ยามเมื่อนางรู้สึกตัวแล้วหันมองคนอื่น จึงพบว่าพวกเวินจื่อเยวี่ยมองนางด้วยสีหน้าประหลาดและสงสัยตายแล้ว!เวินเยวี่ยเข้าใจทันที นางอดกลั้นอาการอยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตา อยากจะดิ้นรนอีกสักครั้งดังนั้นนางหันไปมองเวินเฉวียนเซิ่ง “ท่าน...ท่านพ่อ เมื่อ...เมื่อครู่ท่านทำให้ข้าตกใจ ดังนั้นจึงได้ยินไม่ชัด ท่านสั่งให้ลูกยืนขึ้นหรือ? หรือว่าคน...คนอื่น?”นางยิ่งพูด ก็ยิ่งหมดความมั่นใจลงเรื่อยๆเพราะเวินเฉวียนเซิ่งกำลังใช้สายตาเย็นชาสุดขีดจ้องมองนางสายตาเช่นนั้นทำให้เวินเยวี่ยหวาดกลัวมาก“มีอะไร? ตกลงเกิดเรื่องใดขึ้นกันแน่?”เวินจื่อเยวี่ยยังไม่รู้เรื่องรู้ราว เมื่อเห็นท่าทางของเวินเยวี่ยที่ใกล้จะร้องไห้ออกมา จึงขมวดคิ้วเอ่ยถามเวินเฉวียนเซิ่งกล่าวเสียงเย็น “เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้”คำพูดนี้เอ่ยกับเวินจื่อเยวี่ยเขากวาดมองเวินจื่อเยวี่ยและเวินอวี้จือแวบหนึ่ง “จากนี้ข้ามีเรื่องต้องถามนาง พวกเจ้าสองคนจะออกไปหรือจะอยู่ฟังที่นี่ก็ได้ แต่ห้ามพูดแทรก”เรื่องเกี่ยวกับเวินเยวี่ย สองพี่น้องเวินจื่อเยวี่ยและเวินอวี้จือย่อมไม่ยอมจากไปเห็นเพียงสีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งย่ำแย่มาก พวกเขาจึงตั้งใจฟังไม่ได้พ
Baca selengkapnya