All Chapters of ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง: Chapter 1871 - Chapter 1880

1902 Chapters

บทที่ 1871

เจ็ดวันต่อมาซ่งรั่วเจินและฉู่มู่เหยานั่งดื่มชาที่โรงน้ำชา สายตาของทั้งคู่ทอดมองลงไปยังถนนเบื้องล่าง“พี่สะใภ้ ท่านเรียกข้ามาวันนี้ เพื่อมานั่งดื่มชาเฉย ๆ อย่างงั้นหรือ?”ฉู่มู่เหยาเผยสีหน้าประหลาดใจ นางได้ยินว่าพี่สะใภ้เรียกนางออกมา นี่ก็รีบออกมาในทันที เดิมทีคิดว่าจะได้เดินเล่นเป็นเพื่อนพี่สะใภ้ หรือไปเลือกของให้หลานชายหลานสามที่กำลังจะคลอด คิดไม่ถึงเลยว่าจะออกมาดื่มชาเพียงเท่านั้นซ่งรั่วเจินส่ายหน้า “วันนี้ไม่ได้เรียกท่านมาเพื่อดื่มชา แต่เพื่อสร้างความมั่นใจให้ท่าน”“สร้างความมั่นใจ?” ฉู่มู่เหยางุนงง ไม่เข้าใจความหมายในทันทีเลยได้ครู่ต่อมา จู่ ๆ สายตาของนางก็พลันสะดุดเข้ากับเงาร่างที่คุ้นตา“นั่นใช่ท่านหญิงฉางผิงหรือไม่?”“พวกเจ้าได้ยินแล้วหรือไม่ว่าสกุลฉีถูกยึดทรัพย์แล้ว? ทายาทสายตรงต้องโทษประหาร ส่วนที่เหลือถูกเนรเทศ ภายภาคหน้าไม่มีสกุลฉีในเมืองหลวงอีกต่อไป!”“เรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้ สั่นสะเทือนไปทั้งเมืองหลวง จะไม่รู้ได้อย่างไรกัน?”“ได้ยินมาว่าสกุลฉีต้องพบจุดจบเช่นนี้ จุดเริ่มทั้งหมดก็มาจากท่านหญิงฉางผิงนี่แหละ!”“หากไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์ยุ่งเหยิงของนางกับสองคุณชายต
Read more

บทที่ 1872

เขาเป็นบุรุษแข็งแกร่งอย่างแท้จริงภายในดวงตาของฉางผิงฉายแววตื่นตะลึง นางคุ้นชินกับคุณชายสูงศักดิ์ในเมืองหลวงที่ล้วนสุภาพเจ้าสำอาง บุรุษกำยำเช่นนี้กลับแทบไม่ค่อยได้พบเห็นหลังดึงสติกลับมาได้ นางก็รีบทรงตัวให้มั่น “ขอบคุณคุณชายมากเจ้าค่ะ”ชายหนุ่มมองฉางผิงที่อยู่ตรงหน้า ยังพอเห็นเค้าหน้าเมื่อครั้งเยาว์วัยอยู่ราง ๆ แววตาดำขลับสะท้อนรอยยิ้มวูบหนึ่ง“น้องหญิงฉางผิง เจ้ายังจำข้าได้หรือไม่?”ฉางผิงชะงักเล็กน้อย มองใบหน้าที่แปลกตาตรงหน้า อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ท่านรู้จักข้าด้วยหรือเจ้าคะ?”อูเซิ่งเจ๋อหัวเราะแผ่วเบา “พวกเรารู้จักกันมาหลายปีแล้ว ไม่สู้เจ้าลองคิดให้ดี”ฉางผิงขมวดคิ้ว เกิดข้อสันนิษฐานขึ้นภายในสมอง แต่ลงท้ายก็คิดไม่ออกอิงตามหลักการแล้ว คนผู้นี้หน้าตาดีโดดเด่นเช่นนี้ แตกต่างจากบรรดาคุณชายที่นางรู้จักเหล่านั้น นางควรต้องมีความทรงจำอย่างลึกซึ้งต่างหาก เหตุใดนึกไม่ออกเลยเล่า?“คุณชาย ท่านไม่ได้ตั้งใจล้อข้าเล่นใช่หรือไม่?”ฉางผิงเอ่ยด้วยสีหน้าสงสัย ปกติก็มีคนพยายามอ้างความสัมพันธ์เพื่อหวังเข้าหา แต่ไรมานางไม่เคยเชื่อแต่เพราะสีหน้าของชายตรงหน้ากลับดูจริงใจอย่างมาก นางจึงไม่คิด
Read more

