บททั้งหมดของ วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี: บทที่ 811 - บทที่ 820

820

บทที่ 811

เถี่ยหนิวชี้ไปที่เจียงซุ่ยฮวน “คุณหนู ให้ทอง พวกเรา”หญิงชราตบศีรษะตนเองเบา ๆ “โถ่เอ๋ย ความจำเจ้ากรรม ดันลืมแม้แต่ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตไว้เสียได้!”นางจับมือเจียงซุ่ยฮวนแน่น น้ำเสียงสั่นเครือ “คุณหนู เป็นเพราะท่าน พวกเราจึงได้มีที่อยู่กว้างขวางอบอุ่นเช่นนี้”ดูท่าหญิงชราผู้นี้กับเถี่ยหนิวจะเป็นขอทานในวัดร้างมาก่อนเช่นเดียวกัน“ไม่เป็นไร” เจียงซุ่ยฮวนลูบหลังมือนางเบา ๆ “เจ้ากำลังตามหาถังซาซาอยู่ใช่หรือไม่”หญิงชราเบิกตากว้าง “ท่านรู้ได้อย่างไร”เจียงซุ่ยฮวนเล่าเรื่องเมื่อครู่ให้ฟัง ก่อนกล่าวว่า “พวกเขาคงใกล้กลับมาแล้ว”หญิงชราถอนใจ “แท้จริงแล้วซาซาเป็นบุตรหลานตระกูลใหญ่ ข้าเป็นเพียงแม่นมของนางเท่านั้น”“เมื่อเจ็ดปีก่อน คุณชายและฮูหยินนำครอบครัวย้ายไปยังเมืองหลวง กลับประสบภัยพิบัติระหว่างทาง ข้าอุ้มซาซาที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่นาน ผลสุดท้ายกลับพลัดพรากจากคุณชายและฮูหยินไป”“ข้าเร่ร่อนขอทานจนพาซาซามาถึงเมืองหลวงได้ ทว่าไม่อาจตามหาคุณชายและฮูหยินพบเลย เวลาผ่านไปเจ็ดปีเต็มแล้ว”เจียงซุ่ยฮวนนึกถึงเสี่ยวถังหยวน พลันรู้สึกสะท้อนใจ ถามขึ้นว่า “บ้านเกิดของพวกเจ้าคือที่ใด ข้าจะให้คนช่ว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 812

เจียงซุ่ยฮวนได้เอ่ยเสียง "อ้อ" เบาๆ จากนั้นหลับตาลงเพื่อหยุดพักผ่อนต่อครึ่งชั่วยามต่อมา รถม้าหยุดลง ลิ่วลู่ได้ส่งเสียงเรียกจากข้างนอกว่า "ถึงโรงเตี๊ยมแล้ว!"ผู้คนบนรถม้าทั้งสองคันทยอยลงมาทีละคน เจียงซุ่ยฮวนเงยหน้ามองโรงเตี๊ยมเบื้องหน้า แม้จะมิหรูหราเลิศเลอเช่นหอเยว่ฟาง หากก็นับว่ายังพอไปวัดไปวาได้ประชาชนโดยรอบเดินกันขวักไขว่ เมื่อเทียบกับพวกเขาหลายคนแล้ว ชุดผ้าของชาวบ้านเหล่านี้เรียบง่ายกว่ามากชาวบ้านเหล่านี้ไม่แปลกใจที่เห็นพวกเขา คล้ายกับชินตา เพราะคงเคยเห็นพวกผู้คนจากเมืองหลวงมาแล้วมากมายเจียงซุ่ยฮวนก้าวเข้าสู่โรงเตี๊ยม เสี่ยวเอ้อรีบเข้ามาถามว่า "ทุกท่านจะรับประทานอาหาร หรือพำนักค้างคืนขอรับ""รับประทานอาหาร" เจียงซุ่ยฮวนกล่าว พลางสอดส่ายสายตามองโดยรอบ สถานที่แห่งนี้ค่อนข้างครึกครื้น อาหารก็น่าจะรสชาติไม่เลวเสี่ยวเอ้อรับคำ แล้วแจ้งให้พวกเขานั่งลง เจียงซุ่ยฮวนกล่าวว่า "ข้าขอสั่งอาหารแนะนำของพวกเจ้าก็แล้วกัน""ได้ขอรับ!" เสี่ยวเอ้อรับคำแล้วรีบวิ่งไปหลังครัวทันทีครู่หนึ่งต่อมา เสี่ยวเอ้อหิ้วถาดอาหารมาวางบนโต๊ะ "มีหมูกรอบหนึ่งจาน กงเป่าจีติง..."อาหารทั้งหมดสิบจานพอดีสำหร
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 813

