บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง의 모든 챕터: 챕터 361 - 챕터 370

381 챕터

บทที่ 361

นางเป็นผู้มีพรสวรรค์แห่งสำนักเต๋า ดังนั้นการร่ายคาถาก็เหมือนกับกินข้าวกินน้ำ แต่สำหรับคนในสำนักเต๋าทั่วไปแล้ว กลับเป็นเรื่องที่ยากมากทว่าตอนนี้เยียนเซียวหรานไม่เพียงเคยเห็นนางร่ายคาถาไม่กี่ครั้ง ก็สามารถร่ายคาถาได้แล้ว นี่ถึงจะเรียกว่าผู้มีพรสวรรค์!นางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ในเมื่อเจ้าร่ายคาถาเป็น เช่นนั้นพวกเรามาเผชิญหน้าด้วยกัน!”เยียนเซียวหรานพยักหน้าหลังจากที่เขารู้จักนาง ถึงได้เข้าใจเรื่องพวกนี้ทั้งหมดก่อนหน้านี้เขาไม่เข้าใจคาถาเต๋า แต่ตอนหลังเขาได้ไปเรียนรู้ดาววิบัติดวงนั้นเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาตั้งรับเตรียมพร้อมตอนที่ห่างจากพวกเขาไปประมาณสิบกว่าจั้ง เยียนเซียวหรานสัมผัสได้ถึงปราณชั่วร้ายที่รุนแรงเป็นอย่างยิ่งหลังจากที่ปราณชั่วร้ายกลุ่มนั้นเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิด คมราวกับมีด ก็เกิดความรู้สึกเจ็บปวดเมื่อพัดโดนหน้าซือเจ๋อเยว่ร่ายคาถาปกป้องร่างกายของพวกเขาเอาไว้ ตอนที่เตรียมที่จะพุ่งตัวเข้าไปต่อสู้ด้วยนั้น ข้าง ๆ ก็มีสีแดงปรากฏขึ้นแวบหนึ่งจากนั้นพลังชั่วร้ายที่เย็นยะเยือกที่เดิมทีรุนแรงมากก็สลายหายไปภายในชั่วพริบตาเยียนเซียวหรานสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลง
더 보기

บทที่ 362

เขาถึงขนาดคิดว่า ในใจของนาง เขาก็เป็นคนที่พิเศษคนนั้นเช่นกันเมื่อเขาคิดเช่นนี้ ในใจของเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นมากเขาหยิบสิ่งของอย่างหนึ่งออกมา พลังชั่วร้ายพวกนั้นทั้งหมดถูกดูดไปอย่างสะอาดหมดจดแล้ว จากนั้นก็ลอยจากท้องฟ้ามาที่ตรงหน้าของสีหน้าของเยียนเซียวหรานเปลี่ยนไปเล็กน้อย มือถือกระบี่ไม้ท้อก้าวไปข้างหน้า มือของซือเจ๋อเยว่กดที่บนมือของเขาจนถึงตอนนี้ ความแตกต่างของความสามารถระหว่างพวกเขามีมากเกินไป ไม่สามารถเอาชนะเขาได้เลยวันนี้หากต้องลงมือกันจริง ๆ เกรงว่าพวกเขาจะต้องจบชีวิตอยู่ที่นี่ทั้งหมด แล้วก็สังหารไป๋จื้อเซียนไม่ได้อีกด้วยในเรื่องการกำจัดปีศาจ ซือเจ๋อเยว่สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ตลอดครั้งนี้เอาชนะไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นครั้งหน้าค่อยหาตัวช่วยที่จะทำให้เสมอกัน แล้วค่อยหาโอกาสลงมือกับเขาอีกครั้งการกระทำนี้ของนางทำให้ไป๋จื้อเซียนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นัก ยกมือขึ้น แล้วโบกมือใส่เยียนเซียวหรานทันทีเยียนเซียวหรานถือกระบี่ไม้ท้อขวางเอาไว้ จึงต้านทานการโจมตีครั้งนี้ของไป๋จื้อเซียนได้ เพียงแต่เขาก็ถอยหลังไปหลายก้าวเช่นกันไป๋จื้อเซียนมีความประหลาดใจเล็กน้อย “โอ้ ไอ
더 보기