บทที่ 1873

ฉู่มู่เหยาฟังคำพูดของพี่สะใภ้ ก็อดคิดถึงตัวเองไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้ตนเองก็เคยตั้งวาดฝันไว้เหมือนกันว่าตนชอบบุรุษเช่นไรผู้ชายสารเลวคนนั้น ล้วนเป็นเพราะนางถูกคำหวานล่อลวง บางทีอ่านนิยายรักมากไป คิดว่าการช่วยชีวิตกันคือพรหมลิขิต นี่จึงเชื่อสนิทใจอย่างโง่งมบัดนี้ลองย้อนคิดดูแล้ว ก็รู้สึกว่าก่อนนั้นตนเองช่างโง่เง่าเหลือเกิน เหตุใดไปชอบคนสารเลวพรรค์นั้นได้!ทว่า แต่ก่อนนางคิดว่าคนที่ตนจะรักต้องเป็นขุนนาง หรือไม่ก็เป็นแม่ทัพใหญ่เหมือนอย่างเสด็จพี่สาม แต่ทุกวันนี้ยามนึกถึงซ่งจิ่งเซิน นางกลับคิดว่าบนโลกนี้ไม่มีผู้ใดดีไปกว่าเขาแล้ว“พี่สะใภ้พูดมีเหตุผล ข้าดูแล้วฉางผิงกับคุณชายผู้นั้นเหมาะสมกันยิ่งนัก”ฉู่มู่เหยาพรูลมหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง “ก่อนหน้านี้ข้ายังเป็นกังวลอยู่เลยว่านางจะถูกคนตระกูลฉีทำร้ายจนเสื่อมเสียชื่อเสียง หากหมดอนาคตขึ้นมาจะต้องแย่แน่”เอ่ยถึงตรงนี้ ฉู่มู่เหยาก็ชะงักไป ดวงตาเบิกกว้างขึ้นมาด้วยความตกใจ “เดี๋ยวก่อน พี่สะใภ้ ท่านไม่ใช่ว่าบอกว่านาง...บุรุษคนนั้นเมื่อครู่นี้ คือองค์ชายจากราชวงศ์ฉีเยว่หรือ?”“ในที่สุดก็รู้ตัวแล้วหรือ?” ซ่งรั่วเจินหัวเราะเบา ๆ “เทียบกับอูจิ่งซั่ว
Read more

บทที่ 1874

ซ่งรั่วเจินได้ยินฉู่มู่เหยาบ่นตำหนิ ก็อดหัวเราะไม่ได้ “ก่อนหน้านี้เขาก็ออกเดินทางมาจากราชวงศ์ฉีเยว่ เพียงแค่ข่าวจากชายแดนถึงเร็วกว่าหลายวัน” “หากไม่ใช่ว่าข่าวมาถึงก่อน ท่านก็คงเพิ่งรู้ตอนนี้ นี่ก็คงไม่ต้องกังวลถึงเพียงนี้หรอก”ฉู่มู่เหยา “ข้าเหมือนร้องไห้หลายวันติดกัน ขอบตาข้าได้รอยย่นเพิ่มมาตั้งเส้นหนึ่งแล้ว!”“เอาล่ะ ๆ ตอนนี้ท่านก็วางใจได้เสียที หม่อมฉันบอกตั้งแต่แรกแล้ว ท่านไม่ยอมเชื่อ วันนี้ได้เห็นเองกับตาแล้วถึงยอมวางใจ”ซ่งรั่วเจินตบไหล่นาง ภายในใจก็โล่งไม่ต่างกัน เพราะตัวนางเองก็เป็นกังวลมากเช่นกันว่าการแต่งงานของเสด็จพี่สี่จะเกิดการเปลี่ยนแปลง......สามวันต่อมา“อูเซิ่งเจ๋อเชิญพวกเราไปป่าลู่?”ซ่งรั่วเจินได้ฟังคำพูดของฉู่จวินถิง แววตาก็เผยความประหลาดใจขึ้นมาเล็กน้อย“ช่วงนี้ที่ป่าลู่มีลูกกวางเพิ่มขึ้นหลายตัว ยังมีสัตว์เล็กอื่น ๆ อีกด้วย ไม่ทำอันตรายคน เหมาะจะไปเที่ยวเล่น”“เขาบอกว่าอยากขอบคุณเราที่ช่วยไว้ก่อนหน้านี้ ไม่ได้เชิญแค่พวกเรา แต่ยังเชิญมู่เหยาและพี่สี่ของเจ้าไปด้วย ฉางผิงย่อมไปแน่นอน”ฉู่จวินถิงโอบบ่าซ่งรั่วเจิน คอยเดินเล่นเป็นเพื่อนในลานสวนก่อนหน้านี้เ
Read more

