Semua Bab ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย: Bab 1351 - Bab 1360

1446 Bab

บทที่ 1351

โฉวสือชีพยักหน้าจากนั้นลั่วชิงยวนก็รีบไปเตรียมของบางอย่างจนกระทั่งฟ้ามืดคณะเดินทางก็เริ่มออกเดินทางทุกคนรู้ดีว่าการเดินทางครั้งนี้อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้แต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือก เพราะในเมื่อเชื่อมั่นในตัวลั่วชิงยวนแล้วก็จะยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อนางเพื่อตนเองและเพื่อญาติมิตรในหุบเขาทาสทุกคนคณะเดินทางควบม้าออกเดินทาง เดินทางทั้งวันทั้งคืนโดยมิหยุดพักสามวันต่อมาก็มาถึงเชิงเขาเมืองแห่งภูตผีหลายคนลงจากม้า มองป่าเขาที่ปกคลุมไปด้วยม่านหมอกที่ดูลึกลับราวกับมิเคยมีผู้ใดเหยียบย่างเข้าไปแฝงไว้ด้วยความหวาดกลัวที่มิอาจหยั่งรู้ลั่วชิงยวนเดินทางมาหลายวัน ใบหน้าของนางซีดเซียวเล็กน้อย โฉวสือชีช่วยประคองนางลงจากม้า“คืนนี้พักผ่อนที่เชิงเขาหนึ่งราตรี วันพรุ่งค่อยขึ้นเขา พักผ่อนให้เต็มที่”“ได้”ทุกคนก่อกองไฟพักผ่อนกันอยู่ตรงนั้น แล้วนำอาหารออกมาแบ่งกันกินหงไห่หัวเราะ แล้วกล่าวว่า “หลายปีมานี้ข้าไปมาแล้วทุกที่ กระทั่งค่ายทาสก็เคยเข้าไปมากกว่าหนึ่งครั้ง”“ก็มีแต่เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ที่ยังมิเคยเยือน พอดีคราวนี้ได้บุกเข้ามา มิว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไรก็จะได้จารึกชื่อสิบมหาโจรของพวกเ
Baca selengkapnya

บทที่ 1352

จู่ ๆ ลั่วชิงยวนก็รู้สึกหนาวเย็นลงไปถึงกระดูกสันหลัง และคิดว่าตัวเองยังคงฝันอยู่นางหยิกตนเองหลายครั้งเพื่อให้แน่ใจว่านี่มิใช่ความฝันทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้านางคือความจริง!และยามนี้ทุกคนหายไปหมดแล้ว เหลือเพียงนางผู้เดียว!พวกเขาอยู่ที่ใด?กองไฟดับไปนานแล้ว กระทั่งบนพื้นก็ไม่มีร่องรอยใดหลงเหลือ มองมิเห็นอะไรทั้งสิ้นลั่วชิงยวนลุกขึ้นยืน พบว่าบนร่างของนางมีเสื้อคลุมของโฉวสือชีคลุมไว้“โฉวสือชี!”“หงไห่!”ลั่วชิงยวนมองหาพวกเขารอบด้าน สิ่งที่ตอบกลับนางกลับมีเพียงความเงียบสงัดพวกเขาจะมิหนีไปเพราะกลัวตายแน่นอน ต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นเป็นแน่!แต่เหตุใดนางจึงมิเป็นอะไร?นางรออยู่ที่เดิมครู่หนึ่ง รอจนแสงแห่งรุ่งอรุณปรากฏ โฉวสือชีและคนอื่น ๆ ก็ยังมิกลับมาลั่วชิงยวนลุกขึ้นยืน มองไปยังภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหมอกหนาทึบเมืองแห่งภูตผีคิดว่าตอนนี้เท้าของพวกเขาคงเหยียบอยู่บนแผ่นดินของเมืองแห่งภูตผีแล้วดังนั้นจึงได้เกิดเรื่องขึ้นกับสิบมหาโจรลั่วชิงยวนก็ออกเดินทางขึ้นเขาในทันทีถึงแม้จะเป็นการไปเพียงลำพังก็ตามขณะขึ้นเขา ลั่วชิงยวนก็กลืนยาหนึ่งเม็ดเพื่อให้ตนเองตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
Baca selengkapnya

