Share

บทที่ 1359

Aвтор: หว่านชิงอิ๋น
เรื่องนี้ทำให้ลั่วชิงยวนยิ่งรู้สึกสับสน รอจนฟ้ามืด แล้วเขากับนางจะยังมีเวลากลับไปหรือ?

เพียงแต่ในเมื่อคนใบ้ผู้นี้กล้ารับปากตั้งแต่เมื่อคืน ก็แสดงว่าเขาคงจะมีแผนอยู่ในใจแล้ว

นางมอบยาให้เขา แล้วพูดว่า “ข้าก็มิรู้หรอกว่าเจ้าต้องการหรือไม่”

คนใบ้อึ้งไปครู่หนึ่ง รับขวดยาไป แล้วพยักหน้าเล็กน้อยแสดงความขอบคุณ

ลั่วชิงยวนถามด้วยความสงสัย “ก่อนหน้านี้เจ้าเคยช่วยข้ามาแล้วสองครั้งใช่หรือไม่?”

“ครั้งหนึ่งที่คฤหาสน์ตระกูลมู่ อีกครั้งหนึ่งที่จวนแม่ทัพ”

“เมื่อคืนแค่เห็นเจ้า ข้าก็จำได้แล้ว”

ภายใต้หน้ากาก ฟู่เฉินหวนพยายามควบคุมการเปลี่ยนแปลงของสายตา แต่หัวใจของเขากลับเต้นแรงเป็นจังหวะแล้ว

นางจำได้จริง ๆ

นางได้พบเจอเขาเพียงสองครั้ง

หลังจากสงบสติอารมณ์อยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงพยักหน้า

ลั่วชิงยวนเห็นเขายอมรับอย่างตรงไปตรงมาก็อดมิได้ที่จะดีใจ พลางถามด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้นเหตุใดเจ้าจึงช่วยข้าเล่า?”

“เจ้าเป็นผู้ใด?”

“พวกเรารู้จักกันมาก่อนหรือไม่?”

ถึงแม้ว่าลั่วชิงยวนบางครั้งจะรู้สึกว่าคนผู้นี้คุ้นเคย แต่รูปร่างของเขาต่างจากคนผู้นั้นมาก

ยิ่งไปกว่านั้น ฟู่เฉินหวนก็ตายไปแล้ว...

ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องน
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Заблокированная глава

Related chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1360

    ฝูเหมิ่ง!ชายร่างเตี้ยกำยำผู้นั้นกำลังเดินผ่านความมืดมิดมาเมื่อลั่วชิงยวนหันไปเห็นเขา แล้วสบเข้ากับดวงตาเป็นประกายของเขาก็พลันใจหายวาบฝูเหมิ่งจ้องมองลั่วชิงยวน แล้วกลืนน้ำลาย“ฟ้ามืดแล้ว หมดเวลาหนึ่งวัน พวกเจ้ากลับมามือเปล่า”“เช่นนั้นหญิงงามผู้นี้ก็เป็นของข้า”กล่าวจบฝูเหมิ่งก็กระโจนเข้าหาลั่วชิงยวนในทันทีลั่วชิงยวนตื่นตระหนก รีบถอยหลังไปสองก้าวทว่าในขณะที่ฝูเหมิ่งเข้าใกล้นาง กลับเปลี่ยนทิศทางกระโจนไปยังคนใบ้ที่อยู่ข้าง ๆลั่วชิงยวนยังมิทันได้ชกหมัดที่กำแน่น ฝูเหมิ่งก็หายไปจากตรงหน้าของนางในทันทีจากนั้นก็เห็นฝูเหมิ่งต่อสู้กับคนใบ้ผู้นั้นคนใบ้สู้ฝูเหมิ่งมิได้ ประมือกันมิกี่กระบวนท่าก็ถูกเหวี่ยงออกไปจากนั้นภาพที่ปรากฏต่อหน้าก็ทำให้ลั่วชิงยวนตกตะลึงคนใบ้กุมหน้าอก ลุกขึ้นจากพื้นแล้ววิ่งหนีไปเขาวิ่งหนีมิคิดชีวิตเข้าไปในความมืดหลบหนีด้วยความตื่นตระหนกฝูเหมิ่งมิประหลาดใจ เพียงแค่หัวเราะเยาะจากนั้นก็หันกลับมามองลั่วชิงยวน“เจ้าค่อนข้างเชื่อใจเขามากเลยสินะ รู้หรือไม่ว่าเจ้าเด็กนั่นหลอกลวงเจ้าตั้งแต่แรก”“เขาเพียงต้องการหาข้ออ้างเพื่อหนีออกจากหมู่บ้าน มิได้สนใจควา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1361