บทที่ 363

ไป๋จื้อเซียนเห็นว่านางมองเขา สุดท้ายแล้วเขาก็อธิบายอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าไม่อยากให้ฆ่าสังหารผู้คน ข้าไม่สังหารก็สิ้นเรื่อง”ที่เขาสังหารคนก็เพราะว่าในใจของเขาไม่มีความสุข คนทั่วไปสำหรับเขาเป็นเหมือนมดแมลง สามารถบีบให้ตายได้ตามใจชอบซือเจ๋อเยว่ได้ยินเขากล่าวเช่นนี้ก็ลูบจมูกเบา ๆ ทีหนึ่ง ถามเขา “เพราะฉะนั้น ข้าเป็นสหายเก่าเมื่อหนึ่งพันปีก่อนของเจ้าจริง ๆ หรือ?”ไป๋จื้อเซียนพยักหน้า “ถูกต้อง เจ้าให้สัญญากับข้าว่าจะเจอกันหนึ่งพันปีหลังจากนั้น”ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างไม่ค่อยสบายใจเท่าใดนัก “ต้องขออภัยจริง ๆ เรื่องพวกนั้นข้าจำมันไม่ได้แล้ว”“ข้ารู้” ไป๋จื้อเซียนกล่าวเสียงราบเรียบ “ตอนนี้ข้าได้สาบานกับสวรรค์แล้ว ตอนนี้พวกเราเป็นเพื่อนกันแล้วใช่หรือไม่?”ครึ่งประโยคหลังเขายังไม่ได้พูด เขายังไม่รู้ว่า เมื่อหนึ่งพันปีก่อนนางใส่ใจเขามาก ไม่อย่างนั้นไม่มีทางเหลือความทรงจำเมื่อหนึ่งพันปีช่วงนั้นเอาไว้มีเพียงเพราะหมกมุ่นมากถึงได้เก็บความทรงจำเอาไว้นานขนาดนี้ตอนนี้นางจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เขาจะค่อย ๆ ทำให้นางจำเขาให้ได้ก่อนหน้านี้นางมีความทรงจำที่ไม่ดีต่อเขาก็ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้เข
더 보기

บทที่ 364

เดิมทีซือเจ๋อเยว่เตรียมที่จะพูดเหตุผลกับไป๋จื้อเซียนเอาไว้เรียบร้อยแล้ว คิดไม่ถึงว่าเขาจะยอมรับการอธิบายเสียแบบนี้เป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกว่า เหมือนว่าไป๋จื้อเซียนไม่ได้จัดการยากอะไรขนาดนั้น เขาค่อนข้างคุยด้วยได้ง่ายเยียนเซียวหรานมองไป๋จื้อเซียนแวบหนึ่ง หว่างคิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเป็นผู้ชายเหมือนกัน เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความเป็นเจ้าของที่ไป๋จื้อเซียนมีต่อซือเจ๋อเยว่ซือเจ๋อเยว่มีปฏิกิริยาต่อเรื่องความรู้สึกช้ามาตลอด จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่สังเกตเห็นถึงจุดประสงค์ของไป๋จื้อเซียน เพียงแค่คิดว่าไป๋จื้อเซียนอยากจะเป็นเพื่อนกับนางไป๋จื้อเซียนเห็นเขามองมา ก็มองเขากลับด้วยสายตายั่วยุ แล้วค่อยทำท่าทางลูบลำคอเยียนเซียวหรานตอบกลับด้วยรอยยิ้มเย็นชาเขาเข้าใจซือเจ๋อเยว่ เป็นไปไม่ได้ที่ซือเจ๋อเยว่จะชื่นชอบไป๋จื้อเซียนคงจะดีหากไป๋จื้อเซียนไม่ทำเรื่องอะไรที่ตื่นเต้นจนเกินไป หากทำแล้ว เกรงว่าซือเจ๋อเยว่ก็คงจะพยายามสังหารเขาอย่างสุดชีวิตเช่นกันยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าไป๋จื้อเซียนเป็นวิญญาณดุร้ายที่เป็นฆาตกร ถือเป็นศัตรูกับสถานะของซือเจ๋อเยว่เมื่อเทียบกับไป๋จื้อเซียน เขาไม่เป็นกังวลเขา
더 보기