บทที่ 1353

“เจ้าจะไปด้วยกันหรือไม่? การเดินขึ้นภูเขามิใช่เรื่องง่ายสำหรับสตรี การมีใครสักคนไปด้วยจะปลอดภัยกว่า”สิบกว่าคนหรือ?คนเหล่านี้อยู่รวมกันหมดเลยหรือ?หรือว่าทุกคนมารวมตัวกันอยู่ในหมู่บ้านนี้?พวกโฉวสือชีจะอยู่ที่นั่นด้วยหรือไม่?เมื่อคิดถึงตรงนี้ ลั่วชิงยวนก็ตอบตกลง “ได้ ข้าจะไปกับเจ้า ถือโอกาสส่งเจ้ากลับด้วย”ดูจากท้องของซูเซียงแล้ว อย่างน้อยก็เจ็ดแปดเดือน มิใช่เรื่องง่ายเลยที่นางจะขึ้นภูเขามาด้วยท้องใหญ่ถึงเพียงนี้เดิมทีลั่วชิงยวนคิดจะเกลี้ยกล่อมว่าบนภูเขานี้มิใช่สถานที่ที่คนธรรมดาจะมาได้แต่เมื่อคิดอีกทีเหตุผลที่เมืองแห่งภูตผีถูกเรียกว่าเมืองแห่งภูตผี ก็เพราะเมื่อขึ้นเขาแล้วจะมิสามารถบอกได้เลยว่าทุกคนที่พบนั้นเป็นมนุษย์หรือภูตผีกอปรกับเรื่องแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้คนต่างหวาดกลัวแต่หลายปีมานี้ ผู้คนมิรู้ว่าบนภูเขาเมืองแห่งภูตผีมีอะไร ดังนั้นยังคงมีผู้คนจำนวนมากขึ้นไปบนภูเขาแห่งนี้บางคนก็เพื่อยา บางคนก็เพื่อทรัพย์สมบัติแต่ละคนต่างมีสิ่งที่ต้องการลั่วชิงยวนนำสมุนไพรออกมามอบให้ซูเซียง ให้นางกลับไปต้มดื่มเพื่อช่วยบำรุงครรภ์ซูเซียงก็รู้สึกขอบคุณมา
Baca selengkapnya

บทที่ 1354

ซูเซียงพูดด้วยรอยยิ้ม “มัวอึ้งอะไรอยู่ รีบกินเถิด”“ที่นี่ขาดแคลนอาหาร อย่าได้สิ้นเปลืองเลย”ลั่วชิงยวนพยักหน้า แล้วกล่าวว่า “ยามนี้ข้ายังมิค่อยหิว เดี๋ยวหิวแล้วข้าค่อยกินแล้วกัน จะได้ประหยัดด้วย”ซูเซียงมิได้สังเกตเห็นความระแวดระวังของลั่วชิงยวนในยามนี้ เพียงแค่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ได้สิ เพียงแต่ยามค่ำคืนก็จงเข้านอนแต่หัววัน”“อย่าได้ออกจากหมู่บ้านในยามาราตรีเด็ดขาด!”ซูเซียงขยับเข้ามาใกล้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังลั่วชิงยวนตกตะลึง “เหตุใด?”“อย่าถามเลย อย่างไรก็ฟังข้าเถิด ยามค่ำคืนอย่าออกไปข้างนอกและอย่าออกจากหมู่บ้านเด็ดขาด! มิเช่นนั้นจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น!”กล่าวจบ ซูเซียงก็มองแสงจันทร์นอกหน้าต่าง ดูเหมือนจะตระหนักได้ว่ายามนี้ค่ำแล้ว จึงรีบบอกลา แล้วลุกขึ้นเดินออกไปลั่วชิงยวนยืนอยู่ที่หน้าต่าง มองซูเซียงรีบเดินกลับไปยังเรือนของตนอย่างรวดเร็วภายใต้แสงจันทร์นั้นเห็นได้ชัดว่านางมีเงาแสดงว่านางเป็นมนุษย์แล้วเหตุใดบนกระดาษแผ่นนั้นจึงบอกว่านางมิใช่มนุษย์?หรือว่าเนื้อหาบนกระดาษแผ่นนั้นมีความหมายอื่นซ่อนอยู่?นางกลับไปยังโต๊ะ แล้วตรวจสอบอาหารอีกครั้งทันใดนั้นเอง บน
Baca selengkapnya

