกับไอ้ภาม ผมคิดซ้ำ ๆ วกไปวนมา คิดแล้วคิดอีกและเมาหลับไปผมโคตรเสียศูนย์ที่ต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้แต่วันนี้มันถึงเวลาที่ผมจะต้องกลับใช้ชีวิตของผมแล้วครับเรื่องร้านที่ทำร่วมกันมา ถ้าหากว่ามันจะเอาคนรักของมันมาทำ ผมก็พร้อมจะเดินออกมาพร้อมเงินทุนและกำไรที่ผมสมควรได้เรื่องนี้คงต้องคุยกันอีกทีให้เข้าใจแต่ที่แน่ ๆ คือผมจะไม่กลับไปอยู่ในจุดที่มันสงสารผมแน่นอนครับสองชั่วโมงต่อมา...ณ ร้านอาหาร“สวัสดีค่ะคุณเค” พนักงานในร้านยกมือไหว้ผมเหมือนที่เคยทำตลอด แต่วันนี้มันแปลกไปตรงที่ผมไม่ยิ้มครับ คนที่ตกอยู่ในอารมณ์แบบผมคงไม่มีอารมณ์มาปั้นหน้ายิ้มหรอกใช่ไหมครับ ผมไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้นผมเดินผ่านพนักงานมาที่ห้องทำงานด้วยใบหน้าที่นิ่งขรึม ซึ่งผมไม่เคยเป็นแบบนี้เลยตั้งแต่เปิดร้านมา จึงไม่แปลกที่จะเป็นจุดสนใจ เพราะผมก็หายไปสามวันเต็ม ๆผมเดินเข้ามาในห้องทำงานแล้วนั่งดูยอดบัญชีการซื้อของเข้า และเมนูอาหารที่ขายออกไป ผมตรวจผมเช็กแบบที่ผมเคยทำ เพื่อ
ตอนนี้เวลาหนึ่งทุ่มนิด ๆ ครับ ผมกลับมาบ้านของภาม บ้านที่ภามมันซื้อไว้ก่อนที่เราจะรู้จักกัน เราอาศัยอยู่ที่นี่ด้วยกัน และนาน ๆ ครั้งเพื่อนจะมาปาร์ตี้ โดยที่มีแจงเป็นสายเมาที่ชอบเต้นจนสุดเหวี่ยง และสุดท้ายก็น็อกกลางอากาศ ตั้งแต่ที่แจงมีลูกคนที่สอง การเที่ยวเตร่เมาแล้วเลื้อยของแจงก็น้อยลง หรือเพราะมีความเป็นแม่ที่มากขึ้นก็ไม่รู้นะครับ แจงถึงได้ดูกลายเป็นคนดีแต่กว่าจะดีได้ กว่าจะลงตัวกับคนที่เป็นผัวอย่างยิมก็ยากเอาเรื่องนะครับ ไหนจะเรื่องของจัสมินที่แจงปกปิดแม้กระทั่งเพื่อนว่าใครคือพ่อ ไหนจะผู้ชายที่ตามจีบ และยังเมียเก่าของยิมที่ยิมเคยรักมาก แต่ละปัญหาของทั้งคู่มันทำให้ผมเหนื่อยและท้อแทนเลยครับ“เฮ้อ” ผมถอดถอนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เมื่อขวดเหล้ามันกระจัดกระจายระเนระนาดไปหมด แล้วก็ต้องเป็นผมที่ต้องเก็บเป็นประจำตอนนี้คนเมาคงอยู่ในห้องนอนแต่เดี๋ยวนะ!!!ทำไมมีแก้วสองใบ ใครมาดื่มกับมันวะสองเท้าของผมรีบเดินมาที่ห้องนอน ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อใจแต่ผมแค่อยากพิสูจน์ และไม่อยากให้เป็นแบบที่ผมคิดแต่แม่ง...ไม่ใช่ไง มันไม่ใช่เมื่อเสียงที่ดังแว่วมาจากห้องนอน ตามทางเดินที่ผมกำลังก้าวไป ยิ่งผมเฉียดใกล้