    ฝูเหมิ่งกล่าวอย่างเย็นชา พลางจับคมกระบี่ที่คมกริบ พลันหมุนกายหมายจะตัดโซ่เหล็กถึงแม้ว่ากระบี่ห้วงสวรรค์จะยังมิคมกริบถึงขั้นตัดเหล็กได้ แต่ความเหี้ยมโหดของฝูเหมิ่งก็ทำให้โซ่เหล็กมิอาจควบคุมเขาได้ในเวลานี้เอง ลั่วชิงยวนก็ฉวยโอกาสนำเข็มทิศออกมาแล้วใช้โลหิตปลุกวงเวทอัญเชิญวิญญาณ ในป่ามีภูตผีวิญญาณมากมายพุ่งเข้ามาจนเกิดลมกระโชกแรงพัดในป่าลั่วชิงยวนรู้ว่าหากฝูเหมิ่งได้กระบี่ห้วงสวรรค์คืนแล้ว วันนี้นางและคนใบ้อาจจะมิรอดชีวิตในเวลาสำคัญนี้จำต้องใช้กำลังทั้งหมดขัดขวาง!ถึงแม้ว่าจำนวนวิญญาณบนภูเขาเมืองแห่งภูตผีจะมีมากมายและกลิ่นอายชั่วร้ายก็รุนแรง แต่ลั่วชิงยวนก็มิรู้ว่าตนเองจะสามารถควบคุมพวกมันได้หรือไม่วิญญาณชั่วร้ายออกมากันเป็นฝูงฝูเหมิ่งก็อดมิได้ที่จะยกแขนขึ้นมาป้องกันจากนั้นก็ตระหนักถึงอันตราย เขามิสนใจอาการบาดเจ็บที่ฝ่ามือ บังคับตัวเองให้ใช้กระบี่ห้วงสวรรค์ดึงคนใบ้ลงมาจากต้นไม้อย่างแรงด้วยพละกำลังมหาศาล คนใบ้ล้มลง ยกมือขึ้นพยุงตัวเองขึ้นจากพื้นได้ทันเวลา จึงหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บได้จากนั้นก็เหาะขึ้นถีบเข้าที่หน้าอกของฝูเหมิ่งถึงกระนั้น ฝูเหมิ่งก็ยังมิยอมปล่อยกระบี่ห้วง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1362