บทที่ 1355

ถึงแม้จะมีปัญหาก็ตาม นางก็อยากจะดูว่าซูเซียงต้องการทำอะไรแท้จริงแล้วหมู่บ้านนี้คืออะไรกันแน่เมื่อเทียบกับการกินอาหารเหล่านี้ การออกจากหมู่บ้านโดยพลการอาจจะมีอันตรายมากกว่าหลังจากกินอาหารเสร็จ ลั่วชิงยวนก็รู้สึกมึนงงเล็กน้อยนางฟุบหน้าลงบนโต๊ะ แล้วหลับไปแต่เพราะฤทธิ์ยาไม่มีผลต่อนางมากนักจึงมิได้หมดสติไปราว ๆ ยามจื่อ เสียงอุทานตกใจจากด้านนอกดังขึ้น ปลุกให้ลั่วชิงยวนสะดุ้งตื่นนางรีบลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างแล้วแง้มออกเพียงเล็กน้อยเพื่อมองออกไปหมู่บ้านที่ถูกปกคลุมด้วยความมืดมิดเงียบสงัดอย่างน่าประหลาด แม้แต่เสียงลมยังฟังดูเหมือนเสียงหัวเราะที่ลานด้านหน้ามีชายเตี้ยรูปร่างผอมคนหนึ่ง ดวงตาโบ๋ลึกราวกับโครงกระดูก ขอบตาดำคล้ำ ทำให้ดวงตาคู่นั้นดูใหญ่เป็นพิเศษบนใบหน้าที่ซูบผอมนั้นดูประหลาดคนที่ล้มลงบนพื้นตรงหน้าเขาคือซูเซียงชายผู้นั้นเพิ่งตบหน้าซูเซียงซูเซียงรีบเอ่ยปาก “ท่านมีฉีเสวี่ยเวยแล้วมิใช่หรือ”ชายผอมเตี้ยคนนั้นมองซูเซียงด้วยสายตาหื่นกระหาย “วันนี้ข้าอยากจะลิ้มลองของใหม่”เขากล่าวพลางเลียริมฝีปาก แล้วคว้าตัวซูเซียง ฉีกคอเสื้อของนางอย่างแรงซูเซียงตื่นตระหนก “อย่า
Baca selengkapnya

บทที่ 1356

ลั่วชิงยวนกำมือแน่นด้วยความวิตกกังวลในขณะที่นางกำลังจะลงมือโจมตีอย่างรุนแรงทันใดนั้น เงาร่างสีดำก็เหาะลงมากระชากตัวฝูเหมิ่งออกไปแล้วยืนขวางอยู่ตรงหน้าลั่วชิงยวนใต้แสงจันทร์ แสงที่สะท้อนจากหน้ากากนั้นทำให้ลั่วชิงยวนใจหายวาบเขานั่นเอง!เขาถึงกับมาเมืองแห่งภูตผี!การต่อสู้ของลั่วชิงยวนและฝูเหมิ่งดึงดูดให้ผู้คนออกมาดูมากมายยามนี้ผู้คนที่มามุงดูก็ยิ่งมากขึ้นในดวงตาของฝูเหมิ่งเต็มไปด้วยเจตนามุ่งสังหาร “กำลังคิดว่าคนมามากขึ้นเรื่อย ๆ อาหารน้อยลงทุกที ในเมื่อเจ้าเอาชีวิตมาส่งถึงที่ ข้าก็จะสนองให้!”ยามนี้ฉีเสวี่ยเวยเอนตัวพิงขอบประตู กอดอกแล้วตะโกนว่า “คนใบ้ผู้นั้น อย่าได้ยุ่งเรื่องชาวบ้าน”“ถึงแม้แม่นางผู้นั้นจะงดงาม แต่ก็ต้องผลัดเปลี่ยนกันมิใช่หรือ?”สายตาเย็นชาของฉีเสวี่ยเวยมองลั่วชิงยวน ในดวงตาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว เหตุใดฉีเสวี่ยเวยจึงมีความเป็นศัตรูกับนางมากมายถึงเพียงนี้ชายสวมหน้ากากตรงหน้ากลับมิถอยหนีแม้แต่ก้าวเดียวร่างของเขาผอมบาง ดูมิค่อยแข็งแรง แต่ในบัดนี้เขากลับดูน่าเกรงขามนัก และมิยอมถอยแม้แต่น้อยลั่วชิงยวนรู้สึกสงสัยว่าชายผู้นี้เป็นใคร
Baca selengkapnya