บทที่ 1875

คนที่คอยคุ้มกันข้างกายเขาทั้งหมดล้วนล้มตายไปแล้ว ตอนอูเซิ่งเจ๋อร่อนเร่จนมาถึงหน้าบ้านฉางผิง ตอนนั้นเขาแทบจะอดตายอยู่แล้วเป็นมารดาแท้ ๆ ของฉางผิงที่ให้เขาได้กินข้าว ต่อมายังให้เขาได้พักอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นต่อทว่าก่อนจะสิ้นใจคนที่คอยคุ้มกันเขาได้ทิ้งเบาะแสไว้ ครอบครัวฝ่ายตาของอูเซิ่งเจ๋อพยายามอย่างสุดความสามารถจนหาเขาพบ และพากลับไปได้ในที่สุดหลังจากนั้นอูเซิ่งเจ๋อไม่ได้กลับเข้าวังทันที แต่ปิดบังตัวตน ฝึกฝนฝีมืออย่างหนัก เพื่อรอวันที่ตนจะมีความสามารถมากพอกลับไปแก้แค้นให้มารดา อยากแย่งทุกอย่างกลับมา!อย่างไรเสียหากไม่มีมารดาคอยปกป้อง ต่อให้กลับเข้าวังในตอนนั้น ก็มีเพียงต้องตายเท่านั้น“ดังคาด องค์ชายท่านนี้ผ่านมาได้อย่างยากลำบาก”ซ่งรั่วเจินถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ ชะตาฟ้าลิขิตให้แบกรับภาระใหญ่ ก็ความทุกข์ล้วนฝึกฝนกายใจ ผู้ที่แข็งแกร่งมากมาย มักผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยบาดแผลทั้งนั้น“เขาเป็นคนที่มีความสามารถ มีความทะเยอทะยาน แต่ข้ามองออก เขาจริงใจต่อฉางผิงอย่างแท้จริง”สีหน้าของฉู่จวินถิงจริงจัง ในบางมุมนั้น เขาและอูเซิ่งเจ๋อมีบางอย่างเหมือนกันในสายตาของผู้คน พวกเขาอาจจะถูกมอง
Read more

บทที่ 1876

อูเซิ่งเจ๋อ “...”“ข้าได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้ฉางผิงคิดสั้น เกือบเอาชีวิตไม่รอด โชคดีที่พระชายารัชทายาทลงมือช่วยไว้ จึงปลอดภัยมาได้”แววตาของอูเซิ่งเจ๋อฉายแววซับซ้อน ตอนรู้ข่าวนี้ ใจเขาสะดุ้งวาบ เขามาช้าไปจริง ๆยังดีที่มีพระชายารัชทายาท มิเช่นนั้นเมื่อเขามาถึงเมืองหลวงของราชวงศ์ฉู่โยวในวันนี้ คงจะได้พบแต่ศพของฉางผิงแล้ว“นี่ก็เพราะฉางผิงชะตายังไม่ถึงฆาต แต่แน่นอนว่าฮูหยินของข้าย่อมดีเลิศอยู่แล้ว” ฉู่จวินถิงสีหน้าเรียบเฉย ทว่าน้ำเสียงแฝงความภาคภูมิหลายส่วนซ่งจิ่งเซินฟังสองคนสนทนากัน จึงได้รู้ว่ามีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นด้วยการช่วยชีวิตคนผู้หนึ่งเท่ากับสร้างกุศลใหญ่ เห็นทีบุญวาสนาของน้องสาวเขาคงไม่น้อยจริง ๆ“ฉางผิง เจ้าคิดว่าองค์ชายแห่งราชวงศ์ฉีเยว่ผู้นี้เป็นอย่างไร?”ฉู่มู่เหยาเป็นสหายกับฉางผิงมานานแล้ว จึงถามอย่างไม่เกรงใจด้วยความใคร่รู้ฉางผิงสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อเห็นสายตาของทั้งคู่ ก็เอ่ยอย่างเขินอายว่า“ความจริงแล้ว ตอนพบเขาครั้งแรก ข้าก็รู้สึกคุ้นเคยมาก คาดไม่ถึงว่าเขาจะย้อนกลับมาตามหาข้า ยิ่งคาดไม่ถึงว่าผู้ที่ท่านแม่ข้าเคยช่วยไว้เมื่อปีนั้นจะเป็นถึงองค์ชายแห่งราชวงศ์ฉีเยว
Read more