บทที่ 365

เมื่อซือเจ๋อเยว่เห็นว่าทั้งสามคนทำท่าจะทะเลาะกันอีกครั้ง จึงกล่าวไกล่เกลี่ยอยู่ข้าง ๆ “นี่คือคาถาของสำนักเต๋า พวกเจ้าย่อมไม่รู้”“คุณชายไป๋เอ้อระเหยลอยชายอยู่ในโลกใบนี้มานานนับพันปีแล้ว ไม่มีเรื่องอะไรที่เขาไม่รู้ เขารู้เรื่องพวกนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ”ชื่อปาเลี่ยที่อยู่ด้านหลังของเยียนเซียวหรานกล่าง “ใช่ ๆ ๆ พวกข้าไม่ใช่คนในสำนักเต๋า แน่นอนว่าไม่รู้”“ประสบการณ์ของพวกเราย่อมไม่สู้คุณ...คุณชายไป๋”ไป๋จื้อเซียนรักษาสภาพตอนที่เขาตายเมื่อตอนอายุยี่สิบเอาไว้ อันที่จริงเขามีชีวิตอยู่มานานนับพันปีแล้ว ชื่อปาเลี่ยจึงไม่รู้ว่าควรจะเรียกเขาอย่างไรเขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง เหมือนกับมีเพียงคำว่าคุณชายไป๋ถึงจะเหมาะสมไป๋จื้อเซียนคร้านที่จะโต้เถียงกับชื่อปาเลี่ย กลับยังคงรู้สึกว่าซือเจ๋อเยว่เข้าข้างเยียนเซียวหรานเกินไปซือเจ๋อเยว่ไม่ได้สนใจเขา เริ่มสวมคัมภีร์เต๋าเพื่อรวมวิญญาณของบรรดาเศษวิญญาณเหล่านี้ดวงวิญญาณของไป๋จื้อเซียนเก่งกาจมาก เรื่องการรวมวิญญาณแบบนี้เขาเหมือนกับเยียนเซียวหราน ไม่ต้องการความช่วยเหลือสักนิดดังนั้นเขาทำได้เพียงมองดูอยู่ข้าง ๆเรื่องรวมวิญญาณสำหรับคาถาเต๋าแล้วไม่นับว่า
더 보기

บทที่ 366

ด้วยสถานะอย่างเป็นทางการ ซือเจ๋อเยว่นับว่าเป็นภรรยาของเยียนอ๋องซื่อจื่อ แต่ซือเจ๋อเยว่กลับเอ่ยอย่างตรงไปตรงมายิ่งกว่าเขา “ข้ามีนามว่าซือเจ๋อเยว่เป็นธิดาเพียงพระองค์เดียวของอดีตฮ่องเต้” “หลังจากท่านเสียชีวิต ฮ่องเต้เจาหมิงมีพระราชโองการให้ข้าเข้าพิธีสมรสกับท่านแทนองค์หญิงสาม” “ในคืนสมรสนั้น เหล่าไท่จวินได้เขียนหนังสือหย่าให้ข้าแทนท่านทันที” “ข้ายังคงอาศัยอยู่ในจวนเยียนอ๋อง และครั้งนี้ข้าก็มากับเยียนเซียวหรานเพื่อค้นหาความจริงของศึกที่ท่านกับกองทัพพ่ายแพ้” เยียนอ๋องซื่อจื่อฟังแล้วถึงกับนิ่งงัน เขาคิดไม่ถึงแม้แต่น้อย ว่าหลังจากที่ตนเองตาย ฮ่องเต้เจาหมิงไม่ให้องค์หญิงสามแต่งงานกับเขา แต่กลับให้พระธิดาของอดีตฮ่องเต้เป็นผู้แต่งแทน ซึ่งเมื่อนางเอ่ยนามของเยียนเซียวหราน ก็เป็นน้ำเสียงที่ฟังดูสนิทสนมเป็นพิเศษ แต่ใบหน้าของเยียนเซียวหรานกลับปรากฏความกระอักกระอ่วนเล็กน้อย เขาเป็นคนฉลาด เมื่อได้ฟังเรื่องราวเหล่านี้ ยังมีสิ่งใดให้สงสัย?เขารำลึกขึ้นมาเลือนราง เขาเคยพบเห็นนางมาก่อนจริง ๆ เหตุการณ์ในวันแต่งงาน เขาก็พอจะมีความทรงจำเล็กน้อยในยามนั้นดูคล้ายว่าเยียนเซียวหรานเป็นผู้เข้าพิธี
더 보기