บทที่ 1357

“ขอบคุณ”มือของชายสวมหน้ากากค้างอยู่กลางอากาศ ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ลดมือลงซูเซียงรีบเข้ามาดึงลั่วชิงยวนเข้าไปในเรือนลั่วชิงยวนหันกลับไปมองบุรุษผู้นั้นบุรุษผู้นั้นทำท่าทางชี้ไปยังพื้นดินใต้ฝ่าเท้า เป็นเชิงบอกว่าเช้าวันพรุ่งจะมารอที่นี่ลั่วชิงยวนพยักหน้าเมื่อกลับเข้าเรือนแล้วซูเซียงก็รีบปิดประตูทันทีที่นั่งลง นางก็ยกมือกุมท้องด้วยสีหน้าเจ็บปวดลั่วชิงยวนรีบจับชีพจรให้นาง “เป็นกระไร?”ซูเซียงส่ายหน้า “มิเป็นอะไร เพียงแต่ตื่นตระหนกเกินไปจึงเจ็บเล็กน้อย มิเป็นอะไรร้ายแรง”ลั่วชิงยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ “เจ้าตั้งครรภ์ มิควรขึ้นเขามาเลย ที่นี่อันตรายเกินไป”ซูเซียงกลับยังมีรอยยิ้ม “แล้วเจ้าเล่า สตรีที่อ่อนแอเช่นเจ้าขึ้นเขามาทำกระไร?”ลั่วชิงยวนนิ่งเงียบอันที่จริงนางมีสหายอีกแปดคน แต่ยามนี้มิรู้ว่าพวกเขาไปอยู่ที่ใด“เราทุกคนต่างมีจุดมุ่งหมายของตัวเอง และผู้คนในที่นี้ก็เช่นกัน”“ไม่มีผู้ใดยอมแพ้ง่าย ๆ แต่พวกเราถูกกักขังอยู่ที่นี่ มิสามารถขึ้นเขาไปได้อีก อาหารก็เหลือน้อยลงทุกที”ลั่วชิงยวนได้รู้ว่าอาหารของพวกเขานั้นนอกจากผักป่าแล้วส่วนใหญ่ได้มาจากการล่าสัตว์แต่พวกเขาถูกกักขัง
Baca selengkapnya

บทที่ 1358

จากนั้นฉีเสวี่ยเวยก็ออกจากห้องไปลั่วชิงยวนนั่งลงบนเตียงและดึงอาภรณ์ออกเผยให้เห็นบาดแผลที่หัวไหล่ นางหยิบสมุนไพรที่เก็บมาทาลงบนบาดแผลเพื่อห้ามเลือดอย่างง่าย ๆ โชคดีที่บาดแผลมิลึกทันใดนั้นเอง ลั่วชิงยวนก็รู้สึกได้ถึงสายตาเย็นชานางเงยหน้าขึ้นมองในทันทีจึงเห็นว่าหน้าต่างถูกเปิดออกตั้งแต่เมื่อใดมิรู้ และมีดวงตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองนางผ่านรอยแยกของหน้าต่างลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว รีบดึงคอเสื้อขึ้นแล้วมองไปที่หน้าต่างด้วยความระแวดระวังคนผู้นั้นคือฝูเหมิ่ง!เมื่อเป้าหมายรู้ตัวแล้ว ฝูเหมิ่งก็มิได้หลบ กลับเปิดหน้าต่างออกอย่างมิเกรงกลัวเขาอมยิ้มอย่างหยาบคาย ใช้สายตาลามกจ้องมองนางสายตาดุดันของลั่วชิงยวนจ้องมองเขาฝูเหมิ่งจ้องมองนางเช่นนี้อยู่ครู่หนึ่ง มิได้เอ่ยคำใด แต่สายตาและรอยยิ้มนั้นก็บ่งบอกทุกสิ่งเขาจะต้องทำให้ลั่วชิงยวนเป็นเหยื่อของเขาให้ได้!หลังจากฝูเหมิ่งจากไปแล้ว ลั่วชิงยวนก็รีบเดินไปปิดหน้าต่างให้สนิทลั่วชิงยวนนอนลงบนเตียงก็มิอาจหลับลงได้ มักจะอดมิได้ที่จะมองไปยังประตูและหน้าต่างเมื่อนึกถึงฝูเหมิ่งที่แอบจ้องมองนางก็รู้สึกขยะแขยงนางจึงลุกขึ้นจัดเตรียมสมุนไพรที่เก็บม
Baca selengkapnya