    แต่ในครู่ต่อมา ร่างของฝูเหมิ่งก็ถอยหลังไปอย่างรวดเร็วมีเสียงโซ่เหล็กดังขึ้นลั่วชิงยวนไล่ตามไปจึงเห็นฝูเหมิ่งถูกโซ่เหล็กมัดไว้กับต้นไม้ร่างที่ผอมบางใช้กระบี่ห้วงสวรรค์ในมือแทงเข้าไปในอกของฝูเหมิ่งท่วงท่าของเขาคล่องแคล่วและโหดเหี้ยมยิ่งนักฝูเหมิ่งกระอักเลือดออกมา พลันหลับตาลงอย่างหมดแรง ในดวงตานั้นเต็มไปด้วยความมิยินยอม มิเชื่อว่าตนเองจะตายที่นี่ลั่วชิงยวนตกตะลึงในเวลานี้เอง ด้านหลังก็มีกลิ่นอายชั่วร้ายที่แข็งแกร่งพุ่งเข้ามา ลั่วชิงยวนหันกลับไปมองจึงเห็นเงาดำขนาดใหญ่ในความมืดกำลังกระโจนเข้ามาลั่วชิงยวนจึงรีบวิ่งเข้าไปดึงคนใบ้จากนั้นเงาดำขนาดใหญ่ก็พุ่งไปยังฝูเหมิ่งที่ถูกมัดติดอยู่กับต้นไม้ทะลุผ่านร่างของเขาไปอย่างแรงคนใบ้คุกเข่ากระอักเลือดออกมาลั่วชิงยวนตื่นตระหนก ยื่นมือไปหมายจะถอดหน้ากากของเขาออกแต่ทันทีที่สัมผัสหน้ากากของเขา คนใบ้ก็คว้ามือของนางไว้มือที่เปื้อนเลือดจับมือที่ซีดขาวของลั่วชิงยวนไว้แน่นลมราตรีพัดเส้นผมของนาง ทำให้ใบหน้าที่ซีดเผือดยิ่งดูซีดเซียว เลือดที่สาดกระเซ็นบนใบหน้ากลับทำให้นางดูน่าเวทนาและงดงามในเวลาเดียวกันลั่วชิงยวนได้สติ รีบดึงมือ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1363

    มืออีกข้างหนึ่งวางลงบนไหล่อีกข้างของคนใบ้ทันใดนั้นคนใบ้ก็ตัวแข็งทื่อ พลันเงยหน้าขึ้นมอง จึงสบตากับลั่วชิงยวนที่หมอบอยู่บนต้นไม้ในชั่วขณะนั้น คนใบ้ก็หยุดนิ่งทันที มิกล้าขยับตัวบัดนี้เข็มทิศในแขนเสื้อของลั่วชิงยวนเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ความรู้สึกอันตรายรุนแรงถาโถมเข้ามานางทำท่าบอกให้คนใบ้อย่าขยับและอย่าหันกลับไปมองใบหน้าซีดเผือดค่อย ๆ ปรากฏขึ้นจากด้านหลังศีรษะของคนใบ้ดวงตาสีขาวขุ่นคู่นั้นจ้องมองลั่วชิงยวน!ลั่วชิงยวนหายใจขาดห้วงในทันที พลางจ้องมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นจากนั้นก็แอบหยิบยันต์ออกมา แล้วเรียกด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “เตี่ยฉุย”เตี่ยฉุยรีบเดินไปด้านหลังของสตรีผู้นั้นในทันทีแล้วโจมตีอย่างแรงในชั่วขณะนั้น ดวงตาของสตรีผู้นั้นก็เบิกกว้างเหมือนดวงตาแมวลั่วชิงยวนนำเข็มทิศออกมาแล้วกระโจนลงจากต้นไม้พลางร้องบอกคนใบ้ “หลบไป!”คนใบ้ก็ร่วมมืออย่างดีเยี่ยม รีบกลิ้งตัวไปทางซ้ายเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีลั่วชิงยวนใช้เข็มทิศในมือส่องไป แสงสีทองพวยพุ่งออกมาสตรีผู้นั้นก็หายไปในชั่วพริบตาเตี่ยฉุยตะลึง “ท่านแม่ นางหายไปแล้ว”ลั่วชิงยวนมองไปรอบ ๆ ร่างนั้นหายไปจริง ๆ หายไปอย่าง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1364