ฉู่เฉินตกใจกล่าวว่า “แย่แล้ว ถูกใจข้าเข้าจริง ๆ หรือนี่!”เขาหันซ้ายหันขวาไร้ทางหนี เนื่องด้วยผู้คนล้อมรอบมากมายนัก หลีกเลี่ยงมิได้ จึงยกมือขึ้นป้องศีรษะ “น้ำใจอันดีของคุณหนู ข้ารับไว้แล้ว”“น่าเสียดายที่ข้าเป็นคนหัวโบราณ รับไม่ได้กับวิธีหาคู่ที่แปลกใหม่เช่นนี้ หวังว่าคุณหนูจะเข้าใจ...”ฉู่เฉินยังพูดพล่ามไม่หยุด ทว่าเจียงซุ่ยฮวนตบไหล่เขาเบาๆ “อาจารย์ ท่านเข้าใจผิดแล้ว”“ลูกแพรปักไม่ใช่โยนให้ท่าน”ฉู่เฉินเงยหน้ามอง ลูกแพรปักนั้นกลับถูกปาไปยังปาฟางผู้นั้นปาฟางนั่งอยู่บนรถม้า กอดลูกแพรปักไว้ในอ้อมแขนด้วยสีหน้าสับสนบรรดาชายหนุ่มรอบข้างส่งเสียงทอดถอนใจอย่างเสียดาย หญิงสาวบนชั้นสองหน้าแดงระเรื่อ ถอยหลังไปซ่อนตัวหลังท่านขุนนางจางด้วยความขวยเขินท่านขุนนางจางหัวเราะอย่างแจ่มใส “ดูท่าว่าเชียวเอ๋อร์จะเลือกเรียบร้อยแล้ว”“ทหาร นำตัวว่าที่ลูกเขยของข้าขึ้นมา”ปาฟางตกใจสุดขีด เหวี่ยงลูกแพรปักออกไป “ข้าไม่ใช่เขยพวกเจ้า!”ทว่าคนที่ท่านขุนนางจางส่งมาไม่ฟังคำพูดเขา ปลอบว่า “คุณชาย ตามเราขึ้นไปเถิด คุณหนูรออยู่นานแล้ว”“ข้าไม่ไป!” ปาฟางวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเจียงซุ่ยฮวน “นายหญิง ช่วยกระหม
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 814