บทที่ 1359

เรื่องนี้ทำให้ลั่วชิงยวนยิ่งรู้สึกสับสน รอจนฟ้ามืด แล้วเขากับนางจะยังมีเวลากลับไปหรือ?เพียงแต่ในเมื่อคนใบ้ผู้นี้กล้ารับปากตั้งแต่เมื่อคืน ก็แสดงว่าเขาคงจะมีแผนอยู่ในใจแล้วนางมอบยาให้เขา แล้วพูดว่า “ข้าก็มิรู้หรอกว่าเจ้าต้องการหรือไม่”คนใบ้อึ้งไปครู่หนึ่ง รับขวดยาไป แล้วพยักหน้าเล็กน้อยแสดงความขอบคุณลั่วชิงยวนถามด้วยความสงสัย “ก่อนหน้านี้เจ้าเคยช่วยข้ามาแล้วสองครั้งใช่หรือไม่?”“ครั้งหนึ่งที่คฤหาสน์ตระกูลมู่ อีกครั้งหนึ่งที่จวนแม่ทัพ”“เมื่อคืนแค่เห็นเจ้า ข้าก็จำได้แล้ว”ภายใต้หน้ากาก ฟู่เฉินหวนพยายามควบคุมการเปลี่ยนแปลงของสายตา แต่หัวใจของเขากลับเต้นแรงเป็นจังหวะแล้วนางจำได้จริง ๆนางได้พบเจอเขาเพียงสองครั้งหลังจากสงบสติอารมณ์อยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงพยักหน้าลั่วชิงยวนเห็นเขายอมรับอย่างตรงไปตรงมาก็อดมิได้ที่จะดีใจ พลางถามด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้นเหตุใดเจ้าจึงช่วยข้าเล่า?”“เจ้าเป็นผู้ใด?”“พวกเรารู้จักกันมาก่อนหรือไม่?”ถึงแม้ว่าลั่วชิงยวนบางครั้งจะรู้สึกว่าคนผู้นี้คุ้นเคย แต่รูปร่างของเขาต่างจากคนผู้นั้นมากยิ่งไปกว่านั้น ฟู่เฉินหวนก็ตายไปแล้ว...ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องน
Baca selengkapnya

บทที่ 1360

ฝูเหมิ่ง!ชายร่างเตี้ยกำยำผู้นั้นกำลังเดินผ่านความมืดมิดมาเมื่อลั่วชิงยวนหันไปเห็นเขา แล้วสบเข้ากับดวงตาเป็นประกายของเขาก็พลันใจหายวาบฝูเหมิ่งจ้องมองลั่วชิงยวน แล้วกลืนน้ำลาย“ฟ้ามืดแล้ว หมดเวลาหนึ่งวัน พวกเจ้ากลับมามือเปล่า”“เช่นนั้นหญิงงามผู้นี้ก็เป็นของข้า”กล่าวจบฝูเหมิ่งก็กระโจนเข้าหาลั่วชิงยวนในทันทีลั่วชิงยวนตื่นตระหนก รีบถอยหลังไปสองก้าวทว่าในขณะที่ฝูเหมิ่งเข้าใกล้นาง กลับเปลี่ยนทิศทางกระโจนไปยังคนใบ้ที่อยู่ข้าง ๆลั่วชิงยวนยังมิทันได้ชกหมัดที่กำแน่น ฝูเหมิ่งก็หายไปจากตรงหน้าของนางในทันทีจากนั้นก็เห็นฝูเหมิ่งต่อสู้กับคนใบ้ผู้นั้นคนใบ้สู้ฝูเหมิ่งมิได้ ประมือกันมิกี่กระบวนท่าก็ถูกเหวี่ยงออกไปจากนั้นภาพที่ปรากฏต่อหน้าก็ทำให้ลั่วชิงยวนตกตะลึงคนใบ้กุมหน้าอก ลุกขึ้นจากพื้นแล้ววิ่งหนีไปเขาวิ่งหนีมิคิดชีวิตเข้าไปในความมืดหลบหนีด้วยความตื่นตระหนกฝูเหมิ่งมิประหลาดใจ เพียงแค่หัวเราะเยาะจากนั้นก็หันกลับมามองลั่วชิงยวน“เจ้าค่อนข้างเชื่อใจเขามากเลยสินะ รู้หรือไม่ว่าเจ้าเด็กนั่นหลอกลวงเจ้าตั้งแต่แรก”“เขาเพียงต้องการหาข้ออ้างเพื่อหนีออกจากหมู่บ้าน มิได้สนใจควา
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
134135136137138
...
145
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status