บทที่ 1877

“อันที่จริง ข้าเห็นว่าเงินนั้นมีประโยชน์ที่สุด แต่ฉางผิงต้องไปสมรสเชื่อมสัมพันธไมตรีไกลขนาดนั้น เกรงว่าคงพกเงินไปได้ไม่สะดวกนัก”“ข้าว่าเตรียมอัญมณีและเครื่องประดับไว้มากหน่อยจะดีกว่า ของเหล่านั้นเล็กกะทัดรัด อีกทั้งยังแลกเป็นเงินได้มากกว่าด้วย”ฉู่มู่เหยาครุ่นคิดอยู่ในหัว คำนวณว่าตนสามารถจัดเตรียมของได้มากน้อยเพียงใด ไม่ว่าจะอย่างไร นางต้องเตรียมให้ฉางผิงให้มากหน่อยถึงจะได้เมื่อฉางผิงเดินกลับมา ก็ได้ยินคำพูดของฉู่มู่เหยาพอดี จึงยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้“ข้าไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์นะ สินเดิมย่อมไม่น้อยแน่นอน ท่านเป็นองค์หญิง เหตุใดยังมาคิดจัดเตรียมสินเดิมให้ข้าอีกเล่า?”ฉู่มู่เหยาจับมือฉางผิงไว้ เอ่ยว่า “ฉางผิง ข้ายังอยากถามเจ้าอีกครั้ง เจ้าสมัครใจจริงหรือไม่?”“แคว้นฉีเยว่ไกลถึงเพียงนั้น หากไปแล้ว การจะได้พบครอบครัวอีกคงไม่ใช่เรื่องง่าย”นับตั้งแต่นางรู้ว่าฉางผิงไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ได้ ในใจนางย่อมยินดี เพราะในที่สุดนางก็จะได้อยู่เคียงคู่กับคนที่นางรักเสียทีทว่าในฐานะที่เป็นสตรีด้วยกัน นางเข้าใจดีว่าการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์นั้นหมายถึงสิ่งใด ไปยังสถานที่ห่างไกลถึงเพียงนั้น วัน
Read more

บทที่ 1878

“ตอนที่ข้าเข้าวัง ได้ยินพระสนมท่านอื่นเอ่ยว่าฮองเฮาได้จัดเตรียมพิธีแต่งงานให้ท่านแล้ว กล่าวว่าอย่าได้ล่าช้า รีบสมรสเสียเนิ่น ๆ ถึงจะดี” ฉางผิงยิ้มพลางกล่าวฉู่มู่เหยาหน้าแดง เสด็จแม่พูดเช่นนี้จริง ๆนับตั้งแต่เหตุการณ์สมรสเชื่อมสัมพันธ์ครั้งนี้ ทุกคนล้วนตกใจ ในสมองมีเพียงความคิดเดียว เพื่อป้องกันปัญหายืดเยื้อ ไม่สู้รีบสมรสแต่เนิ่น ๆ จะดีกว่าเพียงแต่งงานสำเร็จ เรื่องราวทั้งปวงย่อมเป็นอันปิดฉาก ไม่ต้องหวั่นเกรงต่อเรื่องใดอีกต่อไปการเดินทางในวันนี้ ทุกคนต่างยินดีปรีดาเป็นอย่างยิ่งทว่าระหว่างทางกลับ มีคนผู้หนึ่งพุ่งเข้ามาตรงหน้าอูเซิ่งเจ๋ออย่างฉับพลัน“องค์ชาย ได้โปรดช่วยองค์หญิงของพวกเราด้วยเถิด!”คำพูดนี้ทำให้ซ่งรั่วเจินและคนอื่น ๆ สีหน้าแปรเปลี่ยน เพียงฟังถ้อยคำของอีกฝ่าย ก็พอเดาได้ว่าผู้พูดเป็นใคร“อูเยว่เอ๋อร์มาขอความช่วยเหลือหรือ?”ฉู่มู่เหยาขมวดคิ้วแน่น นางมองว่าอูเยว่เอ๋อร์ผู้นั้นช่างวิกลนัก ไม่เหมือนคนปกติเลยสักนิดแม้แต่สตรีสามัญยังต้องรักษาหน้าตาอยู่บ้าง นางในฐานะองค์หญิงผู้มาเชื่อมสัมพันธไมตรี กลับไร้ซึ่งศักดิ์ศรี กระทั่งกล่าวได้ว่าต่ำช้าไร้ยางอาย“เห็นทีคังอ๋องจะ
Read more