บทที่ 367

“ก่อนที่ท่านจะสิ้นใจคงไปกระตุ้นค่ายกลมายาเข้า ภาพที่ท่านเห็นทั้งหมดล้วนเป็นความเท็จ” เยียนอ๋องซื่อจื่อชะงักไปชั่วครู่แล้วเอ่ยขึ้น “ความเท็จ?” ซือเจ๋อเยว่ที่อยู่ข้างกายเอ่ยขึ้น “ใช่แล้ว ท่านลองคิดดูให้ดี หากสิ่งที่ท่านเห็นเป็นเรื่องจริง ท่านซึ่งถูกพันธนาการอยู่ที่นี่จะสามารถมองเห็นราชโองการไว้อาลัยของฮ่องเต้ได้อย่างไร?” “ซึ่งข้าก็อยู่ในเมืองหลวงมาโดยตลอด เป็นเพราะตั้งแต่จวนเยียนอ๋องพ่ายศึกก็มีข้อถกเถียงมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฮ่องเต้เจาหมิงจึงไม่เคยออกโองการไว้อาลัยให้” เมื่อเยียนอ๋องซื่อจื่อพยายามระลึกถึงเหตุการณ์ในอดีต ก็ขมวดคิ้วเข้มเป็นความจริง เมื่อไตร่ตรองให้ดี ก็จะพบว่ามันมีจุดบกพร่องทางตรรกะอยู่มากมาย เป็นเพราะกว่าครึ่งของดวงวิญญาณของเขาถูกพันธนาการไว้ที่นี่ เขาเอ่ยถาม “หากเรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือของฮ่องเต้สุ…ฮ่องเต้ แล้วเป็นฝีมือของผู้ใดกันแน่?” เยียนเซียวหรานตอบไป “ข้ากับองค์หญิงได้สืบสวนเรื่องนี้มาตลอด และหลักฐานทั้งหมดชี้ไปที่จวนหนิงกั๋วกง” “พวกเขาร่วมมือกับพวกเต๋าสายดำใช้วิชาอาถรรพ์สร้างค่ายกลอันชั่วร้าย พวกเขาใช้ดวงวิญญาณของกองทัพหย่งอันนับหมื่นเป็นเครื่องบูช
더 보기

บทที่ 368

ซือเจ๋อเยว่จ้องมองชื่อปาเลี่ยด้วยแววตาที่จริงจัง “เสี่ยวเลี่ย เจ้าไม่เพียงแต่เป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ ทั้งยังกล้าหาญอย่างแท้จริง" "เจ้าจะทนเห็นทหารกล้าพวกนั้นถูกสังหาร และยังต้องถูกกล่าวหาด้วยความอัปยศได้หรือ?” ชื่อปาเลี่ยอ้าปากกำลังจะตอบ แต่ซือเจ๋อเยว่รีบชิงเอ่ยก่อน “แน่นอนว่าเจ้าย่อมไม่เต็มใจ!” “ก่อนหน้านี้เจ้าเคยบอกข้า ว่าทหารเหล่านั้นคือวีรบุรุษ ดวงวิญญาณของพวกเขาถูกฝังในดินแดนต่างถิ่นก็ถือว่าน่าเวทนาเพียงพอแล้ว พวกเขาไม่ควรต้องถูกกล่าวร้ายซ้ำอีก!” ชื่อปาเลี่ยพยายามย้อนคิดอย่างจริงจัง “ข้าเคยเอ่ยเช่นนั้นหรือ?” ซือเจ๋อเยว่ตอบกลับ “แน่นอนว่าเคย!” "ข้าคิดว่าในเมื่อพวกเราล้วนเป็นสหาย ก็ควรร่วมแรงร่วมใจกัน"“สำคัญที่สุดคือหากเจ้าไม่ร่วมมือกับพวกข้า พวกเขาก็ไม่มีทางยอมรับแน่” "ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงว่า หากเจ้าสามารถล้างมลทินให้ดวงวิญญาณทั้งห้าหมื่นดวงได้ ก็จะสั่งสมบุญกุศลอันยิ่งใหญ่"ชื่อปาเลี่ยฟังคำกล่าวของนางหัวใจพลันสั่นสะเทือน เขาหันไปมอง ก็เห็นว่าเยียนอ๋องซื่อจื่อและดวงวิญญาณของเหล่าทหารจ้องมองเขาอยู่ เขานึกถึงบรรดาซากศพใต้ภูเขาเชียนจั้งที่สลายกลายเป็นธุลีดินแม้ว่าเข
더 보기