ไป๋หลีลดเสียงลงพลางกล่าวว่า “เจ้าอย่าเห็นว่าเขากระโดดสูงถึงเพียงนั้น ที่จริงอย่างน้อยต้องพักฟื้นครึ่งเดือนเป็นแน่”“หือ” ปาฟางทำท่าจะอธิบาย แต่ถูกไป๋หลีถลึงตาใส่จึงได้แต่ยิ้มแหยปิดปากเงียบไปจางอิงเอ๋อร์ทำหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งพลางเอ่ยว่า “แต่เขาดูแข็งแรงดีนี่นา”“เฮ้อ แข็งนอกอ่อนในเท่านั้นแหละ” ไป๋หลีถอนใจ ใช้นิ้วชี้แตะริมฝีปากพลางว่า “อย่าเอ่ยอีกเลย เอ่ยมากไป เขาอาจลงไม้ลงมือ”ปาฟางได้ฟังดังนั้น ใบหน้าก็แดงก่ำจางอิงเอ๋อร์มองเห็นสีหน้าของปาฟางเข้าก็ตกใจจนรีบปล่อยมือทันทีไป๋หลีเกลี้ยกล่อมว่า “คุณหนู ขึ้นไปเถิด ไปโยนลูกแพรปักอีกคราหนึ่ง ย่อมต้องพบผู้เหมาะสมยิ่งกว่าเป็นแน่”จางอิงเอ๋อร์แทบจะร่ำไห้พลางกล่าวว่า “หาไม่ได้หรอก ข้าอ้วนถึงเพียงนี้ ไม่มีผู้ใดคิดจะรับข้าเป็นภรรยา”“ผู้ใดว่ากัน” ฉู่เฉินขมวดคิ้วเดินเข้ามา พลางกล่าวว่า “ข้าดูออก พื้นฐานเจ้ามิเลว หากผอมลงสักเล็กน้อย พวกที่หมายปองเจ้าคงยาวเหยียดตั้งแต่ถนนตะวันตกจรดถนนตะวันออก”“บังเอิญว่าศิษย์ข้าเป็นหมอ ช่วยเจ้าลดได้ เพียงสองพันตำลึงเท่านั้น เจ้าเห็นว่าอย่างไร”จางอิงเอ๋อร์ได้ฟังก็เกิดความสนใจขึ้น ครั้นได้ยินว่าค่าสม
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 815

“ชิ้นละสิบอีแปะ ห้าสิบอีแปะได้หกชิ้น ท่านอยากได้กี่ชิ้นเล่า” แม่ค้าเอ่ยถามพลางนวดแป้ง มือไม่หยุดหน้าไม่เงยราคาแลดูย่อมเยากว่าเมืองหลวงนัก เจียงซุ่ยฮวนล้วงเอาเงินออกมา “ข้าขอเอาหนึ่งตำลึงพอ”แม่ค้าถึงกับเงยหน้าขึ้น “หนึ่งตำลึงได้กว่าร้อยชิ้น ท่านจะซื้อมากถึงเพียงนี้ มีงานที่บ้านหรือ”“ไม่ใช่ ข้าจะเอาไว้เป็นเสบียงระหว่างเดินทาง”“ได้ ข้าจะย่างให้กรอบนอกนุ่มใน เก็บไว้นานก็ยังอร่อย”“ขอบใจมาก ข้าพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมข้างๆ เสร็จแล้วร้องเรียกข้าด้วย”เจียงซุ่ยฮวนหันหลังกลับเข้าที่พัก เอ่ยกับลิ่วลู่และพรรคพวกที่ตามมาด้านหลัง “กินแต่ขนมเปี๊ยะคงไม่พออิ่ม พวกเจ้าออกไปหาซื้อของกินอย่างอื่นมาด้วย เผื่อไว้กินระหว่างทาง”“เวลามีจำกัด พวกเราไม่อาจกินอยู่แต่ในโรงเตี๊ยมได้ทุกมื้อ”แม้ในห้องทดลองของนางจะมีของกินมากมาย แต่ไม่อาจหยิบออกมาให้ประจักษ์แก่สายตาผู้คนได้ จำต้องออกไปจัดซื้อไว้บ้างจากนั้น เจียงซุ่ยฮวนก็กลับขึ้นห้อง เข้าไปในห้องทดลองของนางนางหยิบกระถางใบหนึ่งออกมา ใช้ดินที่เพาะขึ้นเองปลูกบัวหิมะลงไป รอให้บานสะพรั่ง ครานั้นก็จะได้นำมาทำเป็นยาครั้นเมื่อท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีหมึก เจียงซุ่ย
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 816