บทที่ 1879

พอซ่งรั่วเจินได้สติขึ้นมา ก็เข้าใจทันทีอูเยว่เอ๋อร์ก็คือตัวยุ่งยากชิ้นใหญ่ ความผิดที่ก่อไว้นั้นก็เพียงพอจะถูกประหารชีวิตตั้งนานแล้ว ทว่าด้วยฐานะองค์หญิงที่มาอภิเษกสมรสเชื่อมสัมพันธ์ นางย่อมไม่ถูกฆ่า ทำได้เพียงถูกจองจำไว้ตลอดไปเท่านั้นเพียงแต่ หากอูเซิ่งเจ๋อส่งข่าวนี้กลับไป ราชวงศ์ฉีเยว่คงไม่อาจนิ่งเฉยได้ย่อมมีเรื่องยุ่งยากตามมาอย่างแน่นอนทว่า ท่าทีเมื่อครู่ของอูเซิ่งเจ๋อนั้นชัดเจนยิ่ง เขาไม่ใส่ใจเรื่องพวกนี้เลยมารดาของอูเยว่เอ๋อร์เคยสังหารมารดาของอูเซิ่งเจ๋อ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองเดิมทีก็เลวร้ายอยู่แล้ว เพียงแต่เมื่อเป็นเชื้อพระวงศ์ เรื่องมากมายล้วนไม่อาจทำตามอำเภอใจได้ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่อูเซิ่งเจ๋อจะช่วยเหลืออูเยว่เอ๋อร์ชั่วคราวเพื่อแลกกับความไว้วางพระทัยจากเสด็จพ่อของเขา เรื่องทั้งหมดล้วนเป็นไปได้ทั้งนั้นซ่งรั่วเจินลอบส่ายศีรษะอยู่ในใจ เรื่องพวกนี้แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว โชคดีที่นางไม่ต้องกังวลใจเพราะเรื่องพวกนี้ครั้นถึงยามอาหารค่ำ ขณะที่ฉู่จวินถิงยืนรับลมอยู่ด้านนอกเพื่อให้สร่างเมา อูเซิ่งเจ๋อก็เดินออกมาด้วยเช่นกัน“องค์รัชทายาท ท่านคือผู้ที่ข้าชื่นชมอย่างยิ่ง
Read more

บทที่ 1880

“ข้ารู้ว่าท่านกำลังกังวลสิ่งใด ทว่าในเมื่อกระหม่อมตัดสินใจแล้วว่าจะแต่งกับนาง ก็ย่อมไม่มีวันทำให้นางผิดหวัง”“ในแผ่นดินของพวกเรา หาได้มีข้อบัญญัติมากมายไม่ องค์หญิงจากราชวงศ์ฉู่โยวก็สามารถขึ้นเป็นฮองเฮาได้เช่นกัน!”ในดวงตาของอูเซิ่งเจ๋อเปี่ยมล้นไปด้วยความมุ่งมั่น นับแต่วัยเยาว์ เขาก็มีปณิธานแน่วแน่ว่าจะชิงทุกสิ่งที่ควรเป็นของตนกลับคืนมาให้จงได้!เหล่าคนที่สังหารเสด็จแม่ของเขา ผู้ที่เคยรังแกเขา เขาจะฆ่าพวกมันทีละคน หลายปีที่จำต้องกล้ำกลืนความอัปยศ แบกรับภาระหนักหนา ก็เพื่อยามนี้โดยแท้!เหตุที่เพิ่งมาตอนนี้ ก็เพราะเขายังมีเรื่องต้องจัดการอีกมากมาย ต้องการให้ปีกของตนแข็งแรงสมบูรณ์กว่านี้ จึงจะปกป้องฉางผิงได้อย่างทั่วถึงบัดนี้ฉางผิงกำลังจิตใจหม่นหมอง เขาจึงคิดจะให้นางได้ผ่อนคลายเสียก่อน ความสัมพันธ์ของทั้งสองยังไม่ได้ใกล้ชิดมากนัก ย่อมไม่มีผู้ใดคิดเล่นงานฉางผิง นางก็ยิ่งปลอดภัยมากขึ้นยิ่งไปกว่านั้น ด้วยฐานะองค์หญิงที่มาอภิเษกเชื่อมสัมพันธ์ ก็เป็นเกราะคุ้มภัยให้ตัวนางอยู่แล้วเขาเชื่อมั่นว่า เมื่อถึงวันที่ฉางผิงมีใจให้เขา เขาก็พร้อมมอบทุกสิ่งที่นางใฝ่หาให้ได้อย่างครบถ้วนฉู่จวินถิ
Read more
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status