บทที่ 369

ซือเจ๋อเยว่เอ่ยด้วยความรู้สึกประทับใจ “เยียนอ๋องกับพระชายาช่างให้กำเนิดบุตรชายได้ดีนัก อีกทั้งยังอบรมสั่งสอนอย่างยอดเยี่ยม” เมื่อไป๋จื้อเซียนที่ยืนอยู่ด้านข้างได้ยิน สีหน้าไม่สบอารมณ์ทันที “พวกเขาจะเก่งกว่าข้าหรือ?” ซือเจ๋อเยว่ยังคงไม่ชินกับการที่ไป๋จื้อเซียนอยู่ข้างกายเขาฝึกฝนมาหลายปี ฝีมือเลิศล้ำอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นหูหรือสายตาล้วนเกินขีดจำกัดของมนุษย์ธรรมดา ที่สำคัญเขาก็มีพฤติกรรมประหลาด ชอบเอาตนเองไปเปรียบเทียบกับเยียนเซียวหรานทุกเรื่อง นางคิดว่าสมองของเขาคงมีปัญหา เพราะยามนี้เขายังไม่ได้เป็นแม้กระทั่งสหายของนางเลยด้วยซ้ำ แต่กลับมาขอให้นางเปรียบเทียบกับคนรักของนาง เช่นนี้แล้วจะเปรียบเทียบได้หรือ?แต่เพราะนิสัยของเขาเอาแน่เอานอนไม่ได้  ยามนี้นางยังไม่อยากมีปัญหากับเขา นางจึงตอบกลับไป “แต่ละคนก็มีข้อดีของตนเอง แต่หากเอ่ยถึงเรื่องต่อสู้ แม้คุณชายไป๋จะไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า แต่ก็ต้องติดหนึ่งในสามอันดับแน่นอน” “เรียกข้าว่าจื้อเซียน” ไป๋จื้อเซียนเหลือบมองนางตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เอื่อยเฉื่อย “คุณชายไป๋อะไร ฟังดูห่างเหินนัก” ชื่อปาเลี่ยที่ยืนฟังด้วยความสนใจอยู
더 보기

บทที่ 370

เยียนอ๋องซื่อจื่อแย้มยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย “เรื่องนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สึกเกรงใจข้า” “ข้ากับองค์หญิง ก่อนหน้านี้แม้แต่พบหน้ากันก็ยังไม่เคย จะให้มีความผูกพันใด ๆ ได้อย่างไร""ระหว่างข้ากับนาง แม้แต่สถานะสามีภรรยาก็ถูกท่านย่าทำลายไปตั้งแต่คืนวันแต่งงานแล้ว""หากคำนวณให้ดี ข้ากับนางไม่มีความเกี่ยวข้องกันแม้แต่น้อย นางไม่อาจนับว่าเป็นภรรยาของข้า""ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องเกรงใจข้า หากเจ้าชอบนาง ก็สามารถไล่ตามความรู้สึกของเจ้าได้อย่างเต็มที่"เยียนเซียวหรานได้ยินถ้อยคำนี้แล้วก็ไม่รู้จะตอบกลับเช่นไรเยียนอ๋องซื่อจื่อเอื้อมมือไปตบไหล่เขา แต่มือของเขากลับทะลุผ่านร่างอีกฝ่ายไปเขาชะงักไปชั่วครู่ ซึ่งในเวลานี้เอง ที่เขาได้ตระหนักถึงความจริงว่าตนได้จากโลกนี้ไปอย่างแท้จริงเขาตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงที่แผ่วเบา "การได้พบกับคนที่ตนชอบไม่ใช่เรื่องง่าย""เมื่อพบเจอแล้ว ก็ควรทะนุถนอมให้ดี""ข้าเป็นพี่ใหญ่ของเจ้า สิ่งที่ข้าปรารถนามากที่สุดก็คือขอให้เจ้ามีชีวิตที่เป็นสุข"เยียนเซียวหรานได้ยินดังนั้นดวงตาก็พลันร้อนผ่าว เอ่ยด้วยเสียงที่แผ่วเบา "พี่ใหญ่ ข้าจะทำตามที่ท่านบอก"เย
더 보기
이전
1
...
343536373839
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status