เพียงพริบตาเดียว เหล่าคนชั่วที่เคยท่าทางดุดันล้วนล้มระเนระนาด ครวญครางด้วยความเจ็บปวดแขกเหรื่อคนอื่นต่างพากันหนีออกจากโรงเตี๊ยมไปหมดแล้ว ภายในโรงเตี๊ยมเหลือเพียงความโกลาหล โต๊ะเก้าอี้ระเนระนาดไร้ระเบียบแม้แต่ขนมเปี๊ยะที่เพิ่งทอดเสร็จใหม่ ๆ ยังกลิ้งกระจายอยู่เต็มพื้นนับสิบชิ้นเสี่ยวเอ้อโผล่หัวออกมาจากหลังแท่นต้อนรับ เศษผักยังติดอยู่บนหน้าผาก ถามอย่างระมัดระวังว่า “คุณหนู โปรดเมตตาเถิด ข้าวของเสียหายปานนี้…”เจียงซุ่ยฮวนหลุบตาลง มองเห็นถุงเงินของพวกอันธพาลที่หล่นเกลื่อนอยู่กับพื้นจากการต่อสู้เมื่อครู่นางหยิบถุงเงินใบหนึ่งขึ้นมาด้วยท่าทีสบายใจ แล้วแย้มยิ้มบางเบา เอ่ยถามเสียงเรียบ “ข้าวของพวกนี้ ใครเป็นคนทุบทำลาย”เสี่ยวเอ้อหัวไว ตอบพลันทันทีว่า “เป็นฝีมือของบุรุษเหล่านี้ขอรับ!”เจียงซุ่ยฮวนถามกลับ “ในเมื่อเป็นพวกเขาทำลาย เช่นนั้นก็ควรให้พวกเขาชดใช้ ใช่หรือไม่”“ถูกแล้วขอรับ!” เสี่ยวเอ้อพยักหน้าอย่างแรงเจียงซุ่ยฮวนโยนถุงเงินให้ “เอาไป”เสี่ยวเอ้อรับถุงเงินมา แล้วรีบนำไปให้เจ้าของโรงเตี๊ยมที่เพิ่งวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาเจ้าของโรงเตี๊ยมเห็นภาพเบื้องหน้า ถึงกับหน้าซีดเผือด ตะโกน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 817

เจียงซุ่ยฮวนนั่งเท้าคาง เหลียวมองอย่างไม่ใส่ใจ ก็เห็นเจ้าเมืองพุงพลุ้ย เดินอุ้ยอ้ายเข้ามาเจ้าเมืองหรี่ตา ไว้หนวดบนริมฝีปาก มุมปากห้อยตกดูแล้วเหมือนผู้มีอารมณ์ขุ่นเคืองเขาไขว้มือไว้ด้านหลัง เหลียวมองรอบทิศ แล้วกระแอมขึ้นสองครั้ง “แค่ก! แค่ก!”เจียงซุ่ยฮวนหัวเราะเบาๆ ในใจ เจ้าเมืองตัวกระจ้อยร่อย ความเย่อหยิ่งกลับสูงลิบ”เถ้าแก่รีบเข้ามาคำนับ “ท่านเจ้าเมือง ไม่รู้ว่าท่านจะมาถึงที่นี่ ข้าน้อยเสียมารยาทยิ่งนัก!”ขุนนางขมวดคิ้วเอ่ยขึ้นด้วยเสียงต่ำ “ได้ยินมาว่ามีผู้ก่อเรื่องที่นี่ คนผู้นั้นคือผู้ใดกัน”“เอ่อ…” เถ้าแก่เหลือบมองเจียงซุ่ยฮวน แล้วมองพวกที่นอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น มิรู้จะชี้มือไปทางใด“ข้าถามเจ้าอยู่นะ!” เจ้าเมืองเริ่มหงุดหงิดชายร่างใหญ่ผู้หนึ่งคลานไปกอดขาขุนนาง ร่ำไห้พลางร้องว่า “ท่านน้า! เป็นนางผู้นั้นที่ทำหน้าหยิ่งยะโส!”“นางใช้กาน้ำชาฟาดหัวข้า ยังขู่จะเชือดลิ้นข้าด้วย!”ครั้นได้ยินคำว่า ‘หยิ่งยะโส’ ทุกสายตาต่างหันไปมองเจียงซุ่ยฮวน"?"หน้าข้าดูหยิ่งยะโสถึงเพียงนั้นหรือเจียงซุ่ยฮวนนั่งตัวตรง เก็บสีหน้าไม่สบอารมณ์แล้วกล่าวเรียบ ๆ ว่า “ใช่ ข้าคือคนที่ลงมือ”“ท่านน้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 818