    ขณะนี้ทั่วทั้งหมู่บ้านกำลังอยู่ในภาวะเฝ้าระวังในความมืดมิด ทุกคนต่างถืออาวุธเฝ้าระวัง มิกล้าส่งเสียงแม้แต่น้อยเสียงลากของหนักใกล้เข้ามา ในใจของทุกคนตึงเครียดลั่วชิงยวนและคนใบ้ลากเจ้ายักษ์นั่นเข้ามาในหมู่บ้านคนที่หลบซ่อนอยู่ในความมืดต่างตกตะลึง“เป็นพวกเขานี่เอง!”“พวกเขากลับมาได้!”ลั่วชิงยวนและคนใบ้สวมหน้ากากที่เดินกลับมายังหมู่บ้านปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนด้านหลังพวกเขามีวัตถุขนาดใหญ่ที่ค่อย ๆ ปรากฏแก่สายตานั่นคือเสือโคร่งเมื่อเห็นเสือโคร่งตัวนั้น ทุกคนก็สูดลมหายใจด้วยความตกตะลึง“เสือดำ!”ถูหมิงตกตะลึงลั่วชิงยวนมองปฏิกิริยาของพวกเขา ดูเหมือนจะรู้ถึงการมีอยู่ของเสือดำตัวนี้ถูหมิงรีบเข้าไปตรวจสอบศพของเสือดำ “ตายแล้วจริง ๆ!”ถูหมิงเงยหน้าขึ้น เมื่อมองลั่วชิงยวนและคนใบ้อีกครั้ง สายตาของเขาก็เปลี่ยนไป“นี่พวกเจ้าล่ามาได้หรือ?”ลั่วชิงยวนเช็ดโลหิตบนใบหน้าซีดเซียว แต่สายตาดุดัน “มิเช่นนั้นจะเอามาได้อย่างไรเล่า?”ทุกคนตกตะลึงมากดูเหมือนว่าทั้งสองคนที่ร่างเต็มไปด้วยเลือดจะต้องผ่านการต่อสู้ที่ดุเดือดมา“รักษาคำพูดใช่หรือไม่?”ถูหมิงจ้องมองนางอย่างพินิจพิเคราะห์ จากนั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1365

    เขานำยาโสมมังกรออกมาจากขวด แล้วกลืนลงไปหนึ่งเม็ดเหลือมิเยอะแล้ว หวังว่าจะสามารถอยู่รอดจนกระทั่งการเดินทางมาเมืองแห่งภูตผีครั้งนี้สิ้นสุดลง และปกป้องนางให้ลงจากเขาอย่างปลอดภัย!นอกประตู ลั่วชิงยวนนั่งกอดเข่าจนเกือบจะหลับไปเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา นางก็ตื่นขึ้นในทันทีนางเงยหน้าขึ้นมอง ปรากฏว่าเป็นซูเซียงซูเซียงที่ท้องใหญ่แล้วเดินเข้ามา นางคลี่ยิ้มก่อนกล่าวว่า “ข้ายังเป็นห่วงอยู่เลย เกรงว่าจะเกิดเรื่องกับเจ้า”“ผลสุดท้ายกลับคาดมิถึง เจ้าถึงกับล่าเสือดำตัวนั้นมาได้”ลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “พวกเจ้ารู้จักเสือดำตัวนั้นหรือ?”ซูเซียงนั่งลงข้าง ๆ อย่างระมัดระวัง ลั่วชิงยวนช่วยประคองหลังจากนั่งลงแล้ว ซูเซียงก็กล่าว “ยามค่ำคืนเสือดำตัวนั้นถึงจะออกมาหาอาหาร ปกติจะปรากฏตัวในยามจื่อ”“พวกเราถูกมันโจมตีหลายครั้งในตอนกลางคืน ก่อนหน้านี้ทุกคืนจะต้องมีคนตาย”“ต่อมาพวกเราก็ตามหามันหลายสถานที่ พบว่าด้านหลังนี้มีสุสานและเสือดำตัวนั้นมิกล้าเข้าใกล้ที่นี่”“พวกเราจึงมาสร้างเรือนพักอาศัยอยู่ที่นี่ชั่วคราว”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ ที่นี่มีสุสานด้วยหรือ?มิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1366