สวัสดีครับ เรียกผมว่า ‘เค’ อย่างที่แจงเรียกก็แล้วกันนะครับผมมีแฟนครับ ชื่อ ‘ภาม’ เป็นเจ้าของร้านอาหารที่เราสองคนร่วมกันสร้างขึ้นมาเพื่อเลี้ยงชีพของเราทั้งสอง กิจการร้านอาหารของเราดำเนินไปได้ด้วยดีครับคงจะเพราะเจ้าของร้านทั้งสองคนหล่อกันทั้งคู่ จะว่าผมหลงตัวเองไม่ได้นะครับ เพราะส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาทานอาหารร้านผมนั้นเป็นสาว ๆ กันซะมากกว่าคงไม่ต้องบอกพวกคุณที่ตามแจงมาก็คงจะรู้ว่าผมกับภามเป็นคู่รักร่วมเพศ เป็นคู่เกย์กันขอสารภาพตามตรงนะครับว่าตอนแรกผมก็ไม่คิดที่จะชอบผู้ชายด้วยซ้ำ เพราะที่ผ่านมาผมชอบผู้หญิงมาตลอด แต่แล้วจู่ ๆ ชีวิตที่เจอแต่ความผิดหวังก็ทำให้ความรู้สึกของผมเปลี่ยนไป อาจจะเพราะจุดเริ่มต้นมันมาจากการประชดชีวิตที่คบใครก็มีแต่โดนทิ้ง โดนหักหลังมาตลอดผมก็เลยลองมองหาผู้ชายดู เผื่อว่าจะได้ไม่ต้องเจอกับความเสียใจ เหมือนตอนที่คบกับผู้หญิงจุดเปลี่ยน จุดแปลกใหม่ในชีวิตของผมเกิดขึ้นเมื่อผมต้องมากลายเป็นฝ่ายรับจากผู้ชายที่เพิ่งจะรู้จักกัน ตอนนั้นขอเรียกเป็นวันไนท์สแตนด์แล้วกันนะครับที่เรียกวันไนท์สแตนด์ก็เพราะอยากจะทดลองก่อนที่จะเริ่มมีคนรักที่เรียกว่าเพศเดียวกันและผู้ชายคนแรกที่ไ
“พวกแกจะบ้ากันหรือไง ทำอะไรกันอยู่ กล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง!!!” แม่พูดเสียงสั่นดวงตากำลังเอ่อคลอด้วยน้ำตา ท่านกำลังมองฉันและพี่ชาย“แค่เรารักกัน ทำไมแม่ไม่เข้าใจ”“รักกันฉันเข้าใจ แต่พวกแกจะรักกันแบบนี้ไม่ได้ พี่น้องจะรักกันแบบนี้ไม่ได้”“แม่…”“หยุดเรื่องน่ารังเกียจนี้ซะยัยแพท แกเป็นถึงครู แกไม่ควรให้เรื่องนี้เกิดขึ้น” แม่หยิบยาดมขึ้นมาสูดดม“เรารักกันครับแม่ ผมรู้ว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ แต่เรื่องของหัวใจมันบังคับกันได้เหรอครับ แม่ครับ…”“เงียบปากไปเลยพีค นี่พวกแกเป็นบ้ากันหรือไง กำลังทำอะไรอยู่ ทำอะไรทำไมไม่คิดถึงใจฉันบ้าง” แม่ของฉันเริ่มหลั่งน้ำตาฉันกับพี่ชายกำลังทำให้แม่บังเกิดเกล้าเสียใจ เพราะเราทั้งสองตัดสินใจกลับมาบ้านและบอกเรื่องราวที่เราสองคนได้แอบทำร่วมกันมาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี เมื่อแม่ได้ยินเรื่องที่พี่ชายเป็นคนเอ่ยปากเริ่มเล่า ท่านก็เริ่มหน้าซีด และหลั่งน้ำตาน้ำตาของแม่ทำให้ฉันรู้สึกผิดมาก แต่เมื่อพูดออกไปแล้วคงจะแก้ไขอะไรไม่ได้อีก และคงต้องยอมรับความจริงซึ่งมันดูเหมือนเราทั้งคู่บีบบังคับให้แม่ยอมรับเรื่องของเราเรื่องระยำที่เราแอบทำ“แม่คะ แพทขอโทษ แต่
Comments