ทันทีที่เจ้าเมืองเห็นแผ่นป้ายทองอร่ามในมือของนาง เดิมทีก็ยังมิทราบว่าเป็นสิ่งใด จนกระทั่งได้ยินนางเอ่ยคำว่า “ฝ่าบาท” ออกมาเจ้าเมืองพลันรู้สึกว่าเข่าอ่อน แทบทรุดลงไปกับพื้นเจียงซุ่ยฮวนถอนหายใจยาว “เฮ้อ หากฝ่าบาทพิโรธขึ้นมา เกรงว่าทุกผู้คนในที่นี้ คงไม่มีผู้ใดหลบหนีรอด”เจ้าเมืองผู้นี้ ปกติก็มิเคยได้พบหน้าฝ่าบาท แต่มีความเคารพยำเกรงเป็นล้นพ้น เพียงได้ยินคำว่า “ฝ่าบาท” ก็ขาแข้งสั่นระริกเขากลืนน้ำลายอึกหนึ่ง เอ่ยถามด้วยเสียงสั่น “ท่านคือผู้ใดกันแน่”เจียงซุ่ยฮวนแย้มยิ้ม “หญิงผู้นี้ไร้ความสามารถนัก เมื่อไม่กี่เดือนก่อน พึ่งได้รับราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นหมอหลวงจากฝ่าบาทโดยตรง”เจ้าเมืองมีท่าทีลนลานอย่างเห็นได้ชัด หมอหลวงที่ได้รับแต่งตั้งโดยฝ่าบาท มีคุณค่าไม่น้อยไปกว่าท่านจองหงวนระดับสูงหมอหลวงทำหน้าที่รักษาฝ่าบาทและพระสนม หากมีใครไปกล่าวร้ายต่อหน้าฝ่าบาท ไม่เพียงแต่จะเสียตำแหน่ง แม้แต่ชีวิตก็อาจรักษาไว้ไม่ได้ในใจยังมีความหวังริบหรี่ เอ่ยถามว่า “เจ้าบอกว่าเป็นหมอหลวง แล้วมีหลักฐานหรือไม่”เจียงซุ่ยฮวนโยนแผ่นป้ายทองให้เขา “ดูให้ดีเถิด”เขาพลิกดูซ้ายขวา แต่ก็มิอาจแยกแยะว่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 819