    ลั่วชิงยวนมิได้สังเกตเห็นความตึงเครียดของเขา ยังคงกล่าวต่อไปว่า“อย่างน้อยก็ยังดีกว่าเจ้านายของเจ้ามากนัก”คนใบ้มิได้ตอบลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “ซูเซียงกล่าวว่าวันพรุ่งพวกเขาคงมีแผนการบางอย่าง และวันพรุ่งข้าก็อยากจะออกไปข้างนอกด้วย”“เจ้าจะไปกับข้าหรือไม่?”คนใบ้เขียนตอบว่า ไปทำอะไร? เจ้าควรพักผ่อนเพราะอาการบาดเจ็บลั่วชิงยวนกล่าวด้วยความเป็นกังวล “พูดตามตรงว่าข้ามาคราวนี้ ยังมีสหายร่วมเดินทางมาด้วยกันอีกแปดคน”“แต่พวกเขาหายไปหมดแล้ว”“พวกเขาจะไม่มีวันทอดทิ้งข้า ต้องเกิดเรื่องราวอันใดขึ้นเป็นแน่ ข้าอยากจะออกตามหาพวกเขาให้เจอ”เพียงหวังว่ายามนี้พวกเขาจะยังปลอดภัยคนใบ้พยักหน้ารับคำจากนั้นเขียนคำว่า รีบพักผ่อนเถิด ก่อนลุกจากห้องไปเมื่อเขาออกไป ลั่วชิงยวนก็ปิดประตูห้องลงกลอนประตูหน้าต่างให้เรียบร้อย แล้วจึงถอดอาภรณ์เพื่อทำแผลโชคดีที่บาดแผลมิลึก เป็นเพียงบาดแผลภายนอกเท่านั้นหลังจากทำแผลเสร็จก็ล่วงเลยเข้ายามดึกแล้ว ลั่วชิงยวนจึงรีบล้มตัวลงนอนพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูพลัง......ขณะนี้หมู่บ้านมีแสงสลัว บ้านเรือนหลายหลังต่างดับไฟลงห้องของฟู่เฉินหวนก็มิได้จุดตะเกียงเช่นกันในขณะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1367

    เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินดังนั้น ก็หรี่ตาลงเล็กน้อยประกายแสงล้ำลึกแวบผ่านดวงตา“ทางลัดอะไร?”เมื่อเห็นว่าเขาสนใจ ฉีเสวี่ยเวยก็ยิ้มอย่างพึงพอใจนางค่อย ๆ โน้มกายเข้าไปใกล้ “พวกเราต้องแลกเปลี่ยนกันและเชื่อใจกันก่อน ข้าจึงจะบอกท่านได้”กล่าวจบ ฉีเสวี่ยเวยก็ยกยิ้มมีเลศนัย คว้ามือของฟู่เฉินหวนไว้ฟู่เฉินหวนมองมือนางด้วยแววตาเย็นชาแล้วดึงมือกลับมาอย่างเย็นชาท่าทีเย็นชาบ่งบอกทุกสิ่งฉีเสวี่ยเวยยิ้มอีกครา แล้วกล่าวว่า “หากมิใช่เช่นนั้นก็ยังมีอีกวิธีหนึ่ง”“นั่นคือ… ท่านต้องช่วยข้าสังหารสตรีผู้นั้น”“แล้วข้าจะบอกทางลัดที่นำไปสู่ยอดเขาแก่ท่าน”ฟู่เฉินหวนเหลือบมองนางด้วยแววตาเย็นขา “บอกทางลัดแก่ข้า แล้วเจ้ามิอยากขึ้นเขาแล้วรึ?”ฉีเสวี่ยเวยกล่าวอย่างเสียดาย “แน่นอนว่าอยาก แต่ข้ารู้ความสามารถของตนดี การขึ้นเขาด้วยตัวคนเดียวเป็นเรื่องยากนัก”“ขอเพียงแค่เมื่อท่านขึ้นเขาไปแล้ว อย่าได้ลืมข้า พาข้าไปด้วยและพาข้าลงจากเขา ข้าเพียงต้องการมีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่!”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว “เจ้าลงจากเขาบัดนี้เลยก็ได้”ฉีเสวี่ยเวยหัวเราะเบา ๆ “ท่านพี่ใบ้ ท่านยังมิรู้หรือ? เมื่อเข้ามาในภูเขาลูกนี้แล้

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status