นางอาศัยพระนามฝ่าบาทข่มขู่เจ้าเมือง เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าเจ้าเมืองตำแหน่งต่ำต้อย มิอาจพบฝ่าบาทได้โดยง่าย ต่อให้ได้พบ ก็มิกล้าเอ่ยเรื่องในวันนี้ออกไปเป็นแน่ส่วนนางนั้น ยิ่งไม่มีวันไปกราบทูลต่อฝ่าบาทเป็นอันขาด“ท่านพูดถูกต้องแล้ว!” เจ้าเมืองลูบมือตัวเองพลางกล่าว “ไม่ทราบว่าท่านจะโปรดให้ข้ามีโอกาสไถ่โทษ ได้รับใช้ท่านสักสองวันหรือไม่”“ไม่จำเป็น” เจียงซุ่ยฮวนกล่าวปฏิเสธด้วยเสียงเย็นชา “ข้ายังต้องรีบรุดเดินทางต่อ”“ถ้าเช่นนั้นก็ได้” เจ้าเมืองกล่าวประจบอีกสองสามคำ ครั้นจะจากไป เจียงซุ่ยฮวนก็เอ่ยขึ้นว่า “จำไว้ว่าอย่าได้เอนเอียงเข้าข้างคนผิด ข้าจะให้คนไปตรวจดู”“โปรดวางใจ ข้ามิกล้าทำเช่นนั้นเป็นอันขาด!”เมื่อเจ้าเมืองจากไปแล้ว ปาฟางจึงถามว่า “นายหญิง ท่านจะส่งคนไปตรวจดูเมื่อใดหรือ”“ก็แค่ขู่เขาเล่นเท่านั้น อย่าได้ใส่ใจจริงจังไปเลย” เจียงซุ่ยฮวนหันหน้ากลับ แล้วเริ่มตรวจดูของที่พวกเขาซื้อมาวางไว้เถ้าแก่ยิ่งมีท่าทีเอาอกเอาใจยิ่งกว่าเดิม “คุณหนู ตอนค่ำอยากทานสิ่งใดหรือไม่ ข้าจะให้พวกในครัวจัดทำให้ท่าน”“ไม่ต้อง ข้าได้สั่งอาหารไว้แล้ว” เจียงซุ่ยฮวนส่ายหน้าปฏิเสธ“เช่นนั้นข้าจะให้พวกในครั
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 820

พลันแลเห็นเด็กหญิงน้อยผู้หนึ่งขดตัวอยู่ในหีบ มือทั้งสองประคองหมั่นโถวแห้งก้อนหนึ่งไว้แน่น ข้างกายยังมีถุงผ้าใบใหญ่ตั้งอยู่ใบหนึ่งนางมองไปยังลิ่วลู่ด้วยแววตาว่างเปล่า ใบหน้าน้อยแลดูไร้เดียงสา กะพริบตาปริบ ๆ อย่างน่าสงสารลิ่วลู่ร้องอุทานเสียงหลง ชี้ไปยังนางพลางกล่าวเสียงดังว่า “เจ้า...มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”เหล่าผู้คนที่เหลือต่างตกตะลึงกับปฏิกิริยาของเขา พากันขมวดคิ้วมองมาอย่างสงสัยฉู่เฉินยื่นหน้าเข้าไปดูใกล้ ๆ ก่อนจะตะลึงอุทานว่า “ถังซาซา เจ้าแอบเข้ามาในหีบตั้งแต่เมื่อไรกัน”ถังซาซากอดหมั่นโถวแน่น กล่าวเสียงแผ่วว่า “ตอนที่พวกท่านร่ำลาคราวก่อน ข้าแอบย่องเข้ามาตอนที่พวกท่านเผลอเจ้าค่ะ”บรรดาทหารองครักษ์ต่างมองหน้ากันไปมา พลางคิดในใจว่า เด็กน้อยผู้นี้สามารถเล็ดลอดสายตาพวกเขาเข้ามาได้ ร่างกายเช่นนี้เห็นทีจะเหมาะแก่การฝึกวิชาตัวเบายิ่งนัก!นับเป็นต้นกล้าที่หาได้ยากยิ่งเจียงซุ่ยฮวนถึงกับปวดหัว เดินเข้าไปพลางถามว่า “แม่นมของเจ้า กับพี่ชายเถี่ยหนิว ทราบเรื่องนี้หรือไม่”ถังซาซาแลบลิ้นทำหน้าทะเล้น “ข้าเขียนข้อความทิ้งไว้ให้พวกเขา พวกเขาต้องเห็นแน่ ๆ”“เช่นนี้มิได้” เจียงซุ่ยฮวนโน้
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
777879808182
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status